ความคิดเห็นที่ 1   If that 350,000 yen / month is the only income you get, it's gonna be really hard because tax here is really high. It's better to calculate as "how much you earn per month after tax" naka. For example, my bf earns 1,000,000 yen a month. After tax (tax, nenkin, blah blah), he has 600,000 - 700,000 yen left. After the house loan, he has 400,000 yen left which is kinda normal to live but can't spend too much because then there will be no saving. For myself, I am a scholarship student. I don't have to pay tax. I have 155,000 yen/ month for my allowance. I have to say that I barely make it at the end of the month. That's why I also have to work. My scholarship + salary after tax, I get more than 200,000 yen but less than 300,000 yen then it's enough for me.However  I live alone naka. For 2 persons, you definitely need more ka. จากคุณ : แพนด้าหน้าใส เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 52 14:24:16

ความคิดเห็นที่ 2   oh and I am slightly a shopaholic - -". Maybe other people spend much less than me naka. But I still insist that 350,000 yen per month is kinda hard for 2 people ka. จากคุณ : แพนด้าหน้าใส เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 52 14:31:05

ความคิดเห็นที่ 3   กำลังจะเข้ามาถามเหมือนคุณแพนด้าเลย ว่าเป็นรายได้ก่อนหรือหลังภาษีคะ ถ้าเป็นหลังภาษีคิดว่า "อาจจะพอ" นะคะ ถ้าใช้แบบประหยัดๆ แต่คงยากที่จะมีเงินเก็บ การใช้ชีวิตของแต่ละคนไม่เหมือนกัน บางคนเทเงินไปที่ตรงนั้น ตรงนี้ ดังนั้น บอกยากค่ะ it doesn`t matter how much you earn, it about how much you spent. จากคุณ : Hergest เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 52 15:17:59

ความคิดเห็นที่ 4   ถ้าเป็นรายได้สำหรับคนเดียวก็สบายมาก ถ้าสำหรับทั้งครอบครัวก็ไม่มาก  ช่วยกันประหยัดก็คงได้ ยกตัวอย่างทั่วไปค่ะ รายได้เด็กจบมหาลัยใหม่ๆก็ประมาณ 2 แสนนิด เน็ต เด็กจบhigh schoolก็สัก 1 แสน 8 หมื่น เน็ต ประหยัดหน่อยก็คงไม่ยาก เด็กญป.เขาไม่พึ่งพ่อแม่เขายังอยู่ได้ จุดสำคัญอยู่ที่ภาษี ค่าประกันสังคมนานา แล้วก็ค่าเช่าบ้าน จากประสบการณ์จุดสำคัญคิดว่า ค่าเช่าบ้านพยายามอย่าให้เกิน 30 % ของรายได้ค่ะ แล้วก็อยู่ที่ระดับคุณภาพชีวิตที่คุณจะเลือก จากคุณ : akebi1 เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 52 16:52:34

ความคิดเห็นที่ 5   มีเพื่อนชาวเมกันมาทำงานเป็นอาจารย์สอนภาษาที่ญี่ปุ่น บริษัทจ่ายค่าบ้านตลอดจนค่ารถไฟ เงินเดือน 240,000 เยน ตัวคนเดียว คิดว่าจำนวนที่คุณเเจ้งมายังไม่ได้หักภาษี ถ้าผิดต้องขอโทษด้วย ถ้าสามีคุณเคยทำงานที่อเมริกา จะได้ tax return ญี่ปุ่นมีค่ะเเต่ได้น้อย เเถมบางทีไม่พอพลเมืองยังต้องจ่ายเพิ่ม ( นิดหน่อย ) ภาษีอเมริกาเเละญี่ปุ่นพอๆกัน บางรัฐจะเเพงกว่าญี่ปุ่น มีครอบครัวชาวญี่ปุ่นเป็นจำนวนมาก ที่มีรายได้หลังหักภาษีเเล้วประมาณ สองเเสนต้นๆ  อยู่เเบบประหยัด เก็บเงินไม่ได้ ภรรยาต้องช่วยหางานทำ ยิ่งในกรณีที่มีบุตรเกิดขึ้น ถ้าชอบญี่ปุ่น มาเถอะค่ะ จะพอหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับการปรับตัวของเราให้เข้ากับประเทศที่เราอยู่ ขอให้ตัดสินใจเเละลองใช้ชีวิตที่นี่ ไม่ใช่ตัวคนเดียว ยังมีสามีอยู่ด้วยทั้งคน จากคุณ : YUCCA เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 52 16:56:00

