Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
+++ประสบการณ์ทำงานร้านอาหารไทย ทั้งขมขื่น ปนฮา และกุ๊กกิ๊กๆๆ+++  

อยากจะมาเล่าประสบการณ์ใหม่(สำหรับตัวผม) ที่เพิ่งเคยจะได้ทำเมื่อต้องมาอยู่ต่างแดนที่ตอนแรกก็ไม่ได้คิดตั้งใจจะมาทำหรือวางแผนเอาไว้ เพราะปกติก็ไม่ได้มีปัญหาเรื่องเงินทองอะไร เพราะทางบ้านก็ส่งเรียนอยู่แล้ว แล้วอีกอย่างผมก็มาอยู่กับแฟน ค่าใช้จ่ายเรื่องที่อยู่กับค่ากิน (ส่วนใหญ่) ก็ลดลงไปจนแทบจะไม่ต้องเสียอะไรเลย

แต่พอผมได้วีซ่านักเรียนมาแล้วก็สามารถทำงานได้ถูกกฏหมายตามระยะเวลาที่เค้ากำหนดมาให้ทำได้ ทีแรกก็คิดว่าจะไปทำงานอะไรดีน้าา เพราะไหนๆเค้าก็ให้ทำงานได้แล้วก็ไม่น่าจะปล่อยให้เสียโอกาสนี้ไปแต่ก็ไม่ได้คิดจริงจังว่าจะทำงาน แต่พอมาถึงเบอร์ลินได้ไม่นานด้วยความที่มีเพื่อนสาวคนไทยที่รู้จักกันก่อนหน้านี้ตอนไปลงเรียนภาษาไว้เมื่อปีที่แล้ว ก็สนิทกันมาตั้งแต่นั้น เพื่อนสาวคนนี้ (สมมติว่าชื่อพิม) พิมก็มาบอกผมว่า มีเพื่อนคนไทยที่ทำร้านอาหารไทยเค้ากำลังจะไปอเมริกาไปเยี่ยมพี่สาว ทีนี้ร้านไทยก็จะขาดคนทำงาน ถ้าผมอยากไปลองทำดูก็ไปได้นะ เค้าต้องการคนมาก อีกอย่างร้านนี้อยู่ห่างจากบ้านผมแค่เดิน 3 นาที ก็เลยคิดว่าเออลองไปทำดูดีกว่า

ขอเกริ่นไปถึงกำพืด เอ้ย เบื้องหลังตอนอยู่ที่เมืองไทยกันก่อนนะครับ อิอิ พอเรียนจบมหาวิทยาลัยก็ได้ไปทำ Modeling Agency ต่างประเทศ ที่ต้องคุ้นเคยคอยดูแลพวกนางแบบนายแบบต่างประเทศ (เรียกกันว่า "แบบ") ในตำแหน่ง Public Relation Executive ฟังดูดี๊ดูดี แต่จริงๆไม่ต้องทำไรมากเลยแค่คอยดูแลจัดเวลา ประสานงานให้แบบไป Casting ตรงเวลา ไปถ่ายงานให้ตรงเวลา งานก็ค่อนข้างสบาย ได้กินแบบ เอ้ย ได้คลุกคลีกับพวกหน้าตาคุ้นๆ เห็นตามนิตยาสาร ไรแบบนี้ ตกกลางคืนต้องออกไปเที่ยวผับกับแบบ ฮ่าๆๆ คือเป็นส่วนหนึ่งของงานที่ต้องคอยไปตามจิก เช่น นายแบบคนนี้พรุ่งนี้จะต้องถ่าย Catalog ของ แบรนด์นึง ก็ต้องไปคอยดูคอยห้ามว่าห้ามช๊อตเยอะนะเว้ย ห้ามสูบจัดเดี๋ยวหน้าเหียก ลูกค้าไม่ปลื้มละก็โดนไปตามๆกัน กลายเป็นว่าจากที่ไม่เคยเที่ยวกลางคืนก็ต้องออกไปซิ่งมันทุกคืน บางคืนก็แอบเมาเอง 5555 :P นอกจากนั้นก็ได้ไปทำงาน Stylist ให้ช่างภาพบ้าง ถ่าย Test Shoot ให้แบบบ้าง รู้สึกว่ารักและชอบงานด้านนี้มากๆ เหมือนค้นพบตัวเอง

แต่พอทำงานไปเรื่อยๆ ด้วยความที่แฟนก็อยากกกจะให้มาอยู่ที่นี่มาเรียนต่อซะเหลือเกิน(เห็นเค้าบอกแต่จริงๆแล้วประเด็นน่าจะเป็นว่าได้อยู่ด้วยกันมากกว่า อิอิ) แล้วอีกใจก็คิดว่าอืม..ก็ที่เรียนจบมามันก็ไม่ตรงกับด้านแฟชั่นเท่าไหร่ มีโอกาสไปเรียนด้านแฟชั่นที่สนใจกับงานที่รักตรงนี้ก็น่าจะดี ก็เลยขอวีซ่าระหว่างที่ทำงานกับเอเจนซี่ และหลังรับปริญญาเสร็จไม่นานก็ได้วีซ่านักเรียนมาอย่างรวดเร็ว แล้วก็บินมาอย่างไม่ได้ทันตั้งตัว อย่างฉุกละหุก ข้าวของแพคไม่ทงไม่ทัน ของที่ไม่ใช้โพสต์ขายไปยังขายไม่หมด เพราะมาอยู่ที่นี่อย่างน้อยก็ 4-5 ปี หรืออาจจะต้องอยู่ไปเลยก็เป็นได้ น้องชายเลยได้มรดกตกทอดไปเป็นกระบุง เพราะแบกมาที่นี่หมดก็ไม่ไหว มาซื้อเอาใหม่ที่นี่ง่ายกว่า

TBC..

แก้สะกดผิดครับ

แก้ไขเมื่อ 30 ส.ค. 52 22:54:11

จากคุณ : DasIstToll
เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 52 20:02:12




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com