ความคิดเห็นที่ 1 นานๆ จะโพสต์กับเค้าสักที ตื่นเต้นเหมือนกันนะเนี่ย เริ่มกันเลย 1.ใครจะคิดว่าการมาเรียนที่อังกฤษ สิ่งที่หายากที่สุดในห้องเรียน คือ คนอังกฤษ 2.ปริมาณคนที่จะเจอมากที่สุด คือ คนจีน 3.ของที่หากินได้ง่ายที่สุด คือ อาหารจีน และ เบอร์เกอร์คิง 4.อาหารประจำชาติอังกฤษ คือ ฟิชแอนด์ชิป ขายโดยแขก 5.อยากได้ของมียี่ห้อราคาถูกให้ตื่นตั้งแต่ ตีห้า ในวัน boxing day 6.รายการยอดฮิตอารมณ์ xfactor หรือ AF มีให้ดูทั้งปี ปีละหลายรายการ 7.เบียร์กินได้ทุกวัน ทุกเวลา ไม่ต้องรอกลางคืน หรือ หลังอาหาร 8.น้ำก๊อกสะอาดกินได้ แต่ ท่อที่ส่งมาสกปรก 9.ทีวีอยากดูต้องเสียเงิน แต่ถ้าไม่อยากเสีย ก็ลักลอบดูกลางคืนได้ แต่โดนจับปรับอานเลย 10.ห้ามนำ อาหารแห้งประเภทหมูเข้าประเทศ โดนจับปรับสองพันปอนด์  อยากกินต้องให้แม่ส่งมาให้และบอกว่าเป็นวัสดุประเภทหนังสือ แก้ไขเมื่อ 02 ม.ค. 53 08:18:02 จากคุณ : nakotako เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 53 08:14:51

ความคิดเห็นที่ 2 11.คนจรจัดนั่งขอเงิน แต่มีบุหรี่ซองละห้าปอนด์ดูด 12.อาหารไทยเป็นระดับไฮคลาส ส่วนมากเป็นฝรั่งกิน ส่วนนักเรียนไทยนานปีกินได้ที 13. สิ่งที่ครูภาษาอังกฤษสอนว่า ให้ทักทายว่า How are you  คนอังกฤษไม่ค่อยใช้กัน 14. คนยุโรปใช่ว่าจะเก่งภาษาอังกฤษกว่าเรา เพียงแต่สำเนียงนั้นใกล้เคียงสำเนียงอังกฤษมากกว่า 15. อยากนั่งรถเมล์ต้องนั่งไปหลายๆที่ เพราะว่า ตั๋ววัน ตั้งสามสี่ปอนด์ 16. พระ เป็น ดารา ในสายตาฝรั่ง 17. ผมดำ จะโดนทักว่า หนีห่าวก่อนเสมอ 18. อยากทานเบียร์ ไปผับ อยากเต้นกระทบไหล่สาว ต้องไปคลับ 19. ฝรั่งไม่ได้เก่งไปกว่าคนอื่น เพียงแต่พูดภาษาอังกฤษ และฟังภาษาอังกฤษเก่งกว่าชนชาติอื่น 20. เมื่อใด มีแขก(โพกหัว) เมื่อนั้น จะเป็นลม จากคุณ : nakotako เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 53 08:16:13

ความคิดเห็นที่ 3 21. ชาวปากีสถาน และ อินเดีย ไม่ถูกกัน อย่าเรียกผิด ไม่งั้นโดนโกรธ 22. หิวอาหาร อยากหาอะไรกิน ยามเที่ยงคืน ให้ข่มตานอน หรือ หามาม่ากินซะ เพราะร้านต่างๆปิดหมดแล้ว 23. ทุกเมือง มีลักษณะคล้ายกันหมด แตกต่างกันไม่มาก ปราสาท กำแพงเมือง ร้านขายของ 24. กรุงเทพเจริญกว่าทุกเมืองในยูเค ยกเว้น ลอนดอน 25. อยากกินอาหารเช้า ให้ไปกินที่ Mc 26. อยากเลิกกับแฟน ให้มาเรียนเมืองนอก 27. นักเรียนที่มาเรียนในอังกฤษ อยากเที่ยวยุโรป ต้องขอวีซ่ายุโรป ส่วนนักเรียนที่เรียนในยุโรป ไปเที่ยวที่ไหนก็ได้ในยุโรป โดยไม่ต้องขอวีซ่า 28. ห้างปิดสองทุ่ม บางเมือง หกโมง เย็นก็ปิดแล้ว 29. ซื้อมือถือใหม่ต้องทำการ unlock ไม่งั้น ใช้ซิมของเจ้าอื่นไม่ได้ 30. อยากได้อะไร ตั้งแต่ไม้จิ้มฟัน ยัน ทีวีให้ไปซื้อที่ร้าน Argos จากคุณ : nakotako เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 53 08:17:41

ความคิดเห็นที่ 4 31. อยากซื้ออะไร เดินไปหยิบแคตตาล็อกหนาเท่าสมุดหน้าเหลืองหน้าร้านค้ามาดู ซื้อเสร็จเอาสมุดเล่มหนานั้นไปชั่งขายสบายย 32. หอพักในมหาวิทยาลัยแสนแพง เดือนละ สองสามหมื่นบาท ได้ห้องที่เดินจากประตู หกก้าวถึงหน้าต่าง 33. วิธีสังเกตว่าคนที่เดินมาชาติอะไรให้ฟังสำเนียง หรือ ดูจากกระเป๋า ถ้าหลุยส์ 99% จีน 34. ห้ามทักคนไต้หวันว่าคนจีน ไม่งั้นจะโดนเกลียด 35. อาหารสะดวกซื้อ คือ พิซซ่าไก่ทอดและชิปส์ 36. เสื้อบอลทีมแมนเชสเตอร์ทำจากประเทศไทย 37. ห้าง primark มีเสื้อผ้ามากมายราคาถูก ทันสมัย เก๋ไก๋ แต่คุณภาพขอไม่พูดถึง 38. ซื้อของออนไลน์ มักได้ของที่ราคาถูกกว่าซื้อที่ร้านในเวลาเดียวกัน 39. อยากได้เสื้อใส่เล่นๆ ให้ซื้อเสื้อแล้วใส่ไปเที่ยวกับเพื่อน  หลังจากนั้นค่อยเอาไปคืนที่ร้าน เอาเงินคืนมา 40. หน้าร้อน พระอาทิตย์ตกสี่ทุ่ม หน้าหนาวพระอาทิตย์ตกสี่โมงเย็น จากคุณ : nakotako เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 53 08:19:24

ความคิดเห็นที่ 5 10 มุมมองสุดท้าย ============================= 41. เบียร์ ไวน์ เหล้า ลดราคา ทั้งปีที่เทสโก้ 42. ไอศกรีมเบนแอนด์เจอรี่ ฮาเกนดาส ชอบลดราคาหน้าหนาว 43. อาหาร organic ราคาแพงเมื่อเทียบกับ อาหารธรรมดา แต่รสชาติไม่แตกต่าง 44. อยากหาหมอต้องโทรนัด ถ้าอยากหาเร็วๆให้โทร 999 แล้วนั่งรถหวอไปโรงพยาบาล 45. อยากหาหมอฟันฟรีให้นัดล่วงหน้าสามเดือน ขนาดฝรั่งบางคนไม่เคยเจอหมอฟันเลยตั้งแต่เกิดจนตาย   46. สามารถซื้อใบยาสูบและแผ่นกระดาษมาม้วนเป็นบุหรี่เพื่อสูบ ได้จากซุปเปอร์มาร์เก็ต 47. วัยรุ่นอังกฤษชอบพูดจาเสียงดัง และเปิดเพลงเมื่ออยู่บนรถประจำทาง 48. สาวอังกฤษชอบใส่เสื้อเว้าลึกโชว์… 49. เมื่อนั่งรถไฟใต้ดินที่ลอนดอนเสร็จ จมูกจะดำมาก 50. เวอร์จินให้บริการตั้งแต่ โทรศัพท์ เพลง วิทยุ รถไฟ จน เครื่องบิน จากคุณ : nakotako เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 53 08:21:08

ความคิดเห็นที่ 6   อยู่ที่เมกาในห้องเรียนก็คนขาวไม่ค่อยจะเจอ เจอแต่เม็กซิกัน จากคุณ : p a n g เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 53 08:52:45 A:173.25.23.201 X: TicketID:183009

ความคิดเห็นที่ 7   เรียนปริญญาตรีที่อังกฤษจะกี่บาทคะเนี่ย & อยากจะไปช๊อปช่วง Boxing Day จังเลย ดูมีของลดเยอะกว่า Black Friday ที่อเมริกานี่อีก จากคุณ : Amore เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 53 09:19:28 A:76.101.201.121 X: TicketID:244167

