|
ความคิดเห็นที่ 17 |
|
ต่อนะคะ . . .
โฮสต์อิตาลีหายไปอาทิตย์กว่าๆ เราก็ได้รับข่าวดีจากเว็บออแพร์ค่ะ บอกว่า มีโฮสต์เยอรมันสนใจเรา เราก็ดีใจนะที่มีคนสนใจโปรไฟล์ แต่ก็เตรียมใจไว้แล้วว่ายังไงก็ไม่ได้หรอก เพราะถ้าจะไปเยอรมันแล้วพูดเยอรมันไม่ได้เลย วีซ่าไม่ผ่านแน่ๆ เราคลิกไปดูโปรไฟล์โฮสต์คนนี้ดู . . . เอ่อ Our au pair must speak English very well or must have a basic knowledge of German. คุณคะ คุณไม่ได้ดูโปรไฟล์อิฉันหรืออย่างไรมิทราบ อิฉันไม่มีพื้นฐานเยอรมันเลยนะคะ แล้วคุณมาสนใจอิฉันทำไม? . . . ใน inbox ของ aupair-world ที่ส่งมาก็มีเมลล์ของโฮสต์คนนี้มาให้นะ เพราะโฮสต์เขาต้องสมัครเป็นพรีเมี่ยมถึงจะให้เราเห็นเมลล์เขาและเขาเห็นเมลล์เราได้ แต่วันนั้นเราก็ยังไม่ส่งเมลล์อะไรให้โฮสต์ไป เพราะกำลังเซ็งๆนั่งนับวันรอโฮสต์อิตาลีอยู่
วันต่อมาโฮสต์เยอรมันก็ส่งเมลล์มาหาเราค่ะ . . . ซัดเยอรมันมาเลย -*- เราไม่ต้องเสียเวลาอ่านหรือเดาค่ะ ส่งกลับไปทันที บอกว่า ฉันอยากเป็นออแพร์ก็จริง แต่ฉันไม่มีพื้นฐานภาษาเยอรมันเลยนะคะคุณ ขอโทษด้วยค่ะ แต่โฮสต์ก็ยังไม่หยุดแค่นั้นค่ะ . . .
อีก 2วันต่อมา โฮสต์ก็เมลล์มาว่าปีหน้าก็ได้(ก็เหลืออีกไม่กี่เดือนเนอะ) ให้ไปเรียนเยอรมันพื้นฐานมาก่อน และเขาก็อยากดูรูปเราเพิ่มค่ะ เอ่อ...คุณคะ คุณจะเอารูปอิฉันไปทำอะไรคะ??? ใน aupair-world อิฉันก็ลงรูปไว้แล้วนี่คะ . . . เราก็เฉยๆ ไม่ได้ตอบอะไรกลับไป
อีก 2 วัน ต่อมา(อีกแล้ว) โฮสต์บอกว่า My son-3 years say you very lovely and want you for babysitting. อืมมมม รู้ได้ไงว่าเราบ้ายอ 555+ และก็ถามเราเพิ่มอีกว่า ต้องใช้เวลาเรียนภาษาเยอรมันพื้นฐานนานเท่าไร ถึงจะขอวีซ่าได้
ตอบยากนะคะ และก็ยังไม่มีงบจะไปเรียนด้วยค่ะ อีกอย่างเราจะแน่ใจได้ไงว่าเราลงทุนเสียเงินไปเรียนแล้วสุดท้ายเขาจะรับเราไปเป็นออแพร์จริงๆ ถ้าเขาเปลี่ยนใจเราก็เสียเงินเปล่าสิคะ อย่าบอกเลยค่ะว่าไม่เสียเปล่าหรอก แย่งน้อยเราก็ได้ความรู้ อันนี้เข้าใจค่ะแต่สำหรับเราตอนนี้มันไม่จำเป็นไงคะ ^^' หลายคนอาจจะสงสัยว่าทำไมคราวนี้เราดูเล่นตัวแปลกๆ . . . คือไม่มีอะไรมากค่ะ แค่ โฮสต์คนนี้เป็น Single Dad แค่นี้เอง เราก็เลยต้องระวังตัวไว้บ้างตามที่คนอื่นๆเขาระวังกัน แต่ถ้าส่วนตัวจริงๆ เราค่อนข้างจะมองโลกในแง่ดีค่ะ อย่างที่เคยบอกก็คือ เราคิดดีก็จะเจอแต่คนดีๆ ถ้าเจอคนไม่ดี เขาก็ทำอะไรเราไม่ได้ค่ะ (แม่สอนมาแบบนี้ และ 90% ในชีวิตเราก็เจออย่างที่แม่บอกจริงๆค่ะ) ถ้าถึงคราวจริงๆก็คงเป็นกรรมเก่า...แต่เรายังไม่เคยเจอนะคะ ^^'
