ความคิดเห็นที่ 1 เล็ง ที่เดียวกันกับเราเลยอ่ะ เราก็เล็ง 2 U นี่อยู่พอดี เลย ยังไง ถ้าไปแล้ว ขอคำปรึกษาบ้างนะคะ จากคุณ : เด็กหญิงมะปรางหวาน - [ 16 มิ.ย. 52 15:36:20 ]

ความคิดเห็นที่ 2 อยากช่วยตอบ แต่ไม่รู้จะถูกใจเจ้าของกระทู้มั้ยนะคะ ปกติเวลาเลือกมหาวิทยาลัย เราไม่ได้ดูแค่ดังไม่ดังน่ะค่ะ แต่ดูว่าสาขาไหนดัง มีโปรเฟสเซอร์คนไหนดังๆด้านไหนบ้าง แล้วเราสนใจจะเรียนด้านไหน เพราะป.โทขึ้นไป ชีวิตจะผูกติดกับโปรเฟสเซอร์เลยค่ะ ดังนั้นเราเลือกมหาวิทยาลัยเพราะโปรเฟสเซอร์ค่ะ ไม่ได้ดูแค่ชื่อเสียงมหาวิทยาลัยเท่านั้น และเอ็มบีเอที่นี่ต้องทำทีสิสเป็นเรื่องเป็นราวนะคะไม่เหมือนประเทศอื่น เพราะเป็นกฎจากมอนบุโช ต่างจากประเทศอื่น เมื่อเดือนก่อนได้มีโอกาสร่วมงานที่ต้องพูดคุยกับนักเรียนเอ็มบีเอจากอเมริกา๕เค้ามาทัศนศึกษาที่แคมปัสน่ะค่ะ )  เค้าบอกว่าทีสิสเขียนกันแค่สิบห้าหน้า แต่ที่มหาลัยเราเฉลี่ยเจ็ดสิบหน้าขึ้นไปค่ะ ดังนั้นโปรเฟสเซอร์สำคัญมากที่จะช่วยงานวิจัยเราให้ลุล่วงไปได้ จุดประสงค์คือมาเรียนแบบภาษาอังกฤษใช่มั้ยคะ ดังนั้นตอนเรียนจบถ้าจะหางานอาจจะยากตรงที่ว่า คู่แข่งได้ภาษาญี่ปุ่น คุณอาจจะหางานได้ในตลาดที่แคบลง หรือเน้นบริษัทต่างชาติ เพราะเอ็มบีเอใช้ทั้งอังกฤษและญี่ปุ่นนะคะ ยิ่งได้ญี่ปุ่นคุณยิ่งได้เปรียบ และสำหรับที่นี่ ไม่ได้ให้ความสำคัญกับวุฒิเอ็มบีเอเท่าไหร่ ( หมายถึงบริษัทญี่ปุ่น ) อันนี้ประสบการ์ณตรงค่ะ กำลังมองหางานอยู่เหมือนกัน ดังนั้นคุณต้องมีจุดเด่นด้านอื่น เพื่อจะได้เป็นผู้สมัครที่น่าสนใจนะคะ สุดท้ายที่อยากจะบอกนะคะ พอดีตอนนี้ทำวิทยานิพนธ์อยู่ เลยได้รู้ข้อมูลว่าคนญี่ปุ่นไม่ได้ให้ความสำคัญกับสถานศึกษามากไปกว่าผลงานค่ะ เรียกว่าseikashugi กันจริงๆ ซึ่งมันต่างจากที่เมืองไทยมากๆ ถึงจบที่ดังๆมา แต่ทำงานไม่ได้ ก็ไม่มีประโยชน์ค่ะ อันนี้เพิ่งไปสัมภาษณ์ผู้บริหารมาเมื่อต้นเดือนนี่เอง ฟังแล้วอึ้งไปเลย ดังนั้นอย่าไปเครียดมากนะคะ ทั้งสองที่ดีและมีชื่อค่ะ แต่ฮิโตะทสึบาชิอาจจะยังใหม่อยู่ถ้าเทียบกับวาเซดะ(เฉพาะเอ็มบีเอนะคะ) แต่มหาวิทยาลัยนี้มีงานวิทยานิพนธ์ที่มีคุณภาพมากทีเดียว แต่วาเซดะก็เปิดสาขานี้มานาน อาจารย์ประสบการ์ณเยอะ และบางที่โปรเฟสเซอร์คณะเรายังไปเป็นวิทยากรรับเชิญเลยค่ะ ไม่รู้คำตอบจะตรงใจหรือเปล่า แค่แชร์ประสบการ์ณนะคะ จากคุณ : มอนจะ - [ 16 มิ.ย. 52 16:11:10 ]

