 |
ข้อคิดเห็นดีๆก่อนไปอยู่ต่างประเทศ
|
|
จากบทความเรื่อง WAT Work and travel นักท่องเที่ยวกรรมกรที่เสนอให้อ่านกันแล้ว คราวนี้เรื่องของการทำงานในต่างประเทศ ใช่ว่าจะเป็นสวววรค์ที่ทแท้จริง หากกลับคิดดูดีๆ ตำว่า "ไม่มีอะไรดีเท่่ากับบ้านเกิดเมืองนอน" ยังใช้ได้อยู่จริงไปตลอดนิรันดร์ ครับ งันนี้พี่เผือกได้เจอความคิเห็นกรทู้คุณอาคนหนึ่ง ที่เป็นไทยไปทำงานต่างประเทศ ได้เล่าประสบการณ์ในฟังครับ ถือว่ามีความน่าสนใจมาก
อ่านกระทู้แล้วอยากแชร์ประสบการณ์กับชาวไทยที่กำลัง คิดจะมาทำงานที่อเมริกาครับ ตัวผมเองไม่เคยทำงานในร้านอาหารหรือใช้วีซ่าทำงานแบบผิดกฏหมาย เริ่มมาอยู่ที่มิชิแกนตั้งแต่ปี '99 โดยใช้ L1 วีซ่า (ทำงานได้ถูกต้องตามกฏหมาย เป็นการย้ายที่ทำงานมาจากเมืองไทยครับ) รู้จักทั้งน้องๆพี่ๆทำงานร้านอาหารเป็นทั้งนักเรียนและโรบินฮูดหลายท่านครับ อาจจะรู้ไม่ละเอียดแต่ก็พอจะเขียนให้อ่านกันได้บ้าง
จริงๆมาครั้งแรกปี98 อยู่ประมาณสามเดือนใช้วีซ่า B1 เป็นวีซ่าท่องเที่ยวหรือธุรกิจ ขอเล่าให้ฟังนิดนึงนะครับว่าการขอวีซ่าณวันนี้ไม่ง่าย ขณะนี้การขอวีซ่ายากขึ้นครับ โดยต้องยื่นล่วงหน้า หกสัปดาห็ แล้วสัมภาษณ์ทุกกรณีครับ ไม่ว่าขอใหม่หรือต่ออายุ รัฐบาลอเมริกันเข้มงวดขึ้นมากหลังจากทำสงครามกับอิรัก ถ้าหากสามารถขอได้ก็ถือว่าโชคดีมากครับ
เล่าต่อนะครับ การมาครั้งแรกนั้นมา เพื่อช่วยงานการผลิตรถต้นแบบของฟอร์ด ครั้งนั้นรู้เลยครับว่าอเมริกันมองคนผิวเหลืองอย่างไร แปดสิบเปอร์เชนต์ไม่ไว้ใจพวกผิวเหลืองอย่างเราๆหรอกครับ ผมใช้เวลาเกือบปีที่จะทำให้ฝรั่งเชื่อใจให้ทำงาน ปีนึงเต็มๆครับกับการสร้างความคุ้นเคยกับสังคมอเมริกัน(ไม่ใช่เช้ามาเจอ เพื่อนคนไทย ทำงานกับคนไทย กลับบ้านมาก็อยู่กับเพื่อนคนไทยนะครับ)หนึ่งละเราไม่ได้ใช้ภาษาเดียวกับเขา สองคือเทคโนโลยีบ้านเราไม่เหมือนเค้า ยังไม่รวมถึงการใช้ชีวิตด้านอื่นๆนะครับ ยกตัวอย่างแค่เข้าไปสั่งอาหารในภัตตาคารฝรั่งก็สั่งไม่ถูกแล้วครับ เสต็คจานนึงใช้เวลาทำความเข้าใจเกือบห้านาที หลายคนที่เคยอยู่ที่นี่คงเคยรู้สึกนะครับ ความรู้สึกไม่ดีเลยครับ หากใครจะมาไม่ว่าทำงานอะไรต้องยอมรับตรงนี้ให้ได้ ยอมรับกับการเป็นชนผิวเหลืองให้อเมริกันดูถูกในช่วงแรกๆให้ได้ พอกลับมาปี 99 ก็ใช้วีซ่าทำงานถูกต้องครับ บริษัทมีอพาตเมนท์ให้ มีรถให้ขับ มีการ์ดให้เติมน้ำมันขนาดล้างรถยังล้างฟรีนะครับ ดูเหมือนว่าจะสบายนะครับ เอาไว้ผมเล่าต่อแล้วตัดสินใจเอาเองครับ
งานที่ทำตอนนี้เป็นงานที่ทำร่วม กับเจเนอรัลมอเตอร์เป็นวิศวกรรับผิดชอบระบบไฟฟ้าในรถยนต์ ดูแลเรื่องการเปลี่ยนแปลงแบบของระบบไฟฟ้าในรถยนต์ รวมรายรับที่นี่อยู่ได้อย่างสบายๆ แต่รายรับอย่างเดียวไม่ได้หมายความว่าคุ้มค่ากับสิ่งที่ผมจะเล่าให้ฟังต่อไป นะครับ
