|
ประสบการณ์การขอวีซ๋า U.S. ณ วันที่ ๑๑ มกราคม ๑๔๔๓
|
|
เพิ่งไปขอวีซ่า U.S. มาเมื่อวานครับ
เลยจะมาถ่ายทอดประสบการณ์ให้เพื่อนๆคุณๆที่ยังไม่เคยขอวีซ่า U.S.ได้อ่านกัน
(เนื้อหาจะอิงความเห็นส่วนตัวของผมเป็นหลักนะครับ)
ผมว่าการขอวีซ่า U.S. มีความแตกต่างจากวีซ๋าประเทศอื่น (ที่ผมเคยขอ) มาคือ
เค้าให้ความสำคัญกับ "ความน่าเชื่อถือระหว่างสัมภาษณ์" > "ความครบถ้วนของเอกสาร" ครับ
ดังนั้น .. สิ่งสำคัญที่สุดในความเห็นผมสำหรับการวีซ่า U.S. ก็คือ "ความมั่นใจ" ครับ
ซึ่งความมั่นใจจะเกิดได้ก็ต่อเมื่อ ..
๑. ความมั่นใจจากที่คุณได้ดำเนินการกรอกข้อมูลการขอวีซ๋า "ด้วยตนเอง" ! ครับ (หมายถึงเอกสาร DS 156/157/158)
เพราะคุณจะได้รู้เลยว่า "เค้าต้องการข้อมูลอะไร?" เมื่อเราค่อยๆหาข้อมูลไปกรอกลงทีละช่องๆ .. คุณก็สามารถเห็นภาพคร่าวๆได้ครับว่า "ข้อมูลที่เค้าต้องการจากคุณเป็นอย่างไร?"
การให้คนอื่นกรอกใช่ครับมันง่ายกว่า แต่คุณจำเป็นที่จะต้องรู้อย่างดีเลยว่าเค้ากรอกว่าอะไร? ซึ่งหากมีการถามขึ้นมาคุณจะได้ไม่ทำหน้า "งง" หรือ "หยุดคิด" .. การไม่สามารถตอบเจ้าหน้าที่ได้โดยทันที .. ด้วยน้ำเสียงที่ "มั่นใจ" มีผลอย่างมากสำหรับความน่าเชื่อถือของคุณ ณ ขณะสัมภาษณ์นะครับ
๒. ความมั่นใจจากที่เอกสารหลักฐานของคุณแน่นหนา หมายถึงคุณสามารถ "มั่นใจ" ได้ว่าไม่ว่าเค้าจะขอดูเอกสารอะไร? คุณก็สามารถ "มีให้เค้าดู" (ตัวจริงเท่านั้นนะครับ)
เอกสารที่เค้าให้ความสำคัญเป็นอันดับ ๑ ก็คือ
๒.๑ จดหมายรับรองการทำงาน และ จดหมายรับรองการลาของคุณนะครับ (แนะนำให้รวมอยู่ในฉบับเดียวกันครับ) เอกสารฉบับนี้จะเป็นเอกสาร "ภาคบังคับ" เพียงฉบับเดียวที่เค้าจะแยกมาแนบกับแบบฟอร์ม DS ซึ่งจะส่งมอบไปให้กับเจ้าหน้าที่สัมภาษณ์ (ส่วนเอกสารอื่นๆหากเค้าขอดูจะให้เพิ่มเติมในภายหลัง)
เนื้อหาที่สำคัญมากๆสำหรับจดหมายรับรองการทำงานก็คือ "อายุงาน" "ต่ำแหน่ง" และ "เงินเดือน" ของคุณครับ
ซึ่งเงินเดือนจะต้อง "สอดคล้อง" กับ Statement ของธนาคารนะครับกรณีเงินเดือนโอนเข้าบัญชีโดยตรงไม่เป็นไรครับ แต่ถ้าเป็นกรณีรับเงินสดละก็ .. ให้ดูว่ามีการนำเงินเข้าบัญชีได้สอดคล้องกับ Statement ของธนาคารหรือเปล่า? (สามารถนำหนังสือรับรองหัก ณ ที่จ่ายไปแสดงยืนยันได้อีกทางครับ)
๒.๒ ใบเสร็จชำระค่าธรรมเนียมขอวีซ่า (๔,๔๕๔ บาท)สามารถซื้อได้ที่ไปรษณีย์ครับ ซึ่งปกติบริการทางการเงินจะปิดเสาร์-อาทิตย์ แต่มีบางที่ครับที่เป็นทุกวัน ๑๐-๒๑ นาฬิกา เช่นหัวหมาก เป็นต้น
๒.๓ จดหมายรับรองสถานะทางการเงิน และ Bank Statement ย้อนหลัง 6 เดือนของคุณ สำหรับจดหมายรับรองสถานะทางการเงินนั้น ธนาคารผู้เป็นเจ้าของบัญชีสามารถออกให้คุณได้เองครับ (ใช้เวลาแค่ ๑ วันทำการเสียค่าธรรมเนียม ๑๐๐ บาท) แต่ Bank Statement ย้อนหลังนั้นจะต้องให้ธนาคารสำนักงานใหญ่เป็นผู้ออกซึ่งจะทำให้เสียเวลานานกว่าคือประมาณ ๒-๓ วันทำการและสียค่าธรรมเนียม ๒๐๐ บาท)
จากคุณ |
:
Top27
|
เขียนเมื่อ |
:
12 ม.ค. 53 11:41:05
|
|
|
| |