|
ความคิดเห็นที่ 12 |
เรียน คุณความเห็นที่ 10 คุณ ธนิตา
ขอแจ้งเรื่องตำแหน่งงานในสถานกงสุลใหญ่ไทย ทั่วโลก ตามที่ท่านต้องการทราบ เพื่อเป็นประโยชน์แก่ผู้สนใจทั่วไป ดังนี้
1. สถานกงสุลใหญ่ ถือเป็นตัวแทนประเทศไทยในทางกงสุล ( Consular Representatives) ตามกฎหมายระหว่างประเทศ อีกหน่วยงานหนึ่งนอกเหนือจากสถานเอกอัครราชทูต ( Diplomatic Representatives)
2. เจ้าหน้าที่จากประเทศไทยที่ส่งไปประจำการในสถานกงสุลใหญ่ไทย คือข้าราชการจากกระทรวงการต่างประเทศ เช่นเดียวกับเจ้าหน้าที่ในสถานทูตไทยทั่วโลก
3. ข้าราชการจากกระทรวงการต่างประเทศ อาจจะถูกส่งไปประจำการที่สถานทูตไทย หรือที่สถานกงสุลใหญ่ไทย แห่งใดแห่งหนึ่งก็ได้ ถือว่ามีศักดิ์ศรีเท่ากัน เป็นเรื่องธรรมดาที่บางท่าน คราวนี้ไปประจำการที่สถานทูตไทยแห่งหนึ่ง ต่อไปคราวหน้า อาจมีชื่อไปตกที่สถานกงสุลใหญ่ในอีกประเทศหนึ่ง ( หรือในทางกลับกัน) ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติ
4. ข้าราชการที่ส่งไปจากกระทรวงการต่างประเทศ มีทั้งสาย " เจ้าหน้าที่การทูต " และ "สายสนับสนุน"
สาย "เจ้าหน้าที่การทูต" เป็นสายหลักของกระทรวง ฯ ได้แก่ข้าราชการที่จบปริญญาตรี โท ถึงเอก สาขาต่างๆ ในสาย Social Science มาสมัครสอบ ( ขณะนี้ ปัจจุบันนี้ กระทรวง ฯ เปิดรับสมัครผู้มีวุฒิปริญญาตรี และโท สอบเข้ารับราชการในตำแหน่งเจ้าหน้าที่การทูต แล้ว จนถึงวันที่ 11 กันยายน 2552 เป็นวันสุดท้าย)
"สายสนับสนุน" เป็นการสอบผ่าน ก.พ. จากผู้มีวุฒิ ปวช. หรือปวส. เข้าทำงานในตำแหน่งเสมียนพนักงาน หรือทำงานสารบัญ พิมพ์งาน บัญชี ฯลฯ เป็นต้น ปกติทำงานในกระทรวง ฯ ที่กรุงเทพ แต่ก็มีโอกาสได้ไปประจำการที่สถานทูตไทย/สถานกงสุลไทยในต่างประเทศเหมือนกัน แต่รอนานกว่าจะได้ออกสักครั้ง ( หากโชคดี 6-8 ปี จึงจะได้ออกสักรอบหนึ่ง เนื่องจากสถานทูต/สถานกงสุลสามารถจ้างลูกจ้างชั่วคราวมาทำหน้าที่แบบเสมียนพนักงานช่วยนักการทูตได้ และประหยัดค่าใช้จ่ายมากกว่า ไม่เหมือนเจ้าหน้าที่การทูต แต่ละคนรับราชการในกระทรวง ฯ ไม่เกิน 3 ปี ก็มีชื่อได้ออกไปประจำการต่างประเทศแล้ว)
5. การแบ่งงานในสถานกงสุลใหญ่ไทย งานหลัก ๆ มีดังนี้
5.1 หัวหน้าสำนักงาน ผู้ควบคุมการบริหารทั่วไป คือตัวท่านกงสุลใหญ่ Z Consul General) หากเทียบกับระดับชั้นแบบเก่า คือ ข้าราชการระดับ ซี 9 หรือรองอธิบดี
5.2 รองลงมา คือ รองกงสุลใหญ่ ( Deputy Consul General)เทียบกับซี 8 สมัยก่อน หรือระดับ ผ.อ. จะทำหน้าที่ช่วยดูแลงานทั่วไป หรือจับงานรายงานการเมือง - เศรษฐกิจ หรืองานสำคัญ ๆ ตามที่กงสุลใหญ่มอบหมาย
5.3 ต่อจากนั้น มีตำแหน่ง " กงสุล " Consul ทุกคน ทำหน้าที่เป็นหัวหน้างานในสายงานสำคัญต่างๆ ของสถานกงสุลใหญ่ ซึ่งมีงานหลักสำคัญอยู่ 4 สายงาน คือ
1. งานหนังสือเดินทาง ดูแลทั้งงานหนังสือเดินทางทูต ราชการ ธรรมดา และการออกหนังสือสำคัญประจำตัว ( C.I.)
