ความคิดเห็นที่ 1 ทำไมประเทศไทยฟังดูแย่จัง ... ยังไม่เคยมีประสบการณ์กลับไทยหลังจากอยู่เมืองนอกนานมาก (นานมากนี่นานเท่าไรนะ?) แต่ขอเสริมนิดนึงนะคะ 1. อย่าคาดหวังว่าประเทศไทยจะเหมือนกับประเทศที่คุณเคยย้ายไปอยู่ เพราะคุณก็รู้ว่ามันไม่เหมือนอยู่แล้ว 2. กลับมาถึงวันแรก ถ้ามีเวลา ให้เปิดทีวีตอนสองทุ่ม ดูข่าวในพระราชสำนัก แล้วคุณจะรู้สึกมีความสุขที่ได้กลับเมืองไทยเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่า จากคุณ : LittleCancer เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 53 10:35:32

ความคิดเห็นที่ 2 เอ่อ...ไม่คิดว่าจะทำให้ประเทศไทยดูแย่ อ่ะค่ะคุณ LittleCancer ^^" เอาเป็นว่า อ่านเอาฮา... เล็กๆน้อยๆ แบ่งปันกันค่ะ =^^= จากคุณ : Fall Foliage เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 53 10:45:18

ความคิดเห็นที่ 3 เรื่องน้ำหนักนี่เป็นเรื่องจริงอย่างมากค่ะ :) เหนื่อยมากเวลากลับไปแต่ละที แล้วก็เร่ื่องถามเงินเดือนนี่ก็เหมือนกัน ไม่อยากตอบแต่ก็โดนถามอยู่นั่นแหละ เฮ้อ ... เพิ่มเติมนะคะ - เดินข้ามถนนให้ระวัง รถจะไม่หยุดให้คุณ ต้องระวังตัวเองให้ดีๆ - เดินบนทางเท้า อาจจะมีมอเตอร์ไซค์วิ่งมาให้หลบ แก้ไขเมื่อ 16 ม.ค. 53 02:31:07 จากคุณ : junnn เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 53 11:22:34

ความคิดเห็นที่ 5 ขับรถบนถนนในเมืองไทยอย่าเปิดไฟเลี้ยว ถ้าจะเปลี่ยนเลน เดี๋ยวจะโดนบล็อค หุหุ จากคุณ : Huntington เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 53 12:01:19

ความคิดเห็นที่ 6 อ่านแล้วขำค่ะ เพราะเพิ่งกลับมาเมื่อสี่เดือนที่แล้ว เห็นภาพว่าใช่จริง ๆ ขอเพิ่มนิดนึง - อย่าแปลกใจที่คนไทยไม่เดินจากสยามไปมาบุญครอง แต่ขึ้นรถไฟฟ้าแทน เขาว่ามันไกลถึงแม้ว่าจะแค่สถานีเดียวและมีทางเดินเชื่อมถึงกันก็ตาม - เวลาเดินบนทางเท้าข้างถนนระวังให้ดี อาจเหยียบกับระเบิดไม่รู้ตัว(อุจจาระสุนัข)     ข้อดีก็มีเช่น - หาของกินได้ 24 ชั่วโมง อร่อยสุดยอด - เดินทางสะดวก มีทั้งแท๊กซี่ รถเมล์ รถไฟฟ้า มอเตอร์ไซค์ เรือ ให้เลือกมากมาย (เมืองที่ดิฉันอยู่ต้องโทรเรียกแท๊กซี่อย่างเดียว) จากคุณ : Sunny Shiny Day เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 53 12:01:44

ความคิดเห็นที่ 7 มาอยู่อเมริกาหลายปีอยู่ แต่ก็กลับไปเมืองไทยบ่อยๆ  แต่ไปเมืองไทยที่ไร รู้สึกทุกทีเลยว่า อเมริกานี่บ้านนอกจริง ๆ ว่ะ จากคุณ : Lilac Girl เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 53 12:08:33

ความคิดเห็นที่ 8 อ่านเอาฮา แต่บางทีก็ฝืด ฮาไม่ออกเหมือนกันนะคะ ไม่รู้สิ แบบว่าไม่ชอบให้คนไทยที่ไปนอกกลับมาว่าบ้านเกิดเมืองนอนของตนเองน่ะ จากคุณ : jeejeeberry เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 53 12:29:26

ความคิดเห็นที่ 9 แก้ไขเมื่อ 12 ม.ค. 53 08:28:46 แก้ไขเมื่อ 11 ม.ค. 53 15:09:59 จากคุณ : ดาวสีส้ม เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 53 12:33:15

ความคิดเห็นที่ 10 เมืองไทยมีดีเสมอค่ะ เวลาเรากลับไปเราจะมองเห็นสิ่งต่างๆว่าดีบ้าง ไม่ดีบ้าง แต่ เวลาเราจากมาเรามักจะคิดถึงทุกอย่างที่เป็นไทยค่ะ จากเมืองไทยมาสักพักจะทำให้รู้สึกว่าเสื้อยืดที่เขียนคำว่า--รักประเทศไทย--คือความจริงและภูมิใจที่ได้ใส่ จากคุณ : chobitshe เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 53 13:01:45

ความคิดเห็นที่ 11 ไปไหนมาไหน (แม้แต่ในห้างหรือนั่งรถเมล์ แท็กซี่ ตุ๊กๆ) ถือกระเป๋าแนบตัวให้ดี ไว้ข้างหน้า อย่าสะพายข้างหลัง อย่าวางห่างตัว แยกเงินไว้หลายๆที่ เมืองนอกไม่ค่อยมีมอเตอร์ไซค์มากระชากกระเป๋า เพราะงั้นอย่าลืมข้อนี้ค่ะ จากคุณ : ยุ้ยหัดเขียน เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 53 13:38:06

ความคิดเห็นที่ 12 เพิ่งกลับมาเหมือนกันค่ะ เหมือนบ้านนอกเขากรุงเลย  ปีที่แล้วกลับยังไม่เห็นมีรถมอเตอร์ไซด์วิ่งบนฟุตบาทเหมือนปีนี้แฮะ อ่านแล้วก็ขำ ๆ ดี ค่ะ ไม่ได้คิดซีเรียสอะไร แต่อ่านไปแล้วเห็นภาพจริง ๆ แต่คนไทยเดี๋ยวนี้ตากลมโต ผมหยักปลาย ตัวขาวหน้าขาว เป็นพิมพ์เดียวกันจริง ๆ นะ อย่าลืมว่าเหรียญ 2 บาท มันต่างกะเหรียญบาท นะคะ จากคุณ : Rosa Rossa เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 53 14:38:56

ความคิดเห็นที่ 13 เข้าใจว่า เจ้าของกระทู้ตั้งใจจะให้ขำ แต่แอบไม่ขำด้วยอีกคน   เรื่องตลกเองก็มีหลายแบบ เลือกแบบที่คนฟังฟังแล้วไม่รู้สึก offensive ดีกว่าไหม ไอ้ตลกแบบไปดูถูกหรือเน้นย้ำข้อเสียคนอื่นนี่ มันสะท้อนๆหลายอย่างในความเป็นตัวตนของคนพูดนะคะ ถ้าจะเขียนจริงๆ ลองแบบคุณยุ้ยหัดเขียนไหมคะ หรือแบบคุณ Sunny Shiny Day ก็ได้ จากคุณ : Auntie DEE เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 53 14:43:45

ความคิดเห็นที่ 14   8. เลิก"นินทา"คนข้างๆเป็นภาษาไทยได้แล้ว       จากคุณ : Schnuggy ชนุ๊กกี้ เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 53 15:12:34

ความคิดเห็นที่ 15   คิดว่า จขกท พูดตรงนะ ไม่อยากให้ใครมาว่าประเทศของเรา ใด้ยินแล้วมันจี๊ดๆที่ใจ แต่บางอย่างก็นอกจากไม่พัฒนาขึ้นแล้วยังเลวลง ไม่อยากให้ใครมาว่า แต่ก็เป็นจริงอย่างที่เขาว่าก็ต้องยอมๆปล่อยไป ใด้แค่เตือนตัวเอง สอนลูกสอนหลาน สิ่งไหนไม่ดีก็อย่าทำ จากคุณ : ส้มโอ เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 53 18:38:03 A:72.208.78.2 X: TicketID:248850

ความคิดเห็นที่ 16 เข้ามาฮา ... อันนี้ขอเพิ่มเติมครับ ... - คุณจะเจอ ผู้ชายไทย ลุกขึ้นให้ คนแก่ เด็ก และ สตรีมีครรภ์ นั่งบนรถไฟฟ้า รถเมล์ และ อื่น ๆ ... เป็นภาพที่หายากมากในต่างประเทศ! ปล. เรื่องที่คนไทยไม่ค่อยจะเดิน ... ผมก็ไม่เดินครับ เมืองไทยร้อนและอบอ้าว เดินนิดเดียวตัวก็เหนียว ทำให้ไม่สะบายตัวไปตลอดทั้งวัน ... นั่งรถไฟฟ้าจาก MBK ไป Paragon ดีกว่า ... อิอิ จากคุณ : ผัดไทยกุ้งสด เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 53 18:50:48

ความคิดเห็นที่ 17 "ผู้หญิง==> หาโอกาสจับแฟนคุณแต่งงานให้เร็วที่สุด ก่อนที่เค้าจะมีโอกาสกลับมาเมืองไทย" อย่าลืมว่าแต่งได้ก็เลิกได้นะคะ และถ้าเราเสนอเค้าไม่สนองนี่ จะชี้ช้ำเอานะคะ "สาวๆไทยกรี๊ด และใฝ่ฟัน(เอ้ย!..ใฝ่ฝัน) ที่จะเป็นแฟนกับดาราชาย เคน ธีรเดช ทั้งๆที่เค้ามีเมีย มีลูกแล้ว" เพื่อนผู้หญิง และเพื่อนใจหญิง สมัยเรียนหลายๆคน ประทับใจคุณเคน ธีรเดช จากรถไฟฟ้ามาหานะเธอ แต่ไม่มีใครใฝ่ฝันที่จะเป็นแฟนกับดาราชายท่านนี้ อย่างที่คุณว่า เค้ามีลูกมีเมียแล้ว ความฝันถ้าเป็นไปในทางที่ไร้ค่า ก็ไม่ควรเสียเวลาฝัน อีกบางคนก็ชอบพวกดงบังชิงกิ ดาราเกาหลี และแวมไพร์หนุ่มจากเรื่อง Twilight มากกว่า 6. ต้อง "ไหว้" ผู้ใหญ่ทุกครั้งเมื่อเจอกัน การก้มหัว แล้วยิ้มให้ ทักทายกันเหมือนที่คุณเคยทำสมัยอยู่เมืองนอกใช้ไม่ได้ที่เมืองไทย ต้องฝึกฝน และทำให้ได้ ไม่อย่างนั้นจะถูกมองว่า "มือหนัก" (อันนี้ซีเรียส) อันนี้เราคิดว่าไม่น่าจะต้องฝึกฝนมากมายอะไรนัก มันน่าจะอยู่ในสายเลือด หากบุคคลท่านนั้นๆได้รับการฝึกสอนมาเป็นอย่างดีตั้งแต่วัยเยาว์ และตระหนักถึงวาระ กาละ และเทศะ เด็กหลายๆคนทั้งที่มีบุพการีเป็นคนไทย หรือ พ่อ แม่คนในคนหนึ่งเท่านั้นที่เป็นคนไทย เกิดและโตในเมืองนอกหลายๆคน กลับบ้านไปเยี่ยมปู่ย่าตายาย ในประเทศไทย ก็ยกมือไหว้โดยไม่ต้องกำชับตลอดก็มีมาก 25. "หากคุณต้องการให้สาวที่คุณจีบประทับใจ ให้ทักเธอว่า สวยเหมือนสาวเกาหลี " เพื่อนสนิทเราหลายๆคนบอกว่า ถือเป็นคำดูถูก ว่าเธอสวยด้วยแพทย์ (ไม่ได้พูดว่าสาวเกาหลีสวยด้วยแพทย์ทุกคนนะคะ) "อย่าคาดหวังอะไรๆให้เป็นไปอย่างใจคุณต้องการในทุกๆที่ที่คุณได้ไป เพราะถ้าคุณอยากได้อะไรๆเหมือนกับที่คุณต้องการ คุณควรจะอยู่แต่กับบ้านกับที่ๆคุณอยู่"...ยืมคำสามีมาค่ะ จากคุณ : piggalanla เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 53 19:00:10

ความคิดเห็นที่ 18 เรา จขกท นะคะ =^^= ยินดีที่ได้รู้จัก และสวัสดีทุกๆคนอีกครั้งนะคะ แล้วก็ "ขอโทษ" ที่ทำให้หลายๆคนไม่สบายใจกับความคิดเห็นที่คิดว่าเป็นการแลกเปลี่ยนของเราในครั้งนี้ จริงๆมีอีกหลายข้อที่อยากแชร์ แต่รอเพื่อนๆคนอื่นๆเข้ามาแชร์ค่ะ คิดว่าคงมีหลายๆคนอยากแชร์ประสบการณ์เช่นกันค่ะ ส่วนใหญ่เราอยากจะ"เตือน" บางเรื่องกับ"คนที่กำลังจะกลับมาเมืองไทย"ค่ะ เพราะเราโดนมาเอง ตอนกลับมาไม่มีคนเตือน ว่าจะเจอแบบนี้ อย่างเรื่อง ไหว้ โดนบ่อยมาก ขนาดเราคิดว่าเราไหว้ผู้ใหญ่บ่อยแล้ว แต่ก็ยังโดน เพราะบางทีลืม ติดนิสัย ยิ้มให้ หรือโบกมือทักทาย ตอนนั้นจิตตกมาก เห็นใครไหว้หมด เพราะไม่รู้ว่าใครควรไหว้บ้าง แม่ค้า คนตัดต้นไม้ ยังไหว้เลย (ถือคติ ไหว้ไว้ก่อน ดีกว่าไม่ไหว้แล้วโดนว่า) เรื่อง โดนโกงค่าสินค้า และบริการ นี่แฟนเราเตือนตั้งแต่ก่อนกลับไทยแล้ว เพื่อนๆห้องโต๊ะเครื่องแป้งก็โดน จากค่ายืดผมทำสี 5000 บาท พอเจ้าของร้านรู้ว่ามาจากเมืองนอก ตอนจ่ายตังค์ดันโดนบอก หมื่นกว่าเฉยเลย -_-" เราเลยเข้าไปเตือน ทางโน้นก็ขอบใจเรามาทางหลังไมค์ เลยคิดว่าหลายๆประสบการณ์ของเรา และของเพื่อนๆที่กลับมาอยู่ที่นี่ได้พักนึง น่าจะเป็นประโยชน์ อย่างน้อยๆคนที่กลับมาแรกๆจะได้ไม่โดนแบบเราค่ะ ขอบคุณที่เข้าใจ และขอโทษที่หลายๆประสบการณ์ของเรา ทำให้หลายๆคนคิดว่าเราดูถูกประเทศไทยที่เรารักค่ะ จากคุณ : Fall Foliage เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 53 19:05:25

