ความคิดเห็นที่ 1 เลือกอะไรก็ได้ค่ะ แต่ต้องเป็นงานที่เราถนัดและรัก ถ้าเป็นงานดังที่ว่าไว้ข้างบน  แล้วเราไม่รักเท่าไหร่  ก็จะพิจารณางานที่ไม่ต้องใช้คนอื่นเยอะ  เพราะยิ่งถ้าอาศัยแรงงานมาก  ปัญหาการบริหาร และการพึ่งพาหาคนงาน  อาจจะเป็นจุดสำคัญของการประสบผลสำเร็จ  (นอกจากการตลาด และการบริการ) จากคุณ : บีพี เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 52 22:15:06

ความคิดเห็นที่ 2 ถ้าให้ดิฉันเลือก เลือกขายของชำค่ะ เป็นห้างเอเชียได้ยิ่งดี ชอบทำเกี่ยวกับติดต่อซื้อขายข้ามประเทศ ดูเป็นเรื่องใหญ่ แต่มันน่าท้าทายดีค่ะ เรื่องเปิดร้านอาหารก็คิดอยากทำ ดูเหมือนว่าทำง่าย แต่อย่างที่คุณบีพีว่าไว้ค่ะ ทำร้านก็ต้องอาศัยแรงงานมาก เอาเป็นว่า ถนัดแบบไหน ชอบงานแบบไหนก็เลือกทำและทำให้เต็มที่ค่ะ จากคุณ : thaispicy เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 52 22:42:21

ความคิดเห็นที่ 3 อยากเปิดสปาครับ ไม่เน่า ไม่เสีย ไม่ตกเทรนด์ จากคุณ : ispiegel เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 52 22:53:25

ความคิดเห็นที่ 4 จะเลือกทำในสิ่งที่ตัวเองถนัดอย่างที่คุณบีพีว่าไว้ใน คห 1 ค่ะ ดังนั้นดิฉันเลือก .. อื่นๆ เพราะทุกวันนี้ก็ทำธุรกิจเล็กน้อยๆเป็นของตัวเองอยู่แล้ว และไม่ใช่ทั้ง 4 รายการด้านบนด้วย ซึ่งดิฉันคิดว่าการมีโอกาสมาอยู่ต่างประเทศไม่จำเป็นต้องลงทุนอะไรมากมายหากธุรกิจที่เราจะทำเป็นงานที่เราถนัดและเราชอบ ไม่ต้องจ้างคน ไม่ต้องมีหน้าร้าน และสามารถลดต้นทุนอื่นๆ ได้อีกหลายรายการ อย่างทุกวันนี้ดิฉันทำงานคนเดียวค่ะ เป็นทุกตำแหน่ง มีเว๊บไซด์เป็นของตัวเอง ขายของบนอินเตอร์เนตลักษณะแบบ e-Commerce ทั้งขายไปเมืองไทยและขายไปต่างประเทศอื่นๆ ที่สำคัญสินค้าที่เราขายต้องไม่มีขายในเมืองไทยหรือหากจะขายสินค้าไทยก็ต้องเป็นของหายากในต่างประเทศอะไรทำนองนี้ ทำอะไรที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง ... มีความสุขดี ไม่ได้หวังรวยล้นฟ้าแต่ว่าหาความสุขไม่ได้ จากคุณ : กุศโลบายจากความจริง เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 52 23:31:20

ความคิดเห็นที่ 5   ขายข้าวสาร เด็กหยิบกินไม่ได้ ล้อเล่นนะ อะไรก็ได้ที่ตัวเองชอบและทำเป็น นอกนั้นต้องคิดหนัก แต่ก็ทำได้ถ้าคิดเป็น ผมเองชอบเฝ้าจอคอมเหมือนกันครับ จากคุณ : อิสวาสุ เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 52 00:17:10 A:71.114.54.31 X: TicketID:146114

