ความคิดเห็นที่ 1 เป็นกระทู้ที่น่าสนใจมากครับ โหวตให้ก่อนเลย จากคุณ : นายจ๊ะโอ๋ (Lastchristmas_โอ๋) เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 52 11:44:43

ความคิดเห็นที่ 2 กดไปหนึงจิก และนะ จากคุณ : ฮักเมาน้องหล้า เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 52 11:52:33

ความคิดเห็นที่ 3 รอบล่าสุดนี่ รู้สึกไม่ดีมากเมื่อ ตม (เชื้อสายเม็กซิกัน) ที่นิววอล์คเอาพาสปอร์ตเราส่งให้กับ ตม อีกคนในห้องเย็น พร้อมทั้งเชิญเราไปที่ห้องเย็น เพราะว่าประหลาดใจกับความตั้งใจที่จะอยู่อเมริกา เป็นระยะเวลา สามเดือนด้วยวีซ่าท่องเที่ยว โดนจี้ถามถึงการมาอเมริการอบก่อน ๆ แล้วก็เน้นถามว่าทำไมลางานได้สามเดือน ยังดีที่เราตอบตามความจริง เคยพูดอะไรไว้ ก็ตอบตามนั้น ข้อมูลของตัวเองต้องแน่นพอ พร้อมโชว์ตั๋วเครื่องบินขากลับ กับจดหมายลางาน แถมยังท้าให้ ตม โทรไปถามที่ที่ทำงานด้วย แต่พอเข้าไปที่ห้องเย็นก็ไม่เห็นจะถามอะไรเลย   ปั้ม ปั้ม ปั้ม แล้วก็ให้ไป เปิดพาสปอร์ตออกมา ก้ได้ หกเดือน เหมือนเคย ประเทศนี้เวลาถูกถาม อย่าอ้ำอึ้งค่ะ ตอบอย่างมีสติ ทั้งนั้นทั้งนั้นรอบหน้าอาจจะเว้นระยะการมาให้นานหน่อย หรือไม่ก็ไปประเทศอื่น จากคุณ : BellaBrent เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 52 12:16:06

ความคิดเห็นที่ 4 ู^ ^ ^ ห้องเย็นนี่คืออไรเหรอครับ? ฟังดูยังกะแข่อาหาร อ่านแล้วน่ากลัวจัง ของผมก็มีครับ เคยเข้าอเมริกาแล้ว 2 ครั้ง ครั้งแรกเข้า sanfran ออก sanfran ไม่มีปัญหาใดๆ ครั้งที่สองเข้า seattle ออก newyork ก็ไม่มีปัญกาใดๆ แต่พอมาครั้งที่สามพอดีไปเรียนที่ montreal, canada แล้วจะเข้ามาเที่ยว ไม่รู้ด่านอะไรนะ แต่อยู่ระหว่าง montreal&newyork (ไป dc) ตม ออกแนวโหด (เดินทางโดย greyhound นะครับ) ตม - มาทำไร เรา - เที่ยวคร้าบ ตม - พักที่ไหน เรา - คนรู้จักคร้าบ เป็น diplomat อยู่ dc คร้าบ ตม - มีตั๋วเครื่องบินกลับมั๊ย เรา - (ก็โชว์เค้าไป เป็นตั๋วบินจาก toronto) ตม - แล้วตั๋วไป toronto มีมั๊ย เรา - ว่าจะมาซื้อที่อมเริกาครับ เพราะจองผ่าน greyhound ของ canada จะไม่ได้ส่วนลด ตม - แล้วมาทำไรที่ canada เรา - มาเรียน french คร้าบ ตม - มีใบเสร็จที่ลงทะเบียนเรียนมั๊ย เรา - (อึ้งไปนิดเพราะไม่คิดว่าจะขอดูเพราะเป็นของ canada อีกอย่างคือ เรียนจบคอร์สแล้ว เลยจะมาเที่ยว dc ก่อนกลับ เลยไม่ได้เตรียม) ไม่ได้เตรียมมาคร้าบ (รู้สึกเสียวๆไงไม่รู้) ตม - รร ตั้งอยู่ที่ไหน เรา - (ก็บอกไป) จากนั้นก็ถามเหมือนเดิม เหมือนดูเทป rewind เราก็เอ๊ะ ตานี่จะเอายังไงถามแล้วถามอีก มาคิดดูอีกที เค้าคงถามเอาชัวร์ว่าเรามา canada นี่มาเรียนจริงๆ ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ผ่านมาได้ (แบบใจไม่ค่อยดี) และรอบสามนี่ ตอนออกก็ออกทาง niagara falls - toronto พอถึงคิวเราปุ๊ป ตม ก็มองหน้าแล้วก็พยักหน้า เราก็เลยเดินเข้าไป เค้าก็พูดว่า ตม - เอิ่ม did i call you? พร้อมทำหน้ากวนเท้า เรา - well i saw you nod. ตม - but i didn't call u verbally did I. เรา - well, shall i go back? ตม - that's ok แล้วก็ไม่มีอะไรแล้ว จากคุณ : เจ้าแตงกวาดอง เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 52 14:19:18

ความคิดเห็นที่ 5 เราคิดว่าเวลาที่ ตม. ถาม เค้าตรวจเช็คกับฐานข้อมูลที่เราให้ข้อมูลไว้ตอนขอวีซ่า อันเนื่องจาก เราไปอเมริกาครั้งแรก ขอไป 3 อาทิตย์ และให้ข้อมูลเกี่ยวกับอาชีพการงาน ไปลงที่แอลเอ ตม.ถามว่า มานานแค่ไหน เราทำงานอะไร ทำตำแหน่งอะไร พอเราไปเรือครูซ กลับเข้าอเมริกาอีกครั้ง โดนถามแบบเดียวกันอีกว่า ทำงานอะไร ตำแหน่งอะไร คิดว่าเค้าคงตรวจสอบกับฐานข้อมูลที่ให้ไว้ จากคุณ : HuGGie เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 52 16:11:50

ความคิดเห็นที่ 6 มีเพื่อนเคยโดนส่งกลับ แต่ไม่ใช่ตอนเข้าเมืองได้ไหมคะ เพื่อนโดนตอนทำงานที่ร้านอาหารไทย ทางอิมมิเกรชั่นมีจดหมายมาว่าให้ออกนอกประเทศภายใน 7 วัน จากคุณ : ศรีธนา เขียนเมื่อ : 16 ธ.ค. 52 02:29:38

ความคิดเห็นที่ 7 อุ้ย ... เห็นเป็นกระทู้แนะนำไปแล้ว ตอบ ตหที่ สี่  ห้องเย็นก็คือ ออฟฟิศที่มีเจ้าหน้าที่ ตม มาสัมภาษณ์เรื่องการเข้าเมืองเพิ่มเติม พอดีเอาศัพท์คำนี้จาก ตอนที่เพือนพูดกันเกี่ยวกับ ตม ที่เกาหลี ที่เย็นก็เพราะมักจะรู้สึกหนาวเย็นเพราะเครื่องปรับอากาศ ผสมผสานกับความประหลาดใจ และความกังวลว่าทำไมถึงโดนเรียกไปนั่งที่ห้องเย็น Le bureau froid!!! ---> Selon quelques voyageurs, c'es't le bureau ou les autres officiels d'immigration continuent de vous interroger du but de visite au pays parmi l'atmosphere froide a cause du climatiseur. cela probablement augmente l'etonnement et l'angoisse des visiteurs. haha แก้ไขเมื่อ 16 ธ.ค. 52 05:23:01 จากคุณ : BellaBrent เขียนเมื่อ : 16 ธ.ค. 52 05:15:03

