Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com


    เรื่องของผู้ชายญี่ปุ่นที่ผิดหวังจากความรักของผู้หญิงไทย ( โดนผู้หญิงไทยหลอก ) ชีวิตเปื้อนฝุ่น "โตชิโอ๊ะ ฮามาซูนะ"

    http://www.naewna.com/news.asp?ID=155080

    เจอบทความน่าสนใจ เป็นชีวิตชาวญี่ปุ่น ที่ผิดหวังในรัก นอนข้างถนนเมืองไทย....
    ชีวิตเปื้อนฝุ่น "โตชิโอ๊ะ ฮามาซูนะ" ญี่ปุ่นร่อนเร่...นอนข้างถนนเมืองไทย (สกู๊ปแนวหน้า)  

    หนุ่มใหญ่ชาวญี่ปุ่น ในชุดเสื้อยืดคอโปโลสีส้ม กางเกงขาสามส่วนสีดำ บรรจงเอาหมวก แก๊ปปิดใบหน้า เพื่อบังรัศมีความร้อน จากดวงอาทิตย์ยามบ่าย เขาทิ้งตัวนอน ลงบนม้านั่งข้างถนน อย่างเหน็ดเหนื่อย ข้างกายมีเพียงถุงพลาสติกใส่ขวดน้ำเปล่า...จากการสอบถามชาวบ้านละแวกนั้น ทราบความว่า หนุ่มใหญ่สายเลือดบูชิโดผู้นี้ ยึดม้านั่งริมถนน อาศัยหลับนอนแทนบ้านมานานหลาย

    เดือนแล้ว !!!

    ช่วงที่ผ่านมา"สกู๊ปแนวหน้า"ได้รับเรื่องร้องเรียนจาก ประชาชน ที่อาศัยอยู่หลังห้างคาร์ฟูร์ และโรบินสัน รัชดาภิเษก บริเวณอาคารศรีวราแมนชั่น 1 ซ.นาทอง 7 แขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ ว่า มีชาวญี่ปุ่น สติไม่สมประกอบ ร่อนเร่ อยู่บริเวณดังกล่าว หวั่นเกรงอาจเกิดเหตุร้าย

    หากคลุ้มคลั่งคุมสติไม่อยู่

    แม้ชาวบ้านแจ้งหน่วยงาน เกี่ยวข้องหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็นสถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง เจ้าของพื้นที่ สถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทยหรือแม้แต่ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) เพื่อให้รับชายญี่ปุ่น ไปเยียวยาสภาพจิตใจ...ทว่าคำตอบที่ได้รับกลับมา จากหน่วยงานเกี่ยว

    ข้องคือ...ไม่อยู่ในขอบข่าย อำนาจของตัวเอง !!

    เมื่อทราบข่าวดังนั้น สกู๊ปแนวหน้า จึงเดินทางไปที่ อาคารศรีวราแมนชั่น 1 เพื่อค้นหาข้อ

    เท็จจริง...เบื้องต้นได้พูดคุยกับ เจ้าหน้าที่นิติบุคคลอาคาร ทราบว่าชายญี่ปุ่นเร่ร่อน ผู้นี้มีนามว่า "โตชิโอ๊ะ ฮามาซูนะ" (TOSHIO HAMASUNA) เป็นชาวจังหวัดไอจิ (Aichi) เกิดวันที่ 14 ส.ค. 1950 ก่อนหน้านี้เขาเป็นคนมีสติสมประกอบทุกอย่าง ทำงานเป็นวิศวกรบริษัทแห่งหนึ่งในเมือง ไทย เข้าพักที่อาคารดังกล่าวเมื่อวันที่ 21 ม.ค. 2549 โดยเช่าห้องอยู่ที่ชั้น 13 พร้อมสาวไทยคนหนึ่ง

