Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
เป็นทนายให้ตัวเอง ขึ้นศาลสิงคโปร์ เหนื่อย เครียด แต่สำเร็จ  

เพิ่งมีเวลามาเล่า เผื่อจะเป็นประโยชน์กับแม่บ้านที่อยู่ต่างแดน พวกที่โดนสามีเอาเปรียบที่ในประเทศของเขา ดิฉันเคยแต่งงานแล้วหย่าที่สิงคโปร์ โดยศาลมีคำสั่งให้สามีจ่ายเงินให้เราทุกเดือน (โดยไม่มีระบุเวลา) แต่เข้าใจว่าท่าฝ่ายชายสามารถทำเรื่องให้ศาลสั่งให้หยุดจ่ายได้เมื่อมีเหตุผลอันควร

เรื่องมีอยู่ว่า เราไปเที่ยวอเมริกาแล้วก็ไปพักที่บ้านเพื่อน แล้วก็ถ่ายรูปมากมายกับเพื่อน ๆ ของแฟนเพื่อนเรา เพราะว่าเขาดูดี แต่เขาก็ไม่ได้เป็นอะไรกับเรา แล้วเราก็ถ่ายรูปบ้านเพื่อนเรา ถ่ายคู่กับหมา กะแมว กับเพื่อน ๆ ที่ไปเที่ยว แล้วเพื่อน ๆ ทางเมืองไทยอยากดู เราส่งไฟล์ใหญ่ ๆ ผ่านอีเมล์มันก็ตีกลับ เพื่อนเลยบอกให้เอาลง Hi5 เราก็ไปเปิด Hi5 แล้วก็ลงรูป แค่ช่วงเที่ยวแค่นั้น สามีเก่าดันไปเปิดเจอ เพราะเขา seach ชื่อ นามสกุล จริงเรา ซึ่งเราสมัครก็ไม่ได้ใช้ชื่อปลอม พอเขาเห็นรูปเรายืนถ่ายรูปกะผู้ชาย ยืนเฉย ๆ ไม่ได้แตะเนื้อต้องตัวกันเลยนะ เขาเอาไปฟ้องศาลที่จะไม่จ่ายเงินให้เรา โดยเขาเอาหน้า profile e-mail  เราจากใน google ซึ่งเราเคยสมัครตอนที่เราแต่งงานกับเขานานมาแล้ว โดยในช่องงาน เราบอกว่าเราเป็น house wife แล้วเราก็ไม่เคยเปลี่ยนจนบัดนี้ เพราะเราลืมไปแล้ว ไม่เคยเข้าไปแก้

สามีเก่าเราเอา profile ซึ่งเป็น house wife แล้วมีที่อยู่ว่าเป็น USA ทำไมมันขึ้นมาได้นะเหรอ เมื่อเราไปเที่ยวเราเข้าไปใน google map เพื่อหาแผนที่ไปเที่ยวกับเพื่อนเรา เขาก็ถามว่าเราอยู่ที่ไหน ปลายทางไปที่ไหน พอเราใส่ไป มันก็ขึ้นว่าเราอยู่ USA แล้ว สามีเก่าเรามันก็เอาหน้านั้นพิมพ์ออกมา บวกกับ หน้า Hi5 ที่มีรูปเรายืนคู่ผู้ชาย จ้างทนายมาฟ้องเรา ให้เราไปขึ้นศาล โดยทางสามีเก่าเริ่มจ้างทนายตั้งแต่เดือนมีนาคม

ส่งเรื่องมาให้เรา 26 มิถุนายน บอกให้เราไปขึ้นศาลวันที่ 8 กรกฏาคม แล้วขึ้นเรื่องว่า affidavit เราเนี่ยงงมากกับคำ ๆ นี้ เกิดมาไม่เคยพบเคยเห็น เราอ่านเรื่องคร่าว ๆ ว่าสามีเก่าจะหยุดจ่ายเงินเรา เพราะว่าเราแต่งงานใหม่ อยู่กับผู้ชายใหม่ มีบ้านหลังใหญ่โต เราเห็นก็งง ว่าศาลเขาจะรับเรื่องแบบนี้ด้วยเหรอ มันลอย ๆ มันไม่มีอะไรมาพิสูจน์เลยว่าเราแต่งงานแล้ว เรางงมาก ลองติดต่อทนายที่สิงคโปร์ เราต้องเสียเงินเป็นแสน ซึ่งพอ ๆ กับเงินที่สามีเก่าเราค้างเราเลย