ความคิดเห็นที่ 8 อยากช่วยเสริมให้ครบ52ข้อค่ะ อะไรดี... 51. ถึงแม้ค่ารถราจะแพง แต่ก็ห้ามคิดหาทางโกงค่าโดยสาร เพราะมันอัจฉริยะมากๆ ถ้าคุณขึ้นพาหนะที่ไม่มีการตรวจตั๋ว จะมีพนง.มาสุ่มตรวจเนืองๆ ถ้าวันไหนคุณซื้อตั๋ว จะไม่โดนตรวจ แต่ถ้าวันไหนคุณแอบขึ้น คุณจะโดนตรวจพร้อมถูกปรับ50ปอนด์ 52. ตอนเช้าวันทำงานคุณจะพบลอนดอนเนอร์จำนวนมหาศาลใส่เสื้อผ้าสีดำและทุกคนจะเดินเร็วแบบกึ่งวิ่งในเขตอาคารสำนักงานและสถานีรถไฟใต้ดินต่างๆ จากคุณ : CACU เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 53 14:45:23

ความคิดเห็นที่ 9 แตร่ว พึ่งเห็นว่าจขกท.จะเขียนแค่50ข้อ เสร่อจิงๆค่ะ - -' จากคุณ : CACU เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 53 14:46:32

ความคิดเห็นที่ 10   คิดว่า London มหานครที่นักศึกษามีคุณภาพชีวิตตำมากที่สุดเมืองหนึ่งนอกจากเงินไม่ใช่ปัญหาสำหรับคุณ จากคุณ : gvadc เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 53 14:49:16 A:114.128.194.87 X: TicketID:247815

ความคิดเห็นที่ 11 ถูกต้องนะครับบบบบบบบบบบ จากคุณ : Peek_45 เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 53 16:34:51

ความคิดเห็นที่ 12   เห็นพ้องเกือบทุกข้อครับ 11. บุหรี่เมืองนั้นแพงจัง ตั้งห้าปอนด์ 13. เขาไม่ชอบทัก How are you ? แล้วใช้ How do you do? แทนใช่ไหม 21. สองแขกนี่ไม่ถูกกัน ที่อเมริกาเขาก็ไม่ถูกกัน และไม่ชอบให้เรียกผิดๆด้วย 24. จริงหรือ 39. ข้อนี้ผมเกลียดมาก ถ้ารู้ว่าใครทำผมจะไม่คบ 42. Haagen-Dazs เป็นไอศกรีมอเมริกายี่ห้อเดียวที่น่ากินที่สุด จากคุณ : อิสวาสุ เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 53 17:43:59 A:71.114.54.31 X: TicketID:146114

ความคิดเห็นที่ 13 โหวตๆ จขกท  เขียนได้สนุกดีครับ :) จากคุณ : Ariete (en ligne) เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 53 21:37:47

ความคิดเห็นที่ 14 Marlboro Light แบบซองเล็ก 10 มวนซองละ £3.50 ค่ะ ซองใหญ่ก็น่าจะถึงห้าปอนด์แน่ๆ บุหรี่ที่นี่แพงจริงๆ ปกติเรามักจะทักกันว่า morning หรือ How you do,how you doing ทำนองนี้ และมักจะเป็นการทักทายที่ไม่ต้องการคำตอบ ถ้าอารมณ์ตอนนั้นไม่ขุ่นมัวนักก็จะตอบว่า not too bad แหมนะ ถ้าใครมาทักว่าดิฉันเป็นฟิลิปปินส์ อินโด มันก็รู้สึกเคืองเหมือนกันนะ ปกติแล้วตามมารยาทก็ไม่ควรจะไปทึกทักเองว่าใครเป็นชาติไหน ควรถามอย่างสุภาพมากกว่าว่าเค้ามาจากไหน จากคุณ : Gisele เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 53 22:11:28

ความคิดเห็นที่ 15 แขกเนี่ย ห้ามทักผิดเด็ดขาด ไม่ว่าประเทศไหน อิอิอิ จากคุณ : rainfull เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 53 22:19:51

ความคิดเห็นที่ 16 คุณ Amore : การเรียนปริญญาตรีที่นี่ ค่าเทอมขึ้นกับมหาวิทยาลัยอะครับ ยิ่งมีชื่อเสียง ค่าเทอมก็ยิ่งแพง เพราะ อุปกรณ์ต่างๆครบครัน ส่วนระยะเวลานั้น คือ สามปี ครับ แต่ถ้าอยากฝึกงานก็จะเป็นเรียน สี่ ปี (สายวิทย์) คุณ CACU : ขอบคุณครับที่มาแชร์มุมมองกันนะครับ  จะว่าไปคนประเทศนี้เดินเร็วกันจริงๆ ไม่รู้เพราะ เราขาสั้น หรือว่าเขาเดินกันเร็วจริงๆ คุณ gvadc  : เห็นด้วยครับ ว่า ลอนดอน คุณภาพชีวิตนักเรียนที่นั่นไม่ค่อยดีเท่าไร แย่งกันกิน แย่งกันซื้อ แต่ ร้านต่างๆ ก็มีให้เลือกมากกว่าเช่นกัน คุณ Peek_45 : ขอบคุณครับ คุณ อิสวาสุ : ส่วนมากผมได้ยินเขาทักกันว่า Are you alright? หรือ  How do you do? ส่วนเรื่องชาวปากี กับ คนอินเดีย ผมว่า อารมณ์เรากับประเทศเพื่อนบ้านนี่ละครับ  ถ้าใครมาเรียกเราว่า เวียดนาม เราคงไม่พอใจเช่นกัน หรือ คนเวียดนามถูกทักว่าไทย เขาคงไม่ชอบเช่นกัน เรื่องกรุงเทพเจริญกว่าทุกเมืองในยูเค ยกเว้น ลอนดอนนั้น ตามความคิดของผมและเพื่อนๆ คิดว่าจริงนะครับ เพราะ กรุงเทพมีสิ่งบริการต่างๆมากมายกว่า เพียงแต่ที่นี่ (อังกฤษ) ทุกๆเมืองมีความเจริญ มีงานให้ทำเหมือนๆกันหมด มีการศึกษา มีมหาวิทยาลัยแทบทุกเมืองเลย เบนแอนด์เจอรี่ก็อร่อยดีนะครับ รสแปลกๆประหลาดดีหาที่ไหนไม่ได้ คุณ Ariete (en ligne) : ขอบคุณครับ คุณ Gisele : ใช่เลยครับบ ; J คุณ rainfull : สงสัยจะเป็นเช่นนั้นครับ แก้ไขเมื่อ 03 ม.ค. 53 02:47:00 จากคุณ : nakotako เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 53 23:24:20

ความคิดเห็นที่ 17   กำลังจะไปเรียนอังกฤษ เจอข้อ 32 ไป สงสัยต้องหาที่ใหม่ซะแล้ว เดิน 6 ก้าวจากประตูถึงหน้าต่างซะแล้ว ขอบคุณที่มาแชร์เรื่องราวให้ฟังนะคะ จากคุณ : Miewtzuke เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 53 00:17:41

ความคิดเห็นที่ 18 ขออนุญาตเพิ่มเติม - นศ.ป.ตรีชาวอังกฤษ เขียนภาษาตัวเองได้แย่กว่า นักศึกษาที่มาจากชาติื่อื่น เพียงแต่เขียนถูก vocabulary มากกว่า  ตรวจงานมา ปวดหัวมาก - เป็นประเทศที่คุณภาพชีวิตนักศึกษาต่างชาติต่ำมาก ทั้งที่จ่ายมากกว่า นักศึกษาท้องถิ่น 3 เท่า - คนอังกฤษชอบคนไทย พอๆ กับชอบพัฒน์พงศ์ พัทยา มวยไทย - คนอังกฤษมี 2 พวก พวกมารยาทดีแต่ไม่รู้จิตใจเบื้่องลึก กับพวกแย่ทั้งมารยาทและจิตใจ - ประเทศนี้เจริญรุ่งเรื่องในอดีต แต่กำลังอนาคตรุ่งริ่ง - คนอังกฤษไม่เคยมองข้อดีของประเทศอื่น ข้อ 24 จริงๆ ครับพี่อิสวาสุ จากคุณ : พัฒน์ เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 53 00:27:46

ความคิดเห็นที่ 19 เห็นด้วย โดยเฉพาะใส่ชุดดำและเดินเร็ว 5555 จากคุณ : montakarnti เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 53 02:15:52

ความคิดเห็นที่ 20   เห็นด้วยกะที่คุณพัฒน์ความคิดเห็นที่ 18 เพิ่มมามากถึงมากที่สุด ยกเว้นเรื่องการเขียนของนักเรียนมิทราบได้ จากคุณ : gvadc เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 53 02:26:53 A:114.128.194.87 X: TicketID:247815

ความคิดเห็นที่ 21 เห็นด้วยกับคุณพัฒน์ กับ คห 20 จากคุณ : Zyvox เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 53 03:36:56

