ความคิดเห็นที่ 1 ภาพบรรยากาศตอนเช้า ตอนขับรถ ไปส่งลูกที่โรงเรียนค่ะ ที่โรงเรียนของลูก ทางโรงเรียนให้พ่อแม่ขับรถรับส่ง นอกจากเด็กที่มีบ้านอยู่ใกล้ๆ ก็จะเดินมาโรงเรียนได้ แต่ว่าส่วนใหญ่ขับรถรับส่งลูก ตอนเช้าและตอนเย็นเลิกเรียน รถติดประจำค่ะ อย่างเห็นๆในภาพเลยค่ะ ติดกันยาวเหยียด จากคุณ : อดีตนักกินจุก - [ 1 ก.ค. 52 08:26:24 ]

ความคิดเห็นที่ 2 สาเหตุ ของรถติดบางวัน มีคนจอดรถที่ตรงบริเวณไฟแดง ตรงทางเข้าโรงเรียน จอดไว้เฉยๆเลย แล้วทำให้รถรับส่งเด็กนักเรียน เวลาเรียนซ้ายเลี้ยวขวาก็ต้องลำบากมาก ถนนทางเข้าก็แคบ คนจะเข้าที่จอดรถ คนจะออกไปถนนตอนเลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวาก็ลำบาก ต้องรอจังหวะ และก็สัญญาณจาก รถข้างหน้าเราว่าเขาจะยอมให้เราไปก่อนหรือเรายอมให้เขาไปก่อน และไฟแดงตรงนั้นมีทางข้ามของเด็กๆด้วย ต้องระวังเด็กๆข้ามถนน แล้วก็แย่งกันกับรถคันอื่นเพื่อจะออกไป ช่วงไฟแดงเปลี่ยนเป็นไฟเขียว แล้วไฟจราจรมีด้านเดียว ตรงทางเข้าโรงเรียนเป็นสี่แยก ความลำบากเพิ่มมากขึ้นอีก ไฟจราจรตรงนั้นจะไม่เปลี่ยนง่ายๆจนกว่าเด็กๆจะกดปุ่มเพื่อขอข้ามถนน กว่าจะเลี้ยวออกจากที่จอดรถของโรงเรียนได้ก็ต้องรอความโชคดี เมื่อเวลาเด็กข้ามถนน แต่ว่า ต้องระวังทั้งรถและเด็กบนทางม้าลาย เพราะสี่แยกตรงนั้นเมื่อเด็กข้ามถนน รถที่มาจากทั้งสี่ทิศทางจะแย่งกันเข้าออกหรือเลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวา ถ้าคนขับรถบนท้องถนนประจำอาจจะพอนึกภาพออกนะคะ บางที มีรถที่ไม่มีน้ำใจ มากๆ ปิดแตรไล่ เวลาขับแล้วเกิดไฟเปลี่ยนกระทันหันแล้วรถจอดเกะกะถนนแบบไม่ได้ตั้งใจเพราะว่า โดนแย่งเลี้ยวไม่ได้ เอาเป็นว่าเป็นบรรยากาศตอนเช้าที่ทำให้อารมณ์เสียได้เกือบทุกวันเลยค่ะ นอกจากนี้ แล้ว มีแม่บ้านบางคนที่ขับรถ ออกจากที่จอดรถ นั่งกางหนังสือพิมพ์อ่านเฉยๆเลย ไม่ยอมขยับ ไฟเขียวก็แล้วไฟแดงก็แล้ว รถคันหลังก็มารยาทดี ไม่ยอมกดแตรไล่ รอให้เจ้าตัวรู้สึกตัวว่า ไฟเขียวแล้วนะ มันนานมากจนรถคันหลังไม่พอใจเลยจะขับแซงไปข้างหน้า ตรงส่วนที่ว่างอยู่ข้างหน้า คุณแม่บ้านรีบวางหน้งสือพิมพ์ ขับพรวดพลาดเลย ไม่ยอมให้ใครเข้ามาแซง เราขับอยู่ข้างหลังสุดๆ มองดูอย่างเดียว แล้วก็ได้แต่ถอนหายใจไป ขับรถอยู่ก็ยังเอาหนังสือพิมพ์มากางอ่าน พอเราขับรถไปได้สักพัก เห็นคุณแม่บ้านอีกคนขับรถมาส่งลูก เอาลูกสองสามขวบวางบนตักตอนขับรถ และก็มีลูก ป.หนึ่ง นั่งๆข้างๆ โอ้พระเจ้าช่วย ทำได้อย่างไร เด็กเล็กๆมานั่งบนตักรถตอนขับ มันอันตรายนะ แต่คุณเชื่อไหม ว่าที่โอกินาว่าภาพอย่างงี้มีให้เห็นบ่อยๆบนท้องถนน จะหาเด็กนั่ง ที่นั่งบนรถสำหรับเด็กยากมากเลย เด็กๆห้อยโหนเป็นลิง เล่นบนรถนี่เห็นประจำ จากคุณ : อดีตนักกินจุก - [ 1 ก.ค. 52 08:43:00 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ใช้มือถือในขณะขับรถ ที่ญี่ปุ่นมีกฏหมายบังคับห้ามเรื่องยกหูมือถือคุยขณะขับรถ ค่าปรับก็ไม่น้อย โอกินาวา ที่นี่แห่งเดียวในญ๊่ปุ่นหรือเปล่า ที่คุยมือถือไปด้วยขับรถไปด้วย บนทางด่วน คนขับรถที่อยู่ข้างหน้าเราขับรถได้ช้ามากๆ เกะกะ ทางด่วนกลายเป็นทางช้าไปเลย บางทีก็ขับส่ายไปส่ายมา ตอนนั้นสามีเป็นคนขับรถ เรานั่งอยู่ข้างๆ เลยอดมองไม่ได้ว่ารถข้างหน้าเขาเป็นอะไร เมาแล้วขับหรือเปล่า เปล่าเลยค่ะ คนขับรถนั้น เขียนเมล์และอ่านเมล์อยู่ในขณะขับรถบนทางด่วน นี่ไม่ใช่แค่คนสองคน ที่ทำอย่างงี้ เห็นบ่อยๆค่ะไม่ว่าจะเป็นทางธรรมดาหรือทางด่วน และเคยเห็นคนขับรถคุยโทรศัทพ์ไปด้วยขับรถไปด้วย จับพวงมาลัยมือเดียว นี่เยอะมากๆเลย ตำรวจที่นี่ หายไปไหนหมดนะ ชักสงสัย นานๆทีจะเห็นตำรวจตั้งด่านตรวจ คนขับรถบนท้องถนน จากคุณ : อดีตนักกินจุก - [ 1 ก.ค. 52 08:51:05 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ไว้จะมาเล่าต่อค่ะ เรื่องหวาดเสียว บนท้องถนน จากคุณ : อดีตนักกินจุก - [ 1 ก.ค. 52 08:52:38 ]

ความคิดเห็นที่ 5 สามีเคยเล่าให้ฟังว่า มีคนบรรทุกขับรถที่ทางด่วนพิเศษ ก็ต้องขับเร็วเป็นธรรมดา  .....  ขับไปชนเด็กที่ตกรถ เสียชีวิต คนขับรถไม่ผิด พ่อแม่เด็กต่างหากที่ไม่ดูถูกไม่คาดข็มขัดนิรภัยให้ เด็กก็ปีนป่ายกดนั้นกดนี่จนพลาดตกรถเสียชีวิต  ..................... บทสรุปของเรื่องนี้  คนขับรถไม่ผิดไม่ติดคุก แต่ คนขับรถบรรทุกฆ่าตัวตายเพราะเสียใจที่ชนเด็กเสียชีวิต จากคุณ : CherryBlossom669 - [ 1 ก.ค. 52 08:53:25 ]

