ความคิดเห็นที่ 1 ก่อนอื่น จะไปวีซ่าอะไรคะ ไม่มีใครออกใบอนุญาตทำงานให้กับเเรงงานไร้ฝีมือนะคะ พวกเสิร์ฟ พวกขายของคงขอวีซ่าไม่ได้ค่ะ เพราะคนของเขาก็เยอะเเล้ว ตอนนี้เศรษฐกิจแย่แบบนี้ คนเสิรืฟที่เขามียังจะตกงานกันร่อแร่ ร้านอาหารปิด คนไม่มีงานทำ แล้วคุณจะไปทำอะไร คนที่เขามีงานอยู่เขาก็เกาะกันเหนียวเเน่น แล้วค่าคลอดล่ะคะ เป็นแสนเป็นล้าน ใครจะออกให้ และถ้าจะอยู่แบบหนีวีซ่า ตอนนี้คุณมีชีวิตแบบคนชั้นกลางใน กทม. ถ้าไปอยู่เมกา แบบหนีเข้าเมือง ลองหันไปดูพวกพม่า เขมรที่แอบมาอยู่ในบ้านเราสิ คุรว่าคุณภาพชีวิตเขาดีไหม เมื่อเทียบกับคุณ คุณจะยอมทิ้งความสะดวก สบาย มาเอาเวลแฟร์เมกาที่เขาว่าดี ดิฉันไม่รู้เหมือนกันนะว่าดียังไง อยากให้ลูกเรียนดี ก็ต้องไปอยู่ในย่านบ้านแพง  เพราะโรงเรียนจะได้ดีไปด้วย อยู่ย่านถูกโรงเรียน ก็น่ากลัว แถวบ้านก็น่ากลัว ถ้าย้ายไปอยู่เเล้วไปทำอาชีพ มีรายได้เเละคุณภาพชีวิตที่ไม่ต่ำไปกว่าอยู่ไทยนะ มันก็น่าไป เพราะครอบครัวคุณจะมีตัวเลือกให้ชีวิตได้มากขึ้น เจริญขึ้น เพราะสุดท้ายเเล้ว ไม่ว่าอนยู่ที่ไหนในโลก เงินมันก็เข้ามาเป็นปัจจัยหลัก ที่สำคัญในการดำรงชีวิต อำนาจการจับจ่าย ใช้สอย และคุรภาพชีวิตของคุณ ในเมืองไทย ที่เป็น เจ้าของร้านอาหาร สอนเปียโน กับ คุณที่เป็นคนขายของในสวนสนุกในเมกาน่ะ มันต่างกันฟ้ากับดินเลยล่ะ คิดดูดีๆ จากคุณ : mrs.night owl - [ 3 มิ.ย. 52 21:19:09 ]

ความคิดเห็นที่ 2 เพราะยังไม่ทราบเรื่องวีซ่า และเรื่องงานนี่แหละคะ ถึงได้เข้ามาถามดู ว่าจะมีงานประเภทไหนบ้างที่จะพอแนะนำได้ ลืมแจ้งไปคะ ว่ามีญาติอยู่ที่นั่นอยู่แล้ว แต่เป็นคนไทยที่ไปอยู่ที่นู่นนานจนได้ Green Card คะ เรื่องค่าคลอด ค่าอะไรต่อมิอะไร เป็นเรื่องที่ทราบว่าน่าจะต้องเยอะมาก แต่ว่าไม่ทราบว่ามากแค่ไหน กำลังหาข้อมูลอยู่เหมือนกันคะ เพราะแม่แฟนพูดประมาณว่าเค้าจะออกค่าใช้จ่ายทั้งหมดให้ (ตัวเราเองก็ไม่แน่ใจว่าเค้ารู้รึเปล่าว่ามันเย๊อะ....เยอะ) ส่วนเรื่องทำงาน น่าจะประมาณว่า เราหาเรื่องอยากจะทำเองคะ เพราะทางแม่แฟนเค้าก็บอกว่าไปอยู่บ้านญาติก็ได้ ส่วนเรื่องเงิน เค้าจะจัดการให้เอง เพียงแต่ทางเราแค่รู้สึกว่า มันไม่ดีนะ ถ้าจะไปอยู่บ้านญาติที่เค้าที่เราไม่เคยเจอหน้า แล้วไปงอมืองอเท้าอยู่เฉย ๆ ไปวัน ๆ แถมออกจะน่าเบื่อด้วยนะ เลยรู้สึกว่า ที่จริงแล้ว อยากไปหางานทำแล้วหาที่อยู่กันเอง ถ้าได้ก็น่าจะดีกว่าหนะคะ ให้ความรู้สึกที่ดีกว่ากันเยอะ ยังไงก็ขอบคุณคุณ mrs.night owl นะคะ ที่เตือนสติ แต่ว่าตัวเราเองอาจจะแจงเรื่องไว้ไม่เคลียร์เองคะ คุณเลยอาจจะเข้าใจสถานการณ์ผิดไปนิดนึงค่า :) จากคุณ : cutestmei (mangek) - [ 3 มิ.ย. 52 21:41:31 ]

