ความคิดเห็นที่ 1 แปลกจังไฟล์รูปไม่ขึ้น งั้นลองใหม อิอิ จากคุณ : VERO MODA - [ 1 ก.ค. 52 13:02:01 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ทางที่ดี ก็ติดต่อบอกกับพ่อ ขอให้พ่อให้ความร่วมมือ ถ้าเขาไม่ยอม และคุณอยากได้จริงๆ ก็ต้องเสียเงืน ทำตามกฎหมายนะ จากคุณ : ธนิตา - [ 1 ก.ค. 52 13:30:12 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ขอบคุณนะค่ะคุณธนิตา สำหรับความเห็น เราได้ลองหลายครั้งแล้วในการติดต่อพ่อเขา แต่ไม่ได้รับความร่วมมือ..... ณ ตอนนี้เลยคิดถึงการตรวจ DNA แต่ปัญหาคือ ไม่ทราบต้องเริ่มต้นยังไง...... ในส่วนที่่ว่า ต้องเีสียเงินทำตามกฎหมายนั้น เข้าใจค่ะ แต่อยากทราบคร่าวๆว่า เราต้องทำไงบ้าง เพราะทราบมาว่าตามกฎหมายแล้วมันมีขั้นตอน และวิธีทำอยู่เหมือนกันที่เราไม่จำเป็นต้องเีสียเงินมากนัก ในการดำเนินการส่งเอกสารไปให้ทาง Home Office เขาไปติดตามตัวพ่อ มาดำเนินการตรวจ DNA ซึ่งตรงนี้ก็ต้องใช้ทนายและเราก็เข้าใจดีคะ เพียงแต่อยากทราบขั้นตอนคร่าวๆนะคะ หรือหากมีหนทางที่จะทำได้โดยพึ่งทนายน้อยที่สุด ก็คงดี..... มีคุณแม่ Single mom ท่านใด ทำสำเร็จบ้างแล้ว รบกวนแนะนำทีคะ หรือมีผู้รู้ท่านใดที่อังกฤษจะพอแนะนำได้บ้าง ก็ขอบคุณจริงๆคะ... เป็นพระคุณมากๆ คะ เพราะว่าหากดิฉันทำได้ ก็มีเพื่อนอีก 2 คน ที่เป็นเหมือนดิฉันคะ เป็นเพื่อนร่วมชะตากรรมเดียวกัน ที่รอความช่วยเหลือและจะทำตามอยู่ แก้ไขเมื่อ 01 ก.ค. 52 14:54:15 จากคุณ : VERO MODA - [ 1 ก.ค. 52 14:52:33 ]

ความคิดเห็นที่ 4 *** เรื่องนี้น่าเห็นใจเด็ก  และมารดาเด็ก  เป็นอย่างมาก *** แต่เคยมีคำถามทำนองนี้มาแล้วในห้องไกลบ้าน *** กรณีนี้ บิดาเด็กมิได้จดทะเบียนสมรสกับแม่  และบิดาเด็กก็มิได้จดทะเบียนรับรองบุตรให้กับลูกสาวคนนี้ด้วย  ใช่หรือไม่ *** ข้าพเจ้า  และอีกหลายท่านเคยให้ความเห็นกระทู้ทำนองนี้มาแล้ว    โปรดเข้าไปอ่านดูเพื่อทราบมุมมองที่หลากหลายเผื่อเป็นประโยชน์ได้ที่ " คลังกระทู้เก่า "   ดังนี้ เรียกร้องสิทธิให้ลูกได้สองสัญชาติ http://www.topicstock.pantip.com/klaibann/topicstock/2009/05/H7872441/H7872441html   หวังว่าคงจะเป็นเป็นประโยชน์แก่ท่านเจ้าของกระทู้ แก้ไขเมื่อ 01 ก.ค. 52 18:08:26 จากคุณ : Detente - [ 1 ก.ค. 52 15:46:13 ]

ความคิดเห็นที่ 5 It will be best to contact CAB (Citizens Advice Bureau) http://www.adviceguide.org.uk/index.htm Look for an office nearest to you. จากคุณ : genf - [ 1 ก.