ความคิดเห็นที่ 1 อียู เราไม่รู้หรอกตัวเอง แต่ถ้า "ไอเลิฟยู" เนี่ยรู้อยู่ทุกวัน กั่กๆๆๆๆ การทำงานของอียู ที่คนอังกฤษ (โดยเฉพาะพวก BNP)ระแวงก็คือ กลัวว่า อียูจะเข้ามาแทรกซึมการบริหารงานและระบบเศรษฐกิจของอังกฤษ จะเปลี่ยนค่าเงินปอนด์ของอังกฤษให้เป็นยูโร แลจะมีการแทรกแซงตลาดแรงงานของอังกฤษโดยเอาคนที่ในอียูมาทำงานหลายๆอย่างในประเทศนี้ไงคะ จากคุณ : พัฒน์ เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 52 04:18:28

ความคิดเห็นที่ 2   ว๊าย ตะเองๆๆๆๆ วันก่อนเค้าเห็นป้ายราคาที่ M&S มีการบอกค่าเงินเป็นยูโรด้วย แปลว่าอังกฤษโดนบังคับให้ยอมรับเงินยูโรแล้วหรือเปล่าคะ ถามเพื่อนที่แชร์บ้านกันเค้าเป็นหมอ intern ที่นี่ เค้าบอกว่า มีพวกหมอๆหลั่งไหลมาจากอียูมาทำงานในอังกฤษเต็มไปหมด หลายๆคนพูดอังกฤษไม่คล่องเลยด้วยซ้ำ แต่ก็ต้องรับเข้ามา เพราะโดนอียูบังคับ ถ้าไม่ัรับ จะโดนข้อหาเรซซิส (จะบ้าเหรอ) นักศึกษาอียูก็ได้สิทธิมาเรียนที่อังกฤษได้ โดยจ่ายค่าเรียนเท่านักเรียนท้องถิ่น นักศึกษาไทย เห็นว่าช่วงนี้จะได้ PSW visa กันยาก เพราะเค้าจะเก็บงานไว้ให้คนอียู  อันนี้ฟังเค้าลือมา ไม่รู้จริงไหม จากคุณ : จอมยุทธสุดอึ๋มส์ เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 52 04:29:46

ความคิดเห็นที่ 3   ไม่รู้ระบบไหนดีกว่ากัน รู้แต่ว่าเงินปอนด์ ตกเอาๆ เงินยูโรแข็งขึ้น จากคุณ : ตาน เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 52 04:42:20 A:78.20.212.159 X: TicketID:019698

ความคิดเห็นที่ 4   สวัสดีคุณอึ๋ม ที่ร้าน มาร์ค แอน สุเทพ M&S ผมคิดว่าเป็นการเทียบราคาให้เห็นเป็นเงินยูโรมากกว่า ครับ (แต่อาจเป็นอย่างอื่นได้ ผมไม่ได้อยู่อังกฤษ ผมไม่แน่ใจ) เหมือนกับที่เช็กล่ะ ครับ สินค้าก็มีการติดราคา ทั้ง เงินเช็ก เงินโปแลนด์ ยูโร บางห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆเช่น Tesco แม้กระทั่งตู้โทรศัพท์ ก็ติดป้ายรับ เงินยูโร ส่วนตัว ผมว่า การที่ยุโรป รวมตัวกันเป็น สหภาพยุโรป นั้น เป็นเรื่องดี แบบรวมกันใหญ่อยู่แยกกันอยู่เราตาย ครับ และเป็นการลดข้อขัดแย้งระหว่างในประเทศยุโรปได้เป็นอย่างดี เพราะในอดีตนั้นยุโรปเต็มไปด้วยความขัดแย้งและเกิดสงครามจนนับครั้งไม่ถ้วน และ ครั้งที่สาหัสมาก ถึงขั้นที่เรียกว่ายุโรปนั้น ตกต่ำ เสียหายย่อยยับ นั่นก็คือ สงครามโลก ครั้งที่ ๑ และ ครั้งที่สอง ประวัติศาสตร์การก่อตัวขึ้นของ สหภาพยุโรปนั้น เป็นสิ่งที่เป็นแผนการอันล้ำลึก มันเป็นแผน ครับ มันเป็นแผน ส่วนตัวผม สหภาพยุโรป เป็นวิชาที่ ทำให้ผมเกือบเสียความบริสุทธิ นั้นคือ "ผมเกือบสอบตก" ครับ เพราะมันไม่คุ้นเลย และ ยากมาก ส่วนชาวเช็กก็แบ่งเป็นสองกลุ่มคือ ๑ คนแก่ บอกไม่ดี เพราะของแพง ๒ คนวัยทำงานตลอดจนนักเรียนบอกดี มีโอกาส หางานหาเงิน หาที่เรียน หาทุน สบาย นี่คือ ความรู้สึกของคนเช็กหลังจากเข้าเป็นสมาชิก สหภาพยุโรปเมื่อปี ๒๐๐๔ ครับ ว่างๆคุยกัน ครับ จากคุณ : กมล ตันจินวัฒนกุล เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 52 04:54:58 A:158.194.181.94 X: TicketID:153431

ความคิดเห็นที่ 5   ว๊าย คุณกมลมา แอบสงสัยค่ะ แล้วถ้าเป็นงี้แล้วเนี่ย ประเทศแต่ละประเทศจะไม่สูญเสียอิสระภาพในการบริหารตัวเองกันเหรอคะ เพราะอะไรๆก็ต้องเป็นไปตามที่อียูสั่งมา ลองนึกภาพ ถ้าเกิดประเทศไทยเราต้องไปรวมกะพม่า ลาว เขมร มาเล สิงคโปร์ เพื่อรวมตัวกันเป้นสหภาพแหลมทองอะไรพรรค์นี้ แล้วอะไรๆก็ต้องเป็นไปตามกฏของคณะกรรมการสหภาพ ซึ่งไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง และไม่มีีการหมดวาระ เราคงรู้สึกแปลกๆ (สิงค์โปร์ก็คงรู้สึกเหมือนกัน) ประเทศยากจนอาจจะชอบที่ได้ไปรวมกะประเทศที่รวยกว่า แต่สงสัยว่าประเทศที่มีเงินมากกว่าทำไมถึงอยากรวม เพราะนั่นหมายถึง ต้องยอมรับคนจากประเทศยากจนเข้ามาอยู่รวมกัน จากคุณ : จอมยุทธสุดอึ๋มส์ เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 52 05:57:56

ความคิดเห็นที่ 6 เห็นชื่อที่ห้องใหญ่ นึกว่าน้องใครท้าชวนคุยเรื่อง อียุ รีบกดเข้ามาดู ด้วยความอยากรู้ว่า อียุ คนนี้มันคือไผ อ้าว กลายเป็นเรื่อง อียู ไปซะนี่ กระทู้ความรู้รอบตัว เเว๊ก เรื่องมีสาระ ข้าพเจ้าคุยม่ายเปง ถอยออกไปดีกั่ว จากคุณ : Jennifer Lowclass เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 52 06:02:41

ความคิดเห็นที่ 7   จริงๆคนอังกฤษก็ต้องยอมรับว่าที่เศรษฐกิจฝั่งยุโรปไม่สาหัสมากก็เพราะมี EU นี่แหละ ปัญหาการไม่ยอมรับ EU มันเป็นอีโก้ส่วนตัวของคนอังกฤษมากกว่าด้วยความที่ยึดมั่นในความเป็นชาติที่ยิ่งใหญ่ในอดีตและเป็นผู้ดีเก่าแก่ ปัญหาการไหลเข้ามาของแรงงานไม่น่าจะยกมาเป็นข้อเสียได้เพราะในทางกลับกันคนอังกฤษก็สามารถไปทำงานในประเทศในกลุ่ม EU ที่มีเศรษฐกิจดีพอกันหรือดีกว่าได้ แต่ที่ไม่ค่อยจะไปกันนี่เป็นเพราะไม่เห็นความจำเป็นจะต้องไปหรือไม่มีความสามารถจะไปกันแน่ จากคุณ : VeryBadman...Begins (คามิยามะมาเยือน!!!) เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 52 06:03:23

ความคิดเห็นที่ 8 คิดว่าอียู ทำให้เสถียรภาพทางงเศรษฐกิจและสังคมของภูมิภาคนั้นเเข็งแรงขึ้น เพิ่มอำนาจต่อรองมี่ดีขึ้น จากคุณ : mrs.night owl เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 52 06:13:00

ความคิดเห็นที่ 9   เรื่องที่คนอังกฤษไม่อยากไปทำงานประเทศอื่นเพราะ ไม่เห็นความจำเป็นนั่นไม่แปลกใจ ก็อังกฤษมันบ้านของเขา แต่สงสัยว่าทำไมถึงคิดว่าคนอังกฤษไม่มีความสามารถพอที่จะไปทำงานที่ประเทศอื่นในอียู จากประสปการณ์อันน้อยนิดเท่าที่เห็น ส่วนมากจะมีคนโปแลนด์ กับยุโรปตะวันออก และแขก ชอบเข้ามาทำงานในอังกฤษ พวกแขกนี่ไม่เกี่ยว เพราะไม่ใช่อียู เท่าที่ดู งานที่คนโปแลนด์โรมาเนียหรือคนแถบเดียวกันก็ไม่ได้ใช้ความสามารถอะไรมาก เช่นขับรถ ขายของ หรือก่อสร้าง จากคุณ : จอมยุทธสุดอึ๋มส์ เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 52 06:13:09

ความคิดเห็นที่ 10 เกิดมาไม่คิดว่าต้องมาดีเฟนด์อียูให้คนไทยอ่าน =.=" อาจจะไม่เกี่ยวกันซะทีเดียว แต่ขอพูดถึงหน่อยพวกที่ไม่ชอบอียูทั้งหลายเนี่ยหลายๆคนเข้าอยากเอาต่างชาติออกไปให้หมดนะคับ ไม่ใช่เฉพาะอียูู เข้าเรื่อง ไอ้เรื่องหมอนะคับที่อ่านมาเค้า บอกว่าหมอยูเค คลาดแคลนในช่วงวันหยุดต่างๆ หรือในตจว เลยต้องเอาหมอจากที่อื่นมา ซึ่งเรื่องที่พูดอังกฤษไม่ค่อยเค้าใจนี่ก็ควรต้องดูแลนะ ส่วนนึงที่เป็นปัญหาของประเทศร่ำรวยก็คือการคาดแคลนแรงงานนะคับ หรืออย่างว่าคนไม่ทำงานนอนรอรับเงินไม่ยอมทำงานลำบาก คนอังกฤษและยูเคในอียูเยอะแยะไปคับในสเปนเยอะมาก[ว่าก็ว่าไทยก็เยอะ] ไอ้ที่ว่าไม่มีความสามารถก็คงจะเป็นเรื่องของภาษา คนที่นี่ไม่ค่อยสารารถพูดภาษาอื่นได้ อืมอียูมีการเลือกตั้งนะคับ รวมถึงการที่รัฐบาลต่างๆ[ที่ได้การการเลือกตั้งมาจากประชาชน]แต่งตั้งคนเค้าไปเป็นตำแหน่งต่างๆ รวมถึงการออกกฎต่างๆก็ต้องมีการดีเบต ประเทศในอียูรวมกันกับยูเคเป็นคู่ค้าที่สำคัญมากๆ การมีกฏ มาตรฐานหลายๆอย่างเหมือนกันทำให้มีการกระจายสินค้า บริการได้ง่ายขึ้น รวมถึงอำนาจต่อรองในการค้า การเมือง เงินยูโรนั้นผมพึ่งอ่านบีบีซีนักวิเคราะห์เยอรมันบอกว่าการส่งออกที่นู่นเฟื้อตัวเร็วกว่าส่วนนึงเพราะว่าประเทศคู่ค้าในยูโรโซน เนื่องจากว่าไม่ต้องกังวลเรื่ออัตราแลกเปลี่ยน แน่นอนว่ามันไม่เพอร์เฟ็คไปทุกอย่าง ผมก็แค่ยกเรื่องที่เห็นว่าดีมาเล่าสุ่กันฟัง ปล.คนที่พูดว่าเป็นรัฐคอมมิวนิสต์เข้าใจหลักการรึปล่าว? จากคุณ : TuVok เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 52 07:17:41

