ความคิดเห็นที่ 1 แนะนำไม่ถูกเลย เพราะเดี๋ยวนี้พลิกไปพลิกมา เจอแต่ เมดอินไชน่า อ่ะค่ะ บางอย่างเจอของก็อปจากจีนเข้าไป ราคาก็ต่างกันแล้ว เห็นที่คนชอบๆกัน ก็พวกโมเดล เพราะบางคนยังเน้นที่ของแท้อยู่ แล้วก็เครื่องสำอางเล็กๆน้อยๆ แต่ถ้าไม่ได้บินมาหิ้วเอง เราว่าค่าขนส่งจะไม่คุ้มกำไรนะเนี่ย จากคุณ : Hergest - [ วันอาสาฬหบูชา 18:26:01 ]

ความคิดเห็นที่ 2 จะสั่งสินค้าจากร้านในญี่ปุ่น.. -ต้องเลือกร้านที่ส่ง ต่างประเทศ เท่านั้น.. ถ้าร้านไม่ส่ง ก้อไม่สามารถ สั่งได้คะ -ร้านที่ส่งต่างประเทศ คนสั่งก้อต้องมีความรู้ภาษาญี่ปุ่น.. อย่างน้อยๆ โต้ตอบเมล จ่ายเงิน หรือ ปํญหาอื่นๆ ได้คะ.. -ค่า่ส่งสินค้า ผู้ซื้อ เป็นผู้รับผิดชอบ ทั้งหมดคะ -ระวัง เรื่องภาษี ที่ไทย ด้วยนะคะ.. ตอนนี้ ภาษี หนักคะ.. คิดว่า ลงทุนมากๆ เกรงว่าจะไม่คุ้ม นะคะ.. ตอนนี้ ที่ไทยเอง ของญี่ปุ่น ก้อขายไม่ได้ดีมากมาย.. เพราะึนำเข้าเยอะมาก.. จากคุณ : **ความฝัน..และ..สุดที่รัก** - [ วันอาสาฬหบูชา 20:08:13 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ไม่จริงหรอกคับ ระบบค้าขายของที่นี้ข้องข้างซับซ้อน อยากได้อะไรลองเสนอมา เเล้วกัน จะหาชิเรอี (ราคาส่งให้) ขอเป็นรอทๆๆ ไปนะครับ เเล้วผมจะอธิบายให้ฟังหลังไมค์ ถ้าต้องการจริงๆๆนะครับ ระบบการค้าขายของที่ญี่ปุ่น หาตามเน็ท ยังไงก้อไม้ได้ราคาครับถ้าจะเอาไปขาย จากคุณ : Classic - [ วันเข้าพรรษา 06:17:33 A:123.227.0.148 X: TicketID:180522 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ขอบคุณ คุณ Hergest   คุณ **ความฝัน..และ..สุดที่รัก** คุณ Classic ด้วยนะคะ ที่มาช่วยแนะนำให้ เคยลองหาในเน็ทเหมือนอย่างที่คุณ Classic ว่าเลยอะค่ะ หายากมากเลย ตอนนี้เลยกำลังสนใจสินค้าแฟชั่น กับพวกเทคโนโลยีค่ะ เพราะเห็นว่าญี่ปุ่นล้ำสมัยกว่าไทยไปมากอยู่เหมือนกัน คุณ Classic พอจะมีอะไรแนะนำเพิ่มเติมให้ได้รึเปล่าคะ หรือให้เราศึกษาอะไรเพิ่มเติมด้วยดีคะ เกรงใจจังเลย ^_^ จากคุณ : นางฟ้าร่าเริง - [ วันเข้าพรรษา 09:00:21 ]

ความคิดเห็นที่ 5 คุณclassic ขอฟังด้วยได้มั้ยคะ :D ว่าแต่ว่าจะหลังไมค์ไปยังไงอะคะ จากคุณ : fudge-a-mania - [ วันเข้าพรรษา 09:52:08 ]

ความคิดเห็นที่ 6 มายกมือ ขอความรู้จากคุณ Classic ด้วยคนค่ะ จากคุณ : ก้มลงกราบ - [ วันเข้าพรรษา 12:28:45 ]

ความคิดเห็นที่ 7 มาร่วมลงชื่อนั่งรอ คุณ Classic กันดีกว่าค่ะ จากคุณ : นางฟ้าร่าเริง - [ วันเข้าพรรษา 13:15:49 ]

ความคิดเห็นที่ 8 มาขอความรู้ด้วยคนค่ะ.. จากคุณ : เจแปนเบอร์รี่ - [ วันเข้าพรรษา 16:37:51 ]