ความคิดเห็นที่ 8 เราว่าอะไร ๆ ก็ขึ้นอยู่กับการตอบคำถามของเรา ข้อสำคัญ คือ ต้องมีสติ ถ้าเราบริสุทธิ์ใจ ยิ่งง่ายเข้าไปใหญ่ แต่ถ้าพวกที่เข้ามาแบบแอบแฝง อาจจะโกหกไม่ถนัดปาก เป็นเหตุให้โดนส่งกลับ บวกกับเค้าเจอหลักฐานอื่น ๆ ประกอบ สมัยเราถือวีซ่าท่องเที่ยว เราเคยโดนเรียกตรวจเพิ่ม 2 ครั้ง เหตุเกิดที่ซานฟรานทั้ง 2 ครั้งเลย ครั้งแรก ต.ม เป็นคนจีน เรียกถามว่า มาทำอะไร เราก็ตอบไปปกติว่า มาเที่ยว และมาช็อป พร้อมกับระบุที่เที่ยวไปเรื่อย ๆ เค้าก็ไม่ได้ดูตั๋วขากลับแต่อย่างใด สรุป ต.ม ปั้มให้ 1 เดือน เราเดินออกมาแล้ว เพิ่งเห็นว่าได้แค่ 1 เดือน เรายังเดินกลับไปถามเค้าเลยว่า ปั้มให้แค่เดือนเดียวเองเหรอ ? แล้วเราก็บอกว่า เผื่ออยากจะอยู่นานเกินหนึ่งเดือน จะทำยังไง ? ต.ม เค้าก็ทำหน้าตกใจ บอกว่า "ขอโทษ ๆ ปั้มผิด" ว่าแล้วเค้าก็ปั้ม 6 เดือนให้ **************************************** ส่วนครั้งที่สอง ครั้งนั้นเจอเข้าห้องเดี่ยวเลย ห้องเล็ก ๆ เหมือนคุก เราใจแป้วมาก ๆ นึกว่า วันนี้โดนส่งกลับแน่ ครั้งนั้นไปกับแฟน (สามีคนปัจจุบัน) ต.ม เรียกเจ้าหน้าที่สายการบิน ให้ไปรับกระเป๋าเราออกมาทั้งหมด แล้วเอาออกมารื้อ ๆๆๆๆ เอาไดอารี่เราไปอ่าน เอากระเป๋าตังค์เราไปเปิด ถามเกี่ยวกับนามบัตรของทุกคน เสร็จแล้วไปเปิดเจอว่า เรามีใบเสร็จโรงแรมที่แฟนไปพักที่กรุงเทพ เค้าก็ถามว่า คนนี้เป็นใคร เราก็บอกว่า เป็นเพื่อนกัน เค้ายังถามว่า เป็นเพื่อนกันทำไมถึงจ่ายค่าโรงแรมให้ ? เราก็ยังเถียงว่า แล้วทำไมเพื่อนกันถึงจะจ่ายค่าโรงแรมให้กันไม่ได้ ? สุดท้าย ต.มบอกว่า ให้พูดออกมาตรง ๆ ว่า คน ๆ นี้เป็นใคร เราเลยบอกว่า เป็นแฟนกัน เดินทางมาด้วยกัน เค้าคงรออยู่ที่สายพานรับกระเป๋า ต.มเลยถามว่า ถ้าเค้าเดินออกไป แล้วถามผู้ชายคนนี้เกี่ยวกับเรา เค้าจะตอบว่า เค้าเป็นแฟนเรามั้ย ? เราก็บอกว่า "ก็หวังว่าจะเป็นอย่างนั้น" จากนั้น ต.ม ก็ออกไปคุยกับแฟนเรา พอเดินกลับมา ก็พลิก ๆ ดูพาสปอร์ตเรา เราก็นึกว่า วันนี้ได้กลับบ้านแน่ๆ ไม่ต้องไปไหนแล้ว แต่เค้าถามต่อว่า ทำไมถึงเลือกมาอเมริกา เราก็เลยบอกไปว่า เราว่าเป็นประเทศที่น่าสนใจ มีภูมิประเทศและภูมิอากาศทุกแบบ มีวัฒนธรรที่หลากหลาย คือ ณ จุดนี้ จะใส่น้ำตาลให้หวานแค่ไหน ก็ใส่ไปเถอะค่ะ เชื่อมั้ยว่า ตอนเค้าโยนพาสปอร์ตกลับมาให้ แล้วบอกว่า "เที่ยวให้สนุกนะ" เรามือสั่นมาก ๆ รีบ ๆ ขอบคุณ แล้วรีบวิ่งออกเลย กลัวเค้าเปลี่ยนใจ ฮ่า ฮ่า จากคุณ : Lilac Girl เขียนเมื่อ : 16 ธ.ค. 52 06:15:07

ความคิดเห็นที่ 9   จากประสบการณ์ตรง เพิ่งบินมาแอลเอไม่เกินสองเดือนด้วยวีซ่าF1ค่ะ ตอนแรกก็กังวลซะเส้นเลือดปูดว่าไม่รอด ตม แน่ๆ เพราะภาษาแย่มากๆๆๆ แถมที่บ้านยังขู่มาซะเยอะว่าจะต้องโดนตรวจกระเป๋า โดนกักตัวสารพัด หรือแย่สุดคือโดนส่งกลับ ตั้งใจไปตายเอาดาบหน้า แต่พอถึงเวลาจริงๆ ผ่านเข้าอเมริกาง่ายจนเหลือเชื่อ แทบไม่ถามไรมากมาย เพราะออกตัวกับตม ว่ามาเรียนภาษาเพราะภาษาชั้นแย่มากมาย ยูน่าจะรู้ได้นะ55 จริงๆ ไม่ค่อยห่วงเรื่องสัมภาษณ์กับ ตม เพราะมาเรียนภาษาจริงๆ แต่ห่วงสัมภาระ3ใบยักษ์ ที่จะรอดการรื้อค้นรึเปล่า เพราะบางคนกระเป๋าใบเดียวยังโดนเข้าช่องตรวจค้น แล้วนี่กระเป๋าเดินทางไซส์ใหญ่สุด3ใบ มีหรือจะรอด555 พอถึงคิวตรวจ ตม ผู้ชายวัยดึกทำหน้าอึ้งๆ แล้วถามว่า อะไรอ่ะ...เป็นพวกสินค้ารึเปล่า เราก็ตอบไปตรงๆ ว่าเสื้อผ้าชั้นทั้งนั้น ตม ก็ทำหน้าเหวอๆ ดูพาสปอร์ตแล้วปล่อยผ่านมาชิวๆ เฉยเลย ก็เลยไม่แน่ใจว่า ตม อเมริกาเค้าใช้อะไรวัดในการจะรื้อค้นสัมภาระ กักตัว หรือส่งกลับอ่ะค่ะ จากคุณ : 00 เขียนเมื่อ : 16 ธ.ค. 52 09:21:03 A:75.4.203.147 X: TicketID:232266