ความคิดเห็นที่ 19 เอ...ทำไมไม่ยักกะรู้สึกแบบคุณนะ เพราะ ปีที่แล้วก็กลับไทย  มันก็เหมือนเดิมอ่ะ   เหมือนเมื่อตอน ปี2005 ก่อนที่เราจะไปอยู่เมืองนอก ไม่ว่าจะผู้คน หรืออะไรยังไง  เราว่า...เหมือนเดิม มีที่เปลี่ยนไปชัดๆ คือ บ้านเมืองเราดูไฮเทคขึ้น ห้างใหญ่ๆ อลังการกว่าเมืองนอกอีก และ เวิร์ดเทรดเซ็นเตอร์ เปลี่ยนเป็นเซ็นทรัลเวิร์ด อุ้ย...มีเปลี่ยนอีกอย่าง พระตรีมูรติ ย้ายที่ค่ะ  ฮี่ๆ อ้อ...อีกอย่างที่เหมือนเดิมสุดๆ รถเมลเล็กเขียวสาย 14 และรถสายสะพานพุทธ-แฮปปี้แลนด์ ยังคงตีนผีเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลงค่ะ ปล. เรายังคงเดินจากหน้ามาบุญครองไปชิดลม เหมือนที่เคยเดินนะ แต่เปลี่ยนที่เดินจากริมถนน ไปเดินทางเดินลอยฟ้าใต้ BTS ปล2. แถวบ้านเรารู้กันหมดว่าเราไปอยู่เมืองนอกมา แต่เราก็ยังซื้อส้มตำราคาเดิม ไปตัดผมราคาเดิม 100 บาท  ซื้อของทุกอย่างราคาเท่าคนไทย หรืออาจเพราะเราไม่เคยป่าวประกาศ ว่าอิฉันเด็กนอกก็ไม่รู้สิ ปล3. อยู่เมืองนอก อิฉันก็ไหว้คนนะค่ะ  ไม่เคยเลิกไหว้เลย ปล4. ถ้าใครมาทักอิฉันว่า สวยเหมือนสาวเกาหลี อิฉันจะด่ามันให้จำบ้านเลขที่ไม่ได้ เพราะถือว่าดูถูกกันอย่างมาก  เพราะในความรู้สึกของอิฉัน เขาคงหมายถึง "สวยเหมือนสาวเกาหลี (ก่อนทำศัลยกรรม)"   ขำๆ เช่นกันนะคะ จากคุณ : soulfighter เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 53 19:51:35

ความคิดเห็นที่ 20 เหมือนเดิมเมื่อจากมาเมื่อสิบปีที่แล้ว  ยกเว้นห้างร้านใหญ่โตขึ้น ข้าวของแพงขึ้น  ถ้าติดลบก็มีคือ อากาศร้อนขึ้น ทางเท้าแถวบ้านมีรถจอดเยอะขึ้น ไม่มีทางเดินบนฟุตบาท ต้องเดินบนถนนเอา เด็กเล็กแถวบ้านหายไปหมด กลายเป็นผู้ใหญ่ ไม่มีเด็กวิ่งเล่นเหมือนสมัยก่อน...  และก็ร้านค้าแถวบ้านเคยปิดกันสามสี่ทุ่ม เดี่ยวนี้หกโมงเย็นก็ปิดกันหมดแล้ว  ครอบครัวรุ่นใหม่ย้ายไปอยู่ชานเมืองมากขึ้น มีแต่คนมีอายุกันทั้งนั้น จากคุณ : บีพี เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 53 20:16:55

ความคิดเห็นที่ 21 โห..กลับมาอีกรอบ เพิ่งอ่านเจอ คคห ที่ 17 โดนอานเลยเรา ^^" ขอใช้คำว่า "เหรียญมี 2 ด้าน" ตอนนี้เราเอาด้านที่หลายๆคนไม่ค่อยได้พูดกันนัก มาพูดค่ะ จริงๆเรารู้ตั้งแต่ยังไม่ตั้งกระทู้แล้วว่า ถ้าตั้ง "ต้องโดนยำ"แน่ๆ แต่คิดว่า อย่างน้อยๆ ถ้าโดนด่า แล้วคนที่กำลังจะกลับมา ได้รับรู้อีกด้านหนึ่งของเหรียญ ก็คิดว่า"คุ้ม"ค่ะ ไม่รู้เพื่อนๆเคยดูหนังเรื่อง Slumdog Millionaire ไหมคะ เราชื่นชมเค้า ที่เค้ากล้านำเสนอ"ประเทศของเค้าเอง"ในอีกแง่หนึ่ง ที่คนอื่นๆไม่กล้านำเสนอ เราไม่ได้อยากให้ใครมาชื่นชม หรือให้รางวัลอะไรแบบนั้นหรอกค่ะ แค่คิดว่า ถ้าเราบอกอะไรไปบ้าง และมีคนช่วยๆกันบอก คนที่กลับมาจะได้ไม่เหวอ เวลาเจอเข้าจริงๆ จริงๆอยากให้มีคนแชร์ประสบการณ์เยอะๆ หรือจะโหวตก็ดี ไม่ได้อยากดัง แค่อยากให้ได้อ่านกันเยอะๆเท่านั้น ไม่ได้จะว่าประเทศไทย แค่อยากให้คนอื่นรับรู้ในอีกแง่หนึ่งที่หลายๆคนอาจจะยังไม่รู้ต่างหาก จากคุณ : Fall Foliage เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 53 20:33:03

ความคิดเห็นที่ 22 ถ้าไม่มีคนแชร์ประสบการณ์ต่อ เราขอต่อเองเลยละกันนะคะ ไหนๆก็โดนยำแล้ว =^^= อ้อ..#17 คะ เรื่อง เคน ธีรเดช ขอโทษที่ทำให้มุกบ้านๆของเราทำให้คุณหงุดหงิด ที่ห้องเฉลิมไทย เล่นมุกแรงกว่านี้เยอะค่ะ ส่วนเรื่อง "ไหว้" ตอนเราอยู่ไทย เราเป็นคนนึงที่ "ซีเรียส" เรื่องไหว้มาก-มากที่สุด แฟนน้องสาวเราไม่ไหว้เรา เราเลยไม่ชอบหน้าเค้า ทั้งๆที่อย่างอื่นเค้าดีหมด เรียกได้ว่าเป็นแฟนที่ดีที่สุดของน้องเราเลยก็ว่าได้ แต่พอไปที่โน่น ตอนแรก เรา"ตำหนิ" คนที่บอกเราว่า "โอ้ย..ไม่ต้องไหว้จ๊ะ" ทำไมไม่ให้เราไหว้ ก็คนไทย เจอกันต้องไหว้ไม่ใช่เหรอ เราก็ยังไหว้อยู่อย่างนั้นเกือบเดือน ทั้งๆที่คนอื่นๆเลิกไหว้กันไปหมดแล้ว(เราเป็นคนสุดท้ายที่เลิกไหว้ สาบาน) จนเราเป็นตัวประหลาด ในที่สุด เราก็เลิกไหว้ไปเอง เพราะคิดว่าตัวเองคงประหลาดจริงๆ ^^" พอกลับมาเมืองไทย เรายอมรับว่ามีบ้างที่หลงๆลืมๆ แต่ที่ทำให้เราสับสนคือ รุ่นพี่อายุห่างจากเราเกือบ 10 ปี เคยเรียนที่อังกฤษ หน้าที่การงานสูงกว่าเรามาก....บอกเราว่า ไม่ต้องไหว้ พูดแบบซีเรียสเลย แต่กับพี่ที่ทำงานด้วยกัน ห่างเราแค่ปีเดียว หน้าที่การงานไม่ได้สูงกว่าเรา เราติดนิสัย เจอกันก็โบกมือทักทาย กลับโดนเอาไปนินทาว่าเรา"มือหนัก" กลายเป็นเราโดนนินทาไปเลย อ้อ..ลงรูป Slumdog Millionaire ซะหน่อย ไหนๆเราก็ชอบเรื่องนี้แล้ว แล้วเดี๋ยวมาว่ากันต่อเรื่องเหรียญอีกด้านของเมืองไทย จากคุณ : Fall Foliage เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 53 20:46:05

ความคิดเห็นที่ 23 ข้อมูลที่เป็นประโยชน์สำหรับคนที่อยู่เมืองนอกนาน..มาก แล้วกำลังจะกลับมาเมืองไทยภาคต่อ คุณรู้หรือไม่ว่า 27. มีแก๊งลักพาตัวเด็กไปขายจริงๆ ตอนแรกเราก็นึกว่าเป็นแค่ข่าวลือ แต่เค้ามีการจับกุมตัวคนร้ายได้แล้วจริงๆ เค้าเอาเด็กไปตะเวนขาย คนละแค่ 5000 บาท/คน! คนที่เป็นพ่ออยากได้ลูกกลับบ้าน แต่ลูกอยากอยู่กับคนที่ซื้อไป(ครอบครัวอุปการะ) โทรศัพท์คุยกับครอบครัวที่ซื้อไป ร้องไห้ใหญ่ (แฟนเราดูแล้วน้ำตาไหลเลย คิดว่าถ้าเป็นลูกตัวเองจะทำยังไง ลูกไม่อยากอยู่กับพ่อ)ขอบคุณที่มีการนำเสนอข่าว มันทำให้เราระวังลูกเราไม่ให้ห่างตัวมากขึ้น 28. สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ มีการระเบิดสร้างสถานการณ์แทบจะรายวัน เพื่อนเราอยู่ที่นั่น บอก บางทีเห็นรถถังวิ่งบนถนน กลัวที่จะขับรถกลับบ้าน สงสารคุณครูที่โน่นมากๆ 29. คนเริ่มแบ่งแยกมากขึ้น ทั้งเรื่อง การเมือง ศาสนา ไม่เว้นแม้แต่ ค่ายเพลง หรือช่องละครหลังข่าว รวมถึงคลับดาราช่องต่างๆ 30. คุณจะเห็นคนทิ้งขยะออกจากรถบ่อยๆ บางครั้ง ทิ้งต่อหน้าต่อตาคุณเลย เราเคยเก็บขึ้นมา แล้วเอาไปคืนเค้า บอกว่า"คุณทำตกค่ะ" เค้าทำหน้างงๆ แต่ก็ยอมเก็บขยะไว้ในมือแต่โดยดี 31. พ่อ แม่ ผู้ปกครอง ตีเด็กในที่สาธารณะ โดยไม่มีคนเข้าไปห้าม 32. มีแก็งลักพาตัวคนไปทำงานในเรือหาปลา คนที่ถูกลักพาตัวไปถ้าไม่ทำงานให้จะถูกทำร้ายต่างๆนานา บางครั้งถูกฆ่าทิ้งกลางทะเล 33. เรื่องร้ายๆ คดีต่างๆ จะเงียบสงบ เมื่ออยู่ในช่วงวันที่ 12 สิงหาคน และวันที่ 5 ธันวาคม วันที่พวกเราชาวไทยต่างรอคอย =^^= จากคุณ : Fall Foliage เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 53 21:04:12

ความคิดเห็นที่ 24 มาที่ข้อดี ฟังแล้วอมยิ้มกันบ้าง =^^= 34. ตลกไทยเก่งขึ้นเยอะค่ะ คุณหม่ำ เป็นผู้กำกับ 100 ล้าน เข้าใจทำหนังที่เข้าถึงตลาดคนไทยได้ดี จากกระทู้นี้ http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A8724772/A8724772.html มีคุณหม่ำ 3 เรื่องจากหนังทำเงินอันดับ 1-5 ขอบคุณที่คุณทำให้อาชีพตลกเป็นอาชีพที่ได้รับการยอมรับจากทุกๆคนค่ะ 35. คนไทยเก่งเทคโนโลยีมากขึ้นค่ะ เรารู้จักคุณป้าคนนึง อายุ 70 กว่าๆแล้ว เล่น internet ได้ ส่งรูป หรือ mail ได้ ไม่แพ้ลูก แพ้หลานเลยค่ะ (วันปีใหม่ยังได้รับการ์ดอวยพร ที่ท่านไปเที่ยวลาว ส่งมาให้ดูเลยค่ะ) 36. คนไทยมีหัวการค้ามากขึ้น รู้เรื่องราวเกี่ยวกับเศรษฐกิจรอบตัวมากขึ้น จากที่เคยลงทุนทำอะไรตามๆกัน ตอนนี้เริ่มรู้แล้วว่า การสร้างสรรค์สิ่งที่แตกต่าง จะสร้างรายได้ที่มากกว่า 37. คุณจะเห็นเด็กๆที่มีพ่อ-แม่ เป็นคนไทยแท้ๆ แต่เค้าสามารถพูดภาษาอังกฤษได้ชัดแจ๋ว http://go2pasa.ning.com/ ต้องขอบคุณ คุณพ่อของน้องเพ่ย เพ่ย ที่ผลักดันให้คนไทยได้เห็นความสำคัญของภาษาอังกฤษ เพื่อไม่ให้เราแพ้ชาติเพื่อนบ้าน 38. คนให้ความสำคัญกับการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่เพิ่มขึ้น เป็นกระแสอย่างนึงที่เราสนับสนุนเป็นอย่างมาก 39. หากคุณห่างหายจากมุกตลกต่างๆของไทย คุณกลับมาเมืองไทย คุณจำตกใจ เมื่อคุณรู้ว่าแต่ละคน ยิงมุกกันกระจาย วันที่เราได้คุยกับเพื่อนๆที่นี่ครั้งแรก เราหัวเราะจนน้ำตาไหลทั้งๆที่ง่วงจะตายอยู่แล้ว ไม่รู้ไปสรรหามุกมาจากไหน ยอมรับเลยว่าคนไทยเก่งเรื่องมุกตลกจริงๆ 40. คุณสามารถนัดเวลาเพื่อนๆล่วงหน้าได้แทบตลอดทั้งปี โดยไม่ต้องห่วงว่าต้อง cancel เพราะพายุหิมะ หรือเฮอริเคน จากคุณ : Fall Foliage เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 53 21:40:47

ความคิดเห็นที่ 25 ชอบข้อหนึ่งถึงยี่สิบห้า  เห็นด้วยกับทุกข้อเลยค่ะ  โดยเฉพาะที่บอกว่านินทาเป็นภาษาไทยไม่ได้เนี่ย  โดนมากๆๆๆๆๆ จากคุณ : fm@co เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 53 22:27:37

ความคิดเห็นที่ 26 ดิฉันชอบค่ะเจ้าของกระทู้ กลับไปเมืองไทยเมื่อสามเดือนที่แล้วดิฉันก็เห็นหลายอย่างที่คุณว่ามา และประหลาดใจมากๆที่พนักงานที่ "หยามก้อน" ต้องยกมือไหว้ดิฉันด้วยแค่ดิฉันซื้อมะขามคลุกหนึ่งกระปุก  หรือเวลาทานอาหารเช้าที่โรงแรมต้องมีน้องๆพนักงานมาเดินตามคอยถืออาหารที่ตักแล้วไปวางที่โต๊ะให้  และถ้าเราทำอะไรเองเช่นทานข้าวเสร็จแล้วเดินไปจ่ายเงินเองที่เคาท์เตอร์จะเป็นเรื่องใหญ่มาก  ตายแล้ว ดิฉันไม่ได้เป็นง่อยนะคะ รู้สึกอึดอัดมากๆ แต่ในขณะเดียวกันก็ประทับใจมากๆค่ะกับความทันสมัย สะดวกสบาย และความน่ารักของคนไทยที่ยังมีให้เห็นอยู่ทุกที่ จากคุณ : Gisele เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 53 22:54:52

ความคิดเห็นที่ 27   อ่านสนุกดีค่ะ ขอบตุณนะคะ ขอแชร์ประสบการณ์บ้างนะคะ บัตรประชาชนหมดอายุมานานแล้ว ไปต่อบัตร ได้smart cardมา ประทับใจมากไฮเทคจริงๆ บัตรเดียวสามารถบอกความเป็นไปตัวเราได้หลายอย่างเลย น้องบอกว่าหนุ่มๆที่แอบไปมีกิ๊กแล้วมีลูกแอบไว้ ข้อมูลจะเก็บเอาไว้หมดเลย น้องเอาข้อมูลเกี่ยวกับตัวเราออกมาให้ดู สมกับชื่อsmart cardจริงๆ จากคุณ : wheel of forture เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 53 23:51:39 A:68.127.151.216 X: TicketID:048459

