ความคิดเห็นที่ 1 สามเดือนผ่านไปทั้งคู่ก็ทำInfo Pass เพื่อเข้าไปสอบถามสถานะของเคสคำตอบที่ใด้คือName Check Pending ทุกๆสามเดือนคนคู่นี่ก็จะขอลางานและเข้าไปสอบถามและคำตอบที่ใด้ก็เหมือนเดิม Name Check Pending ในการเข้าไปติดต่อแต่ละสองสมี-ภรรยาต้องละทิ้งการงานไปทั้งวัน จากเดือนจนเป็นปีทุกอย่างก็ยังไม่มีความคืบหน้า ทั้งคู่ท้อแท้หมดหวัง ทุกข์ใจ เศร้าใจกับสิ่งที่พวกเขาประสบอยู่ การไปสอบถามทางUSCISไม่ใด้ให้ข้อมูลใดๆต่อเขาทั้งสองเลยนอกจากคำว่า Name Check Pending เท่านั้นเองไม่มีคำอธิบายหรือข้อมูลอื่นๆใดเลย ครั้งหนึ่งเมื่อความอดทนอดกลั้นมันพังทลายลงสำอางค์บอกเจ้าหน้าที่ว่าเธอไม่เอาแล้วGreen Cardให้เจ้าหน้าที่Denyเคสของเธอไปใด้เลยแล้วเธอจะใด้รู้ว่าหัวหรือก้อยไม่ใช่เป็นแบบนี้โดยที่ไม่มีคำอธิบายใดๆนอกจากอักษรเพียงไม่กี่ตัวที่อ่านว่าName Check Pending เท่านั้นและะเท่านั้นจริงๆ จากคุณ : **ผิฬา+ทับทิม** - [ 28 พ.ค. 52 11:25:31 ]

ความคิดเห็นที่ 2 หนึ่งปีผ่านไปสำอางค์พ้นสภาพการเป็นพนักงานนั่นหมายความว่าวีซ่าของเธอหมดอายุแล้ว แต่ด้วยความรักต่อสามีและหวังจะใด้อยูร่วมกันทำให้สำอางค์ตัดสินใจอยู่ในประเทศเพื่อรอGreen Cardที่สามีเธอขอให้ คุณแม่ของสำอางค์ล้มเจ็บลงและเสียชีวิตไปในที่สุด สำอางค์โศกเศร้าเสียใจมากไม่สามารถเลือกใด้ระหว่างการกลับไปร่วมงานศพคุณแม่แต่จะไม่สามารถกลับเข้ามาหา/ใช้ชีวิตคู่กับสามีเธอใด้อีกเลย มันเป็นความผิดของเธอหรือที่ต้องการจะมีชีวิตคู่กับสามีเธอ? ถ้าเธอไม่ผิดทำไมเธอจึงต้องเจอกฏแบบนี้? เธอไม่ใด้ลักลอบเข้าเมืองและไม่ใด้ตั้งใจจะอยู่แบบผิดกฏหมาย เธอและสามีทำตามขั้นตอนทุกอย่างและวางแผนใว้อย่างรอบคอบเรื่องระยะเวลาเพื่อป้องกันการอยู่แบบผิดกฏหมายของเธอไม่ให้เกิดขึ้น จากคุณ : **ผิฬา+ทับทิม** - [ 28 พ.ค. 52 11:26:02 ]

ความคิดเห็นที่ 3 เข้าปีที่สองสำอางค์ใด้ค้นพบข้อมูล(ที่เธอน่าจะรู้ตั้งนานแล้ว)เกี่ยวกับเคสต่างๆที่คล้ายๆกับของเธอเอง เธอรีบติดต่อสอบถามข้อมูลจากที่ต่างๆเท่าที่จะหาใด้ สิ่งที่เธอค้นพบทำให้เธอแทบไม่เชื่อ สิ่งแรกเมื่อเธอที่ใด้ค้นพบหลังจากการติดต่อกับNational Name Check Program ซึ่งเป็นหน่วยของUSCISที่รับผิดเรื่องName Check โดยตรง คือทางกับNational Name Check Program ไม่มีเคสของเธอในดาต้าเบสเลย นั่นหมายความว่าตลอดเวลาสองปีกว่าที่ผ่านมาที่ทางLocal Office USCISบอกเธอและสามีว่าStatust ของเธอPending นั่นแท้จริงแล้วเคสนั้นยังไม่ใด้ส่งไปNational Name Check Program  สองปีกับการดองเคสแล้วบอกเธอและสามีว่ายังPending???? จากความท้อแท้กลายเป็นหมดหวัง คุ้มคลั่ง เจ็บปวดเกินบรรยายแต่เธอก็ทำอะไรไม่ใด้ หรือมันเป็นเวรกรรมอย่างที่(คนที่เคยคิดว่า)เป็นเพื่อนของเธอคนหนึ่งว่าใส่หน้าเธอเมื่อรู้ว่าเธอยังไม่ใด้Green Cardหลังจากสองปีกว่าของการแต่งงาน เพิ่งรู้ว่าUSCISก็เล่นมนต์ดำใช้เวรกรรมกับคนขอGreen Card มันเป็นตลกที่ไม่เรียกน้ำตาจากสำอางค์และคอรบครัวมากกว่าเสียงหัวเราะ จากคุณ : **ผิฬา+ทับทิม** - [ 28 พ.ค. 52 11:26:43 ]

