ความคิดเห็นที่ 1 ไม่ทราบว่า เรียนมาสายอะไร  แต่เพิ่งปี 3 เอง ผมว่า ลองๆ หาข้อมูลเรื่อง ทุนรัฐบาลญี่ปุ่น ที่มีสอบคัดเลือกทุกปี แล้วลองๆ ฝึก เตรียมตัว สอบ ดีๆ ถ้าได้ ทุนมอน  เนี้ยแหละครับ เซพสุดๆ แล้ว  เป็นที่ภาคภูมิใจของครอบครัว แน่นอน จากคุณ : Game pro เขียนเมื่อ : 2 ก.ย. 52 21:55:21

ความคิดเห็นที่ 2 แล้วแต่แต่ละคนจะมองนะคะ แต่ที่เคยได้ยินมาคนที่มาญี่ปุ่นก่อนแล้วระหว่างนั้นก็หาทุนไปด้วยนี่บอกว่ากดดันมากค่ะ  ค่าใช้จ่ายอยู่ญี่ปุ่น(ยิ่งตามเมืองใหญ่)ไม่ใช่ถูกๆยิ่งถ้าคิดเป็นเงินไทยด้วยแล้ว ถ้าทางบ้านโอเคให้อยู่ไปเรื่อยๆได้จนกว่าจะหาทุนหรือสอบเข้าได้ หรือเจ้าตัวก็สบายๆไม่รีบเร่งอยากเรียนก็คงไม่เป็นไรค่ะ แต่ส่วนใหญ่จะไม่ใช่อย่างนั้น เค้าเลยจะกดดันและเครียดกันมากๆ ว่าจะต้องสอบให้ผ่าน จะต้องหามหาลัยหาทุนให้ได้เร็วที่สุด ตอนพลาดครั้งแรกอาจยังไม่เท่าไหร่ แต่ถ้ามีครั้งต่อๆไปนี่่ยิ่งเครียดหนักค่ะ ไม่รู้จะได้เข้าเรียนเมื่อไหร่ จะต้องรับภาระค่าใช้จ่ายเองต่อไปเรื่อยๆอีกนานแค่ไหน (สอบเข้าพลาดทีนึงก็รอหนต่อไปครึ่งถึงหนึ่งปี ซึ่งค่าใช้จ่ายอยู่ญี่ปุ่นช่วงนั้นก็ไม่น้อยแน่ๆ) สมัยเราเองเราก็เคยต้องเลือกอย่างนี้ล่ะค่ะ ว่าจะมาหาทุนตายเอาดาบหน้าเลยดีหรือจะรออยู่ไทย(ที่ประหยัดกว่าเยอะ)จนชัวร์แล้วค่อยมาดี  มีคนแนะนำเราทั้งสองแบบล่ะค่ะ ฝ่ายแรกก็บอกว่าไปๆไว้ก่อนยังไงก็ได้ภาษาได้สัมผัสสังคมจริงๆ  ฝ่ายหลังก็บอกอย่าดีกว่าทุนดีๆที่สมัครได้จากไทยมีตั้งเยอะ(ถ้าตั้งใจหา) สมัครให้ได้ก่อนแล้วจะมาเรียนภาษาเองอะไรเองก่อนก็ค่อยว่ากัน ตัวเราเองไม่อยากจะมาเคว้งที่ญี่ปุ่นและไม่อยากเสี่ยงค่ะ  เราไม่สามารถพูดได้เต็มปากว่าถ้าเรามาญี่ปุ่นเลย เมื่อไหร่กันที่เราจะหาทุนและสอบเข้ามหาลัยได้ ก็เลยเลือกอย่างหลังค่ะ พอจินตนาการได้ว่าถ้าเลือกอย่างแรกจะสอบทีเราคงเครียดตายเลย ว่าถ้าพลาดนี่เท่ากับจะต้องเสียเวลาและทำที่บ้านเสียเงินไปอีกเท่าไหร่ สรุปก็เลยอยู่ไทยไปก่อนทุ่มเวลาเต็มที่ทั้งเรียนภาษาและสมัครทุนสารพัด พอประกาศผลได้ทุนชัดๆแล้วค่อยมาค่ะ มาแบบสบายใจเลยเพราะมีหลักแหล่งแน่นอนแล้ว น้องยังอยู่ปีสามเวลายังมีค่ะ เริ่มหาข้อมูลทุนต่างๆตั้งแต่ตอนนี้เลยว่าเค้าต้องการคะแนนหรือผลสอบอะไรเท่าไหร่บ้าง  ทุนมอนของทางสถานทูตญี่ปุ่นในไทยเป็นตัวเลือกแรกๆนี่น่าสนใจนะคะ ให้ทั้งสายวิทย์และศิลป์ ทุนมั่นคงและเป็นที่รู้จัก ลองเช็คดูในเว็บสถานทูตญี่ปุ่นในไทยนะคะ คนเตรียมตัวก่อนได้เปรียบค่ะ ^_^ จากคุณ : White Amulet เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 52 02:01:42