ความคิดเห็นที่ 28 จะมาให้กำลังใจน่ะค่ะ พอดีอ่านแล้วก็สนุกดีออก เราไม่ซีเรียสนะถ้าคุณจะเหน็บ ๆ เมืองไทยหรือคนไทย (คุณมีสิทธิเพราะคุณเป็นคนไทย ถ้าเป็นฝรั่งมาพูดเราอาจมีเคือง ประมาณว่าไม่รู้จริงแล้วมาพูด) มุขอย่างที่คุณเขียนก็คล้าย ๆ ที่โน้ต อุดมเค้าใช้ คือเหน็บแบบขำ ๆ ขนาดเค้าพูดแรงกว่าคุณอีก แต่คนฮาตรึม สรุปแล้วชอบค่ะ ขำดี บางข้อก็ตรงกะเราแฮะ จากคุณ : Schnuckiputz เขียนเมื่อ : 12 ม.ค. 53 00:05:10

ความคิดเห็นที่ 29   ไม่รู้ว่ามีใครเป็นเหมือนเรามั่ง ตอนกลับเมืองไทยไปดูหนังในโรงแล้วพอเพลงสรรเสริญพระบารมีขึ้น ขนลุกน้ำตาคลอตั้งแต่ต้นจนจบ...... จากคุณ : LittleJasmine เขียนเมื่อ : 12 ม.ค. 53 01:26:26 A:67.197.145.26 X: TicketID:189482

ความคิดเห็นที่ 30 อ่านแล้วขำดีค่ะ แต่บางข้อคนที่เซ็นซิถีบก็อาจจะไม่ขำ จขกท ไม่คิดมากนะ จากคุณ : pixp เขียนเมื่อ : 12 ม.ค. 53 01:38:40

ความคิดเห็นที่ 31 ชอบกระทู้นี้ครับ ขอบคุณมาก... จากคุณ : Birdysiam เขียนเมื่อ : 12 ม.ค. 53 03:46:09

ความคิดเห็นที่ 32 จริงบ้าง ประชดประชันบ้าง ขำๆ ค่ะ อย่าไปคิดอะไรมาก อย่าอ่านเชิงเปรียบเทียบซิคะ จากคุณ : Kimicung เขียนเมื่อ : 12 ม.ค. 53 04:26:07

ความคิดเห็นที่ 33 ขอบคุณ หลายๆความคิดเห็นที่เข้ามาให้กำลังใจนะคะ =^^= จขกท ยิ้มแก้ม...ปริ...แฮ่ะๆๆ... มีใครมีประสบการณ์มาแชร์บ้างไหมคะ เดี๋ยวกลายเป็นเราชงเอง กินเอง ^^" พอดีตั้งใจว่ากระทู้นี้อยากให้เข้ามาแชร์กันน่ะค่ะ คนอ่านจะได้มีความรู้มากขึ้น (คิดว่าเอาตัวเองเป็นตัวบังกระสุน คนอื่นๆจะได้กล้าลงอะไรบ้าง) ยินดีต้อนรับทุกคน และขอบคุณในมิตรภาพดีๆอีกครั้งค่ะ =^^= จากคุณ : Fall Foliage เขียนเมื่อ : 12 ม.ค. 53 05:53:32

ความคิดเห็นที่ 34   ha ha....so funny.... but i love thailand! จากคุณ : เด็กผี เขียนเมื่อ : 12 ม.ค. 53 06:53:12 A:12.72.22.243 X: TicketID:230902

ความคิดเห็นที่ 35 อ่านกระทู้นี้แอบอมยิ้มบางหัวข้อค่ะ หลายข้อเห็นด้วยมาก ๆ ค่ะ แต่บางข้อนั้นขึ้นอยู่กับบุคคลมากกว่า คิดว่าคงเหมารวมไม่ได้แน่ ๆ เพราะทุกคนอาจจะเห็นภาพที่ไม่เหมือนกัน ดิฉันเองกลับไปเมืองไทยเมื่อปลายปี 2006 ได้เรียนรู้หลายอย่างเลยค่ะ มีทั้งที่สุขที่สุด และแอบเสียความรู้สึกนิด ๆ แต่โดยรวมแล้วรักเมืองไทยค่ะ โดยเฉพาะอาหารการกิน ยกให้เมืองไทยเราเป็นอันดับหนึ่งของโลกเลยค่ะ ทุเรียนหมอนทองอร่อยที่สุดเลยค่ะ ดิฉันทานทุกวัน เรื่องความอวบอ้วนไม่สนใจเลยค่ะ สะตอนี่ไม่ให้ขาดตู้เย็นเลยค่ะ นอกจากนั้นดิฉันชอบไปเดินหาซื้อไข่มดแดงมาทำกับข้าวเป็นประจำค่ะ ห้องพักนั้นน้ำพริกมีไว้หมด ผลไม้ทานได้ทุกเวลาค่ะ ยอมรับว่าน้ำหนักขึั้นมาก ๆ เลย พวกเพื่อนสาวชอบพูดหยอกเกี่ยวกับเรื่องน้ำหนัก แต่ไม่ค่อยสนใจหรอกค่ะ เราไม่ได้กลับเมืองไทยบ่อย ๆ พอมีโอกาสได้ทานอาหารแซ่บ ๆ อร่อย ๆ ก็ทานให้อิ่มให้สุขใจที่สุด ส่วนเรื่องการไหว้นั้น  ดิฉันไหว้ตลอดค่ะ เวลาทำงานที่นี่ ลูกค้าคนไหนที่รู้ว่าเป็นคนไทย คนลาว คนเขมร ดิฉันทักทายไหว้ตลอด ไม่เคยอาย ไม่เคยสนใจใครด้วย บางทีก็มีการทักทายด้วยเสียงซาวด์แทรคแบบฉบับบ้านเราด้วยค่ะ ทำให้ฝรั่งที่เห็นมองด้วยความแปลกใจ (อาจจะมีสงสัยด้วยก็ได้ แหะ ๆ) พอกลับเมืองไทยก็ไหว้เหมือนเดิมค่ะ เพราะรู้สึกว่าการไหว้เป็นสิ่งที่ดีงาม เคยเจอเพื่อนคนหนึ่งเรียนที่เดียวกัน เธอไม่ค่อยไหว้ผู้หลักผู้ใหญ่ เธอคนนี้ไม่ใช่เพื่อนสนิท แต่เธอมาหาดิฉันกับเพื่อนของเพื่อนอีกต่างหาก ดิฉันก็ไม่ได้ว่าอะไร จะมากินเลี้ยงกันก็ได้ เพราะถือว่าเคยเรียนที่เดียวกัน เพื่อน ๆ คนอื่น ๆ ยกมือไหว้ทักทายผู้หลักผู้ใหญ่หมด แต่เธอไม่สนใจ ยืนเชิดอย่างเดียว แฟนถามดิฉันว่า "ชีเป็นคนไทยหรือเปล่า ไม่เห็นชีไหว้ใครเลย" ดิฉันยิ้มแหย ๆ ได้แต่ตอบ "ชีเป็นคนไทย ครูก็สอนมาเหมือนกันแหละ เรียนที่เดียวกัน สงสัยชีกำลังจะโกอินเตอร์ ชีเลยเตรียมพร้อมตัวเองไว้ก่อน" แฟนได้แต่ยิ้มหึ ๆ พร้อมพยักหน้าอย่างเข้าใจ เรื่องที่สองก็เรื่องแท็กซี่ค่ะ บางคันคนขับน่ากลัวมากค่ะ เหมือนคนเมายาเลย ขับแซงตลอด ปาดหน้าคนอื่นเสียด้วย ดิฉันกับแฟนนั่งจากสยามเซ็นเตอร์มาบางกะปิ แท็กซี่คนนี้บ่นรถติดตลอดทาง และไม่บ่นธรรมดานะคะ ขุดเอาภาษาสมัยพ่อขุนมาบ่นด้วย ทำให้ดิฉันและแฟนซึ่งนั่งอยู่เบาะหลัง หวาดเสียวกลัวตายที่สุด พอรถขับลงจากถนนยกระดับที่รามคำแหงได้ ดิฉันบอกให้พี่ท่านจอดป้ายหน้าทันที ไม่เอาแล้วค่ะ แบบว่าน้องนางบ้านนาอย่างดิฉันยังบ่อยากตายค่ะ แหะ ๆ เรื่องที่สาม เรื่องของขึ้นราคานี่ก็เหมือนกันค่ะ ปลาช่อนทอดนะคะ ตอนดิฉันไปซื้อคนเดียว ราคาปกติทั่วไป ซื้อหลายวันราคาก็ยังเหมือนเดิม พอมีอยู่วันหนึ่งพาแฟนไปด้วย ราคาขึ้นห้าบาท คือไม่เสียดายเงินหรอก แต่เสียความรู้สึกที่จู่ ๆ ราคาปลาช่อนขึ้น เพราะแฟนดิฉันผมสีทองใช่ไหม พอวันหลังให้พี่สาวไปซื้อ ราคาก็ปกติ จากนั้นก็ไม่เคยใช้บริการร้านนี้อีกเลยค่ะ คือดิฉันไม่ชอบคนที่โกงราคาสินค้าเพียงเพราะเห็นคนรักของดิฉันเป็นคนต่างชาติ เรื่องที่สี่ เรื่องต่อคิวใช้บริการเอทีเอ็มนี่ก็เจอค่ะ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่ห้างค่ะ คือยืนติดกันประเภทชิดห่างกันประมาณคืบหนึ่ง พอดิฉันถอยห่างออกมา เพื่อไม่เข้าใกล้คนที่กำลังกดเงินอยู่ คนอื่นที่ไม่รู้ก็นึกว่าเราไม่ได้ต่อคิว เดินมาแซงคิวเฉยเลย พอเราบอกก็ทำสีหน้าไม่พอใจ โชคดีที่เขายังน่ารักและเดินไปต่อคิวด้านหลัง พอถึงคิวดิฉันกดเงินบ้าง ผู้หญิงคนหนึ่งยืนติดหลังเลย ดิฉันหันไปบอกเธอ "พี่ค่ะ ช่วยถอยห่างไปสักนิดได้ไหมคะ" เธอคนนี้หันมาทางดิฉัน "ไม่ต้องห่วงหรอก ฉันไม่อยากรู้รหัสของเธอหรอก" "หนูเข้าใจค่ะ แต่ตามมารยาทที่หนูเจอ ควรจะยืนห่างกันอย่างน้อยสามฟุตนะคะ หรืออาจจะมากกว่านั้น" "ฉันไม่สนใจ ที่นี่เมืองไทย" ดิฉันพูดไม่ออกเลยค่ะ เพราะเธอไม่ถอยและยังยืนติดอยู่อย่างนั้น ดิฉันหันไปส่งซิกให้แฟนซึ่งยืนอยู่อีกมุมหนึ่ง ให้มายืนอยู่เคียงข้าง ดิฉันเป็นคนที่กลัวที่สุดเวลากดเอทีเอ็ม อาจจะเป็นเพราะว่าสมัยสาว ๆ ตอนที่ทำงานอยู่ที่เมืองไทย เคยเจอเหตุการณ์ถูกรุมล้วงกระเป๋าหมดเนื้อหมดตัว ทำให้จิตหลอนกับเรื่องนั้นอยู่ตลอด เรื่องที่ห้า เรื่องความไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร วันนั้นดิฉันกับแฟนกลับมาจากโรงพยาบาลจักษุรัตนิน ก็พากันนั่งรถมาลงที่ถนนสุขุมวิท เพราะแฟนจะแวะซื้อหนังสือที่ร้าน Asia Book บนถนนสายนั้น คือกลับไปเมืองไทยดิฉันกับแฟนชอบไปซื้อหนังสือดี ๆ เอากลับมาด้วยตลอด ได้ยินว่าร้านนี้มีหนังสือเยอะดีก็เลยแวะไปดู ในช่วงที่แฟนเลือกหนังสืออยู่นั้น ดิฉันหิวข้าวมาก ๆ เลยค่ะ เพราะตั้งแต่เช้าไม่ได้ทานอะไรรองท้องเลย ก็เลยพากันเดินหาร้านอาหารเรื่อยมา มาหยุดอยู่ที่ร้านอาหารติด ๆ กับร้านสตาร์บัค ดูรายการชื่ออาหารน่าสนใจมาก ๆ เป็นร้านกึ่งคลับกึ่งบาร์ แต่ด้วยความหิวไม่ค่อยสนใจ ร้านไหนก็ทานได้ ดิฉันจำไม่ได้ว่าอยู่ซอยไหน วันนั้นดิฉันกับแฟนก็ยืนรอพนักงานมาต้อนรับ เพราะเรารู้สึกเหมือนที่อเมริกา ต้องเรียงคิวยืนรออยู่ด้านหน้า แล้วจะมีพนักงานต้อนรับมาทักทายพาไปนั่งโต๊ะ จนแล้วจนเล่าก็ไม่มีสาวน้อยคนไหนมาต้อนรับเลย ซึ่งก็แปลกเวลาที่หนุ่มต่างชาติเดินห่างจากเราไม่กี่ก้าว มีสาว ๆ วิ่งมาต้อนรับอย่างดี ดิฉันกับแฟนได้แต่มองตากันพริบ ๆ เพียงไม่นานก็คิดออก...ร้านนี้เขาต้อนรับหนุ่มต่างชาติเท่านั้น ที่มาเป็นคู่ ๆ ต้องบริการเอง วันนั้นเลยอดได้ทานอาหารร้านนั้น ก็เลยแวะเติมพลังที่สตาร์บัค ก่อนนั่งรถแท็กซี่กลับมาทานอาหารที่บางกะปิค่ะ แหะ ๆ เรื่องที่หก เรื่องความขาวนี่ก็เหมือนกันค่ะ ตอนลงจากเครื่องบิน พี่น้องไปรับกัน ชมกันใหญ่เลยว่าดิฉันขาวขึ้น บ้างก็ว่าขาวเหมือนสาวญี่ปุ่น ดิฉันก็ปลื้มนะคะ ชมกันเข้าไป พอสองวันถัดไป นั่งรถเมล นั่งเรือเส้นทางคลองแสนแสบ เดินตากแดดตากฝน ดิฉันเขียวเลยค่ะ แหะ ๆ เรื่องที่เจ็ด เรื่องกอดจูบ ขอผ่านค่ะ เพราะดิฉันค่อนข้างถือมาก ๆ เลยค่ะ อย่างมากสุดก็เดินจับมือกันเท่านั้น ไม่ว่าที่ไทยหรือต่างประเทศก็เป็นอย่างนี้ตลอด เรื่องที่แปด เรื่องนินทาเป็นภาษาไทยไม่ต้องห่วงเลยค่ะ ดิฉันกับพี่น้องจะพูดภาษาเขมรกันตลอดค่ะ วันไหนไปกับพี่สะใภ้ก็ภาษาอีสาน (ภาษาลาว) ค่ะ มีอยู่วันหนึ่งไปซื้อแว่นกันแดดกับพี่สาว บ่นเป็นภาษาเขมรกันสองคนว่าทำไมแพงจัง หารู้ไม่ว่าคนที่ขายพูดภาษาเขมรได้ แถมเป็นคนเขมรจากกัมพูชาเสียด้วย ดิฉันกับพี่สาวพากันสื่อสารกันไปมากับพี่คนขายแว่นกันแดด พี่เขาน่ารักลดราคาให้ตั้งเยอะเลย แอบขอบคุณตลอด แหะ ๆ เรื่องที่เก้า เรื่องชมคนอื่น ๆ ดิฉันนี่ก็ชอบนะคะ ไม่ใช่ดัดจริตแต่อย่างใด ยอมรับว่าเป็นการชมจากความรู้สึกที่ออกมาจากใจจริง ๆ เวลาอยู่ที่ต่างประเทศเวลาที่เพื่อน ๆ น่ารัก เขามีน้ำใจให้เรา ก็ชื่นชมเป็นธรรมดา เคยมีอยู่ครั้งหนึ่งตอนกลับไปเมืองไทย ดิฉันเคยไปซื้อของกับพี่สาวและพี่สะใภ้ ไปยืนขอส่วนลดจากป้าคนขายเสื้อผ้า ขอลด ขอแถม บังเอิญพี่สาวนักต่อราคาตัวยงนะคะ แหะ ๆ พอป้าคนขายยอมลดราคาสินค้าให้ แถมสินค้าให้ด้วย ดิฉันยืนปรบมือดีใจยกใหญ่เลย และก็ตามด้วยคำชมพร้อมกับการไหว้งาม ๆ ด้วยค่ะ "ป้าน่ารักจังเลยค่ะ ป้าใจดีมาก ๆ เลย ขอบคุณมาก ๆ นะคะป้า" วันนั้นดิฉันยกมือไหว้ป้าคนขายสินค้า คุณป้าก็น่ารักรับไหว้ยิ้มหน้าบานเลยที่ถูกชมแล้วชมอีก ส่วนดิฉันนี่สิยิ้มหน้าบานปานกระด้งเลยค่ะ ยอมรับว่าเวลาที่มีคนมีน้ำใจให้เรา รู้สึกตื้นตันใจอย่างมาก บางทีรอยยิ้มมีน้ำตาเอ่อออกมาด้วยนะคะ เรื่องสุดท้ายที่เจอนะคะ เรื่องส้มตำรสแซ่บทั้งหลาย วันนั้นดิฉันกับพี่สาวไปสั่งส้มตำที่ตลาดแห่งหนึ่ง รสชาติอร่อยถูกใจมาก ๆ เลยค่ะ ตอนนั้นดิฉันกับพี่สาวก็ยืนรอคิวสั่งส้มตำอยู่ด้านหลังกลุ่มสาวออฟฟิศ (คิดว่าน่าจะทำงานออฟฟิศ) ป้าคนตำส้มตำค่อนข้างคุ้นเคยกับดิฉันและพี่สาว เพราะไปสั่งทุกวันเลยค่ะ แหะ ๆ สาวออฟฟิศคนหนึ่ง "ป้าค่ะ ของหนูส้มตำปูปลาร้านะคะ ไม่ใส่ผงชูรสนะป้า" น้ำเสียงหวานน่ารักที่สุดเลย ดิฉันกับพี่สาวยืนยิ้ม สายตามองป้าคนตำส้มตำตลอด "แบบเดิมแมนอยู่บ่คะคุณ" ป้าคนตำส้มตำพูดไทยผสมอีสาน "คะป้า อย่าใส่ผงชูรสนะคะป้า หนูแพ้ค่ะ" เธอบอกย้ำชัดแจ๋ว "คะคุณ บ่ต้องห่วงค่ะ บ่ใส่ผงชูรสดอกค่ะ" ป้าตอบรับหนักแน่น ตำส้มตำและก็อมยิ้มไปด้วย พอสาวออฟฟิศได้ส้มตำกับข้าวเหนียวก็จ่ายค่าอาหารทั้งหมด จากนั้นก็เดินไปกับเพื่อน ๆ ในกลุ่ม คิวต่อไปก็เป็นของดิฉันกับพี่สาว ป้าคนขายส้มตำหันมาถาม "ของคุณเอาแบบใด๋คะ" "ป้า ของนางเอาตำปูปลาร้าค่ะ แซ่บ ๆ นัว ๆ เด้อคะป้า" บางครั้งดิฉันกับพี่สาวก็พูดอีสานค่ะ "ใส่ผงชูรสอยู่บ่นาง" ป้าคนขายส้มตำหันมาถาม "ใส่คะป้า ใส่โลด อันใด๋แซ่บ ๆ ใส่โลดค่ะ นางหมักของแซ่บค่ะ" ป้ายิ้มถูกใจ "แบบซี่แหละถึอใจป้าคัก คนอีสานบ้างเฮากินง่ายเนาะลูกเนาะ บ่คือพวกสาวออฟฟิศบางคน" ป้าคนขายแอบเหน็บแหนมลูกค้าเสียด้วย ดิฉันกับพี่สาวได้แต่ยิ้มรับ ไม่พูดอะไร ป้าจัดการตำส้มตำป๊อก ๆ แถมให้ดิฉันกับพี่สาวชิมไปด้วย "แซ่บอยู่บ่หล้า เติมอีหยังเพิ่มอยู่บ่" "แซ่บหลายเลยค่ะ อันครกที่สองใส่เส้นข้าวปุ้นนำเด้อคะป้า" "จ้า" ป้าขานรับเสียงหวาน มือก็ตำ ปากก็คุยไปด้วย "พวกสาว ๆ ออฟฟิศนี่ก็แปลกเนาะ ปากก็ว่าบ่กินผงชูรส บอกว่าแพ้  แต่เพิ่นคงบ่ฮู้ว่าส้มตำที่เพิ่นซื้อไปกินกันก็มีผงชูรสแหละมันถึงได้แซ่บ" ดิฉันกับพี่สาวยิ้ม อดถามไม่ได้ "อันพี่คนนั่นเขาสั่งแบบบ่ใส่ผงชูรสบ่แมนบ่คะป้า" "ก็แมนตั้วนาง" ป้าคนขายส้มตำตอบ แถมลากเสียงยาว "แต่ว่าป้านี่คลุกผงชูรสกับน้ำปลาร้ามาจากบ้านเรียบร้อย ถึงจะสั่งว่าบ่ใส่ผงชูรส แต่ก็มีผงชูรสอยู่ในน้ำปลาร้าตั้ว คั่นบ่มีผงชูรส มันสิแซ่บได้จังได๋ แมนบ่" ป้าบอกเล่าพลางหันมายักคิ้วให้ดิฉันกับพี่สาว ดิฉันกับพี่สาวอดที่จะยิ้มไม่ได้ "เคล็ดลับสูตรแซ่บแมนบ่คะเนี่ย" "มันก็เป็นธรรมดาแหละเนาะ เฮ้าทำมาค้าขายก็ต้องมีเป็นธรรมดา" ป้าบอก "แล้วแบบซี่พี่สาวออฟฟิศคนนั่น เขาบ่แพ้บ่คะป้า" ดิฉันถามด้วยความเป็นห่วง ป้าหัวเราะถูกใจ ส่ายหัวไปด้วย "มันสิแพ้อีหยั่งล่ะ ป้าเห็นสาวออฟฟิศคนนั่นกินส้มตำร้านป้ามาหลายปีแล้ว เวลามาซื้อก็เห็นแต่ชมว่าแซ่บ ๆ ตลอด ป้าบ่เคยเห็นเพิ่นบ่นอีหยังให้ฟังเลย เรื่องแพ้  ๆ ที่เพิ่นบอก ก็บ่เคยเห็นเพิ่นเป็นอีหยัง" วันนั้นดิฉันจ่ายค่าส้มตำและอาหารทุกอย่างเสร็จแล้ว ก็หันไปบอกป้า "ป้าก็ระวัง ๆ แหน๋เด้อค่ะ ขายของสุ่มสี่สุ่มห้า คั่นต่างประเทศเจอลูกค้าที่แพ้ผงชูรสอีหลี หนูรับรองป้าโดนฟ้องร้องหมดโต" "อีหลีบ่?" ป้าถาม ตาโตดูสนใจเรืืองราวมากทีเดียว "ก็อีหลีตั้วเนาะ ต่างประเทศเขาเคร่ง กฏเป็นกฏ บ่คือเมืองไทยเฮ้าดอกค่ะ" "ขอบใจหลาย ๆ เด้อนาง เดี๋ยวป้าสิระวัง" วันนั้นดิฉันกับพี่สาวเดินออกจากร้านป้าคนขายส้มตำ อดที่จะยิ้มไม่ได้ เรื่องเล่าเรื่องนี้ เป็นอุทาหรณ์ให้กับท่านที่ไม่ทานผงชูรสทั้งหลาย โปรดระมัดระวังตัวเองเวลาทานส้มตำตามร้านค้าทั่วไป เพราะบางทีท่านอาจจะได้ทานส้มตำน้ำปลาร้าคลุกผงชูรสก็ได้ ส่วนเรื่องอื่น ๆ ก็มีเยอะ เล่ายังไงก็ไม่หมด ตอนนี้อยากอ่านของท่านอื่น ๆ บ้าง สำหรับดิฉันแล้ว ประสบการณ์ที่เมืองไทย มีทั้งที่ทำให้ดิฉันเผลอยิ้ม ให้มีความสุข ให้แอบหวาดเสียว และเสียความรู้สึก (น้อยเปอร์เซ็นต์) แต่ยังไงก็ยังประทับใจคนไทยและเมืองไทยเสมอค่ะ เดี๋ยวปลายซัมเมอร์ปีนี้จะกลับไทย จะไปดูว่ามีอะไรเปลี่ยนแปลงไปไหม แหะ ๆ แก้ไขเมื่อ 12 ม.ค. 53 09:26:42 แก้ไขเมื่อ 12 ม.ค. 53 09:25:00 จากคุณ : roslita เขียนเมื่อ : 12 ม.ค. 53 09:19:24