ความคิดเห็นที่ 10 แชร์มั่งๆ  แบบว่าแค้นฝังหุ่น ตม.ครั้งล่าสุดมาก ปีที่แล้ว   (ครั้งที่1 และ 2 ไม่มีปัญหา) ที่ซานฟราน  เข้าช่อง ตม.คนใหม่ สงสัยคิดว่าเราฟังไม่รู้เรื่องมีถามหัวหน้าด้วยว่าต้องถามยังไงบ้าง  ไอ้เราก็คิดในใจหวานหมู แน่ตรู  อุตส่าห์เอายิ้มสยามเข้าสู้   ฮ่า ฮ่า ฮ่า  ก็ตอบไปตามความจริงนะ ว่ามาทำอะไร อยู่กี่เดือน มาหาแฟน คบกันนานแค่ไหน บลาๆๆๆ ปรากฏว่าโดนส่งเข้าห้องเย็นซะงั้น  ดีหน่อยมีเพื่อนในนั้นเยอะเลย  อย่างน้อยก็ไม่ใช่เราคนเดียววะ หุหุหุ จากนั้นโดนยัยป้า ตม.หน้าบูดเรียกไปถาม  กลัวป้าแกมากดันตอบว่ายังทำงานบริษัทอยู่ซะงั้น ยัยป้าเลยถามว่าทำไมลามาตั้ง 6 เดือน  คิดในใจเสร็จแน่ตรู ตอบผิดว่ะ   โชคช่วยโทรศัพท์ยัยป้ามา  มีเวลาคิดแก้ตัวอีกหน่อย  แต่ด้วยความเครียดจัดบวกกะไม่ได้ทำภาระกิจส่วนตัวตอนอยู่บนเครื่อง  ก็เลยตดใส่ยัยป้า 1 ปุ๋ง  (เหม็นคอดๆๆ  ขอบอก)  ยัยป้าหน้าบูดมองหน้า  แล้วโยนพาสปอร์ตไปให้ ตม.อีกคน แล้วไล่เราไปหาที่นั่ง   อิอิอิอิ  โชคดีมีเวลาแก้ตัวใหม่ ตม. อีกคน + กะหัวหน้าผู้ชายก็เรียกเรามาถามอีกครั้ง อย่างใจดีเลย มียิ้มให้ด้วย   ก็ถามคำถามเบสิกแหละ มาทำไม มาหาใคร อยู่ที่ไหน คนมาหาทำงานอะไร เราทำงานอะไร   บลา บลา แล้วก็หยิบพาสเรามาดูว่าครั้งสุดท้ายมาเมื่อไหร่  โชคดีเว้นไม่ได้มาเมกา 1 ปี  พอรู้ว่าแฟนถือวีซ่าทำงานและไม่ได้เป็นเมกัน  ก็ไม่ถามไรต่อปั๊มพาสให้ 6 เดือน ผ่านมาอย่างชิวๆ  มีขอดูบัตรเครดิตด้วยนะ  ถ้าใครมีบัตรก็อย่าลืมพกไปไว้กันผีด้วยล่ะ พอออกมาเอากระเป๋าก็นึกขำตัวเองได้ตดใส่หน้ายัยป้าหน้าบูดด้วย  สมน้ำหน้า  ฮ่า ฮ่า ฮ่า จากคุณ : มาม่าน้ำข้น เขียนเมื่อ : 16 ธ.ค. 52 09:28:45

ความคิดเห็นที่ 11 โชคดีเราไม่เคยเจอ ตม. โหด ๆ ส่วนใหญ่จะเจอแต่ ตม. ใจดี แต่กลายเป็นว่าเราใช้เวลานานที่สุดกว่าจะผ่านด่าน ตม ออกมาได้ ...เพราะ ตม. ส่วนใหญ่ที่เราเจอ เคยไปเมืองไทยมาแล้วทั้งนั้น โดยเฉพาะภูเก็ต... นี่เลยล่าสุด  พอเห็นเราเป็นคนไทยเท่านั้นล่ะ พี่ท่านก็เริ่มเล่าช่วงเวลาแห่งความสุขในภูเก็ตให้เราฟัง(โชคดีวันนั้นคนไม่เยอะ เลยได้เล่ายาวหน่อย) ไอ้เราก็ไม่เคยไปวุ้ย...ภูเก็ต ก็ได้แต่ยืนฟังตาปริบ ๆ เแล้วก็ตามน้ำไปเลย เราเลยบอกเค้าไปว่าเราไม่เคยไปหรอก ช่วยแนะหน่อยสิว่าต้องไปไหนบ้าง ไปยังไง พักที่ไหน ราคาเท่าไหร่ บลา ๆ ๆ ๆ พี่ท่านก็แนะนำให้เสร็จสรรพเลย(กลายเป็นว่าเราต้องสัมภาษณ์ ตม. แทน)แถมโดนเหน็บอีกต่างหากว่าเป็นคนไทยประสาอะไร...ไม่เคยไปภูเก็ต... ------------------------------------------------- แต่จำได้ว่า...ครั้งแรกที่มาเมกา เรา declare ว่ามีของกิน เป็นปลาทอด ก็เลยโดนตรวจกระเป๋าอีกรอบ แค่เอาเข้าเครื่องสแกนเฉย ๆ ไม่ได้ต้องเปิดกระเป๋า แต่ จนท ก็ไม่ได้เจออะไรน่าสงสัย ก็เลยปล่อยเราไป....ฮู่วววว โล่งอก เกือบได้โดนพรากปลาสลิดทอดไปซะแล้ว จากคุณ : prinzessin เขียนเมื่อ : 16 ธ.ค. 52 10:05:26

ความคิดเห็นที่ 12 คุณ : มาม่าน้ำข้น You make my day.. จากคุณ : PatPDX เขียนเมื่อ : 16 ธ.ค. 52 10:08:09

ความคิดเห็นที่ 13 แวะมาอีกรอบ เพื่อบอกว่า หลังจากพ้น ตม.แล้ว ไปรับกระเป๋า มันจะต้องเดินผ่านอีกด่านนึง (เรียกอะไรหว่า) อาจจะโดนเรียกตรวจกระเป๋า เราเดินลากกระเป๋าไป ในใจนึกว่า อย่าโดนเรียกเปิดเลย เพราะเห็นคนที่โดนเปิด โดนรื้อซะ....จัดกลับคืนไม่ถูกเลย พอถึงคิวเรา จนท.ผู้ชาย มองพาสปอร์ตแล้วพูดว่า "สวัสดีครับ" แหม.....ภาษาไทยชัดเชียว แล้วก็ถามอีกละ มากี่วัน ทำงานอะไร ตำแหน่งอะไร รู้จักใครที่นี่มั้ย คุณถือกรีนการ์ดรึเปล่า ก็ตอบๆ ไป แล้วพี่แกก็มีการหยอดส่งท้ายว่า you are very beautiful กรี๊ดดดดดดด ประโยคนี้ได้ใจ ไอเลิฟยูเอสเอทันที อิอิ จากคุณ : HuGGie เขียนเมื่อ : 16 ธ.ค. 52 10:38:51

ความคิดเห็นที่ 14   เคยโดนตอนเดือนที่ผ่านมาค่ะ ไปลงที่ seattle เดิอนผ่านเข้าช่อง ตม ผู้ชายทักเป็นภาษาไทย ก็ถามว่ามาทำไม นานเท่าไหร่ ทำงานอะไร ผู้จักใครไหม พักที่ไหน ตอนที่ไปขอวีซ่าบอกไปว่ายังไม่ได้ทำงาน แต่รอต่อโท อยู่ แล้วขอไปเที่ยว 15 วัน แต่ตอนที่มาถึงเราก็บอกเขาไปว่ามา 24 วันเพิ่มไปอีก 9 วัน แล้ว passport ก็มีวีซ่า อเมริกา อย่างเดียว เพราะเพิ่งเปลี่ยนเล่มใหม่ตอนที่ไปขอวีซ่า  จากนั้นเขาก็ยื่นบแดงให้ เเล้วก็บอกให้เดินไปรอ  คนที่รอก็มีคนไทย 3คน เราเป็นคนสุดท้ายที่เขาเรียก แล้วตมผู้ชายก็ถามอย่างเดิมซักพักก็บอกให้เราไปเอากระเป๋า เราก็เดินไปยกขึ้นมากก็เปิดกระเป๋า ถือ สมุดโน๊ต ( มีแต่เบอร์แบงค์ แล้วก็เบอร์ที่เมืองไทย ) flight บินกลับไทย แล้ว flight บิน ไป ซาน ฟราน, L.A, phoenix  แล้วตั๋วกลับ sea แล้ว booking ของโรงแรม แล้วก็ค้นกระเป๋าไหญ่ รื้อออกหมดเลยค่ะ แล้วเขาก็บอกว่าทำไมเอาของมาน้อย ( เสื้อผ้าเต็มกระเป๋า 24 นิ้ว ) เราก็บอกว่า มาเที่ยวแค่นี้ก็พอ ไม่ได้จะมาอยู่ หรือ มาเรียน แล้วก็ถามว่า เอาเงินมาเท่าไหร่ เสร็จแล้ว เขาก็บอกให้ pack ของ แล้วเดินออกไปหาเขาข้างนอก สุดท้ายก็ได้มา 6 เดือน แต่ก็กลับมา ตามที่บอกไป 24 วัน ....( ตอนที่โดนเข้าห้องเย็นรู้สึกแย่มาก ) คิดในใจอยากจะกลับบ้านแล้ว เพราะรู้สึกไม่ดีเลยเหมือนกับว่า อารมณ์อยากจะเที่ยวอเมริกาหมดไปเลย เราเดินผ่าน ตม ที่อื่น ใน ยุโรป ก็ไม่เคยมีปัญหา ก็อาจจะเป็นเพราะเราตอบไม่ตรงกับวันที่ไปขอวีซ่า แต่ก็คงจะไม่กลับไปเที่ยวอีกนานเลยค่ะ จากคุณ : เซ็งเลย (superpamster) เขียนเมื่อ : 16 ธ.ค. 52 12:56:36

