ความคิดเห็นที่ 1 1. ดีค่ะ ถ้าเขากลับมาครั้งหน้าเก็บตังค์ แสดงว่าอยากเรียนต่อจริงๆ หรือเก็บนิดหน่อยพอค่าเครื่องปรุงของแม่ปูฯ 2. 2 อย่าง คาว 1 หวาน 1 หรือ อาหารว่าง 1 3. 3 ชม. 4. อย่างเดียวกันค่ะ ทำหลายอย่างหลายคนท่าจะยุ่ง ไม่งั้นก็ทำรายการอาหารให้ทุกคนโหวต 5. ควรจะค่ะ 6. มิทราบเหมือนกันค่ะ ไม่มีประสบการณ์ค่ะ แต่อยากออกความเห็น จากคุณ : งี้ - [ วันเนา (14) 10:53:04 A:71.132.195.175 X: TicketID:000720 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ไม่รู้ว่าสอนนี่ให้นักเรียนลงมือด้วยหรือเปล่า หรือว่าเป็นการสาธิต ถ้าให้ต่างคนต่างทำต้องมีเตามีหม้อหลายอันสินะคะ ทำครั้งละอย่างก็พอค่ะ อาหารไทยเครื่องปรุงเยอะ กว่าจะหั่น เตรียม หมดเวลาพอดี (ต้องให้นักเรียนลงมือด้วยเปล่า?) แนะว่าให้ พิมพ์พวกเครื่องปรุง ส่วนผสมและวิธีทำแจก และมีที่ให้ short note ด้วยตอนอธิบาย ทรายว่าพี่ปู พาไปจ่ายตลาดด้วยสิค่ะ เค้าจะได้ไปซื้อทำเองได้ ที่เหลือรอพี่เอื้อยมาแนะนำ จำได้เมนูเด็ด --> ไข่ยัดไส้ จากคุณ : pixp - [ วันเนา (14) 11:44:35 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ๑.การเรียนการสอนชั่วโมงแรกจะไม่คิดค่าสอนดีไหม (เราคงจะเงอะๆงะๆอยู่ด้วย) @  คิดเงินไปเลยค่ะ ไม่ต้องลองของ ไม่งั้นเขาจะมองว่า คุณให้ฟรีแปลว่าคุณไม่แน่จริง  ที่เคยทำมาคิด $45/คน/ครั้ง คลาสละหกคน ไม่ครบก็รอจนกว่าจะครบถึงค่อยเปิดค่ะ  ถ้าเป็นกรณีที่เอาจริง ไม่ใช่มาเรียนสนุกๆ อาจจะกำหนดไปเลยว่ากี่ชั่วโมง แบ่งเป็นกี่คลาส ๒.ในแต่ละครั้งจะสอนทำอาหารกี่อย่างดี  ทำแล้วคงจะให้นักเรียนแพ็คกลับบ้านค่ะ @  จัดเป็นเมนูต่อครั้งนะคะ เช่นมี appetizer มีสลัด มีแกง มีเครื่องเคียง ที่เคยทำก็สี่อย่างค่ะ เราเป็นคนจัดเมนู อย่าให้เขาเลือก เพราะเดี๋ยวจะมีแต่แกง หรือมีแต่ผัด   ๓.กำหนดเวลาสอนครั้งละกี่ชั่วโมง @  กำหนดไว้ที่สองชั่วโมง แต่พอเอาเข้าจริงจะกลายเป็นสามไปเอง ๔.ให้ทุกคนลงมือทำอาหารชนิดเดียวกันเลยหรือเปล่าคะ หรือว่าใครอยากเรียนอะไรก็จัดให้ทำอาหารชนิดนั้นเลย @  ให้ทุกคนช่วยกันทำค่ะ จริงๆ คือให้เขาได้มาดูว่าทำยังไง ไม่จำเป็นต้องลงมือเองทุกขั้นตอนก็ได้ ๕.เราเตรียมข้าวของเครื่องปรุงในการเรียนการสอนแต่ละครั้งเองใช่ไหมคะ @  เราเป็นคนเตรียมวัตถุดิบและอุปกรณ์ค่ะ จากคุณ : Lawanwadee - [ วันเนา (14) 11:52:10 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ตุ๊กไม่มีประสบการณ์แต่เคยเห็นนักเรียนต่างชาติไปเรียนอาหารไทย ทางโรงเรียนเค้าเตรียมทุกอย่างไว้ให้นักเรียนคนละ 1 ชุด แต่จะให้นักเรียนทำเองทุกอย่าง ทุกขั้นตอนตั้งแต่การหั่นผักแบบไทยเลยคะ ส่วนเรื่องไม่เก็บตังค์ตุ๊กไม่ค่อยเห็นด้วยเท่าไหร่ตามความคิดเห็นตุ๊กนะคะ เพราะหากเค้าไปเรียนเมืองไทยอย่างต่ำเลยก็วันละสามพันขึ้นไป แล้วพี่ปูต้องเตรียมทุกอย่าง เสียเวลาด้วย แต่หากวันแรกพี่ปูอาจคิด เฉพาะเครื่องปรุงต่างๆ ที่ต้องใช้ ไม่เสียค่าเรียน เป็นวันโปรโมชั่น และตุ๊กว่าหากไม่เก็บตังค์เลยเค้าอาจเกรงใจจนไม่กล้าเรียนรึเปล่า เพราะเค้าก็ทำงานกับคุณพ่อบ้านพี่ปู จากคุณ : marinesnow - [ วันเนา (14) 12:08:24 ]

ความคิดเห็นที่ 5 พี่ปูจ๊ะ หลังไมค์ไปถามพี่เอื้อยสิจ๊ะ จำได้ว่าพี่เอื้อยเคยสอนเป็นกลุ่มๆ หน่ะค่ะ จากคุณ : ลิตา (LITAinSEOUL) - [ วันเนา (14) 13:18:55 ]

ความคิดเห็นที่ 6 สวัสดีค่ะพี่ปู (ไม่รู้จะจำAmissเบลเยี่ยมได้ป่าวน้อออ) อ่านแล้วอดที่จะพิมพ์ทู้นี้ไม่ได้ เพราะคิดว่า ความสามารถและผลงานด้านอาหารของพี่ปูน่ะ ขั้นเทพ สามารถสอนได้ง่ายๆ สบายๆเลยค่ะ Amissคิดเห็นตรงกะพี่คุณLawanwadeeตอบทุกอย่างเลยค่ะ .การเรียนการสอนชั่วโมงแรกจะไม่คิดค่าสอนดีไหม (เราคงจะเงอะๆงะๆอยู่ด้วย) - คิดเงินไปเลยค่ะพี่ปู ครั้งแรกก็คิดไปเลย และเห็นเหมือนอย่างที่คุณลาวัณวดีแนะนำค่ะ ว่า เราจัดเป็นคอร์ส(แล้วแต่พี่ปูค่ะว่า คอร์สละกี่ครั้งดี) และ เราก็จัดเมนูที่จะสอน เป็นครั้งๆไป ข้อเสนอนะคะ-- คอร์สละ 4 ครั้ง / 100-120€ หรือ แล้วแต่พี่เลยค่ะ ครั้งที่1 - จัดเมนูสักสามอย่าง จัดที่แบบว่า เราคนไทยทานในหนึ่งมื้ออ่ะค่ะ อย่าง แกงเขียวหวาน, ต้มยำกุ้ง และ อีกเมนูง่ายๆ ผัดผักน้ำมันหอย ครั้งที่2 - แกงเป็ดย่าง / ยำเนื้อ และ อะไรง่ายๆค่ะ ครั้งที่ 3 - แกงมัสมั่น - ไข่ยัดไส้ และ ต้มข่าไก่ ครั้งที่4- ทะเล(หรือกุ้ง)ผัดผงกะหรี่- ไก่ผัดมะม่วงหิมพานต์ และ ลาบ ปล-คือ เราจัดอาหารที่ชาวต่างชาติอยากเรียนและชอบทาน จัดให้คละกันเป็นครั้งๆค่ะพี่ ๒.ในแต่ละครั้งจะสอนทำอาหารกี่อย่างดี  ทำแล้วคงจะให้นักเรียนแพ็คกลับบ้านค่ะ - เสนอเป็น สามอย่างค่ะ เพราะเด๊วเวลาไม่พอ แต่หากมี starterก็ เป็นสี่ อยู่ที่เวลาเรียนด้วยค่ะ ว่ากี่ชมคะพี่ปู ๓.กำหนดเวลาสอนครั้งละกี่ชั่วโมง - อยู่ที่กี่เมนูค่ะ คิดว่า ไม่น่าจะเกินสามค่ะ (สำหรับ สามเมนู) ๔.ให้ทุกคนลงมือทำอาหารชนิดเดียวกันเลยหรือเปล่าคะ หรือว่าใครอยากเรียนอะไรก็จัดให้ทำอาหารชนิดนั้นเลย - ให้ช่วยกันทำ ตามเมนูที่พี่ปูกำหนดเลยค่ะ   ๕.เราเตรียมข้าวของเครื่องปรุงในการเรียนการสอนแต่ละครั้งเองใช่ไหมคะ -เตรียมเองค่ะพี่ แต่อย่างที่พี่ทรายแนะนำก็ ไอเดียดีค่ะว่า พาไปshopด้วยกันเลย อาจจะครั้งที่สอง หรือ ครั้งแรก เพราะจะได้ให้ไอเดียนักเรียนด้วยค่ะว่า อาหารไทยใช้ ส่วนประกอบ-ส่วนผสม อะไรบ้าง เพราะบางที ร้านเอเชีย ซอส-ซีอิ้ว-น้ำมันหอย ก็มีทั้งของไทยและของจีน  รสชาติออกมาต่างกันเน๊อะ เราได้บอกนักเรียนว่า เราใช้ตัวนี้ ยี่ห้อนี่อ่ะค่ะ -แต่เสนอค่ะ แต่ละครั้ง พี่ปูเตรียมเครื่องปรุงให้นักเรียนเองค่ะ ที่สำคัญ--อย่าลืมบวกค่าcostเครื่องปรุงไปด้วยนะคะ พี่ เด๊วกลายเป็น เข้าเนื้อ ไปเจียดเงินค่าขนมหนูน้อยเจนนี่ น้องนิคหมด  อิอิ ปล-เห็นด้วยกะพี่ทรายค่ะว่า น่าจะมี noteพิมพ์พวกเครื่องปรุง ส่วนผสมและวิธีทำแจก ให้ก่อนเริ่มคลาสแต่ละครั้ง ด้วยดีค่ะ เพราะพอนักเรียนกลับบ้าน จะได้มีsheetดู ทวนอีกรอบ ไม่งั้น ลืมหมดแหง๋มๆๆค่ะ อิอิ ทั้งนี้ทั้งนั้น อยากเป็นนักเรียนเรียนทำอาหารกะพี่ปูด้วยจังเลยค่ะ และ เอาใจช่วย เต็มที่เลยนะคะพี่ สู้ๆค่ะ ปล-เข้ามาแก้คำพิมพ์ผิดค่ะ แก้ไขเมื่อ 14 เม.ย. 52 17:57:26 จากคุณ : Amiss - [ วันเนา (14) 17:49:50 ]

ความคิดเห็นที่ 7 แม่ปูขา แม่ปูลองไปเช็คกับ city hall ก่อนว่าเมืองที่แม่ปูอยู่ต้องมี permit หรือ license ไหมถ้าต้องการสอนการทำอาหารแบบการค้า เพราะที่นี่ดิฉันมีเพื่อนคนนึงทำแบบแม่ปูนี่ล่ะค่ะ เขาสอนทำอาหารไทยที่บ้าน เมืองที่เขา เขาต้องมี permit ค่ะ แต่เมืองติดๆกันนี่ไม่ต้องเลย นี่หมายถึงถ้าแม่ปูอยากจะทำแบบถูกต้องนะคะ ถ้ารู้จักกัน แอบๆทำนี่คงจะไม่เป็นไรค่ะ ปล. เพื่อนดิฉันคิดค่าสอนครั้งละ 100 เหรียญค่ะ อย่างน้อยสุดต้องมีคนเรียน 4 คน เวลาสอนครั้งละ 2 ชั่วโมงครึ่ง สอนเสร็จกินข้าวด้วยกันเลย(อาหารที่สอนทำนี่ล่ะค่ะ) หรือใครจะเอากลับบ้านก็ได้ค่ะ จากคุณ : flymom - [ วันเนา (14) 19:45:37 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เดี๋ยวไปเรียกพี่เอื้อยมาตอบให้นะคะพี่ปู เค้าไปรับลูกๆอยู่ เท่าที่ทราบพี่เอื้อยเค้าสอนแบบ demonstration ค่ะ คือเตรียมทุกอย่าง แล้วทำให้ดู แล้วให้ทานข้าวร่วมกันตอนทำเสร็จแล้ว คุยกันเรื่องรสชาติ คืออาหารไทยเนี่ยต้องรู้รสนะคะถึงจะทำได้ เมนูไหนหวานนำ เค็มนำ หรือมีสามรสเปรี้ยวเค็มหวาน คือต้องทานน่ะค่ะ เรื่องราคาจำไม่ได้เหมือนกันค่ะว่าเค้าคิดเท่าไร แต่อ้อว่าพี่ปูต้องตั้งราคาให้ไม่เข้าเนื้อนะคะ ต้องให้ได้กำไร สมค่าแรงนะคะ เดี๋ยวรอพี่เอื้อยมาตอบดีกว่านะคะ อ้อว่าพี่ปูสอนครั้งแรกก็ต้องเก็บตังส์ค่ะ อย่างน้อยต้องไม่ให้เข้าเนื้อนะคะ อย่างกรณีพี่เอื้อยนี่เค้าเหนื่อยตอนเตรียมของน่ะค่ะ ต้องหั่นของเตรียม ไม่มีคนช่วย สอนให้สนุกนะคะ จากคุณ : แม่ลูกแฝด - [ วันเนา (14) 21:43:52 ]