ความคิดเห็นที่ 22 เห็นด้วยกับคุณพัฒน์ครับ ผมว่าตอนนี้สิ่งที่ทำให้อังกฤษยังคงมีอำนาจอยู่ คือ เงินปอนด์ และ ภาษาอังกฤษ ถ้าวันใดวันหนึ่ง หนึ่งในสองสิ่งนี่หายไป ประเทศนี้ลำบากแน่ เพราะ เป็นประเทศที่ไม่มีอะไรเลยจริงๆ T^T แถมประชาชนบางคนก็ดูเหมือนจะชื่นชมยกย่องว่าตัวเองเหนือกว่าชาวบ้านด้วย แก้ไขเมื่อ 03 ม.ค. 53 05:26:37 จากคุณ : nakotako เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 53 05:24:48

ความคิดเห็นที่ 23 เงินปอนด์ เคยเกือบหายไปแล้วครับ ถ้าไม่มีคนชื่อ จอร์ช โซรอส เข้ามา (เด็กเก่า แอลเอสอี ถ้าจำไม่ผิด) ส่วนประเทศนี้ยังอยู่ได้จนกว่า พรีเมียร์ลีค จะหายไปนั่นละครับ จากคุณ : น้ำเต้าหู้กะปาท่องโก๋ เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 53 05:56:59

ความคิดเห็นที่ 24 เพิ่มให้อีก -คนอังกฤษสูบบุหรี่เยอะกว่าคนไทย -ร้านอาหารไทยใส่แครอทลงไปในอาหารเกือบทุกอย่าง แม้แต่ผัดไทย -ถ้า argos มีตั้งแต่ไม้จิ้มฟันยันทีวี boots ก็มีตั้งแต่ maybelline ยัน chanel -สำหรับมือถือระบบเติมเงิน โทรออกนอกประเทศถูกกว่าในประเทศ และโทรเข้าเบอร์บ้านจะถูกกว่าเบอร์มือถือ -บุหรี่ dunhill มีต้นกำเนิดที่อังกฤษ แต่ประเทศนี้ไม่มี dunhill light mentol และบุหรี่อังกฤษส่วนมาก(ที่เคยลอง)รสชาติแย่มาก -จะซื้อกรรไกรหรือมีดทำครัวต้องพก passport ไปซื้อ ไม่งั้นเค้าไม่ขายให้ -เครื่องประดับร้าน accessorize ครึ่งหนึ่ง made in thailand ยืนยันข้อ 24 และข้อ 32 ถึงจะบอกว่าห้องเป็น studio แต่ขนาดก็เท่ารูหนูดีๆนี่เอง ปล. argos มีไม้จิ้มฟันขายจริงอ่ะ ป่านนี้ยังหาไม่เจอเลย อยู่ตรงไหนช่วยอนุเคราะห์ที TT_TT จากคุณ : กรอบนอกนุ่มใน เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 53 06:34:45

ความคิดเห็นที่ 25 ผมคิดว่าในอนาคต  อังกฤษคงจะโรยรา(ในด้านความรุ่งเรือง เศรษฐกิจ)   โดยรวมๆ แล้วผมชอบอังกฤษ ข้อที่ ๒๔   ที่ท่านอิสฯ ถามว่าจริงหรือ??   ถ้าหากพูดถึงเจริญด้านวัตถุ  แหล่งบันเทิง (อาบอบนวย  บาร์  ไนท์คลับ  เซเว่นอีเลเว่น  อะไรต่อมิอะไรจิปาถะ)   กรุงเทพฯ เจริญกว่าทุกเมืองในอังกฤษและอาจจะรวมไปถึงลอนดอนด้วยก็ได้ ผมขอลังเลใจที่จะเห็นด้วยกับข้อ๒๔ เพราะแต่ละเมืองล้วนแต่มี character  ของตัวเอง     การที่ประเทศเดินทางมาถึงจุดหรือใกล้จุดอิ่มตัวแล้ว   คนอังกฤษเองก็เริ่มที่จะตระหนักถึง "ความเจริญ" ที่แท้จริงแล้วว่ามันคืออะไร   ดังนั้นการออกกฏหมายควบคุมการก่อสร้าง  ก่อตั้ง(ที่เราๆ ท่านๆ มองเห็นว่า นั่นแหละคือความเจริญ)จึงเข้มงวดมาก    ยกตัวอย่าง  แค่เราจะต่อชานบ้านเล็กๆ เท่าส้วม  เราต้องขออนุญาตแล้ว นอกจากจะลังเลใจที่จะเห็นด้วยแล้ว   ผมกลับมองเห็นว่ากรุงเทพฯ เสื่อมโทรมกว่าที่เคยเป็นมากขึ้นทุกทีๆ   นี่เป็นมุมมองส่วนตัวของผม   ผมผู้ที่อาศัยอยู่บ้านนอกทางตอนใต้ของอังกฤษ(dorset)  อยู่เมืองเล็กๆ   บ้านผมติดป่าสงวนมีทุ่ง  แม่น้ำที่ใสสะอาดไหลผ่าน   ขับรถจากบ้านเข้าตัวเมืองก็แค่สิบนาที   จะซื้อหาอะไรก็ได้   ถ้าของที่ต้องการไม่มีขายในเมืองก็สั่งทางอินเตอร์เน็ท   หรือหากขี้เกียจไปจ่ายตลาดก็ซื้อของออนไลน์จากซุปเปอร์มาร์ตเก็ตแล้วให้เขาเอามาส่ง    แค่นี้ก็สุขสบายแล้วครับ   สำหรับผมๆ ว่านี่เจริญแล้ว (หรือว่าผมเริ่มแก่ตัวลงไปมากแล้วก็ไม่รู้สินะ  อิ อิ อิ) ต้องอย่าลืมว่าอังกฤษไม่ได้อุดมไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติอย่างประเทศไทยเรา   คนอังกฤษอิจฉาเรามากในเรื่องนี้   ดีกรีของการรู้สึกหวงแหนธรรมชาติ  ป่าเขาลำเนาไพรของเขาจึงมีสูงส่งมากมาย   เรื่องจะทิ้งของเรี่ยไรตามป่าเขา  แม่น้ำลำคลองมีน้อยมากเมื่อเทียบกับไทย   การตรวจตราคุณภาพน้ำในแม่น้ำก็เข้มงวด     มุมมองเรื่อง "ความเจริญ" ของผมอาจจะต่างกับ เจ้าของกระทู้  ดังนั้นความเห็นต่อข้อที่ ๒๔ จึงต่างตาม   ไม่ใช่เรื่องผิดหรือถูก(เพราะมันเป็นเรื่องของมุมมอง)    มุมของคุณคือมุมของนักเรียน    ส่วนมุมของผมคือมุมของคนมาอยู่อาศัยมาเกินสิบปี  จึงอาศัยกระทู้นี้มาร่วมแจม จากคุณ : วัชรานนท์ เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 53 06:48:26

ความคิดเห็นที่ 26 "ต้องอย่าลืมว่าอังกฤษไม่ได้อุดมไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติอย่างประเทศไทยเรา" เมืองไทยเรามีอากาศดี ดินดี มีทรัพยากรสมบูรณ์ แต่ทำไมเราไม่เคยคิดจะพัฒนาการศึกษา และคุณภาพชีวิตของเราเสียที ลองคิดดูว่า หากเราลดการโกงกินกันสักครึ่งหนึ่ง เราจะเจริญขนาดไหน แค่ข่าวล่าสุดออกมาว่า เราไปสั่งทำธงชาติขนาดต้นละห้าแสนก็สลดใจ จากคุณ : Giuseppe เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 53 07:58:47

ความคิดเห็นที่ 27 อ่านๆ ดูแล้วดูอังกฤษไม่ค่อยหน้าอยู่นะครับเนี๊ยะ จากคุณ : Esprite เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 53 11:59:13