ความคิดเห็นที่ 6 หนูเชียร์สปา+ร้านขายของค่ะ ค่ะ เพราะสปา+นวดเป็นที่นิยมของชาวต่างชาติ ยิ่งเจ้าของกิจการ + คนนวดเองเป็นคนไทย เครดิตจะดีกว่าชาติอื่นค่ะ เพราะสปา และนวดแผนไทย เป็นสิ่งขึ้นชื่อของไทยอยู่แล้วค่ะ ชาวต่างชาติมาไทย ยังชอบมานวดเลยค่ะ แล้วนอกจากนั้น เรายังสามารถเปิดร้านเล็กๆควบคู่ไปด้วยก็ได้นี่คะ อาจจะขายสินค้าแฮนเมด สินค้าOTOPจากไทย หรือขายชาสมุนไพร อื่นๆ ได้มากมายเลยค่ะ ตามความคิดเห็นของหนูนะคะ ชาวต่างชาติชอบของแฮนเมด ชอบนวดค่ะ ผิดถูกประการใดต้องขออภัยด้วยนะคะ พวกพี่กับเพื่อนพี่ๆหนูยังเคยพูดเลยค่ะ ว่าถ้ามีเงินทุน อยากเปิดสปา ที่ต่างประเทศ เพราะเรียนจบปริญญาเกี่ยวข้องมาทางด้านนี้เลยค่ะ คือเรียนแพทย์แผนไทยประยุกต์มาน่ะค่ะ  (แต่ไม่มีเงินทุนค่ะ รอต่อไป อิอิ) แถมลงทุนไม่มากเท่าอย่างอื่นด้วยค่ะ - ตกแต่งสถานที่ - จ้างผู้จัดการสปา(ผู้ที่สอบ แล้วได้ใบอนุญาต ให้รับผิดชอบงานด้านสปาได้อย่างถูกต้อง ซึ่งก็คือผู้ที่สามารถรับผิดชอบได้หมดเลยค่ะ ตั้งแต่เทรนคน บริหารงาน ฯลฯ เหมือนผู้จัดการร้านน่ะค่ะ รับผิดชอบงานส่วนใหญ่แทนเจ้าของเลย) - หาผลิตภัณฑ์มาลง ถ้าจะเปิดร้านขายของด้วย ยิ่งเป็นของที่ไม่เสีย หรือสามารถเก็บได้นาน ยิ่งรับผิดชอบง่ายขึ้นค่ะ -รอยยิ้มของเจ้าของร้านและพนักงาน(อันนี้ต้องใช้ลงทุนในทุกกิจการค่ะ ทำให้กิจการของคุณ ดึงดูดลูกค้าเป็นอย่างมากค่ะ^^) เมืองไทย สยามเมืองยิ้ม ^^ บรรยากาศร้านจะสบายๆค่ะ เจ้าของร้านไม่จำเป็นต้องอยุ่ตลอดด้วย แต่ถ้าเจ้าของร้านมาอยู่ ก็จะรู้สึกผ่อนคลาย เหมือนได้พักผ่อนขณะทำงานด้วยน่ะค่ะ อันนี้ คือความคิดเห็นของหนูนะคะ ถ้าผิดพลาดประการใด ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ จากคุณ : กระป๋องก๊องแก๊ง เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 52 00:42:36

ความคิดเห็นที่ 7 แก้ไขเมื่อ 03 ก.ย. 52 11:39:11 แก้ไขเมื่อ 31 ส.ค. 52 02:09:55 แก้ไขเมื่อ 31 ส.ค. 52 01:58:08 จากคุณ : กริชนาคราช เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 52 01:40:38

ความคิดเห็นที่ 8 เห็นด้วยอย่างยิ่งกับคุณบีพี  การพึ่งพาคนเป็นปัญหาไม่น้อย  สำหรับธุรกิจในต่างแดน  เงินลงทุนไม่ใช่ประเด็นของการประสบความสำเร็จ  แต่การบริหาร  การจัดการ  และการพึ่งพาคนนี่สิเรื่องใหญ่   ยิ่งเป็นงานนวดด้วยแล้ว  มีทุนเปิดร้านอย่างเดียวแต่เจ้าของร้านนวดไม่เป็น  อาจจะควบคุมการบริการหรืองานนวดได้ยาก  เพราะไม่มีความรู้เรื่องนวด   แล้วงานนวดเป็นงานที่หมิ่นเหม่ทั้งการกระทำของพนักงาน  และการถูกเสนอทาบทามจากลูกค้า  ปัญหาจุกจิกตามมาคือพนักงานกับลูกค้า  แล้วยังจิปาถะจากกฎหมายจ้างงาน...   สรุปว่า  ทำอะไรก็ได้ที่ตัวเองรัก  ทำได้ด้วยตัวเองหรือพึ่งพาคนอื่นให้น้อยที่สุด จากคุณ : monchen เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 52 02:24:43