ความคิดเห็นที่ 9 sawadee ka, I am having the same idea like you about open my house to teach thai cooking. and i would like to share the idea with you ka. I will charge by dish and it would be about 25 to 30 aud per dish( i am in sydney ka) and 2 person max. and i think it will take about 1 and a half hour. I will give them the menu that i can teach or ask them what food they want to learn. and at the end of the class i will give them my receipe. and here are my answer for your quesiton. ๑.การเรียนการสอนชั่วโมงแรกจะไม่คิดค่าสอนดีไหม (เราคงจะเงอะๆงะๆอยู่ด้วย) I think you should charge them but just half price of how much you want, its like a promotion. and if you know which food you are going to teach then do a practice the day before. ๒.ในแต่ละครั้งจะสอนทำอาหารกี่อย่างดี ทำแล้วคงจะให้นักเรียนแพ็คกลับบ้านค่ะ I will teach only 1 dish at a time but i might do a package like 3 dishes but teach 1 or 2 dishes at a time. ๓.กำหนดเวลาสอนครั้งละกี่ชั่วโมง about 1 or 2 hours its depent on what food you are teaching. ๔.ให้ทุกคนลงมือทำอาหารชนิดเดียวกันเลยหรือเปล่าคะ หรือว่าใครอยาก เรียนอะไรก็จัดให้ทำอาหารชนิดนั้นเลย I would teach them to do the same dish its alot more easier to control. ๕.เราเตรียมข้าวของเครื่องปรุงในการเรียนการสอนแต่ละครั้งเองใช่ไหมคะ yes. ๖.ค่าสอนไม่ทราบว่าจะคิดอย่างไรดีคะ depent on the ingradent and time. For me I charge it about 5 or 10$ more than they eat in the restuarant. I would like to know your idea too and dont forget to let me know about my idea. I dont have much time to check on patip so if you would like to talk to me please feel free to contact me at lekdeno@yahoo.com good luck na ka จากคุณ : ann - [ วันเนา (14) 21:46:15 A:60.242.89.77 X: TicketID:170840 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ฝรั่งชอบกินผัดไทย น่าจะมีเมนูผัดไทยด้วยเน๊อะ นี่ถ้าอยู่ใกล้แม่ปูจะขอไปเป็นลูกมือ นะเนี่ย เห็นว่าให้เก็บตังค์เป็นครอสไปเลย ครอสละสี่ครั้งประมาณนี้คะ ถ้าเค้าติดใจอยากเรียนอีก ก็เปิดครอสใหม่ อาหารใหม่ จากคุณ : blueprint - [ วันเถลิงศก (15) 00:08:56 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ขอบคุณมากๆเลยค่ะสำหรับคำแนะนำข้อชี้แนะ ได้ความรู้เพิ่มเติมขึ้นจริงๆ ใจตอนแรกกะว่าจะงุบงิบถามหลังไมค์เหมือนกันค่ะ เพราะว่าไม่อยากให้เอิกเริก อายด้วยถ้าถามแล้วทำไม่ได้อย่างที่มาพูดไว้ หน้าบาง อิอิ..แต่อีกใจหนึ่งก็คิดว่า ถ้าเข้ามาถามเพื่อนๆในห้องแม่บ้านต่างแดน จะต้องได้รับคำตอบคำแนะนำที่ดีให้แน่ๆ ก็เลยตัดสินใจเข้ามาถาม แล้วก็ได้รับคำตอบจริงๆค่ะ อีกส่วนหนึ่งก็ต้องอยู่ที่ตัวเองด้วย ว่าจะมีความสามารถทำได้ขนาดไหน  ขอบคุณสำหรับคำตอบของทุกๆคนมาณ.ที่นี้ด้วยนะคะ ยังไงแม่ปูก็ต้องลองถามคนที่อยากเรียนดูด้วย ว่าเค้าอยากเรียนอะไร มีความรู้ในการทำอาหารมากน้อยเท่าไหร่ และมีความรู้ในอาหารไทยเท่าไหร่ รู้เท่าที่แม่ปูส่งไปให้ชิม หรือว่าเคยไปทานตามร้านอาหาร คือตอนนี้พ่อบ้านเป็นสื่อกลางอยู่ แม่ปูก็มาหาข้อมูลไว้ ก่อนที่จะคุยกับคนที่ต้องการเรียนอย่างจริงจังอีกครั้ง แต่พ่อบ้านก็มาเร่งๆค่ะ ว่าขอให้เปิดเร็วหน่อย เค้าบอกว่าไม่ต้องห่วงหรอกว่าจะสอนไม่ได้ เดี๋ยวคนเรียนก็จะช่วยเราสอนเองนั่นแหละ ว่างั้น.. คุณงี้คะ ขอบคุณมากที่มาช่วยตอบคำถามแม่ปูนะคะ อาหารคาว อาหารหวานอย่างละหนึ่งก็น่าสนใจค่ะ น้องทราย ครัวพี่ก็ไม่ได้กว้างมาก แต่ก็ไม่ได้แคบนัก สองสามคนพอไหวค่ะ ถ้าต้องทำอาหารพร้อมกัน พี่มีเตาแก๊สเสริมให้ด้วยค่ะ  หม้อไหก็พอมีค่ะ แต่จะให้รู้จริงๆว่าอะไรขาดอะไรเกินมันก็ตอนที่ลงมือทำนะ ฮ่ะๆ พี่ก็ตั้งใจว่าจะพาคนเรียนไปจ่ายตลาดด้วยเหมือนกันค่ะ แต่อาจจะไม่ใช่ชั่วโมงแรก อาจจะเป็นชั่วโมงที่สองก็ได้ค่ะ รอให้รู้ก่อนจักกันก่อนสักนิดและดูว่าจะทำอะไร ใช้เครื่องปรุงแบบไหน แล้วก็ไปซื้อด้วยกันค่ะ   ขอบคุณน้องทรายมากนะคะที่ให้คำแนะนำ คุณLawanwadee ตอบข้อแรกแม่ปูก็มีกำลังใจเลยค่ะ อิอิ..ไม่ต้องลองของคิดเงินไปเลย แต่อาจจะคิดสักครึ่งหนึ่งก่อนก็ได้ค่ะฟลอริดานี่ ๔๕ เหรียญต่อคนต่อครั้ง จะมีใครสนหรือเปล่าไม่ทราบค่ะ ราคาค่อนข้างสูงสำหรับที่นี่ค่ะ แต่ยังไงจะลองปรึกษาพ่อบ้านดูอีกทีค่ะ สรุปเท่าที่อ่านคำแนะนำของเพื่อนๆรวมทั้งของคุณLawanwadee การเรียนการสอนจะตกอยู่ประมาณ ๒-๓ ชั่วโมง ในตอนแรกแม่ปูคงจะไม่รับคนเรียนมากกว่า ๓ คนค่ะ จะดูความสามารถของตัวเองไปก่อนค่ะ ขอบคุณสำหรับคำแนะนำนะคะ ไม่ทราบว่าตอนนี้คุณLawanwadee ยังเปิดสอนทำอาหารอยู่หรือเปล่าคะ น้องตุ๊ก พี่ก็เห็นด้วยว่าจะให้นักเรียนทำเองทุกอย่าง หมายถึงขึ้นตอนการทำอะนะ หั่นผัก ล้างผัก ให้ลงมือทำเองเลยจะได้เข้าใจง่ายๆ ส่วนเรื่องค่าเรียน พี่เริ่มเอนเอียงมาทางเก็บแล้วค่ะ แหะๆ.. น้องลิต้า พี่หลังไมค์ไปหาแม่เอื้อยสองวันแล้วค่ะ สงสัยแม่เอื้อยกำลังยุ่งๆอยู่เลยยังไม่ทันตอบ แต่น้องอ้อไปตามแล้ว เดี๋ยวแม่เอื้อยคงจะมาตอบค่ะ น้องAmiss ขอบคุณมากค่ะที่เชื่อในความสามารถของพี่ แหะๆ..ไม่อยากบอกเล้ย ว่าอาหารหลายๆอย่าง กว่าจะเอาลงบล็อกบางทีถ่ายทำสองสามรอบเลยนา5  5 คำแนะนำของน้องAmiss มีประโยนช์มากๆเลยค่ะ จัดเป็นคอร์สๆพี่ก็สนใจนะคะ พี่จะรับไว้พิจรณานะคะ  ยังไงขอคุยกับคนเรียนอีกครั้งก่อนจะสรุปนะคะ แต่สำหรับพี่สนใจข้อเสนอนี้มากๆค่ะ และก็ไม่ลืมnote พวกเครื่องปรุงแจกคนเรียนแน่ๆค่ะ คุณ   flymom แม่ปูก็คิดเรื่องpermit หรือ license เหมือนกันค่ะ แต่ว่าคนเรียนรู้จักกัน(กับพ่อบ้าน) เค้ามาขอให้เราสอนเองในตอนนี้แม่ปูคงจะแอบๆทำไปก่อนค่ะ แหะๆ ไปสอบเอาใบอนุญาตนี่ยากไหมคะ ค่าสอนครั้งละ ๑๐๐ เหรียญ คนละหรือว่าอย่างไรคะ ถ้าคนละ๑๐๐เหรียญ แม่ปูคงจะไม่มีคนมาเรียนด้วยแน่ฮ่ะๆ สอนเสร็จแม่ปูคงจะแค่ชิมนิดๆหน่อยๆเท่านั้นค่ะ ถ้าตัวเองเหนื่อยๆจะทานอะไรไม่ค่อยลง อาหารที่ทำให้นักเรียนแพ็คกลับไปทานกับครอบครัวเค้าดีกว่า จะได้บอกญาติๆได้ว่านี่นะที่ไปเรียนมา ได้มาหน้าตาอย่างนี้อะไรก็ว่าไปค่ะ น้องอ้อ..แม่เอื้อยเตรียมทุกอย่างนี่หมายถึงล้างหั่นไว้เลยเหรอคะ  แล้วนักเรียนทำอะไรบ้าง หรือยืนดูเฉยๆคะ เรื่องคุยกันเรื่องรสชาติก็เป็นอีกอย่างที่พี่ไม่ทันคิดค่ะ ขอบคุณน้องอ้อมากๆที่แนะนำนะคะ เดี๋ยวพี่รอแม่เอื้อยมาตอบอีกที คงจะได้คำแนะนำดีๆจากแม่เอื้อยแน่ๆเลยค่ะ คุณann ขอบคุณมากๆนะคะที่ช่วยตอบคำถามแม่ปู  ตอนนี้คิดว่าให้ทำอาหารชนิดเดียวกันดีกว่าค่ะ ทำคนละอย่างสองอย่างสติแม่ปูเลอะเทอะแน่ ฮ่าๆๆ  ก่อนทำการเรียนการสอน ผู้สอนฝึกหัดก่อนก็เป็นไอเดียที่ดีค่ะ ขอบคุณมากๆสำหรับคำแนะนำทุกอย่างนะคะ ยังไงรบกวนคุณannอ่านที่แม่ปูตอบเพื่อนๆทุกคนข้างบนด้วยนะคะ เผื่อมีอะไรที่คุณแอนอยากทราบว่าแม่ปูคิดอะไรยังไงเพิ่มเติมนะคะ คุณเมย์ นั่นจิ..มันต้องมีผัดไทยด้วยนะ จะรอดไหมน้อ แม่ปูเอ๊ย...เปิดสอนเป็นคอร์สๆ น่าสนใจมากค่ะ แล้วแม่ปูจะคิดอีกทีนะคะ ปรึกษาเลขาที่บ้านก่อนเน้อ ขอบคุณเพื่อนๆทุกคนอีกครั้งนะคะ จากคุณ : ปูขาเก เซมารู - [ วันเถลิงศก (15) 01:58:12 ]