ค. 52 15:47:41 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ขอบคุณสำหรับคำแนะนำนะค่ะคุณ Detente สำหรับคำถามว่า.... *** กรณีนี้ บิดาเด็กมิได้จดทะเบียนสมรสกับแม่  และบิดาเด็กก็มิได้จดทะเบียนรับรองบุตรให้กับลูกสาวคนนี้ด้วย  ใช่หรือไม่ +++ ใช่แล้วค่ะ ดิฉันและพ่อเขาไม่ได้จดทะเบียนสมรสกันคะ เพียงแต่เรามีการหมั้นกัน และ         มีโครงการจะแต่งงานกันในไม่ช้า.......... แต่เกิดมีปัญหาขึ้นมาก่อน เลยไม่ได้แต่งงานกัน         หลังจากเกิดเรื่องพ่อของเด็กก็ไม่ติดต่อมา ตอนนี้ดิฉันอยู่ไทย มันจึงเป็นปัญหาที่ยาก         มากในการจะไปตามตัวเขามาจดทะเบียนรับรองบุตร ++++ link ของกระทู้ให้มา ไม่ทราบว่าเพราะเหตุใดแต่ดิฉันเปิดไม่ได้เลยค่ะ        เลยยังไม่ได้อ่านความเห็นในกระทู้ที่ให้มาเลยนะคะ --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- คุณ genf คะ ขอบคุณมากค่ะสำหรับ link ที่ให้มา จะลองเข้าไปอ่านดูนะค่ะ แต่ว่าดิฉันอยู่เมืองไทยค่ะ ไม่ทราบเหมือนกันว่าจะติดต่อหน่วยงานนี้ให้ช่วยติดต่อ ดำเนินการแทนเราได้ไหม....... ยังไงจะลองศึกษาข้อมูลดูก่อนค่ะ ขอบคุณนะคะสำหรับ คำแนะนำดีๆ แก้ไขเมื่อ 01 ก.ค. 52 16:10:45 แก้ไขเมื่อ 01 ก.ค. 52 16:09:42 จากคุณ : VERO MODA - [ 1 ก.ค. 52 16:08:50 ]

ความคิดเห็นที่ 7 โอ้ คุณ Detente คะกระทู้ที่คุณให้มาเปิดอ่านได้แล้วคะ ดิฉันได้ Copy เอาหมายเลขกระทู้ไปค้นหาในกูเกิ้ลดู จึงได้อ่านคะ หลังจากที่ได้อ่านความเห็นของคุณในกระทู้ดังกล่าวแล้ว ดิฉันเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งคะ แต่ว่ากรณีดิฉันนั้น ดิฉันไม่ได้ต้องการเรียกร้องค่าเลี้ยงดูคะ และบิดาของเด็กก็ไม่เคย จดทะเบียนรับรองบุตรดังเคสนี้ ดังนั้นกรณีดิฉันจึงยากพอสมควร แล้วสิ่งที่ดิฉันต้องการคือการขอสัญชาติให้บุตรสาวเท่านั้นคะ.... ข้อมูลในการดำเนินการนั้นดิฉันได้ศึกษามาเยอะพอสมควร เพราะได้มีการติดต่อสอบถาม มาแล้วทั้งจาก Home Office และจากสถานทูตไทยที่กรุงเทพ แต่คำยืนยันจากทั้งสองที่ ก็คือคำตอบเดียวกัน ที่มันเป็นปัญหาสำหรับตัวดิฉันอยู่ขณะนี้ ที่ยังแก้ไม่ตก นั้นคือ ในการขอสัญชาติอังกฤษให้บุตรสาวดิฉันนั้น ดิฉันจำเป็นต้องมีเอกสารตัวจริง ของบิดา + Copy มายื่นเรื่องในการขอสัญชาติให้บุตรสาว แม้ว่าบิดาไม่ได้จดทะเบียนรับรองบุตร ที่อำเภอ หากมีเอกสารตัวจริงมายื่นเรื่อง ก็สามารถดำเนินการได้ นั้นคือสิ่งที่ดิฉันได้รับการบอกกล่าวมา จากทั้ง Home Office และสถานทูตอังกฤษ ดิฉันได้ส่งอีเมล์ และโทรไปสอบถามเพื่อความแน่ใจแล้ว ว่าถ้าดิฉันมีแค่ Copy สามารถ ดำเนินการได้ไหม คำตอบที่ได้จากทั้งสองสถานที่ คือ "ไม่ได้" ดังนั้นทางเลือกสำหรับดิฉันตอนนี้ จึงเหลือเพียง การตรวจ DNA เพื่อให้ทาง Home Office ไปติดตามตัวบิดา มาเทียบ DNA กับเด็ก เพื่อพิสูจน์ความเป็นพ่อ และหลังจากนั้นดิฉันก็สามารถใช้หลักฐานดังกล่าวในการยื่นดำเนินการขอสัญชาติ ให้บุตรสาวดิฉันได้ต่อทันที.................... ทั้งหมดนี้คือข้อมูลที่ดิฉันได้มาค่ะ..... ท่านผู้รู้คะ รบกวนบอกต่อทีว่าต้องทำไงต่อ..... เพราะเท่าที่ทราบมา การจ้างทนายที่อังกฤษแพงมาก...... หากขั้นตอนไหนประหยัดได้ ก็อยากประหยัดคะ....... ไม่ใช่จะไม่ใช้ทนายนะ จากคุณ : VERO MODA - [ 1 ก.