ความคิดเห็นที่ 1 อย่าหาเหาใส่หัวเลยคะ ถ้าเกิดวันใดวันนึงเค้าไม่จ่ายค่าผ่อนบ้านคุณจะทำยังไง บ้านมันชื่อคุณ คุณต้องเป็น คนรับผิดชอบ จากคุณ : Scooterella เขียนเมื่อ : 28 ต.ค. 52 02:39:30

ความคิดเห็นที่ 2 พี่น้องครอบครัวเขาไม่มีหรือคะ ของที่ไม่ใช่ของเรา อย่าเอาตัวเข้าไปเสี่ยงดีกว่าค่ะ เกิดมีเรื่องขี้นมา จะเสียทั้งเพื่อน เสียทั้งตัวเอง จะอยู่ในภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก จากคุณ : Pixiepasta เขียนเมื่อ : 28 ต.ค. 52 03:44:52

ความคิดเห็นที่ 3 การที่เขาขอใช้ชื่อสามีคุณก็เพราะเขารับการสงเคราะห์จากรัฐ  ถ้ามีเงินซื้อบ้านได้ก็แปลว่ามีเงินเกินกำหนดที่จะขอ welfare ได้ เขาก็จะไม่สามารถขอรับสิทธิการรักษาพยาบาลได้อีกต่อไป กรณีของคุณกับสามี ถ้าไปยอมทำตามที่เขาขอ หากวันไหนเขาไม่ส่งค่าบ้าน เจ้าหนี้ตามทวงเอากับคุณ เพราะบ้านเป็นชื่อคุณ เขาไม่สนใจหรอกว่าใครจะเป็นคนส่ง ตามกฏหมายคุณเป็นเจ้าของ  ทีนี้ก็เตรียมรับมือกับการทวงหนี้แบบโหดไว้ได้เลย ถ้าขาดส่งครบตามเงื่อนไขของสัญญา เจ้าหนี้สามารถขอคำสั่งศาลอายัดเงินเดือนของคุณเพื่อเอาไปหักหนี้ได้  และสามารถใช้มาตราการทวงหนี้ได้ทุกรูปแบบตามกฏหมาย  คุณกับสามีมีสิทธิล้มละลายเอาได้ง่ายๆ  ปฏิเสธไปเสียค่ะ   อย่าไปค้ำประกันใคร และอย่าให้ใครเอาชื่อคุณไปใช้ทำนิติกรรมใดๆ เด็ดขาดค่ะ จากคุณ : Lawanwadee เขียนเมื่อ : 28 ต.ค. 52 04:10:12

ความคิดเห็นที่ 4   ถ้าเพื่อนสามีส่งไม่ไหว.....สามีเราก็ส่งบ้านไม่ไหวด้วย คนที่เสียประวัติทางการเงินคือสามีของคุณนะ ไม่ใช่เพื่อนคุณอ่ะ จากคุณ : Aurora@pantip เขียนเมื่อ : 28 ต.ค. 52 04:45:05

ความคิดเห็นที่ 5 อย่าเสี่ยงเลยค่ะ เมื่อเกิดอะไรขึ้น คุณและสามีต้องรับผิดชอบทั้งหมด จากคุณ : ศรีธนา เขียนเมื่อ : 28 ต.ค. 52 05:00:25

ความคิดเห็นที่ 6 ถ้าเพื่อนไม่ส่ง เราก็ขายบ้านค่ะ คิดว่าถ้าจะให้เซฟจริงๆ คือให้เพื่อนลง money down ซัก 20% อย่างต่ำ ยิ่งลงเยอะ จะขอกู้เงินง่ายขึ้น แล้วถ้ามีปัญหาภายหลัง เราก็ขายบ้านได้ง่ายขึ้น (เพราะติดกู้แค่ 80% ) จากคุณ : Pammeluff เขียนเมื่อ : 28 ต.ค. 52 05:04:39