เราคงไม่ทิ้งโอกาสนี้ไปซะเลยทีเดียว แต่ขอคิดก่อนว่าจะตอบโฮสต์ไปว่าไงดี และก็จะลองปรึกษา . . . ใครดีล่ะ ไม่มีใครให้ปรึกษาเลย 555+ ก็คงต้องถามคนในเว็บเอาล่ะค่ะ ไม่รู้ก็ต้องถามถึงจะรู้ จริงมั้ยคะ? อายครูบ่ฮู้วิชาเด้อค่าาาา...แต่ถ้าต้องเรียนเยอรมันจริงๆ ฉันจะให้โฮสต์รับผิดชอบดีมั้ยนะ กร๊ากๆๆๆ
แล้ววันนึงเราก็รมณ์บ่จอย บวกกับเซ็งโฮสต์อิตาลีเอามากๆ ที่ไม่ตอบเมลล์เราสักที เราก็เลยเมลล์ไปหาโฮสต์เยอรมันแบบขำๆ ได้ก็ดี ไม่ได้ก็ไม่เซ็งละ Thanks for your attention. I had see pictures of you and your child, heis so cute ;) I can not take German language course in this time because I have to study and get a parttime job too. สะตอมากเลยเรา ยังเรียนอยู่ก็จริง แต่ไปเรียนซะที่ไหนเล่า 555+ พาร์ทไทม์อะไรก็ใช่จะมี วันๆเอาแต่ทำกระเป๋ากับวาดรูป :P So, my poctket money is not enough for taking a German language course. อันนี้ความจริงที่สุด ถึงจะมีเงินพอแต่มันก็สำคัญกับอย่างอื่นมากกว่าเอาไปเรียนภาษาของคุณนะก๊ะ If I can take it, I'm not sure how long...may 6 month at least or more. อันนี้ก็มั่วไป 555+ (อนุญาตให้ขำภาษาปะกิด ฟุตๆ ฟิตๆ ของเราได้นะคะ ^^' )
แล้วเมลล์ฉบับนึงของโฮสต์ก็ทำให้เราต้องตำหนิตัวเองไปนิดนึงว่า "ไม่น่าคิดอกุศลเลยเรา" แต่ก็เพราะเราคิดไปนิดเดียวล่ะมั้ง เราก็เลยได้ความรู้สึกดีๆกลับมา อิอิ เอ๊ะ! แล้วมันเรื่องอะไรกันล่ะเนี่ย เหมือนเราจะพูดเองเข้าใจเองอยู่คนเดียวเลยเนอะ 555+ งั้นจะเล่าล่ะนะคะ . . .
โฮสต์บอกว่ามีออแพร์คนนึงพูดเยอรมันได้ดีมาก แต่เธอไม่แน่ใจว่าเธอจะตกลงมั้ย...ก็ไม่ได้อะไรใช่มั้ยคะ เพราะอย่างที่เคยบอกว่าเราไม่คาดหวังอะไรมากนัก และถ้าจะให้เราไปจริงๆ เราก็ต้องเรียนภาษาเยอรมันก่อน ซึ่งระหว่างนั้นโฮสต์ก็ต้องหาออแพร์คนอื่นไปก่อนอยู่แล้ว อ่อ มีเรื่องให้เราประหลาดใจนิดหน่อย ในเมลล์โฮสต์มีคำว่า Jing Jing (จริงๆ) อยู่ด้วย เราก็ชักจะสงสัยแล้วว่าโฮสต์ต้องมีอะไรเกี่ยวกับไทยๆแน่เลย . . .