ความคิดเห็นที่ 3 สำหรับความคิดของดิฉันนะค่ะ ถ้าเป็นดิฉัน ขออยู่และคอลดที่เมืองไทยมากกว่าค่ะ ว่าwelfare ดีไม่เห็นจะว่าดีเกินเมืองไทยเท่าไหร่ และค่าคลอดถ้าไม่มีประกันนับว่าแพงมากๆ และถ้าไม่ได้คลอดธรรมชาติ หรือมีอะไรที่ต้องดูแลหลังคลอดอีก ก็แพงสุดๆ ตีเป็นเงินไทยนับว่ามากทีเดียวค่ะ หรือถ้าต้องดูแลลูกหลังคลอดอีกหละ นับว่าแพงมากๆสำหรับดิฉัน ตอนนี้ดิฉันก็วางแผนจะท้องเหมือนกัน ยังเคยพูดเลยว่าถ้าท้อง อยากจะกลับไปคลอดที่ไทย เพราะอยากอยู่ใกล้พ่อแม่้ เพราะเราและครอบครัวสามีอยู่คนละรัฐ เรามีประกันสุขภาพแต่ถ้ามีอะไรที่ไม่ครอบคลุมก็คงจ่ายเองเป็นเบือเหมือนกัน มีหลายๆคนก็ตัดสินใจไปคลอดที่ไทยค่ะ แต่ตรงนี้ก็แล้วแต่ จขกท ตัดสินใจนะค่ะ แต่เรื่องงานขอบอกว่าตอนนี้ อเมริกาเศรษฐกิจแย่มากๆๆๆ คนตกงานล้นเลยค่ะ จากคุณ : คนไทยใน อเมริกา - [ 3 มิ.ย. 52 22:56:12 A:71.171.150.212 X: TicketID:181710 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ค่าคลอดแบบไม่มีประกันก็คงประมาณหนึ่งล้านบาทอะค่ะ ขนาดของเราตอนคลอดมีประกันยังจ่ายเองเกือบแสนบาทเลยค่ะ ส่วนเรื่องวีซ่าถ้าจะมาก็คงต้องใช้วีซ่าท่องเที่ยวหรือวีซ่านักเรียน แต่ถ้ามาวีซ่าท่องเที่ยวก็จะอยู่ได้อย่างมากที่สุดก็แค่ 6 เดือนค่ะ เผลอๆ ได้แค่ 1-3 เดือนด้วยซ้ำ วีซ่านักเรียนอยู่ได้นานหน่อย แต่ค่าเล่าเรียนก็ไม่ใช่น้อย แค่คอร์สเรียนภาษาก็ตกเดือนละประมาณ $1000 เข้าไปแล้ว คุณกะสามีก็คงประมาณ $2000 ยังไม่รวมค่ากินค่าอยู่เลยนะคะ ญาติที่มีกรีนการ์ดไม่สามารถช่วยคุณให้อยู่และทำงานได้อย่างถูกกฎหมายหรอกค่ะ ปกติกิจการของฝรั่งเค้าไม่รับคนที่อยู่แบบผิด กม นะคะ งานสวนสนุกนี่เลิกคิดไปได้เลย ถ้าเป็นงานร้านอาหารไทยโรบินฮู้ดอาจจะทำได้ แต่ช่วงนี้ถ้าไม่มีเส้นมีสายรู้จักกับเจ้าของร้าน เค้าก็ไม่ค่อยรับพวกฮู้ดหรอกค่ะ ขนาดคนอยู่โดยถูก กม ยังตกงานกันเพียบ สู้จ้างพวกคนที่อยู่โดยถูกไม่ดีกว่าหรือคะ อีกเรื่องนึง ถ้าลูกคุณเกิดที่อเมริกา ก็จะได้สัญชาติอเมริกันไปโดยปริยาย แต่ว่าคุณไม่ได้สิทธิตามลูกคุณหรอกนะคะ ต้องรอลูกคุณอายุเกิน 21 ปีก่อน และมีรายได้ตามที่กำหนดถึงจะขอใบเขียวให้คุณได้  ระหว่างนั้น ถ้าคุณโดนจับข้อหา Over stay เมื่อไหร่ เค้าก็จะส่งคุณกลับเมืองไทย พร้อม blacklist 10 ปี ถ้าลูกคุณจะอยู่เมกาโดยที่ไม่มีคนดูแล เค้าก็จะส่งลูกคุณกลับพร้อมคุณนั่นแหล่ะค่ะ คิดให้ดีนะคะ จากคุณ : มินนาโน - [ 3 มิ.ย. 52 23:15:32 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ดูข่าววันก่อน รัฐแคลิฟอร์เนียตัดและลดสวัสดิการสังคมของคนในแคลิฟอร์เนียถึงล้านคน จขกทก็ยังไม่มีวีซ่าและสงสัยว่าแฟนจขกทเป็นคนไทยหรือฝรั่งค่ะ ถึงตอนนี้แม่สามีของคุณให้ความเอ็นดูมาก ถึงกับเสนอตัวช่วยเหลือหลายอย่าง แต่อยากให้จขกทคิดเผื่อถึงเวลาที่มีปัญหากับแม่สามีด้วยค่ะ ว่าถ้าเกิดปัญหาในชีวิตคู่หรือการดำรงชีวิตในอเมริกา แม่สามีจะยังรับผิดชอบคุณอยู่หรือเปล่าและถ้าเขาไม่ช่วย คุณจะสามารถดูแลตัวเองและลูกได้โดยลำพังมั๊ย  เรื่องงานทำตอนกำลังท้องหรือมีลูกเล็กๆคงไม่ดีมั้งค่ะ สนับสนุนให้คุณคลอดและดูแลกิจการที่เมืองไทยดีกว่า คุณพ่อคุณเคยเป็นโรบินฮู้ด น่าจะสมัยปี 70-90 สภาพสังคมและเศรษฐกิจอเมริกาไม่รุ่งเรืองอย่างนั้นอีกแล้วนะคะ สถานการณ์แตกต่างอย่างมากเหลือเกิน ตอนนี้เรียกว่ารุ่งริ่งก็คงจะได้ จากคุณ : หมูหันตัวอ้วนกลม - [ 3 มิ.ย. 52 23:36:19 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ถ้าอะไรๆมันง่ายขนาดนั้น คนอื่นๆก็คงไปกันเต็มหมดแล้วล่ะครับ ถ้าเป็นผมนะ มีกิจการส่วนตัว หรือร้านอาหารอยู่เมืองไทยแบบนี้ ผมว่าก็โอเคแล้ว เพราะการเงินกไม่ลำบาก แถมอยู่เมืองไทยสบายใจกว่าด้วย ไปอยู่ต่างถิ่นต้องไปเริ่มต้นอะไรใหม่หมด มันเสี่ยงเกินไปสำหรับผมนะ จากคุณ : Shindo_Hikaru - [ 3 มิ.ย. 52 23:39:03 ]

