PANTIP.COM : H7681488 เรื่องของ Shipping ของกลับบ้าน กับ การเสียภาษี [ชีวิตในต่างแดน]

ความคิดเห็นที่ 8

ผมมีประสบการณ์ตรงครับ แต่ต่างกันที่ว่าผมส่งเป็นคาร์โก้มากับการบินไทย

ผมจัดของและส่งของทั้ง 10 กล่องจากบ้านพักไปสนามบินเอง ไม่ได้พึ่งบริษัทชิปปิ้ง ของทั้งหมดเป็นหนังสือและตำราจำนวนมาก (เนื่องจากเอาธีซีสกลับมาเขียนต่อ) ที่เหลือเป็นเสื้อผ้าใหม่และเก่าปนกัน ไม่มีเครื่องใช้ไฟฟ้าเลยแม้แต่ชิ้นเดียว ข้างกล่องทุกใบระบุของที่อยู่ข้างในว่าเป็น..หนังสือ,เอกสารประกอบการเรียน, เสื้อผ้า, รองเท้า แต่มีอยู่กล่องหนึ่งที่ผมพาซื่อระบุว่า "ซีดีและดีวีดี" โดยวงเล็บภาษาอังกฤษกำกับว่า "CD&DVD for personal use"

ที่เมืองไทยผมจ้างให้บริษัทชิปปี้งนำของออกให้ (ติดต่อไว้ก่อนกลับทางอีเมล์) เนื่องจากมีคนขู่ว่าถ้าเอาของออกเองต้องใช้เวลากรอกเอกสารและเดินไปตามโต๊ะต่างๆไม่ต่ำกว่า 4 ชม. บ้านผมอยู่ฝั่งธนแถมไม่มีรถ หากต้องไปดำเนินการเองคงเสียเวลาร่วมวัน ระหว่างรอของที่บ้าน บริษํทชิปปิ้งโทรมาแจ้งว่าของที่มีปัญหาคือกล่องที่เขียนว่า "ซีดีและดีวีดี" เพราะฝ่ายศุลกากรจะเก็บภาษีร่วม 3000 บาท ฝ่ายชิปปิ้งถามผมว่าของนั้นมีค่ามากไหม หากไม่มีค่าขอให้ทิ้งไปเลยแต่หากยินดีจะจ่ายก็ได้

ตอนนั้นผมโมโหมาก บอกกับชิปปี้งไปว่า "ถามศุลกากรว่าจะเก็บภาษีในฐานะอะไรในเมื่อซีดีเพลงเหล่านั้นไม่ใช่แผ่นก๊อป ผมซื่อจากร้านถูกกฎหมาย ภาษีได้บวกไปกับราคาตอนซื้อเรียบร้อยแล้ว แถมใช้ฟังมาแล้วด้วย ไม่ใช่ของใหม่ มิหนำซ้ำซีดีกว่าครึ่งเป็นซีดีเพลงไทยที่เพื่อนๆส่งไปให้ฟังที่โน่นหรือผมซื้อกลับไปฟังเวลามาเยี่ยมบ้าน มีน้ำหน้าอะไรจะมาเก็บภาษี ดีวีดีหนังก็เป็นดีวีดีถูกกฎหมาย ซื้อจากร้านค้าถูกต้อง แถมเปิดดูหมดแล้วด้วย"

ชิปปิ้งฟังเหตุผลแล้วก็บอกว่าผมพูดถูก ผมบอกไปอีกว่า "ถ้าอยากได้ยกให้เลย เพลงไทยทั้งนั้นน่ะ แต่อยากได้เงิน มีงบให้แค่ 500 จะเอาก็เอา ไม่เอาก็เอาของไป"

ชิปปิ้งบอกว่าเจอไม้นี้ ศุลกากรก็อึ้งไปเหมือนกันเพราะเห็นแล้วว่าของส่วนใหญ่ของผมมีแต่หนังสือกับตำรา ซีดีกับหนังมีแค่ 1 กล่องรองเท้า ท้ายที่สุดผมต้องแฟกซ์ใบ residence ของต่างประเทศไปให้เข้าดูว่าเป็นนักเรียนจริงด้วย

กว่าผมจะได้ของมาส่งที่บ้านก็บ่ายของวันรุ่งขึ้น ชิปปิ้งส่งใบเสร็จศุลการมาให้ดู ก็มีค่าธรรมเนียมประมาณ 200 บาท ส่วนภาษีไม่มีรายการเรียกเก็บ เขาประทับตราไว้ว่า "ยกเว้นภาษีเพราะเป็นของใช้ส่วนตัว"

เล่าให้เป็นอุทธาหรณ์ครับว่าศุลกากรเมืองไทยเป็นอย่างนี้ ถ้าผมไม่แสดงเหตุผลเรื่องซีดีเพลงก็อาจต้องเสียของหรือเสียเงิน บริษัทชิปปิ้งบอกว่ารับจ้างเอาของออก 10 เจ้า ก็โดนเรียกเก็บ "ส่วย" 10 เจ้าเหมือนกัน เป็นเรื่องธรรมดาของสังคมไทยที่ไม่มีคนคิดจัดการ

อยากเตือนว่าตอนทำ packing list ไม่ต้องเถรตรงแบบผมมากก็ได้ครับ ไม่จำเป็นอย่าระบุ"เครื่องใช้ไฟฟ้า" หรือดีวีดีต่างๆ (ถ้าเขาไม่ได้เอ๊กซ์เรย์กล่องที่ว่านั่นก็รอดตัวไป)

โชคดีครับ

จากคุณ : Shakesple - [ 30 มี.ค. 52 13:57:12 ]