ความคิดเห็นที่ 28 ถึงว่า อาทิตย์ที่แล้วไปลอนดอนมา แล้วนั่งรถไฟใต้ดินทั้งวัน ขี้มูกดำปี๋ (ขอโทษค่ะถ้าทุเรศ แต่นึกคำอื่นแทนขี้มูกไม่ออก) เพิ่งรู้ว่ามันเป็นเรื่องปกติของประเทศอังกฤษนี่เอง ข้อที่บอกว่าคนอังกฤษแค่เก่งภาษาอังกฤษมากกว่า นี่เห็นด้วยมาก เรื่องความคิดหรือความรู้รอบตัวไม่ได้ดีวิเศษอะไรมากมายเลย น้องคนไทยหรือญี่ปุ่นบางคนที่เราเจอที่นี่วิเคราะห์อะไรได้ลุ่มลึกมากกว่านักเรียนอังกฤษเป็นไหน ๆ แล้วก็อยู่ที่นี่สารภาพว่าบางวันได้ยินคนคุยกันเป็นภาษาจีนมากกว่าภาษาอังกฤษเสียอีก ไปไหนก็หนีคนจีนไม่พ้น นี่รูมเมทก็เป็นคนจีนค่ะ ว่าจะเรียนภาษาจีนให้รู้แล้วรู้รอด เย้ย! เหมือนจะบ่น แต่จริง ๆ เราชอบที่นี่นะ อย่างแรกเลยชอบอากาศ ถึงคนจะชอบบ่นเรื่องฝน แต่เราว่าลุ้นดี บางทีวันหนึ่งมีสี่ฤดู แดด ฝน หนาว ร้อน ลม ชอบ ๆ ส่วนเรื่องการศึกษา เราชอบตรงที่ คนอังกฤษให้ความสำคัญกับการจุดประกายมากกว่าการเติมความรู้ เราเบื่อการการท่องเพื่อสอบไง มาเจอที่นี่ให้ค้นคว้าเอง เขียน essay แบบนี้เลยชอบมากกว่า อีกอย่าง ครูที่นี่ให้เกียรตินักเรียนมากเลยนะ  ครูรับฟังความคิดเห็นแม้จะแตกต่าง และก็สุภาพ เต็มใจช่วยเหลือ เรื่องครูเป็นเรื่องที่ประทับใจที่สุดในมหาวิทยาลัยเลยก็ว่าได้ เราเองถ้ามีโอกาสได้เป็นครูก็อยากเป็นครูแบบนี้ ส่วนเรื่องชีวิตทั่วไป เช่น ค่าครองชีพ อาจเพราะเราไม่ได้อยู่ลอนดอนก็ได้ เราเลยคิดว่ามันไม่ได้เลวร้ายมาก ที่แพงอย่างเห็นได้ชัดก็มีแค่ค่าหอพักในมหาวิทยาลัย แต่สำหรับอาหาร ถ้าเราทำกินเอง ไปซื้อของจากซูเปอร์มาร์เก็ตเนี่ย บางที 15-20 ปอนด์อยู่ได้เป็นอาทิตย์นะ (ณ ที่นี้ต้องคิดตามเรตค่าครองชีพของอังกฤษนะ ถ้าแปลงเป็นเงินไทย มองตามค่าครองชีพไทยก็อาจจะดูเยอะอยู่) มีบ้างที่ไม่ถูกใจ แต่รวม ๆ แล้วก็ชอบอ่ะ เราว่าที่นี่คลาสสิคดี แก้ไขเมื่อ 03 ม.ค. 53 13:14:18 จากคุณ : Odd_One_Out เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 53 13:00:08

ความคิดเห็นที่ 29   ความคิดเห็นที่ 27 ครับ ผมคิดว่าอังกฤษเป็นประเทศที่ผู้คนไปตักตวงครับไม่ว่าความรู้ ความคิด เงิน ความก้าวหน้าและอื่นๆ แล้วก็ไปอยู่ที่อื่น แม้กระทั้งคนอังกฤษเอง จากคุณ : gvadc เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 53 13:57:41 A:114.128.194.87 X: TicketID:247815

ความคิดเห็นที่ 30 ผมว่ายังไงอังกฤษก็ยังน่าจะพัฒนาไปอีกนานล่ะครับ ด้วย Infrastructure ที่เค้ามีภายในประเทศ อังกฤษค่าครองชีพสูง และประชากรหนาแน่นมากครับ ยิ่งช่วง Rush Hour คนจะแออัดมากในลอนดอน แต่โดยรวมแล้ว ยังเดินทางง่ายกว่าและใช้เวลาน้อยกว่ากรุงเทพเยอะ  ............................. (Tube ไปได้แทบทุกที่ในลอนดอน) อีกอย่างคือ จู่ ๆ ค่าเงินปอนด์ มันไม่สูง เพราะมีคนเซตมันให้สูงหรอกครับ ค่าเงินปอนด์สูง เพราะ UK มันมีความเจริญก้าวหน้าเป็นตัวเป็นตนจริง ๆ แบบจับต้องได้ มันจึงทำให้ประเทศนั้น มีคุณค่าเพิ่มขึ้น จากคุณ : คุณชินโซ เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 53 15:00:33

ความคิดเห็นที่ 31 อยากทราบว่า นักเรียนต่างชาติจะมีคุณภาพชีวิตต่ำเนี่ย หมายถึงอย่างไรคะ พอดีกำลังจะไปเรียน จะได้เตรียมตัวถูกค่ะ เท่าที่อ่านมาดูลอนดอนไม่ค่อยน่าอยู่เลยแฮะ แต่ส่วนตัวคิดว่า ในเมื่ออยู่กรุงเทพได้ ก็น่าจะอยู่ลอนดอนได้เหมือนกัน อาจมีแตกต่างกันบ้าง แต่ก็คงไม่ยากเกินที่จะปรับตัว จากคุณ : Archaeoh เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 53 17:48:43

ความคิดเห็นที่ 32 เห็นด้วยกับเจ้าของกระทู้ครับ เรื่องความเจริญ ผมเองมาจากเมือง Durham เมืองเล็กบ้านนอกมากทางเหนือ ถ้ามองความเจริญคือแสงสี ห้างสรรพสินค้า รถติด ร้านรวงนี่ ตึกสูง ผมเห็นด้วยเลยครับ แต่ทางมองในมุมมองของสาธารณูปโภคนี่ ยังไงก็ชนะกรุงเทพอยู่ดี ขนาดเมืองเล็กๆระบบคมนาคมยังดีมาก ป้ายบอกทาง ห้องน้ำ หรือระบบจดหมาย อินเตอร์เนท โีรงพยาบาล แม้กระทั่งเทสโก้เค้าก็เรียกได้ว่าดีกว่าเราครับ ส่วนเรื่องนักเรียนยุโรปกับเราภาษาพอๆกันนี่..ผมคิดต่างนิดนะครับเพราะคลาสผม พวกยุโรปเยอะมากและแต่ละคน..เก่งภาษากันสุดๆ ทั้งคำศัพท์ในการพูดและเขียนจะ advance กว่าคนไทยหรือเอเชียมากๆ ผมคิดว่ารากภาษาเค้าใกล้เคียงกัน และยิ่งผมเรียนกฎหมาย ภาษากฎหมายส่วนมากรากศัพท์ทับซ้อนกันครับ บางประเทศในยุโรปกฎหมายก็สอนเป็นภาษาอังกฤษด้วย เค้าเลยคล่องกว่าไทย เพราะอย่างไทยเรากว่าจะนึกศัพท์กฎหมายได้แต่ละคำก็เหนื่อยครับ ถ้าไม่เคยเรียนหรือทำงานมา นี่ยากมากๆที่จะใช้ได้สวย ได้คล่อง เสริมเรื่องอาหารเช้านิดนึงครับ..จริงๆมีอีกทีที่อร่อยกว่าMcคือตามผับครับ คนอังกฤษแปลกดีชอบกินอาหารเช้ากัน ผับเองตอนกลางวันก็จะเปิดเป็นร้านอาหารที่ขายอาหารเช้าด้วย ส่วนถ้าใครอยู่ไทย..แล้วอยากกินอาหารเช้าแบบอังกฤษให้ไปทานตามผับอังกฤษนะครับ อร่อยดี ก่อนมาเรียนผมชอบไปนั่งทานบ่อยๆ(แต่กลับไปคงลาขาดเพราะเบื่อมากก) ขอเสริมข้อ33. วิธีสังเกตว่าคนที่เดินมาชาติอะไรให้ฟังสำเนียง หรือ ดูจากกระเป๋า ถ้าหลุยส์ 99% จีน อันนี้เพื่อนคนจีนบอกผมครับว่า..สังเกตว่าคนไหนสาวไทย มันจะดูจากกระเป๋าครับ ถ้าถือลองชองก็ไทยแน่นอน อันนี้ไม่รู้ว่าลอนดอนเป็นงี้มั้ยนะครับ แต่เมืองผมผู้หญิงทุกคนต้องมีลองชองอย่างน้อยคนละใบ และชอบถือด้วย ฮ่าๆ ส่วนเรื่องคุณภาพชีวิตเด็กไทยลอนดอน..ผมเห็นด้วยอย่างแรงครับ...เงินเท่านั้นที่วัดความสบาย ผมไปเยี่ยมเพื่อนที่ลอนดอนมา บ้านมันดูพออยู่ได้ โลเกชั่นดี มันเสียอาทิตย์ละ 150 ปอนด์ แพงมากๆๆๆ แชร์ห้องน้ำ ห้องนั่งเล่นไม่มี อยู่อัดๆกันนะครับนี่ ถ้าเทียบกับผมที่อยู่บ้านนอกราคานี้ 250 ไม่เกินครับต่อเดือน..อีกคนยิ่งหนักครับอยู่กลางเมือง เป็นduplex บ้านหรูมาก ถ้าเป็นเมืองผมคงตกเดือนละ 800 ปอนด์แต่พอเป็นลอนดอน...กลายเป็นเดือนละ2600...ไม่ไหวครับ ไปเรียนลอนดอนผมว่าใบละ 2.5 ล้านแน่ๆ สุดท้ายนี้ ขอบคุณมากครับที่เข้ามาแชร์ ผมชอบนะครับทำมุมมองแบบนี้ อ่านแล้วสนุกมากๆ แก้ไขเมื่อ 03 ม.ค. 53 18:39:31 จากคุณ : KooKKoR เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 53 18:37:04

