ความคิดเห็นที่ 1   becasuse America has more bargaining power than Thai. จากคุณ : tan เขียนเมื่อ : 10 พ.ย. 52 21:53:09 A:78.20.211.85 X: TicketID:019698

ความคิดเห็นที่ 2 เพราะสนธิสัญญาระหว่างประเทศในการคิดภาษี ถ้า AFTA สำเร็จในปีหน้าของที่ผลิตในกลุ่ม ASEAN จะถูกลง และถ้าสั่งซื้อในปริมาณมากๆ ต้นทุนต่อหน่วยก็จะถูกลงไปอีก แก้ไขเมื่อ 10 พ.ย. 52 22:42:06 จากคุณ : interaction เขียนเมื่อ : 10 พ.ย. 52 22:40:09

ความคิดเห็นที่ 3 เพราจีนเป็นแค่ผู้ผลิตไม่ใช่ผู้ขาย...อเมริกาเป็นเจ้าของบริษัท --> สั่งให้จีนทำ --> ส่งกลับมาขายที่อเมริกา เพื่อลดต้นทุนในการผลิต... จากคุณ : BlackmagicW เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 52 00:34:17

ความคิดเห็นที่ 4 ขอบคูณทุก คห คับ แต่มันไม่ตรงกันซักอันเลย มาคนละแนว (แม้ว่า คห 1 กับ 3 อาจไปในทำนองเดียวกันได้อยู่) ตกลงคุยกันแล้วน่าจะให้ นน. กับ ประเด็นไหนมากกว่า จากคุณ : Judey เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 52 02:48:02

ความคิดเห็นที่ 5 MASS PRODUCT ไง คนใช้มากกว่าเราหลายเท่า จากคุณ : teepanath (teepanath) เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 52 03:37:19

ความคิดเห็นที่ 6 ภาษีด้วยหรือเปล่า...ไม่รู้สิ จากคุณ : na na' เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 52 04:30:32

ความคิดเห็นที่ 7 คนไทยหกสิบกว่าล้าน คนเมกันสามแสนกว่าล้าน กำลังซื้อเยอะมากกว่าประเทศไทยห้าเท่า ยิ่งสั่งซื้อเยอะผลิตเยอะ ราคาต้นทุนก็ถูกกว่ากันเยอะ เพราะงั้นราคาถึงถูกกว่าเมืองไทยนะคะ นั่นรวมค่าขนส่งด้วยส่งไปเยอะค่าขนส่งก็ถูกตามไปด้วยค่ะ จากคุณ : Rinta เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 52 05:35:54