ความคิดเห็นที่ 6 เรื่องเศร้าเลยนะคะ น้องเหมียว คนขับรถบรรทุก ก็คงช็อคนะคะ จากคุณ : อดีตนักกินจุก - [ 1 ก.ค. 52 09:08:36 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ที่เศร้ากว่า เมื่อคืน ผบทบ.บอกว่าข่าวออกว่า แม่จูงลูกเดินอยู่บนถนน(หรือ ข้ามถนนนี่แหล่ะ ไม่ได้อ่านหรือฟังข่าวค่ะ ฟังจากผบทบ.เล่า) มีคนขับรถมา ชนเด็กผู้หญิงคนนั้น 2 ขวบเอง เสียชีวิตค่ะ คนขับผิด ตอนนี้กำลังอยู่ระหว่างการดำเนินคดี ผบทบ.หัวตั้งไปเลย บอกว่าให้เก็บลูกอยู่ในบ้านจนกว่าลูกจะ 7 ขวบ พี่เลย บอกว่า เออดี...งั้นเธอก็ลาออกจากงานมาอยู่บ้านกับลูกแล้วกัน ชั้นจะออก ไปข้างนอก จากคุณ : fudge-a-mania - [ 1 ก.ค. 52 09:48:18 ]

ความคิดเห็นที่ 8 อ่านข่าวที่พี่ออยเขียน แล้วน่าเศร้านะคะ สองขวบกำลังน่ารักเลย ผบทบ. พี่ออย น่ารักดี  เก็บลูกไว้ในบ้าน ฮ่าๆๆ อุบัติเหตุนี่ มันเป็นอะไรที่ไม่คาดคิดจริงๆนะคะ เดินอยู่ดีๆแท้ๆ เรื่องอุบัติเหตุมีคนตายที่โอกินาวา ส่วนใหญ่เมาแล้วขับกันทั้งนั้นเลยค่ะ กลางวันแสกๆ ก็ดื่มเหล้า หน้าดำหน้าแดงกันแล้ว ยังจำได้เลยวันก่อน ขับรถรอจะเลี้ยว ข้ามเข้าซอย อีกฝั่งแต่ว่าต้องรอให้รถที่สวนมาไปหมดก่อน หรือไม่ก็รอจังหวะที่เราสามารถเลี้ยวไปอย่างปลอดภัย แต่ว่า รถบรรทุกข้างหลัง บีบแตรไล่ บี๊ดๆ บ๊าดๆ ตกใจหมดเลย งง และอารมณ์เสียเลยค่ะ เพราะว่าเขาจะบีบแตรไล่เราทำไม ก็รถมันวิ่งสวนไปมาจะเลี้ยวข้ามมันก็ทำไม่ได้ เราก็ต้องรอไฟจราจร ที่มีลูกศรให้เลี้ยว พอมองกระจกหลัง ดูหน้าคนขับ คุณลุงเขาหน้าดำหน้าแดง ท่าทางคนเมา เจอแล้วสิ คนเมา เคยเล่าให้พี่คนไทยคนหนึ่งฟัง พี่เขาบอกว่า เขาเคยเจอเหมือนกัน แต่ว่าพี่เขาเป็นคนแรงค่ะ เจอบีบแตรไล่แบบไม่มีเหตุผลอย่างงี้ ไม่ได้ทำผิดอะไรนี่ ไม่ยอม พี่สาวคนนั้นจอดรถ ลงไปเตะสิบล้อ ฮ่าๆๆ ไม่รู้พี่เขาเตะตรงไหน ฟังพี่เขาเล่ามาแล้วเล่าต่อค่ะ พอลงไป แล้วพี่เขาก็ด่า ทันทีเลยว่า แกจะบีบแตรไล่ฉันทำไม ก็มันเลี้ยวไม่ได้ รถสวนมาอันตราย คนขับรถบรรทุกนั้น ตะโกนด่า ยายแก่บ้า ฟังคำนั้นยิ่งทำให้พี่สาวคนนั้นโมโห เป็นเรื่องเลยค่ะ ถึงกับเรียกตำรวจมาเลย ตำรวจมา สรุป แล้ว ตำรวจ ดุคนขับรถบรรทุกว่าเป็นผู้ชายแล้วทำไมเสียมารยาทกับผู้หญิง และการขับรถก็ควรมีมารยาท ไม่ใช่นึกอยากจะบีบแตรไล่ใคร ทำอะไรก็ได้ กรณีนี้คงกรณีพิเศษแหละค่ะ พี่สาวคนนั้นแรงจริงๆค่ะ คิดว่าตำรวจเองคงกลัวด้วยแหละ ต้องเข้าข้างพี่สาวคนนั้นไว้ก่อน เพราะพี่แกแรงไม่เคยกลัวใคร ยากูซ่า นี่ก็รู้จักหลายคน อย่าได้มีเรื่อง แกบอกว่า แกขอเพื่อนยากูซ่าของแกสั่งเก็บได้ อันนี้ก็ไม่รู้ข้อเท็จจริงนะคะ เอาเป็นว่าเอามาเล่าสู่กันฟังค่ะ ว่า คนบนท้องถนน มีแรงๆ กันด้วยนะ ที่เมืองไทยบ้านเราเขาจอดรถชกกันเพราะปาดหน้ากัน ที่นี่ ยังไม่รู้ค่ะว่าเป็นไง แต่ว่า ฟังเรื่องพี่สาวคนนี้แล้ว ไม่แน่นะคะ ถ้าคนขับรถบรรทุกลงรถมาคุยกับแก คงได้มีชกกันแน่ ที่ญี่ปุ่น ถ้าไม่จำเป็นจริง เขาจะไม่บีบแตรนะคะ ส่วนตัวเองเคยบีบแตร ไล่เฉพาะ ตรงไฟแดง เวลาไฟเขียวแล้ว รถข้างหน้าไม่ยอมไป จอดพัก สงสัยดูเมล์หรอืเขียนเมล์อยู่ หรอืบางทีมัวแต่คุยกัน แต่ว่า จะไม่บีบแตรไล่ทันที ดูจังหวะและให้เวลาเขาสักพัก เพราะเขาอาจจะไม่รู้ตัวว่าไฟเปลี่ยนเป็นสีเขียวแล้ว ถ้ามันนานมากเกินก็จะบีบแตร บอกให้รู้ว่าไฟเขียวแล้วนะ จากคุณ : อดีตนักกินจุก - [ 1 ก.ค. 52 11:31:18 ]