พูดถึงรายรับ ของคนอเมริกัน ขอเล่าให้ฟังนิดนะครับ ชาวอเมริกันต้องเสียภาษีประมาณ 30% คิดแบบง่ายๆก็คือหักออกเลยครับหนึ่งในสาม ค่าใช้จ่ายทั่วไปจะเล่าให้ฟังคร่าวๆนะครับ สมมุติเอาเงินเดือนวิศวกรจบใหม่ก็แล้วกันนะครับ ที่นี่จะได้ประมาณ 45,000 ถึง 50,000 เหรียญต่อปี หักออก หนึ่งในสามสมมุติว่าเหลือ 32,000 ต่อปี หารเป็นเดือนเหลือ 2,650 ต่อเดือน ค่าใช้จ่ายอันแรกเลยเป็นบ้าน หากราคา สองแสนขึ้นอย่างน้อยต้องมีสองสามหมื่นจ่ายดาวน์ แล้วผ่อนเดือนละประมาณ 600 ถึง 900 เหรียญ 25 ถึง 30 ปี (ยี่สิบห้าถึงสามสิบปี) ถ้าเป็นอพาตเมนท์ก็ 500 ถึง 700 เหรียญสมมุติว่าหักค่าบ้านแล้วเหลือมากสุด 2,000 เหรียญ ต่อไปก็รถ หากเป็นรถใหม่รวมเบ็ดเสร็จหลงจ้งทั้งค่าน้ำมันค่าดูแลรักษา ต้องจ่ายแน่ๆ 300 ถึง 500 เหรียญ ตอนนี้เหลือเงินเท่าไหร่ครับ สมมุติว่าเหลือ 1,500 ถึง 1,700 ต่อไปก็ค่าไฟฟ้า แก้ส โทรศัพท์ สมมุติว่า 150 เหรียญนะครับ จะเหลือเงิน ประมาณ 1,350 ถึง 1,550 ต่อเดือน เอาแบบยังไม่มีครอบครัวหรือมีลูกนะครับ ค่าใช้จ่ายต่อสัปดาห์ เอาแบบทั่วไปไม่ใช่กินแต่ ข้าวไข่เจียว มาม่า เอาข้าวกล่องมากินที่ทำงานทุกวันนะครับ (อย่างนี้อยู่เมืองไทยก็ทำได้ครับ) ผมใช้ประมาณ สัปดาห์ละ 150 ถึง 200 เหรียญ นี่คิดแค่ค่าอาหารนะครับ หากจะใช้จ่ายเพื่อให้รู้ว่าอเมริกาเป็นอย่างไร (ไม่ใช่รู้จักแค่บ้าน ร้านขายอาหารไทย หรือกรอสโซรี่สโตร์ กับที่ทำงานนะครับ) ต้องบวกไปอีกสัปดาห์ละ 100 สำหรับการพักผ่อนกินอาหารดีดี มีประโยชน์ ไปในที่ที่อเมริกันเค้าไปกัน สรุปแล้วช่วยคิดทีซิครับว่าเหลือเงินเท่าไหร่แล้ว เอาเป็นว่าเหลือ เงินเก็บประมาน 350 ถึง 500 เหรียญ ครับ ลองคูณดูนะครับว่าเป็นเงินไทยเท่าไหร่ สมมุติว่าเก็บได้มากสุด 500 ตรงนี้ยังไม่รวม ประกันสุขภาพหรือค่ารักษาพยาบาลนะครับ เพื่อนรุ่นน้องคนนึงมีปัญหาเรื่องทำฟัน ถึงกับยอมกลับไปทำที่เมืองไทยดีกว่าจ่ายอีกไม่เท่าไหร่ก็ได้ค่าตั๋วแถมได้ กลับไปเยี่ยมญาติๆ นี่ยังไม่รวมค่าเสื้อผ้า จิปาถะอื่นๆอีกนะครับ รวมแล้วก็มีเงินพอเก็บนะครับแต่ไม่ได้มากมาย เคยได้ยินนะครับมีลุงคนนึงอยู่อเมริกาแล้วกลับไปเมืองไทยเล่าให้ฟังว่าลูก ชายทำงานเดือนละสองสามแสนบาท แต่ไม่เล่าให้จบว่าต้องเสียภาษีเท่าไหร่ ค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ ทีนี้พอได้ยินก็ปากต่อปากซิครับ บอกกันต่อๆไปว่ารายได้ที่นี่ดีอย่างไร คนไทยหลายๆคนเลยฝันถึงรายได้ ฝันถึงการจะมาขุดทองที่นี่