ว่าแล้วเราก็ลองค้นอินเตอร์เน็ต ดูว่าเราสามารถทำอะไรได้บ้าง เราเลยติดต่อ family court ที่สิงคโปร์ก่อนเลย ว่าเราทำอะไรได้บ้าง เพราะว่าเราไม่มีเงินจ้างทนาย เขาก็บอกว่าเขาเป็นศาล ไม่สามารถให้คำปรึกษาด้านกฏหมายได้ แต่เราสามารถติดต่อขอฟอร์มทางอินเตอร์เน็ตได้ เพื่อยื่นเรื่อง คืออ่านแล้วไม่ได้อะไรเลยกับเวป ของสิงคโปร์ เรื่องเป็นทนายให้ตัวเอง

เราก็เลยไปหาเวปทางอเมริกา ได้ความรู้ใหม่ Pro Se คือการเป็นทนายให้ตัวเอง เขามีคำแนะนำ การเตรียมเรื่อง การหาแบบฟอร์ม เตรียมตัว คำพูดตอนขึ้นศาล เรามีเวลาไม่ถึง 2 อาทิตย์ เราก็ค้นหาไปเรื่อย ๆ ไม่ได้หลับได้นอน เป็นอาทิตย์ เพื่อเตรียมตัวขึ้นศาล

ขั้นแรก เราต้องพิสูจน์ตัวเองก่อนว่าเรายังไม่ได้แต่งงาน เราก็ไปขอใบรับรองความเป็นโสดจากการหย่า ที่เขตบ้านเรา แล้วก็เอาไปแปล เสร็จแล้ว เราก็เริ่มโทรไปที่ family court ขอแผนกที่ให้คำปรึกษากับคนที่จะหย่ากับสามี เราก็ได้รู้จักกับ Steven เทวดาน้อยของเรา เราโทรไป Steven ก็บอกเราว่าให้เราพิมพ์ affidavit ตอบสามีเรา ตามที่เขากล่าวหาเรา พร้อมแนบหลักฐานให้หนักแน่น  เสร็จแล้วเราต้องเอาไปยื่นเรื่องก่อนขึ้นศาล 1 อาทิตย์ (เรา อุทานในใจ หนึ่งอาทิตย์ แม่เจ้า ลูกจะทำไง พิมพ์กฏหมาย ภาษาอังกฤษ สู้กับทนายความสามีซึ่งเป็นอาจารย์สอนกฏหมายด้วย)

เหลือเวลาอีกสองวันจะถึงกำหนดที่จะต้องยื่นให้ศาลก่อนเราไปขึ้นศาล  เราโทรไปหาเพื่อนที่สิงคโปร์ว่า เราจะขอให้เขาไปยื่น electronic file ให้เรา ซึ่งถ้ายื่นทางนี้ยื่นก่อนสองวันได้ เราโทรไปเช็คมา เราเลยขอให้เพื่อนช่วย เพื่อนเราก็รับปาก

หลังจากนั้น ตามคำแนะนำของ Steven ให้ copy ฟอร์มของทนายความสามี แต่เปลี่ยน เป็นเราตอบสามี แล้วก็ตอบเขาเป็นข้อ ๆ พร้อมมีหลักฐานแนบ (ลืม บอกเพื่อน ๆ ไป ก่อนหย่ากะสามี เราเอา spy wear ไปลงในคอมเขาไว้ ได้รูปเด็ด ๆ กับจดหมายรักกับผู้หญิงคนนั้นบานเลย แล้วก็มีข้อความแชตกับผู้หญิง หลาย ๆ คน ซึ่งเราก็เก็บไว้จดบัดนี้)

affidavit ของสามีเก่าเรา กล่าวหาเราว่า
1. ตอนเราแต่งงานกับเขา เรามีเวปไซด์แบบนี้ ชอบหาเพื่อนทางเน็ต ชอบแชต
2. เขาซื้อคอนโดให้เราที่กรุงเทพฯ แต่เรากลับไม่อยู่
3. เราไปอยู่อเมริกากับผู้ชายอื่น ในบ้านหลังใหญ่โต ซึ่งเขาเข้าใจว่าเราแต่งงานแล้ว
4. ตอนขนของกลับเมืองไทย มีอยู่สองกล่องส่งไปที่ฟิลิปปินส์ มีชื่อผู้ชายเป็นผู้รับ เขาไม่รู้ว่าเป็นใคร
แล้วข้อความสรุปคือ ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ ทำให้เขาเข้าใจว่าเราได้แต่งงานใหม่แล้ว เขาจึงจะยุติการส่งเงินให้เรา