ความคิดเห็นที่ 8   เอาให้ครบ 1) ไทยใกล้จีนแต่ึ่ค่าขนส่งต่อ unit มันไม่ได้ถูกกว่าตามไปด้วยนะครับ  เรือลำหนึ่งจุตู้ Container ได้เป็นหมื่นๆ แต่ละตู้ Container ก็จุ Notebook ได้มากมาย  ลองนึกดูว่าถ้าเรือหนึ่งลำมี Volume ในการส่งมากๆ ไปยังอเมริกาที่เดียว  การจัด Routing ของเรือก็ง่าย  สามารถแล่นแบบ Direct ตรงไปที่อเมริกาได้  นอกจากนี้อเมริกาก็เป็น Hub ที่ใหญ่มากๆ มี Port สำคัญมากมาย  ดังนั้น Throughput สูงอยู่แล้ว  ราคามันก็ต่ำ กลับกัน ประเทศไทยจริงๆ ใกล้  แต่ไม่ได้เป็น Port สำคัญมากเลย  เอาแค่ Routing ของเรือหลายๆ ลำก็จะไปที่สิงคโปร์ก่อน  แล้วก็ย้ายตู้มายังเรือลำที่เล็กกว่าเพื่อมาที่ไทย  ค่าขนส่ง + handling ต่างๆ อาจจะสูงกว่าด้วยซ้ำ เอาเป็นว่าเหตุผลที่คุณยกมานั้นใช้ไม่ได้  เพราะเนื่องจาก Volume ทำให้ค่าขนส่งมันไม่ได้ต่างกันขนาดนั้น 2) เรื่อง Price มันเป็นกลไกการแข่งขันของตลาด  ที่อเมริกาการแข่งขันสูงมาก ขืนใครตั้งราคาแพงๆ แต่ไม่ได้มี value ของสินค้ามากกว่าคู่แข่งก็เจ๊งกันพอดี 3) เรื่อง Cost มันก็มีผลจาก Scale ของการผลิตและการขาย  ที่อเมริกามีการวางระบบการขายและการขนส่งที่ดีและมี Scale ขนาดใหญ่  หลายๆ Unit เป็นงานที่ไม่ขึ้นกับ Scale และถ้า Scale ใหญ่ขึ้น  Cost ต่อ Unit ก็ถูกลง 4) อีกอย่าง  ถ้าบริษัทตั้งราคาของสินค้าพวกนี้ที่ต่างประเทศถูกกว่า  คนที่บินมาเที่ยวแล้วก็ซื้อของที่ไทยหรือประเทศอื่นๆ กันหมด เศรษฐกิจเค้าก็ไม่ดี  เรื่องนี้ผมไม่แน่ใจมากแต่คิดว่ารัฐก็น่าจะมี incentive อะไรบางอย่างในแง่ของ tariff เหมือนกัน  ประมาณความเห็นที่ 2 บอก ดังนั้นถามว่าให้น้ำหนักอะไรมากกว่า  => เหตุผลมันก็มาพร้อมเรื่องของ Scale และ Tariff ที่ส่งผลต่อเรื่อง Cost และ Competition ที่ส่งผลต่อ Price มาประกอบกันทั้งหมด จากคุณ : Ariete เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 52 08:34:05

ความคิดเห็นที่ 9 ^ ^ เยี่ยมจริงๆ จากคุณ : Judey เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 52 10:35:31

ความคิดเห็นที่ 10 High competition?  Large market?  Less greed (due to laws)?   I don't know for sure, but I find it rather weird that laptops in Thailand are more expensive than in Canada.  First, Canada has half the population of Thailand; yet, the prices are lower -- much lower when they're on sale.  (What I hate about sales (discounts) in Thailand is that they're not real sales/super bargains like sales in the States/Canada - esp. Black Friday/Boxing day sales.)  So in this regard, I don't think the # of the population is a big factor.   Second, I think the operation cost in Canada (& probably the States as well) is likely higher than Thailand due to higher wages and such.  Remember, the minimum wage in Canada is like 10X that of Thailand or maybe more.  Also, the population density of Canada is way lower than that of Thailand, so the product transportation cost would be much higher too.  (Canada is the 2nd largest country in the world, I think.)  Despite all those things, yet electronics are in general cheaper in Canada than in Thailand. I may be thinking too much, but I think in general Thai business owners and (foreign) companies that operate in Thailand are more greedy--too greedy--than companies in North America.  I think in more developed countries, the income is better distributed in general. (Like if you make more money, you pay more taxes).  And the business owners tend to have better business ethics (morality?) - either naturally or due to laws and regulations (don't want to get into details here).  Furthermore, the customers tend to be more informed as well in the developed countries (?) (see the existence of sites like fatwallet/redflagdeals et cetera), so the customers refuse to pay more.  (You see how there are price matching/beating policies at almost every store.)   All these could possibly make the prices lower in the USA. จากคุณ : ZT1260 เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 52 11:32:00

ความคิดเห็นที่ 11 แจ่มแจ้ง กระจ่างชัด ค่า เพราะงง เหมือนกาน จากคุณ : JaNE-KaTiP_ZiMBao เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 52 11:49:54