ค. 52 16:55:03 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ขอเข้ามาฟังคำตอบ และอยากได้คำชี้แนะ เรื่องเกี่ยวกับขึ้นตอน การตรวจ DNA เพื่อให้ทาง Home Office ไปติดตามตัวบิดา มาเทียบ DNA เหมือนกัน จากคุณ : เมย์ (Markymay) - [ 1 ก.ค. 52 20:35:07 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ใช่แล้วเมย์ มาโหวตกระทู้ให้มีคนมาช่วยตอบ และแนะนำแนวทางกันเยอะๆ กันเถอะ กฏหมายอังกฤษ เรารู้ว่าเขาช่วยแม่และเ็ด็ก แต่เราคลำและศึกษาข้อมูลกันมานาน แต่ก็ยังไม่รู้จะทำไงกันอยู่ดี..... จากคุณ : VERO MODA - [ 1 ก.ค. 52 20:51:59 ]

ความคิดเห็นที่ 10 http://topicstock.pantip.com/klaibann/topicstock/2009/05/H7872441/H7872441.html ดังนั้นทางเลือกสำหรับดิฉันตอนนี้ จึงเหลือเพียง การตรวจ DNA เพื่อให้ทาง Home Office ไปติดตามตัวบิดา มาเทียบ DNA กับเด็ก เพื่อพิสูจน์ความเป็นพ่อ และหลังจากนั้นดิฉันก็สามารถใช้หลักฐานดังกล่าวในการยื่นดำเนินการขอสัญชาติให้บุตรสาวดิฉันได้ต่อทันที.................... I am afraid that the Home Office cannot force the biological father to come forward. It is your own responsibility to convince him to go there to present his case for the future of his own daughter. Without any co-operation from the father, you will never get anywhere on your own. http://www.bia.homeoffice.gov.uk/britishcitizenship/eligibility/children/britishcitizen/borntobritishfather/ How the law stands as of July 2006. This page explains how a child born before 1 July 2006 to unmarried parents can be registered as a British citizen if his or her father is a British citizen. Since 1 July 2006 both parents are able to pass on their British citizenship to their children even if they are not married providing there is satisfactory evidence of paternity. We will normally register any child born before 1 July 2006 to a father who is a British citizen father under section 3(1) if the requirements below are met:    * we are satisfied about the paternity of the child; and    * we have the consent of all those with parental responsibility; and    * we are satisfied that if the parents were married:      - the child would have an automatic claim to British citizenship; or      - the