ความคิดเห็นที่ 9 มาต่อที่เรื่องรถนิดหนึ่ง ความซวย ที่ไม่คาดคิดสำหรับคนมีรถ รถถูก รถมือสอง ก็ยังพอทำใจได้บ้าง ถ้ารถเราถูกชนแล้วหนี ในกรณีที่จอดรถไว้ที่จอดรถ แต่ถ้าเป็นรถใหม่ ราคาแพงนี่คิดว่า เจ้าของรถคงต้องกุมขมับไปหลายวัน ค่าซ่อม รอยขุด รอยขีด รอยบุบ นิดๆหน่อย ก็แพงน่าดูเลยนะคะ และอะไรที่เรียกประกันรถยนต์ ก็โอเคประกันรถยนต์จ่ายให้ แต่ว่าค่าเบี้ยประกันจะสูงขึ้น แต่ว่าแล้วแต่สัญญาการทำประกันรถยนต์นั้นๆด้วยค่ะ เพราะบางสัญญาประกัน ก็รับผิดชอบหมด และไม่มีการปรับราคาค่าเบี้ยประกัน แต่บางสัญญาไม่ค่ะ จึงมีคนแนะนำว่า ต้องดูเรื่องสัญญาประกันรถยนต์ดีๆ ไม่งั้นจะต้องมานั่งจ่ายเบี้ยประกันแพงขึ้น ถ้ารถมีความเสียหายนิดๆหน่อย ก็เอาไปซ่อมเองไม่ต้องเรียกใช้เงินประกัน รถที่บ้านมีรอยเล็กๆน้อย เกิดขึ้นให้เห็นบ่อยๆ พอดีตัวเองเป็นคนรักรถด้วยสิ จะตรวจเช็ครถเสมอว่ามีรอยขูดรอยขีดไหม ถ้าเจอซวย ก็จะใช้สเปรย์ฉีดทับรอย นั้นในกรณีที่มันเล็กๆนะคะ จะมีสเปรย์ สีที่สำหรับ ปกปิดริ้วรอยพวกนี้ค่ะ แต่ในกรณีเล็กๆน้อยๆนะคะ ทาไว้ก่อนกันสนิม นิดๆหน่อยส่งร้านเขาดูแล้วก็ต้องควักจ่าย ไม่ไหวค่ะ ที่รอยขีดรอยข่วนต่างๆของรถ คาดว่าคงเป็นรถที่จอดข้างๆที่เราจอดไว้ที่จอดรถของสวนสาธารณะ เฮ้อ ที่จอดรถสวนสาธารณะมักจะไม่มีกล้องวงจรปิดใดๆ ถ้ามีคนที่มาจอดข้างๆเรา ถอยจอดไม่เก่งไม่ดี เฉียดหรือชนรถเราแล้วหนีนี่ ก็ถือว่าซวยไปเลย  บางทีรถข้างๆ เปิดเข้าออกไม่ระวัง ชนรถเราให้มีรอยแล้วจากไปก็มีค่ะ กรณีความซวยตัวเองยังไม่เจอขั้นซวยมากๆ แต่เคยเห็นแต่กรณีคนอื่น ตอนไปเที่ยวฮอกไกโด ตอนกลับมาที่จอดรถ เห็นรถข้างๆ ที่เป็นรถเช่าเหมือนรถเรา ถูกชนข้างๆยับเลย ตำรวจก็เข้ามาเก็บหลักฐาน เห็นสภาพแล้ว เฮ้อน่าเศร้าแทน จอดไว้ดีๆ เช่ารถมาขับเที่ยว ซวย แบบถูกชนแล้วหนี ทิ้งไว้ที่จอดรถด้วย จากคุณ : อดีตนักกินจุก - [ 1 ก.ค. 52 11:47:38 ]

ความคิดเห็นที่ 10 น้องเหมียว หนูแมวจ๋า บนท้องถนน ที่ญี่ปุ่นนี่ไม่มีหมาจรจัดเยอะเหมือนบ้านเรา แต่ว่ามีแมวเยอะค่ะ เจ้าแมวเหมียวนี่ บางทีก็ไปแอบนอนใต้ท้องรถ มุดเข้าไปในช่วงเครื่องยนต์ก็มี มีกรณีเจ้าของรถสตาทรถ และขับรถ ปั่นแมวตายไปก็มีให้เห็น สำหรับเจ้าแมวบนท้องถนน ถ้าคนทีใช้รถใช้ถนนประจำ จะเห็นศพแมวเหมียวบนท้องถนนอยู่บ่อยๆ แมวนี่จะไม่ค่อยฉลาดเหมือนน้องหมาสักเท่าไหร่ เพราะน้องหมาจะข้ามถนน จะรู้จังหวะ ว่าจะข้ามถนนอย่างไร ให้ปลอดภัย แต่น้องแมวเหมียวนี่ เธอเดินข้ามถนนแบบว่าไม่ดูอะไรค่ะ บทจะวิ่งข้ามถนนก็วิ่งเอาดื้อๆ จะหยุดอยู่กลางถนนก็หยุดเอาดื้อๆ พ่อสามีเคยบอกว่าว่าถ้าเจอแมวนะ ขับรถเหยียบมันไปเลย ไม่ต้องเบรคกระทันหัน เพราะว่าเดี๋ยวเจอรถคันหลังจูบก้นให้ ด้วยเราเป็นคนที่ใจไม่กล้าพอ เจอหมาเจอแมว จะเผลอชะลอหรือเบรคทุกครั้ง แต่โชคดี ที่ทุกครั้งไม่มีรถข้างหลังตามมา เขาบอกว่าถ้าเบรคกระทันหัน หรือขับรถหลบหลีกไม่ชนแมวหรือหมา ไม่แน่เราอาจจะตายแทนมันก็ได้ หรือก็เกิดอุบัติเหตุได้ง่ายจากที่เราหักหลบไม่ชนแมว บางทีเคยเจอแมวข้ามถนน ตรงที่ถนนใหญ่ รถวิ่งกันเยอะ มันวิ่งตัดหน้ารถไป เราก็ตกใจแต่ไม่ได้เบรค ตัดสินใจขับไป ในใจก็เสียวๆ สงสัยเหยียบน้องแมวแล้ว แต่โชคดี ไม่ได้เหยียบ แต่แมวก็วิงไปอีกถนนอีกเลนได้ รถคันที่วิ่งในเลนนั้นก็จอดๆ ชะลอ แต่มันก็ยังวิ่งต่อไปอีก ไปใกล้ๆใต้รถแท็กซี่ เราก็ได้แต่ลุ้นว่ารถแท็กซี่  อย่าได้เหยียบมันเลย แมวน้อยตัวนั้น ตัวเล็กๆค่ะ น่ารัก ดูอาการมันจะสั่นๆ กลัวๆ แต่มันก็วิ่งข้ามถนน บนถนน สี่เลนได้ อย่างปลอดภัยในที่สุด หลังจากเราขับรถผ่านไปแล้ว ก็ไม่รู้โชคชะตาของแมวเหมียวตัวนั้นอีก ไม่รู้ป่านนี้ถูกเหยียบไปหรือยัง หรือมีลูกมีหลานแล้วหรือยัง ตัวเองก็เกือบได้ร้องเพลง เนะโกะฟุนจัสต๊ะ เนโกะฟุนจัสต๊ะ  เนโกะฟุนจัดต๊ะ แก้ไขเมื่อ 01 ก.ค. 52 12:04:01 จากคุณ : อดีตนักกินจุก - [ 1 ก.ค. 52 12:02:06 ]