ความคิดเห็นที่ 3 เห็นด้วยค่ะ สถาบันที่มีชื่อเสียง สำคัญก็จริง แต่อย่ามองแค่สถาบัน ดูด้วยว่าเราอยากทำทีสิสเรื่องอะไร อาจารย์ท่านไหนที่ทำเรื่องนั้นอยู่จริงๆ คือจากประสบการณ์ตอนนี้ของตัวเองที่มาเพราะเลือกสถาบัน แต่ได้อาจารย์ไม่ตรงมาก (ตอนนั้นไม่อยากไปต่างจังหวัด) ตอนนี้ยังทำทีสิสเรื่องที่อยากทำ อาจารย์ดีค่ะ ไกด์ได้บ้าง แต่ไม่ตรง เราต้องค้นคว้าเองเยอะ คลำทางเองหลายอย่าง เวลาเข้าเซมิก็ไปเรียนอะไรๆที่คิดว่าไม่ใช่อีก ไม่สนุกเลย สำหรับคนที่จะสอบทุนมง (ช่วงนี้ใกล้เวลาส่งใบสมัคร มีกระทู้มาเลย) การเลือกสถาบันและอาจารย์ที่ปรึกษา ขอให้อ่านงานของอาจารย์แต่ละคนให้แน่นอน และรู้ความถนัดความสนใจของอาจารย์ให้ดีก่อน นอกจากนี้ ต้องดูวิชาในสาขาด้วย นอกจากอาจารย์เราแล้ว มีวิชาอื่นที่จะส่งเสริมการทำทีสิสของเราได้ด้วยรึเปล่า ปล. ไม่ได้เรียนเอ็มบีเอนะคะ  แต่ที่แน่ๆเอ็มบีเอ ไม่ใช่จุดขายในญี่ปุ่น จากคุณ : minisealion - [ 16 มิ.ย. 52 16:50:16 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ขอบคุณมากครับคุณมอนจะ เป็นประโยชน์มากมายเลยครับ ที่ดู MBA Hitotsubashi เป็นหลักสูตรปีเดียว และไม่ต้องทำ Thesis ครับ ซึ่งจะแตกต่างจาก Waseda ที่จะต้องทำ Thesis ปีสองเทอมสุดท้าย และสามารถที่จะฝึกงานในปีสองเทอมแรกได้ด้วย ส่วนในเรื่องของ Electives ที่ Waseda มีให้เลือกเรียนมากกว่า (Hitotsubashi ตามหลักสูตรจะเรียนเป็น General MBA) พอเข้าไปดูจริงๆแล้ว วิชาที่เปิดสอนเป็นภาษาอังกฤษนั้น น้อยกว่าเปิดสอนเป็นภาษาญี่ปุ่นครับ แต่ core courses นี่เปิดทั้งสองภาษา อันนี้เคยได้ยินมานานแล้วครับว่าคนญี่ปุ่นไม่ได้ให้ความสำคัญกับ วุฒิ MBA มากเท่าไหร่เหมือนหลายๆประเทศ แต่สำหรับบริษัทที่เป็นอินเตอร์ หรือทางด้านพวก IB ผมก็ยังเชื่อว่า ก็ยังให้ความสำคัญกับวุฒิ MBA พอสมควร เพียงแต่ต้องสามารถพูดภาษาญี่ปุ่นได้ด้วยเท่านั้น ถ้าต้องการที่จะทำงานที่ญี่ปุ่น "คนญี่ปุ่นไม่ได้ให้ความสำคัญกับสถานศึกษามากไปกว่าผลงาน" ผมว่าที่เมืองไทยก็เป็นนะครับ ถ้าคุณต้องการทำงานในบริษัทฝรั่ง สถาบันการศึกษาจากที่ดังๆก็คือใบเบิกทางในการที่จะสามารถทำให้คุณได้มีโอกาสสัมภาษณ์งาน ทำให้เค้าสามารถสัมผัสตัวตน ความสามารถของคุณ แต่พอเข้าไปได้ จะทำงานได้ไม่ได้ทีนี้มันก็ขึ้นกับผลงานของคุณแล้ว แต่อย่างน้อย การที่คุณเคยผ่านสถาบันการศึกษาที่มีชื่อ มันก็เป็นสิ่งที่ช่วยการันตีความสำเร็จ ในเรื่องการแข่งขัน การเรียนของคุณได้ในระดับหนึ่งครับ จริงๆถ้าเข้าได้ทั้งสองที่นี้ ผมก็คงลังเลใจเป็นอย่างยิ่งครับ เพราะทราบว่าดีด้วยกันทั้งคู่ แต่ใจผมก็ค่อนข้างโอนเอียงมาทาง Waseda มากกว่า เพราะด้วยเชื่อว่าด้วยโปรแกรมการเรียนที่ relaxed กว่า (เรียน 2 ปี) และมีโอกาสฝึกเรียนรู้ภาษาญี่ปุ่นนานเพิ่มขึ้นอีก 1 ปี ก่อนที่จะออกสู่ตลาดงาน และเชื่อว่า Waseda นักเรียนไทยน่าจะมากกว่าที่ Hitotsubashi ซึ่งผมเชื่อว่า Connection และ alumni network ก็สำคัญมากครับ ไม่ทราบว่าคุณมอนจะเรียนที่ Waseda อยู่หรือเปล่าครับ เผื่อผมไปเป็นรุ่นน้อง จะได้ขอคำปรึกษา แก้ไขเมื่อ 16 มิ.ย. 52 17:07:22 แก้ไขเมื่อ 16 มิ.ย. 52 17:02:12 จากคุณ : Charlie Man - [ 16 มิ.ย. 52 17:00:20 ]

ความคิดเห็นที่ 5 เอ...ฮิโตะทสึบาชิก็มีให้เลือกแบบสองปีนี่คะ  http://www.ics.hit-u.ac.jp/program/  แต่ว่าต้องไปเรียนที่อีกตึกนึง ไม่ได้อยู่คุนิตาจิ เราไม่แน่ใจว่าคุณจะได้เจอคนไทยบ้างหรือเปล่านะคะ ( บางครั้งเห็นมีบางล็อกอินเข้ามาตอบกระทู้เหมือนกันค่ะ แต่จำล็อกอินไม่ได้แล้ว ) ถ้าโอนเอียงไปวาเซดะ ก็ลองหาข้อมูลเพิ่มดูนะคะ รู้จักพี่คนไทยที่จบโทแล้วต่อเอกอยู่เหมือนกัน ( ถ้าจะให้แนะนำ หลังไมค์มานะคะ จะถามพี่เค้าให้ ) แล้วรู้สึกมีน้องที่เรียนเอ็มบีเอวาเซดะเล่นห้องนี้ด้วย ไม่แน่ใจว่าจะแวะเข้ามามั้ยนะคะ ถ้าอยากได้ข้อมูลนักเรียนไทยในวาเซดะ ฮิโตะทสึบาชิ หรือมหาวิทยาลัยไหน ลองไปถามที่บอร์ดสนทญ.ดูนะคะ ที่ http://www.tsaj.org/joomla/ จริงๆแล้วเค้าแบ่งห้องแบ่งโซนไว้เลย น่าจะถามได้ง่าย ( ต้องสมัครสมาชิกก่อนค่ะ ) เท่าที่ทราบ มีกลุ่มนักเรียนไทยในฮิโตะทสึบาชิด้วย ค่อนข้างเยอะเลยทีเดียว แต่ว่าเอ็มบีเอเพิ่งเปิดได้ไม่กี่ปี จะมีรุ่นพี่คนไทยเท่าไหร่ไม่ทราบนะคะ แต่มีคนนึงเคยเล่นห้องนี้ค่ะ ( จำล็อกอินไม่ได้เช่นกัน ) ลองรอคคห.ต่อไปมาเพิ่มนะคะ ( แต่ที่เราเรียน เราก็มีแต่เพื่อนญี่ปุ่นกับต่างชาตินะคะ เพราะคนไทยคณะนี้ไม่มีมายี่สิบกว่าปีแล้ว ยกเว้นมีมาแลกเปลี่ยนระยะสั้นสามเดือนค่ะ เพิ่งมาปีนี้เป็นปีแรก ) ป.ล. เราไม่ได้เรียนวาเซดะค่ะ อยู่มหาวิทยาลัยคู่แข่งตลอดกาลของวาเซดะค่ะ ^ ^ แก้ไขเมื่อ 16 มิ.ย. 52 17:58:22 แก้ไขเมื่อ 16 มิ.ย. 52 17:53:46 จากคุณ : มอนจะ - [ 16 มิ.