ความคิดเห็นที่ 3   ขอบคุณพี่ๆมากค่ะที่มาตอบกระทู้ให้ ^^ ก็อย่างที่เคยได้ยินกันมาหลายๆทางอ่ะค่ะ ทำให้สับสนว่าควรจะไปทางไหนดีอยากจะเตรียมตัวให้พร้อมและหาทางเลือกหลายๆทางเพราะตัวเองไม่ได้เป็นคนเก่งอะไรมาก เรียนอยู่คณะบริหารการจัดการอุตสาหกรรม สถาบันเทคโลยีไทย-ญี่ปุ่นอ่ะค่ะ คะแนนที่มีอยู่ตอนนี้ก็แค่ระดับสามแล้วก็โทอิคเรียนจบก็กะจะเอาระดับสองอ่ะค่ะ พี่ๆคนไหนมีคำแนะนำหรือประสบการณ์อาไรก็บอกไลยนะคะทั้งหน้าไมค์หลังไมค์พร้อมรับคำแนะนำค่ะ จากคุณ : darekaii เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 52 09:55:12

ความคิดเห็นที่ 4 อยากแนะนำในฐานะที่ก็หาข้อมูลเกี่ยวกับการไปศึกษาต่อที่ญี่ปุ่นอยู่น่ะค่ะ เราเรียนจบเอกภาษาญี่ปุ่นจากมหาวิทยาลัยในเมืองไทยนี่แหละค่ะ ตอนนี้ก้ออยู่เมืองไทย กำลังดูๆว่าจะเลือกไปโรงเรียนไหนหรือเมืองไหน อยากแนะนำว่าถ้าไม่รู้จะเริ่มจากจุดใด ลองไปเดินงานพวก "งานแนะแนวศึกษาต่อที่ประเทศญี่ปุ่น" หรือเข้าเวบของเอเจนซี่ที่เมืองไทยมีก็เช่น ไมนิจิ หรือ เจ เอ๊ดดูเคชั่น หรืออย่างถ้าตอนนี้น้องเรียนที่สถาบันเทคโลยีไทย-ญี่ปุ่น อยู่ โรงเรียน สสท. ก้อคงเครือเดียวกันใช่มั้ยคะ รู้สึกว่า สสท. เค้าจะมี รร. เเนะนำนะ ชื่อ ABK  ก้อน่าสนใจนะคะ ลองไปเช็คข้อมูลดูได้ค่ะ ส่วนเรื่องถ้าน้องจะเตรียมตัวสอบชิงทุนพวก ทุงรัฐบาลญี่ปุ่น ก้อต้องเตรียมตัวดีดี ทำเกรดตอนเรียนจบให้ได้เยอะๆ ตอนนี้เราเองยังรู้สึกเสียใจที่ไม่ค่อยตั้งใจเรียน เกรดเลยไม่ดี สมัครทุนมงไม่ได้ หรือจะสมัครได้ก้อต่อเมื่อได้รัดับหนึ่ง ซึ่งก้อยังไกลฝั่ง ด้วยความที่ไม่ใมช่คนหัวกะทิ ก้อเลยต้องหาทางอื่นไปเรียนเอง แบบนี้แหละค่ะ จากคุณ : โกโก้ร้อนแก้วนึงฮะ เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 52 14:08:52

ความคิดเห็นที่ 5   ค่าขอบคุณมากนะคะ ยังไงก็จะรอคำแนะนำดีๆจากพี่ๆต่อไปเรื่อยๆนะคะ ฝากตัวด้วยค่ะ จากคุณ : darekaii เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 52 17:29:21

ความคิดเห็นที่ 6 ถ้าจะให้แห้งดี ต้องตากหลังบ้าน ตอนหน้าร้อนๆ แดดแรงๆคะ จากคุณ : คุณนายปลาดิบ เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 52 17:37:38