child would have an entitlement to registration under sections 1(3), 3(2) or sections 3(5) of the British Nationality Act 1981; or      - we would normally have registered the child under section 3(1); and    * if the child is over 10 year of age, they are of good character. In these circumstances, registration under section 3(1) of the British Nationality Act would be at our discretion, if we think it is reasonable under the circumstances. To be satisfied of the child's paternity we would usually expect you to provide:    * a birth certificate issued within one year of the child's birth naming the child's father; or    * any other evidence such as DNA test reports or court orders relevant to paternity. If you are unable to provide the above evidence, we will normally accept that a man is the father of a child if:    * paternity has been acknowledged in some other official context, for example if the child was born abroad and the relationship has been accepted for United Kingdom immigration purposes; or    * he has stated that he is the father and we have confirmation of that from the mother, providing there is no evidence to suggest that their evidence is false. It is extremely hard for you as you are not in the UK. You can try asking for an advice from, however: http://thaiwomensorganisation.com/ it is a long shot but at least you will get some sort of advice from a professional, the Britain's only Thai Barrister sanctioned to try cases in court. All the best. แก้ไขเมื่อ 01 ก.ค. 52 20:56:26 จากคุณ : genf - [ 1 ก.ค. 52 20:54:33 ]

ความคิดเห็นที่ 11 คุณ Genf ค่ะ ขอบคุณมากค่ะสำหรับคำตอบ และความกระจ่าง ดิฉันก็เข้าใจผิดเรื่องการตรวจ DNA ตั้งนานว่าทาง Home Office จะเป็นคนไปตามพ่อของเด็กมาตรวจ DNA เอง จริงๆคำบอกเล่านี้ ดิฉันได้มาจากลูกค้าดิฉันคนหนึ่งที่เป็นอดีตเจ้าหน้าที่ ที่เคยทำงาน ใน Home Office อย่างงี้ก็แสดงว่าข้อมูลที่เขาให้มานั้นผิด :-( โธ่....หลงดีใจตั้งนานว่ามันจะง่าย................... เฮ้อ!!! ยังไงจะติดต่อหน่วยงานตามเว็บไซต์ที่คุณให้มานะคะ เผื่อเขาจะมีคำแนะนำดีๆอะไรให้บ้าง ได้มากได้น้อยก็ดีกว่าไม่ทำอะไรเนอะ :-) ขอบคุณที่เข้ามาตอบและให้คำแนะนำดีๆนะค่ะ จากคุณ : VERO MODA - [ 1 ก.ค. 52 21:06:57 ]