ความคิดเห็นที่ 12 แม่บ้านสอนทำอาหารไทยอยู่ค่ะ แม่ปู ทั้งๆที่บางเมนูต้องเขาไปดูแม่ปูสอนด้วยซ้ำไปฮาฮาฮา ครวคิดค่าสอนเลยค่ะ แม่บ้านสอนทำอาหาร  4 อย่างค่ะ อาหารว่าง 1  อาหารคาว 3 ค่ะ ไม่เคยมีลูกค้าอยากหัดทำของหวานเลยค่ะ แม่บ้านกำหนดเวลาสอน 3 ชั่วโมงค่ะ แม่บ้านรับสอนตั้งแต่ 12 คนขึ้นไป ก็เลยแบ่งเป็นกลุ่มว่า ใครอยากทำอะไรก็เลือกตามใจ ใครไม่อยากทำอะไร อยากดูอย่างเดียวก็ได้ค่ะ แต่เพราะเรามีเตาเดียว เวลาทำก็ทำทีละอย่างค่ะ ตัวอย่างทำ แกงเผ็ด เราก็จะเรียง เครื่องปรุงให้ดูก่อนว่า ในเครื่องแกงเผ็ดมีอะไรมั้ง? ให้จับดู ให้ดม บอกเขาว่าซื้อที่ไหนได้บ้าง อะไรอย่างนี้อ่ะค่ะ แล้วก็ใส่เครื่องปั้น ให้เขาปั่น คนอื่นก็เตรียมหั่น ผัก หั่นเนื้อไว้ใส่แกง แล้วอีกคนก็สอนให้เขาแกง เวลาทำให้ทำคนละอย่าง แต่คนอื่นต้องดูด้วยค่ะ ว่าทำยังไง แม่บ้านจะเตรียมข้าวของเอง แต่บางทีลูกค้าก็อยากไปดูร้านจีนที่เราซื้อของด้วย เราก็นัดเขาไปเจอค่ะ ค่าสอนแม่บ้านคิดหัวละ 25 ยูค่ะ หากต่ำกว่า12 คนก็คิดเพิ่มขึ้น ไม่รู้ว่า ข้อมูลนี้จะช่วยแม่ปูได้บ้างหรือเปล่า จากคุณ : แม่บ้านฮอลแลนค์ (แม่บ้านฮอลแลนค์) - [ วันเถลิงศก (15) 02:18:00 ]

ความคิดเห็นที่ 13 แม่ปู...เอื้อยต้องขอโทษที่ยังไม่ได้ตอบหลังไมค์นะคะ เพราะ เพิ่งกลับมาจากสวีเดน เมื่อสองวันก่อน แล้วเด็กๆ เพิ่งกลับไป รร กันวันนี้ (อังคาร) สี่ทุ่มแล้ว เดี๋ยวเอาลูกนอนก่อนแล้วถ้าไม่หลับไปพร้อมลูก (หรือหลับก่อนลูก!!!) แล้วมาตอบตรงนี้ก็แล้วกันนะคะ คนอื่นจะได้ฟังด้วย และจะได้อ่านวิธีสอนของคนอื่นด้วย แลกเปลี่ยนกัน เดี๋ยวมาค่ะ.... จากคุณ : *พิณ* - [ วันเถลิงศก (15) 03:10:52 ]

ความคิดเห็นที่ 14 เล่าให้ฟังก่อนว่า ประเทศที่เอื้อยอยู่นั้นธรรมชาติของคนที่นี่ไม่ค่อยฟ้องร้องกันค่ะ ลักษณะคล้ายๆ คนไทย แต่เอื้อยก็คุยกับเพื่อนทนาย ทนายบอกว่าให้ทำทุกอย่างเป็นภาษาอังกฤษ จะมีปัญหาน้อยหน่อยค่ะ อีกทั้งนักเรียนเป็นเพื่อนๆ กันแทบทุกคนโดยเป็นสังคม expat (แม่ๆ ของเพื่อนลูกที่ รร อินเตอร์) แต่แม่เอื้อยก็ไม่ประมาทนะคะ แม้ว่าจะจบมาทางด้านวิทยาศาสตร์อาหารโดยตรง รู้จักเชื้อโรคทางเดินอาหารทุกตัว และเคยทำงานด้านควบคุมคุณภาพมาก่อน...เรื่องการแฮนด์ลิ่งอาหาร เนื้อสัตว์ดิบ ผัก ผลไม้ ต้องระวังค่ะ ไม่ปะปนกัน ต้องสะอาด เหมือนที่เราทำให้ลูกกินเลย ประมาทไม่ได้เลยค่ะ กล่าวมาข้างต้นเพื่อให้แม่ปูต้องระวังด้าน กม ให้ดีๆ นะคะ ให้พ่อบ้านบอกเพื่อนๆ ไว้เลยก่อนมาเรียนว่าต้องเข้าใจตรงนี้ว่าเราไม่มีไลเซ่นตรงนี้นะ ก่อนสอน บอกด้วยว่าอาหารวันนี้ มีกุ้ง มีถั่ว มีน้ำปลา ฯลฯ ถามเลยว่ามีใครแพ้มั้ย? ทานเผ็ดได้แค่ไหน เคยทานอาหารไทยบ้างมั้ย?   เข้าเรื่อง..... เอื้อยสอนมาจะ 6 ปีแล้วนะคะ คลาสของเอื้อย เป็นคลาสสาธิต(demonstration) ค่ะ คือ เตรียมทุกอย่างไว้ก่อน แล้วพอนักเรียนมา ก็แค่โยนๆ ใส่หม้อใส่กระทะให้ดู คลาสหนึ่ง 8-10 คน(โต๊ะกินข้าวบ้านแม่เอื้อยจุได้ไม่เกินนี้) โดยจัดเป็นคอสค่ะ 4ครั้ง (4 ศุกร์ เป็นต้น) ครั้งหนึ่งจะจัดเมนูโดยเลือกเมนูให้เหมาะกับการนั่งรับประทานด้วยกันได้เลย คลาสแรกของเอื้อย จะมีสอน หุงข้าวหอมมะลิ มัสมั่นไก่ ผัดเปรี้ยวหวาน และยำวุ้นเส้น จะเห็นว่า อาหารเป็นพื้นๆไม่ไทยแท้นัก เพราะเราจะได้ดูนักเรียนว่าเค้ารับได้แค่ไหน แล้วคลาสสอง เราจะได้รู้ว่าเราควรทำเผ็ดน้อยเผ็ดมาก (คลาสนี้ นางเอกคือ ยำวุ้นเส้นค่ะ) โดยคลาสแรกจะสอน หุงข้าวบนเตาไฟด้วยค่ะ โดยเวลาสอนเราก็จะคุยเรื่องข้าว เล่าให้เค้าฟังว่าเราคนไทย ทานข้าวเหมือนพวกยูทานขนมปัง โดยจะแชร์อาหารกันตรงกลางวง คนภาคกลางทานข้าวเจ้า คนภาคเหนือ อีสาน ทานข้าวเหนียว  เอื้อยเล่า(พล่าม) ไปถึงข้าวเก่าทำข้าวผัด ข้าวใหม่ทำข้าวต้ม บลาๆๆๆๆ มาก...การสอนนั้นเราต้องคิดว่า เราต้องเอนเทอร์เทนนักเรียนด้วย คลาสต้องสนุกน่าสนใจ แรกๆ จะเขิน หลังๆ พูดซ้ำๆ มุขเดิมๆ จะคล่องไปเองค่ะ คลาสเป็น เดโมคลาส คือเราจะหั่นล้างเตรียมไว้เป็นชุดๆ เลยค่ะ แต่บางอย่างที่อยากจะทำให้นักเรียนดู เช่น การบั้งปลาหมึก หั่นแครอทเป็นรูปดอกไม้  ก็จะรอทำตอนนักเรียนมาแล้ว  ปกติ เอื้อยจะสอน ตอน 11โมงเช้า เริ่มนั่งทานกันตอน บ่ายโมง จนโน่น บ่ายสาม นักเรียนถึงจะยอมกลับกัน (ไม่ค่อยจะยอมกลับไล่ก็ไม่ได้ นั่งคุยๆๆๆๆๆไม่เลิก)  เช้าวันที่มีสอน เอื้อยจะรีบไปส่งเด็กๆ แล้วกลับมารีบเตรียมของมือเป็นระวิงตั้งแต่ 8 โมงครึ่งจนนักเรียนมา อะไรที่ทำไว้ตอนคืนก่อนได้ก็ทำทิ้งไว้ เช่นจัดโต๊ะ ทำความสะอาดบ้าน พิมพ์ชีท recipe เอื้อยมีชีท Ingredient list พร้อมรูปภาพให้เค้าด้วยค่ะ (รูปขวดซิอิ้วยี่ห้อที่เราใช้ ฯลฯ)..ขออีเมลล์หลังไมค์จะส่งไปให้ดูเป็นแนวทางจ้า ไม่หวงเลย พอนักเรียนมาครบ ก็จะเริ่มทำแล้วนักเรียนมุงดูค่ะ ผลัดกันเข้ามาดู  จะทำจานไหนก่อน ก็แล้วแต่ชนิดอาหาร อย่างคลาสแรกของเอื้อย จะสองหุงข้าวก่อน และระหว่างข้าวหุงอยู่เตาหนึ่ง เราก็เริ่มทำแกงมัสมั่น พอมัสมั่นหรี่ไฟ ก็กลับไปดูข้าว  ผัดเปรี้ยวหวาน ยำวุ้นเส้น แล้วย้ายไปนั่งโต๊ะทานข้าวกันเลย ระหว่างทำ ก็จะบอกเค้าว่า อาหารไทยนี่ไม่ใช่การอบเค้กนะ คือส่วนผสมที่ไอให้ไปนี่ไม่ได้เป๊ะๆ วันนี้ไอจะทำรสชาติที่คนไทยแท้ๆ ทำกินกัน แต่ถ้ายูชอบเค็ม ชอบหวานกว่านี้ ยูก็ใส่เพิ่มเองได้ไม่ผิดอะไร แต่ไอต้องทำรสชาติไทยแท้ๆ ให้ยูกินเพื่อเป็นการ educate พวกคุณให้รู้ถึงรสชาติอาหารไทยแท้ๆ (จริงๆ บอกไปแบบนี้ ถ้าเค้าไม่ชอบเค้าจะได้โทษเราไม่ได้ 5555) เสร็จแล้วก็รับประทานเป็นมื้อเที่ยงร่วมกัน ใครอยู่ไม่ได้ ก็ใส่กล่องให้ไป กินไปคุยไป สนุกมากค่ะ แม่เอื้อยได้รู้จักเพื่อนใหม่ๆ เยอะมากเลยค่ะ มีคลาสนึง คุยไปคุยมา มีสองคน เคยไป แอนตาร์กติก้า มาแล้ว ไม่น่าเชื่อ คนนึงสามีขับเรือ อีกคนสามีเป็น มารีนไบโอโลจิส บางทีเจอฝรั่งที่รู้จักอาหารไทยจริงๆ  มายืนชี้ต้นชะพลูเอื้อย แล้วบอกว่า "เมี่ยงคำ plant"  อีกคนบอกว่า อยากเรียนทำ "แหนมสด" เรายังกินไม่เป็นเลย ^^ คลาสนึง เอื้อยคิด คนละ 30 ยูโรค่ะ 4 คลาส ก็ 120 ยูโรต่อคน แต่ปัจจุบันหาคนที่จะมา 4 คลาสนี่น้อยมาก เดินทางกันตลอด เลยหยวนๆ ว่า เรียนเป็นคลาสๆ ก็ได้ โดยจะสอนถ้ามีนักเรียน 6 คนขึ้นไป ไม่งั้นไม่คุ้มค่าเหนื่อยเราค่ะ แนะนำให้แม่ปูจัดเมนูไปเลยค่ะ โดยกระจายๆ "จานเด็ด" ไว้ อย่าเอามารวมกันในวันเดียวกัน นักเรียนจะได้มาเรียนทุกคลาสค่ะ   อ้อ...จากการสอนมาหลายชาติมาก จะบอกว่า คนอเมริกันชอบทาน ฟักทองแกงบวดสุดๆ  แต่คนสเปนกับคนฝรั่งเศสทำหน้าเหยเก ฮาๆๆ หวังว่าจะตอบคำถามครบนะคะ สอนเลยค่ะแม่ปู ไม่ลองไม่รู้ ฝีมือขนาดแม่ปูสบายมากอยู่แล้ว และรับรองว่า เดี๋ยวงานเคเตอริ่งจะตามมา ^^ แก้ไขเมื่อ 15 เม.ย. 52 06:47:41 จากคุณ : *พิณ* - [ วันเถลิงศก (15) 06:39:24 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ฮ่าๆๆ พี่เอื้อยเล่าได้เห็นภาพมาก อ่านแล้วคิดถึงตัวเองสมัยสอนหนังสือใหม่ๆ โห เตรียมตัวมากมายจะสอนแค่ชั่วโมงครึ่ง เตรียมการสอนเป็นสิบๆหน้า สอนเสร็จหมดภายในสิบห้านาที ฮ่าๆๆ เตรียมไม่พอ หลังๆสอนแล้วเชี่ยวชาญ เตรียมการสอนเป็นหัวข้อ ลิสต์ไว้แค่ห้าหกอย่าง สอนยาวไปได้หลายชั่วโมง เรื่องมุขก็เหมือนกันเลย สอนวิชาไหนก็มีมุขมีเรื่องเล่าตามแต่ละจุด เวลามีนักเรียนลงเรียนซ้ำจะเซ็งมาก ใช้มุขเดิมไม่ได้ มาเสนอว่า คนอเมริกันชอบกินแกงมัสมั่นมากค่ะ เห็นบ้านไหนบ้านนั้นชอบกันจัง อีกอันที่วันก่อนเพื่อนที่เปิดร้านอาหารบอกมา คือพระรามลงสรงค่ะ เราอยู่เมืองไทยไม่เคยกินเลย มาอยู่นี่ได้ทาน ประหลาดดี จากคุณ : แม่ลูกแฝด - [ วันเถลิงศก (15) 07:14:42 ]