ความคิดเห็นที่ 11   คุณอึ๋มครับ เราต้องเข้าใจ คอนเซปต์ ของสหภาพยุโรป ครับว่า มันมีลักษณะเป็น "เป็นองค์การเหนือซาติ" (ผมคิดว่าน่าจะแปลเช่นนี้ หากผิด วอนผู้รู้ช่วยแก้ไขด้วยครับ ) เจ้าองค์การเหนือชาติ ภาษาอังกฤษ เขาเรียก "Supranationality" หรือ ภาษาเช็ก คือ Nadstatnosti หรือไม่ก็ใช้ทับศัพท์ เป็น Supranacionality อันนี้ถือว่าเป็นหลักทั่วไป โดยทีเดียว ซึ่งหลักนี้จะค่อนข้าง แหวกแนวจากกรณีของกฎหมายระหว่างประเทศ คดีเมือง ที่นักฎหมายไทย คุ้นเคยมาก เพราะหลักกฎหมายระหว่างประเทศคดีเมืองนั้น ถือว่า "ทุกรัฐมีอธิปไตยเท่าเทียมกัน" นั่นหมายความว่า "ไม่มีอำนาจเหนือรัฐทั้งสิ้น" แต่คนดีไซน์ การรวมตัวเป็นสหภาพยุโรป นั้น ได้คิดหลักนี้ขึ้นมา ว่า " ทุกรัฐสมาชิก ด้วยความสมัครใจ ในพื้นฐานของสนธิสัญญาที่ตกลงกันไว้ ทุกชาติจะต้องพึงสละอำนาจอธิปไตยบางประการแก่องค์กาเหนือรัฐนี้ (ซึ่งจะตกลงกันเป็นเรื่องๆโดยหลักของการเข้าทำสนธิสัญญา ) ซึ่งคนคิดคือ Jean Monet ได้คิดให้ องค์การดังกล่าวมีอำนาจเหนือชาติสมาชิก และมีอำนาจตามกฎหมาย (กฎหมายที่เกิดจากการรวมเป็นสหภาพยุโรป ) เหนือรัฐสมาชิก ซึ่ง Supranationality มีสัญลักษณ์ ดังนี้ คือ ๑ ) สหภาพไม่ใช่ อยู่ในส่วนของรัฐสมาชิก แต่มี ประโยชน์ ของสหภาพเอง มีความสามารถในการแสดงเจตนาด้วยตัวสหภาพเอง ซึ่งการแสดงออกซึ่งเจตนานั้น อาจแสดงออกโดยผ่าน กรรมาธิการยุโรป (The European commission ) เป็นต้น ในส่วนอำนาจ ทางนิติบัญญํติ บริหาร และ ศาล ของสหภาพนั้นไม่ได้บังคับการโดยรัฐ แต่ เป็นของตัวสหภาพโดยตรง (อันนี้เกิดขึ้นโดย ผลของสนธิสัญญาก่อตั้งสหภาพยุโรป ) ๒) สหภาพ สามารถสร้างกฎหมาย กฎข้อบังคับ ได้เองอย่างเป็นอิสระ ๓) กฎหมาย กฏข้อบังคับ และ คำตัดสินหรือคำพิพากษา มีความผูกพันรัฐสมาชิก ๔) สิ่งที่กล่าวมาในข้อ ๓ ถือได้ว่า มี Direct effect ในรัฐสมาชิก ๕ )สิ่งที่กล่าวมาในข้อ ๓และ ๔ ไม่ใช่แค่ผูกพันรัฐต่อรัฐ แต่มุ่งชี้ไปถึง บุคคลธรรมดาและนิติบุคคลโดยทีเดียว (ง่ายๆ อังกฤษก็ต้องยอมรับคนงานเช็ก เช็กก็ต้องยอมรับ คนงานอังกฤษ อันนี้ตัวอย่างง่ายๆ ครับ ยกตัวอย่างกฎหมายจริงๆ เดี๋ยวงง นึกว่าผมพิมพ์ภาษาเบลเยี่ยม) ๖) มีการตั้งศาลของสหภาพเอง รวมทั้ง ศาลภายในของรัฐสมาชิกก็ต้องบังคับใช้ กฎหมายของสหภาพด้วย ๗) มีระบบ การเงินของตัวเอง ทั้งแหล่งที่มาและงบประมาณ ที่ผมเขียนมานี่ ผมเอามาจาก เล็กเชอร์ อาจารย์ผม ชื่อ Dr.Nadezda Siskova กับหนังสือของท่าน Evropske pravo I ครับ และจากที่ผมกล่าวมาทั้งหมดนี้ บวกกับ หลัก "การเคลื่อนย้ายสินค้า และ ตัวบุคคล แรงงาน โดย เสรี โดยปราศจาก อุปรรคการกีดกัน ไม่ว่าจะเป็นภาษีหรือที่มิใช่ภาษีก็ตาม" (เชงเก้นก็มาจาหหลักนี้ ) ดังนั้นนี่ ไม่แปลก ครับ ภายใต้กรอบสมาชิก EU , EU มีอำนาจ ครับ หากกีดกันทางแรงงาน เขาก็ฟ้องกรรมาธิการเข้าให้สิ ครับ (มันเคยมี คดี ของบอสแมน ซึ่ง ทำให้ การจำกัดโควต้านักเตะต่างชาติใน EU ในลีกอังกฤษ ก็ต้องยกเลิกไป ด้วย เช่นกัน ) ทีนี้คุณอึ๋มเข้าใจหรือ ยัง ครับ ว่า "หมอต่างชาติ มาได้ไง แล้ว ทำไมนักเรียนต่างชาติใน EU จ่ายตังค์เท่ากับเด็กอังกฤษ " เรื่องมันมีอยู่ประการฉะนี้ล่ะ ครับ ว่างๆคุยกัน ครับ จากคุณ : กมล ตันจินวัฒนกุล เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 52 07:34:29 A:158.194.181.94 X: TicketID:153431

ความคิดเห็นที่ 12   กลับมาต่อ ครับ ประวัติศาสตร์ของสหภาพยุโรปนั้น เกิดขึ้นจาก การคิดขึ้นของ Jean Monet ที่ได้รับการมอบหมายจาก รมต.ต่างประเทศฝรั่งเศสในยุคนั้น คือ Robert Schuman ประดิษฐ์ แนวคิดเรื่องการรวมตัวเป็นสหภาพ (แต่เป็นไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป) อันเป็นสาระสำคัญของ Shumanova Deklarace เพื่อ ๑ )สร้างสันติภาพและลดความขัดแย้ง เพราะยุโรปเสียหายมากจากสงครามโลกถึงสองครั้ง ๒ )ฝรั่งเศสก็ต้องการให้เยอรมันนั้นมาเข้าร่วมเป็นกลุ่มกับตนเองเพื่อ ควบคุมการใช้ทรัพยากร โดยเฉพาะ ถ่านหินและเหล็ก อันเป็นการป้องกันเยอรมันนำไปใช้ผลิตอาวุธ ที่สำคัญ ช่วงดังกล่าว สงครามเย็นได้เริ่มขึ้น เมื่อ โซเวียตได้ สถาปนา เยอรมันส่วนที่ตนยึดครองให้เป็น เยอรมันตะวันออกซึ่งเป็นคอมมิวนิสต์ ฝรั่งเศสจึงเล็งเห็นว่า การดึงเยอรมันตะวันตก มาร่วมกับตน จะเป็นผลดีกว่า การโดดเดี่ยวเยอรมัน (ผมคิดว่า ฝรั่งเศส มีประสบการณ์รบแพ้ ทั้งสองประเทศมาเป็นอย่างดี ก็ควรรู้ว่า ควรทำอย่างไร ที่จะดีกว่าการเปิดศึกสองด้าน เหมือนในอดีต ที่ผ่านมา ) ๓ ) เนื่องจากยุโรปเสียหายจากสงครามมาก การรวมกลุ่มเช่นนี้ จะเป็นการรวมตัวเพื่อเป็นการพัฒนา เศรษฐกิจ และ คุณภาพชีวิต ของสมาชิก ๔) เพื่อ ความสามารถในการต่อรองในระดับการค้าระหว่างประเทศ ๕) เพื่อป้องกันการคุกคามของโซเวียตในช่วงสงครามเย็น (นี่คือสาเหตุหนึ่ง หลังจาก คอมมิวนิสต์ล่มสลาย สหภาพยุโรป จึง เต็มใจรับประเทศยุโรปตะวันออกเดิมเป็นสมาชิก และ ให้โอกาส รวมทั้งเงินช่วยเหลือไปพัฒนา) ทั้งหมดนี้ ผมนำความมาเล่าให้ฟังจาก หนังสือ Evropske pravo I ของอาจารย์ผม Dr.Nadezda Siskova หน้า ๑๗ ครับ จากคุณ : กมล ตันจินวัฒนกุล เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 52 08:01:32 A:158.194.181.94 X: TicketID:153431