ความคิดเห็นที่ 12 เรียน  ท่านเจ้าของกระทู้ที่นับถือ 1.  ต้องขออภัย  ที่ web  ที่ข้าพเจ้า  link  มาให้ในความเห็นที่ 4  เพื่อให้ไปดูกระทู้เก่าหมายเลข H7872441 เรื่อง  เรียกร้องสิทธิให้ลูกได้สองสัญชาติ.... นั้น ไม่สามารถเข้าไปดูได้  อาจเกิดจากความผิดของข้าพเจ้าเองบางประการในการทำ link นี้ (  ขอเชิญผู้ที่เชี่ยวชาญกรุณาเข้ามาทำให้ก็จะเป็นพระคุณมาก ) แต่อย่างไรก็ตาม  ขอเรียนเชิญให้ท่านเจ้าของกระทู้หรือผู้ที่สนใจเข้าไปดูง่ายๆ  ที่ " คลังกระทู้เก่า " โดยเปิดหน้าแรกของห้อง " ไกลบ้าน "จะเห็นอยู่ที่ด้านซ้ายมือ  บรรทัดที่สาม " คลังกระทู้เก่า "   คลิกเข้าไปดูได้ทันทีเลย  ซึ่ง ณ ขณะนี้  กระทู้นี้  H7872441  อยู่ในอันดับแรกของของ  "กระทู้รวมห้องไกลบ้าน " 2. เรื่องของคุณเจ้าของกระทู้ที่ประสงค์ให้ลูกสาวผุ้น่ารัก  ได้รับสัญชาติอังกฤษ  นั้น  ใคร่ขอเรียนสรุปวิธีการให้  ดังต่อไปนี้ 2.1 ตามหลักกฎหมายสากลทั่วไป  จะต้อง " ตัวพ่อ " เขายินยอมมาให้การรับรองบุตรสาว  ณ  ที่ทำการฝ่ายทะเบียนครอบครัว  ของที่ว่าการอำเภอ  หากเป็นที่อังกฤษน่าจะเป็นที่ City Hall ของเมืองใดเมืองหนึ่ง ( ขอเชิญคุณ genf   ผู้ชำนาญอังกฤษเข้ามาแนะนำในส่วนนี้ด้วย)  หากตัวพ่อยินยอมมาได้  ก็จะไม่มีปัญหาอันใดเลย  ลูกสาวจะได้รับสัญชาติอังกฤษแน่นอน ทั้งนี้  หากอยู่ในประเทศไทย  ตัวพ่อคนอังกฤษ  สามารถมาดำเนินการรับรองบุตรตัวเองได้ที่สถานทูตอังกฤษ  ถนนวิทยุ  ในกทม. 2.2  หากตัวพ่อไม่ยินยอมมา  ก็ไม่มีอำนาจอะไรจะไปบังคับเขาได้  ไม่ว่า City Hall หรือ  Home Office  หรือแม้แต่ท่านนายก ฯ Gordon Brown  ก็ไม่สามารถบังคับ " ตัวพ่อ " คนนี้ได้ เพราะมีแต่ " ศาลสถิตย์ยุติธรรม " แห่ง the United Kingdom เท่านั้น ที่จะบังคับได้ ทั้งนี้ โดยผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย  หรือตัวเด็กเองต้องเป็นผู้ดำเนินการ " ฟ้องร้อง " ต่อศาลใน UK เรื่องอย่างนี้ต้องเสียเงินค่าทนายความแน่นอน 2.3  เขาเรียกการฟ้องแบบนี้ว่า  " ฟ้องเพื่อให้บิดาเด็กยอมจดทะเบียนรับเด็กเป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมาย "  ซึ่งหลายๆ ประเทศในโลกนี้รวมทั้งไทย  และอังกฤษ  กฎหมายเปิดช่องให้มีการฟ้องร้องเช่นนี้ได้  ทั้งนี้เพื่อประโยชน์ของตัวเด็ก  นั่นเอง แต่เนื่องจากเป็นคดีแพ่งเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัวของบุคคล  ผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง  หรือตัวเด็ก( โดยมารดาเป็นผู้มีอำนาจปกครอง )   ต้องฟ้องร้องเอาเอง  รัฐไม่มีหน้าที่ดำเนินเรื่องให้ ยกเว้นหากจะมีองค์กรสาธารณกุศลแห่งใดเห็นใจยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือค่าทนายความ  ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ดีมาก ๆ และเรื่องอย่างนี้  ไม่ว่าที่ไหนในโลก  ไม่มีทนายฟรี  หรือทนายขอแรง  มาช่วยความให้ฟรี ๆ  เพราะไม่ใช่คดีอาญา 2.4 ขอเรียนเน้นหนักแน่นว่า  