ความคิดเห็นที่ 11 เมื่อวันเสาร์นี้เอง  รถคันที่ีจอดอยู่ข้างๆ  ลูกเขาเปิดประตูมาชน ประตูรถของพี่   เป็นรอยยาว ติดสีรถเขามาด้วยเลยนะ เขากำลังดุลูกเขาอยู่  ก็พอดีกับที่ครอบครัวพี่เดินกลับไปที่รถพอดี (ประมาณจับได้คาหนังคาเขา)  แต่เขาไม่ขอโทษเราเลย คงทำอะไรไม่ถูกเนอะ  แต่พี่คิดว่า  ถ้าเป็นพี่ พี่คงขอโทษนะ ยิ่งเป็นแบบต่อหน้าลูกแบบนี้ด้วย  ให้คู่กรณีโกรธๆ ด้วยยิ่งดี จะได้เป็นบทเรียนให้ลูกระวัง ให้เห็นจ่ะๆ ไปเลยว่า เป็นเหตุให้พ่อแม่โดนด่าในที่สาธารณะ (ซึ่งจริงๆ เราก็คงไม่ด่าเค้าหรอก) ช่วงต้นปี พี่ถอยรถไปเฉี่ยวรถคันหนึ่ง  ด้วยความที่มืดมากๆ และพื้นโรยกรวด  ฝนกระหน่ำ  ลูกทะเลาะกัน โอ้ย เป็นเหตุ ชวนเกิดอุบัติเหตุมากๆ  กำลังจะเลี้ยวรถออกไป  มันรู้สึกฝืดๆ ก็ถอยกลับมาใหม่แล้วลงไปดูไม่เห็นรอยอะไรทั้งรถเรา รถเขา ก็เลยคิดว่าไม่เป็นไร  เสร็จแล้วก็ลืมไปเลย  ผ่านไปหลายวัน ก็เจอรอยที่รถเราเป็นสีแดง รู้เลยว่าไปเฉี่ยวเขาให้แล้ว ก็ไปดักรอเขานะ  เพราะเขามักจอดรถตรงนั้นประจำ แล้วไปขอโทษใหญ่เลย  ตัวเขาก็ไม่ได้สังเกตรถตัวเองด้วย ทางเราก็รับผิดชอบซ่อมให้เขา  จริงๆ จะทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ก็ได้ นะคะ  แต่เมื่อลูกสองคนเห็นเหตุการณ์อยู่ตลอด  มันทำงั้นไม่ได้ ถามความเห็นลูก ทั้งสองคนบอกว่า ไม่ต้องบอก ถ้าบอกตำรวจ คงจับแม่ไป  ก็คิดกันไปตามประสาเด็กๆ หลังๆ นี่ เวลาแม่จะจอดรถนี่ นั่งกันเงียบขึ้นมานิดหน่อย ที่ญี่ปุ่นนี่ บางทีรถออกจากซอย มาแบบเร็วๆ เหมือนจะไม่หยุด พอมาถึงตรงเส้นโทมะเระ  แล้วก็หยุดปุ๊บ  เห็นรถว่าเร็วๆ แบบนั้นขับมาจากซอย ตอนกำลังขับอยู่ถนนหลัก  ตกใจทุกที นึกว่าจะโดนพุ่งชน ขับรถนี่เป็นเรื่องของวัฒนธรรมเหมือนกันเนอะ   เคยขับที่กรุงเทพฯ (ซึ่งตอนนี้คงไม่กล้าขับแล้ว)  ค่อยๆ ปล่อย รถไหลๆ  ไปเรื่อยๆ  จะยูเทิร์น จะเปลี่ยนเลนก็ค่อยๆ กระ แซะๆ ไปเรื่อยๆ แบบนั้น  รู้สึกว่าที่นี่ไม่ค่อยมีแบบกระแซะๆ แฮะ จากคุณ : วดี - [ 1 ก.ค. 52 13:50:57 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ยาวเหลือเกิน  ขอโทษด้วยนะคะ . . แต่ขออีกหนึ่งล๊อคนะคะ เมื่อสองเดือนก่อน  สามีขี่จักรยานกลับจากที่ทำงาน โดนรถเก๋งที่เลี้ยวมา พุ่งชน  ตัวเขากระเด็นมากระแทก กระจกหน้ารถ แล้วตกไปที่ถนน  อุบัติเหตุ คือ เหตุที่เกิด โดยไม่คาดจริงๆ เลย   แล้วก็เป็นจังหวะชีวิตจริงๆ คือดูจากเหตุการณ์  ถ้าหัวลงนี่ก็เสียชีวิตได้เหมือนกัน นี่เป็นไหล่ซ้ายลงกระแทกพื้น  ไหล่หลุด ต้องใช้เวลา ให้ฟื้นสภาพนานพอควร  แต่นี่ก็เรียกว่าโชคดีที่สุดแล้ว ที่เจ็บแค่นี้ คนขับรถหน้าเผือดมากๆ โค้งขอโทษรอบแล้วรอบเล่า แล้วก็อยู่ที่ รพ.ด้วย จนพี่พาสามีกลับมาบ้านเที่ยงคืนกว่าแล้ว   ทางเจ้าของรถก็ไปสถานีตำรวจ  ตำรวจไปที่เกิดเหตุ แล้วตำรวจ ก็พาคนที่ขับชน ไปส่งบ้านค่ะ  เพราะกระจกหน้าร้าว ทั้งแผ่น ขับไปก็คงอันตรายเนอะ  วันรุ่งขึ้น เราไป รพ.อีก  เขาก็ไปอีก  ต่อมา ก็ซื์้อขนมมาขอโทษอีกรอบ คุยกับคนญี่ปุ่น  เขาก็ว่าเป็นเรื่องปกติ ที่ควรทำ ไม่ทำสิแปลก  แต่สำหรับพี่ พี่รู้สึกแปลกๆ ที่ไม่มา เถียงกันข้างรถ ว่าขับรถประสาอะไร  ต่างคนต่าง ไม่ยอมกันอะไรแบบนั้นน่ะค่ะ     คิดว่า โชคดีที่ เจอคู่กรณีที่เป็นคนปกติทำตามกติกาสังคมที่นี่ด้วยแหละ ถ้าเจอแบบนักเลงๆ คงปวดหัวมากๆ เลย จากคุณ : วดี - [ 1 ก.ค. 52 14:04:26 ]

ความคิดเห็นที่ 13 โอยๆ อ่านแล้วใจคอไม่ดีสำหรับมือใหม่อย่างเรา คนญี่ปุ่นขับรถระวังแต่รวดเร็วมาก บางทีถ้า timing ของเราไม่ดีพอ อาจประสานงากันได้ แถวบ้านมีทางรถไฟเยอะมาก ก่อนข้ามต้องหยุดแป๊บนึง มองซ้ายมองขวา ครั้งหนึ่งเคยเกือบโดนที่กั้นปังลงที่หลังคา ดีที่แม่นั่งอยู่ข้างหลัง รีบเตือนก่อน เราเลยถอยหลังไปหนึ่งเสตป โชคดีไม่ชนรถลุงข้างหลัง เกือบไป สามียังไม่รู้นะเนี่ย ไม่งั้นหูชา อ่านเรื่องของนิสัยการขับรถในโอกินาว่าแล้ว คล้ายๆกับที่กรุงเทพยังไงบอกไม่ถูก ตอนนี้สามีขี่จักรยานไปต่อรถไฟไปทำงาน ยังเป็นห่วงอยู่เหมือนกัน เจอคนมักง่ายไม่คุ้มเลย จากคุณ : มูมู (pnn2) - [ 1 ก.ค. 52 18:04:45 ]

