PANTIP.COM : H8456075 นักการทูต จำเป็นต้องมีเส้น จริงหรือไม่? [ชีวิตในต่างแดน]

ความคิดเห็นที่ 13

ขออนุญาตเข้ามาตอบกระทู้นี้ด้วยคนหนึ่ง นะ

ขอตอบกระทู้ถามที่ว่า " นักการทูตจำเป็นต้องมีเส้น จริงหรือไม่??? "

คำตอบนี้จะตรงประเด็นที่ถามมากที่สุด คือตอบว่า

" นักการทูต ไม่จำเป็นต้องมีเส้น " เอ้า จะย้ำให้ชัดเจนอีกทีหนึ่งก็ได้

" นักการทูต ไม่จำเป็นต้องมีเส้น "

แล้ว ณ ที่นี้ขอถามกลับว่า

" เมื่อให้คำตอบอย่างนี้แล้ว ท่านสบายใจขึ้นหรือยัง และท่านจะเชื่อไหม "

แต่หากท่านไม่เชื่อ ก็ไม่เป็นไร เพราะว่าท่านเป็น " คนนอก" ดังนั้น ท่านจะไปรู้เรื่องข้างในเขาดีได้อย่างไร ??? นอกจากท่านจะคิดเอาเอง หรือเดาเอาเอง จากข้อมูลทั้งดิบ และสุก นานาชนิดทั้งผิดและถูก ที่ท่านได้เสพเข้ามา

ท่านไม่คิดบ้างหรือว่า ความคิดผิด ๆ ที่ว่า "นักการทูต ต้องมีเส้น " นั้น เป็นการดูถูกนักการทูตไทยมากหลายที่เขาต่างขยันร่ำเรียนมามากมาย ต่างมีความรู้เข้ามาทำงานด้วยความสามารถของตัวเขาเอง !!!!!!!

เรื่องนี้ ขอเรียนอธิบายดังนี้

1. เริ่มต้นตั้งแต่การสอบแข่งขันเพื่อเข้ารับราชการในกระทรวงการต่างประเทศ ในตำแหน่ง " เจ้าหน้าที่การทูต " นั้น

ตรงนี้ ข้าพเจ้าขอยืนยันได้เลยว่า การสอบข้อเขียน นั้น ไม่มีการใช้เส้นสาย เพราะกระทรวงการต่างประเทศต้องการคนเก่งจริงๆ เก่งทั้งความรู้รอบตัว เก่งทั้งวิชาเฉพาะ และเก่งทั้งภาษาต่างประเทศ โดยต้องเก่งให้เหนือกว่าคนอื่นๆ อีกหลายคน รับรองว่าคุณต้องสอบเข้าได้แน่นอน

ส่วนเรื่องการสอบสัมภาษณ์นั้น มีบางราย บางคน ที่ " ผู้ใหญ่" อาจขอคะแนนพิเศษเพิ่มให้ (ขอเน้นว่า บางราย บางกรณีเท่านั้น) แต่ทั้งนี้ ก็ต้องดูคะแนนข้อเขียนของเขาด้วยว่า ดีพอหรือไม่ และที่สำคัญก็ต้องไม่น่าเกลียดจนเกินไป เช่น ขอคะแนนเพิ่มพิเศษให้แก่บุคคลที่บุคคลิกเน่า ๆ เข้ามาเป็นนักการทูต

การที่กระทรวงการต่างประเทศจำเป็นต้องเน้นถึงความรู้ ความสามารถแท้จริงของผู้เข้าสอบ โดยไม่ดูเรื่องเส้น ก็เพราะว่า

เพราะว่า หากคุณมีเส้นดี แต่คุณมีสติปัญญาต่ำกว่ามาตรฐานนักการทูต ประเภท .........ถามเรื่องอะไร ๆ ก็ไม่รู้สักเรื่อง - การเมืองระหว่างประเทศ ก็ไม่เก่ง - กฎหมายระหว่างประเทศก็ไม่ทราบ - เศรษฐศาสตร์ระหว่างประเทศก็ไม่มีภูมิ - เรื่ององค์การระหว่างประเทศก็ไร้ปัญญา - ให้ร่างหนังสือภาษาอังกฤษก็ไม่เป็นสับปะรดสุนัขรับประทาน - ให้ค้นหาข้อมูลใดๆ ก็ทำไม่เป็น