ความคิดเห็นที่ 9 ขอค่ะ ขอเลย จะหาว่าขี้เกียจก็ว่ามาเลยค่ะ เพราะทุกวันนี้เป็นลูกจ้างเขาอยู่ ขอโหวตข้อพิเศษว่า "ไม่ทำค่ะ"!!! ไม่ลงทุนทำอะไร เพราะเหนื่อย  เหนื่อยมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ช่วงสองอาทิตย์ที่ผ่านมานี่เจ้าของร้านไปเที่ยว แล้วมันมี ของมาส่ง เสื้อผ้าเด็กมาทีเป็นลังๆ มันทยอยกันมานะคะ มาทุกวัน บางวันก็เสื้อผ้าบางวันก็ของเล่น ของขวัญ ปรกติเจ้าของร้านกับเราจะช่วยๆกัน แต่วันนี้เหลือเราทำอยู่คนเดียว ปวดหลังมากเลยค่ะ ก้มๆเงยๆ เช็คสินค้าติดป้ายราคา เปลี่ยนแปลง จัดสินค้าหน้าหนาวออกมาขาย เอาสินค้าหน้าร้อนเก็บเข้าลัง ตอนขายได้เงินมันก็สนุกนะคะ แต่ถามว่าถ้ามันเกิดเป็นกิจการของเราเองจะจัดการยังไงดี เพราะ 1 สามีไม่ชอบขายของ ถ้าเรากลับไปเยี่ยมบ้าน ใครจะเฝ้าร้าน ถ้าสมมุติจ้างคน เราต้องเชื่อใจเขาจริงๆ ซึ่งมันไม่ใช่หากันง่ายๆ 2 กรณีมีปัญหาเหตุฉุกเฉิน ไม่สนุกเลย เคยเจอมาแล้ว ต้นปีที่ผ่านมาท่อน้ำแตก เพราะมันแข็งเป็นน้ำแข็ง ร้านน้ำท่วม ขายๆของอยู่น้ำตกลงมากลางหัวเลย สรุปปิดร้าน เคลมประกัน,ซ่อมร้าน นานเกือบ3เดือนกว่าจะได้เปิดใหม่ 3 ระแวงค่ะว่าวันไหนจะโดนใครเข้ามาลักเล็กขโมยน้อยเวลาเรามีลูกค้าเย๊อะๆ เพราะเคยมีค่ะ  ตัวเจ้าของร้านอยู่ร้าน เจอแม่ลูกอ่อนเข้ามาฉกของไปอื้อเลย โชคยังดีที่ไม่ใช่วันที่เราเฝ้าร้านไม่งั้นguilty แย่เลย 4 ที่อังกฤษทุกอย่างเป็นฤดูค่ะรวมไปถึงการจับจ่ายด้วย ไม่ง่ายเหมือนไทยที่จะขายอะไรก็ได้ตลอดวันตลอดเดือนตลอดปี ช่วงเดือนนี้คนใช้เงิน ขายได้..อุ๊ย!! ดีใจ ช่วงขายไม่ได้เช่นช่วงปิดเทอมคนอังกฤษเก็บตังค์พาลูกเที่ยวต่างประเทศ ขายไม่ออก นั่งเศร้าเลย ร้านอาหารก็เป็นนะคะ เช่นช่วงหลังคริสมาส จ่ายกันตังค์หมดก็จะไม่ค่อยออกไปกินร้านกัน พ่อครัวอาจจะยืนเหงาได้ ถ้าคุณคิดว่าคุณมีความสามารถจริงๆแล้วไม่หวั่นต่อความเสี่ยง ก็แนะนำให้ทำเลยค่ะ ดิฉันขออยู่แบบสงบ พอกินพอใช้พอเก็บเล็กน้อยแต่ไม่เครียด พอแล้ว ที่สำคัญเลยคือว่าถ้าสามีดิฉันเขาขยันช่วยกันหน่อย แบบช่วยขายดูแลร้านได้บ้างหรือชอบงานแบบนี้เพียงสักนิด เราคงจะรู้สึกยากทำร้านขายของบ้าง ตอนแรกเคยคุยกับสามีว่าจะนำเข้าของจากไทยมาขายแต่ตอนนี้สำนึกแล้วว่าเขาคงไม่ช่วยเราแน่ เลยพับไป แต่สามีดิฉันฝันใฝ่อยากมีร้านอาหารมากค่ะเพราเพียงแค่เขาชอบทำอาหารแต่ก็ไม่กล้าลงทุน และไม่ไว้ใจใคร ทุกวันนี้ก็เลยได้แต่นั่งเพ้อเจ้อกันไปเรื่อยๆ แก้ไขเมื่อ 31 ส.ค. 52 03:47:28 แก้ไขเมื่อ 31 ส.ค. 52 03:45:13 จากคุณ : hamble pie เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 52 03:38:33

