ความคิดเห็นที่ 1 เป็นกระทู้ที่น่าสนใจและมีประโยชน์ ขอโหวตให้เลยครับ จากคุณ : Lastchristmas_โอ๋ เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 53 21:35:45

ความคิดเห็นที่ 2   ของผมเป็นวี่ซ่าท่องเทียวครับ มีกิจการเป็นของตนเองเหมือนกัน แต่เขาไม่เคยโทรเช็ค แต่คุณขอไปเรียน น่าจะเป็นสาเหตุนี้หรือเปล่าเลยโทรเช็คละเอียดยังงั้น ( แต่โทรเช็คเกี่ยวกับคุณนี่เกินไปจริงๆ อ่ะ ) และสาเหตุที่แฟนไปด้วยอีกคงทำให้เขาต้องเช็คละเอียดมากขึ้นหรือเปล่า ยังไงขอให้แฟนคุณโชคดีในการขอรอบที่ 2 ครับ จากคุณ : เอก เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 53 21:40:24 A:192.168.212.196 X:58.10.68.99 TicketID:144303

ความคิดเห็นที่ 3   ถามต่ออิกหน่อยครับ โดยปกติแล้วนี่ คนสัมภาษณ์เราจะเป็นคนเดิมๆ นั่งช่องเดิมๆ หรือเปล่าครับ เพราะแฟนผมจะไปลองอีกครั้งไม่อยากเจอคนเดิมกลัวไม่ผ่านอีก แล้วการเลือกสัมภาษณ์เนี่ย แยกคนสัมภาษณ์ภาษาไทยอังกฤษหรือเปล่า เพราะอยากเปลี่ยนคนสัมภาษณ์ คราวที่แล้วเลือกภาษาไทย ครั้งต่อไปจะได้เลือกภาษาอังกฤษ แล้วอีกอย่างนึงคือ ชนิดของวีซ่า จะเป็นตัวนำเราเข้าไปหาคนเดิมๆอีกหรือไม่ ประมาณว่า คนนี้สัมภาษณ์ วีซ่านักเรียนนะ คนนี้สัมภาษณ์ วีซ่าท่องเที่ยวนะ อะไรแบบนี้อ่ะครับ ผมอยากรู้ว่า คนที่สัมภาษณ์เรา จะนั่งช่องเดิมๆหรือเปล่า ทำงานทุกวันหรือเปล่า มีจังหวะหยุดงาน บ้างไหม อะครับ ผมจะวิเคราะห์ ความเป็นไปได้แล้วเลือกสัมภาษณ์ เพราะไม่อยากเอาเงินอันน้อยนิดของผมไปบำรุงประเทศเค้าอ่ะครับ ถ้าโอกาสมีน้อยเกินไป ก็อาจจะไม่ไปแล้วครับ ปล. ที่ไปสัมภาษณ์ ผมกับแฟนได้สัมภาษณ์ช่องเบอร์ 10 คนสัมภาษณ์เป็นฝรั่งผู้ชายผิวขาว อายุยังไม่เยอะ เท่าไหร่ อยากเช็คนิดนึงครับ ใครเพิ่งไปสัมภาษณ์มา ช่วยรายงานนิดนึงครับ ว่าเค้าอยู่ที่เดิมๆ กับทุกๆวันไหม ขอบคุณที่ตอบครับ จากคุณ : บัตรผ่านจอมซุ่ม เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 53 22:24:08 A:222.123.113.34 X: TicketID:248656

ความคิดเห็นที่ 4 แล้วแฟนจะไปเรียนด้วยหรอค่ะ หรือไปวีซ่าท่องเที่ยว? จากคุณ : Pammeluff เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 01:41:09

ความคิดเห็นที่ 5 โอ้วว เดี๋ยวนี้เช็คขนาดนี้แล้วหรอ กำลังจไปขอวีซ่านักเรียน เหมือนกัน เริ่มเครียดเลย จากคุณ : mm_takky เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 07:24:22