ความคิดเห็นที่ 9 คุณClassicคะ  ขอคำแนะนำด้วยอีกคนค่ะ ตอนนี้กำลังสนใจอะไร ๆ ใหม่เพิ่มพอดีค่ะ ขอบคุณค่ะ จากคุณ : Taiyo No Uta - [ วันเข้าพรรษา 20:09:45 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ยินดีที่จะเล่าหรือบอก ต่อกันให้ฟัง นะครับ เเต่บังเอิญเรืองพวกนี้เป็น อาจยากที่เข้าใจกับ ระบบการค้าขายของญี่ปุ่น เเล้วยิ่งมองจากมุมมองคนไทย เเล้ว ยิ่งอาจอธิบายให้ยอมรับยาก ซักหน่อย ผมจะบอกเเค่ คร่าวๆละกันนะครับว่า เคยได้ยินคำว่า คาคาคุเฮียว ,ดกเซ็งเคยักคุ เเละก้อ ชีกกิ หรือป่าว มันเป็นอะไรเเบบนั้นเหละครับ เเล้วระบบพวกนี้มีการผูกขาดตลาดไว้หมด เข้าถึงยาก อย่างเราๆๆ เเถบเข้าไปไม้่ได้เลย เเล้วเรืองของราคาสินค้า เเละรูปเเบบการขาย เขาได้มีการเซ็ทไว้ตั้งเเต่ก่อนผลิตเเล้ว ว่า ราคาขาย ต้อง เ่ท่านี้ ขายเเบบนี้ ช่วงลดก้อ ยังไงก้อ ต้อง เท่านี้ เเละขาย เเบบนี้เท่านั้น ซื้อหรือไม่ซื้อ พูดกันสองคำจบ เเล้วก้อวัดกันไปเลยว่า เป็นลูกค้าเเบบไหน ที่สำคัญไม่ง้อลูกค้า เเละซื้อไปเเล้วต้องขายตามระเบียบของเขาด้วย ไม่งั้นถูกฟ้องด้วยนะครับ ที่เหลือคือความเสียงของคุน จริงๆๆมีอีกมากกว่านี้นะครับ เอาคร่าวๆๆเเค่นีี้้เเล้วกัน รับกันได้หรือป่าวเอย ? สวนมากรับไม่ได้ ก้อเลยจบไปเเค่ขั้นเจรจา ผมพอหรืออาจช่วยได้บ้างในบาง ลายของสินค้า สนใจยังไงทิ้งลายละเอียดไว้ เเล้วจะตอบให้ เเต่ให้ดีอยากได้เป็นเเบบที่ คนอยากทำธุรกิจจริงๆๆนะ จะยินดีมาก จากคุณ : Classic - [ วันเข้าพรรษา 21:21:04 A:123.227.0.148 X: TicketID:180522 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ยากที่จะเข้าใจจริงๆด้วยค่ะ ถ้าทิ้งอีเมลไว้ที่นี่ กลัวจะผิดกฎพันทิบจังเลย จากคุณ : fudge-a-mania - [ 9 ก.ค. 52 07:48:16 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ขอบคุณคุณ Classic อีกรอบนะคะ เคยทราบมาเหมือนกันค่ะว่า คนญี่ปุ่นติดต่อซื้อของด้วยยาก ต่อรองอะไรมากนักไม่ได้ ถ้าจู้จี้ จุกจิก หรือพูดอะไรมากไปเค้าจะตัดบทไม่ขายสินค้าเราเลย แต่เราสนใจมากเลยนะคะ ที่จะนำสินค้าจากญี่ปุ่นมาขายที่นี่ แต่ว่ายังไม่ตัดสินใจเลือกเฉพาะเจาะจงไปเลยว่าจะเป็นสินค้าอะไร เพียงแต่เน้นไปที่กลุ่มแฟชั่น สำหรับตลาดวัยรุ่นค่ะ อีกอย่าง ค่อนข้างลำบากมากด้วยค่ะ เนื่องจากว่าพูดภาษาญี่ปุ่นไม่เป็นเลย ส่วนในแนวทางการซื้อ-ขาย ว่าจะเป็นแบบ pre - order ค่ะ เพราะว่าไม่อยากรับสินค้ามา stock ไว้ค่ะ จากคุณ : นางฟ้าร่าเริง - [ 9 ก.ค. 52 16:59:01 ]