ความคิดเห็นที่ 10 ผมอยากทำธุุรกิจประเภท แพ็กเก็จทำฟัน ผ่าฟันคุด รักษารากฟัน หรือแพ็กเก็จ ศัลยกรรมต่างๆ  โดยประมาณว่า พาชาวต่างชาิติที่สนใจจะทำฟัน (ทำฟันที่อังกฤษแพงมาก) ไปทำฟันที่เมืองไทย ขณะเดียวก็ไปเที่ยวด้วย ไปกินร้านอาหารอร่อยๆ ไปเที่ยวที่สวยๆ ในเมืองไทย เพราะเนื่องจากผมมีตลาดในมือแล้วครับ เพราะรู้จักทันตแพทย์จำนวนมาก รวมทั้งรู้จักคนอังกฤษที่มีปัญหาเรื่องฟันมาก แต่ค่าทำฟันที่นี่แพง บางทีถ้าเขาไปแ้ล้วได้ไปเที่ยวด้วย ผมว่าคุ้มกว่าทำฟันที่อังกฤษครับ อย่างไรก็ตามการพิจารณาจะทำธุรกิจอะไร อยากให้ทางเจ้าของกระทู้พิจารณา สามปัจจัยหลักดังต่อไปนี้ครับ (ขออนุญาตนะครับ อย่าถือว่าสอนกันเลย) 1.ความสามารถส่วนบุคคล (Competency) ท่านมีความสามารถอะไรเป็นพิเศษที่โดดเด่นกว่าผู้อื่นในตลาดหรือไม่ เช่น ท่านอาจมีฝีมือนวดสปา นวดจนหลับได้ คลื้ม หายเมื่อยภายในสองชั่วโมง หรือท่านอาจจะทำอาหารอร่อยชนิดที่เรียกว่า ใครกินต้องกลับมากินอีก หรือท่านเองอาจจะมีความสามารถในการบังคับบัญชาลูกน้อง พนักงานให้สามารถทำอย่างที่ท่านทำได้ ท่านต้องพิจารณาจุดนี้่ครับ 2. ตลาด (Market) มีกลุ่มลูกค้าชัดเจน สมมติว่าตลาดที่ท่านจะเข้าไปแข่งด้วยนั้น มีผู้จำหน่ายมากรายของสินค้าหรือบริการประเภทนั้นๆ แล้ว ถ้าท่านคิดจะแข่ง ท่านต้องดูว่าท่านมีอะไรพิเศษกว่าชาวบ้านในตลาดบ้าง คือตลาดที่ว่า ต้องดูทั้ง ลูกค้าและคู่แข่งขันด้วยครับ แต่ท่าต้องใจสภาพตลาดและบริบทของตลาดด้วย ว่า มีวิถีการจับจ่ายการใ้ช้เงินซื้อหาสินค้าหรือบริการอย่างไร 3. อันนี้สำคัญครับ ทุน (Capital) ทุนที่ว่า นอกจากทุนในการดำเนินการจัดตั้งกิจการ (Initial cost, Initial capital) เงินลงทุนนั่นเองครับ ท่านจะต้องมีทุนหมุนเวียนด้วย อย่าลืมว่าธุรกิจทุกชนิดมีทุนทั้ง fixed cost, running cost, management cost บางอย่างมองไม่เห็นครับว่าตัวเงินอยู่ไหนหรือหายไปเพราะอะไร แต่ว่าต้องหมุนทุนให้เป็น หรือรู้ว่าจะหาทุนจากไหน ทั้งสามข้อที่กล่าวมา สำคัญกับการทำธุรกิืจทุกประเภทครับ ถ้าไม่เข้าใจ หรือไม่ครบองค์สามนี้่แล้ว ทำธุรกิืจอะไรก็ไม่รุ่งครับ ขอให้ท่านโชคดีครับ จากคุณ : พัฒน์ เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 52 03:42:08