ความคิดเห็นที่ 35   อืมม เมื่อต้นเดือน July 1972 กับตอนนี้คงต่างกันเยอะนะครับ ตอนนั้นผมตื่นเต้นมากมาย หลังจากนั้นสามสี่หนก็เฉยๆ ผมกลับมองว่าบ้านเราเวอร์ไปหน่อย คิดว่าตึกสูงๆคือความเจริญแต่ผมกลับไม่สนใจเท่าไร คิดไปคิดมายังเจ็บใจกับข่าวที่ว่า เวียดนามผลิตข้าวได้เกือบสองเท่าของไทยในเนื้อที่หนึ่งไร่เท่ากัน อย่าดีใจว่าเราเจริญขึ้นมากนักนะครับ คนบ้านนอกของเรายังต้องการความช่วยเหลืออีกมากมาย จากคุณ : อิสวาสุ เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 53 18:57:28 A:71.114.54.31 X: TicketID:146114

ความคิดเห็นที่ 36 20. เมื่อใด มีแขก(โพกหัว) เมื่อนั้น จะเป็นลม  55555555 จากคุณ : Fru Huldra เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 53 22:39:24

ความคิดเห็นที่ 37 ขอบคุณครับที่มาแบ่งปันมุมมองของแต่ละท่าน คุณ กรอบนอกนุ่มใน : ผมเคยเจอนะครับ อยู่ตรงซุ้มแถวๆที่จะจ่ายเงิน ขายเป็นแพ็คเลย แต่พอหาจากเวบไซต์ของมันกลับไม่เจอ  ผมเพิ่งรู้นะเนี่ยว่า Dunhill มีต้นกำเนิดจากประเทศอังกฤษ คุณ วัชรานนท์ : ใช่ครับ ความเจริญในมุมมองของผม คือ ตึกรามบ้านช่องครับ แต่ถ้ามองในแง่ของความสะดวกสบายนั้น ประเทศอังกฤษ ถือว่า ยอดเยี่ยม มีระบบการขนส่งมวลชนที่ดี มีการให้การบริการทั้งทางด้านสุขภาพ การศึกษา ที่ดีเยี่ยม   คุณ Giuseppe : เรื่องแบบนี้ละเอียดอ่อนอะครับ ถ้าจะให้พูดกันจริงๆ เพราะ ภาคทฤษฏี ผมว่าการออกแบบวางแผนนั้นทำได้ง่าย แต่นำมาปฏิบัติใช้จริงทำได้ยากเนื่องด้วยเหตุผลบางประการ แต่ผมเชื่อว่า อีกสิบ ยี่สิบปีข้างหน้า มันจะเดินไปในทางที่ดีขึ้นครับ   คุณ Esprite : ถ้าถามว่าประเทศอังกฤษน่าอยู่ไหม ผมตอบได้เต็มปากเลยครับ น่าอยู่ เพราะเป็นประเทศที่มีกฏระเบียบ มีวินัย จะทำอะไรต้องเข้าคิว (ผมว่าเป็นสิ่งที่ดี) แต่ตอนนี้อาจจะมีปัญหาว่ามีประชากรจากประเทศอื่นเข้ามาทำงาน หรืออาศัยทำให้ประเทศนี้เริ่มดูไม่ดี แต่โดยรวมถือว่า เยี่ยม ครับ คุณ  Odd_One_Out : ผมคิดว่า มันน่าจะมาจากฝุ่นที่อยู่ในอุโมงค์อะครับ พอเราสูดเข้าไป มันเลยดำ ^^   ส่วนเรื่องการศึกษา ผมว่าใกล้เคียงกับเมืองไทย เพราะผมเรียนสายวิทย์อะฮะ ครูก็จะสอนๆ  นักเรียนไม่เข้าใจก็ถาม คุณ gvadc : สาเหตุหนึ่งที่คนอังกฤษย้ายประเทศไปอยู่ที่อื่น น่าจะมาจากภาษีที่สูงด้วยอะครับ และ บางคนอาจจะชอบอากาศ เลยย้ายไปอยู่ประเทศอื่น คุณ ชินโซ : ระบบการขนส่งประเทศรางประเทศนี้ติดอันดับโลก สบาย รวดเร็ว ตรงต่อเวลา แถมยังมีกฏมาบังคับให้คนหันมาใช้ระบบการขนส่งแบบนี้อีก โดยการเก็บเงินเมื่อคุณขับรถเข้ามาในเขตเมืองด้วย คุณ Archaeoh :  คุณภาพชีวิตต่ำที่คุณ Giuseppe เอ่ยถึงนั้น ผมคาดว่า น่าจะเป็นการเปรียบเทียบระหว่าง ลอนดอน และ เมืองอื่นๆนะครับ ถ้าใช้เงินในจำนวนเท่ากัน แต่ได้ของที่มีขนาดเล็กกว่า หรือ คุณภาพแย่กว่า เช่น ห้องพัก เป็นต้น จะเปรียบ ลอนดอน กับ กรุงเทพก็ได้ครับ แต่สิ่งที่จะกำหนดว่าสามารถอยู่ได้หรือไม่นั้น ไม่ได้มาจากปัจจัยภายนอกทั้งหมดนะครับ ส่วนใหญ่มาจากปัจจัยภายในครับ ความเครียด คิดถึงบ้าน เบื่อ สิ่งเหล่านี้เป็นตัวกำหนดว่าคนที่มาที่นี่จะสามารถอยู่ได้หรือไม่ คุณ KooKKoR : อ๊ะ ผมเพิ่งรู้ว่าผับมีขายอาหารเช้าด้วย ผับข้างบ้านผมเปิดขายแต่อาหารเที่ยงแฮะ T^T เรื่องลองชองนี่ผมคาดไม่ถึงเหมือนกัน ห้าห้า จริงครับ สาวไทยส่วนมากต้องมีลองชองอย่างน้อยคนละหนึ่งใบ คุณ tan : เรื่องวีซ่า นี่เพื่อนผมบอกมาอะครับ ว่านักเรียนที่นั่นจะได้บัตร( คงคล้ายกับบัตรประชาชน) ที่สามารถไปเที่ยวในประเทศในยุโรปได้ เพียงแค่โชว์บัตรนี้  ผมอาจจะเข้าใจผิดไปเอง เดี้ยวลองไปถามใหม่ดีกว่า ^^ คุณ อิสวาสุ : ผมว่าที่นี่พยายามอนุรักษ์ตึกเก่าๆไว้นะครับ จากที่ผมสังเกต ตึกส่วนมากจะสองชั้น รวมทั้งห้างด้วย ส่วนเรื่องข้าวเนี่ย ผมติดใจอยู่อย่างหนึ่ง การบรรจุครับ จากการสอบถามเพื่อนชาติอื่นๆ ข้าวไทย ถือว่า ราคาถูก เมือ่เทียบกับข้าวจากอิหร่าน หรือ ปากีสถาน รวมทั้งญี่ปุ่น แต่การบรรจุ ไม่ได้ดึงดูดใจให้คนซื้อไปกินเลยครับ แก้ไขเมื่อ 03 ม.ค. 53 23:52:55 จากคุณ : nakotako เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 53 23:36:59

ความคิดเห็นที่ 38   ไม่รู้นะ แต่ชอบอังกฤษ ชอบบ้านนอก ชอบสีเขียว ชอบความสะอาด ชอบความเรียบร้อย ชอบที่ตึกไม่สูงมาก ชอบที่ซื้อของแล้วไม่พอใจขอตังค์คืนได้ ชอบคนขับรถส่วนใหญ่มีวินัย ข้ามถนนง่าย ชอบคนมารยาทดี คอรัปชั่นไม่มาก ตำรวจไม่รีดไถ เวลาขับรถ ตรงนี้ชอบมาก ไม่ชอบอย่างเดียวคือ ฤดูหนาว หนาววววมาก กับคนใส่สีดำกันทั้งเมือง ไปดูได้ที่ลอนดอน จากคุณ : นี่ไง เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 53 23:59:59 A:79.68.186.227 X: TicketID:241340

ความคิดเห็นที่ 39 27. นักเรียนที่มาเรียนในอังกฤษ อยากเที่ยวยุโรป ต้องขอวีซ่ายุโรป ส่วนนักเรียนที่เรียนในยุโรป ไปเที่ยวที่ไหนก็ได้ในยุโรป โดยไม่ต้องขอวีซ่า ถ้ามาคนไทยมาเรียนที่ EU แล้วสามารถไปได้ทุกประเทศในเชงเก้นรวมทั้งสวิสเซอร์แลนด์ แต่ถ้าไปอังกฤษก็ต้องขอวีซ่าเพราะอังกฤษไม่ได้อยู่ในเชงเก้น จากคุณ : Humble เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 53 00:32:24