ความคิดเห็นที่ 13   ขอบพระคุณคุณกมลที่อธิบายซะโล่งโจ้ง และขอบคุณท่านอื่นที่อธิบายให้ฟังนะคะ ส่วนตัวเอง ไม่เคนยสนใจเรื่องอียูมาก่อน ไม่ได้ชอบหรือไม่ชอบด้วย เพราะไม่คิดจะอยู่อังกฤษไปตลอดแน่นอน อย่างมากก็ปีสองปี พอ ที่อยุ่ๆมาสนใจเพราะช่วงนี้ไปไหนก็มีแต่คนเถียงเรื่องอียู อียู นี่ถ้าชื่อยูคงสะดุ้งไปหลายเฮือก เรื่องที่ว่าคนที่บอกว่าเป็นคอมมิวนิสนั้น มีความรู้แค่ไหนนั้น เราตอบได้แค่ว่า เค้าก็คงมีมากกว่าเราน่ะค่ะ รู้สึกเรียนด้าน maritime laws ไม่รู้เกี่ยวกันไหม ใครเล่ามา เราก็ฟัง เรื่องหมอต่างชาตินี่น่าจะได้ยินมาไม่เหมือนกันอ่ะค่ะ เพราะเท่าที่ได้ยินจริงๆจากหมอตัวจริงที่เป็นคนอังกฤษหลายๆคน รวมทั้งหมอแขกอินเดีย ปากีสถานที่มาทำงานในนี้บอกว่า หางานยากมาก เพราะตอนนี้อังกฤษหมอล้นงาน ( ที่ทราบเพราะอย่างที่บอก เจ้าของบ้านที่พักอยู่ด้วยกันเค้าเป็นหมอ ชอบพาหมอๆมากินข้าว) เราก็ถามเค้าว่า ไหนเคยได้ยินมาว่าที่นี่หมอขาดแคลน เค้าก็บอกว่า ในอดีตน่ะใช่ แต่ปัจจุบัน ไม่ใช่แล้ว ไม่รู้ว่าทำไมคนชาติอื่นๆยังคิดว่าหมอที่นี่ขาดแคลนอยู่อีก ไปแอบดูเว็บไซด์บรรดาหมอแขกที่จะมาสอบเอาใบเป็นหมอในอังกฤษ เขาก็พูดกันจริงๆด้วยว่าหางานยากขึ้นมาก เพื่อนที่เป็นหมอฝรั่งบอกว่า หมอแขกส่วนมากพูดอังกฤษได้ดีกว่าหมอจากอียูบางประเทศ แต่หมอแขกไม่ใช่อียู คนจ้างงานต้องเลือกอียูก่อน ซึ่งอันนี้ เรารู้สึกว่า หมอกะพยาบาล น่าจะเป็นข้อยกเว้น เพราะต้องใช้การสื่อสารที่ถูกต้อง ประสบการณ์ส่วนตัวเคยเจอหมอกรีก ไม่น่าเชื่อว่าเป็นหมอ เขียนภาษาอังกฤษง่ายๆยังผิดเลย พูดก็ประมาณแย่กว่าเราอีก ดีว่าหล่อ เลยอภัยให้ อิอิ เรื่องนักเรียน ที่มหาลัยที่เรียนอยู่นั้น เจอหลายเคสมากที่เป็นคนเวียดนาม ที่ย้ายมาอยู่โปแลนด์เพื่อเอาความเป็นอียูเข้ามาเรียนที่อังกฤษ ทำให้นักศึกษาที่นี่หลายคนรู้สึกไม่ชอบใจ ในฐานะที่พ่อแม่ของเขาเป็นคนเสียภาษี  เราก็ถามกลับไปว่า แล้วไมยูไม่ไปเรียนที่โปแลนด์ซะล่ะ จะได้เจ๊ากัน  เค้าก็บอกว่า นี่มันบ้านเค้า ทำไมเค้าต้องไปเรียนที่อื่น สรุปว่า อียูนี่ คนอังกฤษจะไม่ชอบ แต่คนยุโรปชาติอื่นชอบ เดี๋ยวเสร็จจาก disser จะไปหาเรื่องอียูมาอ่านจริงๆจังๆแล้ว สงสัยสุดๆ จากคุณ : จอมยุทธสุดอึ๋มส์ เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 52 08:12:43

ความคิดเห็นที่ 14 โปแลนด์ ก็เหมื่อนบ้านเรานะครับ เมืองไทย หางานยาก ไม่มีหน่วยรัชบาล ค่อยหางานเหมือนอังกิด  พอคนโปแลนด์เข้ามาเป็นสมาชิก ก้ยกกันมาหมดเลยครับ คนโปรแลนด์ ทำงานเหมื่อนคนไทย สู้งานมาก กรรมกร อะไร ทำหมด เหมื่อนมาแย้งงาน แต่กฏหมายอังกิด มีช่องทางให้คนโปแลนด์ หรือ คนในอียู เปลี่ยนสัญชาติ ถือสัญชาติอังกิด เยอะมาก ปีทีแล้วคนโปแลนด์ คลอดลูกทีนี้ 14000 คน  ปีนี้ก็เท่าตัวนะ แต่ก็ไม่รู้นะ ว่าอนาคต จะเป็นอย่างไร จากคุณ : พัด-ทะ-ยา เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 52 08:13:38

ความคิดเห็นที่ 15   อ้าว พิมมาจ๊ะเอ๋กะคุณกมล ไปนอนก่อนนะ แล้วว่างๆคุยกันค่า จากคุณ : จอมยุทธสุดอึ๋มส์ เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 52 08:14:29

ความคิดเห็นที่ 16 ข่าวที่ว่านะคับ เป็นเรื่องหมออียูบินมาทำงานสุดสัปดาห์ http://news.bbc.co.uk/1/hi/health/4103264.stm "GPs from across Europe are flying into the UK to work on Saturdays and Sundays after nine in 10 UK family doctors opted out of the work last year." ที่คนเวียตนามนี่ไม่ทราบว่าเค้าเป็นคนสัญชาติโปแลนด์รึปล่าวครับ "สรุปว่า อียูนี่ คนอังกฤษจะไม่ชอบ แต่คนยุโรปชาติอื่นชอบ" ไม่น่าจะเหมาไปงั้นนะคับ จิงๆคนที่ชอบก็มี ที่อื่นคนไม่ชอบก็มี คห 14 เท่าที่ผมอ่านมายังไม่เห็นว่าได้สิทธื์มากกว่าเท่าไหร่นิคับก็ต้อง naturalizationเหมือนกัน ยังไงช่วยหาลิงค์มาให้ดูหน่อย จากคุณ : TuVok เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 52 09:12:35

ความคิดเห็นที่ 17   ส่วนตัวคิดว่า EU ฉลาด สามารถ รวมตัวกัน เพื่อเสถียรภาพเพื่อต่อสู้กับประเทศในโลก และเพื่อประโยชน์ประเทศสมาชิก เอง เช่น ค่าเงิน ยูโร ที่ตั้งขึ้นมาใหม่   เคยนึกถึงเมืองไทย ถ้ามารวมกับ พม่า เขมร ลาว มันจะออกมาเป็นรูปแบบไหน เงินจะเป็นสกุลใด  อิอิ ขลุกขลิกๆ ^^ แต่ยังไงก็ตามอังกฤษก็ยังแข็งแรงดีค่ะ เพราะประเทศในเครือคือ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ใช่ไหมคะ ถ้าจำไม่ผิด จากคุณ : indulge corner เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 52 09:16:56

ความคิดเห็นที่ 18 จริงๆถ้าใครอยู่อังกฤษมานานจะทราบว่าคนอังกฤษแท้ๆแทบจะไม่มีเลยที่ภูมิใจในชาติตัวเอง หรือทำตัวเป็นผู้ดี น่าจะเป็นสิ่งที่คนต่างชาติคิดกันไปเองหรือไม่ก็ยังติดภาพพจน์เก่าๆของคนอังกฤษยุคอาณานิคม  ซึ่งสมัยนี้มันไม่ไช่อย่างนั้นแล้ว แตกต่างอย่างสิ้นเชิง คนที่นี่ไม่ได้คิดอะไรมากไปกว่ายุคนี้การข้ามฝั่งไปเที่ยวสเปน หรือประเทศต่างๆในยุโรปต้องเตรียมเงินค่าใช้จ่ายมากขึ้น  ในลอนดอนมีคนต่างชาติมาเสริฟอาหาร ทำงานก่อสร้าง ขับแท๊กซี่มากกว่าเดิม และเข้ามายืนยันได้ค่ะว่างานสำหรับหมอและพยาบาลไม่ขาดแคลนแล้วค่ะ งานหายาก หมอสมัยนี้ได้งานที่ไหนก็ต้องไปจะเลือกมากไม่ได้ เดี๋ยวจะไม่มีทีลง ใครจบพยาบาลในช่วงสามปีที่ผ่านมาแล้วมีงานทำนับว่าเก่งเพราะมีพยาบาลมากมายที่ไม่มีงานประจำ ได้แต่ทำ Part Time หรือที่นี่เรียกว่า bank staff  คนที่มีสมองจะไม่สนใจเรื่องพวกนี้เท่าไรเพราะรู้ๆกันอยู่ว่าไอ้ที่หลั่งไหลกันมานี่ก็ต่างมาทำงานที่คนอังกฤษไม่อยากทำกัน เช่นตามโรงงานเล็กๆ งานใช้แรงงาน เสริฟ ขายของตามร้าน ไม่ได้มาแย่งงานออฟฟิศหรืองานอาชีพดีๆสักหน่อย จะกังวลไปไย จากคุณ : Gisele เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 52 09:53:47

ความคิดเห็นที่ 19 แถมอีกนิดค่ะว่าคนอังกฤษพูดภาษาอื่นไม่ได้ จึงนิยมที่จะไปทำงานหรือย้ายไปตั้งรกรากที่ประเทศที่พูดภาษาอังกฤษเหมือนๆกัน เช่น US ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ แคนาดา ทางฝั่งยุโรปที่นิยมมากอันดับหนึ่งก็คือเสปนเพราะค่อนข้างทันสมัย อากาศดี และที่สำคัญคือมีชาวอังกฤษอาศัยอยู่จำนวนมาก ทำให้ปรับตัวง่าย จากคุณ : Gisele เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 52 10:01:33

ความคิดเห็นที่ 20 ตัวเองขา เรากลับมองว่า ถ้าสมมติมีสหภาพแหลมทองจริงๆ คือ เขมร พม่า (สองชาตินี้ต้องการการพิสูจน์ความจริงใจอีกเยอะ) ไทย เวียดนาม สิงคโปร์ มาเลย์เซีย อินโดนีเซีย บรูไน ฟิลิปปินส์ รวมกันได้เนี่ย จะเป็นภูมิภาคที่เขย่าวงการการเมืองโลกได้ทันที สาเหตุก็คือ แค่รวมประชากรแถวนี้ก็ได้ประมาณ 1/10 ของประชากรโลกทั้งหมดแล้ว ทรัพยากรธรรมชาติจำนวนมากที่ยังไม่ได้นำขึ้นมาใช้ ความอุดมสมบูรณ์ของแผ่นดินแถบนี้ แต่จนแล้วจนรอด ดินแดนเหล่านี้รวมกันไม่มีทางได้ เพราะความแตกต่างโดยเฉพาะยิ่งทางวัฒนธรรม (Cultural Diversify) ศาสนา การปกครอง ความเชื่อ ลัทธิต่างๆ คือถ้าใครคิดแล้วสามารถรวมทุกประเทศแถบนี้มาเป็นองค์กรเหนือชาติได้แบบอียู เราว่า คนผู้นั้นเอารางวัลโนเบลสันติภาำพไปได้ทุกๆปีเลยครับ จากคุณ : พัฒน์ เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 52 14:03:36

ความคิดเห็นที่ 21   เชื่อหรือไม่ สองสามปีมานี้ชาติที่คนอพยพย้ายไปออสเตรเลียมากที่สุดคือคนอังกฤษ ที่แรกนึกว่าจากเอเชีย จากคุณ : โอเค เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 52 14:06:32 A:121.220.73.15 X: TicketID:200151