ความคิดเห็นที่ 14 พูดเรื่องเบี้ยประกัน ที่บ้านคุณแม่สามีเพิ่งจะควักจ่ายไปให้น้องชายสามี 2 แสนกว่า เราเห็นแล้วจะเป็นลม ความทีเค้าขับชนได้ตลอด มีเรื่องได้ทุกครั้ง เห็นแล้วสงสารแม่แฟนจริงๆ ส่วนเรื่องขับรถที่ญี่ปุ่นหรอ มันก็ปนๆกันอ่ะค่ะ ไอ้่คนมีมารยาทก็มีเสียจนล้นเหลือ อันนี้ก็ดีไป แต่ไอ้พวกไร้มารยาทนี้อยากจะต้มหนังสือกฎจราจรให้ทานแทนน้ำ ที่พบเจอบ่อยๆ ก็พวกใช้เมล์ไปขับรถไปนี่ล่ะ โทรศัพท์ด้วย แต่ที่อันตรายสุดๆคือ พวกไม่ชอบเปิดไฟเลี้ยว สงสัยจะคิดว่าเค้าขับอยู่คนเดียวในโลกนี้มั๊ง พวกแซงฉวัดเฉวียน แซงซ้ายที ขวาที อันนี้เราด่าให้แฟนฟังบ่อยๆ ว่าเค้าคงรีบไปงานศพบิดาเค้า เลยรอไม่ได้ พวกไฟเขียวไม่อยากจะไป แต่พอไฟเหลือเกือบๆแดงผ่า อันนี้เซ็งเฉยๆ เพราะอย่างไรเราก็ต้องติดอยู่ด้านหลังอยู่แล้ว อย่างมากก็บ่นงึมงำให้ตัวเองได้ยินคนเดียว พวกชอบขับไปจอดท้ายแถวทั้งๆที่รู้ว่ามันไปไม่ได้ ทีนี้พอไฟเปลี่ยนสี ก็ติดอยู่กลายแยก อีกฝั่งก็ขับผ่านไปไม่ได้ ก็ติดยาวเลย ต้องรอให้ไปเปลี่ยนสีกันอีกรอบ บางคนก็ไม่เปิดไฟขอบใจเมื่อเค้าให้ทาง เฮ่อ แค่ยกมือมันยากมากนักหรือไง อย่างนี้ล่ะ พอเค้าไม่หลบทางให้ก็ว่าเค้าใจดำ เฮ่อ สงสัยญี่ปุ่นจะไม่มีกฎให้รถช้าวิ่งซ้าย บางคันขับแค่ 40 วิ่งขวา ด้านข้างก็มีรถช้าอยู่แล้ว รถคันหลังติดยาวกันเป็นพรืดเลย เฮ่อ หนักใจแต่ก็วิ่งตามๆกัน เราเคยบอกแฟนว่า รู้ป่าวว่าอุบัติเหตุเกินครึ่งเกิดจากพวกขับช้า แฟนเราตอนแรกไม่เข้าใจ ตอนไปอยู่เยอรมันกัน เลยถึงบางอ้อ ก็ถนนระหว่างเมืองที่โน่น ไม่มีกำหนดความเร็ว วิ่งกันที 160-200 รถเราวิ่ง 140 นี่ยังโดนแซงสบายๆเลย แต่เค้ามีข้อกำหนดชัดเจนว่า ถ้าเห็นรถที่มีความเร็วมากกว่าวิ่งตามมา จะต้องหลบลงขวาให้(ที่โน่นเค้าพวงมาลัยซ้าย) ขนาดวิ่งกันเร็วขนาดนี้ ไม่เคยมีอุบัติเหตุเกิดบนถนนเส้นนั้นเลย เพราะเมื่อทุกคนขับเร็ว ทุกคนจะตั้งใจและระวังมากเป็นพิเศษ มันคงเป็นสัญชาตยานของมนุษย์มั๊ง นอกเรื่องไปเยอะ ถือว่าเป็นเรื่องเกี่ยวกับรถ กับถนนเหมือนๆกัน เล่าสู่กันอ่านแล้วกันเนอะ อีกนิดละกัน เจอบ่อยมากๆๆๆๆๆ ขี่จักยานไป ใช้โทรศัพท์ส่งเมล์ไป โอ้โห สามารถกันมากๆ ยังเคยบอกแฟนว่า อีกหน่อยสงสัยต้องให้สอบใบขี่จักยาน จากคุณ : Hergest - [ 1 ก.ค. 52 19:26:02 ]

ความคิดเห็นที่ 15 พี่หนุ่ย  อ่านที่พี่หนุ่ยเขียนแล้วอารมณ์เสียไปกับคนที่เปิดประตูรถมาชนนะ ถึงกับมีรอยสีรถเขาขุดรถเราเลย ยังไม่มาขอโทษอีก เป็นจูนนะ แสดงสีหน้าแบบไม่พอใจสุดๆ และจะบ่นแรงๆดังๆว่า คนสมัยนี้คำขอโทษนี่มันไม่มีเหรอ แล้วจะสอนลูกดังๆให้เขาได้ยินด้วยว่า คนเรานะต้องรู้จักคำว่าขอโทษ ทำผิดแล้วไม่ขอโทษนะไม่มีมารยาท แฮ่ะๆๆ ไม่รู้ว่าจูนบ่นหรือพูดประชด อิๆๆ น้องสิงโตกับน้องลูกโซ่ก็น่ารักดีนะคะ อ่านข้อความที่พี่หนุ่ยเขียนแล้วอมยิ้มไป ส่วนกรณีแฟนพี่หนุ่ยถูกเฉี่ยวนั้น อ่านแล้ว เราคนขับรถ เราต้องระวังมากๆจริงๆเลยนะคะ คุณ มูมู คะ ขับรถในเมืองอย่างงั้นก็น่ากลัวนะคะ ไหนจะรถไฟ ไหนจะคนข้ามถนน ไหนจะคนขับรถเร็วๆ  ไหนจะคนขับรถไม่รักษากฏ ยังไงเอาใจช่วยให้ปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนนนะคะ คุณ Hergest  อ่านเรื่องที่คุณเขียนเพลินเลยค่ะ นึกภาพได้ชัดเจนเลย ดูๆแล้วไม่ใช่แค่ที่โอกินาว่าแถวๆ ทางโน้นก็ไม่เบาเลยนะคะ เรื่องคนปั่นจักรยานนี่น่ากลัวอยู่นะคะ ปั่นจักรยานกันเร็วนะคะแถวๆทางโน้น  บางทีเงียบฉิบ เรากำลังจะเดินโยกไปข้างๆเกือบเฉี่ยวก็มี ปั่นจักรยานไปกดเมล์ไป เฮ้อ เข้มงวดมากขึ้นก็คงดีนะคะ เห็นข่าวกรณี รถจักรยานเฉี่ยวเกี่ยวคนแก่กำลังเดินหัวน๊อคพื้นตายก็มี เห็นเขาบอกว่าความเร็วของจักรยานบางคัน เท่ากับสี่สิบกิโลเมตรต่อชั่วโมงเลยนะคะ ถ้าชนเรานี่ก็คงเจ็บไม่น้อยเหมือนกัน จากคุณ : อดีตนักกินจุก - [ 1 ก.ค. 52 20:44:54 ]

ความคิดเห็นที่ 16 สำหรับตัวเองนั้น....จะขับรถแค่ใกล้ ๆ บ้านเท่านั้น ระยะทางเต็มที่ไม่เกิน 5 กิโล...อิอิ   ถ้าไกลกว่านั้น รอโชเฟอร์ขับไปให้จ้า  แบบว่า....มันเครียดเล็ก ๆ ทุกคราวเวลาขับรถ เพราะต้องระวังสาระพัด  แถวบ้านคนแก่+เด็กค่อนข้างเยอะมาก  ถนนก็แคบอีกทั้งไม่มีทางเท้าสำหรับคนเดิน ทำให้เค้ามาเดินกันเกือบกลางถนน  จะบีบแตรไล่ ก็กลัวว่าเค้าจะตกใจ หกล้ม เจ็บตัวไปเราก็ผิด  ก็ต้องรอ (จอดรอเลยละค้า) ให้เค้าเดินผ่านกันไปก่อน   เคยไปเที่ยวที่โอซาก้า  นานเป็น 10 ปีมาแล้ว เพื่อนรุ่นพี่ทำงานที่นั่น ก่อนที่เค้าจะย้ายกลับเมืองไทย  เห็นรถติด+วิธีการขับรถของคนที่นั่น ยังบอกพี่เค้าเลยว่า...แบบนี้ขับรถซำบายเหมือนเมืองไทยเลย  ปัจจุบันนี้....ไม่ทราบเหมือนกันว่า..เค้าเปลี่ยนแปลงหรือเปล่า? เพราะไม่ได้ไปอีกเลยค้า จากคุณ : เต่าญี่ปุ่น - [ 2 ก.ค. 52 05:54:11 ]

ความคิดเห็นที่ 17 เพิงมาอยู่ไม่นานยังไม่เคยขับรถที่นี่ค่ะ  แต่รู้สึกว่าคนที่ขับรถเค้าจะให้ความสำคัญกับคนที่เดิน และ จักรยานก่อน  ถ้าเห็นคนเดินหรือจักรยานมาเค้าจะหยุดให้ไปก่อน (ไม่ทราบเข้าใจถูกรึเปล่า  หรือนี่มันเฉพาะแถวที่เราอยู่??)  เราเองยังเผลอหยุดรอให้รถไปก่อนบ่อยๆ  มองหน้ากันไปมาไม่มีใครยอมไป  จนสามีต้องเตือนให้เดินไปเร็วๆบ่อยๆ  แต่อ่านที่คุณวดีเล่ามาแล้วน่ากลัวจริงๆค่ะ  ต่อไปขี่จักรยานผ่านซอยที่รถจะออกมาต้องระวังให้มากขึ้น   อาทิตย์ที่แล้วขึ้นแทกซี่คันนึง  ซิ่งมากๆ  ขับรถเหวี่ยงสุดๆ  ยังบอกสามีเลยว่าแทกซี่คันนี้เหมือนแทกซี่เมืองไทยเลยเนอะ จากคุณ : applepk - [ 2 ก.ค. 52 06:23:16 ]