ความคิดเห็นที่ 36 เห็นด้วยกับคห. 29 ค่ะ ไม่รู้ว่ามีใครเป็นเหมือนเรามั่ง ตอนกลับเมืองไทยไปดูหนังในโรงแล้วพอเพลงสรรเสริญพระบารมีขึ้น ขนลุกน้ำตาคลอตั้งแต่ต้นจนจบ...... จากคุณ : LittleJasmine   เขียนเมื่อ : 12 ม.ค. 53 01:26:26 A:67.197.145.26 X: TicketID:189482     ขนาดตอนก่อนมานี่ ดูหนังในไทย เพลงสรรเสริญพระบารมีขึ้น เราก็ขนลุกน้ำตาคลอทุกครั้ง มาอยู่ที่นี่ ได้แต่เปิดดูใน youtube อะค่ะ มีหลายเวอร์ชั่นมากๆ นอกจากสรรเสริญพระบารมีแล้วก็มีเพลงอื่นๆ เช่น สดุดีมหาราชา King of Kings ฯลฯ ดูได้เรื่อยๆ เปิดดูเท่าไรก็ไม่เบื่อ ดูแล้วมีกำลังใจให้สู้ต่อ รอวันจะได้กลับบ้านอีกรอบ :) จากคุณ : LittleCancer เขียนเมื่อ : 12 ม.ค. 53 10:42:43

ความคิดเห็นที่ 37 ข้อนี้อันตรายที่สุด :D 8. เลิก"นินทา"คนข้างๆเป็นภาษาไทยได้แล้ว ผมว่าขำดีนะ  แต่อาจจะเพราะคุณเน้นเรื่องของผู้หญิงทางลบมากไปน่ะครับ จากคุณ : Ariete (en ligne) เขียนเมื่อ : 12 ม.ค. 53 12:40:48

ความคิดเห็นที่ 38 ตรง และ โดนใจสุดๆค่ะ เพราะตัวเองหลุดไหลายอย่างเลยค่ะ เนื่องจากอยู่ตปท.นานเกิน ถ้าได้อ่านกระทู้นี้ก่อนคงดีค่ะ อิอิ โหวต โหวต ตอนนี้กำลังปรับตัวอย่างแรง ... จากคุณ : Lonely Me เขียนเมื่อ : 12 ม.ค. 53 13:18:55

ความคิดเห็นที่ 39 ข้อ 21 ตรงที่สุด เจอมากับตัว T____T กลับไทยทีไร โดนทุกที จากคุณ : Ssachiy เขียนเมื่อ : 12 ม.ค. 53 14:11:01

ความคิดเห็นที่ 40 โดนมากะตัวเลยเรื่องเรทต่างชาติเนี่ย วันก่อนไปตัดผมร้านประจำที่แม่ไปตัด ก่อนไปแม่บอกว่าค่าตัดร้อยเดียว ระหว่างตัดคุณสามีคนไทยก็โทรมาจากต่างแดน เพราะห่วงว่าจะมีคนเอารถเครนคันยักษ์มายกเมียตัวอ้วนๆ หายไป พอคุยจบเราก็คุยกับช่างทำผมต่อเรื่อยเปื่อย แล้วเค้าก็ชวนอบไอน้ำ เราก็คิดราคาคร่าวๆ ค่าตัด 100 + ค่าอบไอน้ำ 100 ก็น่าจะไม่เกิน 200 บาทถ้วน พอทำทุกอย่างเสร็จ โดนคิดเงินไป 450 บาท !!! งานนี้เล่นเอาเราพูดไม่ออกเลย บทเรียนนี้สอนเราให้รู้ว่าแม้แต่ช่างประจำแม่ก็ไว้ใจไม่ได้ พอกลับบ้านแม่ถาม บอกแม่ไป แม่ก็ว่าเหมือนกันว่าคนไทยด้วยกันยังทำกันแบบนี้เลยเหรอเนี่ย จากคุณ : Living Extreme เขียนเมื่อ : 12 ม.ค. 53 15:39:21

ความคิดเห็นที่ 41 เลิกนินทาคนข้าง ๆ เป็นภาษาไทย  โดนค่อด ๆ จากคุณ : The Petit garcon เขียนเมื่อ : 12 ม.ค. 53 16:32:22

ความคิดเห็นที่ 42 ได้ยิน และได้ เห็น คนยืนเคารพธงชาติ 8.00 และ 18.00 ทีไร ขนลุกทุกที ถ้าเป็นไปได้ อยากกลับมาตายเมืองไทย จากคุณ : kullapun เขียนเมื่อ : 12 ม.ค. 53 17:20:23

ความคิดเห็นที่ 43 อ่านกระทู้แล้ว ทำให้รักเมืองไทยมากขึ้นทุกครั้ง จากคุณ : gabgab เขียนเมื่อ : 12 ม.ค. 53 17:28:07

ความคิดเห็นที่ 44 โดนค่ะโดน เอาไป หนึ่งใจค่ะ คุณ จขกท จากคุณ : รวมการเฉพาะกิจ เขียนเมื่อ : 12 ม.ค. 53 17:59:26

ความคิดเห็นที่ 45   ที่ใหนๆ ก็มีความเหมือนและความต่าง ขนาดเรากลับเมืองไทยบ่อยเรายังว่า เหมือนบ้านนอกเข้ากรุงเลย เมืองไทยมีที่เที่ยวดีๆ เยอะไป ลองออกไปต่างจังหวัดบ้าง จะมองไทยเปลี่ยนไป  เราได้รับน้ำใจดีๆ จากคนไทยเสมอ เป็นคนไทย ไม่ภูมิใจในชาติไทย  แล้วคุณเป็นคนไทยไปเพื่ออะไร จากคุณ : คุณนายก้อ เขียนเมื่อ : 12 ม.ค. 53 18:06:12

ความคิดเห็นที่ 46 8. เลิก"นินทา"คนข้างๆเป็นภาษาไทยได้แล้ว อย่างฮา แต่ว่าโดนมากๆ ค่ะ จากคุณ : caramelfrappe เขียนเมื่อ : 12 ม.ค. 53 18:06:37