    จุดหักเหครั้งใหญ่เกิดขึ้นเมื่อ สาวไทย ได้ตีจากไปจากชีวิต โตชิโอ๊ะ และถือเป็นจุดเริ่มต้น ที่ทำให้ชีวิตเขาล่มสลายลง หนุ่มใหญ่สายเลือดบูชิโดผู้นี้ ออกจากงาน และมีพฤติกรรมเปลี่ยนไป จากเป็นคนเงียบๆ เขาเก็บตัว เงียบขรึมมากยิ่งขึ้น และไม่พูดจากับใครทั้งสิ้น

    สุชาติ พีระคำ ผู้จัดการ อาคารศรีวราแมนชั่น 1 ลำดับเหตุการณ์ให้ฟังว่าหลังจากนั้น ประ มาณ 1 ปี โตชิโอ๊ะ ต้องสะเทือนใจครั้งสอง เมื่อสัญญาเช่าห้องสิ้นสุดลง เมื่อวันที่ 21 ม.ค. 2551 เขาพบความจริงที่สะเทือนจิตใจว่า ถูกฟ้องร้องขับไล่ ที่ผ่านมาเข้าใจโดยตลอดว่า ห้องดังกล่าวเป็น กรรมสิทธิ์ของเขา หญิงไทยรายนี้หลอกเอาเงิน บอกว่าจะมาซื้อห้อง แต่ความจริงเพียงแค่เช่า หลังจากถูกฟ้องขับไล่ เขาย้ายมาอยู่ที่ห้องพักแม่บ้านชั้น 3 ช่วงนี้เองอาการทางจิตเริ่มเลวร้าย พูดจ้าเพ้อเจ้อคนเดียว หลังจากนั้นไม่นานเขาโดนบังคับให้ออกจากห้องแม่บ้าน เมื่อไม่มีที่ไปจึง ตัดสินใจลงไปพำนักอยู่บริเวณม้านั่งข้างถนนหน้าตึก

    "ผู้อาศัยในอาคาร วิตกเรื่องความไม่ปลอดภัย บางครั้งผู้หญิงเดินมาคนเดียว เขาก็เข้าไป จ้องบางที ยืนตะคอก ทางผู้บริหารห่วงเรื่องความปลอดภัยผมกำชับ รปภ.ไม่ให้ทำอะไรรุนแรง ทุกวันนี้เขาใช้ห้องน้ำส่วนกลางและอาบน้ำจากก๊อกข้างตึก พูดรู้เรื่องบางครั้ง"สุชาติ กล่าว

    ด้าน เจ้าหน้าที่นิติบุคคลอาคาร รายหนึ่งให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า แม้หนักใจแต่ทำอะไรมากกว่า นี้ ไม่ได้ ที่ผ่านมาคำนึงถึงหลักมนุษยธรรมและ พยายามติดต่อ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หลายแห่งแต่ ไม่สามารถทำอะไรได้

    "ตำรวจมา เขาก็ทำตัวเหมือนคนปกติ พูดจารู้เรื่อง จนตำรวจเอาตัวไปไม่ได้ อ้างว่ารู้จัก คนใหญ่ คนโต ตม. มาก็ทำอะไรไม่ได้ สถานทูต ก็ทำอะไรไม่ได้ บอกว่าญาติพี่น้องเขาไม่เอาแล้ว ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจัดการได้เลย" เจ้าหน้าที่นิติบุคคลอาคาร ระบุตอนหนึ่ง

    จากการสืบค้นข้อมูลทางเอกสารพบว่า ก่อนหน้านี้ โตชิโอ๊ะ ฮามาซูนะ เคยถูกนิติบุคคล อาคารชุดแห่งนี้ แจ้งความ ดำเนินคดีอาญาที่ 659/9 สน.ห้วยขวาง ลงวันที่ 19 พ.ย. 2550 ในใบแจ้ง ความระบุว่า ทรัพย์ของนิติบุคคลอาคารชุดถูกประทุษร้าย เป็นน้ำประปา 8 ถัง ราคา 40 บาท โดย พฤติการณ์ของคดี นายโตชิโอ๊ะ ได้มาอาบน้ำและใช้น้ำของนิติบุคคลอาคารชุด และทางนิติบุคคล อาคารชุด จึงมาแจ้งความให้ดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ซึ่งได้ชำระเงินค่าปรับเป็นที่เรียบร้อย

