 |
ความคิดเห็นที่ 46 |
|
ที่อเมริกานี่ ความเท่าเทียมกันมีอยู่ทุกหนทุกแห่งจริงๆค่ะ
เมเนเจอร์ใหญ่นี่ เรียกชื่อเฉยๆเลยค่ะ โจ , เดฟ ไม่ซีเรียส ดีซะอีก แปลว่าเราสนิทสนมกันดี
มีอยู่วันนึง วันนั้นคนเยอะมาก ต่อแถวกันยาวเหยียดเหมือนเคย เมเนเจอร์เดินเข้ามาหาค่ะ คนนี้เป็นเมเนเจอร์รีสอร์ทเลยค่ะ ใหญ่กว่าเมเนเจอร์ประจำแผนกอีก
ตอนนั้นเราก็ยุ่งม๊ากกก มือเป็นระวิงเหมือนเคย ทำคนเดียวเหมือนเดิม เมเนเจอร์ท่านนี้ก็เดินเข้ามาถามว่า มีไรให้เขาช่วยมั้ย
คือเรา แบบว่า เกิดมาไม่เคยให้หัวหน้า หรือไรทำนองนี้อะนะคะ จะให้บอกกะเมเนเจอร์ว่า ไปตักไอติมให้ชั้นหน่อยสิ ก็แบบว่า แปลกๆปะคะ
เราก็ได้แต่ยิ้มๆ บอกไปว่าไม่เป็นไร เดี๋ยวไอทำเอง ไม่รู้จะให้ยูทำอะไร
เจ๊แกก็บอกว่า เนี้ย รู้มั้ยมีแขกหลายคนถามว่า ผู้หญิงที่ทำอยู่ที่ร้านไอติมเนี้ย เป็นใคร มาจากที่ไหน ทำไมชีทำงานหนักขนาดนั้น อัธยาศัยก็ดี ( แก้วอะค่ะ เหนื่อยก็ยิ้ม บ้าป่าวไม่รุ้ ) เจ๊แกเลยต้องเดินมาดู ว่าเราเป็นใครและสามารถช่วยอะไรเราได้บ้าง
โห แบบนี้จะมีที่เมืองไทยมั้ยเนี้ย แกก็อยู่ช่วยจนเก็บร้านเลยค่ะ กวาดถูให้ แบบไม่ถือเนื้อถือตัวเลย
คือฝรั่งอาจจะธรรมดาอะค่ะ แต่เราคนละวัฒนธรรม มันเลยดูแปลกๆ
แล้วก็เออ รู้สึกดีอะค่ะ ที่เขาเอาใจใส่ แบบว่า พนักงานจะระดับไหน ก็คือ คนอะค่ะ เหนื่อยได้ ผิดได้
สำหรับที่นี่ หมายถึง wilderness นะคะ แก้วว่าเขาให้ความสำคัญตรงนี้มากเลย คือถ้าเราทำไรผิด ก็จะแค่ตัดเตือนอะค่ะ หรือถ้าคิดเงินผิด เงินหายไม่เกิน 5$ ก็ไม่เป็นไร ถ้าเกินก็ให้เซ็นชื่อรับทราบไว้ เกินสามครั้ง ปรับเป็นเงินเท่าที่หายไป
คือ เออ มันแฟร์ๆดีอะค่ะ คนเรามันก็ต้องผิดพลาดกันมั่งอะไรมั่ง
ชอบมากเลยค่ะ สำหรับแก้วนะ
แก้ไขเมื่อ 06 พ.ย. 52 19:02:28
จากคุณ |
:
แก้วนพรัตน์
|
เขียนเมื่อ |
:
6 พ.ย. 52 19:00:44
|
|
|
|
 |