ความคิดเห็นที่ 7 จขกท. คงอยากให้ลูกได้ citizenship นั่นเอง...เรื่อง "welfare" ดีกว่า...ไปเอามาจากไหนคะ? คุณจะมาใช้ welfare ของเขาคุณก็ต้อง chip in ด้วยนะคะ...อยู่ๆ จะมา "จก welfare" ก็ดูกระไรอยู่นะคะ... ตอนนี้อเมริกาตัดอะไรได้ก็ตัด คนอเมริกันเป็นล้านๆ ที่ไม่มี healthcare insurance ซึ่งกำลังเป็นปัญหาที่รัฐบาลท่านโอบามาต้องแก้ไข...รัฐแคลิฟอร์เนียมีปัญหางบประมาณมาหลายปี...ตอนนี้ท่านอาโนลด์ก็สั่งหั่น "งบ" แหลกลาญเหมือนกัน...รวมไปถึงการให้ความช่วยเหลือ "illegal ผู้มีรายได้น้อย" ด้วย... คุณทำได้แค่ขอวีซ่าท่องเที่ยวมาอเมริกาเท่านั้นค่ะ...และถ้าได้วีซ่าและมาอเมริกาแล้ว ตม. อนุญาตให้คุณอยู่ได้ไม่เกิน 6 เดือนเท่านั้นนะคะ...เรื่องหางานทำไม่ต้องพูดถึงเลย...วีซ่าท่องเที่ยวทำงานไม่ได้...ยิ่งท้องด้วยใครจะรับทำงานคะ? ร้านไทยไม่รับแน่นอนค่ะ...ร้านฝรั่งไม่แน่แต่คุณจะต้องทำงานกับเขาก่อนที่จะท้องนะคะ...แต่คุณก็ทำงานกับร้านฝรั่งไม่ได้เพราะคุณถือวีซ่าท่องเที่ยว... ขอให้มองให้ไกลอีกนิดนะคะ...ถ้าคุณคลอดที่นี่แล้ว Immigration รู้ว่าคุณ overstay visa และส่งตัวคุณกลับไทย คุณจะทำอย่างไร? ถ้าต้องแยกแม่กับลูกน่ะ...เรื่อง "มนุษยธรรม" กับ "กฎหมาย" บางทีก็ต้องแยกแยะด้วยนะคะ... ค่าคลอดที่นี่...อย่าลืมคิดไปนะะคะว่าหากครรภ์ของคุณอยู่ในข่าย risky จะไหวไม๊?...ถ้าต้องควักกระเป๋าเอง ไม่มีประกัน ขอ Medicare ก็ไม่ได้...มีอะไรต้องคิดมากมายค่ะ มากกว่าแค่มาคลอดที่นี่นะคะ... สรุป - คลอดที่ไทยดีกว่าค่ะ... จากคุณ : bmw (BlackmagicW) - [ 4 มิ.ย. 52 00:01:14 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ยินดีสำหรับว่าที่คุณเเม่มือใหม่  อยู่ที่ไหนก็ไม่สบายใจเหมือนบ้านเราค่ะ ดิฉันเองเชียร์ให้คลอดที่เมืองไทย(ยกเว้นถ้าสามีคุณเป็นฝรั่งอยู่ที่นี่) สมัยนี้กับสมัยก่อน เปลี่ยนไปเเล้ว ใว้ให้ลูกโตขึ้น เขาคงหาหนทางมาเองใด้เเหละ มีเพื่อนที่ทำงานเพิ่งไปคลอดกลับมา เธอบอกฟรีค่ะ อิอิ ไม่ใด้กวนนะคะ เธอเป็นชาวอเมริกันผิวดำ ทำงานเป็นผู้มีรายใด้น้อย ไม่มีเเฟน(เธอคงจะหมายความว่าท้องไม่มีพ่อหรือเปล่าไม่ทราบ เธอบอกว่าเพื่อนชาย left เธอ  ) เเต่เอ..ไม่ทราบเหมือนกันว่า พวกเเมกซิกันเขาทำยังไง ทำใมเขาถึงมีลูก+มาคลอดที่นี่ใด้เป็นโขยงๆ เวลาไปวอลล์มาทร์หรือตามห้าง เห็นมากันเป็นหางเลย เเต่ไม่ลืมที่จะนึกว่า ที่เมกา หันซ้ายหันขวาก็เจอเเต่คนเเมกซิกัน เเถมภาษาพูดก็เป็นภาษาที่สองของที่นี่อีกด้วย ผิดกับคนไทย หันซ้ายหันขวาก็ไม่ค่อยเจอคนไทยด้วยกัน ถึงจะมีบ้างก็ต่างคนต่างอยู่ค่ะ เเก้ไขพิมพ์ผิด แก้ไขเมื่อ 04 มิ.ย. 52 00:50:59 จากคุณ : Quel - [ 4 มิ.ย. 52 00:38:03 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ดิฉันก็คิดว่าคุณเล่าไม่เคลียร์นะ ว่าญาติที่มี Green card น่ะ ใคร แม่แฟนคุณหรือเปล่า แล้วที่ว่าคุณพ่อเป็นโรบินฮู๊ดน่ะ พ่อใครคะ? ถ้าแม่แฟนคุณมีกรีนการ์ดก็ให้ไปสอบซิติเซ่นค่ะ ได้สัญญชาติแล้วค่อยขอกรีนการ์ดให้แฟนคุณและพ่วงคุณกับลูกคุณ ใช้เวลานานค่ะ แต่ไม่ทราบแน่นอนว่าเท่าไหร่ แต่ดูเหมือนคุณแม่แฟนแนะนำให้คุณขอวีซ่าท่องเที่ยวแล้วไปโดดวีซ่านะ เค้าเลยอยากให้ลูกคุณเป็นซิติเซ่น ถึงลูกคุณเป็นซิติเซ่น ก็ใช่ว่าจะทำให้คุณกับแฟนคุณเป็นซิติเซ่นไปด้วย และก็คงเหมือนคนอื่นๆ แนะนำและบอกค่ะ ถ้าคุณท้องอยู่แล้วไม่ได้ซื้อประกันไว้ตั้งแต่แรก ค่าหมอ ค่าคลอดไม่ใช่ถูกๆ ค่ะ เพราะคุณไม่ใช่พลเมืองเค้า หรือมี green card อยู่อย่างถูกกฎหมายค่ะ ไม่ได้มีประสบการ์ณเอง แต่สืบเสาะหาความรู้เรื่องนี้มาเยอะค่ะ จากคุณ : Mommy&Daddy - [ 4 มิ.ย. 52 01:06:59 ]

ความคิดเห็นที่ 10 Don't do it ka.  First of all, giving birth here is very expensive.  I had a c-section + 3 nights hospital stay ~ $25,000.   If something is wrong, it could cost a lot more.  My son had to stay in the hospital for 2 weeks ~ $78,000.   This does not count the prenatal care, ultrasound, etc na ka.   "เพียงแต่ทางเราแค่รู้สึกว่า มันไม่ดีนะ ถ้าจะไปอยู่บ้านญาติที่เค้าที่เราไม่เคยเจอหน้า แล้วไปงอมืองอเท้าอยู่เฉย ๆ ไปวัน ๆ แถมออกจะน่าเบื่อด้วยนะ เลยรู้สึกว่า ที่จริงแล้ว อยากไปหางานทำแล้วหาที่อยู่กันเอง ถ้าได้ก็น่าจะดีกว่าหนะคะ ให้ความรู้สึกที่ดีกว่ากันเยอะ"   This is very true ka and you are absolutely right.  Now, about a job (we don't even going to talk about getting a visa yet).  Americans got laid off left and right.  I work for a state government and is forced to take 10 days off without pay this year.  It's not going to be easy finding a job ka, even restaurant job. The legal way to find a job is to apply to the company directly.  If they accept and agree to sponsor the H1-B visa for you, then, you can apply for the H1-B visa.  BUT! This is a very difficult and complicated process which is too long to explain here.  Let's just say that it's VERY VERY VERY difficult unless you have a special skill that the company needs.  And even that, there is a quota for H1-B available each year.   From what you say- that you have your own restaurant, etc, I can tell you that your quality of life is much better here.  You have family that can support you, etc.  I'd stay in Thailand ka. Also, if your mother inlaw is willing to pay for your trip, wouldn't it better to save the money for your child's education?   แก้ไขเมื่อ 04 มิ.ย. 52 01:25:18 จากคุณ : earth after rain (earth after rain) - [ 4 มิ.ย. 52 01:09:52 ]

ความคิดเห็นที่ 11 คิดได้แต่ความเป็นจริงมันโหดร้ายกว่าที่คิด ปกติคนที่กลับเมืองไทยไปก็ไม่ค่อยยอมเล่าความจริงส่วนที่โหดร้ายเสียด้วย จากคุณ : VeryBadman...Begins - [ 4 มิ.ย. 52 01:39:14 A:128.242.106.124 X: TicketID:185387 ]