ความคิดเห็นที่ 15 แหง่ว เข้ามาอ่านแต่ละความเห็นเจอกันแบบน่ากลัวจังค่ะ ของเราเจอแบบน่ารักๆทั้งนั้นเลยอ่ะ เอาที่จำได้นะคะ เมื่อสองปีก่อน ตอนนั้นมา ขาเข้า ตม แบบ หล่อโฮกๆๆ ทำสายตาหมาหยอกไก่ เราก็เลยแบบ สาวไทยยิ้มสวย ให้เลย อิอิ สรุปมีแซวเราเล็กน้อยแล้วก็สแตมป์ให้อย่างง่ายดาย หก เดือน อิอิ ตอนนั้นยังไม่แต่งงานด้วย อันนี้ ต ม ที่ชิคาโก ค่ะ ส่วนล่า รอบนี้มาลง แอล เอ เจอ ตม หน้าตาเหมือนดุ พวกเสื้อยิ้มยาก ตอนแรกเราก็กลัวว่าจะถามไรเยอะแยะ แต่ก็ไม่ค่ะ เราก็สาวไทยยิ้มสวยไปอีกแล้ว อิอิ เค้าก็คุยถามกันเองอ่ะ ว่ามาทำไม เราก็เลยบอกว่ามาเยี่ยมเพื่อน แล้วอีกสองอาทิตย์ก็ไปชิคาโก เค้าก็ถามแค่ประมาณนี้เอง มีการบอกอีกว่ามีเพื่อนที่รู้จักเป็นคนไทยด้วย อิอิ เราก็ยิ้มๆแล้วก็บอกว่า ขอบคุณ เป็นภาษาไทย ฮ่าๆๆ เราว่าทางที่ดียิ้มไว้ก่อนค่ะ เรานะมาแรกๆตั้งแต่พูดภาษาไม่ได้ เราก็ยิ้มๆๆๆนี่แหล่ะ ไม่เคยโดนอะไรเลย พวกที่ตั้งใจตอบคำถามมากกๆเตรียมตัวมามากๆนี่บางทีดูเครียดๆ ตม เลยจ้องเป็นพิเศษค่ะ ต้องขออภัยด้วยนะคะถ้าตอบไม่ตรงคำถามจขกท อิอิ แต่อยากแชร์ว่าทำใจร่มๆสบายๆ ถ้าเราไม่ได้มีเจตนาไม่ดี ยังไง ตม ก็ทำอะไรไม่ได้ค่ะ จากคุณ : สยามเมืองยิ้ม (แฟนสาวฮัตโตริคุง) เขียนเมื่อ : 16 ธ.ค. 52 13:52:11

ความคิดเห็นที่ 16   แชร์บ้างค่ะ เคยมาวีซ่าท่องเที่ยวสอบรอบ ขอบอกว่าตอนสัมภาษณ์บอกว่าไปเที่ยวพักโรงแรม แต่พอกรอกเอกสารขาเข้าเราก็กรอกที่อยู่แฟน  กลัวมากกกกกกก แต่รอดมาได้ ไม่ถามมาก ปั๊มให้ 6 เดือน รอบสอง ถามเหมือนเดิม แต่ขอดูตั๋วขากลับ ขอดูเงินกะบัตรเครดิต เรากำลังจะควัก เขาก็ไม่อยากดูซะงั้น รอบสาม มาวีซ่า คู่หมั้น เจอคำถามเดียวแค่ รู้ไหมต้องแต่งงานภายใน 90 วัน เราตอบ Yes ก็เข้ามาได้ จากคุณ : Bo (BeauUSA) เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 52 00:58:47

ความคิดเห็นที่ 17 อาจจะไม่ค่อยเกี่ยวกับที่ถาม แต่มีประสบการณ์โดนเรียกครั้งสองครั้ง ตอนที่รอกรีนการ์ดอยู่ แล้วเราขอ  advance parole หรือเอกสารที่ใช้เดินทางเข้า ออกนอกอเมริกาได้แบบชั่วคราว  ขากลับเข้ามา จำไม่ได้แม่นว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง ที่แน่ๆ คือถูกกันออกมานั่งรอที่อีกแผนกนึง ให้เจ้าหน้าที่เช็คอะไรไม่รู้ในคอม  ก็ ปรากฏว่า ในเอกสารน่ะชื่อเราก็จริง แต่เลขประจำตัวคนต่างด้าว (น่าจะเรียกงี้นะ) เป็นของคนอื่น  แอร๊ย ...  จริงๆ มันเป็นความผิดพลาดของเจ้าหน้าที่ที่ออกเอกสาร แต่เราก็มีส่วนผิดด้วยที่ไม่ได้เช็คให้ถี่ถ้วน เห็นเป็นชื่อเราก็โอเค..จบ  ยังไงตรวจตรา เอกสารกันดีๆ นะคะ  คราวนั้นเราโชคดีที่สามีอยู่ด้วย เขาก็เลยเป็นคนคุยและอธิบาย ไม่งั้นถ้าเราจัดการเอง คงเงอะๆ งะๆ น่าเสียวถูกส่งออกนอกประเทศมาก แต่จากนั้นไม่มีปัญหาค่ะ นอกจากครั้งล่าสุดดันคุยโทร. นัดสามีให้มารับตอนรอตรวจ พาสปอร์ต โดนตม.มองตาขวาง แถมคนข้างหลังสะกิดเตือนด้วย (ไม่รู้นี่นาว่าห้ามโทรศัพท์  แง...) จากคุณ : พริม @ Santa Monica เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 52 01:34:18

