|
ความคิดเห็นที่ 5 |
สาเหตุหลักก็คงเป็นเรื่องความรับผิดชอบส่วนบุคคลมากกว่า แต่ก็อาจจะปฏิเสธไม่ได้ค่ะว่าความเข้มงวดและความมีชื่อเสียงของสถาบันและคอร์สที่เรียนก็มีส่วน เนื่องจากคุณ จขกท. ถามเรื่องสถาบัน เราก็ขอแชร์ประสบการณ์ส่วนตัวให้แทนละกันนะคะ เพราะคงไม่สามารถฟันธงว่าที่ไหนดีไม่ดีได้
ปีที่แล้วเราเรียนโทที่มหาวิทนาลัยแห่งหนึ่งในอังกฤษค่ะ ถ้าดูเฉพาะ rank ของ UK แล้ว มหาลัยนี้เป็นมหาลัยที่ติด Top 10 ของอังกฤษ แต่ก็แน่นอนว่าไม่ top เท่า Oxford, Cambridge เทือกนั้นนะคะ ระหว่างเรียนมีงานกลุ่มเยอะมากกกก มากจริงๆค่ะ แต่อยากจะบอกว่า ไม่มีกลุ่มไหนที่อ้อยอิ่งหรือทิ้งงานไว้จนนาทีสุดท้าย เท่าที่เราทำงานกลุ่มหลายๆงานมา ทุกครั้งจะต้องมีการพูดคุย ทำความเข้าใจ ถ้าไม่แน่ใจอะไรก็ถามกลุ่มอื่นหรือถามอาจารย์ จากนั้นก็จัดแจงหน้าที่ของแต่ละคน และทุกๆคนมีหน้าที่ คือ ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด การแบ่งงานจะค่อนข้างแฟร์ work load ต้องพอๆกัน และต้องแน่ใจว่าทุกฝ่ายสบายใจกับงานที่ตัวเองได้รับมอบหมาย เทอมสุดท้ายเป็นการทำ individual project หรือ dissertation คือทำ reseach แล้วเขียนเล่มงานใครงานมัน คนในคลาสเราแต่ละคนก็ทำเสร็จส่งภายในเวลาที่กำหนดกันหมด ไม่มีใครยื่นขอ extension ไปอีกสามเดือนหกเดือนนี่ไม่มี
ในทางกลับกัน เพื่อนเราบางคนที่เรียนมหาลัยที่ติดระดับกลางๆ ทั้งเพื่อนเราและเพื่อนของเพื่อนเรา ที่เราได้ยินมาก็มีสอบตกบ้าง และ มีหลายๆคนมากๆที่ยื่นขอ extension นั่นคือ ทำเรื่องยืดเวลาเรียนจบไปอีกสามสี่เดือน ซึ่งสำหรับมหาลัยที่เราเรียน การยื่นขอ extionsion ถึงสามสี่เดือนเป็นเรื่องที่แทบจะไม่เกิดขึ้น เมื่อคิดเป็นเปอร์เซนต์ของ นศ. ก็ถือว่าเป็นเปอร์เซนต์ที่น้อยมาก คืออย่างน้อยความมีชื่อเสียงของสถาบันเป็น "ส่วนหนึ่ง" ที่คัดกรองคุณภาพของนักศึกษาค่ะ อาจจะไม่ใช่ทั้งหมด แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าไม่มีส่วนนะคะ ดังนั้น ถ้าคุณ จขกท. อยากได้มหาลัยที่การันตีความรับผิดชอบของนักศึกษา ก็ควรเลือกมหาลัยที่ติดระดับบนของประเทศนั้นๆไว้เป็นดีที่สุดค่ะ อย่างของอังกฤษก็เลือกที่อยู้ใน Top 10 ส่วนอเมริกานี่เมืองใหญ่ คิดว่าติด Top 30 ก็น่าจะโอเคแล้วนะคะ
จากคุณ |
:
LTLN
|
เขียนเมื่อ |
:
7 พ.ย. 52 03:40:29
|
|
|
|
|