    นับถึงบรรทัดนี้ สกู๊ปแนวหน้า ได้ไปสำรวจบริเวณ ม้านั่งที่พำนักของ โตชิโอ๊ะ พบเป้า หมาย กำลังยืนเพ้อกลางแดดอยู่คนเดียว เราจึงประสานกับ รปภ.สาวนามว่า "กิ๊ก" หรือ น.ส.ถาวร ทิพวัง ให้เข้าไปช่วยเป็นล่ามแปลไทยเป็นไทยให้ เพราะเธอคุ้นเคยกับ โตชิโอ๊ะ เป็นอย่างดี

    แม้ญี่ปุ่นคนนี้ จะพูดได้ 3 ภาษา คือ อังกฤษ ญี่ปุ่นและไทย แต่จำเป็นต้องใช้ล่ามเพราะ เขาพูดเร็วและต้องใช้ทักษะการฟังอย่างยิ่งยวด

    "มีนัด ผมรอผู้หญิงคนหนึ่ง ผมมีแฟนที่นี่"

    เป็นเสียงแหบแห้ง ที่หลุดออกมาจากปากของ โตชิโอ๊ะ จากการเรียบเรียงประโยค ที่เรายิง คำถามมากมายเข้าไป จับใจความว่า เขาเกิดประเทศญี่ปุ่น ไม่มีพ่อแม่ ไม่มีพี่น้อง เคยทำงานมาทั่ว โลก เข้ามาทำงานเมืองไทยนานนับสิบปี ตอนนี้ว่างงาน แต่มีเงินเก็บซื้อข้าวกินประทังชีวิต นอน ข้างถนนแม้ยุ่งกัด แต่มีความสุขดี

    ในระหว่างที่พยายามทำความเข้าใจกับ ญี่ปุ่นร่อนเร่ ผู้นี้ กิ๊ก รปภ.สาว เล่าให้ฟังว่า "เขาไม่เป็นพิษเป็นภัยกับใคร เขาน่าสงสารมาก" กิ๊ก ถอนหายใจ เล่าต่อว่า หนุ่มใหญ่เลือดบูชิโดผู้ นี้ มีเสื้อผ้าเพียงชุดเดียว ต้องแอบอาบน้ำที่ก๊อกข้างตึกตอนกลางคืนเวลาไม่มีคน สำหรับเงินใช้จ่าย ซื้ออาหาร โตชิโอ๊ะ ไม่พกเงินสด และจะใช้เครดิตการด์ หักจากบัญชีเงินเก็บซื้ออาหารที่ห้างสรรพ สินค้าใกล้ๆ ยามเจ็บป่วย แม่บ้านจะเอายาลดไข้ รักษาตามมี ตามเกิด แต่ สิ่งที่หลายคนกังวลคือ หากเขาคลุ้มคลั่งขึ้นมาอาจเกิดเรื่องร้าย อาจขึ้นได้

    เราใช้เวลาพูดคุยกับ โตชิโอ๊ะ นานนับชั่วโมง ช่วงท้ายการสนทนาเมื่อถามว่าจะกลับ ประเทศญี่ปุ่น เมื่อใด คำตอบที่ได้รับกลับมาคือ "ไม่อยากไปไหนแล้ว อยู่ที่นี่ มีความสุข" เมื่อ ถามต่อว่าเหงาหรือไม่ คำตอบที่ได้รับคือ...

    "เหงามาก... I miss you..."