ความคิดเห็นที่ 6   รายได้น้อย ก็เสียภาษีน้อยค่ะ สำหรับเงินเดือน สามแสนห้าหมื่นเยนต่อเดือน สำหรับสองคนถ้าใช้เป็น ก็อยู่ได้ แต่ต้องประหยัดให้มากหน่อยค่ะ เพราะว่า สามแสนห้าหมื่นเยน ต้องหักค่าเช่าบ้าน ค่าน้ำค่าไฟ ค่าแก๊ส ค่าภาษี ค่าประกันสุขภาพ ตัวค่าใช้จ่ายจะเป็นตัวกำหนดว่า มันพอหรือไม่พอสำหรับคุณค่ะ เพราะว่า รู้จักคนญี่ปุ่นที่เขามีเงิน เดือน แค่สองแสนเยน สามีภรรยา เขายังมีเงินเหลือเก็บก็มี ขึ้นอยู่กับตัวบุคคล มากกว่า อยากจะบอกว่าในญี่ปุ่นยังมีหลายครอบครัว ที่รายได้ แค่ สามแสนกว่าเยน ก็อยู่ได้นะคะ ไม่ใช่แค่สองคน มีลูกด้วย เอาเป็นว่า ลองๆ หาข้อมูลพวกค่าเช่าบ้านดูนะคะ ว่าจะหาที่เช่าได้ถูกๆไหม ค่าเดินทางไปทำงานเป็นอย่างไร ค่ากิน อาจจะประหยัดได้ ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าแก๊สพวกนี้ก็ประหยัดได้ค่ะ เรื่องภาษี ก็ไม่ต้องกังวลมากยังไง มันก็สัมพันธ์กับรายได้ รายได้น้อยจ่ายน้อย รายได้มากจ่ายมาก ค่ะ จากคุณ : อดีตนักกินจุก เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 52 18:54:32

ความคิดเห็นที่ 7   เข้ามาเห็นด้วยกับอดีตนักกินจุกค่ะ รายได้สามแสนเยน อยู่กันสองคน ถ้าประหยัดก็อยู่ได้ค่ะ  ขึ้นอยู่กับคุณและแฟนด้วยค่ะ ว่าใช้เยอะหรือไม่ จากคุณ : nong_ajung เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 52 19:26:09

ความคิดเห็นที่ 8   เยอะค่ะ    อยู่ได้สบายๆ   ครอบครัวดิฉันได้น้อยกว่าคุณ   4คนก็อยู่แบบไม่ลำบาก จากคุณ : อะไรก็ไม่ได้ เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 52 19:26:48

ความคิดเห็นที่ 9   Thank you guys so much na ka :) i feel better already,our family is just too of us we dont have any kid yet ( young couple) i wanna do it while i have time to make my dream come true. from what read at the website,the company offer a free apartment,and we are really down to earth person if a family that has kids can make it i think, why not us la??? anyway im trying to get an information ahead of the time we plan to move in 2-3 years give us time to learn more about JP and language duey ka. thanks everyone so much na ka :) PS. might need to get help in some other time hehehe แก้ไขเมื่อ 12 ก.ค. 52 21:13:19 จากคุณ : Mudblood Lady No.7 @ Daigon เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 52 20:41:39

ความคิดเห็นที่ 10   ^ ^ the company offer a free apartment  <-- that`s good and maybe no problem if you two would gonna move to live here with salary 350,000yen/month. It`s much enough for two or a family with 1-2 kids. I know some people who earn money less than you but they still alive ^^ I hope your dream will come true someday kha. แก้ไขเมื่อ 13 ก.ค. 52 09:33:03 แก้ไขเมื่อ 13 ก.ค. 52 09:31:02 จากคุณ : หนูซุยกะ เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 52 09:29:16

ความคิดเห็นที่ 11   มายกมือด้วยคนคะ ที่บ้านก็ได้เงินเดือน350,000 หลังหักภาษีนะคะ มีลูกหนึ่งคน ส่งค่าบ้าน ค่าร.รลูก และเก็บได้นิดหน่อย ประหยัดหน่อยก็อยู่ได้สบายค่ะ จากคุณ : ริกะ (ทุ่งทิวลิป) เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 52 11:39:17