ความคิดเห็นที่ 18   ขอแชร์ด้วยคนนะคะ ครั้งแรกที่เดิมทางเข้ามาที่อเมริกา เราเดินทางมาด้วย F1 visa ลงที่ LAX ก่อน รร เปิดสักหนึ่งเดือนได้และ I-20 ระบุว่า รร อยู่ที่ Hawaii ก็ไม่ได้ถามอะไรเลย ทั้งตอนขอวีซ่าและตอนเข้ามาถึง LA (เรามาเรียน ป ตรีที่นี้) จากนั้นก็แต่งงานแล้วได้ greencard กลับบ้านไปก็ไม่มีปัญหาอะไร จนหนึ่งวันก่อนกลับก็มีข่าวผู้ก่อการร้ายถูกจับที่ Heathrow Airport หรอไงนะคะ จำไม่ค่อยได้เรื่องพยายามจะนำสารเคมีของเหลวขึ้นเครื่อง ก็ตอนนี้แหละค่ะที่เราถูกตรวจค้นเยอะมาก ทุกสารการบินที่จะเข้ามาที่สหรัฐ มาถึง ตม LAX ก็ถูกขอตรวจ passport ขอดู greencard แล้วถามเรื่องเรียนและก็ส่งตัวให้ไปนั่งรอเรียกถามอีกทีที่ห้องรวม คนเยอะมากๆ ทุกคนมองดูเป็นชาวต่างชาติหมด ที่ไม่ใช่ white westerners ทั้งคนที่เป็น US citizens และถือ greencard และ นร เยอะมากๆ ที่ทราบว่าเป็น US citizen และถือ greencard เพราะว่าเห็นและก็นั่งรอนานหลาย ชม มากๆกว่าจะถูกเรียกตัวไปคุย และไม่ได้ถูกถามอะไรมากเลย แค่เรื่อง trip ที่ไปนี้ไปกี่วัน ทำไรบ้าง ไม่ถึง 5 นาทีด้วยซ้ำก็ถูกปล่อยออกมา จากที่เดินทางมาถึงตอน 5 โมงเย็น ไม่ได้ออกไปจาก LAX เลยจนทุ่มกว่าๆ และก็ไม่อนุญาตให้ติดต่อคนภายนอก ดังนั้นสามีและครอบครัวที่นี้ก็ได้แค่รออยู่ข้างนอก เขาก็กลัวว่าเราจะถูกส่งกลับมากๆ (เราถือ greencard นานเหมือนกันก่อนที่จะเดินทางกลับเมืองไทยค่ะ) ในห้องนั้นก็มีเรื่องวุ่นๆมากๆ เพราะหลายๆคนไม่พอใจ แถมมีกลุ่มคนเหมือนจะมาจากแถบ Middle East ที่ไม่ยอมให้ความรวมมือทั้งไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่ดู passport หรือตอบคำถาม ก็เกร็งๆอยู่เหมือนกันว่าจะต้อง whitness อะไรที่ไม่อยากดู นี้เป็นครั้งเดียวที่ถูกเรียกตัวออกไปต่างหาก ทุกๆครั้งก็ผ่านมาเลย โดยไม่มีเรียก หรือถามอะไรมากมายค่ะ จากคุณ : อยากมีส่วนร่วมค่ะ เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 52 08:21:07 A:68.111.137.180 X: TicketID:208910

ความคิดเห็นที่ 19   ^ ^ ^ ความเห็นที่ 18 แก้คำผิดค่ะ เดินทาง ไม่ใช่ เดิมทาง และก็ witness ไม่ใช่ whitness อิอิอิ จากคุณ : อยากมีส่วนร่วมค่ะ เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 52 08:30:37 A:68.111.137.180 X: TicketID:208910

ความคิดเห็นที่ 20 ไหนๆ ก็เป็นเรื่องเกี่ยวกับ ตม. แล้ว ขออนุญาตถามด้วยเลยนะคะ คือว่าหลานอายุ 14 จะต้องเดินทางไปอเมริกาคนเดียว แต่เป็นวีซ่า IR2 เราใช้บริการ Unaccompany Minor แล้ว แต่ก็อดห่วงไม่ได้ว่าหลานเราจะต้องเจอคำถามจาก ตม อะไรบ้างรึเปล่า อยากจะทราบว่าทางเจ้าหน้าที่ที่ทำหน้าที่ดูแลสามารถช่วยเหลืออะไรได้บ้างมั๊ยคะ ?? ขอบพระคุณทุกความเห็นล่วงหน้าค่ะ -/l\- จากคุณ : Vesp@ เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 52 11:22:18

ความคิดเห็นที่ 21 พาน้องไปเที่ยวคานาดา กลับเข้ามา ตม. ถามว่ารู้จักกันได้ยังไง คือเขาสงสัยยังงั้น เพราะว่าคนละนามสกุลค่ะ ป้าตอบว่าเป็นน้องสาวของป้าเอง   ตม.เลย ล้อ ถามยิ้มๆว่า อ้าว ไปเที่ยวด้วยกัน ยังพูดด้วยกันดีอยู่หรือ หุหุหุ  คือเขาหมายความว่าทำไมไม่ทะเลาะตบตีกันมั่งหรือ อะไรแบบนั้น แต่ตม. คานาดาสิ จะเอาเรื่อง   ป้าออกจดหมายรับรองให้น้องเวลาเขาไปขอวีซ่าเข้าอเมริกาไง บอกว่าน้องเขาติดตามสามีมาเที่ยวตอนสามีเขามาประชุม จะมาพักกับป้า   แล้วสามีเขากลับก่อน น้องเขาจะกลับตอนสามีเขากลับมาประชุมรอบที่สองที่ชิคาโก ไม่ทราบเลยว่าเขาเอาข้อความใส่ไว้ในคอมพิวเตอร์เขา   ถามใหญ่เลย ว่าแล้วสามีไปอยู่ที่ไหนล่ะ เลยบอกเขาไปว่ากำลังประชุมอยู่   เกือบไปไหมล่ะ คราวหน้าจะบอกน้องว่าไม่ต้องใช้จดหมายรับรองหรอก ทำให้ยุ่งเปล่าๆ ปกติเขาก็ำได้วีซ่าง่ายๆอยู่แล้ว จากคุณ : ป้านี่เอง (ป้านี่เอง) เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 52 12:10:00

ความคิดเห็นที่ 22 ^ ^ Upon arrival at XOX International Airport, an immigration officer asked me after he saw my passport cover, "Do you crews have Business Cards too?" Well, I blinked my eyes and replied, "Certainly sir, would you like one?"   PS ... My True story, seriously ... จากคุณ : Coconut Dance : เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 52 12:20:29

ความคิดเห็นที่ 23 ตม ซานฟรานโหดม๊ากมากกกกกกกก โดนด่าไปหลายรอบกว่าจะผ่านมาได้ จากคุณ : OhBoW เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 52 00:17:17

ความคิดเห็นที่ 24 ขอแชร์นิดนึงค่ะ ถึงแม้จะไม่โดนเข้าห้องเชือด แต่ว่า กำลังต่อแถว (ที่แอลเอ) มีเจ้าหน้าที่คนจีน เดินมาพูด $%#$^@%& "" เราก็ ห้ะ พูดอะไรนะ ... ภาษาเราก็ไม่ได้เก่งอะไร เค้าก็พูดอีก เราก็ฟังไม่ออกอีก จนเราหมดปัญญา เราบอก I'm really sorry นะ แต่ฟังไม่ออกเลยสักคำหว่ะค่ะ เค้าก็เลยหยิบเอกสารในมือเรามาดู แล้วชี้ๆว่า Where are you from ?? เราก็บอก Thailand ชีก็มองเหยียดๆ แล้วก็เดินไป ทำเอาเราใจหายสุดๆๆๆๆ แบบเสียเซฟด้วย กลัวถึงตม. จริงๆจะฟังเค้าไม่ออกอีกรอบ ตายแน่นอน ตายแน่ๆๆๆ ปรากฏ ตัวเจ้าหน้าที่ตม.เองไม่มีอะไรเลย เป็นมิตรมากๆ จากคุณ : ขนมฮ่าๆ* เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 52 08:34:32

ความคิดเห็นที่ 25 น้องสนิทเราคนนึงตอนแรกบินไปอเมริกาด้วยวีซ่าทำงาน  แต่ตอนกลับไม่ได้ขนของกลับมาด้วยเพราะกะว่าจะกลับเข้ามาอีกรอบ กลายเป็นว่ากลับมาอีกรอบด้วยวีซ่าท่องเที่ยว ตอนโดน ตม.สัมภาษณ์น้องเค้าก็ตอบไปตรงๆ ว่าจะมาเก็บของที่มาทำงานครั้งที่แล้ว  ผลคือโดนส่งกลับภายใน 24 ชั่วโมงเลย ฟังแล้วน่าตกใจทีเดียว  ในกรณีนี้คาดว่าเป็นการใช้วีซ่าผิดประเภทน่ะค่ะ จากคุณ : ส้มฉุน (iamjunenumberone) เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 52 12:19:04