ความคิดเห็นที่ 13 อืม ยากที่จะเข้าใจด้วยคนค่ะ แต่จะพยายามเข้าใจ อิอิ จากคุณ : สาวสยาม - [ 9 ก.ค. 52 20:45:14 ]

ความคิดเห็นที่ 14 เเบบไหนเอย โฟกัสใ้ห้เเคบ เเล้วมาว่ากันต่อ pre order คิดว่าไม่น่ามีปัญหา เเต่ จะพรีเเบบไหน ไม่ใช่ว่าพรี สิบชิ้น สิบเเบบ นะครับ เเบบนี้ คุยกันไม่ได้หรอกคับ อย่างเช่น ต้องร้อยชิ้น สิบ เเบบ เเล้วมันถึงอาจเข้าเริ่มระบบ เเล้วเขาพรีกันครึ่งปีล่วงหน้า เเบบถูกออกมาก่อนหนึ่งปี ส่วนเรืองราคา สินค้า เขามีสเกลที่คุนสามารถทำตลาดได้สบายอยู่เเล้ว นี่คือระบบ อีกอย่างของระบบ เเฟชั่นที่นี้่ ไม่ใช่ว่า ฮิตตอนนี้ สั่งตอนนี้ นะครับ โดยมาก ของที่เรา่ใช้หรือเเฟชั่นบนเเคทวอค ที่ดังในตอนนี้ ความจริงเเล้ว ถูกออกเเบบมาล่วงหน้าเเล้วสองปีนะครับ เเล้วออกให้เริ่มพรีออเดอร ให้กับ ซัพพลายเออ ทั่วโลกโดยจัดเป็นเเำฟรชั่นโชวตามซีซันให้สั่งสินค้า หลังจากนั้น หกถึงเก้าเดือน หรือ สองซีซัน เเล้ว จึงเริมเปิดตัวคอเลคชันต่อ ตลาดเเมส เริ่มพอมองเห็นภาพเเล้วหรือยังคับ เเล้วทีนี้ พอคุนบินมาดูของที่นี่ มันกำลังดัง ฮิต เเล้วอยากได้ คาดว่าสังของตอนนั้นไม่ได้เเน่ๆๆ ครับ เพราะว่า สตอกของที่เขามี ต้องไว้ขายตอนเซล ในซีซันนั้น นี่คือความรับผิดชอบต่อลูกค้าที่มาอุดหนุนเขา คือว่า ให้เลือกว่า ขายคุนราคาเซลเเล้วเหมาเขา กับขายให้ลูกค้าที่มาซื้อเขาประจำ เเล้วขายเกือบหมด มีความเป็นไปได้สูงว่าเขาเลือกไม่ขายคุน เเต่ขายให้ลูกค้าเขา เำพื่อรักษาลูกค้ามากกว่า หรือ คุนอาจจะได้ของนั้นก้อต่อเมือเขายอมขายให้เมื่อผ่านไปสองซีซัน พอเข้าใจไหมคับ ความเเตกต่าง คนไทยอย่างเราๆๆ ไม่ค่อยรู้หรอกคับ จากคุณ : Classic - [ 9 ก.ค. 52 20:54:25 A:123.227.0.148 X: TicketID:180522 ]

ความคิดเห็นที่ 15 โห คุณ Classic พูดได้เริ่มเห็นภาพเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาเลยค่ะ จากที่ไม่เคยทราบมาก่อนเลย เช่นเรื่องการทำตลาด ว่าจะที่นู่นจะถูกออกแบบมาก่อนแถมในช่วงจังหวะนั้นก้อให้พรีออเดอร์ไปก่อน แต่ถ้าเป็นอย่างนี้ เราจะมั่นใจได้แค่ไหนหรอคะว่า สินค้านั้นๆสามารถทำตลาดบ้านเราได้แน่ๆ มันจะกลายเป็นความเสี่ยงเราใช่หรือเปล่าคะ ตอนนี้เราสนใจตุ๊กตา BLYTHE ค่ะ เพราะถ้าเป็นอย่างที่คุณ Classic ว่ามา เราว่าเราควรเน้นไปมองสินค้าที่ออกเป็นล็อตๆ(หรือเปล่าคะ) นอกนั้นเราก็ยังนึกไม่ออกเหมือนกันเลยค่ะ แต่ก่อนอื่น เราก็ควรทำตลาดไปพลางๆก่อนด้วยใช่มั้ยคะ จากคุณ : นางฟ้าร่าเริง - [ 10 ก.