PANTIP.COM : H7872441 เรียกร้องสิทธิ์ให้ลูกได้สองสัญชาติ ไทย- ออสเตรีย ทำอย่างไร? []

ความคิดเห็นที่ 2

** ดูรูปเด็กแล้วน่าเอ็นดู น่ารัก และน่าสงสาร

** จึงขอเข้ามาช่วยคิดหาหนทางแก้ไขปัญหาของคุณให้ โดยใช้หลักนิติศาสตร์เข้าจับ

****สรุปประเด็นปัญหาของคุณเจ้าของกระทู้ มีอยู่ 3 ประเด็นสำคัญ ๆ ดังนี้

1. คุณต้องการให้ลูกได้สัญชาติออสเตรียน Austrian (ประเทศในยุโรป พูดภาษาเยอรมัน) ตามบิดา ซึ่งจะเป็นสัญชาติที่สองของเด็กต่อจากสัญชาติไทย

2. เป็นคำถามสืบต่อเนื่องจากข้อที่ 1. หากเด็กมีสองสัญชาติ คือ ไทย และออสเตรียน เด็กจะได้ประโยชน์อย่างไรบ้าง??? จะได้อะไรจากพ่อบ้างไหม ???

3. คุณต้องการให้บิดาเด็กจ่ายค่าเลี้ยงดูเด็ก หากเขาไม่จ่ายโดยดี ก็ต้องฟ้อง ทำนองนั้น คำถามตรง ๆคือ คุณแม่สามารถฟ้องให้เด็กได้ไหม ???
ข้อนี้ต้องใช้ทั้งหลักนิติศาสตร์ และรัฐศาสตร์ ประกอบกัน

ด้วยเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ และเป็นเรื่องใหญ่ของของเด็กคนหนึ่ง คำตอบต่อไปนี้จะมีผลต่ออนาคตของเด็กในภายภาคหน้า ดังนั้น ข้าพเจ้าจะให้คำตอบต่อไปนี้ด้วยความระมัดระวังและด้วยความรับผิดชอบยิ่ง

แต่ต้องขออภัยอย่างยิ่ง ที่การตอบกระทู้นี้ในวันนี้ ข้าพเจ้าจำเป็นต้องตอบสั้นๆ อย่างรวบรัด เนื่องจากข้าพเจ้ามีกิจธุระอันหลีกเลี่ยงมิได้ที่จะต้องไปปฎิบัติในอีกไม่กี่เวลานาทีข้างหน้านี้ ในชั้นนี้ ข้าพเจ้าจะตอบให้ตรงประเด็นที่สุด จะบอกวิธีทางให้ชัดเจนที่สุด ส่วนรายละเอียด ขอสัญญาว่าจะเข้ามาอธิบายให้แจ่มแจ้งในโอกาสอันใกล้นี้

ตอบประเด็นที่ 1.(กรุณาย้อนกลับไปดูประเด็นปัญหาที่ข้าพเจ้าได้สรุปไว้ข้างบนด้วย)

เนื่องจากคุณ และบิดาเด็กมิได้จดทะเบียนสมรสกัน เด็กคนนี้จึงเป็นเด็กนอกสมรสของบิดา แต่เป็นบุตรโดยชอบกฎหมายของคุณผู้เป็นมารดา เด็กจึงมีสัญชาติไทยโดยสมบูรณ์ แต่ยังไม่มีสัญชาติออสเตรียน และบิดามิต้องรับผิดชอบใดๆต่อเด็กตามกฎหมาย ( ก็ทำนองใข่แล้วทิ้งนั่นแหละ)

ที่คุณบอกว่าบิดาของเด็ก " ไปรับรองสิทธิที่อำเภอ " จึงมีคำถามว่า บิดาเด็ก ไปรับรอง " สิทธิ " อะไร ????? ใช่การที่บิดาเด็กไป " จดทะเบียนรับรองเด็ก(นอกสมรส)เป็นบุตรของตน" ตามกฎหมายไทยหรือไม่ ??? หากเขาได้ไปรับรองเด็กเป็นบุตรที่อำเภอ อำเภอจะออกหนังสือสำคัญรับรองบุตรให้ 1 ฉบับ คุณได้เห็นหนังสือฉบับนี้หรือไม่ และปัจจุบันหนังสือฉบับนี้อยู่ที่ไหน ???