ความคิดเห็นที่ 26 ดูความเห็นที่ 25 แล้ว กลับมาเก็บของที่ทำงาน ก็แปลว่าไม่ได้มาทำงาน มาเก็บของแล้วก็เที่ยวด้วยก็ได้นิครับ มันออกจะก้ำกึ่งกันนะผมว่า ทำไม ตม ใจร้ายจัง จากคุณ : ACUMI 86 เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 52 16:41:00

ความคิดเห็นที่ 27 เคยโดนส่งเข้าห้องเย็นเหมือนกันคะ ถือวีซ่า J1 บินไปเยี่ยมแฟน(เดนมาร์ก)ช่วงก่อนคริสมาสจนถึงหลังปีใหม่ประมาณหนึ่งเดือน กลับเข้าอเมริกอีกทีที่ Boston เจอเรียกไปสอบเดี่ยว 555 จำได้ว่าวีซ่าหมดวันที่ 16 มกราคม แล้วดิฉันบินเข้ามาอเมริกาวันที่ 14 มกราคม ตม.ถามว่าแน่ใจนะว่ากลับเข้ามาได้ ดิฉันก็เถียงว่าทำไมจะไม่ได้ในเมื่อวีซ่ายังไม่หมดอายุแล้ววีซ่า J1 ก็อยู่เที่ยวได้อีก 1 เดือนหลังวีซ่าหมดอายุแล้ว เจ้าหน้าที่ก็เชิญไปคุยเดี่ยวด้วย แต่ก็ไม่ได้ถามอะไรมาก สุดท้ายก็ปล่อยออกมาพร้อมกับพูดว่า " Welcome back to America" เป็นความประทับใจแบบเสียวๆคะ จากคุณ : sunisaogkim เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 52 07:09:59

ความคิดเห็นที่ 28 ถ้าอ่านกระทู้ให้ดี จขกท เขียนไว้อย่างชัดเจนว่า....ที่ได้ถูกตั้งคำถามและตอบไม่ตรงกับที่ได้เคยให้ไว้ตอนสัมภาษณ์ เป็นเหตุให้ถึงกับห้ามเข้าเมืองและถูกส่งกลับ... และจะขอขอบคุณมากยิ่งขึ้น ถ้าจะมีผู้ที่เคยโดนส่งกลับไม่ว่าจะด้วยสาเหตุอะไรก็แล้วแต่ .... เราอ่าน คคห ข้างบนแล้ว ทั้งหมด ก็ประเภท..ไปไหนมาสามวาสองศอก.. สมชื่อ จขกท ก็ไม่ว่ากันนะ จากคุณ : ธนิตา เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 52 07:12:41

ความคิดเห็นที่ 29 เเชร์ประสบการณ์เป็นเรื่องที่ดีครับ  คนบางคนเดินทางบ่อยก็ไม่ค่อยอยากฟัง  คนส่วนมากเค้าไม่เคยหรือไม่ค่อยเดินทาง พอได้ไปบ้างเค้าก็จำเป็นความประทับใจ มันจะเป็นอะไรไปครับ  เจ้าของกระทู้เองเขายังไม่ว่าอะไรเลย จากคุณ : ส้มฉุน (DLC) เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 52 08:16:17

ความคิดเห็นที่ 30 คุณส้มฉุน (DLC) ในความคิดเห็นที่ 29 เป็นคนเดียวกับ คุณส้มฉุน(iamjunenumberone) ในความคิดเห็นที่ 25 หรือเปล่า การที่คุณบอกว่า ...เจ้าของกระทู้เองเขายังไม่ว่าอะไรเลย..... นี่ก็เป็นการเดาอีกของคุณ เพราะ จขกท เขายังไม่ได้พูดอะไรซักนิด เขายังเงียบอยู่ แล้วคุณจะไปรู้ได้อย่างไร การที่คุณ เขียนในความคิดเห็นที่ 25 ถ้าเป็นคนเดียวกัน ก็ประเภท ..ไปไหนมาสามวาสองศอก.. จริงไม่ล่ะ เพราะ จขกท เขาหมายถึง เรื่องที่เกิดขึ้นจริงกับคนเขียน แต่ของคุณเกิดกับคนอื่น แล้วเราก็บอกแล้วว่า...สมชื่อ จขกท ก็ไม่ว่ากันนะ..ไปแล้วด้วย ก็กลับไปอ่านใหม่ แล้วถ้ายังอยากต่อความยาว สาวความยืด ก็ขอเชิญตามสบาย ขออย่างเดียว ถ้าเป็นคนเดียวกัน ก็น่าจะเลือกใช้ ค่ะ หรือ ครับ เอาอย่างเดียวนะ จากคุณ : ธนิตา เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 52 12:07:10

ความคิดเห็นที่ 31 ขอแชร์บ้างจ้ะ อีป้าเพิ่งมาอยู่อเมริกาได้ครบ 1 เดือนเมื่อวานนี้เอง อีป้าเข้าเมืองที่มินิอาโพลิส ด้วยวีซ่า K1 ก่อนลงจากเครื่องลุงก็ข่มขู่อีป้าว่าระวังตัวไว้ให้ดี จะต้องถูกซักถามและข่มขู่แน่นอน เพราะนี่เป็นนิสัยของตม.ที่นี่ แต่ว่าทันทีทันใดที่อีป้าเปิดกระเป๋าเดินทางใบน้อย หยิบเอาซองสีน้ำตาลออกมาถือไว้ เจ้าหน้าที่ตม.อเมริกันหนุ่มหล่อ ก็ตะโกนบอกอีป้าว่า วีซ่าคู่หมั้น เชิญช่อง 2 อีป้าเดินไปถึงก็พบว่าช่อง 2 นั้นปูพรมแดงเอาไว้ แล้วก็มีเจ้าหน้าที่ชายชาวเอเซีย ตัวเล็กๆ ตะโกนบอกอีป้าว่าเชิญเลยๆ อีป้าก็เลยได้เดินบนพรมแดงดุจดาราฮอลลีวู้ด ตั้งแต่ด่านตม.เลย ถ้าทุกคนจะคิดว่านี่เรียกว่าเป็นประสบการณ์น่าประทับใจแล้วละก็ ยังก่อนจ้า โชคดียิ่งกว่านั้น พออีป้ายื่นพาสปอร์ตตราครุฑให้เจ้าหน้าที่ชาย ชาวเอเซียคนนั้น เขาก็พูดกับอีป้าด้วยภาษาไทยอันชัดถ้อยชัดคำว่า "สวัสดีครับ" โอ้ !!!!! อีป้าอยากจะร้องออกไปว่า "ประเทศไทย รวมเลือดเนื้อ ชาติเชื้อไทย..." อารมณ์อีป้าประมาณว่าอยากจะร้องเพลงชาติไทยให้เค้าฟังจริงๆ (-_-") แต่อีป้ายังไม่แน่ใจนัก ว่าเขาเป็นคนไทยหรือเปล่า อีป้าก็ได้แต่แอบอ่านชื่อของเขา เป็นชื่อยาวๆ ประมาณ พลฯ อะไรสักอย่าง (แต่ไม่ใช่ พล นิกร กิมหงวนนะ 555) สุดท้ายเดาไม่ออก แถมเค้ายังพูดภาษาไทยกับอีป้าเกือบทุกคำ เวลานำเลขก็ยังนับพึมพัมเป็นภาษาไทยอีกแน่ะ จะสร้างความประทับใจไปถึงไหนจ๊ะพ่อคู้ณ !!!! อีป้าสุดจะทน ก็เลยถามออกไปเป็นภาษาอังกฤษว่า "คุณไปเรียนภาษาไทยมาจากไหนคะ" เขาก็เลยเฉลยออกมาว่า "ผมเป็นคนลาวน่ะ" อ้าว ! เฮ้ย ! "สบายดีหลวงพระบาง" น่ะสิเนี่ย 5555 อีป้าอยากขอบคุณเขามาก ด้วยการพาเขาไปเลี้ยง ลาบ ส้มตำ น้ำตก ซกเล็ก กินกันให้แซ่บไปเลย ที่เขาสร้างความประทับใจแรก ให้กับอีป้าได้เหยียบแผ่นดิน อเมริกาด้วยรอยยิ้ม อีป้าเสียใจกับทุกคนที่เจอประสบการณ์ร้ายๆ ของตม. อเมริกาด้วยนะจ๊ะ สำหรับอีป้าแล้วดีใจมากมาย ได้เจอตม. คนลาวเนี่ย เย้ๆ จากคุณ : Epa (littlebitlittlemore) เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 52 07:17:11