2. งานตรวจลงตราและเอกสารเดินทางคนต่างด้าว คือการออกวีซ่าให้แก่คนต่างชาติที่จะเข้าประเทสไทย
3. งานสัญชาติและนิติกรณ์ ได้แก่การออกสูติบัตรให้เด็กไทยที่เกิดในประเทศนั้น การจดทะเบียนสมรส การออก " หนังสือรับรองการมีชีวิต" สำหรับข้าราชการเกษียณอายุจากประเทศไทยแล้วย้ายไปอยู่กับบุตรหลานในบั้นปลายชีวิตที่ประเทศนั้นๆ หนังสือนี้มีไว้เพื่อยืนยันการขอรับเงินบำนาญ หรือสิทธิต่างๆ ของข้าราชการบำนาญจากหน่วยราชการในเมืองไทย เช่นที่คุณ ธนิตา กล่าวมา หรือการรับรองเอกสารราชการต่าง ฯลฯ
4. งานคุ้มครองและดูแลผลประโยชน์คนไทยในต่างประเทศ ได้แก่การให้ความช่วยเหลือแก่คนไทยที่ไปตกทุกข์ได้ยากในประเทศนั้นๆ ( ต้องลำบากจริงๆ นะ) เช่น พวกลูกเรือประมงเรือแตกกลางทะเลน่านน้ำอินโดนีเซีย หรือพวกคนงานไทยที่ถูกนายจ้างลอยแพในตะวันออกกลางเป็นต้น ทั้งนี้ รวมทั้งหญิงไทยที่ถูกจับ-ถูกหลอกลวงไปทำงานต่างๆ ในประเทศนั้นๆ ด้วย
งานหลักทั้ง 4 อย่างที่กล่าวมานี้ เป็นงานสำคัญของสถานกงสุลใหญ่ทั่วไป ซึ่งเจ้าหน้าที่การทูต ที่ไปรับตำแหน่งกงสุลที่นั่น จะได้รับมอบหมายให้ดูแลงานที่ว่าโดยแบ่งงานกันไป แต่หากมีเจ้าหน้าที่น้อย ทำให้บางคนต้องรับผิดชอบถึง 3 งาน บางคนรับ 4 งานคนเดียวเลยก็มี ( เช่นสถานกงสุลไทยเล็ก ๆ เช่นที่สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองเจนไน ประเทศอินเดีย เป็นต้น )
5. ส่วนงานสังคมอื่นๆ เช่นงานด้านศาสนา - วัฒนธรรม หรืองานสมาคมประจำปีของชุมชนไทย ซึ่งจะมีมากในเมืองใหญ่ๆ เช่นที่นคร Los Angeles เป็นชุมชนใหญ่ งานสังคมประภทนี้มีประจำตลอดปี เมื่อได้รับเชิญมา ( เชิญสถานกงสุลใหญ่เป็นประธานในงานเป็นเรื่องปกติ ) ให้ไปเป็นประธานทอดกฐิน ( อีกสองเดือนจะถึงแล้ว) วัดไทยต่างๆในละแวกมลรัฐแคลิฟอร์เนีย รวมทั้งมลรัฐใกล้เคียงในเขตอาณา ตั้งแต่ Alaska ลงมาและรวมทั้ง Idaho, Utah, Arizona,New mexico ฯลฯ มีจำนวนมากถึง 60 กว่าวัด กงสุลใหญ่ก็จะแบ่งงานมอบหมายให้กงสุลแต่ละคนทำหน้าที่เดินสายไปทอดกฐินตามวัดไทยต่าง ไม่ไปก็ไม่ได้อีก จะถูกกล่าวหาว่า ทำไมทีวัดโน้นท่านไปได้ แต่วัดนี้ไม่มา เลือกปฎิบัติหรืออย่างไร ...... อ้าว อีกทั้งงานประเพณีประจำปีของวัดต่างๆ เช่นงานสงกรานต์ งานลอย กระทง ฯลฯ นอกจากนี้ยังมีงานทำบุญของคนไทย งานแต่งงาน งานวันเกิด หรืองานประจำปีของสมาคมคนไทยสารพัดสมาคม กว่า 20-30 สมาคมคนไทย จะนิยมเชิญกงสุลไปเป็นประธานในงาน หากไม่ไปหรือปฎิเสธงานใด ก็จะโดนว่า หรือถูกตำหนิทางหน้าหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น หรือปากต่อปาก รู้เข้าหูผู้ใหญ่ในกระทรวง ฯ ก็แย่อีก
เป็นอันว่า ในเมืองใหญ่ ๆทุกเมือง หน้าที่ของท่านกงสุลทั้งหลาย นอกจากจะต้องปฎิบัติงานตอนกลางวันที่ออฟฟิศทั้งวันแล้ว ตอนเย็น ตอนกลางคืน หรือวันหยุด ก็จะต้องแบ่งกันออกเดินสายไปงานสารพัดของชุมชนคนไทยตลอดเดือน ตลอดปี จนกว่าจะกลับประเทศไทย
คิดเสียว่าสนุกดี ก็สนุก
แต่บางคนชอบชีวิตสงบๆ ก็ไม่สมควรมาเป็นกงสุลในเมืองใหญ่ ๆ เช่น L.A หรือ Frankfurt หรือ NewYork ให้ไปเป้นกงสุลที่เมือง Xian ประเทศจีน หรือที่เมือง Karachi ปากีสถาน หรือไปเป็นเลขานุการเอก อยู่ที่สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุง Lima ประเทศ Peru อเมริกาใต้ ( มีคนไทยพำนักประมาณ 35 คน) หรือที่สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุง Dakar ประเทศ Senegal อาฟริกาตะวันตก ( มีคนไทยพำนักประมาณ 70 คน )จะดีกว่า
หวังว่าข้อความนี้คงจะเป็นประโยชน์แก่ท่านไม่มากก็น้อย
จากคุณ |
:
นักการทูตฝึกหัดปี 1 (Detente)
|
เขียนเมื่อ |
:
25 ส.ค. 52 12:57:14
|
|
|
|
|