ความคิดเห็นที่ 12 อ่านแล้ว ยังไงๆ ก็ไม่คุ้มหรอกคะ - ถ้าค่าคลอดเป็นล้านที่จะต้องจ่ายเอง คลอดเมืองไทยไม่ดีกว่าเหรอ เงินที่เหลือเอาไปทำทุนอย่างอื่น - เรื่องวีซ่า คุณจะมาด้วยวีซ่าอะไร มีอยู่แค่ไม่กี่วีซ่าหรอกคะ -------วีซ่าทำงานก็ต้องมีคุณสมบัติครบถ้วนตามกรมแรงงานของเค้ากำหนด ที่ไม่สามารถจ้างคนในประเทศของเค้าได้ -------วีซ่าท่องเที่ยว ทำงานไม่ได้ ผิด กฎหมายแน่นอน -------วีซ่านักเรียน ก็ต้องเรียนคะ ห้ามทำงาน ทำงานในแคมปัสได้ อย่างมากสุดอาทิตย์ละ 20 ชั่วโมง - เรื่องทำงาน ใครจะจ้างหละคะ ถ้าไม่มีใบอนุญาตทำงานที่ถูกกฎหมาย ก็คงไม่พ้น ทำงานในร้านอาหารไทย เดี๋ยวนี้ต้องใช้เส้นด้วยนะ ขอบอก - โรงเรียนที่นี่ ไม่ใช่้ว่าจัดว่าดีเสมอไปนะคะ จะเอาโรงเรียนดี คุ็ณก็ต้องอาศัยในย่านที่ดีด้วย แล้วย่านที่ดี บ้านก็จะแพง ภาษีบ้านก็จะแพงตามไปอีกนะคะ ไม่งั้นก็ต้องส่ง Private School กันไปเลยและแพงเช่นกัน - เอ่อ ขายของในสวนสนุกนี่ ต้องเป็นพนักงานของสวนสนุกนะคะ ไม่ใช่นึกจะไปขายก็ไปนะ สรุปว่า คุณจะมาตั้งรกรากที่นี่ หรือแค่จะมาคลอดลูกคะ แก้ไขเมื่อ 04 มิ.ย. 52 02:22:41 จากคุณ : Scooterella - [ 4 มิ.ย. 52 02:10:12 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ความคิดความฝันของคนไม่เข้าใครออกใคร ไม่ว่าเขาว่าเราหละค่ะ ถ้ามีเงินก้อนโต ๆ เผื่อฉุกเฉิน ลองมาคลอดดูก่อนไหมละค่ะ คลอดแล้วไม่ไหวค่อยกลับเมืองไทย โดยส่วนตัวที่ตัดสินใจมีลูก ถ้าใหัลูกเกิดและเติบโตในสังคมของพวกขอเงินสงเคราะห์คงไม่เอาค่ะ ยกเว้นเสียจากจะมีเหตุการณ์ข้างหน้าเกิดขึ้นเช่นหย่ากับสามีอะไรประมาณนี้ ฐานะความเป็นอยู่อย่างคุณอยู่เมืองไทยสามารถเลี้ยงดูไปอย่างสบาย ๆ และส่งเสียเรียนโรงเรียนเอกชนดี ๆ มีหน้ามีตา แล้วจะให้เด็กมาอยู่ในสังคมของพวกมีรายได้น้อย คุณคิดถูกแล้วหรือ และอีกอย่างเรื่องความปลอดภัยในชุมชนก็ใช่จะดี ยังไงก็ลองมาดูก่อนก็ได้ ขอให้คุณโชคดี จากคุณ : เสียงซึง - [ 4 มิ.ย. 52 02:16:55 ]

ความคิดเห็นที่ 14 เชื่อคำเตือนของทุกๆ คนเถอะนะคะ  เราอยู่กันที่นี่รู้กันดีว่าอะไรเป็นอะไร  ที่บอกๆ กันไปด้วยความหวังดีล้วนๆ  ถ้ามาวีซ่าท่องเที่ยว  ไม่ได้คลอดลูกฟรีแน่นอน  เสียเงินชัวร์ๆ  งานหาไม่ได้ง่ายแม้แต่งานเสริ์ฟก็ไม่ง่ายอย่างที่คิดแน่นอนค่ะ  เชื่อเถอะค่ะ  คุณมีชีวิตที่ดีในระดับหนึ่งแล้วค่ะ จากคุณ : สร้อยสายรุ้ง - [ 4 มิ.ย. 52 03:11:32 ]

ความคิดเห็นที่ 15 คุณพ่อคุณเคยเป็นโรบินฮู้ดเมกา เขาสนับสนุนหรือห้ามคุณคะ? อันนี้ถามเพราะสงสัยเฉยๆ ไม่ได้ประชดนะ อย่าเข้าใจผิด เดี๋ยวนี้อเมริกาไม่ใช่สวรรค์ของนักขุดทองเเล้วค่ะ ได้ยินข่าวหรือเปล่า ขนาดซิติเซ่นเองเเท้ๆ ก็ยังตกงานกันโครมๆ หัวหน้าครอบครัวเครียด ฆ่าลูกเมียเเล้วฆ่าตัวตายตามก็หลายบ้าน ขนาดอเมริกันแท้ๆตั้งเเต่เกิดนะนั่น ยังทนอยู่ไม่ได้ เก็บเงินไว้ รอลูกโตส่งเขามาเรียนอเมริกา ถึงป่านนั้นเศรษฐกิจหรืออะไรก็น่าจะดีขึ้นแล้ว เผื่อลูกโชคดีเรียนจบหางานทำที่นั่นได้ ก็จะค่อยๆกลายเป็นพลเมืองของที่นั่นตามขั้นตอนเป็นลำดับเอง ทำอะไรใจเย็นๆมองไกลๆค่ะ อย่าผลีผลาม บางเรื่องเสียแล้วแก้ไม่ได้ ที่พี่ๆข้างบนเขาเตือนกันมา ไม่ใช่สกัดดาวรุ่งนะ เเต่คนที่อยู่มาก่อนโดยเฉพาะสถานการณ์ประเทศตอนนี้ ย่อมรู้ดีว่าอะไรเป็นอะไร สงสารตัวเล็กนะ อย่าพาเขามาลำบากลำบนเลย จากคุณ : Jennifer Lowclass - [ 4 มิ.ย. 52 06:49:44 ]

ความคิดเห็นที่ 16 -*- คุณ จขกท คิดดีๆ นะคะ เรื่องการมาคลอดลูกที่นี่ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ ถ้าคุณคิดว่าคุณจะคลอดลูกที่เมกาจริง กรุณาเตรียมเงินสดในมือที่พร้อมจ่าย 5 หมื่นเหรียญไว้เลยค่ะ การที่คุณอุ้มท้องมาอยู่ overstay เพื่อจะคลอดลูก ไม่ใช่เรื่องง่ายนะคะ แล้วการที่แม่สามีบอกว่าจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายให้เนี่ย ไม่ทราบว่าท่านมีเงินสดซัก 1 แสนเหรียญโอนให้คุณเลยได้หรือเปล่า ถ้ามีเงินมากขนาดนั้น แล้วค่อยว่ากัน อย่าเอาอนาคตของครอบครัวไปฝากไว้กับลมปากใครเลยค่ะ ไม่อยากให้มองแม่สามีในแง่ร้ายนะคะ แต่อยากให้คิดให้รอบคอบ เตรียมตัวรับเหตุการณ์ที่จะเกิดได้ขึ้นได้ในทุกๆ แง่ เราเองอยู่นี่แบบถูกกม. (วีซ่าผู้ติดตาม) ไม่ว่าเพื่อนฝูง คนรู้จัก (เว้นแต่ครอบครัว) ต่างก็บอกว่าให้มีลูกเลย ลูกจะได้ซิติเซ่น เรายังคิดว่าไม่น่ามีเลย ถ้าเราไม่พร้อมจริงๆ ส่วนตัวคุณต้องทิ้งสิ่งต่างๆ มากมายจากเมืองไทย เพื่อมาอยู่อย่างผิด กม. แล้วมาเสี่ยงกับปัญหาต่างๆ อีก มันจะคุ้มกันเหรอคะ ??? จากคุณ : Living Extreme - [ 4 มิ.ย. 52 06:51:53 ]