ความคิดเห็นที่ 4 จนในที่สุดเธอใด้ค้นพบเวปไซด์แห่งหนึ่งที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับ Writ of Mandamus เธอไม่รอช้าทำการอ่านทุกบรรทัด สองวันสองคืนหลังจากนั้นสำอางค์และสามีเดินทางไปศาลเพื่อฟ้องร้องUSCISภายใต้ข้อกำหนดของWrit of Mandamus อเมริกาน่าชังอย่างที่เขาเล่าลือจริงหรือไม่สำอางค์ไม่รู้แต่ที่เธอรู้คือ ตลอดระยะเวลาสองปีกว่าที่เธอเฝ้าติดตามเคสของเธอ ความสูญเสีย เจ็บปวดและสิ่งที่เธอ สามี และครอบครัวต้องแลกนั้นไม่ใด้มีความหมาย ความสำคัญใดๆเลยเมื่อเทียบกับกระดาษสี่ห้าแผ่นที่ตามกฏหมายเรียกว่าWrit of Mandamus Pattition ตลอดเวลาเธอใด้พยายามขอความเห็นใจจากบุคคลและหน่วยงานต่างๆที่เธอคิดว่ามีอำนาจหน้าที่พอที่จะคลี่คลายเคสของเธอใด้ แต่หน่วยงาน/บุคคลเหล่านั้นไม่มีแม้แต่การตอบรับจดหมายร้องทุกข์ของเธอ...........................จนกระทั่งวันที่เธอและสามีตัดสินใจฟ้องร้องด้วยWrit of Mandamus จากคุณ : **ผิฬา+ทับทิม** - [ 28 พ.ค. 52 11:27:31 ]