ค. 52 14:27:53 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ผมก้อไม่เข้าใจอะนะครับว่าไอ้เจ้าตุกตาตัวนี้ทำไมถึงดังนักหนา เเต่ถ้าทำเงิืนได้ก้อหน้าสนใจอะนะคับ เเต่ไม่ค่อยเห็นทำกันได้เลย เรืองของความเสียง คุนต้องเป็นคนถือหมดอะนะครับ ไม่งั้นเจ้าของทำเองดีกว่าไหม อย่างเช่น บริษัทเเม่ของเขาทำตลาดเองเช่น พวกรถยน หรือ พวก เครืองใช่ไฟฟ้าทั้งหลายที่บ้านเราอะ เเต่เขาก้อเสี่ยงมหาศาลเหมือนกันอะนะ เอ เเต่ผมก้อไม่เข้าใจกันเลยว่าทำไม การทำธุรกิจของคนไทย ไม่ยอมเสี่ยงอะไรกันเลยหรือ ถ้่ามันง่ายละก้อ รวยกันทุกคนเเล้วละคับ อยากให้เข้าใจไว้ด้วยว่า คนขายเขาก้อเสียงเหมือนกัน มากกว่าคนซื้อด้วย จุดคุ้มเเละไม่คุ้มทุนมันมีคับ เอางี้ คอมเม็นไว้เป็น เคสสตัดดี้ละกัน ไอ้เจ้าตุกตาตัวนี้นะครับ ถูกนำเข้าโดยบริษัทหนึ่งของเมืองไทย กว่าจะได้ไปก้อถูลากกันพอสมควร เเต่ก้อได้ไปเเบบไม่สมบูรอะนะคับ ขออภัยพูดมากไม่ได้ เเต่ถ้าจะเอาจริงๆๆ ก้อพอคุยกันได้ เเต่ก้ออาจะได้เเค่เหมือนๆๆ เจ้าที่ทำในตอนนี้อะนะคับ คือ ตลาดบ้านเรา ยังไม่พร้อม เเละก้อ ถ้าอยากได้ตลาดนี้จริงๆๆละก้อ คงลำบาก ไม่งั้นเจ้าที่ทำอยู่ตอนนี้ พุ่งปรินมากกว่านี้อะนะผมว่า เเต่เนืองจากว่า เขามีเงือนไขที่ทำให้รับกันลำบากหน่อยเลยได้เเค่นี้ เอาเป็นว่าผมมองว่า คุนยังไม่รู้เลยว่า คุนจะทำอะไร โยนหินถามทางมากกว่า ลองหาข้อมูลหน่อยที่มากกว่านี้หน่อยน่าจะดี บางทีผมอาจให้ความเห็นอะไรได้มากกว่านี้นะครับ จากคุณ : Classic - [ 10 ก.ค. 52 20:53:36 A:123.227.0.148 X: TicketID:180522 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ใช่เลยค่ะคุณ Classic เพราะจากหัวข้อเราตั้งก็พูดไปตอนแรกแล้วว่า เราน่ะยังไม่รู้เลย ว่าควรเริ่มต้นที่ไหน ยังไงดี จึงมาเริ่มต้นหาข้อมูลจากผู้ที่พอจะแนะนำอะไรได้ เพื่อเป็นแนวทางในการประเมินโครงการของเราก่อนเริ่มตัดสินใจที่จะทำธุรกิจกับประเทศนี้ค่ะ แต่พอมาอ่านข้อเสนอแนะคุณ Classic ก็ทำให้เราพอมองเห็นภาพกว้างขึ้น ถือว่าได้ข้อมูลไปในระดับหนึ่ง ส่วนในเรื่องความเสี่ยงนั้น เข้าใจค่ะว่าการทำธุรกิจแต่ละประเภทจะมีความเสี่ยงอยู่แล้ว เพียงแต่ว่า ความเสี่ยงนั้น มีมากน้อยแค่ไหน และเราสามารถยอมรับได้ที่ระดับไหน ซึ่งแต่ละคนจะมีมาตรฐานในการตัดสินใจที่ไม่เหมือนกัน และเราจะเลือกแบบไหน อาทิเช่น กระจายความเสี่ยง หรือแบกรับความเสี่ยงนั้นๆไว้ทั้งหมด ซึ่งมันไม่ได้มาจากการตัดสินใจจากคำพูดหรือการมองภาพเล็กๆแค่จุดเดียวเท่านั้น แต่ควรเป็นการคิดวิเคราะห์อย่างลึกซึ้ง จากที่คุณ Classic ให้ความเห็นมา เราอ่านแล้ว ก็เห็นความเสี่ยงที่เกิดขึ้นในเบื้องต้น คือ ญี่ปุ่นจะให้พรีออเดอร์ก่อน และทำตลาดไปพลางๆ ซึ่งในจุดนี้จะเห็นความเสี่ยงที่เกิดขึ้น