ความคิดเห็นที่ 40 ผมมองว่า   ประการหนึ่งที่อังกฤษยังพอมีอิทธิพลทางด้านเศรษฐกิจ  มาตรฐานสังคม   และมุมมองในแง่global ที่หลายประเทศอยากจะก็อปปี้นำไปใช้ในสังคมของตัวเอง  ก็คือการเคารพและมีระเบียบวินัยของคนส่วนใหญ่ ส่วนเรื่องการศึกษา   ณ ปัจจุบันนี้ถ้าจับระดับ"หัวกะทิ"  ของอังกฤษกับของไทยมาแข่งกัน   อังกฤษอาจจะสู้ไม่ได้หรืออาจจะสูสี     แต่ถ้าวัดกันระดับประเทศ   "อัตรา" ของประชากรด้อยการศึกษาของไทยเรามีสูงมากๆๆๆๆๆๆๆๆ    เรายังห่างชั้นอังกฤษอยู่มากมายก่ายกอง  อีกยี่สิบหรือสามสิบปีเราจะตามทันหรือเปล่าก็ไม่รู้     ตามโครงร่างการศึกษาของอังกฤษ   เขาจะทำให้อัตราผู้ด้อยการศึกษา(ระดับ high school)ทั้งประเทศมีหนึ่งในสาม!! การที่ประเทศไทยมีนักเรียนระดับหัวกะทินั้น   ก็นับว่าเป็นเรื่องดี   แต่ก็น่าเสียดายว่าจะเป็นคนส่วนที่น้อยมากๆ ในสังคมไทย   เมื่อจบการศึกษามาทำงานเพื่อประเทศชาติ    ก็มีแนวโน้มที่จะถูก "ระบบราชการไทย" กลืนกินไปหรือผันตัวไปทำงานประเทศอื่น    อีกทางหนึ่ง...   หากประเทศมีประชากรส่วนใหญ่ที่มีการศึกษาไม่ต้องระดับหัวกะทิ   อย่างน้อยๆ ก็พอรู้เท่าเทียมกัน   เข้าใจระบบและเคารพกติกา    นั่นแหละ!! คือ "หัวจักร" อันทรงพลังที่จะขับเคลื่อนประเทศได้    ประเทศไทยเรายังขาดตรงนี้อีกมาก  (ความจริงไม่ขาดหรอก....หากแต่ว่า    งบประมาณที่ได้เราทุ่มไปตรงนี้(การศึกษา)   มักจะไม่ตกไปถึงส่วนภูมิภาค   หรือหากตกไปถึงส่วนภูมิภาคจริงๆ  ก็จะถูกแบ่งถูกซอยถูกหั่นเหลือแค่กะจิดริดเดียว!!  ) ส่วนมาตรฐานและความปลอดภัยของชีวิต   อืมมม์....ที่เมืองไทย   ถ้าเกิดใครเดินไปเหยียบเท้าหรือชนใครโดยบังเอิญ   ก็นับว่ามีความเสี่ยงต่อชีวิตสูงไม่น้อย  อาจโดนตำหนิ   โดนชก   โดนแทง  หรือท้ายที่สุดโดนยิง!!   นี่แค่เป็นการเหยียบเท้าหรือโดนชนโดยอุบัติเหตุ      ถ้ารุนแรงกว่าเหยียบเท้า??  เปอร์เซ็นต์ของการมีชีวิตรอดน่าจะเฉียดๆ ห้าสิบห้าสิบ!! ประเทศอังกฤษยังจะคงกิน "บุญเก่า" ที่เป็นอานิสงส์จากอดีตอยู่ไปอีกระยะหนึ่ง    ส่วนหนึ่งความเป็นปึกแผ่นของประเทศก็อาศัยจากบุญเก่าตรงนี้   ซึ่งอังกฤษก็ตระหนักตรงนี้    ผมเชื่อว่าการที่รัฐบาลวางกรอบ โครงร่าง และระเบียบของสังคมอย่างเคร่งครัด   ก็เป็นส่วนหนึ่งที่เสริมให้ประเทศแข็งแกร่ง    แต่ประเทศไทยเรากลับล้มลุกคลุกคลานในเรื่องนี้มาตลอด    หลายโครงการ  หลายโครงร่าง  และหลายระเบียบแบบแผนที่ถูกอนุมัติและดำเนินการไปได้ระยะหนึ่ง   เมื่อผู้นำรัฐคนใหม่เข้ามาก็รื้อทิ้งไปเสีย    หลายคนมาจับวาง  แล้วอีกหลายคนก็มายกไปทิ้งแล้วเอาของใหม่มาจับวาง   เป็นวัฏฏจักรเป็นวังวน  พายเรือในอ่างไม่มีสิ้นสุด จะไม่แปลกใจว่า   อีกไม่กี่ปีข้างเวียดนามเขาจะก้าวข้ามเราไป   ส่วนอีกประเทศหนึ่งที่มีศักยภาพที่จะก้าวข้ามไทยไปอีกก็คืออินโดนีเซีย   ในแง่เศรษฐกิจอินโดนีเซียมีศักยภาพสูงกว่าเรามากในด้านทรัพยากร   และประชากร(demandและ supply) แก้ไขเมื่อ 04 ม.ค. 53 01:39:50 แก้ไขเมื่อ 04 ม.ค. 53 01:38:11 จากคุณ : วัชรานนท์ เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 53 01:07:50

ความคิดเห็นที่ 41 อังกฤษไม่ใช่มีแต่ลอนดอนที่เดียวนะคะ เมืองที่ดิฉันอยู่นี้  สวยงามดี อากาศดี  ผู้คนเป็นมิตร สะอาดสะอ้าน มีความเท่าเที่ยมกันในสังคม  มีสิทธิ์ มีเสียง   มีกฎ กติกา  มารยาท (สุนัข ปล่อยของเสีย และเจ้าของก็ต้องรีบเก็บ) คนที่อยู่ในเครื่องแบบ เชื่อถือได้ มีคนมากมายมีความรู้จากหลายหลากประเทศ  มาทำงานที่อังกฤษ ต้ั้งแต่ งานระดับล่างๆ เช่นล้างจาน ไปจนถึง professor เรื่องความเจริญ ระหว่าง ลอนดอนกับเมืองอื่น ๆ  ดิฉันว่า เท่าเทียมกันแหละค่ะ   อาจแค่มีบริษัทห้างร้าน  อาจน้อยกว่า   แต่ก็มีเกือบเหมือนๆ กันแทบทุกเมือง ค่าครองชีพลอนดอนสูงกว่า แต่รายได้ก็สูงกว่าด้วย (นิดหน่อย) คนอังกฤษ อนุรักษ์ สภาพแวดล้อม   บ้านช่องออกแบบให้เข้ากับสภาพแวดล้อม มีการขออนุญาตถูกต้อง บ้าน อาคาร ต่างๆ อายุเป็นร้อยๆปี  ยังคงมีให้เห็นอยู่มากมาย   เพื่อนบ้านคิดจะต่อเติมบ้าน  หากเราคิดว่ามันจะเป็นการบดบังทัศนียภาพ แล้วเราไม่เห็นด้วย  สามารถแจ้งไปได้ ดังนั้นการจะต่อเติมบ้าน   จะต้องปิดประกาศให้ผู้คนในระแวกบ้านนั้นรับทราบก่อนต่อเติม ระบบการศึกษา ดิฉันว่าของที่อังกฤษดีกว่า  เพราะสอนให้เด็กรู้จักคิด มากกว่าให้ท่องจำ แถมเรียนฟรี จนถึง 18  โรงเรียนมีระบบตรวจสอบ จากหน่วยงานนอก  ฉะนั้น  จะไม่ทางเห็นครูมานั้งขาย เครื่องสำอาง หรือ ประกัน ในเวลาเรียน (จำได้สมัยที่เรียนโรงเรียนวัดตอนเด็กๆ ขายมันแทบทุกวัน ตั้งแต่อาหารกลางวันไปจนถึงเครื่องประดับ แถมครูบางคนมาสอนทั้งกลิ่นเหล้าหึง ก็มี ครูประถมบ้านเรา ) มาตราฐานโรงเรียนถือว่าใช้ใด้ ผู้ปกครอง สามารถเดินเข้าไปคุยกับครู หรือครูใหญ่เมื่อไหร่ก็ได้  เป็นห่วงเรื่องอะไร ก็แจ้งเข้าไปได้   ไม่ต้องยกมือไหว้  กราบกรานขอร้องให้ รับลูกเข้าโรงเรียน     คนอังกฤษส่วนใหญ่เชื่อใน    Human right   (ถ้าไม่กระทบกับตัวเอง) Health and safety  มาเป็นอันดับหนึ่ง รักสัตว์มาก ๆ  ย่อมจ่ายค่ารักษา ค่ายา แพงๆ ให้กับสัตว์ แต่ตัวเอง รักษาฟรี กับ NHS !!! คนอังกฤษ ตกงานเป็นปี  ก็ยังมีเงินใช้   คนแก่ อยู่อย่างสบาย ลูกเต้าไม่ต้องมานั่งเลี้ยง คนพิการ มีคนคอยดูแลอย่างดี มีเงินเลี้ยงดู เด็กกำพร้ามีคนคอยเลี้ยงดูให้ ตรวจสอบอยู่เสมอ   Benefit  Benefit  Benefit จากคุณ : Khemmarassamee เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 53 01:13:53