ความคิดเห็นที่ 5 หลังจากวันนั้นEveryone Under the Sunติดต่อเธอมาแบบเร่งด่วน ทั้งทางจดหมาย อิเมลล์ หรือแม้แต่การโทรศัพท์มาคุยกับเธอโดยตรงพร้อมทั้งให้เบอร์มือถือของคนเหล่านั้นแก่เธอ บุคคลและหน่วยงานเหล่ารวมถึง White Hous FBI USCIS มีใครเคยใด้รับโทรศัพท์จากผู้บริหารสูงสุดของหน่วยงานเหล่านั้นตอนบ่ายสี่โมงเย็น ตอนหนึ่งทุ่ม บ้างใหม? แน่นอนหล่ะพวกเขาต้องโทรฯมาบอกเธอว่าพวกเขาเสียใจและสัญญาว่าจะทำเคสของเธอให้เสร็จสิ้นภายใน60วันให้ใด้ แน่นอน พวกเขาต้องทำให้เสร็จเพราะนั่นคือระยะเวลาที่ศาลให้พวกเขาก่อนที่จะมาตอบคำถามต่อหน้าศาลว่า ทำไมเคสของเธอไม่ใด้รับการดำเนินการ? แน่นอนพวกเขาไม่สามารถมาที่ศาลและบอกศาลว่าเพราะความชุ่ยของเจ้าหน้าที่คนใดคนหนึ่งหรือหลายๆคนของรัฐบาลทำให้เคสของเธอโดน"ดอง"มานานกว่าสองปี แน่นอน พวกเขาเหล่านั้นสามารถทำอะไรใด้ทุกอย่างเพื่อCover their Asses ทำทุกอย่างเพื่อที่จะให้ความผิดพลาดข้อนี้หายไปโดยเร็ว จากคุณ : **ผิฬา+ทับทิม** - [ 28 พ.ค. 52 11:28:36 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ประชาชนตัวเล็กอย่างสำอางค์ไม่เคยคิดว่าจะใด้รับการปฏิบัติเช่นนั่นเช่นกันแต่เพราะชื่อของสำอางค์ไปเป็นหนึ่งในผู้ฟ้องร้องในกระดาษสี่ห้าแผ่นนั้นหรอกคนพวกนี้จึงใด้พากันเฮโลกระหน่ำโทรฯมาหาเธอ และเป็นด้วยสามีของเธอ ผู้ที่เป็นประชาชนชาวอเมริกันที่ไม่เคยทำผิดกฏหมายใดๆ แม้แต่Parking Ticketเขาก็ไม่เคยใด้รับ เขาทำงานหนักและเสียภาษีให้กับรัฐบาลด้วยความซื่อวัตย์ ซื่อตรงมาตั้งแต่อายุครบทำงาน เขาผู้นี้สามารถเป็นประธานาธิบดีใด้ถ้าเขาต้องการ เขาใด้ประสบความทุกข์ใจพร้อมๆกับภรรยาที่เป็นที่รักของเขาที่เกิดจากความชุ่ยของหน่วยงานรัฐบาล รัฐบาลที่เขาจ่ายภาษีให้มาตลอดเกือบสามสิบปี พอเขาต้องรับการบริการจากหน่วยงานรัฐบาล เขากลับกลายเป็นสิ่งไม่มีตัวตน ไม่มีความสำคัญพอที่หน่วยงานนั้นๆจะทำหน้าที่ของพวกเขาหลังจากสองปีกว่าของการถอนเงินค่าบริการจากเช็คของเขา ความเจ็บปวเดหล่านั่นผู้เป็นสามีไม่สามารถหาสิ่งใดมาช่วยบรรเทาให้ภรรยาเขาเลย นอกจากเล็กๆน้อยด้วยการให้บุคคลและหน่วยงานต่างๆเหล่านั้นคุย/ประสานกับเธอโดยตรง ความเจ็บปวดของเขานั่นเล่า?? จากคุณ : **ผิฬา+ทับทิม** - [ 28 พ.ค. 52 11:36:44 ]

ความคิดเห็นที่ 7 สองปีกับห้าเดือนกับการถูกดองและ58วันหลังจากWrit of Mandamus Pattition สำอางค์ใด้รับGreen Card ซึ่งสำหรับเธอมันไม่ใช่แค่การใด้รับเจ้าเอกสารนั้นแต่มันเหมือนกันการหลุดพ้นจากการคุมขังที่โหดร้ายที่สุดในชีวิตเธอ......การถูกจำกัดอิสระภาพ........ ความประสงค์อย่างหนึ่งที่สำอางค์และสามีระบุไปใน Writ of Mandamus Pattition และไม่เคยใด้รับคำตอบจนบัดนี้คือพวเขาต้องการรู้ว่าความิดพลาดนี้เกิดขึ้น ณ ที่ใดที่แจ้งไปดังนั้นพวกเขาไม่ใด้หวังว่าจะนำข้อมูลนั้นๆไปเอาผิดผู้ใดเพียงแต่อยากใด้คำตอบเพื่อใว้เป็นวิทยาทานและแนวทางในการป้องกันความเจ็บปวดแก่บุคคลอื่นๆที่อาจจะตกอยู่ในสภาพเดียวกันกับพวกเขา ณ เวลานั้นหรือในอนาคต นอกจากสำอางค์แล้วยังมีผู้คนอีกมากมายที่ต้องทุกข์เข็ญสังเวยความชุ่ยนี้ บางคนโชคร้ายไม่สามารถทนต่อชะตากรรมใด้เสียชีวิตไปก่อน เด็กน้อยที่รอคอยการอยู่ร่วมกันตามประสาพ่อ-แม่-ลูก สามี-ภรรยา พี่-น้อง จากคุณ : **ผิฬา+ทับทิม** - [ 28 พ.ค. 52 11:37:56 ]