ย. 52 17:48:01 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ขอบคุณอีกครั้งครับคุณมอนจะ สำหรับข้อมูล Hitotsubashi มีโปรแกรมสองปีด้วย ใช่ครับ แต่ว่า workload นี่ก็คืออัดเรียนเหมือนปีเดียว ต่างกันแค่ที่ว่าเรียนสองปีนั้น จะสามารถไป exchange, internship หรือเลือก elective เพิ่มได้น่ะครับ ผมก็เลยมองว่า หนักอยู่ดี ขอบคุณมากนะครับสำหรับบอร์ด สนทญ เดี๋ยวผมจะเข้าไปโพสต์สอบถามดู เอ ว่าแต่มหาวิทยาลัยคู่แข่งตลอดกาลของวาเซดะนี่ คือที่ไหนหว่า Keio หรือเปล่า (แหะๆ ขอโทษทีครับ ความรู้เกี่ยวกับมหาวิทยาลัยในญี่ปุ่นผมนี่แทบหางอึ่งจริงๆ เพราะพึ่งจะสนใจอยากจะเรียนต่อที่ประเทศนี้) จากคุณ : Charlie Man - [ 16 มิ.ย. 52 19:22:45 ]

ความคิดเห็นที่ 7 พอดีได้เห็นคำนี้ seikashugi เลยทำให้นึกถึงสมัยมาญี่ปุ่นใหม่ๆๆ สวนตัวผมไม่เคยนึกชอบระบบนี้ เเต่อยู่ไปอยู่มา ระบบนี้ชักชอบ ระบบนี้ทำให้คนมีความเเข่งขันกันมากขึนนะ ค่อนข้างจะรุนเเรงสะด้วยในบางเเห่ง มีทัง การเมืองเเบบผู้ดี ใช้ความรู้ บวกกับใช้เหตุผลเชือดกันเเละเเบ่งเค้กความรับผิดชอบเเบบตายกันเลย เเต่ข้อเสียของระบบคือไม่เหมะกับเมืองไทยเท่าไหร่นะ อาจเจอเเบบพวกมวยเเพ้เเต่คนไม่เเพ้ อะนะผมว่า ขอโทษ จขกท ด้วยนะครับที่ เเอบเเวบออกนอกเรื่อง ขอเสริมอีกนิดหนึ่งนะครับ เรือง ทีสิสของที่นี่ ที่ข้างบนเขาเขียนอธิบายไว้ ถึงความเเตกต่างของการทำเเละก้อขอบเขตของรายงาน ผมมองว่ามันไม่ใช่เเค่จำนวนหน้าที่ต้องทำ อันนี้นะครับผมเคยได้ยินมาว่า เขาต้องการให้เด็กทุน (โดยสวนมาก )ทำการวิจัยงาน เเละรีพอท (ที่) เพื่อเป็นเหล่งข้อมูลของประเทศเขานะครับ จัดได้ว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่ามากกก ต่อการลงทุนในระยะยาวเลยก้อว่าได้ (ทั้งเป็นการเสริมทัศนคติที่ดีต่อตัวประเทศญี่ปุ่นเเก่นักเรียน)( นกตัวที่สิบตาย) เพราะว่าเด็กทุนสวนมากมีตัวเลือกทางด้านข้อมูลการทำวิจัยน้อย เลยมักทำการวิจัยเกียวกับประเทศตัวเอง พูดเเย่ๆๆก้อ เหมือนขายข้อมูลอะคับ โดยอาจมี อจ เป็นคนชี้เป้าให้ หรือ ในอีกด้านคือพัทนา งานวิจัยที่ในมุมมองที่คนญี่ปุ่นอาจมองไปอีกเเบบ มีเคสตัวอย่างให้เห็นมาเเล้ว ในเรือง ข้าวหอมมะลิ ของเมกา ลองหาอ่านดูละกันว่าคัยเป็นคนทำวิจัย อาจถึงบางอ้อเรือง ธุรกิจเเจกทุนการศึกษาเลยก้อได้นะคับ Keio หรือ Waseda ก้อเหมือน ระบบของ เอเบค หรือ รร อัสสัมบ้านเราอะคับ ถามว่าเอเบค ดังยังไง สอง รร ก้อ อยู้ในระบบคล้ายกัน เเต่เก่าเเก่กว่า เเละมี รุ่นพึ่ ดังๆๆเยอะ ประมานนั้นนะคับ จะให้ดีรอให้ เด็ก สอง รร มาตอบดีกว่า สวนตัวผมนิยมเลือก มีอลัมนายที่ดี เพือเป็นคอนเน็กชั่น ต่อ อนาคต ม ไหนก้อ โอหมด คับ จากคุณ : classic - [ 16 มิ.