แล้วอย่างนี้ หากส่งไปทำงานที่กรมไหนๆ หรือที่สถานทูตไหนๆ จะอายเขาไหมเนี่ยะ ด่านแรกเลยเพื่อนร่วมงานที่ทรงความรู้ ผู้ผ่านการสอบมาด้วยตัวเองทั้งหลายพอเขาเห็นอาการ เห็นภูมิเข้า เขาจะต้องดูหมิ่น ดูแคลนบุคคลผู้นี้แน่ ๆ และเมื่อเด็กเส้นคนนี้เข้าไปทำงานร่วมกับคนเก่งๆ ทั้งนั้น แต่เขาไม่เก่ง ( ออกโง่ แต่เส้นดี ) ลองทายว่าเขาจะเจอกับอะไรอีก ????

เจอหนัก ๆ เข้า ถึงกับลาออกเลยก็มีมาแล้ว

นี่ยังไม่ได้พูดถึง คนโง่ แต่มีเส้นเหล่านี้ หากได้รับมอบหมายให้ไปประชุมร่วมกับหน่วยราชการอื่นๆ นะ จะทำให้ข้าราชการหน่วยอื่นๆ เขามองกระทรวงการต่างประเทศเป็นอย่างไร ยิ่งหากปล่อยให้ไปประจำการที่สถานทูตไทยในต่างประเทศ ยิ่งไปกันใหญ่ go so big เลยไหมล่ะ

2. การเป็นลูก - หลานนักการทูต ติดตามบิดา - มารดาไปต่างประเทศและได้เรียนหนังสือในต่างประเทศจนจบขั้นสูง จึงเก่งภาษาต่างประเทศจนสอบแข่งขันชนะผู้อื่นเข้ามารับราชการเป็นนักการทูตได้ นี่มิใช่การมีเส้นสาย หรือการมีบุคลิกดี มีปฎิภาณดี เป็นที่ถูกใจกรรมการสอบสัมภาษณ์ นี่ก็ไม่ใช่เส้นสายนะ แต่ต้องยอมรับว่านี่คือความสามารถสูง หรือมีภูมิหลังจากครอบครัวดี ตระกูลดี อบรมมาดีต่างหาก

3. หากจะดูนามสกุลของนักการทูตในปัจจุบัน หรือดูหน้าตา ก็จะรู้ว่าเป็นนักการทูต " ตี๋ " หรือนักการทูต " หมวย " มากมาย เขาเหล่านี้หลายรายเติบโตมาจาก " ห้องแถว " บิดา - มารดา หรือเตี่ย - ม้า ขายของในตลาดต่างๆ ทั้งในกทม. และต่างจังหวัด ก็มีเป็นจำนวนไม่น้อย ( เดี๋ยวจะระบุชื่อจริง และตำแหน่งในกระทรวงการต่างประเทศของบุคคลเหล่านี้ให้ดูในข้อต่อไป ) เช่นเดียวกับบรรดา " นายแพทย์ " หรือ คุณหมอทั้งหลายในประเทศไทย ที่ส่วนใหญ่ เป็น ตี๋ หรือหมวย มากกว่า 70 %

ถามว่าพวกนี้จะเอา " เส้นสาย " ที่ไหนมาช่วย นอกจาก " ความรู้ " อันเกิดจากการมี " หัวดี " และการขยันหมั่นเพียรของตัวเอง เท่านั้น

4. การที่มีบางท่านมองว่า นักการทูตในกระทรวงการต่างประเทศ มีแต่ผู้มีนามสกุลดีๆ หรือมีนามสกุลใหญ่โต แล้วพากันสรุปเอาว่า กระทรวงฯ นี้มีแต่พวก " เส้นสาย " ทั้งนั้น

ขอเรียนว่า นี่เป็นความเข้าใจของบุคคลประเภทที่ " เข้าใจเอาเอง " หรือ " คิดเอาเอง สรุปเอาเอง " ทั้งนี้โดยมิได้มีการฝึกหัดหาเหตุผลที่สมบูรณ์ หรือหาข้อมูลที่ถูกต้องมาประกอบก่อนคิดหรือพูด ซึ่งเป็นความเข้าใจผิดอย่างใหญ่หลวงทีเดียว

