Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
ขอความช่วยเหลือคุณยายวัย82ปีกลับเมืองไทยหน่อยค่ะ  

ขอท้าวความอาจจะยาวหน่อยนะคะ

คุณยายวัย82ปี แต่งงานกับทหารอเมริกันแล้วมาอยู่เมกาสมัยสงครามเวียดนาม ปีนี้ก็เข้า36ปีแล้ว อาศัยอยู่ตอนบนของรัฐหลุยส์เซียน่า

....เมื่อ4ปีที่แล้วเีรารู้จักคุณยายผ่านเพื่อนคนไทยสมมุติพี่ย.  พี่ย.กับลูกชายขับรถพาคุณยายมาบ้านเราเกือบ60ไมล์ เพื่อขอให้ช่วยเหลือเพราะพี่ย.ไม่มีเวลา
เรื่องมีอยู่ว่าทางHotspice อธิบายให้คุณยายฟังว่าสามีแกอาจจะอยู่ได้ไม่นาน เพราะโรคอัลไซเมอร์และโรคอื่น ๆ อีก ทีนี้หมอก็กลัวคุณยายไม่เข้าใจเลยสืบเสาะหาคนไทยเพื่อจะอธิบายให้แกฟัง เลยรู้ว่ามีคนไทย(พี่ย.)ทำงานที่เจซีเพนนีห่างจากบ้านแกประมาณ30ไมล์ หมอก็อธิบายให้พี่ย.ฟังแล้วโทรบอกคุณยายด้วย พี่ย.ก็โทรบอกอธิบายเรียบร้อย แล้วต่อมาคุณยายก็อยากเจอพี่ย.เลยให้คนที่โบสถ์พาไปเจอที่เจซีเพนนี พี่ย.เห็นแล้วก็สงสารเผื่อต้องการความช่วยเหลือเรื่องอื่น ๆ อีก ก็เลยพามาที่บ้านเรา...

...สามีเราก็ตรวจพบเอกสารต่าง ๆ (ทางทหาร)ไม่เคยอัพเดทกว่าสิบปีแล้ว ก็อาสาช่วยพาไปค่ายทหารที่อยู่ห่างจากบ้านแก5ชั่วโมง และพาแกไปพบเจ้าหน้าที่ที่ดูแลผลประโยชน์ เงินสะสมที่สามีแกทำไว้ให้ ถ้าหากสามีเป็นอะไรไปให้ติดต่อคน ๆ นี้ คุณยายก็เป็นคนดีคนหนึ่งพยายามยัดเยียดค่าน้ำมันรถและค่าอาหารให้เรา เราก็ไม่รับไม่ต้องกังวลหรอกเรื่องแค่นี้เอง

....จากนั้นกว่า3ปีต่อมา เราก็ได้รับโทรศัพท์จากแก ขอให้ช่วยเรื่องติดต่อกับVA สำนักงานทหาร เพราะสามีแกเสียชีวิตแล้ว(เมื่อต้นปีนี้เอง) เรื่องพวกนี้สามีเราก็จัดการติดต่อให้หมด จนถึงพิธีฝังศพก็มีรถมารับคุณยายไป และทางทหารเขาก็จัดให้สมเกียรติ แกก็ปลื้มปิติที่สามีแกมีคนให้เกียรติขนาดนี้ แต่ขอบอกก่อนว่าไม่เกี่ยวกับครอบครัวของสามีแก เพราะไม่ถูกกันเลย(ไม่ขอเล่า) เราก็ถามย้ำแล้วย้ำอีกว่า”จะกลับไทยหรือไม่เพราะจะได้ช่วยเรื่องต่าง ๆ ต่อเลย” แกก็ย้ำหนักแน่นว่า”จะขออยู่ต่อและขอตายที่นี่เพราะหลุมฝังศพก็ซื้อไว้แล้ว”

หลังงานศพก็ช่วยติดต่อคนที่จะจ่ายเงินให้แก จัดการเรื่องเอกสารต่าง ๆ ที่ต้องกรอกข้อความ แล้วเรากับสามีไปพบแกกับเพื่อนบ้านที่แกไว้ใจ
อธิบายให้ฟังเสร็จสรรพถ้ามีปัญหาอะไรให้ติดต่อเจ้าหน้าที่คนนี้คนเดียว เราก็ย้ำห้ามมาติดต่อที่สามีเราอีก เพราะมันผิดกฎ และเราก็อยากให้แกเข้าใจผิด ๆ เพราะการสื่อสารของแกบอกเลยว่าไม่ค่อยรู้เรื่องทั้งไทยทั้งอังกฤษ แต่แกฟังเข้าใจอ่ะจะเป็นอย่างไรต่อไปก็ระหว่างแกกับเพื่อนบ้านและผู้ดูแลผลประโยชน์เท่านั้น