ความคิดเห็นที่ 18 จะว่าไปเรื่องรถจริงๆ เหมือนจะเป็นวัฒธรรมประจำชาตินะคะ เพราะเท่าที่ไปเที่ยวบ้าง ไปอยู่บ้าง ต้องบอกว่าแต่ละประเทศมีวัฒธรรมการขับรถไม่เหมือนกัน เท่าที่เคยเจอมา คนอิตาลีขับรถได้สุดๆๆๆๆๆ อาจจะเป็นเพราะถนนแคบ และขับกันเร็ว ไหนจะมีมอเตอร์ไซอีก ขับกันน่ากลัวมากๆ เรื่องจอดรถก็ไม่มีที่ไหนเกินคนฝรั่งเศส ปารีสนี่เลย ความที่ที่จอดรถน้อย เค้าก็จอดเบียดๆกันไป อ่านไม่ผิดค่ะ เบียดๆกัน ชนหน้าชนหลัง เบียดๆเข้าไปจอด กันชนของรถที่นั่นมีแต่รอยบุบ 5555 ของคนอังกฤษ เราไม่แน่ใจนะ เห็นแค่ถนนที่นี่เล็ก เพราะใช้ทางเดิมจากทางรถม้า ดังนั้นถนนก็แคบ จึงเกิดรถคันเล็กๆที่เรียกว่า รถมินิคูเปอร์ ขึ้นมานั่นเอง ส่วนของไทยเรานั้น ไม่มีอะไรเกิน รถเขียวด่วนนรกไปได้ ไม่ว่าเราจะไปเหยียบดางอังคารหรือดาวพลูโต เค้าก็จะไม่เปลี่ยนความเร็ว 55555555 อันนี้แค่การสันนิฐานของเรานะคะ จากคุณ : Hergest - [ 2 ก.ค. 52 06:28:15 ]

ความคิดเห็นที่ 19 คุณ เต่าญี่ปุ่นคะ จูนว่า คนโอซาก้า โอกินาว่า และก็คนไทยนี่ คล้ายๆกันเลยนะคะ พึ่งไปโอซาก้ามาไม่นานมานี้ค่ะ รู้สึกว่ายังไม่ค่อยเปลี่ยนจากที่คุณเต่าญี่ปุ่นเคยเจอสักเท่าไหร่ คุณ applepk ที่ญี่ปุ่นนี่ ถ้าขับรถชนคนตาย เหมือนเราตายไปด้วยเลยค่ะ เสียเงินก้อนโต หรือไม่ก็เข้าคุก และก็เสียประวัติไปเลย คนใช้รถใช้ถนน จะกลัวชนคนมากกว่าชนรถด้วยกันอีกค่ะ คุณ Hergest ไปมาหลายประเทศเลยนะคะ เป็นคนช่างสังเกตด้วย แต่ก็จริงอย่างที่คุณคิดเลยนะคะ แต่ละประเทศนี่ก็แตกต่างกันจริงๆ จูนเคยอยู่เวียดนามยังนึกถึงการจราจรที่เวียดนามแล้วยังขนลุกไม่หาย ประเทศเวียดนามเขาไม่จอดรถให้เราข้ามถนนนะคะ เราเดินทำเป็นไม่สนใจเดี๋ยวเขาจะหลบให้ ถ้ารถยนต์ก็ต้องระวังเอง ยังขำ ที่ตำรวจจราจร คอยเอากะบองตีหัว คนขับรถมอเตอร์ไซด์ที่ฝ่าไฟแดงไม่หายเลยค่ะ แบบว่าสมัยนั้นพึ่งจะมีไฟจราจร คนเวียดนามยังไม่ค่อยคุ้นเคย แล้วก็บีบแตรนี่ พี่เขาจะบีบทุกวินาทีที่ขยับเขยื่อนเลยแหละค่ะ เพราะอะไรก็ไม่รู้ นั่งแท็กซี่เอย เดินข้างถนนเอย จะได้ยินเสียงบีบแตร ยังกับเล่นคอนเสริตกันเลยค่ะ  สงสัยนี่ก็เป็นวัฒนธรรมของเขาแน่เลย จากคุณ : อดีตนักกินจุก - [ 2 ก.ค. 52 07:38:36 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ตอนไปเที่ยวกันกับแฟนที่โอซาก้า แฟนแอบบ่นให้ฟังว่าส่วนมากคนขับรถในโอซาก้ามักไม่มีน้ำใจเท่าไรนัก นั่งๆไปสักพัก ไม่ทันขาดคำ ก็เจอคนขับปาดหน้า ฮ่าๆ บ้างก็เบียด เลยหันไปหัวเราะกะแฟนว่า จริงด้วยเนอะ จริงๆด้วยค่ะ อาจดูคล้ายๆคนบ้านเรา เลยบอกแฟนว่าอยากเจอหนักกว่าก็มาขับที่ไทยด้วยนะ อิๆ ส่วนตัวเองคงอีกนานเลยค่ะกว่าจะได้ไปเรียนไปสอบใบขับขี่ รอมาอ่านหลายๆเรื่อง เป็นประสบการณ์ที่ดีในการเตรียมตัวเวลาอยู่บนท้องถนนทั้งนั้นเลยค่ะ ขอบคุณค่ะ จากคุณ : mame (@FirstblusH) - [ 2 ก.ค. 52 13:43:27 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ลงชื่ออ่านจนจบ เคยนึกด่าคนขับรถบรรทุกที่ญี่ปุ่นในใจ ขณะขับรถไปกินข้าวไป อ่านหนังสือไป ช่างมีความสุขเหลือเกิน เคยเห็นแม้กระทั่งขับไปแปรงสีฟันไป เห็นแล้วอยากจะหัวเราะก็หัวเราะไม่ออก จากคุณ : พนอจัน - [ 2 ก.ค. 52 18:09:30 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ข่าวของพี่ออย ได้ดูภาพจำลองเหตุการณ์ในทีวีค่ะ  แม่ข้ามถนน แต่ไม่ได้จูงลูกหรอก ปล่อยให้ลูกเดินตามหลัง ( ภาพพวกนี้เราเห็นประจำ ตอนมาญี่ปุ่นแรกๆยังคิดเลยว่า พวกผู้ใหญ่คนญี่ปุ่นทำไมเค้าใจดำกันจัง ลูกตัวเล็กๆไม่จูงปล่อยให้เดินตามหลัง ) ทีนี้ แม่เดินข้ามถนน แล้วรถคันนั้นจะเลี้ยวตรงที่คนนั้นข้ามพอดี ในภาพจำลองเค้าบอกให้เห็นว่า แม่เดินเลยไปแล้ว แล้วรถก็จ่อจะเลี้ยว คิดว่า รถมองไม่เห็นตัวเด็กที่เดินตามหลังแม่ (เำพราะเด็กแค่สองขวบเอง ต่ำกว่ากระโปรงรถอีก มองไม่เห็นหรอก )   ในข่าวระุบุด้วยว่า เนื่องจากคนขับมองไม่เห็นเด็ก ก็เลยไม่ได้ชะลอขณะเลี้ยว เพราะเห็นผู้หญิงเดินข้ามไปแล้ว แบบ บ้าอ่ะ  แม่คนญี่ปุ่นทั่วไปอ่ะ ชอบปล่อยให้เด็กเดินตาม แบบว่าแทบไม่มองว่าเด็กมันจะเดินตามยังไง ( ตัวเราเคยลองทำแบบนั้นดูนะ แต่แบบว่า โอ้ยไม่ไหว ห่วงลูกไปหมด นี่แบบว่าแค่เดินบนทางเดินที่มีรั้วนะยังห่วง แต่แบบคนอื่นอ่ะ ทางเดินเท้าไม่มีรั้วกั้น บางทีก็แบบไม่มีฟุตบาทแต่ปล่อยให้เด็กตัวน้อยๆ เดินตามหลัง แม่มันจะไปมองเห็นได้ยังไงถ้ามีอะไรเกิดขึ้น) จักรยานอีก บางคนก็แบบว่าแม่ปั่นนำ ลูกปั่นตาม เกิดเด็กมันเร่งให้ทันแม่ โดยไม่สนใจว่าจะมีรถออกจากซอยยังไง แบบนั้นแย่เลย... ไม่เข้าใจจริงๆ ข่าวนั้นเราว่าผิดที่ตัวแม่มันนั่นแหล่ะ  ไม่ยอมจูงมือลูกเดินข้ามถนน  สุดท้ายก็ต้องเิจอกับความเสียใจแบบนี้มันก็สมแล้วหล่ะ จากคุณ : LilyAi - [ 2 ก.ค. 52 18:10:48 ]