ก็ทำไมท่านเหล่านี้ไม่ใช้สมองอีกซีกที่ฉลาดกว่าคิดบ้าง ว่า นักการทูตที่นามสกุลดีๆ หรือจากตระกูลดังๆ เหล่านั้น เป็นเพราะพ่อ-แม่เขาให้การอบรมเลียงดูที่ดีแก่ลูกๆ มาตั้งแต่ยังเด็ก ๆ สอนให้เด็กรักเรียน ขยันเรียน ประกอบกับพวกเขาเป็นครอบครัวที่มีฐานะดีด้วย จึงมีโอกาสให้เด็กๆ ของเขาได้เรียนสูงๆ

ก็ทำไมนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยจำนวนไม่น้อย ที่มาจากตระกูลดีๆ ดังๆ มีฐานะดีๆ พวกนี้ใช้เส้นสายเข้าจุฬา ฯ ทั้งนั้นหรือ ?????????????? ( ขออนุญาตอ้างจุฬา ฯ ทั้งๆที่ข้าพเจ้ามิได้จบจากจุฬา ฯ )

และท่านทราบหรือไม่ว่า มีคนจากตระกูลดีๆ นามสกุลดังๆ อีกมากมายที่สอบเข้ากระทรวงการต่างประเทศไม่ได้ แต่เรื่องนี้ไม่มีใครเขามาเปิดเผยกัน ( ทราบเรื่องนี้ได้จากดูรายนามผู้สมัครสอบทั้งหมด ในแต่ละปี และเมื่อผลการสอบประกาศออกมา จึงเห็นว่ามีตระกูลดังๆ หลายๆท่าน สอบไม่ติด เรื่องอย่างนี้ท่านเคยทราบ เคยเห็น และเคยนึกมาก่อนบ้างไหม ?? )

ลองคิดดูในแง่มุมนี้ดูบ้าง จะสร้างสรรไม่น้อย

5. ขออนุญาตระบุชื่อแท้จริง ตัวจริงๆ ตัวเป็นๆ ของข้าราชการตำแหน่งนักการทูต ของกระทรวงการต่างประเทศ บางท่าน ท่านเหล่านี้มาจากนามสกุลที่ผู้คนชอบพูดกันว่า ตระกูลสูง นามสกุลใหญ่ ๆ

1. เอกอัครราชทูต ณ กรุงจาการ์ตา อินโดนีเซีย ร.ท.อัครสิทธิ อมาตยกุล(ตระกูลขุนนางเก่าแก่ตระกูลหนึ่งของไทย)
2. เอกอัครราชทูต ณ กรุงเบอร์ลิน เยอรมันนี ท่านจริยวัฒน์ สันตะบุตร ( มารดาเป็นท่านผู้หญิง ฯ )
3. เอกอัครราชทูต ณ กรุงนิวเดลี อินเดีย ท่านกฤต ไกรจิตติ ( บุตรชายนายสรรเสริญ ไกรจิตติ อดีตประธานศาลฏีกา)
4. เอกอัคราชทูต ณ กรุงมานิลา ฟิลิปปินส์ ท่านกุลกุมุท สิงหรา ณ อยุธยา (สืบตระกูลจากรัชกาลที่ 1 )
5. เอกอัครราชทูต ณ กรุงโรม อิตาลี ท่านประดาป พิบูลสงคราม ( หลานชายท่านจอมพล ป. พิบูลสงคราม )
ฯลฯ

นี่คือตัวอย่างของเอกอัครราชทูตไทยในประเทศต่างๆ ที่มาจากตระกูลดังๆ ซึ่งแต่ละท่านจบการศึกษาอย่างน้อยปริญญาโทจากต่างประเทศ และผ่านการสอบเข้าในตำแหน่ง " เจ้าหน้าที่การทูต " มาก่อนทุกท่าน ที่เคยเห็นมา ท่านทูตเหล่านี้แต่ละคน " ไต่เต้า " มาจากนักการทูตตำแหน่งเล็ก ๆ ทำงานหนัก เป็นเจ้าหน้าที่โต๊ะ รับใช้ผู้ใหญ่มาก่อน ไต่ระดับเรื่อยมาจนถึง " เอกอัครราชทูต " ในที่สุด ทุกคน