ผมว่าหายากนะครับคนที่มาอเมริกาแล้วกลับไป เล่าว่ารายรับความเป็นอยู่สู้เพื่อนบ้านที่เมืองไทยไม่ได้ หายากนะครับที่จะมีคนยอมรับความจริงว่าอยู่อเมริกาทุกวันกินข้าวกับอะไร มีประโยชน์กับร่างกายมั้ย เคยไปที่ไหนมาบ้าง รู้จักจริงๆหรือไม่ว่าอเมริกามีอะไรบ้างเคยดูหนังดูละคร ทำกิจกรรมอะไรแบบที่ฝรั่งเค้าทำบ้าง รู้อะไรบ้าง กับความเป็นอยู่ที่อเมริกา ทีนี้มาฟังเรื่องแย่ๆที่ต้องพบกันบ้างนะ ครับ สิ่งแรกก็คือสังคมความเป็นอยู่ การห่างจากครอบครัว ต้องยอมรับสภาพตรงนี้ให้ได้ เรื่องต่อไปก็เป็น สภาพอากาศ ผมอยู่มิชิแกนอากาศค่อนข้างหนาว ร่างกายคนไทยอย่างเราปรับสภาพลำบากครับ หากได้อยู่แถบทางใต้อย่างฟรอลิดา หรือ แถบแคลิฟอเนียถือว่าโชคดีครับ แต่ค่าครองชีพแถบนั้นแพงครับ หากจะมีบ้านสักหลังต้องทำงานให้ธนาคารแบบเบาะๆก็ ยี่สิบปี ยังไม่รวมค่าภาษีอีกปีละหลายพันเหรียญ คนไทยจำนวนไม่น้อยที่ประสพผลสำเร็จในหน้าที่การงานปักหลักอยู่ที่นี่ แต่ผมเชื่อว่าหวกเขาเหล่านั้นต้องอดทนอย่างสูงกับการใช้ชีวิตที่นี่
ที่ เล่ามาผมยังไม่ได้บอกว่าอเมริกาไม่ดีนะครับ สิ่งดีดี สวยงามมีมากคนดีดีก็มีแยะ แต่โครงสร้างทางร่างกาย เชื้อชาติเรา ธรรมชาติสร้างมาให้อยู่ทางเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ หากคิดจะมาเพื่อทำงานมาเรียนเอาประสบการณ์ไปพัฒนาบ้านเราผมเห็นด้วยครับ แต่หากจะคิดมาเป็นชนชาติอเมริกันทางลัดหรือเป็นโรบินฮูดนั้นคิดให้ดีดีครับ ถ้าคิดว่ายอมรับความเจ็บปวด ให้ฝรั่งมองเป็นพลเมืองชั้นสองสาม ยากที่จะยอมรับหรือให้เกียรติเรา ทำงานหนักสองจอบ ตื่นเช้านอนดึก เพื่อให้อยู่รอดได้ เชิญครับถ้ามีโอกาสมาได้ก็ให้มา หากจะมาก็เตรียมตัวให้พร้อม ตรวจร่างกาย เช็คโรคประจำตัว ให้เรียบร้อยก่อนมานะครับ เมื่อมาถึงแล้วก็ควรรายงานตัวกับสถานกงสุลไทยเพื่อลงทะเบียน เผื่อว่าเกิดปัญหาจะได้มีที่พึ่งครับ
ที่เล่ามาทั้งหมดนี้เป็นเพียงส่วน หนึ่งของความคิดส่วนตัวนะครับผมอาจจะไม่รู้ในเรื่องที่หลายๆคนรู้อาจจะเป็น แค่มุมมองเล็กๆเพียงแต่หวังให้เป็นข้อคิดของทุกท่านที่หวังจะมาทำงานที่ อเมริกา ในส่วนตัวผมนั้นเหลืออีกปีนึงเต็มๆที่จะหมดสัญญา อยากกลับเมืองไทยเต็มทีครับเพื่อนๆที่ทำงานรวมถึงเจ้านายที่นี่พร้อมที่จะทำ เรื่องย้ายให้มาอยู่ที่อเมริกาแบบถาวร รู้มั้ยครับว่าผมตอบว่าไง ผมบอกว่าหากคนไทยคิดจะย้ายมาอยู่ที่นี่อย่างที่คุณคิดให้ผมย้ายมาแล้วเมือง ผมจะมีใครเหลือกับไปช่วยพัฒนา หากคนไทยคิดอย่างนี้เมื่อไหร่เมืองผมจะเจริญเหมือนบ้านคุณละ เพื่อนๆ ที่นี่เค้าอาจจะมองว่าผมทิ้งโอกาสแต่ผมไม่คิดอย่างนั้นครับ เมืองไทยของเราสวยงาม เหมาะกับคนไทยอย่างเราๆที่สุดแล้วครับ ไม่ว่าอาหาร อากาศ สังคม วัฒนธรรม ผู้คน หากอยากจะมาจริงอย่าลืมว่าเราเป็นคนไทยนะครับ ผมหมายถึงจริงๆว่าอย่าลืมความเป็นคนไทย พยายามช่วยเหลือคนที่มาอยู่ใหม่ พยายามเรียนรู้ให้มากๆ แล้วเอาความรู้กลับไปบ้านเรา ขอให้โชคดีนะครับทุกๆคน
จากคุณ |
:
อัยยูบ
|
เขียนเมื่อ |
:
28 ก.ย. 52 01:03:14
|
|
|
|  |