เรื่องการตรวจ DNA นั้น  เป็นเรื่องภายหลัง  เพราะอยู่ดีๆ  ไม่ว่าตัวคุณแม่  หรือไม่ว่า Home Office  หรือ   Mr. Brown ก็มิบังอาจจับตัว " พ่อเด็ก " มาตวจ DNA  ได้ เพราะเป็นเรื่องของสิทธิมนุษย์ชน  ขืนนาย  Brown นายกรัฐมนตรีกระทำเช่นนี้  ก็ต้องหลุดจากตำแหน่งทันที  เพราะไม่มีอำนาจ การจะให้ " พ่อเด็ก "  ตรวจ DNA   ได้นั้น  เป็นขั้นตอนภายหลังต่อจาก " ศาล " มีคำสั่ง  (ตามที่คุณฟ้องให้เขารับรองบุตร  )  ให้เขาต้องรับรองบุตร  และเขา ( พ่อตัวแสบ ) ต่อสู้ว่าเด็กคนนี้ไม่ใช่ลูกเขา  เมื่อไร  ก็เมื่อนั้น  จึงจะต้องมีการพิสูจน์กันด้วย DNA  ภายใต้ขบวนการยุติธรรมจากศาล อย่าลืมเด็ดขาด  อย่าลืมข้อนี้เป็นอันขาด  ไม่มีใคร  หน้าไหน  จะเอาพ่อตัวแสบมาตรวจ  DNA  ได้  นอกจาก " คำสั่งศาล "  เท่านั้น สรุป  ของสรุป เด็กจะมีสัญชาติอังกฤษได้  มีอยู่ 3  วิธีเท่านั้นในโลกใบนี้ 1. พ่อตัวแสบ  มารับรองบุตรของตน  ด้วยความสมัครใจ 2. ฟ้องร้อง  โดยขออำนาจศาลเป็นที่พึง  ( ฟ้องร้องในไทยไม่ได้  เพราะตัวจำเลยไม่อยู่ในประเทศไทย  และอีกทั้งไม่มีความตกลงร่วมมือช่วยเหลือในคดีแพ่ง  ระหว่างไทย - สหราชอาณาจักร (UK) ) 3. เป็นวิธีที่ง่ายที่สุดเพื่อให้เด็กได้รับสัญชาติอังกฤษ  แต่ " ยากที่สุด "  ในความเป็นจริง  คือ หากพ่อของเด็กจดทะเบียนสมรสกับคุณแม่ จดทะเบียนกันเมื่อไร  เด็กก็ได้เป็นสัญชาติอังกฤษโดยอัตโนเมติก  ทันที  โดยไม่ต้องไปฟ้องร้องให้เขารับรองบุตร   ( ขอให้ย้อนกลับไปอ่านความเห็นของข้าพเจ้าทั้ง 3 ความเห็นในคลังกระทู้เก่าเกี่ยวกับเรื่องนี้  กระทู้ที่ H7872441  อีกที  จะได้ความกระจ่างในการตัดสินใจดำเนินชีวิตต่อไปในอนาคตของทั้งแม่และลูก) สุดท้าย  ของท้ายสุด  ลำพังเพียงแค่ " เอกสารตัวจริง "  ของพ่อเด็ก  หากคุณได้มาไม่ว่าโดยวิธีใดก็ตามตัวเอกสารเช่นว่าก็มิใช่เป็นเอกสารสำคัญที่จะทำให้สถานทูตอังกฤษ  หรือหน่วยราชการในประเทศอังกฤษถือเป็นข้อพิสูจน์โดยไม่มีข้อสงสัยได้ว่า  เด็กคนนี้  กับพ่อตัวแสบเป็นพ่อ-ลูกกันทางสายโลหิตแท้จริง   จนถึงขนาดยินดีมอบสัญชาติอังกฤษให้แก่บุตรสาวในทันที ไม่มีเจ้าหน้าที่อังกฤษหน่วยงานใดยอมรับ  หรือยอมเสี่ยงให้สัญชาติแก่บุคคลเพราะเพียงแค่เอกสารหลักฐานเช่นว่าหรอก จึงขอยืนยันว่าคุณแม่ยังมีความเข้าใจผิดในเรื่อง " เอกสาร " มาตลอด ด้วยความปราถนาดี  และขอให้สองแม่ลูกมีความสุขต่อไปในชีวิตนี้ จากคุณ : นักกฎหมายฝึกหัดปี 1 (Detente) - [ 1 ก.ค. 52 21:55:14 ]