ความคิดเห็นที่ 17 You seem to have a pretty stable/secure job in Thailand. I don't see why you would want to leave that and come "take a risk" in the US. Don't buy into the "good welfare" thing. It's not always true. Plus, if you have money, Thailand can provide care that matches that of any country in the world. You don't need to come to the US to get a better care. As far as US citizenship is concerned, you should ask yourself why you feel you need to have that for your child. US citizenship is not all that. Don't be brainwashed by some people who think the greates thing in life is to have the US citizenship. That is just not true. Life in the US is difficult, especially if you are lower middle class or working class. There are areas that I wouldn't want even my worst enemies to live in. You are not desperate. Don't abandon everything you have to just come to the US. It wouldn't be worth it in my opinion. จากคุณ : Rennis - [ 4 มิ.ย. 52 06:58:00 ]

ความคิดเห็นที่ 18 เข้ามาเพิ่มเติมอีกนิด ความเห็นข้างบนทั้งหมดอ่านแล้วดูเหมือนว่ากีดกันคนไทยด้วยกัน ที่จริงแล้วในมุมอับของสังคมเมกันเขาไม่พูดถึงอีกเยอะ ตัวเองอยู่ในจุดที่ว่ามองเห็นทั้งสูงและต่ำ คนทีี่มีรายได้ดีพูดตรงๆก็๋คนรวยนั้นแหละเขาเลือกที่อยู่ในชุมชนที่ดี ปลอดภัยสูงโจรขโมย หรือพวกเสพยาไม่ค่อยมี ส่วนพวกรายได้น้อยและยิ่งอาศัยสงเคราะห์ด้วย คุณเอ๊ย ขับรถผ่านกลางวันแสก ๆ ยังน่ากลัวเลย มีคนจากทุกประเทศแหละค่ะที่หนีร้อนมาพึ่งเย็น แต่เพื่อนเรา(ที่โบสถ์)เป็นคนขาว สามีเสียชีวิต เบิกเงินโซเชียลของสามีได้ประมาณ500 เหรียญ เราเลยแนะนำทำไมยูไม่ขอสงเคราะห์หรือพวกอาหารฟรีหละ เธอส่ายหน้าประมาณว่ากลัวเสียหน้า กลัวคนดูถูกว่าจน จริง ๆ แล้วอิชั้นไม่ค่อยตอบกระทู้นะค๊ะ แต่กรณีของคุณอิชั้นสงสารเด็กตาดำ ๆ ที่จะเกิดมาและเติบโตในสังคมที่ด้อยกว่าฐานะของคุณที่อยู่เมืองไทย ิอีกอย่างโรงเรียนของรัฐบางแห่งใช่จะมีคุณภาพเสมอไป ถ้าดีหน่อยก็ต้องเข้าเอกชน มีอีกทางเลือกหนึ่งคือลองให้แฟนคุณไปทำงานที่เมกาคนเดียวดูก่อนดีไหมถ้าโอเค มีงานทำ มีรายได้พอจะเจือจุนครอบครัวได้ ก็ค่อยอพยพกันไปก็ได้ พูดมามีแต่สิ่งที่ไม่ดี แล้วทำไมยังอยู่กันหละ คงอาจเป็นคำถามของคุณเจ้าของกระทู้ ส่วนตัวแล้วอยู่ที่เมกาได้แบบสบาย ๆ ไม่เดือดร้อน และที่เมืองไทยไม่มีธุระกิจอะไร มีแต่สมบัติเก่าที่ดินที่พ่อแม่ยกให้ ก็ไม่ต้องไปบริหารอะไรเลย ยังถ้าจะไปจริง ๆ ขอให้คุณโชคดีและแม่สามีคุณรักคุณและลูกของคุณมาก ๆ ด้วยนะคะ จากคุณ : เสียงซึง - [ 4 มิ.ย. 52 07:57:59 ]

ความคิดเห็นที่ 19 อย่ามาเลยค่ะ อยู่บ้านเรานะดีที่สุดแล้ว รายละเอียดที่ทุกความคิดเห็นเรืองจริงทั้งนั้นเลยค่ะ เราเองถ้าเลือกได้ก็อยากจะกลับไปอยู่บ้าน แต่ตอนนี้สามีบอกว่าขอเก็บเงินก่อน สัก 5 ปีเป็นอย่้างน้อย ก็ต้องตามเขาไปเพราะบ้านเกิดเขา เราเป็นผู้อาศัย ส่วนงานร้านอาหารที่นี่ไม่ง่ายนะค่ะ อะไรต่างๆไม่ง่ายอย่างที่คิดค่ะ จากคุณ : Oathpp - [ 4 มิ.ย. 52 08:17:48 ]

ความคิดเห็นที่ 20 อ่านตั้งเเต่คคห.1ถึง18 ทุกคนเขียนเเนะนำดีมากค่ะ คุณภาพชีวิตคุณที่เมืองไทยถือว่าดีเเล้วนะคะ จะมาดิ้นรนให้เหนื่อยทำไมที่เมืองนอก มาที่นี่ต้องเริ่ม0หมด เเม้จะไม่ใช่อเมริกา เต่คงไม่เเตกต่างกันมาก ลำบากพอสมควร สวัสดิการอะไรที่เขามีให้ขอหมดค่ะ เเฮ่ เพราะจนค่ะ ทำไมไม่กลับไทย อยู่เมืองไทยก็จน ทรัพย์สมบัติก็ไม่มี ก็เลยตัดสินใจอยู่ที่นี่ งานที่ทำได้ ค่าเเรงขั้นต่ำ บอกเลยว่าไม่พอใช้ค่ะ ยิ่งมีลูกด้วย เรื่องเงินเก็บเเทบจะไม่มี เเต่ก็ขอสู้ตายค่ะ ชีวิตนี้ฉันเลือกเอง 555หัวเราะทั้งน้ำตา -_-! เเต่ของคุณอาจจะดีกว่าเราตรงที่มีประสบการณ์ด้านร้านอาหาร ลองไปเปิดร้านที่โน่นอาจจะรุ่งก็ได้ค่ะ ถ้าชีวิตชอบเสี่ยงก็น่าลองนะคะ จากคุณ : Hana* - [ 4 มิ.ย. 52 08:47:02 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ล้านคำพูดก็คงไม่เทียบเท่าได้เห็นกับตา ถ้าอยากมาจริงๆ ก็มาเถอะ จะได้รู้จะได้เห็น ว่าเรื่องจริงนั้นเป็นเช่นไร เริ่มด้วยมาเที่ยวก่อนละกัน จากนั้นก็ลองคิดดูว่าชอบใหม ส่วนตัวผมเองไม่เห็นว่า ที่อเมริกา จะน่าอยู่กว่าเมืองไทยตรงใหนเลยครับ จากคุณ : jira - [ 4 มิ.ย. 52 09:17:02 A:203.107.199.198 X: TicketID:206528 ]