ความคิดเห็นที่ 16 เข้ามายินดีด้วย ค่ะ คุณครูแม่ปูขา.. อ่า ไม่กล้าให้คำแนะนำ ข้าน้อย(รู้น้อย) ไม่กล้าค่ะ(พูดจริงนะ) จากคุณ : samranjai - [ วันเถลิงศก (15) 14:28:36 ]

ความคิดเห็นที่ 17 อ้าวลืมเลย ลืมกล่าวคำ..สวัสดีปีใหม่ไทย จ้า แม่ปู จากคุณ : samranjai - [ วันเถลิงศก (15) 14:30:08 ]

ความคิดเห็นที่ 18 พี่ปูจ๋า เปิดโรงเรียนเป็นเรื่องเป็นราวแล้ว มาเม้าท์ให้ฟังด้วยเน้อ จะรอฟังจ้า ปล. แอบสวัสดีป้าเอื้อย ป้าอ้อ ข้างบนด้วยจ้า จากคุณ : ลิตา (LITAinSEOUL) - [ วันเถลิงศก (15) 14:47:08 ]

ความคิดเห็นที่ 19 เหมือนเคสดิฉันเปี๊ยบเลยค่ะ แรกๆ เคยสอนทำอาหารไทยอยู่แป๊บนึง แต่พอหลังๆ ไม่สอนแล้วค่ะ เพราะไม่คุ้ม มีมาแค่คนสองคน เราก็ไม่อยากสอน อีกอย่างภาษาไม่ค่อยแข็งแรง ก็เลยหยุดไป ดิฉันสอนตามบ้านแบบเดลิเวอรี่ค่ะ สอนแบบตัวต่อตัว ทีแรกก็ทำอาหารส่งตามบ้านก่อน ไม่มีไลเซ่นเหมือนกัน แบบว่ารู้จักกันเอง ใครสนใจก็นัดรวมตัวกันบ้านใดบ้านนึง ไม่ใช่บ้านดิฉันนะค่ะ คิดค่าสอน ชม. ละ 10 ดอลล์ค่ะ อุปกรณ์เราเตรียมมาเอง มีหนังสือที่มีรูปสวยๆ ให้เค้าดูว่าชอบอาหารชนิดใด แล้วก็สอนตามนั้น อุปกรณ์อันไหนเค้าไม่มีเราก็เตรียมไปเอง อย่างเช่น ครก กระชอนอะไรพวกนี้ ส่วนมากก็สอนราวๆ 4-5 ชม. ค่ะ สอนทีก็ราวๆ 2-3 คน อันดับแรกก็สอนให้เค้ารู้จักอุปกรณ์ที่ใช้ก่อน ก็จะเปิดรูปให้เค้าดูในคอมพ์ บางอย่างก็เตรียมไปสดๆ แรกๆ ดิฉันพาพวกเค้าไปทัวร์ร้านเอเชียเลยค่ะ ให้เค้ารู้จักวัสดุก่อนอื่น ลูกค้าดิฉันสวนมากชอบยำ ผัดไทย แกงแบบหวานๆ ต้มจืด อะไรพวกนี้ค่ะ พวกของยากๆ แทบจะไม่มีเลย จากคุณ : วดี - [ วันเถลิงศก (15) 17:17:07 A:68.84.132.119 X: TicketID:187525 ]

ความคิดเห็นที่ 20 มาให้กำลังใจค่ะ แม่ปูทำได้อยู่แล้วหล่ะ ทำอาหารกะขนมเก่งปานนั้น ครั้งแรกๆอาจจะยังไม่คล่อง ต่อๆไปก็คุ้นเองค่ะ แล้วอย่าลืมมาเล่า ประสบการณ์สอนด้วยนะคะ แม่เอื้อยช่วยอธิบายละเอียดดีมากๆ สมัยก่อนที่จะมีลูก ชอบไปดูเค้าสาธิตทำอาหาร ที่ร้านขายเครื่องครัว (อันนี้ฟรีค่ะ...ชอบ) เป็นมุมนึงในร้าน คนดูก็ไม่เยอะเท่าไหร่ ประมาณ 5-10 คน เค้าสอนวันละ 2 อย่าง ประมาณ 45 นาที-1 ชม. (แล้วแต่เมนู) ทำสลับกันไป พออย่างแรกตั้งไว้บนเตาหรือใส่เตาอบ ก็มาเตรียม อีกเมนูนึง คนสอนเป็นเชฟเก่าค่ะ เค้าจะเตรียมเครื่องปรุงมาพร้อม แต่มาหั่นล้างต่อหน้าเรา แล้วทำเร็วมากเลยนะแม่ปู หั่นฉับๆๆ เหมือนในทีวีเลย เครื่องปรุงตัวไหนคนเรียนไม่รู้จัก ก็จะส่งให้ดู จับ ดม หรือชิมก็ยังได้ ทำไปคุยไป อันนี้ควรเลือกยังไง หาซื้อได้ที่ไหน แล้วเค้าจะเตรียมชีทไว้แจกด้วย ซึ่งอันนี้ดีมาก เพราะเราจะได้ดูไปด้วย ว่าถึงไหนแล้ว พร้อมจดเทคนิคได้อีกต่างหาก ทำเสร็จก็จะมีให้ชิม แล้วก็พูดคุยถามเพิ่มเติมได้อีก (ดูฟรี แล้วยังไปชิมของเค้าอีกนะ) จากคุณ : ตรีนุช3903 - [ 16 เม.ย. 52 03:20:16 ]

ความคิดเห็นที่ 21 P' Poo...I would like to be your student too. Wish you have a good time and success with this project ka. จากคุณ : PoomPim..TMB - [ 16 เม.ย. 52 07:41:04 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ขออภัยค่ะเข้ามาขอบคุณช้าไปหน่อย พอดียุ่งอยู่กับเด็กๆ พอหย่อนก้นลงจะตอบกระทู้มาแล้ว..นู่นนั่นนี่ ก็เลยรอให้เด็กๆสลายตัวก่อนจึงได้มาอีกทีเดี๋ยวนี้ค่ะ แม่ปูขอถามคุณครูทุกท่านต่อนะคะ แม่บ้านฮอลแลนด์ ตกลงเวลาทำแกงกะทิต่างๆ คุณแม่บ้านปั่นเครื่องแกงเองหรือคะ มันมีเครื่องปั่นแบบได้พริกแกงละเอียดๆอย่างที่เราโขลกเองด้วยครกด้วยหรือคะ แม่ปูกะว่าคงจะไม่ให้คนเรียนโขลกเครื่องแกงเองค่ะ แต่กะจะบอกเค้าเหมือนคุณแม่บ้าน ว่ามีส่วนผสมอะไรอยู่ในนั้นบ้าง เอาผักสมุนไพรต่างๆมาให้ดูให้ดมค่ะ เชื่อว่าคนอเมริกันนี่เค้าคงไม่มานั่งโขลกเครื่องแกงเองแน่ๆ อิอิ..ขนาดเราคนไทยแท้ๆยังขี้เกียจเลย แหะๆ คุณแม่บ้านสอนหลายคน มีใบอนุญาตหรือเปล่าคะ หรือว่าไม่ซีเรียสเหมือนอเมริกาคะ แม่เอื้อย  เอาลูกคนไหนเข้านอนคะ แอบมีเบบี๋หรือเปล่าเนี่ย หรือว่าเอาน้องพิณเข้านอน แสดงว่าน้องพิณติดแม่มากๆเลยนะคะแม่ถึงต้องพาเข้านอน พี่เจนนี่เดี๋ยวนี้ไล่ให้ไปนอนเองแล้ว แต่ต้องไปทักเฮออินค่ะ แล้วก็คิสกู้ดไนท์ค่ะ อิอิ ส่วนนิคกี้ มีออดๆแอดๆบ้าง บางทีก็ไม่อยากนอนคนเดียวค่ะ มาถึงเรื่องอาหารการเรียนการสอน แม่เอื้อยสอนมา ๖ ปี ทำเองหมดทุกอย่าง นักเรียนยืนดูเฉยๆตลอด๖ปีเลยหรือคะ แล้วนักเรียนกลับไปบ้านมีใครทำทานที่บ้านหรือเปล่า หรือว่ามาทานกับแม่เอื้อยโดยเฉพาะคะ อ่านดูแล้ว.. เหมือนเพื่อนๆ..มารวมทานอาหารด้วยกัน โดยมีแม่เอื้อยทำให้ทาน ทานแล้วก็วิจารณ์ถึงรสชาติอาหาร อยากทราบว่านักเรียนได้นำไปปฏิบัติทำให้ครอบครัวทานหรือเปล่าคะ สำหรับเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยต่างๆ ต้องขอบคุณแม่เอื้อยมากนะคะที่กรุณาเล่าให้ฟัง บางทีแม่ปูก็ลืมนึกถึง ทั้งๆที่ก็ปฏิบัติอย่างแม่เอื้อย อย่างเช่นเขียง แยกเป็นเขียงผัก เขียงเนื้อ อันนี้แม่ปูก็แยกเหมือนกันค่ะ เรื่องการหุงข้างบนเตาก็น่าสนใจ ยังไงแม่ปูจะจดข้อความสำคัญๆไว้อีกทีจะได้ไม่ลืมนะคะ แม่เอื้อยตอบละเอียดมากค่ะ ขอบคุณมากๆนะคะที่สละเวลาให้แม่ปูในครั้งนี้ อ้อ..แม่เอื้อยจ๋า จานเด็ดของแม่เอื้อยมีอะไรบ้างคะ เพราะรู้สึกว่าที่แม่ปูโพสต์ในบล็อก มันจะเด็ดทุกอย่างเลยค่ะอิอิ.. น้องอ้อ..พี่เคยไปฝึกสอนที่สันติราษฏร์ พี่เตรียมการสอนไปอย่างดี มั่นใจเต็มร้อย พอถึงชั่วโมงสอนซึ่งเป็นชั่วโมงแรกในการสอน พี่อยากกลั้นใจตาย สอนไปไม่ถึงครึ่งชั่วโมง พี่เตรียมการสอนบางอย่างไปผิด พี่ยืนเซ่อ เข่าอ่อนเลยค่ะ แต่โชคดีที่ได้ครูพี่เลี้ยงช่วยให้รอดตายไปในวันนั้น แต่ชั่วโมงต่อๆมา พี่ก็ทำดีขึ้นเรื่อยๆ จนจบการฝึกสอน พี่เป็นคนหนึ่งซึ่งมีไม่กี่คนที่ได้คะแนนยอดเยี่ยมในการสอนในภาคการศึกษานั้น  คิดว่าการสอนทำอาหารก็คงจะคล้ายๆกัน พี่อาจจะเงอะๆงะๆในชั่วโมงแรก แต่ถ้าคนเรียนให้โอกาส พี่ก็คงจะทำดีขึ้นเรื่อยๆได้ .. นี่..มาโม้ตรงนี้เลย ฮ่าๆ ทำได้ป่ะไม่รู้ อายุมากแล้วด้วย อิอิ พี่ศรีจ๋า ดีใจจังเลยที่พี่ศรีแวะมาหา ถึงไม่มีคำแนะนำ เห็นแค่ชื่อพี่ศรีกำลังใจก็มาเพียบเลยค่ะ อาจจะช้าไปหน่อย กราบสวัสดีปีใหม่พี่ศรีด้วยนะคะ.. น้องลิต้า 5 5 5 พูดอย่างยิ่งใหญ่เลยนะน้อง เปิดโรงเรียน อิอิ.. คุณวดี ภาษาแม่ปูก็ไม่ค่อยดีค่ะ แต่คิดว่าตัวเองก็พอมีความรู้อยู่บ้าง เดี๋ยวลองดูค่ะ เผื่อหนทางนี้จะสว่างไสว ฮ่าๆ แต่แม่ปูคงจะไม่เอารูปสวยๆให้คนเรียนดู กลัวทำเหมือนในหนังสือไม่ได้5  5 ขอบคุณสำหรับประสบการณ์ที่แบ่งปันนะคะ คุณตรีนุชคะ ไม่เคยเห็นแบบสาธิตการทำอาหารที่ร้านขายเครื่องครัวเลยค่ะ น่าสนใจจังเลย เรียนฟรี ชิมฟรีอีกต่างหาก น่าไปมุงด้วยจัง วันหลังคุณตรีทิพไปถ่ายวีโอคลิปมาบ้างสิคะ อยากเห็นจังค่ะ คุณตรีนุชพาเที่ยวหลายที่แล้ว พาเที่ยวร้านขายเครื่องครัวบ้างจะเป็นไร 5  5 5 เพิ่งเจอน้องปุ๋มปิ๋ม  ขอบคุณนะคะแม่ลูกอ่อน มีแรงเรียนเหรอตะเอง อิอิ.. แก้ไขเมื่อ 16 เม.ย. 52 09:06:09 จากคุณ : ปูขาเก เซมารู - [ 16 เม.ย. 52 08:18:22 ]