ความคิดเห็นที่ 14 เรียน  ท่านเจ้าของกระทู้   และคุณ  genf ผู้มีน้ำใจ  และเป็นผู้มีความรู้เกี่ยวกับ  UK  แท้จริง ก่อนอื่นต้องขอเรียนว่า  ข้าพเจ้านั่งพิมพ์  และตรวจสอบความเห็นที่ 12  ของตัวเองในช่วงเวลาที่ซ้อนกับความเห็นที่คุณ genf  ทำมาใน  10   จึงยังไม่ทันเห็นความเห็นอันมีค่า  ที่ 10 ของคุณ genf อย่างไรก็ตาม  ความเห็นของข้าพเจ้า  กับของคุณ  genf ก็มิได้มีอะไรขัดแย้งกัน  ทั้งมีแต่จะเป็นประโยชน์แก่คุณแม่  เจ้าของกระทู้   แน่นอน  นอกจากนี้ยังมีผู้เจตนาดีประสงค์ให้กำลังใจแก่คุณแม่  เจ้าของกระทู้อีกมากมาย ขอมอบความเป็นห่วง  และอาทรณ์แก่คุณ  VERO  MODA  ด้วยใจจริง และพลาดมิได้ที่จะขอขอบคุณผู้มีน้าใจประเสริฐ ( ความรู้ดีเยี่ยมด้วย) ใน web. พันทิพแห่งนี้  คุณ genf  ที่กรุณาช่วยเหลือทำ  link  ในความเห็นที่ 10  ให้เสร็จสรรพ   ก่อนจะมีคำเชื้อเชิญเสียอีก ทำประโยชน์อื่นใดให้แก่สมาชิกพันทิพผู้เผชิญปัญหาหนักอกได้  พวกเราก็สบายใจ  ใช่หรือไม่ จากคุณ : นักกฎหมายฝึกหัดปี 1 (Detente) - [ 1 ก.ค. 52 22:39:06 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ตามมาอ่านค่ะ เห็นด้วยกับคุณ genf และคุณ Detente ว่าเรื่องที่จะให้พ่อรับรองบุตรนั้น หากเจ้าตัวไม่ยินยอม คุณเองจะฟ้องร้องก็ลำบาก เพราะอยู่กันคนละประเทศ ค่าใช้จ่ายมหาศาล เคยอ่านที่คุณ Lawanwadee ตอบไว้ในเคสทำนองนี้ว่า ถ้ามีเงินเป็นล้านให้เก็บเงินไว้ให้ลูกเรียน ดูจะคุ้มกว่าต้องมาเสียเป็นค่าทนายค่ะ จากคุณ : หมูหวาน - [ 1 ก.ค. 52 23:06:31 ]

ความคิดเห็นที่ 16 Have nothin' to contribution with regards to your questions. Just wanted to say I respect you as a single mom trying to fight for her kid.  :D . . แก้ไขเมื่อ 02 ก.ค. 52 00:11:11 จากคุณ : Genuine XXX - [ 2 ก.ค. 52 00:10:26 ]

ความคิดเห็นที่ 17 P' Detente: Thank you krub.....the pleasure is always mine. I always love to "สร้างภาพ" , as some people put it. จากคุณ : genf - [ 2 ก.ค. 52 01:50:22 ]

ความคิดเห็นที่ 18 อย่าคิดมากเลยครับ ก็ใช้สัญชาติไทยเนี่ยแหละครับ และส่งเสียให้ลูกได้เรียนดีๆ จะดีกว่าครับ จากคุณ : Giuseppe - [ 2 ก.ค. 52 02:43:39 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ^ ^ มันจะน่าเสียดายอยู่อย่างนึงคือถ้าวันนึงน้องมีโอกาสได้มาเรียนที่UK การที่น้องได้สัญชาติเนี่ย ค่าเทอมจะถูกมากมาย ไม่ต้องจ่ายสามเท่าเหมือนเด็กต่างชาติ เฮ้อ ไม่มีความรู้เรื่องเหล่านี้เลยค่ะ แต่เข้ามาช่วยเชียร์แล้วกัน จากคุณ : The Starry Night - [ 2 ก.ค. 52 02:57:07 ]

ความคิดเห็นที่ 20 เห็นใจค่ะ เห็นด้วยกับคคห.15 จากคุณ : Hana* - [ 2 ก.ค. 52 08:27:44 ]