กรุณาตอบคำถามนี้ให้ชัดเจนด้วย

ตอบประเด็นที่ 2. หากบิดาเด็กได้ " จดทะเบียนรับรองบุตร " จริง จะมีผลตามกฎหมายไทยตามต่อมา ที่สำคัญ จะเป็นกุญแจแสงสว่างนำไปสู่การที่จะเรียกร้องอะไร ๆ จากบิดาเด็ก และ จะเป็นต้นเรื่องนำเด็กไปสู่การได้รับสัญชาติออสเตรียนอีกด้วย แต่ขอบอกก่อนว่า จะมีอุปสรรคอีกมาก เพราะจะเป็นเรื่องของกฎหมายขัดกัน Law of Conflict ระหว่างกฎหมายไทยและกฎหมายออสเตรียน และจะต้องจ้างสำนักงานทนายระดับสากลทำเรื่อง ( ข้าพเจ้าจะไม่แนะนำสนง.ทนายความให้)

ตอบประเด็นที่ 3. หากเด็กเป็นลูกนอกสมรสของบิดา ( คือเขามิได้รับรองบุตร) คุณ หรือเด็กจะเรียกร้องอะไรมิได้เลย ถึงแม้ในที่นี้คุณเรียกเขาว่าสามี เขา ก็มิใช่สามีตามกฎหมายของคุณ และเขา ก็มิใช่บิดาตามกฎหมายของเด็กด้วย

ตามหลักรัฐศาสตร์ คุณสามารถติดต่อกับบิดาหรือ คุณปู่ คุณย่า ญาติโกโหติกาฟากโน้นให้พวกเขาเห็นแก่มนุษยธรรมแก่เด็ก โดยจ่ายเงินช่วยเหลือค่าเลี้ยงดูบ้างจะได้ไหม เรื่องนี้ตัวคุณแม่เองน่าจะรู้ดีถึงความเป็นไปได้

แต่หากเขาได้จดทะเบียนรับรองบุตรไว้ในประเทศไทย ตามกฎหมายไทย เรื่องนี้พอจะมีเชื้อไฟให้ต่อติดได้ เพราะเด็กจะมีสิทธิต่างๆ ตามกฎหมาย ตามคำตอบในประเด็นที่ 2 .

อย่างไรก็ตาม หากเขามิได้จดทะเบียนรับรองบุตรไว้ ตามกฎหมายไทย เด็ก หรือผู้ปกครอง(คือคุณนั่นแหละ) สามารถฟ้องต่อศาลบังคับให้บิดาเด็กจดทะเบียนรับรองบุตรได้ แต่ปัญหาอุปสรรคมีมากมาย เพราะตัวบิดาเด็กมิได้อยู่กับคุณในเมืองไทย !!!! และต้องมีการตรวจ DNA ทั้งบิดา และบุตร

ขออวยพรให้เด็กและคุณโชคดี
แก้ไขเมื่อ 17 พ.ค. 52 18:53:58

จากคุณ : นักกฎหมายฝึกหัดปี 1 (Detente) - [ 17 พ.ค. 52 18:41:04 ]

ความคิดเห็นที่ 12

ขออนุญาตกลับเข้ามาช่วยตอบปัญหาอีกครั้งตามสัญญาที่ให้ไว้ในความเห็นที่ 2

1. สรุปเรื่องนี้ตามหลักกฎหมายไทย หากพ่อ-แม่ของเด็กมิได้จดทะเบียนสมรสกัน เด็กเป็นบุตรตามกฎหมายของมารดาฝ่ายเดียว เด็กมิใช่บุตรตามกฎหมายของบิดา เด็กไม่มีสิทธิใดๆ จากบิดา ( เป็นบิดาแต่ในความเป็นจริง de facto เท่านั้น มิใช่เป็นบิดาที่ถูกต้องตามกฎหมาย de jure )