ความคิดเห็นที่ 22 จริงๆคนอังกฤษก็ต้องยอมรับว่าที่เศรษฐกิจฝั่งยุโรปไม่สาหัสมากก็เพราะมี EU นี่แหละ ปัญหาการไม่ยอมรับ EU มันเป็นอีโก้ส่วนตัวของคนอังกฤษมากกว่าด้วยความที่ยึดมั่นในความเป็นชาติที่ยิ่งใหญ่ในอดีตและเป็นผู้ดีเก่าแก่   คุณ  VeryBadman...Begins   อังกฤษจะเข้ากลุ่มอียูหรือไม่อังกฤษก็ยังอยู่ในสภาพ recession และแย่กว่าประเทศอียูอื่น สาเหตุเพราะอังกฤษเป็นประเทศด้าน service มากกว่าด้านmunufaturing อังกฤษก็ยังคงไม่ฟื้นตัวเหมือน เยอรมันหรือฝรั่งเศส เข้ากับอียูอังกฤษเสียเปรียบหลายอย่างเช่นเราต้องยอมรับสินค้าจากประเทศอียูหลายประเทศที่ส่งสินค้าเข้ามาตัดราคาชาวนาในประเทศ อย่างเช่น เนื้อแลมป์นำเข้าถูกกว่าอังกฤษ อังกฤษต้องสูญเสียลักษณะเฉพาะตัวหลายอย่าง คุยเรื่องอียูก็คงยาวคุยนานไม่ได้ต้องไปทำงานก่อนค่ะ อ้อน้องอึ๋มส์ หากมีเวลา ทำ dissertation เสร็จแล้วฝากหาข้อมูลเกี่ยวกับว่า ทำไม อังกฤษถึงสามารถถอนตัวจากการเข้าเป็นกลุ่ม Schengen ได้ในเมื่อประเทศอื่นใน EU เป็นกัน พี่สงสัยมาตั้งนานแล้ว จากคุณ : Rinta เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 52 14:09:38

ความคิดเห็นที่ 23 จริงๆ เราเป็นคนที่โปรอียูมาก คือเราชอบระบบ ชอบเเนวความคิดของกลุ่มอียู อย่างการเปิดเสรีภาพทางการค้า เสรีภาพในการไปทำงาน การประกอบธุรกิจเปิดบริษัทในกลุ่มประเทศต่างๆ คือระยะยาวมันย่อมดีเเน่ๆ คือกฎหมายอียูมันเอื้อให้การกระทำงานง่ายขึ้น ถึงเเม้ว่าในระยะสั้น บางคนอาจจะบอกว่า เเรงงานต่างชาติทะลักเข้ามาในประเทศเรา หรือบริษัทย้ายออกไปผลิตในประเทศที่ถูกกว่า เเต่ถ้ามองระยะยาว คำนึงถึงหลักเศรษฐศาสตร์กลไกการตลาด ราคาเเรงงานมันจะมาถึงจุดสมดุลกันเอง ยกตัวอย่างเเรงงานวิชาชีพโปเเลนด์ออกไปทำงานที่เยอรมันมากเพราะค่าเเรงที่เยอรมันสูงกว่า ซักวันเยอรมันเเรงงานล้นตลาด ราคาก็ปรับลง ส่วนที่โปเเลนด์เเรงงานน้อยลงราคาค่าเเรงก็เพิ่มขึ้น เรื่องเศรษฐกิจ อันนี้ไม่ต้องพูดถึง มีตัวอย่างให้เห็นมากมาย ประเทศฮังการี ถ้าไม่อยู่ในกลุ่มอียู ป่านนี้อาจจะย่ำเเย่ไปมากกว่านี้ก็ได้ เเละด้วย ceiterien ของอียู ที่มีการควบคุม deficit อัตราเงินเฟ้อ มันทำให้ประเทศต่างๆ มันทำให้ประเทศเล็กๆต้องพยายามปรับมาตรฐานของตัวเอง ยิ่งประเทศเล็กๆเนี่ย เราว่ายิ่งได้ประโยชน์จากอียู นอกจากจะได้การช่วยเหลือด้านการเงินเเล้ว ยังมีด้านสังคม การศึกษา มีการสร้างสเเตนดาร์ดอื่นๆอีก หรืออย่างบัลกาเรีย เมื่อเข้ามาอยู่ในกลุ่มอียูเเล้ว ก็ต้องพยายามลดอัตราการคอรับชั่นลง มีการจับตามอง มีการควบคุมมากขึ้น ส่วนเรื่องเงินยูโร อันนี้ต้องบอกว่าเป็นสกุลเงินที่มีความมั่นคงสูง เงินอียูนอกจากจะทำให้การค้าในกลุ่มอียูสะดวกสบายขึ้น นักท่องเที่ยวอย่างเราๆก็พลอยได้ผลประโยชน์ไปด้วย จริงอยู่ว่าหลายคนอาจจะบ่นว่าข้าวของเเพงขึ้น เเต่อย่างในเยอรมันหลังจากเปลีย่นเป็นยูโร ของบางอย่างราคาถูกลงด้วยซ้ำ ตอนนี้ก็ต้องมาจับตาดู ว่าประเทศไหนจะเปลีย่นมาใช้เงินยูโรเป็นรายต่อไป ที่เเน่ๆเดนมาร์กเริ่มมีการเเสดงความสนใจ ส่วนอังกฤษ คงอีกนานกว่าจะคิดได้ อีกอย่างเราก็ต้องเข้าใจว่า การทำงานของอียูนั้น อยู่ในเงื่อนไขของ subsidaritätsprinzip (subsidiarity) คืออียูจะเข้าไปก้าวก่ายช่วยเเก้ปัญหาก็ต่อเมื่อ ประเทศนั้นๆไม่สามารถจัดการด้วยตัวเอง หรือปัญหามันมีผลกระทบโดยรวม อธิเชนปัญหาโลกร้อน emission เป็นต้น เเละ initiative ของกฎหมายบางตัวที่อียูออกมา ต้องขอยกนิ้วโป้งให้เลย ว่าคิดได้ไงเนี่ย บางทีเรามองเเล้วอาจจะคิดว่ามาจุ้นจ้านอะไรกับชีวิตชั้น อย่างกฎหมายให้เเรงงานที่ทำงานตากเเดดต้องใส่เสื้อผ้ามิดชิด ด้วยเหตุผลที่ว่าอัตราผู้ป่วยมะเร็งผิวหนังในอียูค่อนข้างสูง เเต่มานั่งคิดอีกที มันก็มีประโยชน์มีเหตุมีผลอยู่นะไอ้กฎหมายตัวนี้ เเต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ต้องยอมรับว่า bürokratie ในระบบอียูค่อนข้างสูง กว่าจะตัดสินใจ กว่าจะทำอะไรใช้เวลาค่อนข้างนาน อัตราการล๊อบบี้ก็สูง เเต่เราอยากให้มองว่าการล๊อบบี้ จริงๆก็คือการให้ข้อมูลนอกรอบ มันก็ต่างกับการติดสินบนอยู่นะ เเล้วอีกอย่าง อียูก็พยายามป้องกันการคอรับชั่นจากการล๊อบบีี้ด้วยกฎหมายล๊อบบี้ เพิ่งออกเมื่อปีที่เเล้วเองมั๊ง ว่าต้องมีการลงทะเีบียน จดเป็นลายลักษณ์อักษรทุกครั้งอะไรทำนองนี้ หรืออย่างบางเรื่องที่อียูต้องใ้ช้เสียงส่วนใหญ่ตัดสินห้ามวีโต้ อย่างเรื่องการจัดเก็บภาษี หรือ bank secret ไรเนี่ย โดนออสเตรียกับลักเซมเบิร์กเเย้งมา อียูก็ทำไรไม่ได้ หรือกฎหมายบางอย่างที่เยอรมันพยายามผลักดัน เจอโปเเลนด์มาเเบรก ก็ต้องชะงักกันไป ความล่าช้าในการตัดสินใจก็เป็นปัญหาใหญ่ของอียูเหมือนกัน เราไม่รู้นะว่าต่อไปอียูจะพัฒนาต่อไปได้ขนาดไหน คือมันยังมีอะไรอีกหลายอย่างที่อียูต้องทำต้องปรับปรุง เเต่ในภาวะปัญหาเศรษฐกิจเเบบนี้ เราว่าถ้าไม่มีกลุ่มอียู ประเทศยุโรปคงจะเเย่ไปมากกว่านี้ โดยเฉพาะประเทศเล็กๆ ในยุโรปตะวันออก เเต่ที่เเน่ๆ อียูไม่ได้มีจุดประสงค์ให้เเต่ละประเทศละทิ้ง identity ของตัวเอง วัฒนธรรม เอกลักษณ์ของประเทศก็ยังดำรงไว้อยู่อย่างนั้น จากคุณ : gEiL giRL เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 52 14:44:40

ความคิดเห็นที่ 24   โปรอียูเช่นกัน เราว่าการกระจายความเจริญ ดีกว่าเจริญอยู่คนเดียวนะ ประเทศที่เจริญกว่าอาจจะเสียเปรียบในตอนนี้ แต่ระยะยาวจะให้ผลดี เปรียบเทียบดูก็เหมือนคนรวยล้นฟ้าที่สร้างบ้านอยู่เมืองไทย หรือแม็กซิโก หรือบราซิล (พูดง่ายๆว่าประเทศกำลังพัฒนาทั้งหลาย) ต้องสร้างรั้วคอนกรีตสูงเพื่อป้องกันขโมย เพราะความเจริญมันไม่กระจาย คนจนก็จนซะ คนรวยก็รวยล้นฟ้า ทีนี้คนรวยๆเขาก็ต้องอยู่กันอย่างหวาดระแวง กลัวว่าคนจนจะมาขโมยของเขา อย่าว่าแต่ประเทศโลกที่สามเลย แม้แต่ในอเมริกา คนรวยๆก็มีการสร้างระบบหมู่บ้านที่มีระบบรักษาความปลอดภัยอย่างดี ลองจินตนาการว่าถ้าความเจริญมันกระจายทั่วถึง คนมีคุณภาพชีวิตดีขึ้น เรื่องการกีดกัน ก็คงน้อยลง เราว่าประเทศที่ร่ำรวยกว่าต้องมองผลประโยชน์ส่วนตัวให้น้อยลง แล้วมารวมตัวกันพัฒนาระบบรวม เป็นผลดีกับคนส่วนใหญ่ จากคุณ : LittleBlueTwingo เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 52 15:25:04

ความคิดเห็นที่ 25   เป็นกระทู้ที่ดีมาก ให้ความรู้ดี อยากโหวตแต่ไม่มีสิทธิ์อ่ะ จากคุณ : LittleBlueTwingo เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 52 15:26:15