ความคิดเห็นที่ 12   Thanks makk makk na ka you guys are nice and really helpful ^^ hopefully,i get to be a member of @japan's room ^^ I'm so ready to get of the car and ride bike. !!!! จากคุณ : Mudblood Lady No.7 @ Daigon เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 52 12:12:05

ความคิดเห็นที่ 13   In Japan, most expenses are from 1. Accomodation 2. Tax, Insurance, Pension 3. Food If your husband’s company offers free accommodation, there will be no problem for 350,000 yen a month. For a young couple, you can spend as less as 50,000 yen a month for food. Tax, Insurance, Pension for this range of income should be around 20-30%. Electricity, Gas, Phone, Internet should be within 15,000-20,000 yen altogether. All other miscellaneous items can be around 2-30,000 yen a month. I can picture a couple getting at least 100,000 yen/month saving with that level of income in an economical-medium class lifestyle. However, that saving amount can be easily wiped out with raising kids or some blow-out spending. จากคุณ : s7014249 เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 52 12:51:23

ความคิดเห็นที่ 14   ขึ้นอยู่ว่าสังคมของคุณเป็นแบบไหนค่ะ สำหรับครอบครัวสามคนพ่อแม่ลูกของเรา แฟนทำงาน เราเลี้ยงลูกอยู่บ้าน เงินหลังจากหักภาษีและอื่นๆฯ เหลือก็ไม่เยอะเท่าไร อยากกิน กิน อยากเที่ยว เที่ยว อยากซื้อ ซื้อ แถมต้องจ่ายค่าผ่อนบ้านอีก ได้พักบริษัทฟรีก็ยิ่งดีใหญ่ ประหยัดค่าใช้จ่ายไปเยอะเชียว สามสิบห้ามัง หรือน้อยกว่า แต่ละคน แต่ละครอบครัวก็ต้องยึดหลัก ของครอบครัวเป็นต้น คงไม่มีใช้เกินตัว หรือไม่อาจมี เพราะเดือนร้อนก็คือครอบครัวของคุณๆเอง จากคุณ : นิงัย เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 52 13:58:13

ความคิดเห็นที่ 15   Everything depends on what life style you have kha. 350,000 yen is quite a nice offering if your hasband is in his 20's or early 30's. For our family, since we have a kid, of course we expect something more. From my husband's monthly income, it's quite hard to make ends meet every month. We are having a big debt to be paid off for another 30 years. Apart from the mortgage, taxes, insurances, bills, child raising et cetera are all where our money drain to kha. Anyway, I don't mean to discourage you kha. As you said above that you and your hasband are a yound couple with no kid, no any burdens and live a down-to-earth life, you must surely enjoy living in Japan! But allow me to say something please, a job as an English teacher in Japan isn't that easy now kha. The birthrate is shrinking, so many language schools are facing their tough time. If your husband can have a better alternative, don't let go of it kha. A parttime English teacher in a big firm is also one of the good chocies. I know several native English speakers who are doing this. They can get soso good pay kha. :D If your hasband is going to teach in the school, it's far better than working for the language school kha. จากคุณ : fudge-a-mania เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 52 15:39:33

ความคิดเห็นที่ 16   เข้ามาเรียนภาษาอังกฤษ แล้วก็ มาแอบเก็บข้อมูลค่ะ เห็นด้วยว่า สิ่งสำคัญคือไม่ใช่ว่า เราได้เงินเท่าไหร่ แต่ขึ้นอยู่กับว่าเราใช้เงินอย่างไร มากกว่าค่ะ อย่างพร ใช้ยังไงก็ไม่รู้ ขนาดใช้คนเดียว ได้เท่าไหร่ก็ไม่เหลือให้เก็บเล้ยยย เฮ้อ ^^ อ้อ แล้วก็ เข้ามาบอกว่า รู้สึกว่า ห้องแอดแจแปนเนี่ย อบอุ่น ใจดีจังเลยค่ะ แก้ไขเมื่อ 13 ก.ค. 52 16:58:09 จากคุณ : paula@aroundtheworld เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 52 16:57:24

ความคิดเห็นที่ 17   Thankss so much to everyone na ka ^^ i agree with khun.  paula@aroundtheworld  ka that a member here are nice and helpful jing jing. จากคุณ : Mudblood Lady No.7 @ Daigon เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 52 17:27:03