ความคิดเห็นที่ 22 จริงอย่างคุรข้างบนบอกนะ ถ้าเเม่สามีบอกจจัดการให้หมด ลองให้เขากองเงินมาให้คุณก่อน เเสนเหรียญ ไว้เป็นค่าคลอด ค่ากินใช้ ค่าหาหมอเมื่อลุกเกิดมา  ค่าประกันสุขภาพในช่วงต้น เพราะซื้อประกันเองทั้งครอบครัว เกินพันแล้วมั้ง ค่ากินอยู่ เขามีให้ถึงค่อยคิดเถอะค่ะ จากคุณ : mrs.night owl - [ 4 มิ.ย. 52 10:41:34 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ขอบคุณทุกคำตอบคะ เป็นประโยชน์อย่างแรง มีบางอันที่ไม่ได้ตอบเป็นเฉพาะนะคะ เพราะว่าตอบไปก็จะเดิม ๆ เดี๋ยวจะอันกันเมื่อย คุณคนไทย ในอเมริกา : ขอบคุณคะที่ให้ไอเดียคร่าว ๆ คุณมินนาโน : อันนี้ข้อมูลก็เป็นประโยชน์ ทำให้เห็นตัวเลขกลม ๆ ชัดเจนขึ้นมาอีก ขอบคุณคะ ส่วนเรื่องวีซ่าเห็นคุณแม่(แฟน)เค้าบอกว่าข้ามประเทศต่อวีซ่าเอาได้ ตัวเราเองก็ไม่แน่ใจคะ ว่ามันทำอย่างนั้นได้จริงรึเปล่า???? ง๊งงง!!! ส่วนเรื่องญาติที่มีกรีนการ์ดคงตัดออกไปเลย เพราะว่ากะว่าถ้าไม่ได้มีปัญหาอะไร ก็ไม่อยากจะไปรบกวนญาติที่เราไม่เคยเจอหน้าเค้ามาก่อน เกรงใจคะ เค้าอาจจะสนิทกับแม่แฟนก็ได้ แต่ไม่สนิทกับเรา เราก็รู้สึกแปลก ๆ เนอะ.... ส่วนเรื่อง blacklist 10 ปี เพราะโดนข้อหา over stay เนี่ย พอจะเข้าใจเลยคะ เพราะคุณพ่อโดนไปแล้ว 55555 แต่เค้าก็ไม่ได้มีความคิดจะกลับไปละคะ เพราะมีลูกมีเมียอยู่เมืองไทยซะแล้ว อิอิ คุณหมูหันตัวอ้วนกลม : แฟนจขกทก็เป็นคนไทยคะ แต่เรื่องถ้าเกิดมีปัญหากับแม่สามีขึ้นมาเนี่ย เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้แต่เราไม่เคยคิดถึงเลยนะเนี่ย....>_<” ไม่ควรมองข้ามด้วย เตือนสติจขกทได้อย่างแรงเลยค่า คุณShindo_Hikaru : ใคร ๆ ก็ว่าอย่างนั้นคะ แต่ถ้าจะเถียงแม่สามีซะอย่างเดียว เดี๋ยวเค้าจะหาว่าเรา แอนตี้ความคิดเค้า ก็เลยพยายามหาข้อมูลสองด้านคะ จะได้ไปพูดกับเค้าถูก กะว่าจะให้เค้าฟังแล้วไปคิดเอาเองว่ามันไม่คุ้มค่าคะ คุณbmw (BlackmagicW) : เรื่อง welfare ดีกว่า ต้องขอบอกจริง ๆ ว่าไม่ทราบว่าแม่สามีไปเอามาจากใครเหมือนกันคะ เป็นไปได้ว่าเค้าอาจจะไปได้ข้อมูลที่นานมาแล้วรึเปล่าอันนี้ก็ไม่แน่ใจ เดี๋ยวจะไปถามเค้าดูอีกทีตอนคุยกันอีกรอบคะ ส่วนข้อมูลที่เหลือ ก็เป็นประโยชน์เหมือนกันคะ แถมมีข้อสรุปให้ด้วย ขอบคุณค่า คุณ Quel : จริงคะ อยู่ที่ไหนก็ไม่สบายใจเหมือนอยู่บ้านเราคะ เพราะตัวเราเองไม่เคยออกต่างประเทศเลย (ไม่นับตลาดพม่าที่ข้ามไปแป๊บเดียวอะนะ 555) ก็เลยยังมีเรื่องให้ห่วงเย๊อะ เยอะ ถ้าจะไปปักหลักที่นู่น......ส่วนพวกแมกซิกันที่คุณว่า เค้าอาจจะไม่ใช่ generation แรกคะ อาจจะเป็นรุ่นลูกรุ่นหลานที่ใช้ชีวิตปักหลักอยู่ในนั้นจนเป็นคนที่นั่น มีอาชีพการงานตามปกติแล้วก็ได้มั๊งคะ (เดาเอานะ) คุณMommy&Daddy : ญาติที่มี Green Card นี่น่าจะเป็นพี่น้องกับแม่สามีอีกทีคะอันนี้เค้าไม่ได้บอกมาจริง ๆ คะ ส่วนพ่อที่เป็นRobinhood เป็นพ่อหนูเองคะไม่ใช่พ่อแฟน ส่วนเรื่องพ่วงcitizenนี่ข้ามไปได้เลยคะ เพราะว่าญาติที่มีGreen card ไม่ได้เป็นญาติทางสายเลือดที่ใกล้ชิดขนาดนั้นคะ แบบที่บอกเป็นพี่น้องกับแม่สามีอีกทีคะ ยังไงก็ขอบคุณค่า คุณ earth after rain : Thank you very much.  That helps a lot.  With all information I gathered here, I figure out “no” would be a wonderful answer to my mom-in-law’s question of giving birth in America.  I guess now I have to “think” how should I tell her.  It’s easy to bring up a question here and get you all co-operate, giving me answers in various ways.  It’s not that easy to make my mom-in-law understand that I’ve tried to go along with her idea but it just doesn’t work >_<” Ps. I, once, said something about better save for the child’s education.  She was saying something like “หลานแม่คนเดียว แม่เลี้ยงได้ เธอไม่ต้องมาห่วงเรื่องนี้” Arghhhhhh!!!! คุณScooterella : เรื่องวีซ่าสงสัยถ้าไม่เป็นทำงานก็คงจะต้องเป็นท่องเที่ยวละคะ คงไม่เป็นวีซ่านักเรียน เพราะว่ามีแต่จะต้องจ่ายกับจ่ายเพิ่ม ที่คิดจะหางานทำก็เพราะไม่อยากไปอยู่เฉย ๆ ประมาณว่าอยู่เมืองไทยชีวิตยุ่งเหมือนกันน๊า....ทำนู่นทำนี่ทุกวัน ร้านอาหารที่ทำอยู่ก็เปิดทุกวัน แล้วยังมีอาชีพเสริมอีก ถ้าอยู่ดี ๆ จะต้องไปอยู่ต่างประเทศ แล้วไปอยู่เฉย ๆ ท่าจะเฉาตายแน่นอน เลยคิดว่าหาอะไรทำดีกว่าคะ ไม่อยากเป็นภาระคนอื่นเค้า ส่วนเรื่องตั้งรกรากหรือแค่มาคลอดลูกเนี่ย คิดว่าเบื้องต้น แม่สามีเค้าคงอยากจะให้มาคลอดที่นี่นะคะ แต่จะมาตั้งรกรากรึเปล่าเนี่ย ไม่ได้ขึ้นอยู่กับเราเลยน๊า......แต่เค้ามีพูดถึงว่า พอลูกโตนิดนึงแล้วอยากกลับเมืองไทย ก็บินกลับมาเรื่อย ๆ ก็ได้ หนูก็งงกับเค้าเหมือนกันนนนน โอยยยย งง คุณเสียงซึง : อืม....ถูกของคุณคะ ก็ต้องเลือกว่าจะเป็นหัวหมาหรือว่าจะเป็นหางสิงโตเน๊อะ.... ส่วนเรื่องไปดูก่อนถ้าไม่ไหวก็กลับเนี่ย น่าจะประมาณว่าเป็นการเจอกันครึ่งทางกับความคิดของแม่แฟนนะคะ ก็เป็นอีกไอเดียนึง คุณสร้อยสายรุ้ง : ค่า...คิดอยู่ว่ารึเราไม่ต้องพูดอะไร แต่ปริ๊นท์หน้านี้ให้เค้าไปศึกษาดูเอาเอง 5555 ได้ใจกว่าเยอะ อิอิ คุณJennifer Lowclass : ยังไม่ได้ปรึกษาคุณพ่อเลยคะ เพราะว่าคิดว่าจะเข้ามาหาข้อมูลในนี้ไปคุยกับทางแม่สามีด้วยตัวเองก่อนนะคะ ถ้าไม่มีความจำเป็นก็ไม่อยากให้ผู้ใหญ่เค้ารู้สึกไม่ดีต่อกัน (กลัวว่าถ้าเกิดความเห็นไม่ตรงกันขึ้นมานะ) อีกอย่าง เข้าใจทุก ๆ คำตอบที่ตอบเข้ามาข้างบนเลยคะ บางคนเค้าเห็นอะไรมาเยอะ ตอนแรกที่มาโพสต์ทำใจไว้ว่าถ้ามีคนมาด่าแรง ๆ ประมาณว่าเป็นพวกเห็นแก่ได้ คิดอะไรโง่ ๆ ก็คงไม่โกรธ เพราะไม่มีข้อมูลด้านนี้จริง ๆ แล้วเหมือนมีไอเดียนี้โผล่ขึ้นมาจากทางแม่แฟน ก็เลยต้องรีบหาข้อมูลไว้ไปคุยกับเค้าคะ เวลาเค้าถามอะไรขึ้นมา อย่างน้อยเราก็อ้างข้อมูลที่เราได้มาจากในนี้ขึ้นมาได้ ไม่ใช่เค้าถามอะไรก็ไม่ทราบอย่างเดียว ไม่ดีม๊างงงง หึ หึ หึ ปล. รู้สึกเหมือนกันว่า ถ้ามันลำบากมากนะ ก็ไม่อยากจะทรมานลูกเหมือนกัน คุณLiving Extreme : ถ้าให้เดาก็คิดว่าแม่สามีน่าจะมีเงินสด และ ที่เป็นสังหา และ อสังหาริมทรัพย์อยู่พอสมควรเลยคะ ประมาณว่าพ่อเค้าขยันทำกินด้วย รวยมรดกด้วยอย่างนั้นคะ พูดเยอะเดี๋ยวจะกลายเป็นมานั่งวิจารณ์แม่สามีนะ ข้ามไปก่อน อิอิ (เค้าไม่ได้เป็นคนเลวร้ายอะไรนะ จริงจริ๊ง) ส่วนคุ้มไม่คุ้ม ตัวเราคิดถึงลูกว่าถ้าต้องเดินทางไป ๆ มา ๆ ย้ายโรงเรียนย้ายไปย้ายมาเนี่ยไม่ดีแน่ แต่เรื่องค่าใช้จ่าย เดี๋ยวคงต้องให้แม่สามีไปคิดเอง หึ หึ หึ (แล้วจะหนาวววว) คุณRennis : Thank you for your opinion.  I like what you said, “Don't be brainwashed by some people who think the greatest thing in life is to have the US citizenship”.   “There are areas that I wouldn't want even my worst enemies to live in“.  This make an idea of making my mom-in-law watch CSI, that must give her a better view of America.  She would see America from another point of view. &#61514; คุณเสียงซึง (อีกรอบคะ) : ความคิดที่ว่าให้แฟนไปทำดูก่อน ถ้ามันดีจริงแล้วค่อยยกโขยงตามไปก็เป็นความคิดที่ดีเหมือนกันคะ จดไว้ ๆ ไปคุยต่อ อิอิ ขอบคุณนะคะ จากคุณ : cutestmei (mangek) - [ 4 มิ.ย. 52 11:48:13 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ส่วนเรื่องวีซ่าเห็นคุณแม่(แฟน)เค้าบอกว่าข้ามประเทศต่อวีซ่าเอาได้ ตัวเราเองก็ไม่แน่ใจคะ ว่ามันทำอย่างนั้นได้จริงรึเปล่า ตอบ คุณ จขกท นะคะ ว่า ไม่จริงค่ะ แม่แฟนนี่ข้อมูลคลาดเคลื่อนไปเยอะมาก จนเกือบโกหกเลยนะคะ จากคุณ : mrs.night owl - [ 4 มิ.ย. 52 12:50:15 ]