ความคิดเห็นที่ 23 จานเด็ดที่ว่าก็คือ อาหารไทยยอดนิยมของคนต่างชาติหน่ะค่ะ เช่น อย่าเอาผัดไทย มาอยู่วันเดียวกับแกงเขียวหวาน จัดเมนูให้สองอย่างนี้อยู่คนละวัน นักเรียนที่มาเรียนกับเอื้อย เอากลับไปทำแทบทุกคนค่ะ โดยเฉพาะนักเรียนอเมริกัน จะตั้งใจเรียนมาก ถามและจับผิดชีทตลอด ใส่อะไรไม่ตรงชีทนี่โวยทันที (เลยต้องอธิบายเรื่องอบเค้กไง) นอกจากแกงกะทิแล้ว นักเรียนมาบอกว่า เค้าทำข้าวผัดกับผัดผักน้ำมันหอยบ่อยที่สุดนะคะ เพราะทานกันได้ทั้งครอบครัว ไม่ต้องพึ่งร้านจีนอีกแล้ว ในชีท ingredient list นั้น เอื้อยจะใช้แต่ผลิตภัณฑ์ ยี่ห้อจากประเทศไทยทั้งสิ้นค่ะ จะได้มีคนซื้อของไทยเพิ่มมากขึ้นนะคะ โม้ไปว่าของไทยทำอาหารไทยได้อร่อยที่สุด บางทีก็มีนัดพาไปจ่ายตลาดเหมือนพี่แม่บ้านฮอลแลนด์ค่ะ สนุกดี  จนทำให้ฝันหวานว่าอยากทำทัวร์พาฝรั่งไปเที่ยว ไปเดินตลาดที่เมืองไทย พี่แม่บ้านฯ สอนตำเครื่องแกงด้วย เก่งจัง เอื้อยใช้เครื่องแกงสำเร็จค่ะ แต่เคยมีนักเรียนดัชท์ อยากเรียนตำเองนะคะ เค้าบอกว่าเค้าจะได้ใส่พริกได้น้อยลง เอื้อยได้แต่ส่ง recipe ไปให้ค่ะ เพราะตัวเองก็ตำไม่เป็นเหมือนกัน ********** หนูพิณนี่ เบบี๋มากค่ะแม่ปู ยังต้องนอนกกอยู่เลย พอดี วีคนี้ป่าป๊าไม่อยู่ เด็กๆ เลยมานอนกับแม่เอื้อยค่ะ วันนั้นโดนเร่งให้ไปนอนดูทีวี มูวี่ไนท์กันก่อนนอน (ดู อเมริกันไอดอล ^^) แม่เอื้อยใจไม่ค่อยแข็งค่ะ และชอบนอนคุยกับลูกด้วย พิณเค้าช่างพูด พี่ออสการ์ถึงจะทำตัวเป็นหนุ่มเวลากลางวัน แต่เวลาป่าป๊าไม่อยู่ก็ยังชอบมานอนกับแม่นะคะให้เกาหลังและเค้าจะพูดเยอะกว่าปกติเวลาน้องหลับไปแล้ว.. แม่เอื้อยนอนตรงกลางหลับไม่สนิทเลย เวลาตอนนี้ ตี 4 เลยตื่นมานั่งดูละคร กับเขียนตอบแม่ปูอยู่นี่ไงคะ เดี๋ยวพอป่าป๊ากลับมา ทุกคนก็โดนไล่ไปนอนห้องตัวเองค่ะ ฮาๆ ยัยพิณต้องไปออดอ้อนพี่ก้าร์ ขอไปนอนด้วย บางที พี่ชายเก็บตังส์ด้วยนะ คืนละ 1 ยูโร ร้ายจริงๆ จากคุณ : *พิณ* - [ 16 เม.ย. 52 09:52:21 ]

ความคิดเห็นที่ 24 สวัสดีค่ะ คุณแม่ปู(คนเก่ง) หลายๆท่านให้ความคิดเห็นที่ดีมากแล้ว โดยเฉพาะคุณ*พิณ* มาแชร์ประสบการณ์ตรงของตัวเองนะคะ ดิฉันสอนทำอาหารไทยที่ มหาวิทยาลัยเปิดของเมืองใกล้ๆบ้านค่ะ สอนเดือนละครั้ง ครั้งละ 7 ชม. ครั้งละไม่เกิน 15 คน (เต็มทุกคอร์สค่ะ)   ๑.การเรียนการสอนชั่วโมงแรกจะไม่คิดค่าสอนดีไหม (เราคงจะเงอะๆงะๆอยู่ด้วย) คิดเงินค่ะ ของดิฉันได้ค่าแรงเป็นชั่วโมงจากมหาวิทยาลัยและอีกจำนวนหนึ่งจากนักเรียนแต่ละคน ค่ากับข้าวและเครื่องดื่มนักเรียนเป็นผู้จ่ายค่ะ ๒.ในแต่ละครั้งจะสอนทำอาหารกี่อย่างดี  ทำแล้วคงจะให้นักเรียนแพ็คกลับบ้านค่ะ ดิฉันทำคอร์สละสี่อย่างค่ะ อาหารว่าง, ซุป(อย่างเช่น ต้มข่าไก่), ผัดอีกอย่างหนึ่ง(อาจจะเป็นพะแนง) ข้าวสวย และของหวานค่ะ  พอช่วยกันทำอาหารเสร็จก็ทานอาหารร่วมกัน อาหารที่เหลือให้นักเรียนห่อกลับบ้านค่ะ ๓.กำหนดเวลาสอนครั้งละกี่ชั่วโมง ดิฉันสอนครั้งละ 7 ชม. ค่ะ ๔.ให้ทุกคนลงมือทำอาหารชนิดเดียวกันเลยหรือเปล่าคะ หรือว่าใครอยากเรียนอะไรก็จัดให้ทำอาหารชนิดนั้นเลย แบ่งเป็นกลุ่มค่ะ กลุ่มละกี่คนก็ว่าไป จะบอกนักเรียนว่า เธอสามารถไปดูกลุ่มอื่นที่ทำอาหารอย่างอื่นได้ด้วย ถ้าอีกกลุ่มหนึ่งเตรียมอาหารของตัวเองเสร็จก็ไปช่วยกลุ่มที่ยังไม่เสร็จ ก่อนลงมือทำ ดิฉันอธิบายให้นักเรียนทราบว่า ควรจะทำอะไร ยังไง หั่นซอยยังไงค่ะ ๕.เราเตรียมข้าวของเครื่องปรุงในการเรียนการสอนแต่ละครั้งเองใช่ไหมคะ ใช่ค่ะ ดิฉ้นเตรียมเองหมด นักเรียนนำมาแต่ ผ้ากันเปื้อน ผ้าเช็ดมือ และมีดคมๆสองด้าม อิๆ แต่คุณแม่ปูสอนที่บ้านอาจจะเตรียมให้นักเรียนก็ได้ค่ะ ๖.ค่าสอนไม่ทราบว่าจะคิดอย่างไรดีคะ โอ...อันนี้ตอบยากจัง ของดิฉันได้รับ ชม.ละสามสิบยูโร ค่าอาหารจากนักเรียนอีกคนละ ยี่สิบสี่ยูโรค่ะ ดิฉันเห็นฝีมือทำอาหารของคุณแม่ปูแล้ว(ในเว็ป) เชื่อว่าคุณแม่ปูทำได้สบายมากค่ะ ส่งใจไปช่วยเต็มร้อยเลยค่ะ จากคุณ : jasminchen (jasminchen) - [ 16 เม.ย. 52 16:06:09 ]

ความคิดเห็นที่ 25 how do you guys get customer? จากคุณ : ann - [ 16 เม.ย. 52 17:02:15 A:60.242.89.77 X: TicketID:170840 ]

ความคิดเห็นที่ 26 แม่ปู โขลกเครื่องแกงเองนี้ มันทำให้งานสอนสนุกค่ะ ต้องสอนให้ทำยากๆหน่อย ขืนสอนให้ทำง่ายๆลูกค้าจะเสียดายเงินค่าเรียน ฮาฮา แม่บ้านมีทั้งครก สากหิน และเครื่องปั่นให้ลูกค้าเลือกว่า อยากจะทำแบบไหน? ตำอร่อยกว่านะ? อะไรที่ยากๆมักจะดี (ว่าไปเรื่อยหล่ะค่ะ) เครื่องปั่นนี้ แม่บ้านใช้ magic Bullet ค่ะ แม่ปูลองดูในกลูเกิลนะคะ นี้ก็สั่งมาจากเมกา ใช้ดีค่ะ ชอบปั่นเนื้อ ปั่นทอดมันปลา เนียนมากๆ ไม่ละเอียดเท่าตำเอง แต่ก็โอเคค่ะ แต่แม่บ้านก็ให้เขาดูน้ำพรกซองสำเร็จเหมือนกันค่ะ ลูกค้าเวลาทำเองที่บ้าน เขาก็จะได้มีทางเลือก ไม่มีใบอณุญาติหรอกค่ะ ที่นี้ขอไม่ยากหรอก แต่ยังไม่อยากเสียภาษี เพราะทำไม่ซีเรียสค่ะ เป็นงานอดิเรกมากกว่า โชคดีนะคะแม่ปู จากคุณ : แม่บ้านฮอลแลนค์ (แม่บ้านฮอลแลนค์) - [ 16 เม.ย. 52 18:50:01 ]