ความคิดเห็นที่ 47   เรื่องนิทาภาษาไทยนี่ไม่ว่าอยู่ที่ไหนก็ให้ระวังค่ะ เกิดเป็นคนไทยปลอมตัวมาเป็นฝรั่งแระจะแย่ เคยครั้งนึ่งนั้งบนรถไฟฟ้าเมาท์นิทาชาวบ้านกะเพื่อนสาวอย่างสนุกสนานเมามัน พี่ดำนั้งอยู่ข้างหน้าก็ฮาด้วย หันมาบอก เป็นคนไทยปลอมตัวมา 555555 เพราะพี่แกไปอยู่เมืองไทยมาหลายปี ดีนะที่แกนั้งห่างระยะสายตาไม่งั้นไม่เหลือ แหะๆ จากคุณ : ก็ทำไปได้ เขียนเมื่อ : 12 ม.ค. 53 18:13:36 A:76.104.65.238 X: TicketID:176726

ความคิดเห็นที่ 48 ประเทศไทย ยังคงเป็นประเทศที่มี ing หลังคำว่า  develope อยู่เหมือน 10 ปีที่แล้ว เมื่อก่อน กำลังพัฒนา ตอนนี้ กำลังพัฒนา และพรุ่งนี้ ก็ยังคงกำลังพัฒนาอยู่เช่นเดิม ตอนนี้ได้แต่ลุ้นว่าให้ยังคงกำลังพัฒนาต่อไปเถอะ อย่าให้กลายเป็น ด้อยพัฒนาเลย แก้ไขเมื่อ 12 ม.ค. 53 18:28:53 จากคุณ : Archaeoh เขียนเมื่อ : 12 ม.ค. 53 18:16:43

ความคิดเห็นที่ 49 อ่านแล้วก็ขำๆ อาจจะมีบางข้อที่ politically incorrect แต่ก็ขำๆไปคิดอะไรกันมากมาย ตัวดิฉันกลับเมืองไทยปีหนึ่งอย่างน้อยสองครั้ง ไม่เคยได้มีเวลาสังเกตุคนไทยรอบๆข้าง ข้อดีของเมืองไทยเดี๋ยวนี้คือคนไม่ค่อยจะดูถูกดูแคลนกันเหมือนเมื่อก่อน ไม่ชอบใส่เครื่องประดับไม่ชอบแต่งตัว ใส่ขาสั้นเสื้อยืด เข้าร้านหรูๆก็ได้รับการต้อนรับดีมาตลอด เรื่องทำผมนี่โชคดี ซี้มีร้านทำผมทำฟรีไม่เคยเก็บตังค์ ขึ้นหนีไปทำร้านอื่น เดี๋ยวโดนตามงอน ข้อ 6 ปรกติดิฉันก็ไหว้ดะเหมือนกันแค่มองหน้าใครคิดว่าหน้าแก่กว่าไหว้ดะไว้ก่อน ไหว้กระทั้งลุงขายข้าวหลาม ได้ข้าวหลามแถมฟรีมาหลายกระบอก ข้อ21 นี่เรื่องจริง แหะๆ แต่บังเอิญว่าเพื่อนฝูงส่วนใหญ่ก็ขึ้นตามเราก็เลยไม่ค่อยมีใครกล้าทักเท่าไหร่ ข้อ 24 นี่ ถึงว่าหาครีมทาตัวในห้างเมืองไทยนี่อะไรๆก็ไวน์เทนนิ่ง หาแบบธรรมดานี่ยากมากๆ ข้อ 26 เรื่องจริง แต่ดิฉันสีตกง่าย คล้ำแค่ไม่กี่วันหากไม่โดนแดดก็ซีดอีกแล้ว คุณ wheel of forture  เรื่องบัตรประชานชนนี่เรื่องจริง คราวที่แล้วกลับบ้านเลยไปทำบัตรใหม่ มีการซักซะละเอียดยังขึ้นศาล อ่านที่ คุณ roslita เขียนแล้วเพลินดี นังเจ๊ถึงกลับตบเข่าผาง ถึงว่าคราวที่แล้วอยากกินส้มตำ เจอร้านส้มตำข้างทางเลยจอดรถไปสั่งเอาแบบ ไม่ใส่ชูรสไม่ใส่ปลาร้าไม่ใส่ปูเค็ม นะป้า (ดีน๊าป้าแกไม่ถามกลับมาว่ามะละกอใส่ไม๊) ไหงมีกลิ่นปลาร้าหึ่งและขาปูเค็มแถมติดมาด้วย  ทั้งๆที่ป้าแกก็ยันยันว่าล้างครกแล้วเด๊อค่า แก้ไขเมื่อ 12 ม.ค. 53 18:28:28 จากคุณ : Rinta เขียนเมื่อ : 12 ม.ค. 53 18:19:28

ความคิดเห็นที่ 50 โห...จขกท........น้ำตาซึม... T-T เป็นเด็กเหลิมมานาน ไม่เคยถูกโหวตทู้ ย้ายมาเล่นห้องนี้ ทู้หนูโดนโหวตตตตตตตต..... ~~~~~ แม่จ๋า...ฝันหนูเป็นจริงแล้ว...ฮือ...แง...ปลื้ม..หาคำพูดไม่ได้ คนแรกที่อยากเข้าไปกอดคือ เคน ธีรเดช แต่คาดว่าคงไปฉลองลูกคนที่ 2 ที่ญี่ปุ่น สามีก็ไม่อยู่ไปใช้แรงงานที่ กทม. เอาไงดี เดี๋ยวค่อยขึ้นไปกอดเจ้าตัวยุ่ง 2 คนข้างบน ฝันแม่เป็นจริงแล้วลูกเอ้ย!! ขอบคุณมิตรภาพดีๆของทุกๆคนในห้องนี้นะคะ จริงๆเราติดใจห้องนี้ตั้งแต่ตั้งกระทู้นี้แล้วค่ะ http://www.pantip.com/cafe/klaibann/topic/H8672859/H8672859.html เข้ามาตั้งแล้วเพื่อนๆที่เข้ามาตอบน่ารักๆทั้งนั้น เลยไปจอง สูตรเสน่หาไว้ ชุด1-5 กะว่าจะเอามาให้เพื่อนที่ห้องนี้ แต่ยังคิดไม่ออกว่าจะให้ใคร เพราะไม่ค่อยมีเพื่อนห้องนี้เท่าไหร่ เลยคิดว่า ตั้งอีกสักทู้น่าจะดี จะได้มีอะไรคุยกันเยอะขึ้น ขอบคุณอีกครั้งสำหรับมิตรภาพดีๆค่ะ ข้อมูลที่เป็ฯประโยชน์... ต่อ 41. เมืองนอกคุณจะติดอเมริกันฟุตบอล เบสบอล บาสเกตบอล กลับมาเมืองไทย คุณจะติดละครหลังข่าว ส่วนสามี จะ....ติดงาน....และ....ละครหลังข่าวตามภรรยา จากคุณ : รอคนอื่นมาเมาส์กันต่อ ^^ (Fall Foliage) เขียนเมื่อ : 12 ม.ค. 53 21:51:21

ความคิดเห็นที่ 51 5555 กระทู้นี้โดนครับ เห็นด้วยอย่างแรง แล้วก็ขอเพิ่มเติมละกัน - รถเมล์เมืองไทยต้องออกไปนั่งรอที่ป้ายโดยไม่รู้เป้าหมายว่าจะมาเมื่อไหร่ เพราะไม่มีการกำหนดเวลาชัดเจน หรือกระดานบอกเวลาออนไลน์ว่ารถสายไหนจะมาถึงป้านเมื่อไหร่ - ต้องเผื่อเวลาเดินทางเยอะๆ เพราะยังไม่มีรถใต้ดินทั่วเมืองแบบเมืองนอกแบบที่ว่านั่งนับเวลาเดินทางกันเป็นนาทีได้เป๊ะ - กลับมาแล้วก็ต้องหัดออกไปติดต่อทั้งธนาคาร ซื้อของ และอีกจิปาถะ สารพัดต่างๆ มาขึ้น เพราะไม่ได้อยู่เมืองนอกที่ทำทุกอย่างได้ทางอินเตอร์เนตแล้วรอรับที่บ้านนะคร้าบบบบ แก้ไขเมื่อ 12 ม.ค. 53 21:57:03 แก้ไขเมื่อ 12 ม.ค. 53 21:54:03 จากคุณ : เกี๊ยวหมี่แห้ง เขียนเมื่อ : 12 ม.ค. 53 21:53:35

ความคิดเห็นที่ 52 เลิก"นินทา"คนข้างๆเป็นภาษาไทยได้แล้ว //////////// โดนสุดๆๆ ค่ะ  ตอนนี้ นิสัยเสียมาก เม้าส์ภาษาไทยกันมันส์เลย กะเพื่อน กลัวติดนิสัย กลับไปไทย เม้าส์คนอื่น จะโดนตบกลับมาได้ หุหุ จากคุณ : ต้นไม้ในบ้านหลังเก่า เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 53 00:31:28

ความคิดเห็นที่ 53   ขออนุญาตตุณเกี๊ยวหมี่แห้งเพิ่มเติมเรื่องรถเมล์นะคะ เวลารอรถเมล์เราควรจะต้องมีหูตาที่ว่องไวค่ะ เพราะไม่รู้ว่าคุณพี่คนขับจะจอดตรงไหน ถ้ากะระยะผิดก็เตรียมวิ่งหน้าตั้งได้เลยค่ะ แต่ก็รักรถเมล์ไทยนะคะ กลับเมืองไทยปีที่แล้วลูกๆไม่ได้ไปด้วย ไปกับพ่อบ้านสองคนไม่มีห่วงเลยชวนกันขึ้นรถเมล์ สนุกดีค่ะ ทั้งคนขับทั้งกระเป๋าก็น่ารัก เห็นเราไม่ค่อยรู้ทางก็ช่วยบอกทางให้ คนขับเห็นวิ่งตามรถเพราะกะระยะผิดก็รอไม่ออกรถไปก่อน คุณRintaหลังจากทำบัตรประชาชนเสร็จแล้ว ได้ทำบัตรทองด้วยหรือเปล่าคะ กลับไปเที่ยวนี้แม่เราจับตัวไปทำหมดเลยค่ะ ทั้งต่ออายุบัตรประชาชน ต่ออายุหนังสือเดินทาง ทำบัตรทอง จากคุณ : wheel of forture เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 53 00:34:43 A:68.127.144.123 X: TicketID:048459

ความคิดเห็นที่ 54 เพิ่งกลับไปช่วงปลายปีค่ะ ขอเล่าบ้าง - รถไฟฟ้า ใต้ดิน ฯลฯ ไม่มีเวลา นึกอยากจะมามันก็มาเอง - ที่ซื้อบัตรรถไฟฟ้าไม่รับแบงค์ ต้องเอาแบงค์ไปแลกเหรียญแล้วเอาเหรียญมาหยอดอีกที อันนี้เราลืมไปเลย ไปโก๊ะตรงตู้อยู่ตั้งนาน - วัยรุ่นทั้งชายและหญิงแต่งตัวเหมือนๆกัน ถ้าเป็นผู้หญิงก็ตัวเล็กๆขาวๆผมยาวๆดัดปลาย แต่งหน้าจัด เสื้อผ้าหน้าผมเหมือนกันหมด ผู้ชายก็เสื้อลายสก็อตกับกางเกงขาเดป บางทีเดินๆอยู่ก็เกิดอาการเดจาวูขึ้นมาว่า ไอ่คนนี้เราเดินผ่านไปเมื่อตะกี้นี่นา มาผ่านกันอีกละ - ถ้ามีชาวต่างชาติยืนอยู่ใกล้ ซื้ออะไรต้องแพงกว่าคนอื่นทุกที ตอนหลังถ้าจะซื้ออะไรต้องให้คุณพี่ไปยืนไกลลิบๆนู่น ถึงจะได้ราคาคนไทย - อ้อ ของมักไม่ติดราคา ต้องถามคนขายเอาค่ะ จากคุณ : คนรักแมวตี๋ เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 53 00:45:44

ความคิดเห็นที่ 55 ชอบค่ะ เห็นภาพเลย จากคุณ : อ า ร์ ต ตั ว แ ม่ เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 53 01:33:18

ความคิดเห็นที่ 56 เข้ามาให้กำลังใจเจ้าของกระทู้นะค่ะ ชอบค่ะ โดนๆๆ ^__^ จากคุณ : IBeNes (IBeNes) เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 53 01:33:49

ความคิดเห็นที่ 57 ชอบกระทู้นี้ขำๆดีครับ เรื่องนึงที่ผมประสบกับตัวเองทุกปีคือเรื่องน้ำหนัก ผมจะกลับเมืองไทยปีละ เดือนครึ่งถึงสองเดือน ตอนไปจะโอเคไร้พุง ขากลับน้ำหนักจะขึ้นประมาณ 5 กก ประจำ ซึ่งก็เป็นอย่างนี้ทุกปี แก้ไม่ได้อะครับ แต่กลับมานี่ประมาณเดือนนึงก็จะลงมาอยู่ในสภาพปกติ หุหุ ก็กินตั้งแต่ลืมตา จนกระทั่งก่อนหลับตาตลอดสองเดือนนี่ครับ หุหุ จากคุณ : เรื่องจริงขำๆ (Huntington) เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 53 03:15:23

ความคิดเห็นที่ 58   -แวะมาเล่าด้วยคน -เนื่องด้วยนิสัยที่ชอบ DIY พอกลับบ้าน อันใหนที่ทำได้ก็ทำอันใหนที่ทำไม่ได้ก็เรียกช่างมาหรือไปให้ช่างทำให้ โหทำไมมันถูกจัง ตอนอยู่ที่นี่ใหนจะต่าแรง ค้าของ แถมนัดล่วงหน้าอีก แถมช่างบ้านเราเก่งกว่าทำได้หมด -กลับไปสองสามวันแรกที่ กทม ข้ามถนนไม่เป็นเลย อยู่นี่มองขวา แต่บ้านเรามองรอบตัวไว้ก่อน -ขับรถไปเติมน้ำมันร่ำๆจะเติมเองหลายครั้งแต่ก็ยังเช็ดกระจกรถเองอยู่ดีเพราะชินกับที่นี่ แล้วก็สงสารเด็กปั๊ม เพราะมันเป็นอะไรที่เราทำเองก็ได้ -ลงเครื่องวันแรกไปส้มตำกินท้องเสียเลยหลังจากได้ภูมืคุ้มกันแล้วซัดเรียบ จากคุณ : Capecoder เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 53 03:37:12 A:72.93.125.14 X: TicketID:134853

ความคิดเห็นที่ 59 ไม่รู้ดิ รู้แต่ว่ากลับไทยทีไร ไม่เคยอยากอยู่ที่อื่นในโลกอีกเลย จากคุณ : สวยไม่แคร์สื่อ เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 53 03:55:30

ความคิดเห็นที่ 60   โดนมากค่ะ เรื่องน้ำหนัก กับ นินทาเป็นภาษาไทยเนี่ย :) ขอเพิ่มเติมค่ะ -เมืองไทย บริการทุกระดับ(?)ประทับใจ จริงๆค่ะ เราถีงกับเขินไปเลย โดนไหว้แล้วไหว้อีก แล้วก็ทำไมต้องบริการดีขนาดนี้เนี่ยย เขิน เกรงใจ เราทำเองก็ได้นะ -_-" -การพูดขอบคุณกับผู้ให้งานบริการเป็นเร่ืองแปลก เราติดนิสัยพูดขอบคุณกับทุกคนมา พนักงานขายตั๋ว คนเก็บค่าที่จอด พนักงานเสิร์ฟ ชั้นขอบคุณดะ เพื่อนที่มาด้วยกันงงไปเลยอะค่ะ :) จากคุณ : ฟิญตา เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 53 05:04:45 A:93.33.114.96 X: TicketID:245141