ความคิดเห็นที่ 18   ^ ^ In the future if you were in Japan, please remember do not speak the word "Jing Jing" in public na ka ^^ 555 คือมันเป็นคำต้องห้ามของที่นี่ค่ะ(อุ๊บส์!!) ใครจะด่าว่าเราทะลึ่งออกอากาศมั้ยเนี่ย? อิอิ (เข้ามาแซวก่อนไปนอนเฉยๆอ่ะ) จากคุณ : หนูซุยกะ เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 52 20:13:37

ความคิดเห็นที่ 19   555 now you make me wanna know what's that mean !!! ^^ จากคุณ : Mudblood Lady No.7 @ Daigon เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 52 21:26:02

ความคิดเห็นที่ 20   เข้ามา นึกว่าบอร์ดแม่บ้านฝรั่ง ภาษาอังกฤษเทพกันได้อีกนะครับ จากคุณ : teddyblooh เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 52 22:59:44

ความคิดเห็นที่ 21   คุณแพนด้าหน้าใส   แฟนคุณเงินเดือนไม่น้อยแล้วนะคะนั่น ถ้าเป็นหนุ่มโสด แล้วสาวๆรู้เงินเดือนนี่ มีกระโดดเกาะแหง    ปีละอิสเซ็มมังขึ้นนี่  เป็นเส้นขีดบอกระดับหนุ่มฐานะดีเลยน้า.... จากคุณ : gengen เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 52 09:45:22

ความคิดเห็นที่ 22   คิคิ เข้ามาเรียนภาษาปะกิตค่ะ .... หุย แต่ละท่าน เก่งๆทั้งนั้น อะอะ เข้าเรื่อง อยู่ได้สบายค่ะ  ถ้าไม่เว่อร์นะคะ จากคุณ : รวมการเฉพาะกิจ เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 52 19:17:40

ความคิดเห็นที่ 23   ไม่รู้จะช่วยแนะนำอะไรค่ะ ข้างบนแนะนำไปหมดแล้ว เข้ามาเรียนภาษาฝรั่งดีกว่า ฮุฮุฮุ มีกระทู้ภาษาฝรั่งก็สนุกดีนะคะเนี๊ย จากคุณ : Omiya เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 52 20:59:49

ความคิดเห็นที่ 24   ตอบคุณ gengen เราก็ว่าไม่น้อยนะคะ แต่ทำไมมันถึงได้พอดีๆ ทุกเดือนเลยก็ไม่รู้ เลยต้องไปช่วยทำบัญชีทุกเดือนเริ่มตั้งแต่เดือนสิงหานี้แหละค่ะ - -" บังเอิญแฟนเราไม่โสดเท่าไหร่ มีลูกด้วย 1 คนนี่แหละค่ะ 5555 เลยอาจจะไม่มีสาวๆ โดดเกาะ แล้วก็บ้างานใช้ได้ แต่บ้าเกินไปไม่ได้เพราะอยู่กับลูกแค่สองคน จากคุณ : แพนด้าหน้าใส เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 52 21:00:16

ความคิดเห็นที่ 25   ไม่เข้าใจว่า ทำไมมีคนไทยพิมพ์ภาษาอังกฤษมาปุ๊บ ก็พากันมาตอบเป็นภาษาอังกฤษปั๊บ ทั้งๆที่ไม่ได้พิมพ์ถูกหมดแบบเจ้าของภาษากัน "too of us" นี่ชัดเจนเลย แถมมีบางคนลงท้าย  .... kha  ด้วย สงสัยกลัวไม่หวานซึ้งพอ พอมีพิมพ์ภาษาญี่ปุ่นมา เงียบจ๋อยมีตัวแม่ตัวพ่อมาตอบไม่กี่คน หลังๆ ตัวแม่ตัวพ่อเลิกเล่นไปแล้วมั้ง ไม่ค่อยเห็นข้อความอ่ะ ถ้าพิมพ์ ตั้งกระทู้ในพันทิปได้ ก็แสดงว่าอ่านปุ่มต่างๆ เป็นภาษาไทยได้นั่นล่ะ แค่อาจจะมีปัญหากับแป้นพิมพ์ ไม่ใช่ฝรั่งอ่านไทยไม่ออกซะหน่อย ปล.แค่ ความเห็นส่วนตัว จากคุณ : Laputania เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 52 10:00:33