เราจะพยายามแปลและสรุปเมลล์ที่ทำให้เราเปลี่ยนใจ แบบเท่าที่ออกอากาศได้ละกันนะคะ... ออแพร์คนที่พูดเยอรมันได้เขาไม่อยากไปเยอรมัน . . . เลยเสร็จเรา อิอิ
ภรรยาเก่าขอโฮสต์เป็นคนไทยค่ะ (นั่นไง ว่าแล้วเชียว มันต้องมีอะไรในกอไผ่) ทั้งสองแต่งงานกันเมื่อปี 2005 เจอกันที่เมือง...ที่โฮสต์อยู่นั่นแหละค่ะ ภรรยาเขาไปเที่ยวแล้วโฮสต์ก็ตกหลุมรักสาวไทยคนนั้นตั้งแต่แรกพบ(แอบเลี่ยน ฮ่าๆ) เขาขอเธอแต่งงาน แต่ก็ต้องกลับไทยเพราะเธอมีลูกอยู่ที่ไทย 2 คน (ลูกแหละเนอะ have two childrend อ่ะ) พอปี 2005 เธอก็กลับมาเยอรมันและในปี 2006 ก็มีลูกด้วยกัน 1 คน (นามสมมติน้อง M นะคะ 555+)
พอน้อง M อายุได้ 10 เดือน เธอก็ทิ้งโฮสต์ไปกับผู้ชายคนอื่นและต้องการจะเอาน้อง M กลับไปให้แม่เธอที่ไทยด้วย แต่โฮสต์ไม่ยอม น้อง M ก็เลยต้องอยู่กับโฮสต์เพียง 2 คน ภรรยาโฮสต์ก็ดูแลลูก 2 คนที่ไทยไป ส่วนโฮสต์ก็ดูแลน้อง M เดือนนึงน้อง M จะได้เจอแม่ 1-2 ครั้ง แต่อย่างว่าเธอก็ต้องดูแลครอบครัวของเธอ ทั้งสองก็ให้สิทธิกัน (แปลงี้มั้ยอ่ะ ประมาณว่าให้เกียรติกัน เคารพการตัดสินใจกันนี่แหละ) แต่ก็ค่อนข้างจะมีปัญหากันบ่อยๆ
โฮสต์ต้องการให้น้อง M เรียนภาษาไทยในตอนนี้ ต้องการให้เราไปสอนภาษาไทยให้น้อง M เพราะน้อง M 3 ขวบแล้ว กำลังฉลาดและจดจำสิ่งต่างๆได้ดี น้อง M พูดเยอรมันเก่งมาก (ก็แหงล่ะ) ไม่ต้องใส่แพมเพิร์สแล้ว เป็นเด็กแข็งแรง ชอบร้องเพลงอยู่ตลอดเวลา และไปโรงเรียนตั้งแต่ 08.00-16.00 หลังจากนั้นแม่โฮสต์ก็จะเป็นคนดูแลต่ออีกประมาณ 2-3 ชั่วโมง เพราะโฮสต์ต้องทำงาน...โฮสต์ขาย hairdresser และก็ beautysalon มีเว็บด้วยแต่เราไม่บอกหรอก อิอิ ดูไฮโซเลยทีเดียวเชียว ยอดออเดอร์เดือนนึงอย่างต่ำก็ 2000 Euroเข้าไปแล้ว(ยังไม่นับเงินเดือนส่วนอื่นของโฮสต์นะคะ . . . แล้วโฮสต์จะให้เราสักเท่าไรล่ะเนี่ย :P