ความคิดเห็นที่ 8 พวกเขาเฝ้าถามตัวเองและเพื่อนร่วมชะตากรรมว่ามันสมควรแล้วหรือ ความเจ็บปวดสูญเสียของพวกเขาจะมีใครมาทดแทนให้ใด้ ลูกที่ไม่สามารถไปเผาศพแม่ สามี-ภรรยาที่ต้องเลิกกันไปเพราะการรอคอยไม่มีกำหนด ไม่มีที่สิ้นสุด ไม่มีหวัง ความเจ็บปวดเหล่านี้ใครจะกล้าตีราคาว่ามันมากค่าแค่ใหน? แล้วทำไมพวกเขาต้องเป็นคน Pay the price และ Price ticket มันสูงมากขนาดนี้? จากคุณ : **ผิฬา+ทับทิม** - [ 28 พ.ค. 52 11:43:10 ]

ความคิดเห็นที่ 9 รออ่านอย่างใจจดใจจ่อค่าาา จากคุณ : สาวน้อยหนึ่งชั่ง - [ 28 พ.ค. 52 11:43:24 ]

ความคิดเห็นที่ 10 สำอางค์มีตัวตน สำอางค์มีเอกสารยืนยันสิ่งที่เธอเล่าทุกอย่างไม่ว่าจะเป็น สำเนาอิเล็คโทรนิคส์เมลที่เธอใช้ติดต่อกับ FBI, National Name Check Program, White Hous Local office ของ USCIS และ สำนักงานใหญ่ของUSCIS แก้ไขคำว่าเหล่า เป็นเล่า แก้ไขเมื่อ 28 พ.ค. 52 11:47:56 จากคุณ : **ผิฬา+ทับทิม** - [ 28 พ.ค. 52 11:47:08 ]

ความคิดเห็นที่ 11 เรื่องราวชีวิตจริงไม่มีอะไรน่าติดตามหรอกค่ะ สำอางค์เพียงแต่หวังว่าข้อมูลของเธออาจจะช่วยคนอื่นใด้บ้าง เธอบอกตลอดว่าถ้าเธอมีข้อมูลนี้เร็วกว่านั้นเธอจะไม่ต้องทนทรมานอยู่แบบนั้นเพราะกฏคือหลังจากการสัมภาษณ์เกินเก้าสิบวันUSCISหรือที่รู้จักกันในนาม ไอเอ็นเอส สมัยก่อนต้องให้คำตอบเธอจะเป็นการปฏิเสธวีซ่าหรืออย่างใดก็ไใด้แต่ไม่ใช่การบอกว่าเพ็นดิ่งค่ะ คนส่วนมากที่ติดปัญหาเดียวกันกับเธอเป็นเพราะเขาไม่มีข้อมูลตรงนี้เช่นเดียวกับเธอ เชื่อหรือไม่แม้แต่ทนายความ(สองคน)ที่เธอจ้างให้ทำเรื่องการเปลี่ยนสถานะยังไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับWrit of Mandamus เลย หรือถ้าพวกเขามีพวกเขาก็ไม่เคยบอกเธอเลยตลอดเวลาสองปี คนที่ทำเคสนี้คนแรกที่เธอรู้จักและเป็นคนที่นำข้อมูลออกมาเผยแพร่คือทหารคนหนึ่งที่เจอปัญหานี้ ***สะกดมีเป็นมา*** แก้ไขเมื่อ 28 พ.ค. 52 12:03:50 จากคุณ : **ผิฬา+ทับทิม** - [ 28 พ.ค. 52 11:56:42 ]

ความคิดเห็นที่ 12 อ่านแล้วยังงงอยู่ว่า White House ไปเกี่ยวอะไรกับ USCIS เหรอคะ? FBI นี่ ยังพอเข้าใจได้อยู่ในส่วนของ Mandamus กะ เนมเชค แล้วผลเป็นไงอ่ะคะ? รออ่านต่ออยู่นะคะ จากคุณ : Kryta (kryta) - [ 28 พ.ค. 52 12:00:55 ]

ความคิดเห็นที่ 13 คุณ  Kryta สำอางค์ติดต่อ White House เพื่อขอความเห็นใจและหวังค่ะ หวังว่าถ้าเรื่องราวของเคสเธอถึง White House แล้ว...อาจจะ....ใด้รับความสนใจบ้าง นอกจาก White House เธอก็ยังส่งจดหมายร้องทุกข์ไปหา คองเกรซแมนประจำรัฐของเธอด้วย จากคุณ : **ผิฬา+ทับทิม** - [ 28 พ.ค. 52 12:08:24 ]

ความคิดเห็นที่ 14 อ่านเพลินมาก    แต่สงสารสำอางค์จัง จากคุณ : Pier Gerlofs Donia - [ 28 พ.ค. 52 12:12:10 ]