ความคิดเห็นที่ 26   จริงๆจะถาม-ตอบเป็นภาษาอะไรก็ขึ้นอยู่กับความสะดวกและพอใจของคนที่ ถาม-ตอบอยู่แล้ว การที่จขกท.เค้าพิมพ์เป็นภาษาอังกฤษ ก็แสดงว่า เค้าอยากพิมพ์เป็นภาษา อังกฤษ ไม่ใช่ภาษาไทย ก็เท่านั้นเอง แล้วคนที่มาตอบให้ก็ไม่มีใครเดือดร้อน ใครใคร่ตอบก็ตอบ ใครไม่อยากตอบก็ไม่ต้องตอบ ไม่เห็นจะเป็นปัญหา อะไรเลย และจขกท.เค้าก็สุภาพพอที่จะขอบคุณทุกคนที่มาช่วยตอบ บางทีถ้าไม่รู้วิธีทำให้ตัวเองเป็นส่วนหนึ่งในสังคมใหญ่ได้อย่างมีความสุข จะ เลือกไม่ออกความเห็นอะไรเลยจะทำให้ตัวเองมีความสุขกว่ามั้ย "จากรูปแรก เพิ่งเคยได้เห็นหัวกระโหลกด้านหลังของตุ๊กตาตาโบ๋ตัวนี้... หลอนมากๆ นึกถึงสมัยเด็ก ที่เคยเห็นคนเอาเด็กพิการหัวโตๆ ไปนอนขอเงิน ตามงานวัด   <<< Laputania" ปล. ก็...แค่ ความเห็นส่วนตัว ที่ผ่านการกลั่นกรองที่จะเขียนมาอย่างดี จากคุณ : fudge-a-mania เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 52 12:17:55

ความคิดเห็นที่ 27   ถ้าพันธ์ทิพย์พิมพ์ภาษาญี่ปุ่นได้ เราพิมพ์ไปนานแล้ว - - จากคุณ : แพนด้าหน้าใส เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 52 16:05:42

ความคิดเห็นที่ 28   I'd love to write it in THAI but my laptop doesn't have Thai font  !!!!! that's why i dont write it in thai,and when i said "ka" that's because i'm THAI. Oh and about the "two of us" thing i was forgot ka, didn't check it sorry duey that it bothering you. My english are not perfect but i'm feel fine to use it cause when i made a mistake,most of the people understand since i'm not born speaking english. And i think the reason that they dont answer me in japanses is because they are smart enough to figure it out that ,i'm in usa probably i dont know japanese ???? แก้ไขเมื่อ 15 ก.ค. 52 18:10:56 จากคุณ : Mudblood Lady No.7 @ Daigon เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 52 18:09:56

ความคิดเห็นที่ 29   เคยเห็นแต่ห้องอื่นนะคะที่มีคนเกรียนและกัดคนอื่น ไม่นึกว่าห้องนี้จะมีด้วย มาม๊ะ มาปล่อยวางอะไร ๆ ลงบ้าง แล้วคุณจะเห็นอะไรดี ๆ ในโลกนี้อีกเยอะ แม้กระทั่งในกระทู้นี้ถ้าคุณมองโลกในแง่ดีสักหน่อย คุณก็จะเห็นอะไรดี ๆ ชีวิตก็จะมีความสุขขี้นแบบไม่รู้ตัวเชียวล่ะ ความเห็นส่วนตัวนะคะ ตามที่อ่านกระทู้นี้และความเห็นต่าง ๆ ที่เป็นภาษาอังกฤษแบบไม่เป็นทางการ น่ารักดีออกค่ะ ดูไม่เป็นทางการอ่านแล้วก็บันเทิง รับรู้ถึงความเป็นไทยดีค่ะ ถ้าเรารู้จักให้เกียรติคนอื่น อ่านแล้วไม่เห็นต้องสนใจหรือสงสัยว่าแต่ละคนเก่งภาษาอังกฤษหรือเปล่า ได้ภาษาญี่ปุ่นมั๊ยนะ คิดบวกแล้วชีวิตจะมีความสุขขึ้นค่ะ เป็นกำลังใจให้นะคะ จากคุณ : Omiya เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 52 18:47:31

ความคิดเห็นที่ 30   เค้าถามเป็นอังกฤษมาก็ตอบอังกฤษไปไงผิดหรอ? หัดมองโลกในแง่ดีทำจิตใจให้มีความสุขเสียบ้างนะหนู หึหึ จากคุณ : หนูซุยกะ เขียนเมื่อ : 16 ก.ค. 52 12:53:28