ความคิดเห็นที่ 6 คิดว่าทางสถานทูตคงไม่แยกเจ้าหน้าที่จะสัมภาษณ์วีซ่าแต่ละประเภทออกจากกัน ไปอเมริกาสี่ครั้ง สัมภาษณ์ไม่เคยซ้ำเจ้าหน้าที่เลยค่ะ ครั้งแรกไป WAT สัมภาษณ์กับฝรั่งหนุ่มใหญ่ มีอายุหน่อย ใจดีมากมาย ครั้งที่สองไปเที่ยว อันนี้สัมภาษณ์นานหน่อย ถามหลายอย่างอยู่ กับเจ้าหน้าที่ผู้หญิงผมหยิกใส่แว่น ครั้งที่สามไปเที่ยว สัมภาษณ์กับเจ้าหน้าที่ผู้หญิงไม่ใส่แว่น ถามสองคำถาม แล้วก็ให้วีซ่าเลย ครั้งที่สี่สัมภาษณ์กับเจ้าหน้าที่ผู้ชาย แต่จำไม่ได้แล้วว่าลักษณะอย่างไร แต่เท่าที่เข้าไปในสถานทูต เวลารอก็สังเกตคนที่มาสัมภาษณ์ค่ะ ซึ่งใน 1 แถวที่รอคิว เค้าจะมีวีซ่าหลายประเภทมาก คนก่อนหน้าเราเค้าสัมภาษณ์วีซ่านักเรียน คนหลังเราสัมภาษณ์เจ 1 แฟนเจ้าของกระทู้จะได้สัมภาษณ์กับใครก็เตรียมตัวให้เยอะ ๆ นะคะ หาหลักฐานบ่งบอกถึงความสัมพันธ์กับประเทศไทยเยอะ ๆ เอกสารของพ่อแม่ที่เป็นข้าราชการเอาไปเยอะ ๆ หรือลองให้ผู้ใหญ่ในกระทรวงที่สังกัดเป็นผู้เซ็นให้หรือให้เจ้ากระทรวงเซ็นให้ได้ยิ่งดี เพื่อสร้างความมั่นใจในการออกวีซ่าให้กับแฟนคุณ แต่ทั้งนี้และทั้งนั้นวีซ่าอเมริกาไม่มีอะไรแน่นอน ไม่มีบรรทัดฐานที่ใคร (นอกจากสถานทูต) จะสามารถกำหนดได้ว่าใครจะได้หรือไม่ได้ บางคนรวยมาก เอกสารครบ ยังไม่ผ่าน บางคนนักศึกษาจบใหม่ เพิ่งไปเรียนครั้งแรกก็ได้วีซ่าซะแล้ว เพราะฉะนั้น 50/50 ค่ะ มีรูรั่วจากสัมภาษณ์ครั้งก่อนตรงไหนก็หาหลักฐานมาอุดไว้ค่ะ รูปถ่ายครอบครัวที่อบอุ่นตั้งแต่เล็กจนโตพกไปก็ไม่เสียหายค่ะ เผื่อสถานทูตถามความสัมพันธ์อีก จะได้แสดงให้เห็นว่าครอบครัวฉันอบอุ่นดี มีรายได้ ไม่จำเป็นต้องไปขุดทองที่นั่นค่ะ ยังไงก็ขอให้โชคดีนะคะ ได้วีซ่าจะได้ไปด้วยกันค่ะ จากคุณ : gap (gabzy) เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 07:51:56

ความคิดเห็นที่ 7 พึ่งไปสัมภาษณ์มาเมื่อวานได้คนสัมภาษณ์คนเดียวกันเลย อยากบอกว่า เรื่องความผูกพันธ์กับเมืองไทยสำคัญค่ะ อย่างตัวเราเป็นสปอนเซอร์ตัวเอง มีเงินไม่ได้เยอะเลย แต่ว่ามีงานประจำที่ค่อนข้างมั่นคงก็ได้มา หรือตอนได้วีซ่าแลกเปลี่ยนเมื่อหลายปีที่แล้วก็ได้มาเพราะตอนนั้นเรียนอยู่ปีสามแล้ว เขาคงมองว่าไม่น่าจะทิ้งอนาคตไปอยู่ที่นั่น จากประสบการณ์นะคะ ที่เคยรู้จักเพื่อนๆี่พี่ๆที่อมเริกามาบ้างบางท่าน ตอนอยู่เมืองไทยมีเงินเก็บเยอะมากเลยทีเดียวแต่อยากมาทำงานอเมริกา และอยู่เมืองไทยส่วนใหญ่เป็นเจ้่าของกิจการไม่ก็งานที่ไม่ประจำ พอได้วีซ่ามา ส่วนมากไม่ค่อยยอมกลับเมืองไทยกัน นี่ก็อ่าจจะเป็นเหตุผลหนึ่ง แต่พอมีงานประจำที่มั่นคง เขาคงมองว่าไม่มีใครอยากเสี่ยงไปหางานที่นู่นอะไรงี้อ่ะค่ะ เรื่องคนสัมภาษณ์ ไม่ทราบค่ะ แต่เท่าที่สังเกตุดูตอนนั่งรอเมื่อวาน วีซ๋านักเรียนกับท่องเที่ยวก็สัมภาษณ์ช่องเดียวกันนะคะ จากคุณ : Left side heart เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 11:34:44