ความคิดเห็นที่ 25 Khun mangek, I'm glad that you find the information useful ka.  You are smart to research facts before go talk to your mother-in-law.  I think her knowledge is pretty out of date.  For an example "ส่วนเรื่องวีซ่าเห็นคุณแม่(แฟน)เค้าบอกว่าข้ามประเทศต่อวีซ่าเอาได้" is no longer true ka.  It was 30 years ago, but right now, you can't.   If your mother-in-law has a lot of money, another visa that you can considered is an investor visa (EB-5).  You must have $1,000,000 to invest and will hire 10 Americans for the business.  Again, if I have that much money, I will stay in Thailand and send my children to nice private school, go travel aboard every year and hire a maid and a nanny!!   I think we all want the best for our children.  Your mother-in-law wants what she thinks is the best for her grandchild.  I hope you can explain to her that it's not easy and the benefit is not worth the sacrifice.   Good luck ka! จากคุณ : earth after rain (earth after rain) - [ 4 มิ.ย. 52 13:20:38 ]

ความคิดเห็นที่ 26 คุณ จขกท ค่ะ ดีแล้วที่คุณเข้ามาตั้งกระทู้ถามเพื่อนที่เขามีประสบการณ์จริง ๆ ก่อนที่คุณจะตัดสินใจ เราเองก็อาศัยอ่านความเห็นของเพื่อน ๆ เพื่อหาความรู้เหมือนกัน ขอถามหน่อยนะคะว่ามันจะคุ้มหรือ ที่คุณเลือกที่จะทิ้งกิจการร้านอาหารที่เมืองไทย (ร้านจะเล็กจะใหญ่ มันก็เป็นของคุณเอง) แล้วไปเป็นพนักงานเสริ์ฟหรือขายอาหารตามสวนสนุก คุณไม่ใช่เด็ก ๆ ที่ไปทำงานแบบ Work and Travel กินง่ายอยู่ง่าย แต่คุณกำลังจะเป็นคุณแม่ในอีกหกเจ็ดเดือนข้างหน้า อยากให้คิดถึงเรื่องค่าใช้จ่ายที่เป็นเรื่องจริงที่ต้องเกิด อย่าไปมองแต่เรื่องสวัสดิการของเขาอย่างเดียวค่ะ มันดีก็จริง แต่ก็ต้องทำงานหนัก แค่เรื่องขอวีซ่าเดินทางไปก็ยากแล้วค่ะ พอไปถึงไหนจะเรื่องหางานอีก แล้วถ้าไม่ได้ คุณแม่สามีจะช่วยได้นานแค่ไหน คิดถึงหลักความจริงดีกว่าค่ะ จากคุณ : วันนี้วันพฤหัส - [ 4 มิ.ย. 52 16:08:25 A:202.129.41.250 X: TicketID:207707 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ส่วนเรื่องวีซ่าเห็นคุณแม่(แฟน)เค้าบอกว่าข้ามประเทศต่อวีซ่าเอาได้ ตัวเราเองก็ไม่แน่ใจคะ ว่ามันทำอย่างนั้นได้จริงรึเปล่า ตอบว่าไม่จริงค่ะ คุณต้องออกนอกประเทศเค้าไปหกเดือนก่อน ถึงจมีสิทธิ์กลับเข้าไปใหม่ได้ ทีนี้ เวลากลับเข้าไปแล้ว ตม. ก้อมีสิทธิ์ ไม่ให้คุณเข้าประเทศได้ค่ะ ไอ้เรื่องไปต่อวีซ่าประเทศเพื่อนบ้านนี่ อิฉันว่า เป็นเมืองไทยซะมากกว่านะคะ จากคุณ : letsgokrabi - [ 4 มิ.ย. 52 17:05:52 ]