ความคิดเห็นที่ 15 จุดประสงค์หนึ่งของการร้องเรียน ร้องทุกข์ไปที่ White House คือเพื่อพิสูจน์การ Exhusted of all avenue ไม่ทราบว่าภาษทางกฏหมายให้คำจำกัดความตรงนี้ว่าอย่างไรแต่หมายถึงการที่เจ้าทุกข์ใด้ทำทุกวิถีทางรวมถึงมีการร้องเรียนขอความช่วยเหลือก่อนหน้าที่จะยื่นฟ้องร้องแล้ว นอกจาก White House สำอางค์ก็ใด้ทำหนังสือร้องเรียนแบบเดียวกันนั้นเสนอต่อ Senetor Crongress man ประจำรัฐ/ท้องที่ของเธอ หนังสือร้องเรียนต่างๆเหล่านี้คือหลักฐานในชั้นศาลในกรณีมีการไปศาลและ/หรือทางUSCIS ขอเพิ่มระยะเวลาในการอนุมัติเคส เจ้าทุกข์สามารถนำเอกสารนี้ไปค้านต่อผู้พิพากษาและผู้พิพากษาสามารถใช้หลักฐานเหล่านี้เพื่ออ้างอิงในการพิจารณาให้ต่อเวลาหรือบังคับให้USCIS ให้คำตอบต่อเจ้าทกุข์ในกรณีที่ไม่อนุญาตให้ต่อเวลา จากคุณ : **ผิฬา+ทับทิม** - [ 28 พ.ค. 52 12:55:00 ]

ความคิดเห็นที่ 16 คุณ **ผิฬา+ทับทิม** คุณเขียนได้ดีมากถ่ายทอดความรู้สึกเจ็บปวดทางตัวหนังสือได้อย่างที่ทำให้ดิฉันน้ำตาคลอเบ้าด้วยความเห็นใจและสงสารคุณสำอางค์อย่างมาก เคยอ่านในนี้มาหลายครั้งแล้วที่ ภรรยาต้องกลับไปเมืองไทยเพื่อรอให้ได้ กรีนการ์ด บางคนรอเป็นสิบปี ทำไมเมกามันโหดขนาดนี้ก็ไม่รู้ สงสารลูกๆที่นานๆจะได้เห็นหน้าพ่อ สงสารสามีภรรยาหลายคู่ที่ต้องมาแยกกัน สิ่งที่คุณเล่ามาคงจะเป็นประโยชน์ต่อหลายท่านด้วยค่ะ จากคุณ : Rinta - [ 28 พ.ค. 52 13:29:28 ]

ความคิดเห็นที่ 17 I'm very sorry for what happened to khun สำอางค์ and hope that she will put her case forward and sue their asses off. แก้ไขเมื่อ 28 พ.ค. 52 16:46:57 จากคุณ : หมูหนาว - [ 28 พ.ค. 52 14:28:33 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ถ้าเรื่องนี้เป็นเรื่องจริง Sue โลด สำอางค์รวยเลย รับรอง จากคุณ : C. - [ 28 พ.ค. 52 15:55:02 A:66.91.85.245 X: TicketID:210296 ]

ความคิดเห็นที่ 19 คนผิดถูกนำตัวมาลงโทษหรือเปล่าครับ จากคุณ : jira - [ 28 พ.ค. 52 15:58:31 A:203.107.198.144 X: TicketID:206528 ]

ความคิดเห็นที่ 20 เรื่องนี้ สมัยปี 2004 ก็ต้องรอราว ๒ ปีจึงทำ Writ of Mandamus ถึงอย่างไรก็ตาม สมารถออกนอกประเทศได้ ที่จะไปงานศพของแม่ โดยทำ Advance Parole ขออนุญาตเสียก่อนนะ จากคุณ : ธนิตา - [ 28 พ.ค. 52 23:04:34 ]