ความคิดเห็นที่ 61 ส่วนมากก็มีแชร์กันจากคนที่อยู่ต่างประเทศนานๆแล้วกลับไทย แต่ผมเพิ่งย้ายมาอยู่ และคิดว่าคงจะอยู่ไปเลย งั้นขอแชร์ด้านที่ตรงข้ามกันบ้างละกันครับ ^ ^ 1. เวลาจะกินข้าวคนที่นี่ตัวใครตัวมัน ไม่ต้องรอว่าเค้าจะมาถาม อดตายกันพอดี 2. เวลากินข้าวร่วมโต๊ะกับฝรั่ง ก็ต้องหัดพูดบ้างอะไรบ้าง เข้าสังคม ถ้าทำมารยาทดี     "ไม่พูดคุยระหว่างรับประทานอาหาร" จะโดนถามคำถามประมาณว่า "มีอะไรผิด      ปกติหรือเปล่า" "เธอโอเคไหม" "อาหารไม่อร่อยเหรอ" "ฉันพูดอะไรผิดรึเปล่า"      ฯลฯ 3. เวลาจะเข้า-ออกรถไฟอย่าลืม "กดปุ่ม" เพราะมันไม่เปิดอัตโนมัติเหมือนรถไฟฟ้า     ที่กรุงเทพฯ 4. เวลานั่งรถถ้าไม่ได้ขับเองจะรัดเข็มขัดนิรภัยก็อย่าลืมว่าต้องเอื้อมมือไปดึงด้านขวา 5. เวลาเพื่อนชวนไปงานเลี้ยงที่บ้านหรือรับประทานอาหารอย่าลืมของติดไม้ติดมือไปฝาก 6. แล้วหลังจากเพื่อนชวนเราไปแล้วก็ควรจะชวนกลับตามมารยาท (แต่บางคนเห็นไป     ทุกงานไม่เคยชวนคนอื่น ^ ^") 7. ถ้าเดินๆอยู่ข้างนอกเจอคนตะโกนใส่หรือหัวเราะเยาะเป็นเรื่องธรรมดา... 8. ถ้าพูดถึงเรื่องเทคโนโลยีทันสมัยบางอย่าง คนที่นี่อาจจะยังทำหน้างงอยู่ 9. ถ้าบอกคนที่นี่ว่ารู้จักขนมปัง Pretzel เค้าจะแตกตื่นมากว่าที่ไทยมีด้วยเหรอ รวมไป     ถึงอาหารต่างชาติที่ประเทศไทยมีเกือบทั้งหมด 10. ถ้าคิดจะมองหาห้างเหมือนสยามพารากอน หรือ เซ็นทรัลเวิร์ดลืมไปได้เลย ไม่มีอะไร       ที่อลังการเท่านั้นอีกแล้ว 11. เวลาจะซื้ออะไรห้ามตีเป็นเงินไทยเด็ดขาด ไม่งั้นจะไม่กล้าซื้ออะไรซักอย่าง ให้คิดว่า       เป็น "บาท" เช่น อุ๊ย ถูกมากก กระเป๋า Longshamp ใบละ 120 บาท 12. ถ้าไปตามร้าน หรือ โรงแรม แล้วการบริการห่วยแตก ถือเป็นเรื่องธรรมดา เพราะถ้า       เทียบกับที่ประเทศไทยแล้ว ขอชมเชยว่าเลิศที่สุดในโลก 13. อยู่ที่นี่แล้วถึงจะ "ตรัสรู้" ว่าอาหารไทย อร่อยที่สุดใน 3 โลก 14. ถ้าจะช้อปปิ้งต้องทำเวลา เพราะห้างร้านปิดกันรวดเร็วมาก ทุ่มสองทุ่มก็ปิดกันหมด 15. วันอาทิตย์เป็นวันหยุดของแท้ ห้างและซุปเปอร์มาร์เก็ตปิดหมด ถ้าอาหารหมดวันเสาร์       ต้องรีบไปซื้อไม่งั้นวันอาทิตย์อดตาย หรือไม่ก็ต้องไปเข้าร้านอาหาร 16. อยู่ไปอยู่มาจะเป็นไปตามคำที่หนูในเรื่อง ratatouille พูดว่า "Anyone can cook"       เพราะจะเข้าร้านอาหารไทยไปกินบ่อยๆ หลังๆอาจจะต้องไปล้างจานแทน ทำอาหาร       กินเองประหยัดกว่าและจะเก่งขึ้นเรื่อยๆ (โปรดใช้วิจารณญาณ เพราะเป็นความสามารถ       เฉพาะบุคคล lol) 17. อากาศประมาณ 15 องศาเค้าเรียกกันว่า "อุ่น" ถ้าเป็นที่ไทยเห็นเพื่อนเอาเสื้อโค้ทเหมือน       มันจะไปเมืองหิมะ Dream World มาใส่พร้อมพันผ้าพันคอถ่ายรูปขึ้น msn เสร็จสรรพ.. 18. ไปซื้อของที่ซุปเปอร์มาร์เก็ต เอาถุงไปใส่ของด้วย ไม่งั้นก็ต้องซื้อถุง ไม่มีฟรีเหมือนที่ไทย 19. นั่งอยู่ในรถไฟหรือร้านอาหารเจอคนสั่งน้ำมูก "ฟื้ดด พรึ้ดดด" เป็นเรื่องปกติ ตอนแรกก็       แอบตกใจ ถ้าทำที่ไทยคงโดนมองทะลุไปถึงต้นตระกูล ^ ^" 20. ใส่รองเท้าในบ้านได้ไม่แปลก แต่ใครมาบ้านผมไล่ให้ไปถอดทุกคน ฮ่าๆๆ และยังมีอีกเยอะ แต่ขอแย่งพื้นที่คุณ จขกท แค่นี้พอละครับ อิอิ จากคุณ : DasIstToll เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 53 05:21:19

ความคิดเห็นที่ 62 เค้าก้อเขียนขำๆเองม่ะใช่เหรอ ขำออก จากคุณ : v-i-v-i-a-n เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 53 05:28:11

ความคิดเห็นที่ 63 เราว่าที่เจ้าของกระทู้เขียนไม่เห็นจะแย่เลย ความเป็นจิงมันแย่กว่านี้อีกนะ จากคุณ : UHU_UFO เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 53 06:02:39

ความคิดเห็นที่ 64   วันก่อน ผมกับลูกแวะไปเข้าห้องน้ำที่ Siam Paragon ลูกบอกว่าแถวนี้ไม่ใช่แถวบ้านเรา ทำธุระเสร็จรีบกลับ เตรียมใจไว้ว่า ของหลายอย่างที่จำเป็นถ้าค่อนข้างมีคุณภาพสักหน่อยราคาจะแพงกว่าที่อเมริกา อย่าตกใจ จากคุณ : อิสวาสุ เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 53 07:02:42 A:71.114.54.31 X: TicketID:146114

ความคิดเห็นที่ 65 กล้บไปคราวก่อนเพิ่งรู้ว่า เงินห้าบาทขึ้นรถเมล์ไม่ได้แล้ว จากคุณ : meddy เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 53 08:15:58

ความคิดเห็นที่ 66 ขอเล่าหน่อยค่ะ จากคห. 24 รู้จักคุณป้าคนไทยอายุ เกือบ 70ปี มีสามีฝรั่ง ก็ใช้คอมพิวเตอร์ส่ง email ดาวน์โหลดหนัง และเล่นเกมออนไลน์กับเด็กๆในเว็บไทย ที่เป็นแบบเล่นไปแชทไป และคุยกับเด็กๆ เหมือนคนรุ่นเดียวกัน ตอนสมัครสมาชิกใช้บัตรประชาชนของหลาน ตอนสมัยสาวๆ คุณป้าไม่เคยทำงานออฟฟิศค่ะ ความรู้ต่ำกว่าป.ตรี เวลาพิมพ์ก็จิ้มๆ เอาค่ะ นักเรียนไทยบางคนพอรู้เข้าก็ทำหน้าเบะๆ แบบไม่เชื่อ ขอโทษนะคะถ้าข้างบนไม่เกี่ยวกับหัวข้อกระทู้ กลับไปเมืองไทยทีไร จะให้ช่างตัดเสื้อของคุณแม่ตัดเสื้อผ้าให้ ฝีมือเค้าดีมากค่ะ ใส่แล้วพอดีตัวเรา เสื้อผ้าแบรนเนม แทบจะไม่มีเลย เพราะเป็นคนไม่บ้ายี่ห้อ เสียดายตัง ถ้าคนไทยขับรถตามกฏจราจรและเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ จะน่าอยู่มากๆ กลับเมืองไทยทีไรไม่กล้าขับรถค่ะ มีความรู้สึกว่าน่ากลัวมาก อย่างที่นี่ ถ้ารถติดตรงช่วงทางเข้าออกซอย เค้าจะเว้นไว้ แล้วพอรถขยับได้ เค้าก็จะอนุญาตให้รถในซอยออกมาได้ หนึ่งคัน แล้วคันที่ตามหลังเราก็จะทำเหมือนกัน เค้าจะไม่ขับตามเรามา แต่จะให้รถในซอยออกมาอีก หนึ่งคัน ก่อน แบ่งกันไปค่ะ แล้วถ้าใครไม่ทำอย่างนั้นจะดูน่าอับอายมากค่ะ แล้วเราก็รู้สึกมีความสุขมากค่ะ อยากให้เมืองไทยเป็นแบบนี้จัง เพราะตอนกลับไทยเคยติดในซอยเป็นชั่วโมง จากคุณ : AlwaysCraft เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 53 08:38:22

ความคิดเห็นที่ 67 อ่านที่คุณ จขกท เขียนแล้ว ชอบใจ คุณน่ารักมากเลยที่อุตส่าห์เก็บรายละเอียดต่างๆนานา มาเล่าให้ฟัง อ่านแล้วขำมากเลย จริงอย่างที่คุณพูด จะทุกอย่างหรือเปล่านี่ก้ไม่รู้ เพราะหลายอย่างที่เมืองไทย ดิฉันเองก็ไม่รู้ อย่างละครไทยหรือดาราละครเมืองไทย เป็นต้น เห็นคนพูดถึงเรื่องสูตรเสน่หาแล้วก็น่าสนใจ แต่ท่าจะไม่ไหว แค่พันทิปอย่างเดียวนี่ก็แย่แล้วค่ะ ฮือๆๆ รักเมืองไทยนะคะ ชอบมากเวลาน้องชวนไปเดอะมอน หรือแฟชั่น ไปกินเตี๋ยว ซื้อขนมร้านเก้าพี่น้องขนมอร่อยทุกอย่าง  ปลาเค็มทอดส้มตำอร่อยมาก หลายอย่างของแพงกว่าที่เมกามาก ซื้อไม่ลงเราก็ไม่ซื้อ หมดเรื่องหมดราวไป นึกไม่ออกว่าจะเล่าอะไร นอกจากว่าให้ระวังกระเป๋าให้ดี เวลาออกไปข้างนอก จากคุณ : PatPDX เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 53 09:19:03

ความคิดเห็นที่ 68 55 เพิ่งเข้ามาอ่าน ขำดีนะเนี่ย เดี๋ยวขอกลับไปอ่านคอมเม้นคนอื่น แล้วขำต่อ (หรือเปล่า) จากคุณ : thaispicy เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 53 09:36:36

ความคิดเห็นที่ 69 เพื่อนคนไทยมาจากเมืองนอกหลังจากไม่กลับไทยมาหลายปี เห็นโปสเตอร์หนังไทยเกย์ชื่อดังเรื่องหนึ่งกำลังล้วงกันอยู่ ขนาดใหญ่มาก กลางห้างหรู (เพื่อน) อืม ประเทศไทยเปลี่ยนไปเยอะนะ.... จากคุณ : Disorder เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 53 11:08:02

ความคิดเห็นที่ 70 ส่วนสิ่งที่ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ล้านปีก็ไม่เคยเปลี่ยนคือ เด็กไทยหัวยังเกรียนอยู่ จากคุณ : Disorder เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 53 11:08:45

ความคิดเห็นที่ 71 เข้ามาขำ ฮ่า ฮ่า ช่ายความจิงมันแย่กว่าที่เขียนอีก แต่ช่างมันมองแบบขำ ขำดีกว่า อย่าเครียดคะ จากคุณ : realgirl เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 53 11:10:40

ความคิดเห็นที่ 72 อ่านก็ทราบดีครับ ว่า จขกท ประสงค์ดี บ้านเรามีเรื่องแย่ ๆ เยอะครับ เอามาเตือนกันคงไม่ใช่เรื่องแปลก แต่วัฒนธรรมดี ๆ ก็มีเยอะเช่นกัน กลับไทย ใครไหว้อย่าลืมรับไหว้ด้วยนะครับ ยกมือพนมประมาณหน้าอกครับ น่ารักทั้งผู้ไหว้และผู้รับไหว้ จากคุณ : แตงโมสีรุ้ง เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 53 11:26:03

ความคิดเห็นที่ 73 อ่านแล้วรู้สึกเมืองไทยน่าอยู่จัง โดยเฉพาะเรื่องห้าง จากคุณ : แมวน้อยแสนงอน เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 53 11:31:10

ความคิดเห็นที่ 74 ชอบค่ะ  เห็นด้วย ไม่ได้รู้สึกว่าเอามาประจานกัน คิดในทางสร้างสรรค์ ก็มันจริง จากคุณ : สีเบจ เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 53 11:43:33

ความคิดเห็นที่ 75   เอ่อ..........จริงๆด้วย   หลายข้อใช่เลย รวมๆแล้วผมว่าเมืองไทยไม่ค่อยเปลี่ยนนะ  มาทีไร ตอนกลับม้ำหนักเพิ่ม หก ถึง สิบ กก. ทุกรอบ          สงสัยไปๆมาๆบ่อยเกินไป......คริ  คริ ที่รู้สึกก็คือ -รถญาติ เพื่อน คนรู้จัก  ติดแก๊สกันไปจะหมดแล้ว -แถวลาดพร้าว ห้วยขวาง ดินแดง  วิวเปลี่ยนหมด เป็นคอนโด กับ หอพักถ้าใกล้สถานี รถไฟฟ้า     ถ้าตื่นมาระหว่างทางจะงงได้ครับว่าที่นี่ที่ไหน -บุหรี่ที่ไทยแพงมาก(เพื่อนให้ซื้อที่สนามบินไปฝากถูกกว่า 7-11 ครึ่งนึง)   -หนังจีนตอนเย็นๆไม่มีแล้ว   กลายเป็นหนังเกาหลีหมด    แม้แต่ละครกลางวัน  ก็เกา ความหลากหลายในการเสพย์ละครลดลงมาก T T -เคเบิ้ลทีวี ที่กทมเดือนละ 300 บาท มี 80 ช่อง ดีมั๊กๆ ฯลฯ   ปล.ไม่ได้นั่งการบินไทยสัก สี่ ห้าปีได้   เดี๋ยวนี้โดยรวมบริการดีมากๆ  โขโบก จากคุณ : Pier Gerlofs Donia เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 53 11:55:39