เราก็ตอบกลับไป เป็นข้อ ๆ ดังนี้
1. เราบอกว่า เราไปอยู่สิงคโปร์ มีเพื่อนอยู่เมืองไทย เราจะคุยกับเพื่อนเราได้ก็ทาง MSN ซึ่งฟรี แล้วเราก็คุยตอนที่แฟนเรากลับบ้านมาแล้ว หรือยามว่าง เรามีแต่เพื่อนผู้หญิง เราอยู่บ้าน เช้าไปส่งสามีทำงาน กลับมาบ้าน ดูดฝุ่น ถูบ้าน ซักผ้า รีดผ้า ล้างห้องน้ำ ทำงานบ้านสารพัด บ่ายไปตลาดซื้อกับข้าว เตรียมผัก หั่นหมู หั่นเนื้อ เพื่อทำกับข้าว ตอนกลับจากรับสามี (สามีเราขับรถไม่เป็น)  เราก็มาทำกับข้าวเย็น เพื่อให้สามีเรากิน เราอยู่อพาร์ทเมนท์ 2 ปีที่ย้ายมาอยู่ที่นี่ เพื่อนบ้านเราเห็นหมดว่าเราทำอะไรบ้าง

มีแต่สามีเรานะแหละ พอกลับมาบ้าน ก็มาแชตกับผู้หญิง ว่าแล้วก็มีรูปภาพประกอบ เป็น screen shot จาก spy wear เรา ยกตัวอย่างผู้หญิง 6 คน ที่สามีเราแชตอยู่ด้วย มีรูปสามีเราใน MSN กับรูปผู้หญิง ในนั้นด้วย เพื่อน ๆ คงนึกออกว่า จะมีรูป profile ในหน้าต่างแชต เราแนบเอกสารไปให้ด้วย

2. สามีเราบอกว่าซึ้อคอนโดให้เรา เราก็บอกไปว่า เราซื้อคอนโดตั้งแต่ก่อนเจอสามีเรา ว่าแล้ว เราก็เอาทะเบียนบ้านแปลเป็นภาษาอังกฤษ แนบให้ดูว่าเรามีคอนโดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ก่อนเจอสามีเรา 5 ปี แล้วสามีเราก็ไม่ได้ซื้อให้เรา ตอนหย่ากัน เรายังผ่อนอยู่เลย เพิ่งหมดเมื่อปีที่แล้ว เราหย่ามาแล้วสองปี

3.เราก็ตอบสามีเก่าไปว่า สามีเก่าเรา เอาเวปไซส์ 2 เวปมารวมกัน เพื่อให้ศาลเข้าใจว่าเราแต่งงานแล้ว เราก็บอกศาลว่า profile ใน gmail account ที่เราสมัครไว้ตอนเราแต่งงานกับสามีเราแล้ว เราก็กรอกไปว่า เราเป็นแม่บ้าน ซึ่งบัดนี้เราก็ยังไม่ได้เปลี่ยน แล้วที่มันปรากฏว่า USA ใต้ House wife มันคงเป็นตอนที่เราไปหาแผนที่กับเพื่อนเรา เพื่อพิมพ์ออกมานะแหละ เดี๋ยวนี้ google รู้หมดแหละว่าเราอยู่ที่ไหน ออนไลน์ประเทศอะไร  ส่วน Hi5 เป็นรูปของเพื่อนสามีเรา ซึ่งเราถ่ายรูปด้วย แล้วก็ถ่ายแบบยืนเฉย ๆ ไม่ได้แตะเนื้อต้องตัวกันเลย ซึ่งเพื่อนเราเขาอยากเห็นหน้าเจ้าของบ้าน เราก็เลยส่งไปให้เขาดู เขาก็มีเมียแล้วด้วย แล้วเราก็ขอเอกสาร ของผู้ชายที่เราถ่ายรูปด้วยแนบไป ว่าเขาชื่ออะไร แต่งงานกับใคร