ส่วนนักการทูตตระกูลใหญ่ ปัจจุบันเป็นข้าราชการระดับกลางๆ ก็มีมาก เช่น

1. ร.ท.พรหมเมศ พหลพลพยุหเสนา ( หลานท่านพระยาพหล ฯ อดีต นรม.ไทย) ปัจจุบันดำรงตำแหน่งเลขานุการเอก กรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศ
2. ม.ร.ว.อดิศรเดช สุขสวัสดิ์ ( เหลนกรมหลวงอดิศรอุดมเดชในรัชกาลที่ 4 ก็ค่ายทหารม้า " ค่ายอดิศรฯ " ที่จังหวัดสระบุรี ก็ได้ชื่อจากพระนามของท่าน) ปัจจุบันเป็นผู้อำนวยการกองรับรอง กรมพิธีการทูต
5. นายพิณเทพ เทวกุล ณ อยุธยา ( โหลนของสมเด็จกรมพระยาเทววงศ์วโรปการ เสนาบดีพระองค์แรกของกระทรวงการต่างประเทศ ) ปัจจุบันตำแหน่ง ที่ปรึกษา สถานทูต ณ กรุงเบอร์ลิน เยอรมันนี
ฯลฯ

ตัวอย่างเล็กน้อยเหล่านี้ ต่างก็มาจากตระกูลดี และจบปริญญาโทจากมหาวิทยาลัยดีๆ ในอเมริกา หรืออังกฤษมาก่อนสอบเข้ากระทรวงการต่างประเทศทั้งนั้น ทุกท่าน

6. ต่อไปนี้ ขออนุญาตระบุชื่อจริง ตำแหน่งจริง ของนักการทูตที่มาจาก " ตระกูลจีน" ในเมืองไทย " บางท่าน

1. นายวีระศักดิ์ ฟูตระกูล ( มาจาก แซ่ฟู ) อดีตเอกอัครราชทูต ณ กรุงออตตาวา แคนาดา ปัจจุบันตำแหน่งปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ก็คือหัวหน้าใหญ่ของท่านเอกอัครราชทูตไทย ทั่วโลกนั่นแหละ
2. น.ส.วิภาวรรณ นิพัทธกุศล เอกอัครราชทูต ณ กรุงซานติเอโก ประเทศชิลี ( บิดาท่านคือคนจีน เจ้าของร้านขาย Antique แถวบางรัก)
3. นายพรชัย ด่านวิวัฒน์ รองอธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย เห็นนามสกุลท่านแล้ว บอกรู้เลยใช่ไหม ว่าคนจีนแน่นอน ก็ไหหลำ แซ่ด่าน ไงล่ะท่าน
4. นายอรุณ จิวาศักดิ์อภิมาศ ( เตี่ยของท่าน แซ่จิว) ปัจจุบันตำแหน่งอัครราชทูตที่ปรึกษา ณ กรุงเบอร์ลิน เยอรมันนี
5. น.ส.ศศิสิทธิ์ ตันกุลรัตน์ ( แน่นอน เดิม " แซ่ตัน " ) ปัจจุบันตำแหน่งที่ปรึกษา สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงนิวเดลี อินเดีย

7. กระทรวงการต่างประเทศไม่ต้องการ " เด็กเส้น " เข้ามาในตอนสอบแข่งขันตำแหน่งเจ้าหน้าที่การทูต นั้น เพราะกระทรวงฯ ต้องการแต่คนที่มีความสามารถไปทำงานได้จริง แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อรับราชการต่อไปนานๆ บางท่านก็จะหาเส้นสายมาเพื่อหาโอกาสเดินบนเส้นทาง fast track ก็มีอยู่บ้างเหมือนกันตามวิถีทางและวัฒนธรรมของไทย

8. หากท่านเจ้าของกระทู้หรือท่านใดสนใจในเรื่องการสอบเป็นนักการทูต มีกระทู้หนึ่งเร็วๆ นี้ เก็บไว้ในคลังกระทู้เก่า " ใครสมัครหรือเคยสอบนักการทูตของ ก. ต่างประเทศบ้าง " โปรดเข้าไปดูได้ที่นี่

http://topicstock.pantip.com/klaibann/topicstock/2009/09/H8334722/H8334722.html

สุดท้าย ก่อนจากกัน หวังว่าทุกท่านที่สนใจเรื่องนี้ และเข้ามาอ่านความเห็นนี้ จะได้รับประโยชน์และความกระจ่างไปไม่มากก็น้อย ขอให้โชคดีทุกท่าน
แก้ไขเมื่อ 22 ต.ค. 52 01:40:16
แก้ไขเมื่อ 21 ต.ค. 52 22:31:43
แก้ไขเมื่อ 21 ต.ค. 52 22:14:08

จากคุณ : นักการทูตฝึกหัดปี 1 (Detente)

เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 52 21:43:20