ความคิดเห็นที่ 42 คุณอิสวาสุ พึ่งดูข่าวช่อง3 (ประเด็นข่าว) ไม่นานมานี้   ทางการได้ออกสำรวจอาคารตึกที่สูงกว่าห้าชั้นขึ้นไปในกรุงเทพฯ  ปรากฏว่ามากว่า 65% ไม่ผ่านมาตรฐาน!!!    ซึ่งทางราชการกำลังรีบดำเนินการให้เจ้าของอาคารทำให้ผ่านมาตรฐานอยู่    กว่าจะดำเนินการเสร็จนี่     ผมเสียวไส้แทนประชาชนที่อาศัยหรือเดินผ่านไปผ่านมาใกล้ๆ อาคารนั้นจริงๆ.... จากคุณ : วัชรานนท์ เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 53 01:49:43

ความคิดเห็นที่ 43 27. "ส่วนนักเรียนที่เรียนในยุโรป ไปเที่ยวที่ไหนก็ได้ในยุโรป โดยไม่ต้องขอวีซ่า" ...I think you misunderstood this point. แต่เพื่อนดิฉันมาต่อโทที่เยอรมัน 2 คน ที่สวีเดน 4 คน รุ่นพี่ที่ฝรั่งเศสและเพื่อน2คน ก็มาเล่าให้ฟังบ่อยๆนะคะ ว่าเค้าได้ไปท่องเที่ยวที่ไหนมาบ้าง กินแกลบมากมาย เพราะต้องเก็บตังค์ไปเที่ยวหลายๆที่ ก็ไม่ต้องขอวีซ่านี่คะ แต่พวกเค้าเหล่านั้นก็ยังไม่เคยไปอังกฤษนะคะ เพราะขี้เกียจขอวีซ่า อย่างตอนนี้ คนนึงที่อยู่เยอรมัน ก็ไปเที่ยวตอนหยุดปีใหม่ที่โปแลนด์อยู่ และเมื่อตอนคริสมาสต์ เพื่อนคนนึงที่อยู่สวีเดนก็มาเที่ยวที่ปารีส เค้ามีบัตรแบบที่คุณnakotakoพูดถึง แต่ยังไงเดี๋ยวจะลองถามพวกเค้าเพื่อนเป็นความรู้อีกทีว่าบัตรมันชื่ออะไร หน้าตาคร่าวๆเป็นยังไงกันแน่ จากคุณ : piggalanla เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 53 01:57:06

ความคิดเห็นที่ 44   ชอบกระทู้นี้มากจนถึงมากที่สุด :) จากคุณ : คนเบอร์เก้า เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 53 03:02:01

ความคิดเห็นที่ 45 ขอแจมหน่อยนะครับ เอาข้อดีและข้อสังเกตุก่อน -ส้วมสาธารณะทุกแห่ง จะมีกระดาษชำระฟรีให้ใช้  และถ้าเป็นส้วมตามห้าง จะสะอาดด้วย -อุปกรณ์ที่สาวจีนมักจะต้องพกเข้าห้องเรียน คือกระติกน้ำร้อนและแว่นตา -หนุ่มจีนสูบบุหรีจัดมาก สูบกันแทบทั้งนั้น -กินข้าวตามร้าน ขึ้น taxi ใช้บริการต่างๆ ไม่จำเป็นต้อง Tip เป็นปกติเหมือนในอเมริกาครับ  ดังนั้นใครจะมาทำร้าอาหารแล้วหวังทิป  อย่าหวังมากครับ  เค้าไม่ค่อยให้ หรือให้ก็ไม่มากเท่าไหร่ครับ -ผู้คนเคารพกฏระเบียบดีมากครับ ขับรถไม่มีแซงคิวกัน ข้อเสีย -ก๊อกน้ำตามห้องน้ำสาธารณะ มันจะแยกร้อนเย็นทำไม(วะ) ก๊อกร้อนก็ร้อนจนลวกมือ ไอ้ที่เย็นก็เย็นจนมือแข็ง ล้างมือทีลาบากยากเย็น ผมอยู่ทาง NorthWest ผมว่าผู้คนฝรั่งที่นี่นิสัยดีนะครับ สุภาพและเป็นมิตรดี แต่ tip น้อย แขกนี่เจอน้อยมากๆ  บ้านเมืองสงบ คุณภาพชีวิตผู้คนดีครับ อยู่ที่นี่ ทำงานเป็นคนขับรถเมล์ ตำรวจหรือเสมียน ก็สามารถมีคุณภาพชีวิตดีๆ ได้มากกว่าทำงานระดับเดียวกันในเมืองไทย จากคุณ : ประกอบ เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 53 03:24:39

ความคิดเห็นที่ 46 มาบอกเล่าสิ่งที่เจอต่างกันนะครับ 1.ใครจะคิดว่าการมาเรียนที่อังกฤษ สิ่งที่หายากที่สุดในห้องเรียน คือ คนอังกฤษ ห้องเรียนผมคนอังกฤษ 70% ครับ ผมคนไทยคนเดียว (ผมเรียนด้านที่เกี่ยวกับการแพทย์น่ะครับ) คิดว่าปริมาณชาวอังกฤษคงเกี่ยวข้องกับวิชาที่จะเรียนและมหาลัยด้วย(มั๊ง)ครับ เป็นข้อสังเกตเฉย ๆ นะครับ 8.น้ำก๊อกสะอาดกินได้ แต่ ท่อที่ส่งมาสกปรก คิดว่าคงไม่ใช่เฉพาะตัวท่อน่ะครับ ตัวน้ำก็ด้วย น้ำดิบที่เอามาทำน้ำประปาก็เหมือนบ้านเราและครับ เอามาจากแหล่งน้ำธรรมชาติ (ที่นี่เค้าเรียก reservoir) พวกแม่น้ำ อ่างเก็บน้ำเทือกนั้น วิธีการเหมือนไทยแหละครับ ใช้คลอรีนเหมือนกัน ทีนี้ปัญหาเกิดตรงที่ในน้ำไม่ได้มีเฉพาะเชื้อโรคหรือปฏิกูลเท่านั้น มีสิ่งที่เรียกว่าสารอินทรีย์อยู่ด้วย สารอินทรีย์พวกนี้พอทำปฏิกิริยากับคลอรีนแล้วจะทำให้เกิดสารใหม่ที่เป็นสารก่อมะเร็งครับ ที่ที่ผมเรียนกำลังทำวิจัยอยู่ว่า tap water ที่นี่ทำให้เกิดมะเร็งหรือเป็นหมันจริงมั๊ย เพราะฉะนั้น จะกินก็ควรกรอง หรือเอาไปแช่ตู้เย็นเพื่อให้สารที่อยู่ในน้ำระเหยออกไปก่อนนะครับ 11.คนจรจัดนั่งขอเงิน แต่มีบุหรี่ซองละห้าปอนด์ดูด เห็นแถวบ้านเหมือนกันครับ แต่ที่ผมเห็นคือมีคนเค้าให้ ไม่แน่ใจว่าเพราะใจบุญหรือยากเล่นกับหมาที่ขอทานเอามานั่งด้วย 14. คนยุโรปใช่ว่าจะเก่งภาษาอังกฤษกว่าเรา เพียงแต่สำเนียงนั้นใกล้เคียงสำเนียงอังกฤษมากกว่า คนยุโรปบางประเทศสำเนียงบ้านนอกเหมือนเราก็มีครับ เช่น กรีก ยุโรปตะวันออก แต่สำเนียงไม่ใช่ปัญหาในการสื่อสารหรอกครับ (ในความคิดผมนะ) 19. ฝรั่งไม่ได้เก่งไปกว่าคนอื่น เพียงแต่พูดภาษาอังกฤษ และฟังภาษาอังกฤษเก่งกว่าชนชาติอื่น เคยคิดแบบนั้นตอนเริ่มเรียนใหม่ ๆ ตอนนี้ผมชักไม่แน่ใจแล้วครับ เหอๆๆ 20. เมื่อใด มีแขก(โพกหัว) เมื่อนั้น จะเป็นลม ไม่ได้เป็นเพราะเหม็นอย่างเดียวนะครับในกรณีที่ผมเจอ บางทีแม่เล่นใส่น้ำหอมหรือกลิ่นเครื่องหอมประเภทธูป เทียน ฯลฯ แล้วเล่นนั่งกันเป็นกลุ่ม แอวะ 22. หิวอาหาร อยากหาอะไรกิน ยามเที่ยงคืน ให้ข่มตานอน หรือ หามาม่ากินซะ เพราะร้านต่างๆปิดหมดแล้ว ถ้าแถวบ้านมี off-license หรือ tesco ที่เปิด 24 ชั่วโมงไม่เป็นปัญหาครับ (แถวบ้านผมก็มี แต่ไม่ค่อยได้ใช้บริการหรอกครับ) ในมุมผมนะครับ อังกฤษ (โดยเฉพาะลอนดอน) ก็คล้าย ๆ ไทย (โดยเฉพาะกรุงเทพ) แหละครับ คนเยอะ แย่งกันกินกันใช้ ที่น้อย รถติด ช่องว่างระหว่างคนจนคนรวยเยอะ คนที่นี่ก็ไม่ได้รวยมีกินมีใช้เหมือนกันทุกคนครับ เกรียน ๆ ก็เยอะแยะ เดินกลางคืนบางทีก็กลัวเหมือนกัน จะโดนปล้นเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ (เพื่อนโดนไป เอามาเล่ากันเป็นที่สนุกสนานว่าที่นี่ก็ถ่อยเหมือนกันเนอะ) แต่มานี่ก็ได้เห็นอะไรที่ทำให้รู้ว่าจะเป็นบ้านเมืองที่เจริญได้ก็ต้องทำตามเค้าให้ได้ก่อน เช่นเรื่องนิสัยรักการอ่าน หรือความตั้งใจทำงาน หรือวิธีการเรียนการสอน วิธีการทำงานในห้องปฏิบัติการ ฯลฯ ถ้าเก็บเกี่ยวสิ่งเหล่านี้กลับไปประยุกต์ใช้ให้เหมาะกับคนไทยเรา ประเทศเราก็ดีกว่าประเทศอังกฤษได้ครับ (มีอำมาตย์หรือไม่มีก็ไม่เกี่ยวกันกับการพัฒนาประเทศแล้วล่ะครับ เอ๊ะ มาการเมืองได้ยังไง ฮ่า ๆ ๆ) จากคุณ : yotsaa เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 53 03:31:56