ความคิดเห็นที่ 26 พวกประเทศเสรีนิยมอย่าง อังกฤษจะมองว่า อียู ออกแนวคอมมิวนิสต์   ............ในขณะเดียวกัน.................... พวกรัฐสวิสดิการอย่าง ฝรั่งเศส เยอรมัน สแกนดิเนเวีย ก็จะว่าอียูนี่มันทุนนิยม เสรีนิยม เกินไป  เอาเศรษฐกิจคือ เป้าหมาย single market เป็นตัวตั้งในการตัดสินใจทุกอย่าง (นั่นก็เป็นเหตุมาจาก หลักการทำงานภายใต้ subsidiarity and proportionality principles  คือ อียูได้รับมอบหมายจากประเทศสมาชิกให้ดูแลจัดการเฉพาะในเรื่องเศรษฐกิจ  เพราะฉะนั้นจะทำอะไรที่ออกนอกกรอบไปหน่อยก็ต้องเอาเป้าหมายทางเศรษฐกิจมาอ้าง) สรุปคือ นโยบายอียูก็อยู่ตรงกลางๆ ----------------------------------------------------------- อีกอย่าง EU ไม่เท่ากับ Schengen และไม่เท่ากับ  Euro เสมอไป อังกฤษ ไม่เคยถอนตัวจาก Schengen เพราะไม่เคยเข้ามาก่อน Schengen อยู่ในรูปของอนุสัญญา (convention จึงมีหลักการทำงานลักษณะเดียวกันกับกฏหมายระหว่างประเทศแบบคลาสสิก  ศาลสูงอียูจึงไม่มีอำนาจตัดสินพิจารณา ตีความมาตราต่างๆของอนุสัญญานี้ได้ ยกเว้นว่าจะได้รับมอบหมายเฉพาะกิจจากประเทศสมาชิกเชงเก้น)  ที่แยกต่างหากจาก สนธิสัญญาอียู (EU treaties ศาลสูงอียูมีหน้าที่ตีความ พิจารณาคดีที่เกี่ยวข้องกับสนธิสัญญาเหล่านี้ เหมือนศาลรัฐธรรมนูญ)  เรียกว่า เจรจาและ เซ็นต์ กันนอกรอบ ดังนั้นประเทศที่เซ็นสนธิสัญญาเข้าร่วมกับอียู  จึงไม่ได้เข้าเป็นประเทศสมาชิกอนุสัญญาเชงเก้นโดยอัตโนมัติ  เพราะสองอันนี้มันต้องเซ็นต์กันคนละที ดังนั้นจึงมีทั้งประเทศใน อียู ที่ไม่อยู่ในเชงเก้น อย่างอังกฤษ โรมาเนีย บังแกเรีย ไซปรัส  พวกนี้ถูกบังคับใช้กฏ อียู ทั้งหมด ยกเว้่นที่เกี่ยวกับ Free movement of persons และประเทศเชงเก้นส์ที่ไม่อยู่ในอียู เช่น ไอซ์เลนด์ นอร์เวย์ สวิส ในกรณีนี้ถ้าเซ็นต์แล้วจะต้องรับกฏที่ตั้งจากอียูเฉพาะส่วนที่เกี่ยวข้องกับ Free movement of persons  ส่วนอื่นๆไม่เกี่ยว  (ขนาดตาข่ายแหจับปลา โควต้านม โควต้าจับปลา ราคาroamingมือถือ การห้ามใช้หลอดไส้100 Wขึ้นไป เป็นต้น) ------------------------------------------------------ อังกฤษ กับ เดนมาร์ก เป็นสองประเทศที่พยายามปกป้องตัวเองจากอียูอยู่แล้ว โดยการได้สิทธ์ทำสัญญาเป็นกรณีพิเศษในบางเรื่องว่า จะไม่ให้กฏต่างๆที่ออกจากอียูมีผลบังคับใช้โดยทันที แต่จะทำเป็นดูท่าทีก่อน ว่ารับได้ไม๊ ถ้ารับได้ ก็ค่อยขอใช้ด้วย  เพราะฉะนั้น ความเปลี่ยนแปลงต่างๆในอังกฤษหลังจากเข้าร่วมอียู ส่วนสำคัญเลยก็มาจากการตัดสินใจ (ถูกหรือผิด) ของคนอังกฤษ  เองนั่นแหละค่ะ  การหลั่งไหลเข้าอังกฤษของชาวยุโรปตะวันออกก็ไม่ได้มีแค่ในอังกฤษเท่านั้น เยอรมัน ออสเตรีย รับไปเยอะกว่าด้วยซ้ำ เพราะประเทศใกล้กัน มีความผูกพันกันทางประวัติศาสตร์มากกว่า  หมอโปแลนด์ ก็มีทุกที่ล่ะค่ะกระจายกันอยู่ อย่าลืมว่า อียู เค้าก็ไม่ได้บังคับใครให้เข้าร่วมนะคะ ไม่ใช่ว่าประเทศที่อยู่ในทวีปยุโรปทุกประเทศต้องมาเป็นอียู ทุกอย่างอยู่ที่ความสมัครใจของแต่ละประเทศที่ร้องขอเข้าเป็นสมาชิกเอง  แล้วอียูก็ค่อยตัดสินใจว่าเข้าเกณจะเป็นสมาชิกได้รึเปล่า   ----------------------------------------------------- ส่วน ประเทศที่ใช้ Euro คือกลุ่มประเทศ Economic and monetary union ซิ่งรวมตัวกันภายใต้อียูก็จริง แต่ก็เหมือนการ คุยกันและเซ็นต์นอกรอบอีกนั่นแหละค่ะ แบบว่า อียูให้สิทธิ์เฉพาะประเทศที่พร้อม(จำได้อันนึงว่าต้องมีหนี้สาธารณะปีนึงไม่เกิน 3%) แต่ถ้าใครเข้าเกณแต่ไม่อยากใช้ก็ไม่ว่ากัน จึงมีประเทศสมาชิกอียูมากมายที่(ยัง)ไม่ได้ใช้เงินยูโร  อย่างประเทศแถบสแกนดิเนวีย อังกฤษ เชก ฮังการี บัลแกเรีย โรมาเนีย __________________________________________ สรุปคือ ดิฉันว่าโดยรวมอียูก็ดีนะคะ ทั้งกับชาวยูโรปเองและชาวต่างชาติอย่างเราๆ อะไรๆมันก็มีข้อเสียทั้งนั้นแหละ แต่ดิฉันว่าข้อดีมันเยอะกว่า  โดยเฉพาะทางเศรษฐกิจของยุโรปเอง ดิฉันชอบอย่างนึงที่ชาวยุโรปลดการยึดติดเรื่องอธิปไตยไปได้มาก เพราะการเข้าร่วมกับอียู หลายประเทศถึงกับต้องแก้รัฐธรรมนูญกันเป็นว่าเล่น แก้ไขเมื่อ 03 ก.ย. 52 18:50:18 จากคุณ : KIURIS เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 52 15:59:53

ความคิดเห็นที่ 27 เฉยๆกับอียู เรื่องการเข้ามาทำงานของคนจากประเทศอื่นในอียู มีทั้งผลดีและผลเสีย ขอพูดถึงผลเสียบ้างว่า แรงงานถูกจากประเทศโปแลนด์ ลัทเวีย ลิธัวเนีย เอสโตเนีย ต้องการงานทำอย่างมาก ส่วนมากยอมที่จะลดค่าแรงให้ถูกกว่าคนในประเทศตะวันตก หรือ ทำงานมืด เป็นผลให้เกิดปัญหาด้านสังคม คือ 1 คนในประเทศตกงาน 2 แรงงานต่างประเทศถูกบีบบังคับให้ทำงานหนัก รายได้ต่ำ นอกจากนี้ กลุ่มยุโรปตะวันออก โดยเฉพาะโรมาเนีย โปแลนด์ และประเทศกลุ่มบอลติค ยังไม่ได้เข้ามาทำงานอย่างเดียว แต่ยังก่ออาชญากรรมอีกด้วย ซึ่งประเทศตะวันตกไม่สามารถป้องกันไม่ให้พวกนี้เข้ามาได้ เนื่องจากพรมแดนได้ถูกเปิดขึ้นแล้ว เหตุการณ์นี้จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ท้าทายประเทศตะวันตกอย่างมาก ที่นอร์เวย์ กำลังมีการเลือกตั้งอยู่ หลายๆพรรคได้ถกปัญหานี้กันอย่างมาก เมื่อก่อนแทบจะไม่มีการปล้นจี้ ปัจจุบันแพร่กระจายไปทุกย่อมหญ้า ทั้งเมืองใหญ่ เมืองเล็ก บางคนเลือกที่จะก่ออาชญากรรมที่นี่เพราะรู้ดีว่า คุกนอร์เวย์ไฮโซขนาดไหน ได้ทั้งที่อยู่ อาหาร และเงิน ปัจจุบัน โปล เป็นคนต่างชาติกลุ่มใหญ่ที่สุดในนอร์เวย์ และส่วนใหญ่เป็นกลุ่มคนใช้แรงงานที่ไม่คิดจะกลับโปแลนด์ นี่แค่ปัญหานึง จากคุณ : ingenioer student เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 52 16:06:58

ความคิดเห็นที่ 28   สวัสดีคุณอึ๋ม ผมสนับสนุน ความคิดของคุณ gEiL giRL ครับ ยิ่งประเทศเล็กๆสมาชิกใหม่ ได้รับผลบุญ ไปด้วยจากสหภาพยุโรป เช่น เช็ก มีโบราณสถาน และสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย ถือว่ามีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ และ การศึกษา และวัฒนธรรม รวมถึงการพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว ทางการเช็กเองก็ได้เงินจาสหภพยุโรปมาบูรณะซ่อมแซม ตลอดจนปรับปรุงระบบ ถนนหนทาง สถานีรถไฟ อะไรต่อมิอะไรให้ดีขึ้น ถ้าเรื่องใกล้ตัว เช่น นักศึกษาเช็ก ทุกคน เฮ กัน หมด เพราะ มีทุนนักเรียนแลกเปลี่ยน Erasmus ไปเรียนกันอย่างสนุกสนาน บานหฤทัย ไปสวรรค์ เลยทีเดียว แต่กระนั้นก็ตาม เช็ก เองก็ต้องปรับตัว ครับ เช่น ระบบกฎหมายภายในก็ต้องมีการปรับให้สอดคล้องกับ EU ที่เขาเรียกกันว่า Harmonization ซึ่งเรื่องของ อียู ก็ต้องดูกันต่อไป โดย เฉพาะ รัฐธรรมนูญยุโรป ว่าต่อไปจะเป็นอย่างไรในอนาคต อันใกล้นี้ ครับ ว่างๆคุยกัน จากคุณ : กมล ตันจินวัฒนกุล เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 52 16:15:44 A:158.194.181.94 X: TicketID:153431

ความคิดเห็นที่ 29 เข้ามาในส่วนที่ตัวเองทราบเกี่ยวกับเรื่องแรงงาน คนอังกฤษไปทำงานในอียูมากพอสมควรนะคะ  ส่วนใหญ่เป็นแรงงานที่ประเทศอื่น ๆ ในกลุ่มอียูไม่มี  เช่น แรงงานทางด้าน IT Banking โดยเฉพาะระดับค่อนข้างอาวุโสหรืออาวุโส  ยิ่งถ้ามีประสบการณ์ในด้าน TUPE , merger etc. กับบริษัทในกลุ่มอียูด้วยกัน  เป็นที่ต้องการมากค่ะ ส่วนแรงงานยุโรปตะวันออกที่เข้ามาทำงานในอังกฤษ  เช่น โปแลนด์ สโลวาเกีย เช็ค  โรเมเนีย  ส่วนใหญ่จะมาทำงานในส่วนที่คนอังกฤษไม่ค่อยอยากจะทำ เช่น งานซ่อมแซม งานด้านการทำความสะอาดต่าง ๆ  งานในร้านอาหาร เช่น บริกร งานในครัว ตอนที่ดิฉันอยู่สวิตฯ คนที่นั่นค่อนข้างไม่ค่อยเห็นด้วยกับการเข้าร่วมอียู  โดยเฉพาะเกษตรกร (บ้านดิฉันอยู่ชนบท)  เพราะเกษตรกรต้องปฏิบัติหลาย ๆ อย่างเพื่อให้เข้ากฏอียู  ส่วนด้านอื่น ๆ ไม่ทราบค่ะ จากคุณ : Amber n the Gang เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 52 18:48:24

ความคิดเห็นที่ 30 อ่านที่คุณจอมยุทธฯ พูดใน คห.2แล้ว  ก็เห็นว่าน่าจะเป็นไปได้นะคะ เพราะว่ามีเพื่อนจบเอกที่อังกฤษ แล้วได้งานทำที่นั่นประมาณ5-6เดือนก่อนวีซ่าจะหมดอายุ  ปรากฏว่าทางบริษัทมีปัญหาเรื่องการต่อวีซ่าให้  ตอนนี้ก็เลยต้องหยุดทำงาน รอฟังผลอีก28วันหลังจากดำเนินการว่าจะเป็นยังไงต่อคะ จากคุณ : Mme เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 52 20:19:14