ย. 52 20:48:12 A:123.227.0.148 X: TicketID:180522 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ลืมคับ ขอต่อนิดหนึง MBA ไม่ได้มีประโยชน์ในญี่ปุนนะคับ อันนี้จริง จบ MBA ไม่ได้หมายความว่าเก่งนะครับ เขามองว่าคุนบริหารเวลาไม่เป็นมากกว่า เรืองที่ควรหรือเขามองหรือต้องทำคือ ต้องมีประสพการ ในการทำงาน เเล้วเรียนเสริมเอา มุมนี้บริษัทอาจยินดีในการ ร่วมลงทุนกับคุน เเต่ถ้าคุนลงทุ่นในการเรียน เเล้วเรียนรวดเดียวจบ เพือให้ได้เงินเดิอนดีๆๆ เเต่จบ มาตอนยีสิบหก เเถมไม่มีประสพการ เขามองว่า บริษัทกำลังจะขาดทุนกับคุน เเละ การที่ต้องลงทุนในการสอนงานคุน กว่าจะเป็นก้อ สองสามปี ฉะนั้นเเล้ว จ้างเด็กจบใหม่สอนงาน ง่ายกว่าเยอะ เเถมถูกด้วย ต้องยอมรับนะ ว่า ญี่ปุ่นต่างกับไทย มากเรืองนี้คับ ต้วผมเองยังไม่ค้อยอยากรับหรือทำงานร่วมด้วยเลย ขี้เกียจสอน เเต่ถ้าเมืองไทยละก้อไม่เเน่นะ จากคุณ : Classic - [ 16 มิ.ย. 52 21:08:42 A:123.227.0.148 X: TicketID:180522 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ^ ^ ^ เข้ามาดูอีกรอบก่อนนอน คุณclassicอาจจะเข้าใจผิดเรื่องทีสิสและทุนที่เราบอกนะคะ ( ไม่แน่ใจว่าเราตีความถูกหรือเปล่า ) เราไม่ใช่เด็กทุนมอนค่ะ ( ถึงแหล่งเงินจะมาจากที่เดียวกันก็เถอะ) ทีสิสที่ว่านี่ นักเรียนเอ็มบีเอที่ญี่ปุ่นทุกคนต้องทำค่ะ ไม่ว่าจะคนญี่ปุ่นหรือคนชาติอะไร เหมือนกันกับป.โท สาขาอื่นๆน่ะค่ะ  เป็นกฎที่ออกโดยกระทรวงฯก็คือมอนบุคะกาคุโชบังคับให้ป.โทต้องมีทีสิสน่ะค่ะ ( ยกเว้นคอร์สระยะสั้นที่คุณจขกทบอก ) ไม่เหมือนต่างประเทศที่ไม่เน้นวิจัย แต่เน้นเรียนรู้สาขาที่จะนำไปประกอบธุรกิจของตัวเองมากกว่า ทีสิสเค้าเลยเหมือนไม่เน้นเท่าไหร่ แต่อันนี้คือเราคุยกับมหาวิทยาลัยที่ไม่ได้โด่งดังนักนะคะ เดี๋ยวไปถามเพื่อนที่จะไปแลกเปลี่ยนที่ม.ดังๆ ให้อีกทีว่า ที่ม.ดังๆเค้าเขียนทีสิสกันขนาดไหน   ทีสิสที่ว่านี้จะถูกเขียนโดยเนื้อหาจะทำอะไรก็ได้ตามแขนงที่เราเรียน ซึ่งไม่ได้บังคับเลยว่าให้ทำอะไรค่ะ แต่ที่คุณยกตัวอย่างมาน่าสนใจมากนะคะ เบื้องหลังการแจกทุนการศึกษา อย่างที่คุณก็รู้ว่าเพราะอะไร แต่มองในแง่ว่าเค้าให้โอกาสทางการศึกษา อย่างน้อยก็เป็นการพัฒนาบุคคลากรของชาติในรูปแบบนึงนะคะ อยากพิมพ์มากกว่านี้แต่ว่าง่วงมากเลย ถ้ามีเวลาเดี๋ยวพรุ่งนี้แวะมาใหม่ค่ะ จากคุณ : มอนจะ - [ 16 มิ.ย. 52 21:28:52 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ส่งลิงค์ไปอัญเชิญเพื่อนที่เรียน MBA วาเซดะมาละ -0- เราเด็กวาเซดะนะคะ แต่ว่าไม่ได้เรียน MBA เลยไม่ขอออกความเห็น จากคุณ : แพนด้าหน้าใส - [ 16 มิ.ย. 52 21:58:13 ]

