|
ประสบการณ์อันเลวร้ายที่อเมริกา (ต่อ)
ท้องฟ้าหลังฝนตกจะสว่างสดใสฉันใด ชีวิตหลังผ่านความทุกข์หนักในต่างแดนของผมก้อเริ่มสดใสฉันนั้น ทางครอบครัวเกาหลีที่ทำร้านเบอร์เกอร์มาบอกผมว่าเขาจะไม่ทำร้านต่อแล้วเพราะไม่ได้อะไร ต้นเดือนพฤษภาคมก้อจะมี Owner ใหม่เข้ามาทำแทน เขาเลยเอาผมไปฝากให้ทำงานที่ร้านพิซซ่า เขาบอกผมว่าทำงานที่นี่ชั่วคราวก่อนแด่วเขาจะซื้อร้านgrocery อีกประมาณสองเดือนแล้วเขาจะให้ผมกลับไปทำกับเขา เขาถามว่า “ Can you promise me you want to work with me? ผมตอบว่า Sure, I promise. เขาบอกว่า Let see your eyes before you answer. สำหรับประโยคนี้ผมเป็นคนบอกเขาตั้งแต่แรกๆครับตอนนั้นเขาเพิ่งเข้ามาทำร้านใหม่ๆ เพราะเขาไม่มีความรู้เรื่องเบอร์เกอร์เลยเขากลัวผมจะออก เขาพร่ำถามผมว่าผมจะทำงานให้เขานานแค่ไหน ผมบอกว่าผมจะอยู่เขาจนกว่าเขาสามารถทำงานได้คล่องแล้วผมจะไป เขาบอกว่า ให้ผมสัญญานะว่าผมจะไม่ทิ้งไป ผมบอกว่าผมสัญญา เขาบอกว่าผมแน่ใจนะ ผมก้อเลยบอกมองที่ดวงตาของฉันซิเพราะดวงตาไม่สามารถโกหกได้เลย เขาว่าเป็นจริงหรือ ผมบอกว่าใช่ครับ ถ้าคุณอ่านดวงตาคนเป็น ดวงตาจะบอกอะไรได้หลายอย่าง หลังจากนั้นมาเวลาที่เขาจะให้ผมสัญญาอะไร เขาจะบอกว่า Let me see your eyes before answering. เอาละครับก้อจบเรื่องราวของผมแล้วครับ วันที่หนึ่ง พฤษภาคมผมก้อไปทำงานร้านพิซซ่าครับ 9 USD ต่อชั่วโมง ผมขอบอกเพื่อนๆครับตั้งแต่ผมเกิดมาจนอายุเกือบถึงสี่สิบแล้วไม่เคยเจอใครเลวเท่าเจ้าของร้านคนนี้เลยครับ ตอนนี้ผมขอความเห็นเพื่อนๆๆนะครับว่า 1. ผมทำถูกใช่ไหมครับที่จะเอาเช็คเด้งไปฟ้องศาล ฟ้องลูกชายเขานะครับ 2.ผมจะไปหา labor department เพื่อปรึกษาเรื่องค่าแรงที่ค้าง ถ้าจะต้องฟ้องผมก็จะต้องฟ้องครับ โดยจะฟ้องลูกชายเขาในฐานะโอนเนอร์ร้าน มันคงเป็นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับผมตอนนี้ เพราะผมได้ทำดีที่สุดแล้วครับ
จากคุณ :
Offshore_medic
- [
26 เม.ย. 52 17:06:08
]
|
|
|
|
|