แต่เรายังไม่ทราบว่ามากน้อยแค่ไหน ที่จะทำให้เราสามารถตัดสินใจว่าจะยอมรับได้หรือไม่ เนื่องจากว่า เรายังไม่ทราบข้อมูลเลยในสินค้าแต่ละประเภท ไม่ใช่ว่าสินค้าทุกประเภทเมื่อถูกทำตลาดแล้วจะประสบความสำเร็จในทุกชนิด แน่นอนว่าโอกาส 100% นั้น ไม่มีทางเป็นไปได้ แต่ก็นั่นแหละค่ะ มากน้อยแค่ไหน ตรงนี้เราต้องมาดูข้อมูลย้อนหลังเพื่อประกอบด้วย ว่าโอกาสในการประสบผลสำเร็จนั้นเป็นกี่เปอร์เซ็นต์ ไม่ใช่ว่าทำการตลาดไป 100 ประเภทสินค้า แต่ประสบผลสำเร็จตลาดยอมรับมาเพียงแค่ 30% ซึ่งเราก็จะเห็นอยู่แค่นั้น อันนั้นคงมีน้อยคนที่จะสามารถยอมรับในความเสี่ยงดังกล่าวได้ การทำธุรกิจไม่ใช่การเล่นขายของ หรือการเดิมพันพนันต่างๆ ที่ว่า มีขาว ก็ต้องมีดำ ลองๆมันไป ไม่ได้ขาย เราก็ได้ดำนั่นแหละ อันนี้เราคิดว่าไม่ใช่อย่างนี้นะคะ หรือคุณ Classic พอจะมีข้อมูลอะไรแนะนำเพิ่มเติมอีกมั้ยคะ ส่วนเรื่องข้อมูลเราก็คงจะลองหาไปเรื่อยๆค่ะ ขอบคุณสำหรับคำแนะนำด้วยนะคะ จากคุณ : นางฟ้าร่าเริง - [ 13 ก.ค. 52 11:14:05 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ต้องมีความมั่นใจคับ ผมเชื่อว่าวิธีการประเมินความเสี่ยงเเละก้อวิธีการตัดสินใจ รวมทั้งมุมมองในช่องทางการทำธุรกิจของเเต่ละคนไม่เหมือนกัน ถ้าุถามผม ผมคงตอบให้ไม่ได้ ตัวผมเเละคุนมองคนละอย่าง เเต่ถ้าถามในสถานะของที่ปรึกษาถึงเเนวทางหรือเเผนงานธุรกิจ อาจมีอะไรมากกว่านี้ก้อได้ บังเอิญ คอนดิชั่นของคุน มันกว้างมากเกินไป เหมือนกับว่าต้องหาอะไรหรือให้ใครช่วยทำหรือเริ่มให้ เเละความันใจมันไม่มี เเต่ก้อนั้นเเหละคับ เริ่มเเีรกของบิสเนสนะครับ คือช่วงที่ยากที่สุด ไม่ว่าจะเเนวไหนก้อตาม ยากเหมือนกันหมด การกระจายความเสียง ผมมองว่าความเสียงยังไม่มี คุนยังไม่เริ่มอะไร สิ่งที่ดูน่าจะเป็นความเสียงของคุนคือ ต้องขายยังไงให้ได้กำไร ขายไม่ได้กำไร อย่าขาย เพราะคุนไม่ใช้พวกวอลุนเทีย ทำงานฟรี นะคับ นอกนั้นผมยังมองไม่เห็นความเสียงของคุนเลย คุนคงเคยได้ยินเรืองกระจายความเสียงมากจากตำลา หรือ จากอาจาร เเต่รับมาหรืออาจารบอกไม่หมด หรือ ไม่เข้าใจความหมายว่า การกระจายความเสียงคือการวางเเผนที่ดี มีการรองรับผลที่ตามมาจากการที่ทำไม่เข้าเป้่า นี่ึ้คือเบสิกของการกระจายความเสียง เเละ ไม่จำเป็นต้องลงทุนหลายอย่างเพือกระจายความเสียง เพราะคุนยังไม่มีการลงทุนอะไรซักอย่าง ดังนั้น เริ่มต้นที่หนึ่ง ความเสียงคุนก้อเเค่หนึ่ง หรือว่าคุนจะเริ่มที่สิบเเล้ว เสียงที่สิบ ผมเชือว่าคุนคงไม่ทำใช่ไหมคับ จากคุณ : Classic - [ 13 ก.ค. 52 21:55:55 A:123.227.0.148 X: TicketID:180522 ]