ความคิดเห็นที่ 31   It might be referring to similar concept of resident vs. non-resident rate for those events/places/institutions/schools/parks etc. supported by local government. However, for that 50%+ different that you claimed, I'm not sure how they calculate the rate.. จากคุณ : Toto เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 52 21:09:08 A:74.94.214.97 X: TicketID:021514

ความคิดเห็นที่ 32   Sorry....wrong kratoo จากคุณ : Toto เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 52 21:09:58 A:74.94.214.97 X: TicketID:021514

ความคิดเห็นที่ 33 คิดว่าไม่สุภาพนะคะ ไปเรียกจิกแบบนั้น ควรเรียกว่า "คุณยู" ค่ะ (ออกทะเล..... เอ้าจั้มๆๆๆ หนี)   จากคุณ : หญิงป้า เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 52 00:06:16

ความคิดเห็นที่ 34 อ่าน คคห หลายคน ได้ความรู้ดีค่ะ คิดว่ากฏหลายๆอย่างของอียู ก็หยุมหยิม เอาเรื่องไม่เป็นเรื่องมาตีความ เช่นจะห้ามคนเยอรมันเรียกแอปเปิ้ลไวน์ เพราะไวน์ไม่ได้ทำจากแอปเปิ้ล ต้องเรียกอย่างอื่น ฟังๆแล้วก็ตลกดี แต่ที่ไม่เข้าใจเลยก็เรื่องตุรกีอยากจะเข้ากลุ่มอียู ด้วยนี่สิ จากคุณ : แมวต่างแดน เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 52 01:08:39

ความคิดเห็นที่ 35 คุณKIURIS ขอบคุณมากค่ะ ที่มาขยายความเข้าใจในสัญญา Schengen  ตอนเช้ารีบไปทำงานเลยพิมพ์ตกไป ดิฉันตอนแรกก็ไม่เข้าใจว่าทำไมอังกฤษและไอร์แลนด์ถึงไม่ต้องเข้าร่วมเป็นกลุ่ม Schengen กับประเทศกลุ่มอียูอื่นๆได้ เพราะคิดว่าถ้าเป็นสมาชิกอียูก็ต้องเข้ากลุ่ม Schengen โดยอัตโนมัต แต่ตอนนี้เข้าใจแล้วว่า อังกฤษไม่ได้เซ็นสนธิสัญญาอัมสเตอร์ดัม ปี1997 ที่มีการเอากฏSchengen acquis เข้ามารวมกับกฏหมายอียูด้วย (เพื่อความสุภาพดิฉันขอเรียกว่าประเทศกลุ่มคุณยูตามคุณหญิงป้าตั้งแต่นี้เป็นต้นไป) แก้ไขเมื่อ 04 ก.ย. 52 01:28:40 จากคุณ : Rinta เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 52 01:25:49

ความคิดเห็นที่ 36 เข้ามาเก็บความรู้ค่ะ จากคุณ : น้องหมาบีเกิ้ล เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 52 02:55:01

ความคิดเห็นที่ 37 ถ้าจะตอบอย่างชาว conspiracy theory ก็คงต้องบอกว่ามันเป็นส่วนหนึ่งของ New World Order  ฮ่าๆๆๆๆ   จากคุณ : Candy Wrapper เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 52 03:05:37

ความคิดเห็นที่ 38   จากความคิดเห็นส่วนตัวมองว่า การรวมกลุ่มเป็นสหภาพ เป็นกลไกหนึ่งที่สร้างความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจ และเพิ่มอำนาจต่อรองให้กับกลุ่ม สำหรับกรณีอังกฤษที่ไม่ยอมร่วมใช้เงินสกุลยูโร กับทางสหภาพ น่าจะเป็นผลของการตัดสินใจเรื่องขั้วอำนาจ ซึ่งในสมัยนั้นสหรัฐอเมริกา โดยส่วนตัวมองว่าเขาเป็นพี่ใหญ่ แล้ว อังกฤษ ดิฉันมองว่าเขาเป็นลูกน้อง มีหน้าที่ปฏิบัติตามพี่ใหญ่สั่งการ เพราะเนื่องจาก สหรัฐอเมริการเกรงว่าหากทางกลุ่มสหภาพยุโรปมีการรวมตัวกันอย่างเหนียวแน่น จะทำให้ตนเองสูญเสียอำนาจทางเศรษฐกิจไป ดังนั้น จึงไม่ต้องการให้อังกฤษเข้าร่วมการใช้เงินสกุลยูโรดังกล่าว ในขณะเดียวกัน อังกฤษเอง ก็ต้องยอมรับว่าตนเองอยู่ใกล้กับ กลุ่มสหภาพยุโรปมากกว่า ดังนั้นจึงใช้วิธีแบ่งรับแบ่งสู้ เลือกที่จะยอมรับกฏบางตัวของกลุ่มสหาภพยุโรปที่เอื้อประโยชน์ให้กับประชาชนภายในประเทศ ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องผิด เพราะหากปล่อยให้เปิดการแข่งขันเสรีในทุกรูปแบบ ผลเสียอาจเกิดตามมา หากธุรกิจบางประเภทที่ประชาชนภายในประเทศดำเนินการอยู่นั้น ยังไม่มีความเข้มแข็งมากพอที่จะเข้าร่วมการแข่งขันแบบเสรีได้ อาจก่อให้เกิดการล่มสลายในธุรกิจของประชาชน ซึ่งตัวอย่างแบบนี้ ประเทศไทยเราเอง ก็ทำอยู่เช่นกัน เพื่อปกป้องสิทธิของประชาชนภายในประเทศ ในการประกอบอาชีพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกษตรกร เช่นการทำนา จริงอยู่หากปล่อยให้มีการแข่งขันอย่างเสรี จะทำให้เกิดการค้นคว้าและพัฒนาการอย่างต่อเนื่อง แต่ผลเสียที่ตามมาคือ ประชาชนภายในประเทศจะสูญเสียอาชีพเกษตรกรไป สุดท้ายอาจต้องเปลี่ยนอาชีพเป็นเพียงแค่คนขายแรงงานเท่านั้น เนื่องจากศักยภาพของประชาชนภายในประเทศมีไม่มากพอที่จะเข้าแข่งขันอย่างเสรี ในขณะที่ประเทศนายทุน ที่อยากจะลงทุนในประเทศ เรา แล้วใช้ทรัพยากรของประเทศเราเพื่อตักตวงผลประโยชน์ เข้าสู่ตนเองนั้น ต่างมีความพร้อมในด้านทุน เครื่องจักร โดยอาศัยแรงงานราคาถูกจากบ้านเรา อาศัยทรัพยากรธรรมชาติ จากบ้านเรา เป็นต้น จากที่ยกตัวอย่างยาวมาถึงเอเซีย ก็เพราะต้องการชี้ให้เห็นถึงความฉลาดของอังกฤษ ในกรณีเลือกยอมรับกฏบางตัวของกลุ่มสหภาพยุโรปที่เอื้อประโยชน์ให้กับประเทสของเขา เท่านั้นเองค่ะ ดังนั้นโดยความเห็นส่วนตัวมองว่า แต่ละประเทศ ต่างก็มีวิวัฒนาการทางความคิด เพื่อจะพัฒนา โดยพยายามสร้างกลไก หรือเงื่อนไข เพื่อการปรับตัว โดยเรียนรู้จากประสบการณ์ในอดีต และเป็นเรื่องที่น่าสนใจที่แต่ละประเทศหยิบกลยุทธ์มาใช้เพื่อรับมือต่อปัญหา และการพัฒนาต่อไป เราเสมือนหนึ่งผู้ดูรู้สึกสนุกต่อการศึกษากลยุทธ์ของประเทศนั้นๆ ขอบคุณ คุณจขกท. นะคะ ที่ตั้งกระทู้ดีๆๆ ทำให้เรามีความรู้เพิ่มขึ้น ทั้งจากกระทู้ และจากเพื่อนๆอีกหลายคนที่ร่วมแสดงความคิดเห็น จากคุณ : pim&arpi เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 52 03:37:20 A:78.92.145.178 X: TicketID:157888

ความคิดเห็นที่ 39 เมนท์อื่นไม่สน สนอันนี้อันเดียว "มาร์ค แอน สุเทพ M&S ผมคิดว่าเป็นการเทียบราคาให้เห็นเป็นเงินยูโรมากกว่า ครับ " กมล จ๊กม๊ก มาเอง55555.... คิดได้ไงค้าาาา?? คุณกลม เอ๊ย!คุณกมล แก้ไขเมื่อ 04 ก.ย. 52 03:41:32 จากคุณ : hamble pie เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 52 03:39:29

ความคิดเห็นที่ 40   ขอบคุณทุกคนเลยค่ะ ได้ความรู้เพียบเลย เพิ่งไปเจอหนังสือเรื่องอียูของเพื่อนมา เพื่อนซื้อมาอ่าน รอเค้าอ่านจบแล้าหมู่เฮาก็จะไปตบมาอ่านบ้าง อิอิ ขอไปเก็บข้อมูลต่อดีฝ่า จะได้เอามาดิสคัสต่อ จากคุณ : จอมยุทธสุดอึ๋มส์ เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 52 04:19:08

ความคิดเห็นที่ 41   คุณ pim&arpi ให้ give ค่ะ จากคุณ : คนไม่มีgift (indulge corner) เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 52 10:44:24

ความคิดเห็นที่ 42 ชอบกระทู้แบบนี้จัง ประเทืองปัญญา ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาให้ความรู้ค่ะ จากคุณ : DexTroCadiA เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 52 14:11:17

ความคิดเห็นที่ 43 ตอบ คห 34 นะคะ เหตุผลเรื่องเเอ็ปเปิ้ลไวน์ หลักๆคือการคุ้มครองผู้บริโภคไม่ให้เกิดความเข้าใจผิด โดยเฉพาะกรณีที่นำขายในต่างประเทศเนี่ย คนอื่นเค้าไม่รู้อาจจะเข้าใจผิดได้ เคสดังๆ กรณีคุ้มครองผู้บริโภค เช่น เรื่องเบียร์ เป็นที่รู้กันว่า เยอรมันเนี่ย มีชื่อเสียงโด่งดังเรื่องเบียร์มาก เเล้วเยอรมันก็มีกฎหมายที่บอกว่า เบียร์ต้องมีส่วนผสมหลักๆคือ water, barley, hops นี่คือที่เรียกว่า reinheitsgebot (German Beer Purity Law) ถ้าเบียร์ผลิตจากวัตถุดิบชนิดอื่น ไม่สามารถเรียกว่าเบียร์ได้ เเละถ้านำมาขายในเยอรมัน ก็ต้องบอกว่า มันเป็นเครื่องดื่มผสมรสชาติเหมือนเบียร์ อะไรทำนองนั้น ก็เลยมีการถกเถียงกันว่า มันขัดกับกฎการค้าเสรีในอียูนี่ เบียร์ฮอลเเลนด์โดน discriminate ในเยอรมัน เยอรมันก็อ้างไปว่านี่คือการคุ้มครองผู้บริโภค เพราะคนที่ดื่มเบียร์ เค้าก็ต้องคิดว่าคือเบียร์จริงๆส่วนผสมเหมือนในเยอรมัน ทั้งนี้ทั้งนั้น ต้องบอกว่า ข้ออ้างเยอรมันฟังไม่ขึ้น เพราะจุดประสงค์ของเยอรมันเเค่จะปกป้องตลาดเบียร์ของตัวเอง สรุปศาลอียู ก็เห็นพ้องว่า เยอรมัน discriminate สินค้าต่างประเทศ เเละเหตุผลฟังไม่ขึ้น เพราะถ้ากลัวผู้บริโภคไม่รู้ว่าเบียร์ที่ดื่มมีส่วนผสมมาจากอะไร ก็เเปะที่ฉลากไว้สิ เคสนี้ก็เลยจบลงด้วยดี เเละที่ดีที่สุด ดิฉันมีเบียร์ดื่มทุกยี่ห้อเลย ไม่ว่าจะเป็น heineken จากเนเธอเเลนด์, budweiser จากเช็ค, เบียร์ฝรั่งเศส เบียร์อิตาลี เเต่ท้ายที่สุดเเเล้วก็พบว่า เบียร์เยอรมันอร่อยกว่าเนอะ อิอิ จากคุณ : gEiL giRL เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 52 14:42:57