4.กล่องที่สามีเก่าอ้างมานั้น เป็นกล่องของแห้งในครัวเรา ซึ่งเรายกให้เพื่อนเราที่ฟิลิปปินส์  เขาให้บัญชี  FedEx  มาแล้วให้เราส่งของไปตามที่อยู่นั้น เราก็ส่งไปให้เขา เพราะเราจะกลับเมืองไทย เราไม่ต้องขนของเครื่องครัวไทยกลับไป สู้ให้เพื่อน ๆ ที่อยู่ต่างประเทศเอาไว้ใช้ไว้กินดีกว่า ซึ่งเป็นของที่เราขนมาจากเมืองไทย เครื่องเทศ พริกแกง น้ำปลา ซอส เยอะแยะ เราให้เขาหมดเลย เป็นอันว่า เราไม่รู้จักคนที่เพื่อนเราให้ชื่อมา แต่เรารู้จักเพื่อนเราอย่างเดียว

เราตอบไปทั้งหมด พร้อมหลักฐานรวมทั้งหมด 48 หน้า เราส่ง DHL ไปให้เพื่อนเราส่ง e-filing ให้เรา เสียเงินไป 50 เหรียญมั้ง เสร็จแล้วอีกวันเราก็บินไปก่อนขึ้นศาลสองวัน

พอไปถึงสิงคโปร์ เราก็นัดกับเพื่อนเราไปเจอกันที่ศาลไปตามหาเรื่องที่เรายื่น ปรากฏว่า เพื่อนเรายื่นผิด เราเลยไปหา Steven ขอคำแนะนำ ว่าผิดตรงไหน เราก็แก้ แล้วก็ไปเสียค่าธรรมเนียมที่ศาล ตรงหลักฐานเพิ่มเติมแต่ละแผ่น เค้าก็คิดเงิน บวกไปบวกมา อีก 50 เหรียญ ประมาณนั้น แล้วเราก็ไปยื่นที่ e-filing อีกที ที่เพื่อนเรายื่นผิดเอาไว้ คราวแรก แต่ไปยื่นคราวนี้เขาไม่คิดเงิน เพราะเหมือนเอาไปแก้ไขได้

พอยื่นเสร็จ เราก็เอาไปถ่ายเอกสาร แล้วก็ส่งเรื่องไปให้ ทนายความของสามีเก่าเย็นวันนั้นเลย เราไปถึงเกือบ 5 โมงเย็น แล้วก็ให้เขาเซ็นต์รับ เป็นพนักงานของบริษัททนายความ พนักงานเขาถามเราว่า เราเป็นใคร เราบอกว่า เป็น plaintiff  เขาถามว่าไม่มีทนายเหรอ เราบอกว่า ไม่มี เราทำเอง เขาก็ทำหน้างง

วันที่ขึ้นศาล เราแต่งตัวสูทชุดดำ เหมือนพวกทนายเขาใส่กัน ใส่แว่น ซ้อมคำพูด เรียกศาลว่า  your honor ทุกครั้ง ท่องไว้ห้ามมีอารมณ์ ไม่โต้ตอบกับทนายความ ฟังศาล แล้วตอบศาล เวลาทนายความพูดอะไร จดไว้ แล้วเตรียมหาคำตอบ กับหลักฐาน

นัดแรก ทนายความสามีเก่ามา เจอเรา ขู่เราว่าไม่มีทนายเหรอ ไม่ได้นะ ต้องมีทนาย เราก็บอกว่า เราไม่มีทนาย เราจะ represent ตัวเอง เขาพูดอะไรมา เราก็บอกว่า ไปคุยกันในศาลเถอะ แล้วก็เดินเลี่ยงเขาไปเลย พอถึงเวลา ทนายสามีเก่าก็บอกศาลว่า เราไม่มีทนายความ ศาลก็บอกว่า เราเป็นทนายให้ตัวเองไม่ใช่หรือ เราก็บอกว่า ใช่

ทนายก็บอกว่าไม่มีเวลาอ่าน แล้วก็ลูกความเขาก็ยังไม่ได้อ่าน แต่ศาลก็บอกว่า ตามที่ affidavit ของทนายความสามีเก่าเรา ไม่มีมูล เราได้ส่งเอกสารมาพิสูจน์ว่าเรายังไม่ได้แต่งงาน ศาลบอกให้ทนายความไปบอกลูกความให้จ่ายเงินเรามา ค้างเราไว้ 4 เดือนแล้ว

ทนายความบอกว่ามันไม่ยุติธรรม ต้องให้ลูกความของเขาได้แก้ข้อกล่าวหาก่อน ขอให้ศาลเลื่อนไปอีกนัดนึง เดือนหน้า ศาลก็นัดเราเดือนสิงหาคม วันที่ 13

ตกลงมันยังไม่จบ ต่อภาคสอง

จากคุณ : Yishun
เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 52 18:32:41




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com