ความคิดเห็นที่ 32 ฮ่าๆๆๆ ส้มฉุนคนละคนกันครับคุณธนิตา  จริงๆถ้าคุณดูรายชื่อเเล้วก็น่าจะรู้นะครับ ว่าเป็นชื่อที่ลงทะเบียนทั้งสองชื่อ  ไม่ได้ใช้บัตรผ่านเลยครับ  หรือดูลักษณะการเขียนเเล้วพิจารณดูดีๆอีกสักครั้ง อาจจะเห็นความเเตกต่างนะครับ หรือไม่ก็เช็คจาก IP ได้นะครับถ้าคุณมีเวลาเยอะ  ผมเชื่อว่าอาจจะมาจากคนละทวีปก็ได้ครับ ปล เรื่องกระทู้ผมยอมล่ะ เพราะผมเดาว่าเจ้าของกระทู้เขาไม่ได้ว่าอะไรจริงครับ ปล ต้องขออภัยคุณธนิตาเป็นอย่างสูงครับ  ผมอ่านการตอบของคุณทีไรไม่เคยเข้าใจเลยครับ  กระทู้เก่าๆผมก็พูดหลายครั้งล่ะว่าอ่านคุณตอบไม่ค่อยรู้เรื่องเลยดูมันสั้นไปหมด   ไม่ผมก็คุณที่มีปัญหาเรื่องภาษาไทย  ผมจะตรวจสอบตัวเองดูครับ อาจจะเป็นผมที่อ่านคุณไม่ค่อยเข้าใจเเล้วคิดเป็นอีกเเบบ อย่างนี้ต้องขออภัยเป็นอย่างสูงครับ จากคุณ : ส้มหอม (DLC) เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 52 14:36:45

ความคิดเห็นที่ 33 นั่งอ่านอยู่ตั้งนาน เพิ่งรู้ตัวเองว่า ก็เคยถูกไปในห้องเย็นเหมือนกัน ตอนนั้นกลับเมืองไทยช่วงสปริงเบรคพอดีกลับมาหลังไปอาทิตย์นึง เลยถูกให้ไปนั่งในห้อง ไม่ใช่สิ น่าจะเป็นออฟฟิตมากกว่า คิดว่าเค้าน่าจะกลับไปเช็คประวัติเรา เเล้วก็กลับมาถามคำถามนิดหน่อย สุดท้ายก็ผ่านไปด้วยดี ที่ SFO ครับ จากคุณ : Jamba_juice เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 52 20:33:42

ความคิดเห็นที่ 34   นั่งอ่านมาพักนึง อัดอั้นใจเป็นอย่างมาก อยากเล่าเจ้าค่ะ เราเดินทางโดยวีซ่า ทำงาน  ส่วนมากจะบินไปทางยุโรป พอเราต้องบินเข้าอเมริกา ครั้งแรก ก็โดนเลยค่ะ บินเข้า ซีแอทเทิ้ล วีซ่าทำงาน เป็นลูกเรือ เค้าเชิญช่องพิเศษเลยค่ะ นั่งรออีกด้านนึง พร้อมลูกเรือลำอื่นๆด้วย เช็คแล้ว เช็คอีกว่ามีรายชื่อมาลงเรือ รึเปล่า กว่าจะเช็คเสร็จ ก็พอดีผู้โดยสารคนอื่นเค้าไปหมดแล้ว แล้วความที่เราเวลาบินไปยุโรป เราก็จะใส่ช่องไม่ดีแคลร์ มาอเมริกาเราก็เลยดันใส่เหมือนกันอีก เอาเลยโดนซะ เจ้าหน้าที่เอากระเป๋าใบงามสีแดงของเราเข้า เอ็กซเรย์ แล้วเจอจังๆ ทั้งโจ๊กซองๆ หมูหยอง เครื่องต้มยำอบแห้ง เฮ้อ ตอนนั้นอยู่คนเดียวแล้ว ไม่รู้จะทำไง เอาละสิ... เจ้าหน้าที่ คนฟิลิปปินส์เป็นคนตรวจ เค้าพูดไทยได้นิดหน่อย เค้าก็บอกว่าทำไมไม่ดีแคลร์ จะได้ไม่มีปัญหา เราก็ไม่รู้ คิดว่าบ้านนี้เมืองนี้ มันจะใจดีเหมือนบ้านเรา  ตอนนั้นเราเลยชักแม่น้ำทั้งห้า เล่าชีวิตอันรันทดของเราว่าต้องดูแลแม่ที่แก่ชรา บลา บลา..... เค้าเลยลด ค่าปรับจากห้าร้อยเหรียญ เหลือครึ่งหนึ่ง  อืม...ในช่วงเวลาที่เลวร้าย ยังมีสิ่งดีๆเกิดขี้นแฮะ  เราจะจำไว้เป็นบทเรียน จำขี้นใจเลยแหละ .......อเมริกา....... จากคุณ : Madam Missy (Madam Missy) เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 52 21:23:55