ความคิดเห็นที่ 11 คุณแพนด้าหน้าใส ค่ะ ขอคำแนะนำ มหาวิทยาลัยป.ตรี english program สนใจเรียนสาขาเศรษฐ บริหาร จะจบ ม.6 ศิลปคำนวณ ปีหน้าแล้วค่ะ ต้องเตรียมโดยด่วนแล้ว ขอบคุณค่ะ จากคุณ : เหมียว - [ 17 มิ.ย. 52 20:19:40 A:118.173.162.41 X: TicketID:213717 ]

ความคิดเห็นที่ 12 คุณเหมียว วาเซดะมีโปรแกรมปริญญาตรีภาคภาษาอังกฤษ School of International Liberal Studies ลองเข้าไปดูเวปของมหาวิทยาลัยได้ครับ มหาวิทยาลัยในญี่ปุ่นที่เปิดหลักสูตรภาษาอังกฤษในระดับปริญญาตรีเข้าใจว่ายังมีไม่มาก หลักสูตรของวาเซดะก็เปิดมาสักห้าปีได้แล้วมั้งครับ จากคุณ : ป้อม - [ 18 มิ.ย. 52 00:30:04 A:58.8.54.200 X: TicketID:217792 ]

ความคิดเห็นที่ 13 Keio กับ Waseda น่าจะดูมีภาษีกว่าทางHitotsubashiพอสมควรนะครับ ในความเห็นส่วนตัว (แต่ไม่ได้หมายความHitoไม่ดีนะครับ ไม่ใช่อย่างนั้น) แต่ถ้าเทียบกับฝั่งUK　ก็เหมือนคุณรู้จัก LSE ไหม บางคนอาจรู้จัก แต่ถ้าคนทั่ว ๆ ไปที่ไม่ใช่ด้านวิชาการแล้ว ก็รู้จักOxBridgeมากกว่าเยอะ ทั้ง ๆ ที่LSEดังมากเหมือนกัน แต่เป็นดังเฉพาะด้านมากกว่า Keio Business Schoolมีฝรั่งหลายคนเปรียบเป็นHarvard of Japanเลยนะครับ จากคุณ : ITs - [ 18 มิ.ย. 52 03:58:16 A:121.92.145.160 X: TicketID:215906 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ขอบคุณมากๆเลยครับสำหรับความคิดเห็น เป็นประโยชน์มากๆต่อการตัดสินใจของผมเลยครับ แถมยังมีศิษย์ปัจจุับันของ Waseda อย่างคุณ แพนด้าหน้าใสมาช่วยตอบกระทู้ตลอดเวลา ก็พอจะทำให้รู้ครับว่า alumni หรือ กิจกรรมของ Waseda ค่อนข้างที่จะ active พอสมควร จุดประสงค์ของผมคงไม่ใช่แค่ต้องการเรียน MBA อย่างเดียวครับ แต่ต้องการได้ alumni network ที่แข็งมากๆ เพราะผมเชื่อว่าหลังจบมาแล้ว connection สำคัญมากๆๆ และเท่าที่ search หาข้อมูลต่างๆ ณ ตอนนี้ บอกตรงๆ Waseda มาแรงงงง ครับ สำหรับผม ส่วน Keio Business School นี้ น่าเสียดายครับที่เปิดสอนเป็นเฉพาะภาษาญี่ปุ่น ซึ่งผมต้องการเรียนเป็นโปรแกรมภาษาอังกฤษครับ (คือเรียนญี่ปุ่น อาจจะไม่รอดเอาเนื่องด้วยความยากของภาษา และเนื้อหาการเรียนที่น่าจะออกเฉพาะเจาะจงกับญี่ปุ่นเกินไป) อีกคำถามนะครับ สำหรับเด็กทุนมอน ถ้าสมัครเป็น Master's student or regular student ตั้งแต่แรกโดยไม่ผ่านการเป็น research student นี่ เค้า ให้สมัครเรียน ม.เอกชนไหมครับ เพราะว่า MBA Waseda นี่แพงมากมาย (ทั้งหลักสูตร ประมาณ 3.6 ล้านเยน) แก้ไขเมื่อ 18 มิ.ย. 52 08:17:23 จากคุณ : Charlie Man - [ 18 มิ.ย. 52 08:15:53 ]