ความคิดเห็นที่ 76   อ่านไปขำไป ก็ภูมิใจบ้านตัวเองนะคะ อยู่เมืองนอกแล้วยังไงก็ไม่เหมือนเมืองไทย บ้านเราแซ่บสุดแล้วค่ะ ถ้าถามเราถึงความแตกต่าง อืม เรื่องกุ๊กกิ๊กไง ที่ไทยถ้าหนุ่มไหนชอบก็เดินเข้ามาขอเบอร์หรือยิ้มให้ทันทีเลย แต่หนุ่มๆแถวนี้จะโดนจ้องจนตัวแข็งก่อน แล้วพี่แกค่อยเดินมาคุย อิอิ น่ารักไปอีกแบบ แต่เรื่องความไนซ์และฮายังไงก็เทใจให้หนุ่มไทยค่ะ ;) จากคุณ : Kaetzchen เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 53 12:13:47

ความคิดเห็นที่ 77 เวลาไปเที่ยวทะเล ถ่ายรูป ต้องมีโพสต์ท่ากระโดดด้วยนะคะ ยิ่งเป็นภาพหมู่กระโดดกันกระจาย เรายังมองแบบทึ่งเลย ไม่เคยเห็นที่อื่นเลยนอกจากบ้านเรา จากคุณ : Rosa Rossa เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 53 15:16:48

ความคิดเห็นที่ 78 ขำดีออก จากคุณ : PoUpeE เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 53 15:49:33

ความคิดเห็นที่ 79 ฮาดี จากคุณ : LAPD21 เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 53 16:36:31

ความคิดเห็นที่ 80 เรื่องไหว้เราเลิกไม่ได้ค่ะ ตอนไปเรียน เราเด็กสุดในหมู่คนไทย เลยไหว้พี่ๆได้ทุกคน เจอใครก็ไหว้ ถึงเค้าจะบอกว่าไม่ต้องไหว้ เราก็ยังไหว้ทุกครั้งที่เจอ และจาก เป็นอย่างนี้จนกลับไทยค่ะ จากคุณ : San Makyos เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 53 17:04:24

ความคิดเห็นที่ 81 เจอข้อแรกก้อขำเลยค่ะ อ่านขำๆนะคะ อย่าซีเรียสกันเลย จากคุณ : น้องเสือน้อย เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 53 17:08:02

ความคิดเห็นที่ 82   เรื่องเลิกนินทาเป็นภาษาไทยน่ะไม่แปลกหรอกเพราะแอบนินทาฝรั่งใช่ม้า แต่เราน่ะ ดันโก๊ะ ไปเจอป้าคนไทยที่ห้างที่พอร์ตแลนด์ก็ทักทายเพราะหลานแกน่ารัก แกคุยไม่เลิกตามประสาคนสูงอายุพอเริ่มคุยเกินไปเราพยายามส่งซิกซ์บอกแฟนเรา แต่เราดันลืมและพูดภาษาไทยกับแฟนเราว่า ซวยแล้ว ป้าไม่เลิก หมายถึงไม่เลิกคุยน่ะ ที่เราพูดภาษาไทยกับแฟนเพราะแฟนเราเคยอยู่เมืองไทยเกือบสี่ปีฟังภาษาไทยเข้า ใจเยอะ แต่เราดันลืมว่าเราเมาท์ป้าแกเป็นคนไทย เพราะส่วนใหญ่เวลานินทาฝรั่งที่อเมริกาเราชอบพูดภาษาไทยกับแฟนเรา ก็เลยหลุด ป้าคงได้ยินเดินหนีไปทันที ก็ไม่ได้ตั้งใจทำร้านน้ำใจแก แต่พอเจอคนที่ชอบพูดไปเรื่อยแบบไม่มีพอยด์มันอึดอัดน่ะ เลยลืมตัวไป จากคุณ : Menu เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 53 18:17:37 A:72.10.14.90 X: TicketID:211948

ความคิดเห็นที่ 83 จากประสบการณ์ทีเพิ่งกลับไปเมืองไทยมา ขอเพิ่มเติม เวลา ช็อปปิ้ง อย่า Convert ราคา ไทยบาท เป็น ดอลล่าร์ เพราะ คุณจะกระเป๋าฉีก และ/หรือ ต้องซื้อกระเป๋าเดินทางใบใหม่ : ) จากคุณ : Aunty Ann เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 53 20:16:22

ความคิดเห็นที่ 84   ยังงัยก้อรักเมืองไทยมากๆๆๆด้วยค่ะ เมืองไทยน่าอยู่ที่สุดในโลกแล้วสำหรับตัวเอง อาจจะมีบางอย่างที่ไม่ค่อยถูกต้องหรือถูกใจหรือได้ดั่งใจเรามากนัก แต่อย่างไรก้อรักเมืองไทย เป็นพลเมืองไทยเต็มขั้นยิ่งตอนนี้ต้องมาใช้ชีวิตที่ต่างประเทศยิ่งรักเมืองไทยมากขึ้นอีกมากมาย และแน่นอนบั้นปลายชีวิตตั้งใจจะกลับไปอยู่เมืองไทยเป็นการถาวร ขนาดสามีเป็นคนเยอรมันอายุเพิ่งจะ สามสิบห้าเอง ยังอยากไปอยู่เมืองไทยเลย(ไปเมืองไทยมาแค่ สอง ครั้งเอง) แต่อย่างไรก้อตามขอเป็นกำลังใจให้ กับ จขกท และกับทุกๆ คห น่ะค่ะ ทุกคนมีสิทธิที่จะคิด พูด และแสดงความคิดเห็น ตามความรู้สึกของตนเอง ขอให้ยอมรับซึ่งกันและกัน ว่าไม่มีใครที่ถูกที่สด แค่นี้ก้อพอแล้วสำหรับคนไทยด้วยกัน แต่อย่างไรก้อตามขอเป็นกำลังใจให้กะ จขกท อีกครั้งน่ะค่ะ วันหลังมีข้อมูลใหม่ก้อเข้ามาตั้งอีกน่ะค่ะ เพื่อการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น จากคุณ : ลูกหมูดอทคอม เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 53 23:03:33 A:109.192.110.168 X: TicketID:230699

ความคิดเห็นที่ 85 11, 18 & 22 โดนที่สุด!!!! จากคุณ : โจแดง เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 53 23:10:15

ความคิดเห็นที่ 86 อ่านแล้วนั่งขำหน้าคอมค่ะ   คริๆ ไม่รู้สึกว่าเป็นการประจานแต่ประการใด  เพราะเรื่องจริงทั้งน้านนนน เรื่องตัดผมแพงก็อีกเรื่องนึง   จริงที่ซู้ดค่ะ  ทั้งๆที่เราไม่ได้คุยโม้อะไรเลย   พี่เจ้าของร้านก็เป็นเจ้าประจำกันก่อนไปเมืองนอกซะอีก   พอกลับมาอุดหนุนดันขูดเราซะเลือดซิบๆ  ฮือๆๆๆ จากคุณ : LiLLa_JoY เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 53 23:14:54

ความคิดเห็นที่ 87 เข้าใจว่าอาจจะเขียนขำๆ แต่สำหรับคนที่อยู่เมืองไทยตลอดชีวิต มาอ่านกระทู้+แต่ละความเห็นแล้ว อาจจะไม่ค่อยขำเท่าไหร่ ในน้ำเสียงแต่ละคนดูเหยียดๆ ยังไงไม่รู้ เฮ้อ! จากคุณ : dentovic เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 53 00:44:50

ความคิดเห็นที่ 88 ขำดี แต่เรื่องเคน อ่านแล้วงง เพราะมันไม่แปลกเลยนะ เพราะดาราฝรั่ง (และเกือบทั่วโลก) เขาก็มีลูกมีเมียแล้วทั้งนั้นนี่นา ก็ยังเป็นชายสุดเซ็กส์ซี่ขวัญใจสาวๆ อยู่ดี และดาราผู้หญิงฝรั่งมีผัวแล้วก็ยังครองตำแหน่งเซ็กส์ซี่ตลอดกาลเฉยเลย ปล. เออ... แต่เพื่อนไปอยู่เมืองนอกมานานๆ ตัวอ้วนกันจริงๆ อ้วนซะน่ากลัว เขากินอะไรเข้าไปไม่รู้ จากคุณ : rainfull เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 53 02:10:39

ความคิดเห็นที่ 89 อย่าเครียดกันมากสิค่ะ อ่านพอขำๆ อันไหนได้สาระก็เก็บไปใช้ คนเขียนในนี้ ไม่ใช่เป็นคอลัมภ์นิสมืออาชีพ ไม่มี บก. สกรีนให้ก่อนเอามาลง มันก็มีถูกใจผู้อ่านบ้าง ไม่ถูกใจบ้าง ยิ้มกันไว้ดีกว่านะ จากคุณ : Aunty Ann เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 53 09:07:40

ความคิดเห็นที่ 90 ระหว่างข้ามถนนที่เมืองไทย หากเจอรถที่เปิดไฟสูงกะพริบๆ แปลว่า "อย่าข้าม" ไม่ใช่ "เชิญข้ามได้" อย่างที่ อเมริกา จากคุณ : keepaway เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 53 10:40:32

ความคิดเห็นที่ 91 ==ย้ายความคิดเห็นไปไว้ในกระทู้ นี้แล้วนะคะ http://www.pantip.com/cafe/klaibann/topic/H8704197/H8704197.html จะได้ไม่ผิดหัวข้อ แล้วก็จะได้เป็นประโยชน์ต่อคนที่เค้าต้องการอ่านจริงๆ ^^"== แก้ไขเมื่อ 15 ม.ค. 53 10:12:19 แก้ไขเมื่อ 14 ม.ค. 53 11:05:50 จากคุณ : Fall Foliage เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 53 11:00:16

ความคิดเห็นที่ 92 นินทาภาษาไทย ตรงมากค่ะ เพราะไปเมกามาห้าเดือน เจอเพื่อนหลายชาติ ไม่พอใจก็ด่าเป็นภาษาไทยแต่ปากยิ้ม พอมาลงสุวรรณภูมิเท่านั้นล่ะ ลุงที่อยู่ตรงสแกนกระเป๋าโยนกระเป๋าเรา เลยพูดไปว่า "นี่ อีลุงเบาๆหน่อย" เอ่อ..... ลืมไปว่ามันเมืองไทย ขำๆค่ะ จากคุณ : ทะเลาะคือชอบ โต้ตอบคือรัก เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 53 11:49:29

ความคิดเห็นที่ 93 ถูกใจข้อเจ็ดค่ะ อยู่ไทยไม่ค่อยมีคนแปลกหน้ามาชม มาชวนคุยเท่าไหร่ แต่เมืองนอกอยู่เฉยๆก็ชวนคุย มาชมเสื้อผ้า ชวนคุยเหมือนรู้จักกันมานาน แต่พึ่งรู้เดี๋ยวนี้ที่เมืองไทยเด็กเล็กก็ต้องเรียนพิเศษด้วย แม่จ้าววววว จากคุณ : ga_tan_u เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 53 12:51:52

ความคิดเห็นที่ 94 เวลาอยู่เมืองนอกแล้วเจอคนไทยจะไหว้ทักทายกันเสมอ รู้สึกภูมิใจนะที่เรามีวัฒนธรรมการทักกันแบบนี้ ส่วนนิสัยที่ดีๆเมืองนอกให้มาก็คือ ขอบคุณคนที่ให้บริการ แค่ไม่เคยมีคนมองว่าแปลกนะคะ พอพูดเค้าก็ยิ้มให้ จริงๆคนไทยแท้หลายๆคนก็ทำแต่ไม่สม่ำเสมอเท่า จากคุณ : Akrat เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 53 13:10:32

ความคิดเห็นที่ 95 ไม่ได้กลับไทยนานแล้วเหมือนกันค่ะ นานๆถึงมีโอกาสกลับทีค่ะ เรื่องนน.นี่คอนเฟิร์มเลย โดนมากับตัว อุตส่าห์รีบลดแล้วนะก่อนกลับไทยยังไม่วาย.. มีอยู่คืนนึงออกไปเที่ยวราตรีที่ผับดังแถวเอกมัย แม้เจ้า สาวไทยจะผอมไปไหน ขาเล็กกว่าแขนเราอ่ะ เห็นแล้วเครียดเลย เหมือนตัวเองเป็นยักษ์ คนอื่นเป็นลูกมดไปหมด แต่งตัวกันสวยมาก แต่งหน้าทำผม ญี่ปุ่น เกาหลีสุดๆ หลังจากdanceไปซักพัก ก็ขอตัวเพื่อนๆออกไปรับลมข้างนอก ยืนคุยโทรศัพท์อยู่คนเดียวซักพัก มีผุ้ชาย เดินมาขอเบอร์ ยื่นโทรศัพท์ให้เรากด โอ้โห ไม่น่าเชื่อ เราว่าชายไทยน่าจะชอบคนตัวเล็กๆ บางๆนะ แต่เราก็ไม่กล้าให้หรอก ได้แต่ยิ้มๆ ผู้ชายคนเดิมเลยบอกเราว่า "เธอรู้ป่ะ เธอตัวใหญ่มากเลย" อ๊าย อีตานี่ หยาบคายมากๆ ชั้นตัวหนาแล้วมาขอเบอร์ชั้นทำไมยะ เลยบอกว่าชั้นเพิ่งกลับมาจากเมืองนอกย่ะ แล้วเดินเชิดไปเลย เซงมาก ของอย่างงี้ทักได้ไง อารมณ์เสีย! อ้อ มีอีกเรื่องนึง ไม่ทราบว่าตอนนี้ที่เมืองไทย มีการเข้าคิวเข้าห้องน้ำ + ต่อคิวเข้ารถไฟฟ้า และ ให้คนในรถไฟฟ้าออกมาให้หมดก่อนแล้วคนข้างนอกค่อยเข้ารึยังคะ คราวที่แล้วกลับไป งง นิดหน่อย เหมือนเราผิดเองที่ต่อคิว คนอื่นก็มองเราแปลกๆด้วยค่ะ จากคุณ : STUDIOสีขาว เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 53 13:55:26

ความคิดเห็นที่ 96 ตอนนี้เที่ยวอยู่ในเมืองไทย ปัญหามีอยู่ว่า  เราฟังชาวบ้านเขาใช้คำภาษาอังกฤษ  หากเราไม่ได้ตั้งใจฟังอย่างจริงๆจังๆ ก็ไม่ค่อยเข้าใจว่าเขาหมายถึงอะไร เนื่องจากคนไทย ในทีวีหรือคนที่ได้พบคุย ส่วนมากชอบใช้สำเนียงไทยพูดคำทับศัพท์ภาษาอังกฤษ ปนด้วยภาษาไทย ทำให้เราต้องตั้งใจฟังมากๆถึงจะเข้าใจว่าเขาต้องการจะสื่อสารว่าอะไร หันกลับมามองตนเอง  เวลาที่เราเดินไปถามทิศทางหรือ....กับคนแปลกหน้าตามถนนที่กรุงเทพและต่างจังหวัด หลายๆครั้ง  เขามองเราด้วยความงุนงง   ว่าเอ็งกำลังเจรจาเรี่องอารายฟระ....ก่อนๆโน้นเราก็อาย .....เพราะนึกว่าคนไทยส่วนมากเขาคงจะนึกว่าเราเป็น"เจ็ก"พูดไทยไม่ฃัด.....นานๆไปหลายปี.....ความอายก็หายไป ....เพราะเรารู้ว่าตนเองไม่ใช่ เจ็กแขกหรือฝรั่ง....เราคือคนอเมริกัน/ไทยที่ไปอยู่ต่างแดนนาน......มาก.....นานกว่าคนทั่วๆไป ....เราจึงมีแต่ความภูมิใจในตนเอง.....ที่ไม่เคยลืมภาษาไทย...ทั้งการพูดการเขียนและการอ่านครับ จากคุณ : hollywop เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 53 18:10:24