ความคิดเห็นที่ 7 โห่ฮิ้ว..คุณนายปลาดิบ  มาขำเหมือนกันค่ะ สงสัยอยู่ว่ามาเรียนญี่ปุ่นแล้ว จะมาตากอะไรกันน่ะ เหมือนพี่ๆแนะนำเลยค่ะ ใจเย็นๆ หาข้อมูลไป ที่นี่ค่าครองชีพสูงค่ะ  ถ้าอยากมาเรียนรู้สังคมทั่วไป  ก็ลองมาเที่ยวดูก่อนไหมคะ   สักอาทิตย์นึง จากคุณ : Mnki เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 52 18:18:59

ความคิดเห็นที่ 8   ถามตัวเองให้แน่ๆก่อนนะคะว่าอยากมาเรียนด้วยใจจริงๆ ถ้าคำตอบคือใช่ แล้วล่ะก็ ลุยเลยค่ะ แต่ถ้ายังสองจิตสองใจ ช่วงปิดเทอม ของปี 3 ให้ลองมาเรียนภาษาดูสัก 3 เดือน แล้วถามตัวเองว่าชอบใช้ชีวิตอยู่แบบที่นี่ไหม ที่เตือนไม่ใช่อะไรนะคะ บางคนมาแล้วมันไม่เป็นอย่างที่หวัง ได้ทุนมาแล้ว จะหันหลังกลับก็ไม่ได้ เดินหน้าต่อก็อึดอัด สุดท้ายเสียเวลาไปเปล่าๆ วิธีหาทุน ก็อย่างพี่ๆข้างบนบอกเลยค่ะ โอกาสมีไว้สำหรับคนที่ขวนขวาย ค่ะ จากคุณ : Hergest เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 52 19:24:55

ความคิดเห็นที่ 9 มาตายเอาดาบหน้า นี่มันเฉียดตายเลยนะครับ ขอ บอก ทั้งเรื่องหาทุน หาเงิน หาอะไรก็ตามแต่ที่ตอนอยู่ไทยจินตนาการไม่ออก แต่จะมาไว้ก่อน ถ้าอยากได้ทุนจริงๆ หาจากไทย เอามั่นคงดีกว่าครับ ถ้าไม่ลำบากเรื่องเงิน แบบว่า ได้ก็ดี ไม่ได้ก็ยังจะเรียนอยู่ จะมาหาทีนี่แบบชิลล์ๆ ก็ได้อยู่ครับ เรื่องประหยัดนั้น ต้องคิดมาจากไทยเลยครับ จนมาที่นี่ ก็ต้องคิดอยู่ทุกวันๆ ตั้งแต่เลือกโรงเรียน สถานที่ตั้งโรงเรียน ประเภทของโรงเรียน เรื่องชีวิตประจำวัน ทำงานทำเงินได้แค่ไหน ลักษณะการใช้ชีวิตต่างๆ ชีวิตคนมันผกผัน คิดไว้ดีแล้ว มันก็เปลี่ยนไปอีกทุกวี่วัน เรื่องสำคัญอีกอย่างก็คือ เตรียมใจรับกับสภาพไม่คาดฝันไว้เยอะๆครับ ....พิมพ์ๆไป ทำไมเหมือนความคิดด้านลบ บอกไม่ถูก.... เริ่มแรก เริ่มต้นจากตัวเองก่อนเลยครับ ตัวเองสามารถหาอะไรที่มันเป็นข้อมูลอยู่แล้วได้บ้าง แล้วสงสัยตรงจุดไหนที่หาคำตอบไม่ได้ (ไม่ใช่ยังไม่หา) มาถามที่นี่ได้ครับ กูรูหลายท่านวนเวียนไปมา งานศึกษาต่อก็เอาเป็นทางเลือกหนึ่ง แต่อย่าอยากไปจนสมัครไปทันที นอกจากเอเจนซี่แล้ว ก็ยังมีทางเลือกอื่นอีก สอบถามมาอีกที ถ้าสนใจ เยอะแยะตาแป๊ะไก่...ถ้าอยากมา ก็เอาใจช่วยนะครับ ถามมากว้างๆ ตอบไม่ค่อยถูก ออกทะเลไปนิดหน่อย ถ้ามีคำถามแบบชี้ชัด ก็จะตอบได้ชี้ชัดกว่านี้ครับ จากคุณ : teddyblooh เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 52 20:30:32