ความคิดเห็นที่ 7 ลักษณะคล้ายการเอาชื่อเราไปค้ำประกันอย่างหนึ่ง เพียงแต่คุณอาจจะคิดว่า ในกรณีนี้บ้านเป็นชื่อคุณหรือสามีคุณ  ถ้าอย่างไงเสีย เขาก็ไว้ใจคุณ  และคุณก็ไม่ได้อยู่ในฐานะเสียเปรียบเหมือนการแค่เซ็นชื่อค้ำประกันสลักหลังเงินกู้   แต่ในความเป็นจริงคือการเอาชื่อคุณหรือสามีคุณ ไปบังหน้าเพื่อฟอกการเงินของเขานั่นเอง จะคิดข้อดีอย่างไงก็ตาม  .. ในจิตใจลึก ๆ ทั้งสามีคุณและคุณก็ทราบว่าได้ช่วยเพื่อนในการปกปิดฐานะการเงินของเพื่อน ..  นานวันไปก็ไม่สบายใจอยู่ดี  ถ้าหากวันหนึ่งทางการเกิดทราบขึ้นมาและกลายเป็นเรื่องเป็นราวขึ้น ถึงแม้เขาจะไว้ใจคุณมากก็ตาม ไม่ใช่อะไรหรอกเรื่องเงินเรื่องทองยุ่งกันมากแล้ว รังแต่จะมีปัญหาตามมา .. และถึงแม้จะใช้ชื่อคุณ  อยู่ดี ๆ เงินก้อนใหญ่นั้นมาในบัญชีคุณได้อย่างไร  เมื่อใดก็ตามมีการตรวจย้อนกลับ คุณจะมีปัญหาในการแจ้งที่ไปทีี่มาของเงิน หรือว่าเพื่อนสามีโอนเข้าบัญชีคุณก่อน แล้วคุณถึงไปจ่ายเอเย่นต์ขายบ้าน  ... แล้วเกิดวันหนึ่งเกิดมีการตรวจสอบบัญชีของเพื่อนสามีคุณเข้า คุณอาจจะไปเข้าข่ายในการสมรู้ร่วมคิดกับเพื่อนสามีคุณก็ได้   (อาจจะตรวจเจอว่า เขามีเงินเกินจำนวนที่จะได้รับการช่วยเหลือจากรัฐ แล้วเงินเขาไปไหนก้อนโต รวมถึงหายไปทุก ๆ เดือน  .. แต่เมื่อมาพบว่าเงินของเขานั้นโอนมาอยู่ในบัญชีคุณทุกเดือน  คุณจะว่าอย่างไร  ลองคิดเผื่อ ๆ ไว้ด้วยนะคะ) จากคุณ : บีพี เขียนเมื่อ : 28 ต.ค. 52 05:22:47

ความคิดเห็นที่ 8   เวลาจะช่วยคน ควรเลือกช่วยคนดี คนที่ขอรับเงินช่วยเหลือโดยให้ข้อมูลเท็จแก่รัฐบาล ไม่ถือว่าเป็นคนดี นะคะ จากคุณ : ตาน เขียนเมื่อ : 28 ต.ค. 52 06:12:20 A:78.20.210.62 X: TicketID:019698

ความคิดเห็นที่ 9 เกิดเชื้อลาม ตายไปในปี สองปี ข้างหน้า ผ่อนบ้านยังไม่หมด.....แล้วใครรับผิดชอบอ่ะคะ ญาติเราต้องมาแบกหนี้ที่ไม่ได้ก่อ อีกสองปีก็คงสะสางหมด...ส่วนคนนั้น หายหน้าไปเลย จากคุณ : cat_on_a_hot_tin_roof_ เขียนเมื่อ : 28 ต.ค. 52 06:15:09

ความคิดเห็นที่ 10 ทำสิ่งที่ถูกต้องจะดีกว่าค่ะ ขอให้สามีกลับไปนั่งคิด นอนคิดใหม่อีกที ตอนนี้เขาอาจคิดแต่ข้อดี แต่ลืมคิดถึงผลเสียที่จะตามมาถ้าถูกจับได้ว่าเป็นบุคคลสวมรู้ร่วมคิดให้การเท็จ หรือเกิดว่าวันหนึ่งเพื่อนไม่มีเงินส่งค่าบ้านขึ้นมา หรือล้มหายตายจากก่อนวัยอันควร เป็นต้น ทางที่ดี คิดถึงข้อเสีย ผลกระทบที่จะตามมา และหนทางแก้ไขกันไว้ทุกทางด้วยค่ะ จากคุณ : thaispicy เขียนเมื่อ : 28 ต.ค. 52 06:38:29

ความคิดเห็นที่ 11 Khun Tan speaks my mind. จากคุณ : SFO-CNX เขียนเมื่อ : 28 ต.ค. 52 06:44:38

ความคิดเห็นที่ 12 อยู่ดีๆ จะเอาคอไปพาดเขียงเล่นหรือคะ จากคุณ : mrs.night owl เขียนเมื่อ : 28 ต.ค. 52 07:47:44

ความคิดเห็นที่ 13 ลองบอกให้เพีอนคนนั้นเขาไปทำ  "Pooled Supplement Needs Trusts" ครับ จะได้ไม่ต้องยุ่งกับสามีของคุณ ถ้าไม่เข้าใจ "คำนี้"  ลองเข้าไปอ่านความหมายเอาเองจาก internet  เพราะผมเคยได้"คำนี้" มาจาก internet เช่นกัน  หรีอปรึกษาทนาย ก็แล้วแต่ใจ จากคุณ : hollywop เขียนเมื่อ : 28 ต.ค. 52 08:21:49

ความคิดเห็นที่ 14 อีกเสียงหนึ่ง ที่จะบอกว่าอย่าไปหาเรื่องเลยคุณ บอกปัดไปเถอะ จากคุณ : PatPDX เขียนเมื่อ : 28 ต.ค. 52 08:41:35

ความคิดเห็นที่ 15   ถึงจะเป็นคนดี ถ้าเขาไม่มีเงิน เขาก็ไม่จ่ายครับ อันนี้ผมเรียนรู้มาจากประสบการณ์จริง คงต้องเป็นคนดีแล้วก็ฉลาดรู้จักหาเงินด้วย อย่างนี้ค่อยพิจารณา จากคุณ : ghostrider เขียนเมื่อ : 28 ต.ค. 52 09:50:30 A:71.202.252.185 X: TicketID:161509