ความคิดเห็นที่ 28 คุณ mrs.night owl และ คุณletsgokrabi : ขอบคุณข้อมูลเรื่องต่อวีซ่าคะ คิดว่าจะต้องทำการบ้านเรื่องว่าทำไมมันถึงข้ามประเทศไปต่อไม่ได้อีกนิดนึง กะว่าจะไปเช็คจะเว็บหน่วยงานราชการอีกทีคะ คงต้องมีข้อมูลประมาณนั้นไปยันเค้าถึงจะเชื่อหนะคะ เพราะเค้าค่อนข้างจะมั่นใจในข้อมูลเค้านะ >_<" คุณ earth after rain : an outdated information really got me since I don't know anything about the visa thing -_-".  Investor Visa (EB-5)?  I don't think I would make any good of wasting that much money on a piece of Visa.  The latter idea sounds much better.  With that much money, I guess I could create a good American environment for my little child in Thailand, LOL :) คุณวันนี้วันพฤหัส : ถ้ามันดี และ ได้ง่ายจริงก็คงคุ้มแหละคะ แต่ข้อมูลที่ได้จากในนี้ ก็บ่งชี้ชัดแล้วว่า ไม่คุ้มค่าเลย.....ตอนนี้คงต้องคิดว่าจะ "convince" ให้คุณแม่สามีที่รักเข้าใจยังไงโดยไม่ต้องแตกร้าวกัน ว๊า.... คุณletsgokrabi : ฟังคุณแล้วเริ่มรู้สึกว่า คุณแม่แฟนเค้าไปฟังข้อมูลสับสนกับต่อวีซ่าแรงงานต่างด้าวรึเปล่าเนี่ย.....ชักเครียด 555 ขอบคุณทุกท่านที่เอาใจใส่ให้ข้อมูลด้วยดีนะคะ อัพเดทให้นิดนึงละกัน วันนี้มีโอกาสได้คุยโทรศัพท์กับแม่สามีก็แย็บ ๆ ถามแกว่า ใครเป็นคนให้ข้อมูลแกมา เรามีเรืองจะถามอีกตั้งหลายเรื่อง โทรไปถามโดยตรงจะรบกวนรึเปล่า (ไม่กล้าบอกแกตามตรงนะ ว่าข้อมูลแกมาแบบผิดเพี้ยนไปพอสมควรเลย) แกตอบมาว่า แกได้ข้อมูลมาจากเพื่อน ๆ แกหลาย ๆ คน ถามจากแกเนี่ยแหละ อยากรู้อะไรเดี๋ยวแกไปถามเพื่อนให้ แล้วก็พยายามถามว่ามีคำถามอะไรอีก ถ้าแกรู้แกจะตอบให้เดี๋ยวนั้นเลย ถ้าไม่รู้แกจะลองถามเพื่อน ๆ ดูให้................ ไม่รู้จะเถียงแกยังไงดี แต่วันนี้เลยบอกแกว่า เดี๋ยวขอไปเรียบเรียงคำถามก่อน เดี๋ยวอีกวันสองวันจะไปถามแกทีเดียว จะได้ไม่ต้องถามหลายรอบ (นี่คืออยู่บ้านเดียวกันนะ แต่ต้องรวบรวมความกล้าและข้อมูลก่อนไปคุยกับแก เวลาเจอกันก็คุยเรื่องอื่น พยายามไม่ดึงเข้าเรื่องนี้ กลั๊วววว กลัว หึหึ) เรื่องของเรื่องคือแกยอมรับเรานะ พูดคุยเล่นกับเราได้ดีด้วยซ้ำ เห่อหลานด้วย ขนาดเพิ่งท้องไม่กี่เดือน ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมแกถึงได้พยายามผลักดันด้านนี้มาก ๆ พยายามคิดอยู่เหมือนกันว่า แกอาจจะมีเหตุผลอะไรที่ไม่ได้บอกเราอีกรึเปล่าน๊า......... ไว้คุยได้ยังไงจะมาอัพเดทให้ฟังอีกทีนะคะ ยังไงต้องขอบคุณทุก ๆ คำตอบมาก ๆ ด้วยคะ จากคุณ : cutestmei (mangek) - [ 4 มิ.ย. 52 20:56:03 ]

ความคิดเห็นที่ 29 เราว่าแม่สามีคุณก็คงได้ยินมาอีกทีมากกว่า เรื่องพวกนี้เราก็เคยได้ยิน แต่รู้ว่าไม่มีอะไรง่ายขนาดนั้น แล้วเราเห็นด้วยกับคุณอย่างยิ่งที่ไม่คิดจะพึ่งคนอื่น จะไปเมืองนอกทั้งทีต้องไปยืมจมูกคนอื่นหายใจอีก แล้วอย่างคุณพ่อ แม่ พี่ น้องก็อยู่นี่ ถ้าไม่ใช่เป็นความใฝ่ฝันส่วนตัวว่าอยากไปแล้ว แต่เป็นความฝันของคนอื่น ความต้องการของคนอื่นเราว่าฟังไว้ผ่านๆก็พอค่ะ ถ้าจะไปเกิดเมืองนอกแค่เอาซิติเซ่น เก็บตังค์ไว้ค่อยส่งมาเรียนตอนโตก็ได้ หรือไม่สิ้นปีนี้ก็ลองสมัครกรีนการ์ดลอตโต้ดูสิคะ ได้ก็ได้ยกครอบครัว ถูกกม.ด้วย แล้วเอาตังค์ที่แม่สามีจะให้เป็นค่าคลอดลูกมาเป็นตังค์ตั้งตัวดีกว่า ถ้าเค้าอยากมาเยี่ยมหลานก็บินมาจิ แต่ไม่เข้าใจแม่สามีก็ท่าทางจะตังค์เยอะทำไมคิดอะไรง่ายจัง สมัยนี้มันไม่เหมือนสมัยก่อนแล้ว เพื่อนเราที่เป็นเมกันคนนึงบอกว่าสมัยครอบครัวเค้ามาเมกาไม่เห็นจะต้องมีวีซ่าอะไรเลย แค่มาขึ้นเรือตรงเวลาก็เรียบร้อยแล้ว 55 จากคุณ : หนูฟั่นเฟือน - [ 4 มิ.ย. 52 23:55:12 ]

ความคิดเห็นที่ 30 แล้วจะหางานได้เหรอ................ จากคุณ : WATTHAI - [ 6 มิ.ย. 52 05:52:57 ]