ความคิดเห็นที่ 19 เรากลับเห็นว่า ความเสี่ยงนั้นเกิดขึ้นตั้งแต่เริ่มคิดที่จะทำอะไรแล้วค่ะ แต่ว่าเรายอมรับได้มากน้อยแค่ไหนเท่านั้นเองค่ะ เหมือนกับมีเงินก้อนนึง นอนแช่อยู่ในธนาคาร แต่พอคิดที่จะเริ่มทำ ความเสี่ยงที่เงินจะลอยออกไปก็เกิดแล้ว หรืออาจจะมีความเสี่ยงที่เงินในธนาคารจะเพิ่มขึ้นก็แล้วแต่ค่ะ ความเสี่ยงที่เรามองเห็นตอนนี้คือกลยุทธ์ในการขาย และการทำการตลาดในไทยค่ะ เนื่องจากสังคม และความต้องการแต่ละประเทศค่อนข้างแตกต่างกัน เราทราบค่ะว่าการทำธุรกิจ ต้องเริ่มจากความมั่นใจ แต่อะไรละคะที่จะสร้างความมั่นใจ ของแต่ละคนอาจจะไม่เหมือนกัน บางคน แค่ฟังชื่อเสียงบริษัทก็มั่นใจแล้ว บางคนต้องเห็นเป็นรูปธรรม เห็นตัวสินค้าก่อน ซึ่งตอนนี้เรายังมองไม่เห็นตัวสร้างความมั่นใจให้ตัวเองเลยค่ะ เนื่องจากที่คุณ Classic ว่าทางญี่ปุ่นจะเริ่มทำการตลาดไปเรื่อยๆ มันก็คล้ายๆการเล่นหวยนะคะ บางทีทุกกระแสบอกว่า เจ้าพ่อสำนักนี้ดังมาก ให้มาถูกทุกงวด รับรอง งวดนี้ถูกแน่ๆ ฟันธง มั่นใจได้ ก็ถือเป็นการตลาดที่สร้างความมั่นใจให้เราได้ในระดับนึง แต่ถ้าเรามั่นใจอย่างเดียวจากคำพูดของคนทั่วไป และซื้อโดยขาดสติ ขาดข้อมูล และเหตุผลที่ดีมารองรับ จะทำให้เราเสียโอกาสในการวิเคราะห์การทำธุรกิจทั้งหมด จากเรื่องหวย เราควรมองไปถึงความเป็นไปได้ของการที่จะถูกเลขนั้น สมมติเลขท้าย 2 ตัว ความเป็นไปได้จะอยู่แค่ 1% เท่านั้นเองค่ะ จะเห็นว่าเมื่อมองจากการวิเคราะห์ความเป็นไปได้ดังกล่าวแล้ว ความมั่นใจถดถอยไปเยอะเลยใช่มั้ยคะ แต่บางคนอาจเห็นว่า เนี่ยแหละคือโอกาส เราจะได้เป็น 1% นั้นเอง จึงเลือกที่จะซื้อตาม แล้วตอนนี้ เราก็ยังไม่เห็นอะไรที่จะมาสร้างความมั่นใจให้เราเลยค่ะ ในเรื่องการทำธุรกิจ ที่เรามองเบื้องต้นคือ ความต้องการในตลาดนั้นๆมาก่อนค่ะ เราจึงเริ่มถามหาความเห็นของแต่ละท่าน เพื่อรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะต่างๆกันออกไป เพื่อให้พร้อมที่จะนำมาประมวลหาความเป็นไปได้ และโอกาส ช่องทางในการทำธุรกิจ และที่เรามองเห็นตอนนี้ ในภาพกว้าง เรามองไปที่สินค้าแฟชั่น และเมื่อมาประกอบกับข้อมูลการค้าขายของทางญี่ปุ่นที่คุณ Classic เคยได้อธิบายไว้ เราจึงมองไปในตัวสินค้า คือตุ๊กตาเลย ส่วนในเรื่องการกระจายความเสี่ยงที่เราบอกไป ในส่วนนั้นเป็นเรื่องเมื่อถึงการตัดสินใจทำโครงการไปแล้ว จะต้องมาวิเคราะห์หาทางออกให้กับทุกสถานการณ์ ซึ่งเป็นการวางแผนที่ดี ในตรงนี้ เรายังไม่ได้คิดค่ะว่าเราจะต้องกระจายความเสี่ยงโดยการทำหลายๆธุรกิจอย่างที่คุณ Classic เข้าใจ เพียงแต่เราอ้างอิง ว่าการทำธุรกิจควรมีอะไรบ้างค่ะ จากคุณ : นางฟ้าร่าเริง - [ 14 ก.ค. 52 09:38:24 ]