ความคิดเห็นที่ 12   คห ข้างบน 1) อย่าลืมว่า Market ของ US และ Canada นั่นใกล้เคียงกันมากๆ เรียกว่าเป็น regional เดียวกันได้เลย ดังนั้นต้องพิจารณา US + Canada มากกว่าครับ อาจจะรวมถึงประเทศอื่นๆ ใน North America ก็เป็นตลาดใหญ่ทั้งนั้น 2) Transportation cost ที่สำคัญไม่ใช่ขึ้นกับระยะทางอย่างเดียวครับ Mode ที่ใช้ต่างหากที่มีผลมากที่สุด  ประเทศไทยใช้การขนส่งภายในประเทศรูปแบบรถเกือบทั้งหมด  ในขณะที่ประเทศอย่าง Canada หรือ US มีการ Develop multimodal transportation ทั้งทางเรือ รถไฟ รถ ที่ทำให้การขนส่งราคาถูกได้  ลองนึกถึงระบบรถไฟของไทยเปรียบเทียบดู อีกส่วนคืองาน Logistics ที่ Logistics outsourcing service provider ที่ US หรือ Canada มีการพัฒนาไปไกล  ต่างจากไทยที่ระบบยังห่างไกลแม้ว่าจะเป็นบริษัทเดียวกัน 3) เรื่องเงินเดือนก็เหมือนกัน  จริงที่ว่าเงินเดือนที่นี่สูงกว่า  แต่อย่าลืมว่า - งานที่เป็น Management ระดับสูง องค์กรข้ามชาติ  ที่เงินเดือนแพงๆ เงินเดือนของกลุ่มคนเหล่านี้ไม่ได้ถูก Budget ลงไปเป็น Cost ของสินค้าในประเทศนั้นเพียงประเทศเดียว  เนื่องจากคำทำงานเป็น Regional หรือ Global ดังนั้น cost ตัวนี้ share อยู่แล้ว และส่วนมาก คนที่ทำงานอยู่ใน corporate office ก็จะดูแลระดับภาคพื้น - การ Outsource เช่น service call center ก็ถูก outsource ไปที่อื่นหรือประเทศอื่นด้วยซ้ำ  และยิ่งเป็นภาษาอังกฤษ  เค้าก็สามารถ outsource cost ส่วนนี้ไปที่ไหนก็ได้  เช่นอินเดีย  แล้วก็สามารถ service ได้หลายๆ ประเทศ  ของไทยผมว่า cost ตรงนี้น่าจะสูงเหมือนกัน  และก็ต้องใช้คนไทยเท่านั้น      โดยปกติ ของที่ขายจาก subsidiary เช่น จากจีน ขายให้ไทยหรืออเมริกา ก็จะเป็น Standard cost ที่ไม่ต่างกันมาก  ดังนั้นก็ขึ้นกับว่าลักษณะ cost หลังจากนั้นเป็นอย่างไร  เรื่อง Pricing มันเป็นกลไกตลาดอยู่แล้ว เหมือนย่อหน้าสุดท้ายที่คุณบอก  ผมว่ามันไม่เกี่ยวกับเรื่อง greedy ของบริษัทเฉพาะในไทยหรอก  เพราะมันไม่ใช่ที่ไทยที่เดียวที่แพงกว่า demand มันมี  บริษัทก็ maximize profit มันก็เรื่องปกติ ซึ่ง maximize profit มันก็ไม่ใช่ที่ maximum price  ถึงต่อให้ greedy กันหมดทุกบริษัท (ซึ่งก็นึกไม่ออกเหมือนกันว่าจะรวมหัวกันยังไง)  ก็คงมี new competitor ดีๆ ถูกๆ ที่ไม่ greedy เข้ามาได้อีกเพียบในราคาที่ถูก  สุดท้ายราคามันก็ลงมาตาม Market อยู่ดี  ก็ตามที่คุณว่า "the customers refuse to pay more" ก็คงลดราคาลงมาได้  แต่จะต่ำว่า US หรือเปล่า  ก็ขึ้นกับว่า Cost มันต่ำกว่าได้จริงหรือเปล่าด้วย จากคุณ : Ariete เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 52 12:38:07