ความคิดเห็นที่ 44 ควรค่าแกการศึกษามากครับ เพราะต่อไป อาเซียนของเราก็ต้องเจอปัญหาแบบที่อียูตอนนี้กำลังเจอแน่นอน จากคุณ : praphrut608 เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 52 15:16:23

ความคิดเห็นที่ 45 d จากคุณ : okb เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 52 17:05:53

ความคิดเห็นที่ 46 ชอบจังเลยกระทู้แบบนี้ อยู่ในประเทศที่่เป็นสมาชิก EU แต่ยังไม่รู้อะไรมากมาย ก็มารู้จากกระทู้นี้แหละ.....ขอบคุณ ขอบคุณ จากคุณ : Ellinida เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 52 18:14:04

ความคิดเห็นที่ 47   คนอังกฤษที่มีงานทำดีๆมักจะอพยพไปอยู่ที่ประเทศออสเตรเลีย เพราะสังคมในปัจจุบันที่อังกฤษแย่ลงกว่าเดิมมากๆเเล้วครับ ชาวต่างชาติมาอยู่เยอะเกินไป ประชากรพลเมืองขยาย แต่เนื้อที่ของประเทศที่เป็นเกาะไม่เพิ่มขึ้น เกิดปัญหาต่างๆขึ้นมา ยากแก่การควบคุม เช่น ปัญหาอาชญากรรม ปัญหาการว่างงาน สวัสดิการของรัฐที่ลดคุณภาพลง...ฯลฯ ก็เพราะมาจากการที่ประเทศนี้รับชาวต่างชาติเข้ามามาก โดยไม่ได้แสกนคนเข้าประเทศมากเท่าออสเตรเลียไงครับ จากคุณ : ตุ้ย เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 52 18:15:33 A:90.192.3.149 X: TicketID:231663

ความคิดเห็นที่ 48 เราว่าเหตุผลที่คนยุโรปมักจะอพยพไปออสเตรเลีย หลักๆคือเพราะออสเตรเลียอากาศดีกว่า มีทะเล เเละความคิดความอ่าน วัฒนธรรม อาหารการกินไม่ต่างกันมาก ไม่ต้องปรับตัวเยอะ เเต่หลายคนก็ลืมคิดไปว่า อะไรๆมันไม่ง่ายกว่าที่คิด เพราะออสเตรเลียมีระบบเก็บคะเเนนกว่าจะได้กรีนการ์ด ได้อยู่ถาวร เเม้เเต่คนเยอรมันเองก็ยังลำบาก เพราะถ้าเรียนจบสาขาวิชาธรรมดาๆ อย่างบริหารธุรกิจเนี่ย ลืมไปได้เลยว่าจะหางานที่นั่นได้ ส่วนปัญหาต่างชาติในกลุ่มอียู มันก็ปัญหาโลกเเตก เคยพยายามถกกับเพื่อนว่า ถ้าวันนึงตุรกีเข้ามาครองประเทศจะทำไงเนี่ย เพราะที่เยอรมันคนตุรกีเยอะมาก พอมาเเล้วก็พยายามดึงคนตุรกีเข้ามาอีก เเถมมาออกลูกออกหลานที่นี่เยอะเเยะ ในขณะที่อัตราการเกิดของคนเยอรมันน้อยลงเรื่อยๆ เเต่อัตราการเกิดของตุรกีในเยอรมันกลับเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนบางทีเเอบคิด พวกชนชาตินี้มาทำไรกันเนี่ย งานการก็ไม่ค่อยทำ สงสัยจะกินเงินสวัสดิการสังคมอย่างเดียว (คุณตุรกีดีๆก็มีอ่ะนะ เพื่อนเราเป็นหมอ น้องชายมันเป็นทนายความ เเต่ส่วนใหญ่มักจะตกงาน เป็นปัญหาสังคม)   ก็เลยถามเพื่อนว่าต่อไปจะเป็นไง ถ้าเจเนอเรชั่นที่ออกมาใหม่ๆ กลายเป็นคนตุรกีกันไปหมด เเถมเป็นพวกตุรกีชาตินิยม ไม่ integrate เข้ากับสังคมเยอรมัน คนเยอรมันจะทำไง เพื่อนมันก็หัวเราะเเหะๆ ว่าก็รับกรรมไป เพราะคงไม่สามารถขจัดชนชาตินี้ออกไปได้ เพราะเดี๋ยวจะกลายเป็นประวัติศาสตร์ซ้ำรอยไป ตอนนี้รัฐบาลก็ได้เเต่รณรงค์ จัดโปรเเกรม ส่งเสริมการ intregation ระหว่างเยอรมันกับต่างชาติไป ในเมื่อมันเเก้ปัญหาที่ต้นเหตุไม่ได้ ก็คงต้องประคับประคองให้ปัญหาปลายเหตุมันน้อยที่สุด จากคุณ : gEiL giRL เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 52 18:31:14

ความคิดเห็นที่ 49 กระทู้ดีมีความรู้  แต่อ่านมากแล้วเครียด ขออ่านผ่านๆแล้วกัน อยากให้กิ๊ฟคุณกมล คิดได้ไง M&S มาร์ค แอนด์ สุเทพ  ถูกใจจัง จากคุณ : FinchS เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 52 19:38:02

ความคิดเห็นที่ 50 ได้ความรู้ดีมากค่ะ ในฐานะคนจากฝั่ง EU/EEA เราว่า UK ก็ไม่ได้ต่างไปจากฝั่ง Continental นะคะ นโยบายหลายๆด้านของรัฐบาล เราชอบมากกว่าฝั่งโน้นอีก เช่นการรณรงค์ให้เลิกบุหรี่โดยมีการช่วยเหลือจากหลายๆด้าน การณรงค์ให้พ่อแม่ให้เวลากับลูก และอีกหลายๆอย่างที่เห็นในทีวีบ่อยกว่าทางยุโรปคอนติเนนท์ ตอนนี้เงินปอนด์ก็ลงมาใกล้กับยูโรแล้วคะ แม้ว่าอังกฤษจะยังไม่ใช้ยูโร เช่นเดียวกับสวิสที่ยังดำรงเงินฟรังค์ของตัวเอง ตอนนี้ค่าครองชีพก็ไม่ได้ต่างกันมาก อาจจะยิ่งเป็นเหตุให้มีการไหลของแรงงาน จากทั้งสองฟากเข้าหากัน แต่เพราะ UK รวมกันยังไงก็เล็กกว่าฝั่งกระโน้นเลยดูเหมือนว่าแรงงานไหลเข้ามามากกว่า จริงๆแล้วถ้าไม่มีส่วน demand ตัว supply ที่จะเข้ามาหางาน คงจะลดลงไปเอง แต่นี่เป็นเพราะมีตำแหน่งงานว่างหลายๆงานที่คนอังกฤษ ทำไมได้ หรือไม่อยากทำอ่ะคะ อย่าว่าแต่คนโปแลนด์เลย คนไทยก็เข้ามาได้ทำงานในอังกฤษเยอะนะคะ เพราะใช้ภาษาอังกฤษ แต่ขณะเดียวกัน ถ้าไปหางานในคอนติเนนท์ มันจะยากกว่านิด เพราะทุกประเทศต่างมีภาษาของตัวเอง และหลายสายงาน จำเป็นต้องติดต่อกับลูกค้าท้องถิ่นด้วย ส่วนตัวเราตามกระแสแค่บางอย่างของอียู ก็ช่วยได้โดยการเลือกตั้งสมาชิกสภา(ของแต่ละประเทศเอง) ก็ดูจากนโยบายพรรคเช่นกันคะ รู้สึกเหมือนเป็นสหรัฐอเมริกาอย่างกลายๆ ที่มี federal government คุมแต่ละประเทศอีกที ส่วนของการหลั่งไหลของประชากร ถ่ายโอนจากประเทศโน้นไปประเทศนี้ เราไม่คิดมากนะคะ เราถือว่าคนทุกคนเป็น World citizen มีสิทธิในการเข้าไปตั้งถิ่นฐาน หรือทำงานในที่ที่ตัวเองเข้าไปได้อย่างถูกต้อง การที่มีชนเชื้อชาติใดๆ เข้าไปอยู่ในประเทศอื่นใดมากเป็นพิเศษ อาจเป็นรูปแบบหนึ่งของ Modern colonisation ก็ได้ค่ะ อย่างในประเทศไทยเอง ไม่ใชว่ามีคนเกาหลีเข้ามาอยู่มากแต่อย่างใด แต่กระแสอิทธิพลทางด้านสิ่งบันเทิง แฟชั่นก็ได้รับอิทธิพลมาเยอะ และแม้ว่าตุรกีจะเข้าไปอยู่ในประเทศใดประเทศหนึ่ง ไม่ได้แปลว่าคนท้องถิ่นของประเทศนั้น จะต้องทิ้งวัฒนธรรมประจำชาติไป อย่างคคห ข้างบนบอกเลยคะ หลายๆประเทศพบกับปัญหานี้ แก้ไม่ได้แล้ว ต้องแก้ที่ปลายด้วยการพยายามปรับระดับทุกด้านให้ลงมาเสมอกัน มันก็ยังคงเป็นเรื่องของผู้เสียผลประโยชน์ และอีกกลุ่มคือผู้ได้ประโยชน์คะ อยากรอดูไปเรื่อยๆ เหมือนกัน   แต่ที่แน่ๆ อยากให้ทางฝั่งเอเชียทำให้ได้อย่างนี้บ้าง เพราะการร่วมกลุ่มมันต้องมีการ integrate  และหากประเทศไทยยกระดับการพัฒนาในบางด้านไปได้มากกว่านี้ ก็จะเป็นผลดีกับพวกเราเองน้อ ความเห็นของคนไม่ได้จบโท หรือเรียนด็อกเตอร์นะคะ แค่เป็นคนอียูคนนึงทำงานหาเช้ากินค่ำไปวันๆ ไม่ได้มีความรู้มากมายเรื่องการเมือง หรือเศรษฐกิจ แค่รู้สึกได้ถึงสิ่งที่เปลี่ยนแปลงในชีวิตประจำวัน ป.ล. ขอโทษที่ใช้คำไม่สุภาพนะคะ คุณหญิงป้า อิอิ จากคุณ : เที่ยวไปสองไพเบี้ย เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 52 20:11:16