ความคิดเห็นที่ 16 ต่อให้เป็นคนในครอบครัว  ยังไม่้คิดว่าจะกล้าช่วยเค้าแบบนั้นเลยค่ะ จากคุณ : offita เขียนเมื่อ : 28 ต.ค. 52 10:32:28

ความคิดเห็นที่ 17 เพิ่งได้เข้ามาอ่าน ขอบคุณทุกๆ ความเห็นค่ะ จะบอกสามีว่าไม่ให้ทำดีกว่า ไม่อยากมาเสียใจ และมีปัญหาตามมาอย่างที่หลายท่านแนะนำ คุณ scooterella คิดเหมือนดิฉันเลยค่ะ สามีก็กลัวเหมือนกัน ก็เลยยังไม่กล้าทำ เลยให้ดิฉันมาหาคำแนะนำไปบอกเพื่อนค่ะ คุณ lawanwadee ขอบคุณมากค่ะ ที่เข้ามาตอบ แอบเป็นแฟนคลับอยู่ ใช่ค่ะ เพื่อนเค้ารับเงิน welfare จากรัฐอยู่ ไม่ได้มีเงินเยอะ แค่พอมีเงินเก็บแต่ก่อน ที่พอจะดาวน์บ้านได้ประมาณ 50 เปอร์เซ็น บ้านราคาประมาณแสนหน่อยๆ แต่สามีดิฉันกลัวเรื่อง การตรวจสอบเงินมากกว่า กลัวประวัติจะเสีย กำลังหาข้ออ้างปฎิเสธอยู่ค่ะ เลยมาหาคำตอบที่นี่ก่อน คุณ aurora@pantip ขอบคุณมากค่ะ สามีก็กลัวเรื่องเสียประวัติเหมือนกันค่ะ คุณ ศรีธนา ขอบคุณมากค่ะ คุณ pammeluff ขอบคุณค่ะ เพื่อนเค้าจะดาวน์ให้ประมาณ 50 % ค่ะ ราคาบ้านปะมาณ แสนหน่อยๆ เค้าไม่จ่าย ขายบ้านก็ได้ค่ะ แต่สามีกลัวเรื่องการตรวจสอบการเงินมากกว่า เค้าอยากให้สามีช่วย เพราะเห็นว่าสามีดิฉันเพิ่งได้เงินจากการจ้างออก เลยมาเป็นข้ออ้างได้ แต่ดิฉันก็ไม่เห็นด้วยอยู่ดี คุณ pixiepasta เค้าเหลือแต่พ่อแม่ที่อายุมากแล้วค่ะ.. ส่วนตัวก็คิดเหมือนคุณ บีพี ว่าสักวันอาจจะโดนตรวจสอบเรื่องการเงิน ที่มาที่ไปของเงินที่ซื้อบ้านอีก ต้องโดนแน่ๆ นี่คือสิ่งที่สำคัญที่สุดที่ดิฉันไม่อยากให้ช่วย จากคุณ : supitcha เขียนเมื่อ : 28 ต.ค. 52 13:00:02

ความคิดเห็นที่ 18 คุณตาน ขอบคุณมากค่ะ คุณ cat-on-a-hot-tin-roof ขอบคุณมากค่ะ คุณ thaispicy ขอบคุณค่ะ คุณ SFO-CNX ขอบคุณค่ะ คุณ mrs.night owl ขอบคุณเช่นกันค่ะ คุณ hollywoop คะได้ลองเสริชหาดูแล้ว แต่ยังไม่ได้อ่านรายละเอียดมาก ไว้จะให้สามีอ่านเองค่ะ คุณ PatPDX ขอบคุณค่ะ คุณ ghotstrider ขอบคุณค่ะ คุณ offita ขอบคุณเช่นกันค่ะ ได้คำตอบแล้วค่ะ คงจะไม่ช่วยเหลือเพื่อนสามีคนนั้นอย่างแน่นอน เพราะข้อดีคงมีแต่บ้านเป็นชื่อเรา แต่ข้อเสียหลายๆอย่างก็ตามมา ไม่คุ้มอย่างมากมาย จากคุณ : supitcha เขียนเมื่อ : 28 ต.ค. 52 13:08:10

ความคิดเห็นที่ 19 จะซื้อให้ได้ต่อเมื่อ ไ่ม่ใช่เงินผ่อนอะค่ะ สมมติ เพื่อนเกิดติสท์ไ่ม่ผ่อน คุณก็รับภาระไปเต็มๆค่ะ หรือสมมติตายจากโรค ขึ้นมา คุณก็ได้ผ่อนต่อแน่ๆค่ะ ในกรณีนี้ มันเห็นอยู่รำไรว่า สุดท้ายแล้วคุณต้องเป็นผู้ผ่อนแหงๆค่ะ จากคุณ : ~*Angellique*~ เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 52 14:19:37