ความคิดเห็นที่ 10   ขอบคุณพี่ๆที่มาตอบให้ค่ะ ที่อยากไปนี่คืออยากไปเรียนจริงๆเลยอยากได้ภาษาจริงๆ แต่ถ้าขอป๊าแม่ไปก็คงได้แค่รอบเดียวค่ะคงลองไปซัมเมอร์อาไรแบบนี้ไม่ได้ เพราะถ้าไปแล้วแป้กคงไม่มีโอกาสไปอีกนอกจากจะได้ทุนไปเองหรือไม่ก็เก็บเงินไปเอง เลยต้องคิดเยอะๆหาหลายๆทางอ่ะค่ะ เรื่องทุนเท่าที่รู้ก็มีทุนมงที่น่าสนใจมากที่สุดแต่อัตราการแข่งขันก็เยอะมากๆด้วยก็เลยคิดว่าเป็นเรื่องที่อาจจะเป็นไปไม่ได้เลยไม่ได้หวังมากเพราะกลัวผิดหวังอ่ะค่ะ(แต่ก็ไม่ใช่ว่าไม่พยายามนะคะพยายามเรื่องเรียนมาโดยตลอด) อย่างที่พี่ๆบอกกันว่าต้องคิดเรื่องประหยัด เรื่องที่พัก เรื่องเงิน เรื่องที่เรียนก็พยายามหาข้อมูลมาประกอบการตัดสินใจให้ได้เยอะที่สุดอ่ะค่ะเพื่อที่จะได้เลือกทางที่ดีที่สุด ไอเรื่องลำบากนี่ไม่กลัวอยู่แล้วค่ะแต่ถ้าตัดสินใจผิดพลาดไปอาจจะทำให้พ่อแม่ลำบากด้วยไม่อยากให้ท่านลำบากเพราะเราอ่ะค่ะเลยต้องหาข้อมูลให้แน่นๆก่อน รวมถึงทุนด้วยก็พยายามไปลองสอบในหลายๆที่ถ้าพี่ๆคนไหนมีทุนแนะนำก็ช่วยด้วยนะคะ ค่ะขอบคุณพี่teddybloohมากนะคะที่เอาใจช่วย ^^ จากคุณ : darekaii เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 52 21:31:07

ความคิดเห็นที่ 11 เรียนภาษาญี่ปุ่น ปี 3 เหมือนกันเลยค่ะ เราเองก็อยากเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนค่ะ พอไปถามอาจารย์เรื่องทุนว่าพอมีโอกาสรึป่าว เพราะเกรดเราก็ไม่สูง 2กว่าๆค่ะ ถ้าจะรอทุนฟรีคงไม่มีทางแล้วค่ะ แหะๆ แต่อาจารย์บอกว่าจะมีทุนที่เราต้องออกค่าใช้จ่ายเอง แต่รัฐบาลจะออกค่าเรียนให้เราอย่างเดียวค่ะ ทุนแบบนี้ก็น่าสนใจนะคะ ยังไงก็ลองถามที่สถาบันดูนะคะเผื่อมี ทุนแบบนี้ไป1ปีค่ะ เผื่อเราจะได้เจอกัน 5555 จากคุณ : umibudou เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 52 22:12:09

ความคิดเห็นที่ 12   umibudou อยู่TNI หรอคะ ??? หรือว่าเป็นเด็กเอกญี่ปุ่นเอ่ย เราเกรดสามกว่าๆอ่ะแต่ไม่ได้เอกญี่ปุ่น ยังไงมีไรก็มาแลกเปลี่ยนกันได้น๊ะจ๊ะ ติดต่อหลังไมค์ก็ได้จ้ะ จากคุณ : darekaii เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 52 23:03:38

ความคิดเห็นที่ 13 ที่จริงแล้ว นศ.ปี3 สามารถสมัครเป็นทุนนร.แลกเปลี่ยนได้นะ แต่จะขึ้นอยู่กับมหาลัยที่เราเรียนอยู่ว่ามีความร่วมมือกับมหาลัยไหนของญี่ปุ่นบ้าง สนใจข้อมูลเกี่ยวกับการศึกษาต่อญี่ปุ่น ขอข้อมูลหรือมาปรึกษาที่องค์การสนับสนุนนักศึกษาแห่งประเทศญี่ปุ่น(JASSO)ได้ค่ะ ไม่เสียค่าใช้จ่ายค่ะ www.jeic-bangkok.org จากคุณ : JASSO (ชีวิตคือการเดินทาง) เขียนเมื่อ : 10 ก.ย. 52 16:33:55

ความคิดเห็นที่ 14   ขอบคุณค่ะ ^^ จากคุณ : darekaii เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 52 15:13:22