โฮสต์บอกว่าเราอาจจะสงสัยว่าทำไมโฮสต์ไม่ขอให้(อดีต)ภรรยาโฮสต์หาพี่เลี้ยงให้...เพราะเขาไม่ค่อยจะญาติดีกันนั่นเอง ^^' ครอบครัวภรรยาก็ไม่ชอบโฮสต์ด้วย โฮสต์ชอบกินอาหารไทย แต่ยกเว้น som tam pet เพราะมันรุนแรงเกินไป 555+ (น่ารักอ่ะ พยายามใช้ภาษาไทย) โฮสต์ทำงานตั้งแต่ 08.00 - 19.00 หลังจากนั้นก็ต้องมาจัดการกับออเดอร์ของอีกประมาณ 3 ชั่วโมง ซึ่งมันเหนื่อยมากๆ ก็เลยต้องการคนช่วย โฮสต์เลยไปคุยกับครูที่โรงเรียนอนุบาล เขาก็แนะนำให้โฮสต์หาออแพร์ โฮสต์ก็ได้เมลล์มาเยอะเลย แต่ส่วนใหญ่เป็นคนรัสเซียกับแอฟริกา แต่โฮสต์ไม่ต้องการเพราะโฮสต์แน่ใจแล้วว่าโฮสต์อยากให้น้อง M เรียนภาษาและก็วัฒนธรรมของแม่น้อง M
โฮสต์อยากให้เราไปเรียนภาษาเยอรมันภายใน 2 เดือนนี้ ส่วนเรื่องค่าเรียนโฮสต์จะเป็นคนจ่ายให้ และถ้าเป็นไปได้ก็อยากให้เราเดินทางไปเยอรมันในช่วงมีนาคม . . .
ยาวไปมั้ยคะ ^^'นี่ขนาดเอาเฉพาะที่ออนแอร์ได้นะ ข้อมูลส่วนตัวจริงๆ เราต้องเก็บไว้เป็นการให้เกียรติเขาเนอะ (เหรอ???) อ่อ! ในเมลล์ฉบับนี้โฮสต์แนบรูปน้องM กับแม่มาให้เราดูด้วย...น้องM หน้าเหมือนแม่มากๆ แต่ดีนะที่ตากับสีผมยังได้พ่ออยู่ ฮ่าๆ
ถึงตาเราบ้างแล้วละ เราก็ร่ายยาวเรื่องของเราไปให้โฮสต์เหมือนกัน...เขียนไปเปิดดิกฯไป กร๊ากๆ บอกไปเลยว่าฉันซิ่วนะเฟ้ย!!! ฉันยังเรียนไม่จบแต่ฉันจะดร็อป ยูโอเคป่ะล่ะ และก็ตามธรรมเนียมค่ะ เราก็ซัดถามใส่โฮสต์ไปชุดใหญ่ อ่านแล้วหลายคนอาจจะมีคำถามว่าทำไมไม่เรียนให้จบก่อน? เพราะเรากลัวว่าภาษาอังกฤษเราจะง่อยไปกว่านี้น่ะค่ะ คือก่อนหน้านี้เราเรียนอินเตอร์มา 3 ปี เราก็ได้อะไรมาเยอะเหมือนกัน และตั้งแต่ซิ่วมาเนี่ยก็ไม่ได้ใช้เลย เรารู้สึกว่า เราโง่ไป 50% แล้วล่ะค่ะ จะให้เราใช้อยู่บ่อยๆก็ไม่รู้จะใช้ที่ไหนนี่คะ ทำได้ก็แค่ฟังเพลง ฟังข่าวภาษาอังกฤษไปวันๆ
อาจจะมีคำถามต่อมาอีกว่า "แต่นี่ไปเยอรมันนี่ จะฝึกภาษาอังกฤษได้ไง" เราว่ายิ่งดีเลยล่ะค่ะ เพราะเราจะได้ภาษาที่3 ซึ่งนั่นก็หมายความว่าเราต้องพัฒนาภาษาอังกฤษของเราให้ดีขึ้นพร้อมๆกับการเรียนภาษาเยอรมันค่ะ
จากคุณ |
:
ติ๊ดดึก
|
เขียนเมื่อ |
:
29 พ.ย. 52 21:17:18
|
|
|
|
|