แล้วแกก็ได้รับเงินจากทางทหารทุก ๆ เดือน และเงินโซเชี่ยลเพิ่มให้อีก เดือนหนึ่งก็ตกประมาณ1700 เหรียญ แต่แก่อยู่บ้านเช่าเดือนละ100 เหรียญ  เกือบ10เดือนที่แกหายไปเราก็นึกว่าแกอยู่ดีมีสุขแล้ว บ้านเช่าแกมีพื้นที่ใหญ่ แกปลูกผักสารพัดขาย ก็ขายดีตลอด เมื่อสามีมีชีวิตแกก็ปลูกผักส่งห้างต่าง ๆ ในเมกา ครั้งสุดท้ายที่คุยกันแกบอกว่าเงินที่ได้ก็จะเก็บไว้อย่างเดียว ส่วนเงินใช้จ่ายก็จะขายผัก เราก็บอกเมื่อทุกอย่างโอเคก็ดีแล้ว ถ้ามีเรื่องอะไรให้ช่วยก็บอกถ้าสามารถทำได้

.......เมื่อคืนโทรศัพท์ดังขึ้น เกือบ9.00น. แกบอกว่าจะกลับเมืองไทยแล้วหละ เพราะทนอยู่คนเดียวไม่ได้เหงามากกลัวนอนตายอยู่คนเดียวไม่มีใครเห็น ลูก ๆ ก็อยากให้กลับจะได้มีคนดูแล และแกอยากรู้เรื่องเงินทางทหารแกจะรับวิธีไหนดีและเงินโซเชี่ยลที่แกได้รับทุก ๆเดือนจะยังได้รับอยู่ไหม อันนี้เราตอบไม่ได้ แล้วจะถามเพื่อนคนไทยในเวปพันทิปให้ และที่พอรู้คือมีสำนักงานทหารจัสแม็กอยู่กรุงเทพ เรื่องเงินพวกนี้คงไม่น่าเป็นปัญหา

เราก็ถามแกว่าแล้วพาสปอร์ตหมดสมัยปีมะโ้ว้แล้ว และเรื่องกรีนการ์ด อัพเดทสถานะภาพต่างๆก็ไม่เคยทำตั้งแต่มาอยู่เมกา เผื่ออยู่เมืองไทยไม่ได้อยากกลับมาอยู่เมกาอีกหละ แกบอกไม่เป็นไรไม่กลับมาอีกแล้ว และแกโทรไปสถานทูตไทยในดีซี.แล้วเขาจะช่วยให้กลับบ้าน แต่ให้ส่งเอกสารมาที่สถานทูต อันนี้คิดว่าแกเข้าใจถูกต้อง

เขียนมาเสียยืดยาว คำถามมีอยู่ว่า

1.เงินทางทหารผู้รักษาผลประโยชน์บอกว่าจะส่งทางMonney Order อันนี้มีบริการที่ไหนในเมืองไทย(พื่อนบ้านแกเป็นคนถามเจ้าหน้าที่ที่รักษาผลประโยชน์)

2.เงินโซเชีียล เดือนละเกือบ700 เหรียญแกจะยังได้รับอยู่หรือเปล่า ถ้าแกกลับเมืองไทยถาวร และมีขั้นตอนการทำอย่างไร เพื่อที่จะได้เงินนั้น

3.ถึงตอนนั้นเมื่อแกอยู่เมืองไทยแล้ว แต่มีรายได้จากทางเมกา(ถ้าจ่าย) แกต้องยื่นIncome Tax หรือเปล่า และถ้า ต้องยื่นที่ไหน มีใครที่เมืองไทยพอจะช่วยแกได้

แกเป็นห่วงเรื่องเงินนี้มาก ถ้าหากไม่ได้เงินก็คงไม่ได้กลับ เพราะแกไม่อยากเป็นภาระให้ลูก ๆ

อยากได้คำตอบจากคนไทยค่ะ เพราะฝรั่งคงไม่รู้เรื่องทั้งหมดภายนอกประเทศสหรัฐ และสามีเราไม่อยากยุ่งแล้ว เพราะทางพี่น้องสามีของคุณยายอยากรู้ว่าใครเป็นคนเจ้าจี้เจ้าการช่วยเหลือ บอกให้คุณยายไม่ต้องเซ็นต์เอกสารต่าง ๆ ที่ทางพี่น้องสามียื่นให้คุณยายเซ็นต์ จะอธิบายก็คงไม่เข้าใจเพราะพี่น้องเหล่านั้นก็ไม่มีฐานะอะไรต่างจากพี่ชายเลย คิดแต่เพียงว่าเมื่อพี่ชายเสียชีวิตลง ผลประโยชน์ทุกอย่างต้องตกเป็นของพี่น้องเท่านั้น เมื่อรู้ว่าพี่ชายเสียชีวิต รีบมาดูสิ่งแรกที่ถามคือ”พินัยกรรมอยู่ไหน” พอดีไม่เคยมีพินัยกรรมเลย

ขอบคุณล่วงหน้าทุกคำแนะนำค่ะ แล้วจะโทรไปบอกแกให้เข้าใจ แต่กว่าจะสื่อสารกันได้ต้องใช้เวลานานมากค่ะ แต่ก็ไม่เป็นไรถ้าเราไม่ช่วยก็ไม่มีใครช่วย ไม่ใช่ว่าแกไม่รู้จักคนไทยที่อยู่ใกล้ ๆ แกนะ แต่ทั้งหมดเขาไม่อยากยุ่งกับแกมากกว่า

แก้ไขเมื่อ 25 ต.ค. 52 00:08:58

จากคุณ : เสียงซึง
เขียนเมื่อ : 24 ต.ค. 52 23:39:52




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com