ความคิดเห็นที่ 27 เดี๋ยวนี้เค้าไม่สอนฟรีแล้วหน่ะสิแม่ปู เปิดคอร์สเก็บตังค์สอนแบบจริงจัง ดิฉันก็ไม่เคยไปเรียนกะเค้าซักทีหรอกนะคะเพราะรู้สึกว่ามันแพงเกิน สมัยก่อนของฟรีเนี่ย ชอบไปเสนอหน้า เคยถ่ายรูปไว้ครั้งนึง (ไม่กล้าถ่ายคลิปค่ะ แค่ถ่ายรูปนี่ก็อายเต็มทน) แต่ยังหาไม่เจอเลยนะคะ รูปในไฟล์เยอะจัด ตาลาย ถ้าบังเอิญหาเจอ จะเอามาแปะค่ะ เอื้อย อ่านแล้วขำพี่ก้าร์ มีการเก็บตังค์น้องด้วย ตลกดี แล้วแนวคิดดีมากเลยที่ช่วยสนับสนุนของไทย (แม่ปูอย่าลืมทำด้วยนะคะ) พูดถึงเรื่องนี้แล้วนึกได้ว่า เดี๋ยวนี้บางทีไม่ค่อยกล้าซื้อของจากจีน เคยอ่านฟอร์เวิร์ดเมลล์ว่าเค้าเอาอะไรต่ออะไรมาผสมในซีอิ๊วขาว ตอนผลิตเพื่อให้ได้ปริมาณ แต่ไม่คำนึงถึงคุณภาพ ไม่รู้หรอกนะว่ามันจริงหรือเปล่า เชื่อได้แค่ไหน แต่พยายามเลี่ยง ไม่ซื้อดีกว่า ทั้งๆที่มันถูกกว่าเยอะ จากคุณ : ตรีนุช3903 - [ 16 เม.ย. 52 19:04:38 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ไม่กล้ากินของจากเมืองจีนจริงๆนะคะ ตั้งแต่เรื่อง เมลามีนเนี่ย ทำไปได้ไง บ้าที่สุด (แต่เพิ่งไปร้านจีนมา ฮาๆๆ ไปซื้อผัก) สมัยก่อนชอบกินชานมไข่มุกจากไต้หวันมาก ตอนนี้ไม่กล้ากินค่ะ แม้กระทั่งบะหมี่สำเร็จรูปยังต้องดูเลยว่าไม่ได้มาจากเมืองจีน พี่ก้าร์นี่ อนาคตเป็นนักการเงินการธนาคารชัวร์ค่ะ ขี้งกมาก ใครติดเงินไว้นิดๆ หน่อยๆ มันไม่เคยลืม แล้วเวลาเล่น โมโนโพลี่นะ พี่ก้าร์ชนะตลอด แถมยังชอบมาจัดการพวก อสังหาริมทรัพย์ของแม่กับน้องด้วยนะ ว่าควรจะขาย จะส่งธนาคารอย่างไร แม่มันไม่รู้เรื่องเลย ตอบคุณ ann ....นักเรียนของดิฉันนี่ได้จากการบอกต่อ ปากต่อปาก จริงๆค่ะ เพราะเคยจะไปปิดประกาศร้านของชำเอเชียนแต่เพื่อนเตือนไว้ว่าอย่าเลย เพราะจะเป็นการชักนำใครก็ไม่รู้มาบ้าน (เพราะดิฉันสอนที่บ้าน) ส่วนมากคือแม่ๆ ของเพื่อนลูกจากที่ รร ลูกๆ ค่ะ jasminchen ยังสอนอยู่ ดีจังค่ะ หลายปีแล้วเหมือนกันนะ^^ จากคุณ : *พิณ* - [ 16 เม.ย. 52 20:07:33 ]

ความคิดเห็นที่ 29 thank alot ka khun *พิณ* Unfortunate I dont have any friend here only my husband family and they are not interested in thai cooking. And he does not have many friend and like to do cooking either. I think i will print out the brochure and put in mail box neighbours. any more idea ka? จากคุณ : ann - [ 17 เม.ย. 52 06:55:50 A:60.242.89.77 X: TicketID:170840 ]

ความคิดเห็นที่ 30 แม่เอื้อยคะ เรื่องตำเครื่องแกง เมื่อวานนี้ให้พ่อบ้านไปถามคนที่จะเรียนว่า ต้องการตำเครื่องแกงเองไหม แบบใช้ครก ตำอย่างต่ำก็ครึ่วชั่วโมง ปรากฏว่าไม่มีใครอยากตำ5 5 5  แต่วันนี้ผัดเปรี้ยวหวานให้พ่อบ้านเป็นมื้อกลางวัน พ่อบ้านเอาไปแบ่งให้เพื่อนคนที่อยากจะเรียนคนหนึ่ง เค้าบอกมาว่าอยากเรียนทำผัดเปรี้ยวหวานด้วย 5 5 5 แต่เค้าก็ว่าอีกนะถ้าจะทำจริงๆว่าสูตรผัดเปรี้ยวหวานในเน็ตมีเยอะแยะเลยว่างั้น ฮ่วย..แล้วจะเรียนไหมเนี่ย5 5 ปรกติแม่ปูก็ใช้ผลิตภัณฑ์จากเมืองไทยค่ะ มันคุ้นกลิ่นคุ้นรส เลยคิดไปว่าอร่อยกว่าของประเทศอื่นๆค่ะ ก็คงจะแนะนำอะไรที่เราคุ้นเคยนี่แหละค่ะดีที่สุดค่ะ ครอบครัวแม่เอื้อยป่าป๊าเดินทางบ่อยด้วยมังคะ ก็เลยทำให้เด็กๆติดแม่เอื้อยไปอัตโนมัติ พอพ่อไม่อยู่ก็นอนด้วยกันทั้งหมด พ่อบ้านแม่ปูไม่เคยไปไหนเล้ย น้านน..นานไปสักทีไม่เกินสองคืน แค่นี้ก็ดิ้นกระแด่วๆบ่นๆอยากกลับบ้านทุกทีเลยค่ะ นอนด้วยกันทั้งหมดก็มีความสุขดีนะคะแม่เอื้อย ถ้ากลางดึกลูกจะไม่เตะไม่ถีบเรา  5 5 5 นิคกี้นี่ชอบนอนซบค่ะ แล้วก็ทั้งดิ้นทั้งถีบ เลยไม่ค่อยอยากนอนด้วย ช่วงนี้แม่ปูต้องถอดเสื้อเก่าที่ยังไม่ซักให้นิคกี้เอาไปกอดนอน ต้องเสื้อยังไม่ซักด้วยนะคะ จะได้มีกลิ่นแม่ติดอยู่ บางทีเราปฏิเสธไม่นอนด้วย เค้าก็อ้อนว่า ทำไมแม่กล้าปฏิเสธสายตาที่น่ารักอย่างนี้ได้ ทำหน้าอ้อนสุดขีดอิอิ.. คุณ jasminchenคะ สอนวันละ ๗ ชั่วโมง ด้วยการทำอาหาร ๔ อย่างใช่ไหมคะ ถามย้ำเผื่อแม่ปูเข้าใจผิดค่ะ เพราะคิดว่าใช้เวลาสอนนานมาก แสดงว่าคุณjasminchen มีลูกล่อลูกชนเยอะสิคะ คงจะสอนอย่างละเอียดมากๆเลยนะคะ ขอบคุณคุณjasminchenคะ  มากค่ะที่ช่วยตอบคำถามนะคะ แม่บ้านแต่ละคนน่าทึ่งกันจริงๆเลยค่ะ คุณann แม่ปูก็ไม่รู้จะไปหาลูกค้าที่ไหนเหมือนกันค่ะ อันนี้เป็นเพื่อนที่ทำงานของพ่อบ้านค่ะ คุณann สนใจจะสอนทำอาหารไทยเช่นกันหรือเปล่าคะ แม่บ้านฮอลแลนค์  จริงๆนะคะ ตำเครื่องแกงนี่มันเหงื่อไหลไคลย้อยจริงๆ กว่าจะได้กินแกงแต่ละหม้อ แทบไม่ต้องใช้เกลือใช้กะปิ เหงื่อหยดลงครกเป็นสาย อิอิ นักเรียนของคุณแม่บ้านทรหดสุดยอดมาก แต่ให้เดา ส่วนใหญ่ต้องเลือกเครื่องปั่นแน่ๆ ฮา...ขอบคุณอีกครั้งนะคะคุณแม่บ้านฯ อ้ะ..คุณตรีนุช สาธิตในแผนกเครื่องครัวก็เสียตังส์ด้วยเหรอคะ แง๊ววว..งั้นไม่เอาเหมือนกัน 5 5 เรื่องถ่ายรูปนี่แม่ปูก็อายนะคะ อย่างไปกินอะไรนอกบ้านนี่จะไม่กล้าถ่ายรูปเลย อายมาก อีกอย่างมันไม่ใช่อาหารที่เราทำด้วยมั้ง เลยไม่ค่อยมีแรงจูงใจค่ะ แม่เอื้อย แม่ปูตกเลขค่ะ หัวไม่ค่อยทันไม่ค่อยอยากเล่นโมโนโพลี่กับลูกเลย ต้องให้เค้าเล่นกับพ่อถึงจะสนุก เล่นกับแม่แม่มั่วตลอด 5 5 5 คุณแอนคะ ถ้าทำอย่างคุณแอนว่านะคะ แม่ปูว่ามันจะต้องมีใบอนุญาตนะคะ  แถวบ้านแม่ปูนี่ก็ไม่ค่อยมีคนสนใจเรียนนะคะ ขนาดว่าแม่ปูเอาบล็อกให้ดู ยังไม่ค่อยมีคนสนใจดูเลยค่ะ แต่มีเพื่อนคนนึง ชอบอาหารไทยมาก แต่ว่าไม่อยากเรียน รอให้เราทำให้กินอย่างเดียว เอา..เพื่อนกัน ไม่เป็นไร 5 5 จากคุณ : ปูขาเก เซมารู - [ 17 เม.ย. 52 09:05:32 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ผัดเปรี้ยวหวานนี่ ตอนทำฝรั่งตกใจนิดๆนะคะ เค้าบอกว่าไม่เคยกิน cooked cucumber แต่พอทำเสร็จก็กินกันดีนะ ของเอื้อยใส่สับปะรดกระป๋องด้วย สีจะได้สวยๆ น้องนิคท่าทางขี้อ้อนเหมือนพี่พิณ คนเล็กเหมือนกันนะคะ ส่วนลูกคนโตเค้าจะ อินดีเพนเด้นกว่า.....(แม่เอื้อยตื่นตี 4 อีกแล้ว เพราะโดนถีบ) จากคุณ : *พิณ* - [ 17 เม.ย. 52 09:40:21 ]

ความคิดเห็นที่ 32 เอาผัดเปรี้ยวหวานมาฝากแม่เอื้อยค่ะ แม่ปูงก ไม่อยากซื้อสับปะรดสดค่ะ เลยใช้กระป๋องแทน ถ้าพี่เจนนี่ขี้อ้อนเหมือนนิคกี้แม่ปูคงจะมีความสุขมากค่ะแม่เอื้อย ทุกวันนี้ปากเปียกปากแฉะทุกวัน ชอบทำสายตาท้าทายเราด้วยนะ มันน่าจริงๆ กินก็ยากที่สุด เบื๊อเบื่อค่ะ ผัดเปรี้ยวหวานค่ะแม่เอื้อย หน้าตาผัดเปรี้ยวหวานอย่างนี้ จะมีใครมาสมัครเรียนด้วยไหมคะ จากคุณ : ปูขาเก เซมารู - [ 17 เม.ย. 52 10:03:25 ]

ความคิดเห็นที่ 33 แม่ปู จะกลายเป็นอาจารย์แม่ แล้วเหรอเนี่ย ยินดีด้วยคะ ฟังผู้มีประสบการณ์หลายท่านข้างบนแล้ว เก่ง ๆ กันทั้งนั้นเลย เราก็เหมือนคุณตรีนุชคะ พอมีลูก ถึงจะสนใจเรื่องทำกับข้าว เคยไปเข้า course ฟรี ๆ ที่เมืองไทยเยอะคะ พวกบริษัทฯ ผลิตอาหารต่าง ๆ ไปครั้งนึง ลงทะเบียนเขียนชื่อที่อยู่ ไว้ก็จะมีจดหมายมาชวนเชิญไปบ่อย ๆ คะ เคยไปเรียนทำ สปาร์เก็ตตี้มีทบอล กับ ไก่ทอด ตอนเข้าไปเค้าจะแบ่งเป็นกลุ่ม ๆ กลุ่มละ ๔ คน มีทั้งหมด ๕ กลุ่ม เค้าจะแบ่งอุปกรณ์ให้กลุ่มละ ๑ ชุด แล้วผู้สาธิต ก็มีส่วนตัว ๑ ชุด แล้วสอนอธิบายขั้นตอน และทำให้ดูก่อน พอทำเสร็จ ก็ปล่อยให้แต่ละกลุ่มทำ ผู้สาธิต ก็จะเดินดู และคอยช่วย ทุกคนในกลุ่มก็จะคอยปรึกษา และแบ่งงานกันทำ พอทำเสร็จก็เอาทุกกลุ่มมารวมกัน สงสัยจะกระจายรสชาดมั้งคะ แล้วก็เริ่มทำ ไก่ทอดต่อ เสร็จทั้งหมดก็โฆษณา course ต่อไปคะว่า ครั้งหน้าจะทำอะไร แล้วก็แบ่งอาหารใส่กล่องกลับบ้านกัน ตอนที่เค้าสาธิต ก็จะอธิบายส่วนประกอบ ให้ข้อมูลเพิ่มเติม เหมือน entertain ให้สนุกอะคะ ครั้งนึงใช้เวลาประมาณ ๒ ถึง ๓ ชม. คะ ระยะเวลาไม่น่าเบื่อดี เราว่าแม่ปู ถ่ายรูปสวย ทำบล็อคเก่ง ลองทำ ขั้นตอนเป็น presentation พร้อมภาพก็สอนสะดวกง่ายดีนะคะ (เราก็จบศึกษาศาสตร์ มาเหมือนกัน) เรื่องราคา course ละ ๔๕ เหรียญ กำลังดีเลยคะ ได้ความรู้แถมได้อาหารกลับบ้านไปด้วย ไม่แพงนะคะ เพื่อนที่ทำงานชอบมาถามอาหารไทยกับเราบ่อย ๆ เดี๋ยวนี้ โลโบ้ เค้ารู้จักกันเยอะแล้วนะเนี่ย มีคนฟิลิปปินส์ ซื้อเครื่องต้มยำกุ้ง ทำกินเองแล้วนะ เราก็บอกว่า เออ เราก็ใช้เหมือนกัน ๕๕๕๕ เป็นกำลังใจให้คะ แม่ปู ขอเสนอรายการ "ข้าวมันไก่" ทำสูตรแม่ปูทีไร เด็ก ๆ ทานข้าวได้มากทุกทีเลยคะ จากคุณ : แม่ไข่หก (แม่ไข่หก) - [ 17 เม.ย. 52 11:54:51 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ผัดเปรี้ยวหวานเราหน้าตา ใส่ผัก สีสัน เหมือนกัน เปรี๊ยบบบบ เลยค่ะ แม่ปู แต่แม่ปูหั่นผักสวยกว่าแม่เอื้อย ^.^ จากคุณ : *พิณ* - [ 17 เม.ย. 52 16:23:07 ]