ความคิดเห็นที่ 21 อยากจะขอบพระคุณ คุณ genf และคุณนักกฎหมายฝึกหัดปี 1 (Detente) มากๆ สำหรับคำแนะนำและข้อมูลทั้งหมดที่ให้มา ยอมรับว่าแม้จะได้อ่านในกระทู้ก่อน หน้าที่ให้ link มาแต่ก็ยังคิดและหวังในใจอยู่ว่า มันอาจจะไม่เหมือนกันก็ได้ เพราะเคสนั้นมันประเทศออสเตรเลีย................   พอทางคุณ Detente มาอธิบายเพื่อความกระจ่างอีกที่ ก็มองเห็นว่าจิตของตัวเองที่ก่อนหน้านั้น ที่ฟองฟู่ด้วยความหวังอยู่ มันได้แฟบลงๆ อย่างเห็นได้ชัด พอยิ่งได้มาอ่านความเห็นที่ 15 ของคุณหมูหวาน เอาหละหนอ.... ตอนนี้ใจมันไปอยู่ตาตุ๋มแล้ว... เมย์, เชอรี่ ........ อย่าเพิ่งท้อตามเรานะ เราคิดว่ามันต้องมีหวัง............. เราท้อได้แต่เราจะไม่ถอย......เราต้องสู้.......................... และหาหนทางต่อไปเพื่ออนาคตที่ดีของลูกเรา และสิทธิ์ที่เขาควรจะพึ่งได้เนอะ.... เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ จ้า.... การที่ VERO MODA มาตั้งกระทู้นี้นั้น ไม่ได้คิดถึงแค่ตัวเองนะ แต่ว่าเรายังมีเพื่อนอีก 2 ที่ร่วมชะตาเดียวกัน ที่เราก็อยากให้ลูกๆของเพื่อนเราทั้ง 2 คนนั้น ได้สัญชาติเช่นเดียวกัน.............. มันต้องมีหนทางใช่ไหมค่ะ ดิฉันคิดเสมอว่า... "ถ้าไม่มีคนที่หนึ่ง ก็ย่อมไม่มีคนสุดท้าย"  ใช่ไหมค่ะ ยังไงก็จะลองสู้ดูอีกสักตั้งคะ ดิฉันและเพื่อนอีก 2 คน ยอมรับคะว่าเราไม่มีเงินมากมายที่จะไปจ้างทนายกันหรอกคะ แต่เราเพียงแต่หวังว่า มันอาจจะมีหนทางให้เรา ได้สิ่งนี้มาให้ลูกๆเรากัน ดิฉันและเพื่อนอีก 2 คน รักเมืองไทยคะ เราภูมิใจที่เป็นคนไทย เราไม่เคยคิดอยากหนีเมืองไทย ไปอยู่เมืองนอก เพื่อหนีแผ่นดินไทย สิ่งเหล่านี้พวกเราไม่เคยคิดแต่ว่าเราแค่อยากสู้เพื่อสิ่งที่ลูกๆของเราพึ่ง จะได้นะคะ เพราะเราคิดว่าหากลูกๆเราได้สัญชาติอังกฤษแล้วสิ่งที่เขา จะได้มันคงดีสำหรับตัวเขานะคะ........ คุณนักกฎหมายฝึกหัดปี 1 (Detente) : ขอบคุณนะค่ะ ที่เข้ามาตอบเสมอ                                                  ความเห็นของคุณมันมีค่าจริงๆ คุณ Genf : ดิฉันคิดว่า คุณคือตัวจริง ไม่ "สร้างภาพ" แน่นอน คุณหมูหวาน : ขอบคุณคะ แม้จะรู้ว่าหนทางมันมืดมนแต่เราจะไม่ท้อคะ คุณ Genuine XXX : ขอบคุณนะคะ สำหรับกำลังใจ                            วิญญาณความเป็นแม่มันเกิน 100 จริงๆคะ ^^ คุณ Giuseppe : ขอบคุณนะคะ สำหรับกำลังใจ รู้สึกดีจังคะ....                      จริงๆลำพังแค่ตัวคุณแม่เองไม่ได้คิดมากนะ                      แต่ว่าเพื่อลูก จึงอยากลองสู้ดูสักตั้งคะ                      หากท้ายที่สุดแล้วไม่ได้ อย่างน้อยก็ได้พยายามแล้ว คุณ  The Starry Night : ใช่แล้วคะ คุณ The Starry Night เราได้ยินมาแบบนั้น                                   เหมือนกัน ถึงได้หวนกลับมาลองสู้ดูอีกสักตั้งค่ะ                                   แค่แวะมาอ่านและคอมเม้นท์ก็ดีใจแล้วคะ คุณ  Hana*   : ขอบคุณสำหรับกำลังใจดีๆคะ ^ ^ แก้ไขเมื่อ 02 ก.ค. 52 10:41:22 แก้ไขเมื่อ 02 ก.ค. 52 10:36:38 จากคุณ : VERO MODA - [ 2 ก.ค. 52 10:30:53 ]