แต่หากจะให้เด็กเป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมายของบิดา มีอยู่ 3 ทาง คือ

1.1 เมื่อไรก็ได้เมื่อบิดา-มารดาสมรสกัน เพราะทันทีที่พ่อ-แม่จดทะเบียนสมรสกันเมื่อใด เด็กคนนั้นก็กลับกลายมาเป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมายของบิดาในทันที มีสิทธิใช้นามสกุลบิดาได้ มีสิทธิในกองมรดก-ทรัพย์สินของบิดา และมีสิทธิอื่นๆ อีก

1.2 บิดาไปจดทะเบียนรับรองบุตรที่อำเภอ หรือเขต เด็กจะมีสถานะใหม่เป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมายของพ่อที่มิได้แต่งงานกับแม่ในทันทีเหมือนกัน ได้สิทธิต่างๆเช่นเดียวกัน

1.3 ผู้แทนโดยชอบธรรม หรือญาติสนิท หรือเมื่อเด็กมีอายุครบ 15 ปี สามารถฟ้องต่อศาลขอให้บิดารับเด็กเป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมายได้ในบางกรณีตามที่กฎหมายกำหนดไว้

2. คุณเจ้าของกระทู้ตอบมาในความเห็นที่ 9 ว่า

2.1 ไม่ทราบว่า การที่พ่อของเด็กได้ไป " รับรองสิทธิ " ของเด็กที่อำเภอนั้น เป็นการไปรับรองอะไรกันแน่ และไม่ใช่การจดทะเบียนรับรองบุตรอีกด้วย

2.2 พ่อของเด็กก็ไม่ยอมนำเด็กไปแจ้งเพื่อให้การรับรองที่สถานทูตของตน

สรุปเป็นอันว่า จนถึงบัดนี้ เด็กคนนี้ไม่มีหลักฐานเอกสารเป็นทางการชิ้นใดเลยที่แสดงว่าชายผู้เป็นพ่อได้รับรองการเป็นบิดาของเด็กอย่างถูกต้องตามกฎหมายทั้งของไทย และของออสเตรีย

ดังนั้น เมื่อเด็กมีสถานะเป็นลูกนอกสมรสที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมายใด ๆ ของชายผู้เป็นพ่อ เด็กจึงไม่มีสิทธิอันใดในตัวพ่อ นอกจากจะไปฟ้องต่อศาลเพื่อบังคับให้พ่อรับเด็กเป็นบุตร ตามข้อ1.3 เสียก่อน ซึ่งสามารถฟ้องได้ก็จริงอยู่ แต่เนื่องจากตามหาพ่อของเด็กมาขึ้นศาลไทยไม่ได้ ศาลก็ดำเนินการพิจารณาไม่ได้ และอีกทั้งยังไม่มีความร่วมมือระหว่างประเทศในด้านคดีแพ่ง คือการให้ศาลไทยติดต่อกับศาลออสเตรียในการดำเนินคดีต่อเนื่องกัน ยังไม่เคยมีปรากฎ และถึงแม้หากพยายามฟ้องร้องให้ได้จนศาลไทยมีคำพิพากษาออกมาแล้ว การบังคับคดีก็จะลำบาก เนื่องจากจำเลยอยู่นอกราชอาณาจักร และไม่ทราบที่อยู่ หรือหากจะเอาเรื่องให้ได้ใกล้ความจริง คุณต้องเสียเงินเสียทองเป็นจำนวนมากมายเพื่อว่าจ้างสำนักงานกฎหมายสากลดำเนินการให้