ความคิดเห็นที่ 35 แม่ไข่หก ยังค่ะยังไม่ถึงขนาดนั้น ฮ่าๆๆ ...หลายคนฮิตโลโบ้มากๆ แม่ปูไม่เคยซื้อผงโลโบ้มาปรุงอาหารเลยค่ะ อาจจะอร่อย แต่คิดว่ามันจะสู้ทำสดๆได้หรือ แต่เคยกินน้ำพริกปลาร้าที่แม่เอื้อยส่งมาให้นะคะ คิดว่าโลโบ้นะ ใช่ไหมคะแม่เอื้อย อร่อยพอสมควรค่ะ มันสะดวกสำหรับคนที่ไม่มีเวลาด้วยค่ะ อยากลองซื้อเครื่องต้มยำมาปรุงกินดูบ้าง แต่ยังไม่ได้ลองเลย มันอร่อยเหมือนเราใช้สมุนไพรสดๆหรือเปล่าคะ ส่วนข้าวมันไก่ มีอยู่ครั้งหนึ่งเคยให้พ่อบ้านเอาไปให้เพื่อนที่ทำงานเก่ากิน ก็เอาน้ำซุปแยกไปด้วย  พ่อคุณเอ๋ย ท่านเล่น เอาทุกอย่างผสมรวมกันหมดค่ะ ทั้งข้าว ทั้งน้ำจิ้ม น้ำซุป กลายเป็นข้าวต้มไปเลย5  5 ขอบคุณค่ะแม่เอื้อย เดี๋ยวนี้แม่เอื้อยไม่ถ่ายรูปอาหารที่ตัวเองทำแล้วหรือคะ ไม่เห็นฝีมือแม่เอื้อยนานมากๆๆๆแล้วนะคะ จากคุณ : ปูขาเก เซมารู - [ 17 เม.ย. 52 19:04:18 ]

ความคิดเห็นที่ 36 สามีน้องคนไทยที่นี่ รับประทานข้าวมันไก่ กับมายองเนสค่ะ >.< น้ำพริกอบแห้งไม่ใช่ของโลโบ้ค่ะ จำยี่ห้อไม่ได้ น้ำพริกหนุ่มเค้าอร่อยใช้ได้ค่ะ โลโบ้นี่เอื้อยใช้อย่างเดียวคือ ผงทำสะเต๊ะค่ะ ส่วนต้มยำ เราก็ใช้ตะไคร้ ใบมะกรูด น้ำมะนาว ผักชี อร่อยหอมกว่าเยอะค่ะ ลาบเราก็คั่วข้าวตำใหม่ๆเลย ใส่พริกบีบมะนาวสดๆ ถ้าได้ผักชีฝรั่งยิ่งอร่อย (พูดแล้วหิว) แต่เพื่อนที่นี่เค้าใช้ผงทำแหนมโลโบ้ทำแหนมกินกันเลย(หิวหนักขึ้น) ผงสะเต๊ะโลโบ้ ซื้อมาเยอะจากเมืองไทย เพราะใช้เวลาทำเคเตอริ่งค่ะ ทำทีไรมีคนขอสูตรทุกครั้งขอให้สอนด้วย ชอบกันมาก...เราก็ได้แต่อ้ำอึ้ง งึมงำ ตอบไปว่า อยากจะสอนเหมือนกัน แต่ส่วนผสมเครื่องเทศนั้น(...โลโบ้) ไอต้องซื้อจากเมืองไทย ที่นี่ไม่มีขายเลยสอนไม่ได้ บังเอิญที่นี่ไม่มีของโลโบ้ขายค่ะเลยรอดตัวไป เดี๋ยวนี้เอื้อยทำอาหารเบสิกมากค่ะแม่ปู เลยไม่รู้จะถ่ายรูปมาทำไม และตอนเย็นเอื้อยกับสามีเดี๋ยวนี้ไม่ค่อยทานข้าวค่ะ เน้นผัก สลัดต่างๆ หุงข้าวให้แต่เด็กๆ ค่ะ หมูย่างไก่ย่าง ไก่อบ ปลาปิ้ง ฯลฯ เบสิกมากๆ  อาหารไทยรอกลับไปทานเมืองไทยค่ะ อีกสองเดือนได้ไปกินแล้ว เยๆๆ แก้ไขเมื่อ 17 เม.ย. 52 20:28:35 จากคุณ : *พิณ* - [ 17 เม.ย. 52 20:25:17 ]

ความคิดเห็นที่ 37 พี่ปู ผัดเปรี้ยวหวานน่าทานมากๆๆๆๆๆๆๆ เรื่องผัดแตงกวาฝรั่งตกใจจริงๆค่ะ อ้อเคยทำแตงกวาผัดไข่ใส่หมู (อร่อยมาก) มาทานที่ทำงาน เพื่อนมองแบบหวาดๆ เฮ่อๆๆๆ เคยเอาแกงส้มที่ซื้อจากร้านไทยมาทาน ตอนอุ่นมีคนมาเดินทำจมูกฟุดฟิด คงเหม็นกลิ่นแกง อ่านกระทู้นี้แล้วหิวจังเลย อยากอยู่ใกล้ๆพี่ปู จะได้ไปช่วยชิม เฮ่อๆๆ จากคุณ : แม่ลูกแฝด - [ 17 เม.ย. 52 20:33:19 ]

ความคิดเห็นที่ 38 เจอเหมือนกันค่ะ เรื่องผัดแตงกวา  แม่ของเพื่อนสนิทลูกชายถามว่าลูกดิฉันชอบทานอะไรกับข้าว  ก็เลยบอกว่า ผัดแตงกวาใส่ไข่  เราก็อธิบายซะดิบดี  เธอห่อไหล่บอกว่าเธอชอบแตงกวานะ  แต่ไม่เคยเอาแตงกวาไปผัดเลย  เราเลยต้องบอกว่า ...โหย..ยูต้องลอง : )   ไม่ตอบเป็นข้อๆแล้วกันค่ะ  มีเพื่อนเคยเรียนอาหารชาติอื่น  คนสอนคิดเป็นสิบครั้ง  ห้าร้อยเหรียญ  เมนูแต่ละวันมาจัดการเอง  ขึ้นอยู่กับว่าอันไหนต้องใช้เวลาเยอะ  บางวันก็ได้สองอย่าง หรือบวกพวกของว่าง  แต่หลายปีแล้วค่ะ เร็วๆนี้คุณเธอก็ไปเรียนอีก  เป็นอาหารไทยสอนโดยคนไทยเพราะคุณนายแม่และตัวเธอเองติดใจอาหาร  มีฝรั่งมาเรียนด้วย  ครั้งละสี่สิบเหรียญ  แต่แยกเป็นค่าสอนสามสิบ  ค่าอุปกรณ์สิบ  แต่ดิฉันดูจากชีทที่แจกแล้วไม่มีอะไรเลย  เครื่องปรุงก็เบสิคมาก  ไม่ได้วิจารณ์อะไร  บางครั้งคนสอนก็บอกว่าไม่มีเวลาแวะซื้อปลา  ให้เพื่อนซื้อให้หน่อย  แต่ลืมยังคิดราคาเท่าเดิม  นี่ไม่ไปเรียนแล้ว  เพราะบ่นว่าคนสอนไม่ให้สูตรน้ำราด  ที่เพื่อนอุตส่าห์ตั้งใจคอย  โทรไปถาม ก็บอกว่าอย่างที่แสดงให้เห็น กะๆเอา   แถวบ้านมีที่แสดงทำขนมให้ดูก็ร้าน Sur la table http://www.surlatable.com/  ก่อนช่วงเทศกาล  อาจจะเป็นการเรียก traffic ให้คนเข้าร้านเยอะๆ  เผื่อซื้อของ   แม่ปูฯสอนได้อยู่แล้วล่ะค่ะ  ค่อยๆอธิบาย  ดู food network บ่อยๆ  ดูเหมือนRachael Ray  ก่อนที่จะมาจัดรายการ  เธอเป็นผู้จัดการร้านโกรเซอรี่สักแห่ง  และจะทำอาหารโชว์  เพื่อให้ลูกค้ามาดูและเข้าร้าน  คงมีคนเห็นแวว  เลยได้มาทำfood network  แต่คงผ่านขั้นตอนกลั่นกรองแล้ว  (ถ้าจำไม่ผิดค่ะ) จากคุณ : K@yla - [ 17 เม.ย. 52 21:11:38 ]

ความคิดเห็นที่ 39 how do you guys get customer? ของดิฉันทางมหาวิทยาลัยลงโปรแกรมให้ค่ะ นักเรียนสมัครเข้ามา ดิฉันมีหน้าที่ไปสอนค่ะคุณann ตราบใดที่ยังมีนักเรียนมาสมัครก็คงจะสอนไปเรื่อยๆค่ะคุณ*พิณ*:)- ดิฉันอาศัยมุขเก่าๆสมัยทำงานที่เมืองไทย(การท่องเที่ยว)ประชาสัมพันธ์เมืองไทยไปในตัวค่ะคุณแม่ปู 7 ชม. นี่แทบจะไม่พอด้วยซ้ำค่ะ ทำอาหารไปคุยกันไป ยิ่งช่วงทานอาหารร่วมกันเนี่ยมีเรื่องเม้าธ์กันเยอะค่ะ นักเรียนบางคนก็มีเรื่อง อะไรต่อมิอะไรเกี่ยวเมืองไทยมาถาม บางทีต้องทำการบ้านไปพอสมควรทีเดียว ทานอาหารเสร็จเราก็จะช่วยกันเก็บกวาด ล้างจานชามด้วยค่ะ ตั้งแต่สอนทำอาหารมาภาษาเยอรมันของดิฉันดีขึ้นมาเป็นกองเลยค่ะ เพราะต้องทำเมนูอาหารเป็นภาษาเยอรมันด้วย ฮี่ๆ จากคุณ : jasminchen - [ 18 เม.ย. 52 01:16:01 ]

ความคิดเห็นที่ 40 แม่ปูฯ เพิ่งพาเพื่อนๆ-แม่เพื่อนลูก ไปกินข้าวร้านไทยมา  วันนี้เลยดูเมนูเขาเป็นพิเศษ  หน้าสุดท้าย เขานำเสนอพวกคำไทยง่าย อย่างเช่น สวัสดีค่ะ สบายดีหรือ  และเขียนเป็นคำอ่านภ.อังกฤษ  ก็น่าสนใจดีนะ ปลาทอด สามรส  น้ำเปรี้ยวหวานเผ็ดนิด  เป็นเมนูที่เพื่อนฝรั่งชอบ  แต่ต้องเป็นปลาชิ้นนะคะ จากคุณ : K@yla - [ 18 เม.ย. 52 04:14:01 ]