    หลังจากนั้น สกู๊ปแนวหน้า ได้ติดต่อ สถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่น ประจำประเทศไทยเพื่อ ขอความชัดเจน ในเรื่องการรับตัวญี่ปุ่นร่อนเร่ ผู้นี้ไปเยียวยาจิตใจ เจ้าหน้าที่สถานทูตผู้ไม่ประสงค์ เปิดเผยนามชี้แจงว่า ที่ผ่านมาสถานทูต เคยติดต่อกับนายโตชิโอ๊ะ หลายครั้งแต่เขาปฏิเสธความช่วย เหลือโดยตลอด ซึ่งตามหลักการถ้าคนญี่ปุ่น มีปัญหาทางสถานทูต จะเข้าไปช่วยเหลือทันที แต่กรณี ของนายโตชิโอ๊ะ ยังแข็งแรง และสามารถดูแลตัวเองได้ ทางสถานทูต ไม่สามารถไปควบคุมตัวเขา เพื่อบังคับให้กลับญี่ปุ่นได้

    "เขาอาจมีอาการทางประสาท แต่ยังคุมตัวเองได้อยู่ อาจไปด่าคนอื่น เป็นเรื่องจิตใจของเขา เราพยายามติดต่อญาติเขาแล้ว แต่ญาติเขาไม่รับรู้ ปัญหาของเขาคือมีภรรยาคนไทย แต่ไม่ทราบ ว่าหายไปไหน ติดต่อไม่ได้"

    เจ้าหน้าที่สถานทูต คนเดิม ย้ำว่า ตามกฎหมายไทย ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของทางตำรวจ ถ้ามี

    อาการทางประสาท และเห็นว่าอาจทำอันตรายตัวเองหรือคนอื่น ตำรวจ อาจบังคับให้เข้าโรงพยา บาล เพื่อรักษาสภาพจิตใจ ทางสถานทูตไม่มีอำนาจคุมตัวเขา เพราะผิดกฎหมาย รัฐบาลไทย มีอำนาจคุมตัวเขาไปส่งโรงพยาบาลได้

    เมื่อสอบถามไปยัง เจ้าหน้าที่ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ได้รับคำชี้แจงว่า เรื่องดังกล่าว เกี่ยวข้องกับทุกหน่วยงาน ทว่า ตม. มีหน้าที่ตรวจว่าเขามี พาสปอร์ทถูกต้องหรือไม่ ความจริง ตำรวจท่องเที่ยว น่าจะเกี่ยวข้องมากกว่า เพราะต้องออกไปดูแล ความเดือดร้อนของชาวต่างประเทศ ตม. มีหน้าที่อยู่ประจำด่าน และไม่มีหน่วยออกไปดูแลชาวต่างประเทศโดยตรง

    ปิดท้ายที่ พ.ต.ท.สมคิด สมบูรณ์ พนักงานสอบสวน สถานีตำรวจนครบาล ห้วยขวาง มอง ว่า นายโตชิโอ๊ะ อยู่ในลักษณะถูกต้อง เจ้าหน้าที่ไม่สามารถทำอะไรได้ แต่ถ้าเขาทำผิดกฎหมายก็ ต้องว่าไปตามฐานความผิด

    นับถึงบรรทัดนี้ หน่วยงานเกี่ยวข้อง ควรเข้ามาเยียวยาสภาพจิตของ หนุ่มใหญ่สายเลือดบู ชิโด ผู้นี้ก่อนจะสายเกินแก้...ได้แต่ภาวนาว่า เขาคงไม่คลุ้มคลั่ง ก่อเหตุเศร้าสลด และกลายเป็น เรื่อง "วัวหายล้อมคอก" เหมือนหลายครั้งที่ผ่านมา
                                  SCOOP@NAEWNA.COM
    จาก http://www.naewna.com/news.asp?ID=155080


    ก็อบมาจาก http://www.pantip.com/cafe/social/topic/U7698788/U7698788.html

     
     

    จากคุณ : My life in Japan. - [ 3 เม.ย. 52 16:08:32 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com