ความคิดเห็นที่ 23 แถวบ้านโอ๋ดีหน่อยที่ส่วนใหญ่จะรักษากฎกัน ไม่ค่อยมีแบบปาดซ้าย ปาดขวาให้เห็น จะมีก็แต่พวกโอยีซัง โอบ้าซังทั้งหลายแหล่ ที่ขับรถเสี่ยงต่อการถูกชนมากๆ เจอทางโค้งเบรก เจอจักรยานปั่นอยู่เบรก เจอรถขับสวนมาเบรก ขับตามหลังแล้วหงุดหงิดมากๆ  แล้วก็ขับตามกฎเป๊ะ 40 เป็น 40 ไม่ขับเร็วกว่านี้ ส่วนที่คุยโทรศัพท์ไป ขับรถไป ก็ยังเห็นอยู่บ้าง บางคนก็แต่งหน้ากันก็มี พอรถติดที ก็หยิบมาแต่งที กว่าจะถึงที่หมายก็สวยพอดี อิอิ ส่วนเรื่องความโชคร้ายเกี่ยวกับรถ คงจะเป็น รถโดนขูดรอบคันเลย ทั้งๆ ที่จอดไว้ในรั้วบ้านตัวเองแท้ๆ กว่าตำรวจจะจับได้ก็ปาเข้าไป 4 เดือน ที่จับได้ก็เพราะคนร้ายเป็นคนสติไม่ค่อยดี (แต่ขับรถได้????) ดันไปขูดรถคนอื่นอีกหลายสิบคัน ตำรวจก็เลยต้องกระตือรือร้นทำงานกันมากหน่อย แต่จับได้แล้วก็ไม่เห็นมีอะไรเลย เพราะถ้าเราจะเอาเรื่อง ต้องดำเนินเรื่องเอง แล้วคนร้ายก็ดูว่าไม่มีท่าทางจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายได้เลย ก็เลยต้องปล่อยเลยตามเลย รถที่ซ่อม ประกันก็จ่ายให้ ดีหน่อยที่เบี้ยประกันไม่ขึ้นตามไปด้วย จากคุณ : fruitlove - [ 2 ก.ค. 52 20:31:23 ]

ความคิดเห็นที่ 24 คุณ mameเก็บข้อมูลไปเรื่อยๆนะคะ พอได้ขับรถ เห็นคนประเภทที่เพื่อนๆพี่ๆสมาชิกในห้องนี้เล่าแล้วจะได้ ทำใจ ไม่ซีเรียสมากค่ะ คุณ พนอจัน  ขอบคุณนะคะที่แวะเข้ามาอ่านจนจบเลย อ่านแล้วนึกภาพไปด้วย ถ้าเกิดอุบัติเหตุขึ้นมานี่เจ้าตัวเขาจะหน้ายังไงนะ นี่แหละค่ะ ยิ่งขับเก่งขับชำนาญก็ยิ่งประมาท ตำราเรียนที่เรียนที่โรงเรียน หรือความเข้มงวดกว่าจะได้ใบขับขี่นี่มันใช้ได้เฉพาะตอนเรียน พอจบมา แรกๆหลายๆคนก็ระวัง พอนานๆไป กลายเป็นขับตามใจฉัน นี่แหละค่ะที่อยากจะตั้งกระทู้นี้ขึ้นมา เพราะว่าอยากให้หลายๆคน รู้ว่าที่ญี่ปุ่น ประเทศที่ดูเหมือนจะมีกฏระเบียบอะไรเยอะแยะ ดูเหมือนผู้คนจะรักษากฏอย่างเคร่งครัด แต่ว่า มันไม่ใช่ว่าทุกคนจะทำยังมีบางส่วนที่เป็นอย่างที่หลายๆคนเล่าในกระทู้นี้ค่ะ สำหรับคนที่จะขับขี่รถยนต์ในอนาคต อ่านๆแล้วก็อย่าพึ่งกลัวการขับรถนะคะ ถ้าดวงเราไม่ซวยจริงๆ ก็คงไม่เกิดอะไรง่ายๆหรอกค่ะ ต้องคิดในแง่ดีเข้าไว้ คุณ  LilyAi เห็นด้วยมากๆเลยค่ะ ว่าเด็กๆนี่ปล่อยให้เดินคนเดียวไม่ได้เลย เคยจูงลูกข้ามถนนตอนเขาสามขวบ สี่ขวบ ในขณะนั้น ไฟที่ให้คนเดินข้ามใกล้จะหมด เราก็รีบๆจูงเขาพอเดินไปได้สักพัก ลมมันแรงพัดหมวกสุดรักเขาปลิวไปบนถนน เจ้าหนูน้อยนะจะพยามวิ่งไปเก็บหมวกกลางถนน โชคดีที่แม่คว้ามือได้ทัน ตอนจูงมือเขาคือเขาจะเป็นคนมาจับมือเราค่ะ   ก็คิดว่าเขาคงไม่ปล่อย เพราะดูๆเขาเป็นคนที่ไม่ชอบเดินห่างแม่ แต่ก็ไม่คิดว่าเขาจะอยากไปเอาหมวกมากๆ แม่กระชากและดุว่าไม่ได้อันตราย ก็ร้องไห้ใหญ่เลย ร้องหาหมวก พอดีมีคนขับมอเตอร์ไซด์มาพอดีเขาก็เลี้ยวรถไปเก็บให้ นึกแล้วกลัวไม่หายเลยค่ะ หลังจากนั้นจะอุ้มข้ามถนนเลยค่ะ ไม่ให้เดิน และก็จะจูงมือเสมอ จนโตสิบขวบแล้วก็ชอบเดินจูงมือเขาเหมือนเดิมค่ะ ตอนนี้โตสิบขวบแล้วยังเป็นห่วง นานๆทีถึงจะให้เดินกลับจากโรงเรียน จากคุณ : อดีตนักกินจุก - [ 2 ก.ค. 52 20:39:38 ]

ความคิดเห็นที่ 25 คุณ โอ๋ อยู่แถวไหนคะ ดีจังนะคะ ท่าทางคงไม่ค่อยมีอุบัติเหตุบ่อย รถที่โดนขุดนิดๆหน่อย ประกันช่วยจ่าย ไม่ขึ้นเบี้ยประกันค่ะ รถจูนนะคะ สามีถอยจอดชนเสา ตรงที่จอดรถของแมนชั่นค่ะ แล้วมีรอยบุบสาหัส ค่าซ่อม สิบกว่ามัง ประกันเขาก็คงปาดเหงื่อนะค่ะ จริงๆแล้วเราก็ทำประกันแบบว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นค่าประกันก็คงเดิม แต่ว่า ประกันนั้นเราทำแล้วก็ถอยรถชนพอดี ประกันเขาบอกว่า ประกันนั้นยังไม่เริ่มบังคับใช้ ต้องรออีกเดือนหนึ่ง ดันชนก่อนเขาบังคับใช้เสียด้วยสิ  ซวยเลย จากคุณ : อดีตนักกินจุก - [ 2 ก.ค. 52 20:46:14 ]