ความคิดเห็นที่ 13 เศรษฐกิจแบบนี้ กลัวการลงทุนค่ะ. เก็บข้อมูล และรอจังหวะอีกหน่อยดีมั้ย เพราะตอนนี้มันขาขึ้นชัดๆ แต่เป็นขาขึ้นมาก่ายหน้าผากนะคะ. แต่ถ้าคุณมี โอกาส และ เงินทุน ที่มากพอ ก็ขอให้ลงทุนบนความไม่ประมาทล่ะกันค่ะ. โชคดีนะคะ จากคุณ : missusnow เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 52 11:56:47

ความคิดเห็นที่ 14 ^ ^ ^ จากคุณ : ดอส เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 52 12:36:51

ความคิดเห็นที่ 15 I strongly agree with the first opinion. The fitness center in USA is my answer. It was very fun to dance with black fat people. จากคุณ : escaflowne เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 52 15:17:32

ความคิดเห็นที่ 16 โหวตอื่นๆ ค่ะ มีธุรกิจเป็นของตัวเองเหมือนกัน เป็นงานที่ทำด้วยใจรักก็เลยไม่ได้เห็นว่าเป็นงานที่ต้องฝืนใจทำ คุณ hamble pie พูดได้ตรงประเด็นมากกับธุรกิจค้าขายของอังกฤษ โชคดีที่ธุรกิจของดิฉัน แบ่งเป็นสองประเภท คือประเภทหนึ่งตรงกับฤดูการ ช่วงหน้าร้อนกับช่วงก่อนคริสต์มาสและช่วง sale หลังคริสต์มาส จะทิ้งร้านไปไหนไม่ได้ แต่หลังจากนั้นช่วงเดือนมีนา เมษา ก็จะเป็นช่วงนัดจัดการให้กับลูกค้าที่มานัดปรึกษาเราก่อนฤดูแต่งงาน จริงๆก็จะมีลูกค้าตลอดปี หนีไปเมืองไทยสองเดือนที่ผ่านมา รายได้ของร้านหดหายไปถึง 60% ส่วนหนึ่งคือดิฉันไม่อยู่ร้าน อีกส่วนอาจจะเป็นเพราะว่าเศรษฐกิจที่อังกฤษไม่คล่องตัวเหมือนเดิม จากคุณ : Rinta เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 52 17:29:40

ความคิดเห็นที่ 17 ขอรบกวนพี่น้องสักท่าน ลบความเห็น 11-12 ไปด้วยครับ เพราะมันซ้ำกัน กลัวท่านอื่นจะรำคาญ พอดีเนทตอนส่งข้อความมีปัญหา เลยส่งซ้ำมาครับ จากคุณ : พัฒน์ เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 52 01:01:04

ความคิดเห็นที่ 18 ขอขอบคุณทุกความคิดเห็นค่ะ จากคุณ : @ChesterUK เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 52 03:16:09