ความคิดเห็นที่ 20 สวัสดีค่ะ พอดีสนใจเหมือนกัน คือว่าอยากจะนำเข้าชุดไม้กอล์ฟมือสอง จากญี่ปุ่นมาขายน่ะค่ะ คุณclassicพอจะแนะนำได้ไหมคะ ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ จากคุณ : จอยนะจ๊ะ (enjoywowlife) - [ 14 ก.ค. 52 15:00:03 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ตอบของ คุนนางฟ้าร่าเริง การคิดโมเดลบิสเนส เป็นเรืองที่ดี ไม่มีความเสียงคับ ธุรกิจต่างๆๆ มักเป็น โมเดลบิสเนสใหม่ๆๆ ทั้งนั้นเหละคับ การลอกเลียนเเบบ อาจได้ดีก้อได้เเต่ มันไม่ใช่เป็นการเริ่มต้นที่ดี เเละไม่สร้างสรรคับ เรืองของความเสียงก้อนั้นอีกละคับ ไม่มีใครตอบได้นอกจากตัวคุน เเล้วผมว่าผมได้เขียนบอกคุนไปเเล้วข้างบน ลองอ่านอีกทีน่าจะดีนะคับ ผมรับลองเลยนะคับว่าเจ้าพ่อดังๆๆ ที่สร้างความมั่นใจก้อมีทางสร้างความสำเร็จให้กับคุน ถ้าคุนไม่รู้จักคิด เเละพัตนา เเละได้่ลองทำมันลงไปนะคับผมว่า อยากจะบอกไว้อีกอย่างหนึ่งนะครับ ธุรกิจที่สำเร็จได้ ไม่มีคำว่าฟลุคคับ พอผมอ่านสิ่งที่คุนเขียนเเล้วผมงงเลย เเละก้อสิ่งที่ผมบอกไปเกียวกับญี่ปุ่น มันก้อไม่ได้เป็นอย่างที่ผมบอกเสมอไป ขึ้นอยู่กับ การเจรจาเป็นหลัก เเต่โดยมากมันมีหลักเกนของมันอยู่อธิบายให้คุนคงอาจเข้่าใจยากหน่อย เเละก้อการตลาดที่นี่ซับซ้อนกว่าที่ไทยมาก ผมคงไม่อธิบายนะคับ ไว้หาไอเดียใหม่ๆๆมาเเชรกัน เเล้วจะมาโพสให้ใหม่นะคับ ตอบคุน20 ต้องเข้าใจนะคับ ของที่คุนอยากทำคือของมือสอง ไม่มีคัยเก็บสตอค เเละเลือกไม่ค่อยได้คับ สินค้ามือสองส่วนใหญ่ อย่างที่เราีรู้กัน เป็นราึคาประเมินจากความพอใจที่จะซื่อของคุน เช่น คุนภาพอย่างนี้ คอนดิชั่นอย่างนี้ ใช้มาเ่ท่านี้ ราคาเท่านี้ ซื้อได้ไหม เเล้วเเต่ละร้านให้ราคาไม่เ่ท่ากันอีก ที่นี้จะเอาไปขาย พูดยากนะ นอกจากคุนจะ้เหมาเเบบยกลอท เเบบไม่เลือกลุ่น ซัก สามถึงห้าร้อยอันอย่างนี้อะ เเล้วเอาไปขาย ถ้่าอย่างนี้พอเป็นไปได้ เเต่ให้เลือกเป็นชินๆๆ ไปขายละก้อ ผมว่ายากหน่อย จากคุณ : Classic - [ 14 ก.ค. 52 19:21:54 A:123.227.0.148 X: TicketID:180522 ]