ความคิดเห็นที่ 21 อ่อ เปงจั่งซี่นิเองเด๊ ถึงได้ติดต่อเดอะไวท์เฮ้าส์เน๊.... รออ่านต่ออยู่นะคะ เขียนดีค่ะ หวังว่าคุณสำอางค์จบผลได้ลงเอยด้วยดีนะคะ สู้ๆ จากคุณ : Kryta (kryta) - [ 29 พ.ค. 52 02:31:15 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ของปุ้ยรอมาห้าปีค่ะ รอจนคิดว่าคงไม่มีหวังพึ่งได้ปีนี้นี่เอง อเมริกา จากคุณ : หนองคาย (แดนเหนี่ยวลูกแม่ปุ้ย) - [ 29 พ.ค. 52 04:20:29 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่าน กิ๊ฟ และคอมเม้นต์ค่ะ คุณ ธนิตา เด็กน้อยชาวโรมาเนียและคุณพ่อของเธอที่มี POD หลังสำอางค์สามารถยื่นWOMใด้(และชนะเคส)เพียง93วันหลังการสัมภาษณ์ นี่เป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งในหลายร้อยเคส Base on WOM ค่ะ สำอางค์และสามีทำทุกวิถีทางที่จะกลับไปร่วมงานศพแม่รวมทั้ง AP ครั้งแรกโดนปฏิเสธโดยเหตุผลคือเธอ Out of Status ไม่ Qualify เธอและสามีทำการนัดหมายเพื่อเข้าไปร้องขอความเห็นใจต่อเจน เอริ์ลลาโน่(กูเกิลชื่อและนามสกุลจะทราบว่าเจนคือใคร)โดยตรงแต่คำตอบเหมือนเดิมคือไม่ Qualify ตัวเจนเองยังแสดงความเห็นใจต่อทั้งคู่พร้อมทั้งแนะนำว่าหลัง 9/11ระบบไม่มีอะไรเป็นที่อ้างอิงใด้เลยเพราะฉะนั้นเธอคิดว่าไม่ควรเสี่ยงออกไปเพราะถึงแม้นใด้ AP แล้วแต่ตอนขาเข้าเจ้าหน้าที่สามารถใช้ข้อมูลOut of Status ของเธอเป็นการปฏิเสธการเข้าประเทศใด้ เรื่องระบบสำอางค์ใด้ประสบมากับตัวเธอเองมากพอที่จะรู้ว่าคำเตือนของเจนมีน้ำหนัก ก็เธอเองต้องเจอสภาพแบบนั้นไม่ใช่เพราะระบบที่สองหน่วยงาน(USCIS Local officeกับ National Name Check Program)ไม่ทำงานร่วมกันหรือประสานข้อมูลกันหรอกหรือ? เรื่องความล้มเหลวของระบบและคำชี้แจง/ตัวอย่างเหตุการณ์ที่บ่งบอกว่าสองหน่วยงานไม่แชร์/ประสานข้อมูลกันสำอางค์ก็เจอมา รายละเอียดจะตามมาค่ะ ถ้าคุณธนิตามีข้อมูลเคสใดที่เหมือนหรือใกล้เคียงกับเคสของสำอางค์แต่เคสนั้นๆใด้รับ AP ขอที่มาและรายละเอียดที่อ้างอิงใด้ด้วยค่ะ ท่านที่ติดตามต้องขอเวลานิดหนึ่งนะคะการถ่ายทอดเรื่องราวชีวิตจริงและมีกฏหมายพร้อมทั้งหน่วยงานใหญ่ของรัฐฯเกี่ยวข้องด้วยคนเขียนต้องระมัดระวังเป็นที่สุดเพื่อมิให้เกิดความเสียหายหรือกระทบกระเทือนต่อทุกฝ่าย การเล่าเรื่องแบบนี้ต้องนำเสนอข้อมูลที่ถูกต้องอ้างอิงใด้เท่านั้น การทำลักษณะดังกล่าวเป็นไปใด้ค่อนข้างยากเพราะเรื่องราวค่อนข้างละเอียดอ่อนค่ะ จากคุณ : **ผิฬา+ทับทิม** - [ 29 พ.ค. 52 07:06:58 ]

ความคิดเห็นที่ 24 สำอางค์ vs USCIS Round 2 จากคุณ : **ผิฬา+ทับทิม** - [ 29 พ.ค. 52 08:29:21 ]

ความคิดเห็นที่ 25 เขียนได้น่าติดตาม สงสารสำอางค์ และเพิ่งได้รับรู้ว่ามี Writ of Mandamus นี้ด้วย ขอบคุณและติดตามอ่านอยู่ค่ะ จากคุณ : น้านก (Aunti-นก) - [ 29 พ.ค. 52 11:49:48 ]

ความคิดเห็นที่ 26 vote จากคุณ : timtam_yummy - [ 30 พ.ค. 52 11:44:00 ]