ความคิดเห็นที่ 8 ถ้าไม่อยากเอาเงินอันน้อยนิด ไปบำรุงประเทศเค้า ก็อย่าไปเสี่ยงขอให้แฟนดีกว่า เพราะคุณก็บอกแล้วว่า จะไปเอาอะไรกะแฟน อายุก็ไมได้เยอะ สินทรัพย์ อะไรก็ยังไม่มี แฟนก็เพิ่งเรียนจบมา ไม่รู้ว่าคำว่าแฟน หมายถึงแต่งงานหรือยัง ถ้าแต่งก็ขอ F-2 ติดตามคุณดีกว่านะ จากคุณ : ธนิตา เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 53 00:50:57

ความคิดเห็นที่ 9 ผมเคยโดนโทรเช็คตอนรัฐบาลเมกาตรวจสอบประวัติ ก่อนเข้าทำงาน แต่ผมไม่เคยได้ยินว่าโทรเช็คนะครับ แค่ขอวีซ่า เคสนี้แปลกดี ขอให้แฟนคุณโชคดีนะครับ จากคุณ : Scientist เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 53 06:59:10

ความคิดเห็นที่ 10   เพิ่งไปสัมพาดมาเมื่อวันที่ 26 นี่เองค่ะ วีซ่านักเรียน F1 เงินสปอนเซอร์แปดหลัก โดนโทรตามเหมือนกัน ทั้งๆที่เอกสารที่นำไปตอนแรกก้อครบแต่เจ้าหน้าที่ข้างหน้าเอาออกไป ตอนสัมพาดเราก้อพยายามจะยื่นให้เค้าดูเอกสารการเงิน แต่เค้าก้อไม่ดู หลังจากนั้นสาม ชม ก้อมีโทรสับมา เสียงจิกๆกัดๆ ถามซักไซ้เหมือนกันค่ะ ทำเอาเราเครียดเลย ว่าตกลงมันเป็นยังไงกันแน่ ทั้งๆที่ตอนเช้ายังบอกว่าวีซ่าคุณผ่านแล้ว แต่เค้าจะเอาเอกสารเพิ่ม ถามว่าบ้านไกลมั้ย ถ้าบ้านไกล ให้แฟ็กมาก้อได้ วันรุ่งขึ้นเราก้อแฟ็กไป เรียบร้อย เราก้อรอแล้วรอเล่าทำไมวีซ่าเรายังไม่มาอีกนะ สรุปวันนี้โทรมาอีก บอกเราปลอมเอกสาร เราเลยจะเอาตัวจริงไปให้ เค้าบอกไม่ต้องเค้ามีวิทีตรวจสอบของเค้าเอง เรานี่เครียด ที่บ้านก้อเครียด นี่มันอะไรนักหนาเนี่ย ถึงตอนนี้วีซ่ายังไม่ได้เลยค่ะ แล้วก้อไม่รุชะตากรรมตัวเองด้วยว่าจะได้มั้ย ปล แล้วสรุปเราจะได้วีซ่ามั้ยอะ ทั้งๆที่บอกว่าผ่านแล้ว คุณเจ้าของกระทู้ได้วีซ่าภายในกี่วันคะหลังจากเค้าโทรตาม จากคุณ : Viewue เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 53 18:58:20 A:202.176.163.228 X: TicketID:251854