ความคิดเห็นที่ 35   เคยไปเมื่อเกือบ 20 ปีที่แล้ว   ลงที่ New York,  JFK ก็แบบแบกเป้ไปใบเดียว  ไม่มีความรู้เรื่องเมกาเลยสักนิด   ไม่เคยไปมาก่อนด้วย ตอนไปก็ไปขอวีซ่าเอง (ตอนนั้นยังเป็นนักเรียนอยู่) หลักฐานทุกอย่างก็จัดหาเอง  จองตั๋วเครื่องบินเอง แต่ไม่จองที่พัก  เพราะว่าจองล่วงหน้ามีแต่โรงแรมแพงๆ  กะว่าจะไปหาเอาข้างหน้า  อิอิอิ   ใจกล้าและบ้าบิ่น ตอนไปก็ไม่ได้บอกที่บ้าน   เพราะเคยเกริ่นไว้แล้ว  พ่อแม่ไม่ให้ไป    แต่วัยรุ่นกำลังแรงซะอย่าง  อยากจะไปอ่ะ  อะไรก็รั้งไว้ไม่อยู่หรอก พอลงถึงสนามบิน  เกือบ 6 โมงเย็น ตม.  ถาม  :  มาทำอะไร เรา     "มาท่องเที่ยวค่ะ" ตม.  "จะอยู่กี่วัน" เรา  "สิบสี่วันมั้ง  อาจจะมากกว่านี้หน่อยนึง  แต่ไม่น้อยไปกว่านี้" ตม.  "จองที่พักหรือยัง" เรา  "ยังเลย   แนะนำหน่อยสิคะ" ตม.   อึ้งไปสักพัก  .....  เอ่อ  "ไปลองหาดูตรงทางออกนะ  มีโรงแรมให้เลือกเยอะเลย" เรา  "  แล้วนู๋จะออก จากสนามบินได้ยังไงคะ   นู๋ว่าเรียกแท๊กซี่แพงไป" ตม.  "เอ่อ  (อึ้งไปอีก)   รถไฟใต้ดินสิ  แต่ว่าอันตรายนะ"   เรา  "ค่ะ  แล้วจะระวังตัวค่ะ" เอิ้ก เอิ้ก เอิ้ก     ผ่านฉลุยอ่ะ    แล้วก็พระอาทิตย์ตกดินละ  ตม. บอกว่าอันตรายมาก  เลยนอนค้าง JFK ซะเลย  เหมือนในหนังเลย  ใช้ชีวิตอยู่ในสนามบินทั้งคืน   กินข้าว ล้างหน้า แปรงฟัน  กันตรงนั้นแหละ  ดูหนังทีไรคิดถึงตัวเองทุกที  อิอิอิ แอบเผลอหลับไปตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้    ตื่นมาอีกที  ตอนเที่ยงคืนกว่า  หรือตี 1-2 เนี่ยแหละ  หมดไฟลท์แล้ว   ตำรวจมาปลุก  มาแบบเป็นกลุ่มเลย   ทีนี้ คุณพี่เปลี่ยนปืนตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้  ตอนหัวค่ำยังเป็นปืนกระบอกเล็กๆ อยู่เลย   พอตอนดึก  ไหงเป็นปืนกระบอกยาวเฟื้อย   มือซ้ายปลุกเรา  มือขวากำปืนไว้ กันทั้งกลุ่ม   เอิ้ก เอิ้ก  เหมือนเป็นผู้ร้ายในหนังเลย ทีนี้ ก็เริ่มบทเจรจาสัมภาษณ์กันอีกรอบ     พอเริ่มคุ้นเคย  ทีนี้จับกลุ่มกันคุยหนุกหนาน   อิอิอิ ตำรวจก็ส่ายหัว   มาได้ไง   บ้าจริงๆ   เค้าก็เลยให้เราไปซื้อแผนที่มา  แล้วเค้าก็กางให้ดู  วงให้ดูว่าที่ไหนไม่ควรไป  ที่ไหนอันตราย  และบอกวิธีปฏิบัติตัวยังไงให้ปลอดภัย คุยกันจนเช้า  แล้วก็ชี้ทางไปขึ้น subway   อิอิอิ ประสบการณ์สุดยอด อีกทีนึง  ก็ไปเที่ยวตอนโตละ   ไม่ได้แบกของอะไรไปเหมือนเดิม  คือ ตอนไปเที่ยวไม่ชอบหิ้วของ   เลยมีพ่อแม่เน้องฝากของไปให้ลูกที่เมกา เราก็ไม่ได้คิดอะไร  ก็รับฝาก   เห็นเป็นกระเป๋าใบเดียว  เราก็ไม่มีของจะหิ้วอยู่แล้ว  กระเป๋าใบใหญ่พอสมควร เดินผ่านตม.  ตม. ถามว่ามี ของ Declare มั้ย   เรา  "ไม่มีค่ะ"  (มั่นใจมาก  เพราะพกเสื้อผ้ามา 2-3 ตัว  กะว่าจะไปซื้อใหม่หมด  แชมพู สบู่ อะไรก็ไม่ได้เอามา  กะว่าจะซื้อของนอกใช้  อิอิอิิ) ตม.  "แล้วมีอาหารมั้ย" เรา  "  ไม่มีค่ะ"      "อ้อ  มีน้ำเปล่า ขวดนึง   ผิดกฎหมายมั้ย"  พร้อมกับชูขวดน้ำตราสิงห์เล็กๆ ที่อยู่ในมือ  หิ้วมายังดื่มไม่หมด" ตม.  "  ไม่เป็นไร  ไปได้" พอเดินออกมาปุ้บ  น้องรีบสะกิด  พี่ๆ  ไอ้ที่อยู่ในกระเป๋าเนี่ย  อัดแน่นไปด้วยของกินจากเมืองไทยเลยนะพี่ เรา  อะจ้าก  ทำไมไม่บอกก่อน  ชั้นต้องโกหกไปซะแล้ว   ลืมไป  ไม่รู้ด้วยว่าข้างในมีอะไร   เกือบไปซะแล้วไหมล่ะ  อิอิอิ จากคุณ : Mont (Montparnasse) เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 52 22:11:39

ความคิดเห็นที่ 36 อ่านเเล้วน่ากลัว จนไม่อยากไปเที่ยวเเล้วคะ ทำไม ตม เค้าโหดจัง อยากฟังประสบการณ์ของคนที่เคยโดนส่งตัวกลับนะคะ เค้าวัดจากอะไรบ้างคะ ไม่เคยไปเที่ยวอเมริกา เเต่อยากไป ศึกษาข้อมูลไว้ก่อนคะ จากคุณ : สาวเซาะกราว เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 52 22:21:39

ความคิดเห็นที่ 37   ขอขอบคุณทุกๆ คห ที่ได้โพสเข้ามานะครับ โดยเฉพาะ คห ที่ 28 ซึ่ง คุณธนิตาได้เน้นกล่าวถึงเจตนาของกระทู้ ที่ผมได้ตั้งไว้เพื่อที่ว่าจะได้ข้อมูล จากประสบการณ์จริง ที่ผู้ตอบกระทู้ได้ประสพมาจากการที่ ตอบคำถามไม่ ตรงกับคำให้สัมภาษณ์ จนเป็นเหตุให้ต้องถูกส่งกลับ และหรือการเข้าเมือง แล้วถูก ตม เมกาส่งกลับด้วยเหตุอื่นๆ ทั้งนี้ ก็เพื่อต้องการเปิดเผยถึง ข้อเท็จจริงที่ว่า เป็นจริงหรือ ที่ว่าคำให้สัม ภาษณ์จะถูกบันทึกไว้ในวีซ่า ตามคำถาม คำตอบ ในฟอร์ม DS ตอนสัม ภาษณ์ เมื่อ จนท ตม เอาวีซ่าแสกนตอนเข้าเมือง เขาจะรู้คำถาม-คำตอบ เหล่านั้นที่ผู้ถือวีซ่าเคยให้ไว้ตอนสัมภาษณ์ และถ้าตอบไม่ตรงจะเป็นเหตุ ให้ต้องถูกส่งกลับ ซึ่งถ้าเป็นจริงก็ดี ผู้ที่จะเดินทางเข้าประเทศนี้จะได้เตรียม ป้องกันตนเองไว้ และถ้าไม่จริงก็ดี ผู้ที่จะเดินทางเข้าประเทศนี้จะได้ไม่อก สั่นขวัญแขวน ดัง คห ที่ 36 คุณสาวเซาะกราว ที่ว่าฟังดูแล้วทำไมมันน่ากลัว จนไม่คิดอยากจะไปประเทศนี้ สรุปคือ การตอบกระทู้นี้ยังไม่มีผู้ที่ตอบว่า เคยตอบคำถามไม่ตรงตามที่ตอบ ตอนสัมภาษณ์วีซ่า จนเป็นเหตุให้ห้ามเข้าเมืองและถูกส่งกลับ หลายๆท่านก็ กรุณาเล่าประสบการณ์ที่ตนประสพมาตอนเข้าด่าน ตม เมกา ซึ่งก็มีบางท่าน ที่เล่าประสบการณ์ ที่ฟังแล้วสับสน เช่น ตม ถามว่า มีของอะไรต้องดีแคร์ หรือไม่? มีอาหารไม๊? เป็นต้น ไม่ทราบว่าผู้เล่าจำผิดหรือเปล่าว่า ตม คือ Immigration มีหน้าที่ตรวจลงตราวีซ่าเข้าเมือง ศุลกากร คือ Custom จะ มีหน้าที่ตรวจสิ่งของที่ต้องแจ้ง Declare อันนี้ประเทศไหนๆในโลกเขาก็แบ่ง หน้าที่ทำกัน ต้องขอบคุณอีกครั้งครับ สำหรับทุก คห ที่ได้สละเวลาเข้ามาตอบ จากคุณ : ไปไหนมาสามวาสองศอก เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 52 15:14:40 A:61.90.67.121 X: TicketID:238577