3. ข้าพเจ้าได้สอบถามเรื่องนี้โดยตรงกับเจ้าหน้าที่การทูตของสถานทูตออสเตรียในกรุงเทพ ฯ ที่ถนนสาธร ซอยหนึ่ง (ที่อยู่ตามความเห็นที่ 3 แสดงมา) ให้แล้ว จากปากคำของเจ้าหน้าที่ฝ่ายกงสุล โดยมีคุณ Barbara Naude กงสุลใหญ่ และคุณ Berger กงสุลลูกน้อง ได้อธิบายให้เข้าใจ ดังนี้

3.1 เด็กที่เกิดจากคนออสเตรียกับต่างชาติ นั้น พ่อ-แม่ต้องจดทะเบียนสมรสกันเท่านั้น เด็กจึงจะได้สัญชาติออสเตรียน

3.2 ถ้าพ่อ-แม่มิได้จดทะเบียนสมรสกัน ดังเช่นในกรณีของคุณเจ้าของกระทู้ หากผู้เป็นพ่อมาติดต่อด้วยตัวเองกับสถานทูตออสเตรียที่แผนกกงสุล และยื่นหลักฐานพร้อมแสดงเจตนายอมรับว่าตนเป็นบิดาผู้ให้กำเนิดเด็กคนนี้จริง กงสุลสามารถพิจารณาประกอบหลักฐานอย่างอื่น (DNA) แล้วเห็นสมควรยอมรับให้สัญชาติออสเตรียนแก่เด็กคนนี้ได้ ที่สำคัญคือตัวบิดาต้องมาเอง อีกทางหนึ่งก็สามารถดำเนินการทำนองนี้ได้เช่นกัน โดยนำเด็กเดินทางไปประเทศออสเตรียพร้อมหลักฐานการเกิดจากโรงพยาบาลในประเทศไทย จากนั้นให้พ่อเด็กนำตัวเด็กไปแสดงต่อทางการออสเตรียที่เกี่ยวข้องกับการรับรองสัญชาติและการเกิด ที่ Rast Haus ซึ่งตัวพ่อจะต้องเป็นบุคคลที่แจ้งยืนยันยอมรับเด็กเป็นบุตรต่อทางการออสเตรีย เมื่อทางการออสเตรียพิจารณาแล้วเชื่อถือ ก็จะออกเอกสารรับรองสัญชาติให้เด็ก

4. หวังว่าข้อมูลที่ให้มาทั้งหมดนี้จะเป็นประโยชน์ต่อการตัดสินใจของคุณแม่ คือเจ้าของกระทู้ ทั้งหมดนี้คือหลักการ และวิธีการดำเนินการตามกฎหมายเพื่อให้เด็กได้รับสัญชาติของพ่อ และหนทางที่จะให้เด็กได้เป็นบุตรที่ถูกต้องตามกฎหมายของบิดา เพื่อประโยชน์ของเด็ก

แต่การภายหน้าจะเป็นอย่างไร เป็นไปได้แค่ไหน เพียงไร เมื่อท่านเจ้าของกระทู้ได้อ่านรายละเอียดที่ได้ให้มาทั้งหมดนี้แล้ว คงจะสามารถตัดสินใจได้ว่า สมควรจะดำเนินการอย่างไรต่อไป

ทั้งนี้ ฝ่ายกงสุลสถานทูตออสเตรียแจ้งว่า หากต้องการสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องนี้เพิ่มเติม หรือต้องการปรึกษา โปรดทำเป็น e-mail สอบถามได้ โดยจ่าหน้าถึงคุณ Barbara Naude กงสุลใหญ่ สามารถบรรยายเป็นภาษาไทยได้ เขาจะมีพนักงานแปลให้

E-mail : Bangkok-ob@bmaa.gv.at

สุดท้ายนี้ ก็ขออวยพรอีกครั้งให้เด็ก และคุณแม่ มีความสุขในชีวิตตลอดไป

จากคุณ : นักกฎหมายฝึกหัดปี 1 (Detente) - [ 18 พ.ค. 52 16:53:25 ]