ความคิดเห็นที่ 97 อ่านแล้วสรุปได้ว่า ประเทศไทย = กรุงเทพฯ อเมริกา ไม่ได้รวม นิวยอร์คซิตี้ แต่เป็นที่อื่นๆที่บ้านนอกกว่า เลยโดนบ้างไม่โดนยบ้าง จากคุณ : ปรารถนา เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 53 21:00:11

ความคิดเห็นที่ 98 ที่หลายคนขำไม่ออกเราว่ามันเป็นเพราะเป็นตลกร้ายมากกว่า จากคุณ : Bluedonut เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 53 21:17:17

ความคิดเห็นที่ 99 คุณ DasIstToll ไปอยู่ประไหนค่ะ ญี่ปุ่นรึเปล่า คล้ายๆญี่ปุ่ยเยอะเลย เดือนสามเราก็กลับไทยแล้ว เย้ ตอนแรกติ่นเต้นกับหิมะ พออยูๆไปเริ่มเบื่อมันแล้ว ตอนนี้ลบสามองศา และมีทีท่าว่าจะไปถึงลบสิบ เฮ้อ เห็นด้วยคะ สิบห้าองศานี่ถือว่าปกติมาก จากคุณ : Sachiko_KU เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 53 21:34:41

ความคิดเห็นที่ 100 ผมอยู่ Berlin, Germany คร้าบ คุณ Sachiko_KU ^ ^ จากคุณ : DasIstToll เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 53 00:44:19

ความคิดเห็นที่ 101   โอ๊ย++ อ่านแล้วขำมากๆๆๆๆ ถูกใจกระทู้นี้สุดๆ ผมว่าปีนึงเนี่ยเมืองไทยเปลี่ยนไปเยอะนะ กลับบ้านไปปลายปีที่แล้วเนี่ย มีรถเมล์ ที่มีสีสันแสบตาหลายคัน แต่ไม่เคยไปขึ้นสักที อีกอย่างคือดูเหมือนสาวๆบ้านเราจะแต่งแฟชันกันมากขึ้น เลยดูเผินเหมือนๆกันไปหมด (สวยแบบเกาหลี ญี่ปุ่น ทำนองนั้น) รถไฟฟ้าใต้ดิน มีเครื่องอ่านธนบัตรแล้วจ่ายเหรียญแล้วแฮะ ไม่ต้องไปแลกที่เคาร์เตอร์แล้ว คล้าย #77 เวลาไปเที่ยวก็เหมือนกัน เพื่อนบอกว่าเวลาถ่ายรูปต้องโดดแล้วงอขา ถามกลับว่าทำไปทำไม มันก็ว่า ไม่รู้เหรอ เมืองไทยกำลังฮิต ฮ่าๆๆ แต่แปลกใจอยู่อย่าง เมืองไทยร้อนขึ้นรึเปล่านะ ปลายธันวาอากาศน่าจะเย็น แต่ไหงมันร้อนจัง จากคุณ : Ter เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 53 03:16:04 A:85.154.38.108 X: TicketID:182506

ความคิดเห็นที่ 102 อ่านขำๆ แต่มันก็จริงส่วนมากนะคะ ไม่เห็นต้องคิดไรมาก ก็มันเป็นเรื่องจริงทั้งนั้น ขอค้านเรื่องทำผมอย่างเดียว สำหรับเรานะคะ เพราะกลับบ้านทีไร ไปทำผม ถู๊กถูก ยิ่งร้านตามบ้านนอก ถูกเข้าไปใหญ่ แถมบริการดีมากๆ แต่อย่าไปเผลอคุยอะไรที่เกี่ยวกับต่างประเทศหละ ราคาจะอัพได้ ฮ่าๆๆ ที่กรุงเทพเองก็ราคาธรรมเหมือนกันนะ ไม่มีชาร์ทอะไรเพิ่มสำหรับเรา เวลาโดนถามว่าไม่ทำงานหรือ ก็บอกลาหยุด หรือเพิ่งมาจากบ้านนอก ;D เวลากลับไทย อย่าดีใจออกนอกหน้า รีบบอกเพื่อนฝูง ว่ามีเพื่อนข้างบ้านเป็นคนไทยหละ เราทำมาแล้ว อายมาก ;} ไม่ว่าจะอะไรก็ตามแต่ เมืองไทยดีที่สุดสำหรับเรา เดี๋ยวนี้ ถ้าได้ยินเพลงชาติเราจะยืนตรงด้วยความภูมิใจมากๆ ;) วันหนึ่งเราจะต้องกลับไปอยู่เมืองไทยให้ได้!!! จากคุณ : dcapar เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 53 04:43:28

ความคิดเห็นที่ 103 ฮาดีค่ะ จขกท. เค้าก็ขำๆเน๊อะ อย่าไปซีเรียสนักเลย จากคุณ : อุดมไปด้วยความสุข เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 53 09:46:48

ความคิดเห็นที่ 104 ที่ว่ามาก็ถูกค่ะ ไม่เห็นมีไรน่าซีเรียสเลย ถูกใจมากโดยเฉพาะ #1 แอร์มิเสียแต่อย่างใด...ร้อนได้อี๊กกก จากคุณ : view's mom เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 53 10:14:02

ความคิดเห็นที่ 105   เราเองก็เพิ่งกลับมาทำงานที่ไทยค่ะ เรื่องการไหว้มันขึ้นกับบุคคล สังคม ในหน่วยงานนั้นๆนะคะ บางคนอาวุโสแล้วแต่ท่านไม่ถือตัวเลยค่ะ เราโดนแซวว่าเดินเร็วและแต่งตัวแปลกค่ะ เพราะว่าชอบใส่ถุงน่องน่องด แบบ tight แต่เรื่องดีๆก็มีนะ เพราะอยู่ที่ต่างประเทศตัวใครตัวมัน แต่ที่นี่จะไปกินข้าวกันเป็นกลุ่มและเอื้ออาทรกันมากกว่า อ้อ อย่าพูดอะไรที่ตรงเกินไปนักนะคะ เพราะคนไทยมักพูดปากไม่ตรงกับใจ ต้องฟังหูไว้หูจ้า จากคุณ : อาจารย์ใหม่ เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 53 10:47:44 A:122.154.3.181 X:122.154.3.252 TicketID:007828

ความคิดเห็นที่ 106   อยู่เมืองไทยสบายกว่าเมกาตั้งเยอะ โดยเฉพาะเรื่องเวลา และ อาหารการกิน กลับมาแล้วไม่อยากกลับเมกาอีกเลย เฮ้อออ เมื่อไหร่จะเรียนจบซะที จากคุณ : YokoOno เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 53 11:06:35

ความคิดเห็นที่ 107   เติมให้อีกข้อครับ - ระวังอย่าพูดความจริงในประเทศไทย คนไทยไม่ค่อยชอบฟังความจริงเท่าไหร่ เพราะมันกระทบใจดำ จากคุณ : หรือว่าไม่จริง? เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 53 12:42:18 A:206.105.113.246 X: TicketID:233342

ความคิดเห็นที่ 108 ทัด-สะ-นะ-คะ-ติ + เถิดหนาอยู่ประเทศไหนมันก็ย่อมมีสิ่งที่ดีและไม่ดีผสมปนเปกันไป จากคุณ : เสียงจากบ้านนา เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 53 13:05:10

ความคิดเห็นที่ 109 ตอบคุณ rainfull # 88 ดาราต่างชาติ อายุเยอะ แต่งงานไปแล้ว สามารถแสดงเป็นนางเอก พระเอกได้ค่ะ แต่ถ้าเป็นดาราไทย โดยเฉพาะสมัยก่อน ถ้าแต่งงานแล้วส่วนใหญ่จะหายไปจากวงการ รึไม่ก็กลายเป็นตัวรอง รวมถึง ไปอยู่แวดวงโฆษณาแทน แต่กับ เคน ไม่.. เรานึกว่าคุณเธอหายไปแต่งงาน กลับมากระแสจะลดลง แต่เปล่าเลย โดยเฉพาะตอนเปิดตัวในรถไฟฟ้ามาหานะเธอ คนดูโฆษณากรี๊ดกันลั่นโรง ออกจากโรงคุยเรื่องโฆษณามากกว่าหนังที่ตัวเองดู จนกระแสเข้าพันทิป เราเลยชื่นชมตรงนี้ค่ะ ที่พวกเราเปิดใจกว้างมากขึ้น แยกแยะความสามารถเรื่องงาน ออกจากเรื่องส่วนตัว =^^= เพราะถ้าเราต้องเสียดาราคุณภาพดีเพียงเพราะเค้าแต่งงาน อายุเยอะขึ้น รึว่ามีลูก ก็น่าเสียดาย ..... จากคุณ : Fall Foliage เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 53 15:08:23

ความคิดเห็นที่ 110 ชอบกระทู้นี้จังค่ะ นั่งอ่านเพลินเลย มีหลายข้อที่ตรงใจ อิอิ อย่างเรื่องนินทาเป็นภาษาไทยนี่โดนมาก เพราะอยู่ที่นี่ (อังกฤษค่ะ) จะชอบพูดกับแฟน  (จะออกแนวนินทาซะมากกว่า อิอิ)  เป็นภาษาอังกฤษ ปน ไทยค่ะ แล้วแฟนถ้าเจออะไรไม่ดี จะชอบพูด ว่า  ''ไม่ดี กลิ่นไม่ดี  ไม่ชอบ นิสัยไม่ดี'' และที่ชอบพูดมากที่สุดคือ คำว่า ''หมั่นไส้ ''   อย่างเมื่อปีที่เราจะไปดูหนังที่ MBK ก็ขึ้นรถไฟฟ้าไป คนเยอะมากๆ ต้องยืนเบียดกัน แล้วอยู่ดีๆ แฟนเราก็พูดกับเราว่า ''กลิ่นไม่ดี''  โอ้ววว  เท่านั้นแหละ คนหันมามองกันพรึ่บเลยค่ะ  อาย แล้วก็ขำมากๆ ส่วนเรื่องไหว้ เราทำตลอดค่ะ มาอยู่ที่นี่ก็ไม่เคยลืม มีครั้งนึง เราอยู่ที่ทำงาน แล้วมีพี่คนไทยแวะมาหา เราก็ไหว้ พอเพื่อนฝรั่งที่ร้านเราเห็น เค้าก็ถามว่า เป็นการทักทายของคนไทยใช่มั้ย เราก็บอกเค้าว่า ใช่เราไหว้ คนที่มีอายุมากกว่าเรา เพื่อเป็นการทักทายและแสดงความนับถือ เพื่อนๆเค้าประทับใจมากค่ะ แถมยังแซวว่า ''ฉันก็อายุมากกว่าเธอ ต่อไปนี้เวลาเธอเจอฉัน เธอต้องไหว้ทักทายฉันนะ'' ^0^ จากคุณ : pinkypiggie เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 53 17:46:02

ความคิดเห็นที่ 111 เพิ่มเติมค่ะ สำหรับคนกลับมาเมืองไทย  เดินไปห้างไหนก็จะได้ยินเพลงเกาหลีทั่วเมือง จนคุณอาจงงได้ว่า มาผิดประเทศหรือเปล่าเนี่ย  และอีกอย่างคือ คุณจะได้ดูรายการถ่ายทอดสดหมีแพนด้าน้อยตลอด 24 ชั่วโมงด้วย   แต่ที่ดีคือ คุณจะไม่ต้องอยู่แต่ในบ้าน เวลาหิมะตกหนัก จนหิมะท่วมถนน เหมือนที่อเมริกาหรือยุโรป  และตอนกลางคืนคุณสามารถออกมาทานข้าวต้มโต้รุ่ง หรือบะหมี่สดอร่อยๆ ตอนตี 2 ได้เมื่อหิวกลางดึก  ตลาดโต้รุ่งก็มีให้เดิน  ไม่น่าเบื่อเหมือนตอนอยู่เมืองนอกด้วยค่ะ จากคุณ : natty_na เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 53 18:40:05

ความคิดเห็นที่ 112   เราว่าก็ตลกดีนะ อย่าไปซีเรียสสิ จากคุณ : darinfc เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 53 20:58:21

ความคิดเห็นที่ 113 เวลากลับมาซื้อของที่เมืองไทย ไม่ว่าที่ซุปเปอร์ หรือตลาดนัด มักจะบอกคนขายว่าไม่ต้องเอาถุงค่ะ ถ้าไม่เตรียมถุงผ้าไปใส่ ก็จะพยายามยัดของให้ใช้ถุงน้อยสุด เพราะคนไทยชอบใช้และให้ถุงเปลืองอ่ะ สงสารธรรมชาติ จากคุณ : olive des olive (olive des olive) เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 53 21:16:48

ความคิดเห็นที่ 114 ฮาดีคะ จากคุณ : fiony เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 53 21:23:19

ความคิดเห็นที่ 115 ชอบค่ะ เห็นภาพเลย จากคุณ : calan เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 53 22:11:30

ความคิดเห็นที่ 116 ขำๆ จนถึงขำมาก ขอบคุณทุกๆ ความเห็นที่มาแชร์กัน และเห็นด้วยเป็นส่วนใหญ่ค่ะ แต่ถึงอย่างไรเมืองไทยก็ยังเป็นที่ๆ น่าอยู่ที่สุดสำหรับเรา ตอนกลับมาใหม่ๆ ได้ยินคนรอบๆ ข้างพูดภาษาไทยแล้ว รู้สึกตื้นตันใจมากและว่าภาษาไทยเป็นภาษาที่เพราะที่สุดในโลกเลย (แหะ..แหะ.. เพราะภาษาอังกฤษเราไม่แข็งแรงเอง) แต่เราก็แสดงความเคารพพ่อแม่สามีด้วยการไหว้งามๆ นะ หลังจากกอดแล้ว ตอนแรกเขาก็งงๆ แต่ตอนหลังรับไหว้ด้วยแฮะ อบอุ่นไปอีกแบบ จากคุณ : Sweet Wilow (Sweet Willow) เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 53 22:59:06

ความคิดเห็นที่ 117 เสริมอีกอย่างนะคะ  ตอนเรากลับมาใหม่ ๆ ตกใจกับกางเกงของสาว ๆ สมัยนี้ค่ะ  ตอนก่อนเราไปการใส่สั้นขนาดนี้ยังไม่เป็นที่ยอมรับค่ะ  แต่ตอนนี้เทรนด์เปลี่ยนไปมากแล้ว  สาว ๆ ก็ขาสวยขึ้น (มั้ง) ประโยคฮิตในหนังไทยที่ว่า "ชาตินี้นายก็ไม่มีวันได้เห็นขาอ่อนฉันหรอ" มันก็เป็นประโยคที่นักเขียนบทภาพยนตร์จะไม่น้ำไปใช้อีกแล้วค่ะ จากคุณ : Irishcream เขียนเมื่อ : 16 ม.ค. 53 01:40:30

ความคิดเห็นที่ 118 เห็นด้วยเรื่องแต่งสั้น สั้นมาก บางทีว่าฝรั่งใส่กันสั้นแล้ว เพื่อนเราที่มาเที่ยวเมืองไทยยังบอกว่าทำไมผู้หญิงไทยใส่กระโปรง กางเกงสั้นมากกก... จากคุณ : junnn เขียนเมื่อ : 16 ม.ค. 53 02:34:20