ความคิดเห็นที่ 13   ลืมอีกเรื่อง  ขอโทษทีครับ เรื่อง # of the population นี่ ไม่ใช่ factor จริงๆ ครับ  ต้อง number of (potential) customers ต่างหาก  ถ้าพูดถึง Canada อย่าลืมว่ามีนักเรียนต่างชาติมาเรียนเยอะมาก  และคนโดยทั่วไปก็มีเงินซื้อ notebook กันได้  ดังนั้นต่อให้ Canada has half the population of Thailand อย่างที่คุณว่า  แต่ (potential) customers ของ Canada ก็ไม่ใช่ครึ่งหนึ่งครับ ดังนั้นผมว่า Market ก็ใหญ่กว่า (เยอะ) นะ  ถ้ารวมตลาดเป็นภูมิภาค  แถวนี้ก็ใหญ่กว่า South East Asia ไม่รู้กี่เท่า จากคุณ : Ariete เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 52 13:43:08

ความคิดเห็นที่ 14 ผ่านมาอ่าน...   จากคุณ : ชายยอดนักทดลอง เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 52 14:17:33

ความคิดเห็นที่ 15   แปะข้อมูลนิด ผมว่าตลาดใน Asia น่าจะค่อนข้างเล็กยกเว้นจีนกับญี่ปุ่นที่แยกข้อมูลออกมา ส่วนประเทศในเอเชียอื่นๆ เช่น India ที่ประชากรเยอะมากๆ ก็อยู่ในกลุ่ม Asia-Pacific ที่รวมประเทศอย่าง Australia เข้าไปด้วยอีก  จะเห็นว่าตลาดก็ไม่ได้ใหญ่เลย จากคุณ : Ariete เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 52 14:56:35

ความคิดเห็นที่ 16 โอววว ... เรียน marketing + logistic มาก็ได้ใช้วิชาก็คราวนี้เอง ... อิอิ จากคุณ : ผัดไทยกุ้งสด เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 52 19:22:00

ความคิดเห็นที่ 17 ยอดเยี่ยมอย่างเป็นเหตุเป็นผล จากคุณ : โจ๊กหมูไม่เอาชูรส เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 52 22:04:59

ความคิดเห็นที่ 18 Ariete....You The Best!!!! จากคุณ : BlackmagicW เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 52 00:40:56

ความคิดเห็นที่ 19 ถึงจะผลิตในจีนแต่ก็เป็น contract นะ เอาไปขายเองหรือเจ้าอื่นไม่ได้ ดูอย่างกล้อง Nikon สิ ผลิตในไทยแท้ๆ ราคายังแพงกว่าซื้อที่อเมริกาเลย จากคุณ : หนุ่มนอก เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 52 01:11:09

ความคิดเห็นที่ 20 เราก็คิดว่า ตลาดมันใหญ่และกำลังซื้อเยอะมากค่ะ เด็กมหาลัยทุกคนก็ต้องมี laptop กันทั้งนั้น ไม่มีตังค์ มหาลัยยังมีให้เช่าเลยค่ะ จากคุณ : prinda (prinda) เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 52 03:07:23

ความคิดเห็นที่ 21 ตามข้างบนเลยค่ะ เมื่อก่อน ก่อนไปอเมริกาขนเสื้อผ้าของใช้ไปเต็ม เดี๋ยวนี้ไม่ขนแล้ว ของใช้ที่โน่นถูกกว่า เครื่องมืออีเลคโทรนิคถูกกว่า อุปกรณ์แต่งบ้านสวยๆ หลากหลายร้านให้เลือก ยังนั่งคิดตัวเองเล่นๆว่า ทำไม ทำไม  พอได้เห็นอเมริกามากขึ้น โอ แต่ละเมืองใหญ่ๆกันทั้งนั้น รัฐที่ใหญ่ๆเมืองใหญ่ยังกะกรุงเทพ คิดเล่นๆ ประเทศนี้มีเมืองที่ใหญ่ขนาดกรุงเทพเป็นร้อยๆเมือง  ไม่นับเมืองใหญ่แบบต่างจังหวัดอย่างโคราชอีกหลายร้อยเมือง ก็เลยถึงบางอ้อ ของใช้ที่อิมพอร์ทจากไทยอยู่อเมริกาถูกกว่าทุกประเทศค่ะ ตอนนี้อยู่ญี่ปุ่นยังอดเคืองไม่ได้ ทำไมของนำเข้าจากไทยถึงแพงมากขนาดอยู่ใกล้เมืองไทยกว่าอเมริกา จากคุณ : wander_walker เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 52 11:25:13