ความคิดเห็นที่ 26 หุหุหุ  ขอแจมด้วยคน ด้วยความคับแค้นใจ ..... ใกล้บ้านมีโรงเรียนม.ปลาย เด็กนี่สุดยอด  ขี่จักรยานไป คุยโทรศัพย์ไป ขี่จักรยานไป ใส่หูฟังไป  ขนาดเราขับรถจ่อตูดมัน มันยังไม่รู้เรื่อง ก็มันเล่นใส่หูฟังแล้วร้องเพลงตาม  กฏหมายญี่ปุ่นมันอ่อนตรงเนี้ย แต่แถวบ้านเรา ยังไม่มีการใช้รถส่งลูก เลยไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องรถติดหน้าโรงเรียน แต่คุณนายทั้งหลาย ประเภท จะเลี้ยวแล้วไม่เปิดไฟเลี้ยว เซ็งสุด  คิดเล่นๆ แกได้ใบขับขี่มาได้ไงหว่า.... หรือ จอดมันตรงโค้งนี่แหละ  ไอ้เราตามหลังมา ตูไปไงหว่า..... ส่วนคุณผู้ชายแถวนี้ก็ ... ติดโทรศัพย์..ขับไปคุยไป เคยนั่งแช่งขอให้มันโดนตำรวจจับ แต่นั่นยังไม่เท่าไหร่   ต้องเจอนี่ขับไปอ่านการ์ตูนไป   แช่งเหมือนกัน ขอให้มันโดนชน คิดเหมือนเรามั้ย... สอบใบขับขี่ก็ยาก แต่ทำไมมันถึงขับรถได้....แย่ขนาดนี้ เฮ้อ....อีกที แก้ไขเมื่อ 03 ก.ค. 52 18:29:12 จากคุณ : รวมการเฉพาะกิจ - [ 3 ก.ค. 52 18:27:15 ]

ความคิดเห็นที่ 27 มาแจมด้วยค่ะ ขับรถตามไฟแดงญี่ปุ่นนี่น่ากลัวจริงๆนะคะ อย่างข่าวที่ชนเด็ก2ขวบนี่ เราเองมีลูกก็โมโหความชุ่ยของแม่ญี่ปุ่นมากเลยค่ะ ที่เห็นคาตาตัวเองหลายครั้งหลายหนแล้วก็มีเหมือนกันค่ะ แถวบ้านเนี่ยเค้าปล่อยลูกประมาณ3ขวบออกมาถีบจักรยานบนถนนเพื่อจะไปสนามเด็กเล่นคนเดียวค่ะ เห็นเป็นแบบนี้กันหลายบ้านเลยค่ะ ไม่รู้ว่าแม่ๆญี่ปุ่นพวกนั้นเค้าคิดอะไรนะคะ ขี้เกียจ?เบื่อ?หรือเหนื่อยจะสนใจ ูลูก?.......ดิชั้นเคยเห็นรถส่งของคุโระเนโกะเกือบชนเด็กเลยค่ะ เพราะหนูน้อยเล่นขี่ปาดหน้าข้ามไปอีกฝั่งค่ะ......โชคดีรถเค้าเบรคแล้วหักหลบค่ะ แต่รถก็ตกไปท้องร่องน้ำข้างๆถนนนะคะ ขนาดมีอุบัติเหตุแม่ญี่ปุ่นบ้านนั้นเค้ายังไม่ออกมาดูลูกเค้าเลยค่ะ มีป้าๆแถวนั้นไปเรียกแกออกมา ............... อีกเรื่องเกี่ยวกับไฟแดงนอกจากเด็กแล้วก็คือคนแก่ที่ข้ามถนนที่นี่ค่ะ น่ากลัวนะคะคนญี่ปุ่นเนี่ยไม่ระวังรถกันเลย เอาแต่คิดผลักภาระการระวังให้เป็นเรื่องของผู้ขับอย่างเดียว อันนี้แม่สามีตัวเองนะคะ....พอไฟเขียวให้ข้ามมันขึ้น คนอื่นข้ามถนนกันไปหมดแล้ว รถคันอื่นๆเค้าก็จะค่อยวิ่งเลี้ยว  แต่อิคุณแม่สามีดิชั้นเนี่ยชีมาถึงเห็นว่าไฟเขียวอยู่ก็วิ่งข้ามไปเลยค่ะ ไม่สนใจหยุดให้รถที่วิ่งเค้าเห็นว่าเรากำลังจะข้ามเลย เป็นผลให้ แม่สามีดิชั้นโดนรถตู้ชนจะๆต่อหน้าต่อตาดิชั้นที่ท้องแก่ ยืนกรี๊ดๆตกใจอยู่นั่นเลยค่ะ(แบบตอนที่เห็นนี่ติดตาเลยค่ะ คิดว่าไม่รอดแน่ๆ เพราะล้อรถวิ่งไปตัวแม่สามีเลยค่ะ)........รู้สึกงานนั้นดิชั้นแอบสงส่ารคนขับรถคุณป้าที่ชีดันมาชนแม่สามีดิชั้นที่ไม่ระวังข้ามภนนเองค่ะ  คุณป้าคนนั้นเอาแต่เสียใจ มาขอโทษขอโพย มาเยี่ยมแม่สามีที่โรงพยาบาลทุกๆวันเลยล่ะค่ะ ถือว่าเป็นการรับผิดชอบที่จากผู้ขับที่ดิชั้นแอบประทับใจไม่เคยชินมากๆเลยล่ะค่ะ อ่านประสบการณ์แทบบ้าน จขกท แล้วร้อนๆหนาวๆเลยค่ะ คนญี่ปุ่นนี่บทจะขับรถประมาทก็น่ากลัวมากนะคะ ส่วนตัวว่าพ่อแม่ญี่ปุ่นเนี่ยสะเพร่าไม่ระมัดระวังลูกเท่ากับคนไทยเลยค่ะ จากคุณ : หม่ามี๊โยชิ-นาโอะ (Vanessa_P) - [ 3 ก.ค. 52 21:34:30 ]

ความคิดเห็นที่ 28 คุณ รวมการเฉพาะกิจ คะ อ่านที่คุณเขียนแล้วได้อารมณ์ดีค่ะ แบบว่าอารมณ์เดียวกันเลย เวลาเจอคนจะเลี้ยวไม่จอมเปิดไฟเลี้ยวนี่ บางทีก็เลี้ยวปาดหน้าเราดื้อๆก็มีนะคะ คิดเหมือนกันเลยนะคะ สอบใบขับขี่ยาก เวลามาอุบัติเหตุทีก็ลำบาก แต่คนก็ยังประมาทกันว่าไหมคะ คุณ หม่ามี๊โยชิ-นาโอะ คะ ว่าแล้วก็จริงอย่างที่คุณเขียนเลยค่ะ เห็นแม่บ้านเขาปล่อยเด็กๆสามสี่ขวบ ปั่นจักรยานคนเดียว บางที เห็นเด็กบางคน ออกไปซื้อของมาให้แม่ด้วยนะคะ ถ้าเป็นบ้านเราตามบ้านนอก เดินไปซื้อของร้านใกล้ๆบ้านก็โอเค แต่นี่ รถก็เยอะ คนโรคจิตก็เยอะ น่ากลัวนะคะ แล้วอุบัติเหตุที่แม่สามีคุณเจอแล้ว น่ากลัวนะคะ แบบว่าถ้าเป็นเรานะคงช็อคลืมไม่ลงเลย เหมือนกันค่ะ จากคุณ : อดีตนักกินจุก - [ 4 ก.ค. 52 17:58:35 ]