ความคิดเห็นที่ 22 คุณ Classic พูดถึงเรื่อง Business Model นี่ก็ดีเลยค่ะ ไม่เข้าใจว่าทำไมคุณ Classic ถึงบอกว่าไม่มีความเสี่ยง ถ้าจะพูดกันถึงในเรื่องการจำลอง Business Model ให้เต็มรูปแบบ การประเมินความเสี่ยง หรือการแสดงถึงอุปสรรคต่างๆจะถูกรวมอยู่ใน Business Model นั้นด้วยนะคะ เพียงแต่ว่าจะอยู่ในหัวข้อย่อย หรือนำมาเป็นหัวข้อหลักเลย ซึ่งความเสี่ยงนั้น จะอยู่ในเงื่อนไขการตัดสินใจ หรือข้อจำกัดอื่นๆในสิ่งแวดล้อมนั้นๆค่ะ ส่วนเรื่องเจ้าพ่อดังๆก็ได้กล่าวไปแล้วข้างต้น คุณ Classic สามารถย้อนไปอ่านได้ว่า ความน่าจะเป็นที่จะสำเร็จก็มีค่ะ เราไม่ได้บอกว่าไม่มีนะคะ แถมยังตั้งสมมติฐานจากเรื่องเลขด้วยค่ะ ย้อนอธิบายเรื่องเดิมนะคะ สมมติว่าเจ้าพ่อให้เลขท้าย 2 ตัวมา 1 ชุด สามารถสร้างความมั่นใจให้แต่ละคนได้ไม่เท่ากัน แต่โอกาสในความสำเร็จหากซื้อตามนั้น เท่ากันเสมอค่ะ ในเรื่องตัวเลข จะเห็นว่าโอกาสในความสำเร็จมีค่ะ แต่มี 1% เท่านั้น ซึ่งตรงนี้มองในหลักวิชาการเลยนะคะ ใช้ความน่าจะเป็นในการหาสัดส่วนออกมา ส่วนเรื่องฟลุ๊คนี่ เมื่อย้อนอ่านกลับไปรู้สึกว่าไม่ได้เขียนเลยว่าฟลุ๊คค่ะ ไม่มีนะคะ ความหมายถึงเรื่องฟลุ๊คก็ไม่มีค่ะ ลองกลับไปอ่านดูใหม่ได้นะคะ ^_^ ยินดีรับฟังความคิดเห็นจากประสบการณ์คุณ Classic อีกค่ะ เผื่อเราจะมองอะไรออกมากขึ้นกว่าเดิมอีก จากคุณ : นางฟ้าร่าเริง - [ 15 ก.ค. 52 12:50:57 ]

ความคิดเห็นที่ 23 แอบมาอ่านเพิ่มเติมความรู้ค่ะ ^-^ จากคุณ : booklovers - [ 15 ก.ค. 52 16:06:34 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ผมว่าผม กับคุนเริ่มคุยกันคนละเรืองเเล้วนะ ลองคิดใหม่เเล้วกันนะครับ บังเอิญผมกับคุนมองกันคนระเรือง คนละความคิด หวยกับบิสเนสคนละเรืองคับอย่าลืม ตรรกศาสตร์ผมเข้าใจดีคับ เเต่มันคนละประเด็นกับคำถามของคุน กลัวจะผิดเจตนาลมของการโพส ผมขอไม่ตอบจากนี้อีก นอกจากมีอะไรที่จรรโลงใจเเละเเบงความรู้กันมาก ผมว่้ามันจะช่วยให้เราๆๆท่านๆๆมีความรู้มากขึ้นจะดีกว่าเยอะเลยคับ ขอบคุนคับ จากคุณ : Classic - [ 15 ก.ค. 52 20:35:55 A:123.227.0.148 X: TicketID:180522 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ขอบคุณสำหรับคำตอบมาตลอดค่ะคุณ Classic ที่จริงยังข้องใจว่าทำไมถึงบอกว่าเป็นคนละเรื่อง ทั้งๆที่คห. # 21 คุณ Classic ยังเป็นคนนำมาอ้างอิงไว้เลยเช่นกันว่า "เจ้าพ่อดังๆๆ ที่สร้างความมั่นใจก้อมีทางสร้างความสำเร็จให้กับคุน" ในตัวอย่างที่ยกมาเรื่องหวย เรากำลังพูดถึงเรื่องความมั่นใจอยู่ไม่ใช่หรือคะ แต่ไม่เป็นไรค่ะ ถ้ายังสับสนว่าเราคุยคนละเรื่องในส่วนไหน สามารถถามต่อมาได้นะคะ แล้วถึงแม้ว่าคุณ Classic จะขอยกเลิกการตอบ เราก็ขอน้อมรับในการตัดสินใจค่ะ ขอขอบคุณสำหรับทุกความคิดเห็นที่แนะนำกันด้วยนะคะ หวังว่าโอกาสหน้าคงได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันใหม่นะคะ ^_^ จากคุณ : นางฟ้าร่าเริง - [ 16 ก.ค. 52 09:32:13 ]