ความคิดเห็นที่ 41 แม่เอื้อยขา  รับประทานข้าวมันไก่กับมายองเนส แค่ฟังก็กึ๋ยส์ๆๆแล้วค่ะ คงจะอร่อยของเค้าอะเนอะ ชอบไม่เหมือนกัน อิอิ.. เมื่อวันก่อนเพื่อนพี่เจนนี่มาเล่นที่บ้าน แม่ปูทำผัดไทยให้กิน กลับไปบ้านเค้าไปบอกแม่ว่าได้กินผัดไทย หุ..หุ.. วันต่อมาแม่เค้ามาเอาจักรยานที่ฝากไว้ ก็คุยๆเรื่องอาหารนิดหน่อย รู้ด้วยว่าเค้าอยากให้สอนทำผัดไทยก็เลยบอกไปว่า นี่ฉันจะเปิดคลาสสอนทำอาหารไทยนะ(เปิดเมื่อไหร่ไม่รู้ล่ะโม้ไว้ก่อน) คุยๆกันไปเค้าก็พูดถึงเคเตอริ่งสำหรับนักท่องเที่ยว  เราก็เออ..เข้าที แต่ว่าจะทำยังไงน้า5 5 คุยๆไว้เผื่อใครมาอ่านเจอ อาจจะได้เป็นไอเดียค่ะ((แม่เอื้อยจ๊ะ...แม่ปูตอบหลังไมค์แล้วนะคะ)) น้องอ้อ..เชื่อไหมว่าพี่เองก็ตกใจ 5 5 5 บอกตรงๆว่าตั้งแต่เด็กจนโตมาป่านนี้ พี่ก็ยังว่าผัดเปรี้ยวหวานเรามันแปลกๆนะ อิอิ แต่อย่างว่า พ่อบ้านกลับชอบมากกว่าเราอีกค่ะ ทั้งๆที่เราโตมากับผัดเปรี้ยวหวานนะ เอาให้พ่อบ้านไปแบ่งเพื่อนๆที่ทำงาน ก็ไม่มีใครเห็นว่าแปลกค่ะ ทุกคนชอบ ได้กินอาหารกลางวันฟรีด้วยมั้งเลยไม่กล้าติ5  5 5หรือสงสัยฝรั่งแถวบ้านพี่กินดะ 5 5 เปิ้ลจ๊ะ โอว์ สอนทีละเยอะๆ จำนวนเงินเยอะๆ สงสัยว่าคนแถวบ้านแม่ปูจะมีใครกล้ามาเรียนหรือเปล่าหนอ คิดหนัก เอาให้แม่ปูปีกกล้าขาแข็งเมื่อไหร่ อาจเรียกค่าสอนเยอะๆก็ได้ แต่ตอนนี้คงจะเก็บน้อยๆก่อน กลัวไม่มีคนมาเรียน อิอิ เออ..ถามหน่อยค่ะว่าอย่างทำปลาราดพริกให้ฝรั่งกินเนี่ย ใช้พริกอะไรกันคะ ใส่ไหม ไม่ใส่พริกก็ไม่อร่อยสิใช่ป่ะ แล้วทำยำนี่ ใส่พริกไหมคะ ถ้าไม่ใส่มันจะอร่อยรึ..คนชอบกินเผ็ดๆสงสัย5 5 เปิ้ลจ๊ะเรื่องสอนภาษาไทย ไอเดียเก๋กู้ดค่ะ เอาไว้จะทำบ้าง จดสูตรให้คนเรียนแล้วก็มีสอนภาษาไทยด้วยท้ายบท แจ๋วๆค่ะ ชอบๆค่ะ คุณjasminchen แม่ปูคิดหนักค่ะถ้าให้สอน ๗ ชั่วโมงรวด ไม่รู้จะหาเรื่องอะไรมาคุย  ความรู้รอบตัวน้อย วันๆมีแต่เรื่องลูกเรื่องสวน 5 5 ขอบคุณสำหรับประสบการณ์ที่แบ่งปันนะคะ ขอบคุณเพื่อนๆทุกๆท่านอีกครั้งนะคะที่สละเวลามาช่วยคิดและแชร์ประสบการณ์ แม่ปูได้ไอเดียหลากหลายเลยค่ะ ทีนี้ก็ถึงเวลาลงมือปฏิบัติ เอ..เริ่มตรงไหนก่อนดี 5  5 5 5 บ๊าย บายค่ะ จากคุณ : ปูขาเก เซมารู - [ 18 เม.ย. 52 19:32:32 ]

ความคิดเห็นที่ 42 มาช้า แม่ปูปิดครัวซะเสียแล้ว เปรี้ยวหวานแม่ปูน่ากินมากๆๆ จริงๆแล้ว หลักสำคัญคือการใช้ 5 Sens See ได้เห็น วิธีการทำ และ present อาหารให้ออกมาน่าสนใจ (อันนี้แม่ปูเชียวชาญ) Touch ให้นักเรียนได้ลองสัมผัส ได้ลองทำดูบ้าง นิดๆหน่อย แต่เราเป็นคนทำเป็นหลัก Taste ให้นักเรียนได้ชิม Hear ให้นักเรียนได้ฟัง เรื่องที่น่าสนใจหลายๆอย่าง เกร็ดหลายๆอย่างอย่างที่แม่เอื้อยว่า Smell อันนี้กลิ่นหอมๆของอาหาร ก็ต้องมาตามอาหารอยู่แล้ว ชอบ คำแนะนำและวิธีพีเอื้อย มาก นึกออกเลย กลุ่มแม่ๆ expat เดี๋ยวคนนั้นไป คนนี้มา แล้วแต่ละคนก็จะชอบกิจกรรมแบบนี้ ตอนอยู่เมืองจีนเคยสาธิตให้เพื่อนๆดู ตอนที่ทำ potluck กัน ที่นั่นดีมากเลย เวลาแม่บ้านๆนัดกันมากินข้าวกันก็จะหอบกันมาคนละหนึ่งอย่าง เอามาทำเป็นบุฟเฟต์กินด้วยกัน แล้วก็เคยไปสาธิตการทำส้มตำให้เพื่อนต่างชาติชม หน้าชั้นเรียน(แบบครกไปด้วย) คนสนใจกันใหญ่ (ขอบคุณพี่เอือยอีกทีที่ได้ช่วยเบญไว้เมื่อตอนนั้น ทั้งวิธีเตรียมและสูตร) ที่ฝรั่งเศสเดี๋ยวนี้การสอนทำอาหารจะเป็นที่นิยมมาก เดี๋ยวเข้ามาแปะลิ้งให้ดูอีกที ขอให้แม่ปูสนุกกับการสอนนะคะ จากคุณ : BFR - [ 19 เม.ย. 52 00:50:08 ]

ความคิดเห็นที่ 43 มาอ่านแล้วได้ความรู้ไปด้วย แต่ใจไม่กล้าทำเองเลยนะเนี่ย แค่จินตนาการตามก็เหนื่อยแล้ว เป็นโปรเจ็คใหญ่มาก เรื่องเตรียมของ หั่นผัก ทำความสะอาดบ้านไว้รอนักเรียน เคี๊ยยยยกกกกก เด็กสองคนนี้ทำชั่วโมงหนึ่งก็รกแล้ว ตอนนี้มีเวลาขี้เกียจอีกสองปีก่อนไอซิสจะเข้า อนุบาล :) หยินเห็นด้วยกับพี่ตรีนุชเรื่องไปดูที่เค้าสาธิตที่ร้าน แถวบ้านพี่ปูมี williams sonoma ไหมคะ เข้ามีสาธิตการทำอาหารบ่อยๆค่ะ ช่วงเย็นๆที่คนมาเดินห้างเยอะๆ พี่ปูต้องดู Food Network บ่อยๆแล้วล่ะ จะได้ดูว่าเขาสอนยังไง ถ้าอยู่ใกล้ๆจะไปเรียนด้วยนะ 5555 แบ่งเป็น chef's specialty class ที่ฝรั่งไม่กิน น้ำพริกปลาทู อะไรทำนองนี้ จากคุณ : yinnerella - [ 19 เม.ย. 52 04:06:17 ]

ความคิดเห็นที่ 44 กลับมาแปะให้ค่ะ(อยากจะเล่า) ที่บอกไว้ว่าที่ฝรั่งเศสก็นิยมพวก cooking class เมืองที่อยู่ มีที่สอนอาหาร (เป็นเบบ leisure activity ) http://cuisineaptitude.fr/ ที่นี่เป็น คลาสสอนอาหารในเมืองที่อยู่ เป็นแบบบูติก เปิดมาได้ประมาณสองปี แล้วก็ประสบความสำเร็จพอสมควร คนเปิดไม่ได้เป็นเชฟ  แต่จ้างเชฟหลักมาเป็นคนสอน เชฟเองก็เป็นเชฟเก่าของโรงแรมฮิลตัน แล้วก็มีผู้ช่วยเชฟ หนึ่งคนค่ะ เคยได้ใช้บริการเพราะ ว่า ได้หา team building activity ให้กับเจ้านาย หลังการร่วมประชุมประจำปี ก็เหมาไปคลาสนั้น  600-700 euros สำหรับกลุ่ม 12 คน ตอนเย็น ทำ  starter, main dish , dessert ทำเสร็จแล้วทานกันตรงนั้นหลังทำค่ะ ใช้เวลาเตรียม พรรณา ทำ ประมาณ 2 ชั่วโมง จานไหนที่ต้องใช้เวลานาน เขาจะเตรียมไว้ก่อน แล้วก็ให้นักเรียนมาหั่นๆผักเอง พอทำเสร็จกก็เผือเวลากินประมาณ หนึ่ง ถึง สองชั่วโมง(ไม่เกินกว่านี้) ได้ลองทำกับเขา สนุกดีค่ะ อีกอย่าง เชฟพูดภาษาฝรั่งเศสตลอดคลาสนั้น ขณะที่นักเรียนที่พาเป็น เป็นคนต่างชาติ เราก็เลยไปช่วยเขาแปลแบบแก้ขัด ส่วนสำหรับคนทั่วไปเขาจะมี  cooking class เวลากลางวันสำหรับคนที่ทำงานแถวนั้น คิด 15 eurosคนที่มาก็ได้ร่วมทำ (แต่ส่วนมากเขาเตรียมไว้แล้ว) แล้วทานเป็นมือกลางวันไปเลย แล้วก็มี cooking class แบบเต็มคอร์ส บ้าง หรือแค่บางอย่าง หรือ ทำแล้วหอบกลับบ้าน เมนูและราคาก็แตกต่างกันไป ชอบคอนเซ็บของเขานะคะ ดู well organised ดี เขาเคยมาขอให้หาคนสอนอาหารไทย นัดไปได้สองครั้งเขาก็ไม่เรียก (ตอนนั้นส่งเพื่อนสนิทไป เขาก็ดีใจใหญ่ ได้ค่าตอบแทน เย็นนั้น 100 ยูโรได้มั้งคะ ส่วนคนเรียนเสียค่าเรียนต่อหัว ประมาณ 40euros แล้วแต่ละอาทิตย์เขาจะทำแพลลนิ่งจัดเมนู พร้อมบอกราคาไว้ใครจะสมัคร ก็เลือกเอาตามรายการที่ชอบ เป็นไอเดียค่ะ  (เมือก่อนยังเคยคิดอยากเปิด cooking class เลย แต่ฝรั่งเศสนี่ระเบียบกฎเกณฑ์เยอะมาก ตอนหลังได้งานเป็นลูกจ้างดีกว่าอิอิ) http://cuisineaptitude.fr/index.php5/semainier/2009/18 แก้ไขเมื่อ 19 เม.ย. 52 16:08:02 จากคุณ : BFR - [ 19 เม.ย. 52 16:04:41 ]

ความคิดเห็นที่ 45 คงไม่ถึงกับต้องสอน(ภ.ไทย)อ่ะแม่ปูฯ  แต่ให้ไว้เผื่อมีใครสนใจ  เพราะฝรั่งที่ชอบลองอาหารต่างชาติ  ส่วนใหญ่เป็นพวกใจเปิดกว้าง อัธยาศัยดี  เหมือนเป็นการสร้างความเป็นกันเองนิดๆหน่อยๆ  ส่วนใครสนใจอยากเรียนในภายหน้า  ก็เป็นผลพลอยได้จ้ะ น่าจะใช้พริกขี้หนูค่ะ  สำหรับยำ  เผ็ดน้อยใส่น้อย บางร้านในเมืองเล็กๆที่เคยอยู่ใช้ jalapeno  เพราะพริกขี้หนูหายากและราคาแพง  ส่วนปลาราดพริก  เคยทานแบบที่ใช้พริกแกง น้ำมะขาม แล้วอะไรอีกก็ไม่รู้ เป็นน้ำราดก็มีค่ะ   แม่ปูฯ หลังไมค์ให้หน่อยสิคะว่า  ซึ้งนึ่งข้าวเหนียว ในกระทู้ข้าวเหนียวมะม่วงนั้น  ได้แต่ใดมา  ซื้อออนไลน์ได้เปล่า  มันสวยจังเลย  อยากได้มั่ง อิอิ จากคุณ : K@yla - [ 20 เม.ย. 52 21:08:51 ]

ความคิดเห็นที่ 46 คุณเบญคะ ขอโทษมากๆเลยค่ะที่ไม่ได้เข้ามาขอบคุณทันที คุณเบญอธิบายเป็นวิชาการเป็นหลักการมากเลยค่ะ ยังไงจะเก็บความรู้และไอเดียไว้และเอาไปปรับใช้ให้เข้ากับตัวเองนะคะ ขอบคุณมากๆค่ะ ขอบคุณเพื่อนๆทุกคนอีกครั้งนะคะ เปิ้ลจ๋า เราหลังไมค์ไปแล้วนะจ๊ะ จากคุณ : ปูขาเก เซมารู - [ 24 เม.ย. 52 02:03:54 ]