ความคิดเห็นที่ 47 พอดีเห็นเขียนเรื่องตึกเก่า ที่นี่เคยมีกฎหมายออกมาครับ รู้สึกว่าก็ยังบังคับใช้อยู่ เค้าจะกำหนดพื้นที่ที่ต้องรักษาสภาพภายนอกอาคารให้เหมือนเดิม (เก่ายังไงก็ต้องเก่าแบบนั้น ถ้าซ่อมแซมก็ต้องทำให้เป็นรูปแบบหรือแนวเดิม) ข้างในจะทันสมัยยังไงก็ได้ไม่ว่า แต่ข้างนอกต้องเหมือนเดิม เพื่อให้ทัศนีย์ภาพสวยงามครับ แต่ก็มีบางส่วนของเมืองที่เค้าอุนญาติให้ขึ้นตึกสูง อาคารรูปแบบทันสมัยนะครับ ประมาณว่าจัดโซนนิ่งเหมือนบ้านเราแหละครับ (แต่เป็นคนละเรื่อง บ้านเราจัดโซนนิ่งด้านความบันเทิง เหอๆๆ) จากคุณ : yotsaa เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 53 03:38:45

ความคิดเห็นที่ 48 26. อยากเลิกกับแฟน ให้มาเรียนเมืองนอก ไม่จริงค่ะไม่จริ๊งงงง กรี้ดๆๆ เค้ายังรักกันดีนะ... แต่เราว่าอยู่ที่คนมากกว่านะ... ถึงมันจะทำให้มีปัจจัยมากกว่าก็เถอะ... เราเรียนที่แถวๆ south east ชอบคนทางแถบนี้ค่ะ น่ารักนิสัยดี อิอิ หรือเรามองโลกในแง่ดีหว่า? คห. 45 -หนุ่มจีนสูบบุหรีจัดมาก สูบกันแทบทั้งนั้น น้องเราที่ไปเรียนที่จีนมาบอกว่า คนจีนเนี่ย ถ้าอายุสิบหกไม่สูบบุหรี่ ไม่ดื่มเหล้า เค้าถือว่าเป็น ไก่อ่อน ค่ะ (น้องพูดแบบนี้ด้วยสีหน้าจริงจังมากมาย -_-") จากคุณ : Mirah เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 53 03:39:15

ความคิดเห็นที่ 49 แล้วหากยังพูดถึงทรัพยากรทางธรรมชาติแล้ว  จริงๆ  อังกฤษยังคงมี น้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ ถึงแม้ต้องนำเข้าพลังงานเพราะมันไม่พอใช้ ต่อคนทั้งประเทศ  แต่ก็ถือว่ายังพอมี  ถ่านหินก็ยังคงมีอยู่อีกมาก แต่คนต่อต้านกัน เพราะมันกระทบต่อสภาพอากาศและสิ่งแวดล้อม   โรงงานไฟฟ้านิวเครีย  มีมานานมากแล้ว ในขณะที่คนไทยพึ่งจะมีรถใต้ดิน ใช้กันไม่นานนี้   การเพาะปลูก ตามเมืองต่างๆ ก็ยังเพาะปลูกกันอยู่ ผักผลไม้ท้องถิ่น แถมมีเทคโนโลยีที่ทันสมัยปลูกอะไรก็ได้ ในโดม ในห้องกระจก จริงๆแล้วคนไทยเข้าใจผิดกัน ว่าอังกฤษไม่สามารถเพาะปลูกอะไรได้   จริงๆแล้ว ปลูกได้  แต่ด้วยค่าแรงงานมันแพงมาก นำเข้ามาจากที่อื่น มันถูกกว่าเยอะ ภาษีแพง  เลี่ยงยาก  มีหน่วยงานตรวจสอบตลอด ในขณะที่เมืองไทย เลี่ยงภาษีกันตรึม มีใครไปตรวจสอบที่ไหน ความห่างของชนชั้น  คนรวย คนจน  ไม่ได้มากเท่าของเมืองไทย ลูกหมอ ลูกทนายความ  เรียนโรงเรียนเดี่ยวกับ ลูกคนขับรถเมล์ได้ จากคุณ : Khemmarassamee เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 53 04:08:05

ความคิดเห็นที่ 50   ข้อ 4.อาหารประจำชาติอังกฤษ คือ ฟิชแอนด์ชิป ขายโดยแขก อันนี้เห็นด้วยจ๊ะ แต่ก็มีนะ เจ้าของคนไทย แต่จ้างแขกขาย 555 จริงจริง ไม่ได้โม้ จากคุณ : เหงาๆแต่ไม่เศร้านะจ๊ะ เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 53 05:29:43 A:82.36.147.246 X: TicketID:171778

ความคิดเห็นที่ 51 #49 เพิ่มเติม อังกฤษไม่เพาะปลูกเอง เพราะค่าแรงแพง ค่าแรงแพง เพราะ คนที่จะมาทำการเพาะปลูก สามารถไปทำอย่างอื่น ที่มันมีมูลค่ามากกว่า เพาะปลูกได้ (เช่น ไปเป็นหมอ ไปเขียนโปรแกรม ไปสร้างตึก) ของแพงในอังกฤษ ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่มาจากการที่ประเทศเค้าเจริญแบบสุด ๆ แก้ไขเมื่อ 04 ม.ค. 53 10:18:09 แก้ไขเมื่อ 04 ม.ค. 53 10:17:48 จากคุณ : คุณชินโซ เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 53 10:15:34

ความคิดเห็นที่ 52   คุณ : nakotako เรื่องชอบรักษาของเก่า ทั้งโลก ไม่มีใครเกินอังกฤษอยู่แล้ว จากคุณ : อิสวาสุ เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 53 13:54:16 A:71.114.54.31 X: TicketID:146114

ความคิดเห็นที่ 53 อ่านแล้วเริ่มคิดเปลี่ยนใจจากลอนดอนเป็นที่อื่น..เหอๆ แต่ก็ขอบคุณสำหรับทุกความเห็นครับ จากคุณ : [[ ลิงอ้วน ]] เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 53 22:01:14

ความคิดเห็นที่ 54 เพิ่มเติมความคิดเห็นที่ 43 หลังจากที่ไปสอบถามมาได้ความว่า นักเรียนจะได้ EU resident permit(for study purpose)สามารถเข้าประเทศไปท่องเที่ยวได้ในกลุ่มประเทศเชงเก้น จากคุณ : piggalanla เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 53 22:08:20

ความคิดเห็นที่ 55 d จากคุณ : okb เขียนเมื่อ : 12 ม.ค. 53 12:56:17