ความคิดเห็นที่ 51 เรื่องการรวมกลุ่มแบบอียูของประเทศแถบเอเชีย หรือการทำให้อาเซียนมีการ integrate ได้เหมือน อียู ดิฉันก็อยากเห็นเหมือนกันค่ะ แต่คาดว่าคงจะยังอีกไกลนอกจากความแตกต่างทางเศรษฐกิจ สังคม และการเมืองของแต่ละประเทศในภูมิภาคนี้แล้ว ดิฉันมองว่าสาเหตุน่าจะมาจาก ๑ ดิฉันว่าอาเซียนเรามันใหญ่เกินไปในการที่จะเริ่มรวมตัวกันแบบนั้น มีตั้งสิบกว่าประเทศเข้าไปนู่นแล้วย่อมทำให้มีจุดที่จะไม่ลงรอยและตกลงกันไม่ได้เยอะมากๆ คนเยอะก็เรื่องแยะน่ะค่ะ เพราะถ้ามองอียูเป็นต้นแบบของเค้าเริ่มตอนแรกเมื่อ 50 กว่าปีก่อน กันแค่ 5 ประเทศ ฝรั่งเศส เบลเยี่ยม เนเธอแลนด์ ลักเซมเบอร์ก เยอรมัน ตอนนั้นก็ยังจับมือกันแบบหลวมๆ ไม่แน่นเหมือนตอนนี้ (เพราะแรกเริ่มเดินทีนั้นเป็นเพียงแผนการของฝรั่งเศสที่อยากจะหาวิธีควบคุมการผลิตอาวุธของเยอรมัน หลังจากสงครามโลกครั้งที่สอง เลยพยายามโน้มน้าวเยอรมันกันว่าให้เอา เหล็ก และ ถ่านหิน มาจัดการร่วมกัน) พอทำท่าว่าไปได้ดี ก็ค่อยๆมีประเทศอื่นมาขอแจมด้วย ทีละสามทีละสี่ พวกมาทีหลังก็ไม่มีปากมีเสียงเท่าไหร่ (ในตอนแรก) รุ่นพี่กำหนดกฏเกณอะไรไว้ก็ต้องทำตาม เพราะมาง้อเค้านี่คะ เพราะฉะนั้นถ้ามองในมุมนี้เราจะต้องแยกไอ้กลุ่มนี้ออกมาจากอาเซียน เป็นแนว Fast track ประเทศไหนพร้อมที่จะไปด้วยกันก่อน ก็ไม่ต้องรอคนอื่น  ไว้จับมือกันเข้มแข็งแล้วเมื่อไหร่ค่อยไปช่วงดึงประเทศที่เหลือตามมา ๒ ประเทศแถบบ้านเราไม่ได้มีเหตุการณ์อะไรระหว่างประเทศที่รุนแรงถึงขนาดที่สามารถผลักดันให้คนเห็นความสำคัญว่าจะต้องมาจับมือกันเหนียวแน่นเท่าแถบยุโรปที่ผ่านสงคราม รบราฆ่าฟันกันมา  แล้วก็สำเหนียกว่า ไอ้การ แยกกันอยู่ทำให้ต่างคนต้องต่างรักษาผลประโยชน์ของตัวเองบวกกับชาตินิยมสุดขั้ว มันทำให้สุดท้ายเกิดความเสียหายบอบช้ำกับทุกฝ่ายขนาดไหน ขณะที่การกระทบการทั่งกันในแถบประเทศอาเซียนซึ่งไม่รุนแรงมากจึงยังอยู่ในระดับที่ทำให้เกิดเพียงความจำเป็นของผู้นำประเทศที่จะต้องปลุกกระแสชาตินิยม มองเพื่อนบ้านเป็นภัย ต้องปิดประตูใส่คนอื่น ล้อมรั้วให้รอบ แล้วก็อยู่ของเรา แข่งขันกับเพื่อนบ้านตัวเอง (นั่นหมายถึง เราได้รับผลประโยชน์มากเท่าไหร่ เพื่อนบ้านเราก็เสียผลประโยชน์มากเท่านั้น ในทางกลับกัน เพื่อนบ้านเราดีขึ้นเท่าไหร่ เราก็ลำบากขึ้นเท่านั้น) ตอนนี้ดิฉันหวังเพียงว่า  ประเทศอาเซียนจะจับมือกันเข้มแข็งได้ก่อนประเทศแถบแอฟริกาและอเมริกาใต้ เพราะถ้าเค้าจับมือกันรักษาผลประโยชน์ร่วมกันได้ก่อน ความลำบากจะตกกับแต่ละประเทศอาเซียนที่ไม่มีอำนาจต่อรองระดับภูมิภาค กับประเทศอื่นๆ แก้ไขเมื่อ 04 ก.ย. 52 21:40:34 แก้ไขเมื่อ 04 ก.ย. 52 21:19:33 จากคุณ : KIURIS เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 52 21:09:28

ความคิดเห็นที่ 52 เคยคิดเหมือนกับคุณ KIURIS ว่าทำไมอาเซียนไม่ทำเเบบนั้นบ้าง เเล้วก็เห็นด้วยอย่างยิ่งว่าประเทศกลุ่มอาเซียนไม่ได้ผ่านเหตุการณ์ร้ายๆมาก่อน หรือสงครามไทยพม่าก็ถูกลืมกันไปหมดเเล้ว กลุ่มอาเซียนก็เลยไม่เห็นความจำเป็นว่าจะต้องร่วมมือกันอย่างจริงจัง เเละอีกอย่างปัญหาเศรษฐกิจภายในประเทศก็สำคัญ ในเมื่อเเต่ละประเทศยังปากกัดตีนถีบ ดิ้นรนเพื่อการอยู่รอดของตัวเองอยู่ ก็เลยไม่มีเวลามาคิด หรืออยากจะสละเวลามาทำอะไรให้กับผู้อื่น เพราะฉะนั้น อันดับเเรกคงต้องมาพัฒนาเศรษฐกิจกันก่อน จากคุณ : gEiL giRL เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 52 00:21:00

ความคิดเห็นที่ 53   เรื่องนี้ถือง่าน่าสนใจมากค่ะ จากการสอบถามสามี เรื่องที่ว่า ทำไมนอร์เวย์ไม่เข้าร่วมเป็นสมาชิก EU สามีบอกว่า นอร์เวย์เป็นประเทศที่รวยอยู่แล้วเพราะมีน้ำมัน ถ้านอร์เวย์เข้าเป็นสมาชิก ต้องทำตามกฎของEU และต้องออกเงินเข้าEU หลายล้านโครน ต่อปี และข้าวของต้องซื้อในราคาที่แพงขึ้น เพราะEU เข้ามาควบคุม เสียมากกว่าได้ นอร์เวย์จึงปฏิเสธการเข้าร่วมเป็นสมาชิก (ดิฉันว่าประเทศที่รวยกว่าต้องไม่ชอบเพราะรู้สึกว่าเสียประโยชน์แต่ประเทศที่ด้อยกว่าชอบเพราะได้ประโยชน์) แต่นอร์เวย์เป็นสมาชิก เชงเก้น ไม่รู้ว่าได้มากกว่าเสียหรือเปล่า เพราะคนต่างชาติเข้ามาทำงานเยอะโดยเฉพาะ โปแลนด์ สวีเดน สโลวาเกียฯ เพราะส่วนใหญ่ของ งานใช้แรงงาน รายได้ดีกว่า ประเทศของพวกเขาเยอะมาก จากคุณ : เรไร เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 52 01:29:05 A:80.213.107.149 X: TicketID:224043

ความคิดเห็นที่ 54 ชอบอียูครับ ชอบไอเดียที่ nationality ค่อย ๆถูกสลายไป และทุกคนก็อยู่ร่วมกันได้ โดยไม่แตกต่าง (ไม่แตกต่างไปมากนัก) จากคุณ : คุณชินโซ เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 52 06:06:07

ความคิดเห็นที่ 55 ตอบคุณเรไรนะคะ เหตุผลที่นอร์เวย์ไม่เข้าร่วมกลุ่มอียู ก็เพราะเรื่องเศรษฐกิจที่เหนือกว่าประเทศในอียูมากมาย เนื่องจากนอร์เวย์มีน้ำมันเยอะ ส่วนเรื่องเข้ากลุ่มเชงเก้น เเล้วมีคนงานต่างชาติเข้าไปทำงานมากขึ้น ดิฉันว่านั่นคือประโยชน์ที่นอร์เวย์ได้รับ เนื่องจากนอร์เวย์ ประเทศกว้างใหญ่เเต่ประชากรเเค่สี่ล้านคน เเรงงานค่อนข้างขาดเเคลนโดยเฉพาะงานบริการทั่วไปที่ไม่ค่อยมีคนอยากทำ ส่วนเรื่องราคาสินค้า จริงๆดิฉันคิดว่า ถ้ามีการเปิดตลาดสินค้า สินค้าจากอียูเข้าไปขายในนอร์เวย์ได้มากขึ้น ราคาข้าวของในนอร์เวย์น่าจะถูกลง เพราะการเเข่งขันมากขึ้น ซัพพลายมากขึ้น เเละต้นทุนการเพาะปลูกในต่างประเทศอย่างอิตาลีเเละสเปนน่าจะถูกกว่าที่นอร์เวย์มาก เเต่ปัญหาที่พบบ่อยในนอร์เวย์คือ คนนิยมบริโภคของที่ผลิตในนอร์เวย์ เยอรมันเคยพยายามไปเปิดซุปเปอร์มาร์เกตที่นั่น เเล้วก็ได้เจ๊งกลับมา จากคุณ : gEiL giRL เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 52 17:16:22

ความคิดเห็นที่ 56   เห็นด้วยกับคุณ gEiL giRL ค่ะ เพราะราคาข้าวของที่นอร์เวย์แพงเหลือเกิน เป็นเพราะตลาดมีการแข่งขันต่ำ ไปที่ใหนๆก็มีแต่ห้างฯชื่อเดิมๆ แต่ต่างสาขา จากคุณ : เรไร เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 52 19:40:40 A:80.213.107.149 X: TicketID:224043

ความคิดเห็นที่ 57 ได้ยินว่าถึงประเทศนอร์เวย์ไม่ได้เป็นสมาชิกอียู แต่เขาได้จ่ายเงินช่วยประเทศยากจนและรับคนอพยพเข้ามาได้  ปีหนึ่งก็มากอยู่ เคตยอ่านมาว่า ประเทศนอร์เวย์เคยยื่นขอเป็นสมาชิกอียูทั้งหมด 4 ครั้ง ครั้งแรกและทั้งที่ 2 อดีตประธานาธิบดีของฝรั่งเศสคัดค้าน และอีก2ครั้งหลัง ชาวนอร์เวย์ได้ลงมติไม่ขอเข้าร่วมเป็นสมาชิกอียู ถ้าประเทศนอร์เวย์เข้าร่วมสหประชาชาติ เราคงอดกินผักจากไทย (หรือเปล่า) แต่อยากให้ไทยลาว รวมตัวกันจัง แก้ไขเมื่อ 06 ก.ย. 52 16:36:06 จากคุณ : yenta mi เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 52 15:52:36

ความคิดเห็นที่ 58 สหภาพแหลมทอง....ฟังดูพิลึกแต่เข้าท่าดีนะคะ ^__^ จากคุณ : ^^arpanda^^ เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 52 18:27:40

ความคิดเห็นที่ 59 wow ....great topic kratoo..... .E U .... จากคุณ : kuddle เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 52 03:22:33