ความคิดเห็นที่ 15 คุณเหมียวครับ link สำหรับหลักสูตรการเรียนการสอนที่เปิดสอนเป็นภาษาอังกฤษในญี่ปุ่นครับ http://www.jeic-bangkok.org/files/ext/offered%20in%20english.pdf จากคุณ : Charlie Man - [ 18 มิ.ย. 52 08:34:19 ]

ความคิดเห็นที่ 16 คุณเจ้าของกระทู้ พอดีเราไปเก็บข้อมูลวิจัยที่ต่างจังหวัดเพิ่งกลับมาตะกี้เอง อยากมาเพิ่มเติมนิดนึงนะคะ Keio Business School " เนื้อหาการเรียนที่น่าจะออกเฉพาะเจาะจงกับญี่ปุ่นเกินไป " อันนี้ก็ไม่ใช่เนื้อหาเกี่ยวกับญี่ปุ่นทั้งหมดค่ะ เคสหนึ่งในสามเอามาจาก Harvard Business School โปรเฟสเซอร์ที่นี่ก็จบด็อกเตอร์จากฮาร์วาร์ดหลายท่านเช่นกัน แต่สอนเป็นภาษาญี่ปุ่น และเคสก็เป็นภาษาญี่ปุ่นด้วย ( มีบ้างที่เป็นอังกฤษ แต่น้อยมาก ) ดังนั้นเนื้อหาจึงมีทั้งบริษัทญี่ปุ่นและต่างชาติ เราค่อนข้างชอบนะคะ อันนี้ไม่ทราบว่าม.อื่นเป็นยังไงนะคะ แต่ที่นี่เป็นอย่างนี้ แต่อย่างไรก็ตาม เรียนค่อนข้างหนักค่ะ ถ้าเกรดไม่ถึงก็โดนไทร์ เรียนที่นี่ไม่ได้ไปเที่ยวไหนเลยตอนปีหนึ่ง เหนื่อยมากค่ะ ส่วนเรื่องทุนมอน รอเด็กทุนมาตอบนะคะ จากคุณ : มอนจะ - [ 19 มิ.ย. 52 11:52:41 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ขอบคุณมากครับคุณมอนจะ อืม Keio เรียนเป็นภาษาญี่ปุ่น ผมคงจะไม่สามารถล่ะครับ คงจะสอบเข้าไม่ผ่าน และกว่าจะได้สอบเข้าก็คงต้องเรียนภาษาญี่ปุ่นหลายปี อยากเรียนเป็นโปรแกรมอินเตอร์มากกว่า จะได้ไม่เหนื่อยมากเวลาเรียนด้วย แก้ไขเมื่อ 24 มิ.ย. 52 20:32:04 จากคุณ : Charlie Man - [ 24 มิ.ย. 52 20:31:20 ]

ความคิดเห็นที่ 18 โดยปกติ ทุนมอนจะกำหนดเงื่อนไขให้ไปเป็น Kenkyusei ก่อน แต่ก็มีกรณีที่ไปถึงแล้วเข้ารียนเลยก็มี ถ้าจำไม่ผิดรุ่นน้องคนนึงใน zemi ของผมที่ waseda อาจารย์ก็ให้เขาเข้าเรียนต่อโทเลยโดยไม่ต้องเป็น Kenkyusei แต่หลักสูตรนี้เปิดสำหรับเด็กต่างชาติและเด็กญี่ปุ่น ดังนั้นสำหรับเด็กต่างชาติที่สมัครจากต่างประเทศก็ไม่จำเป็นต้องสอบ entrance ตามระบบญี่ปุ่นปกติ จากคุณ : pOm - [ 3 ก.ค. 52 00:02:23 A:58.8.50.137 X: TicketID:217792 ]