ประสบการณ์ลั๊ลล๊า ไปเป็นกระเหรี่ยงที่อเมริกา อยากรู้ว่าทำไมทุกคนต้องควรไป ต้องอ่าน!! ตอน 2
|
|
ตอนที่ 2 อเมริกาแล้วไงต่อ ?
“Welcome to America” ในที่สุดการเดินทางที่แสนยาวนานก็สิ้นสุดลงสักที . . . ซะเมื่อไร !! อันตัวข้าพเจ้านั้นยังต้องต่อสายการบินยภายในเพื่อไปยังเมืองที่ข้าพเจ้าจะไปขายแรงงาน แต่สนามบิน LAX เป็นเสมือนด่านแรกในการเข้าสู่อเมริกาของข้าพเจ้า ต้องผ่านด่านตม. ที่ร่ำลือกันว่าโหดมาก ๆ คณะทัวส์ลูกเป็ดเรียงแถวทยอยลงเครื่อง แล้วพุ่งเข้าตามช่องตม. ที่มีหลากหลาย ต่อแถวด้วยใจตื่นเต้น พลางนึกว่า “กุมาถึงขนาดนี้แล้วไม่ผ่านตม. คงเป็นอะไรที่แย่ๆมาก “ ว่าแล้วก็สวดมนต์ร่ายคาถาทั้งหมดทั้งมวลที่นึกได้ พลันก็ก็ถึงคิวยื่นพาสปอร์ต / ใบ I-94 / Customer Declaration ก้มหน้าก้มตา คีย์ข้อมูล แล้วปั๊มๆ ยื่นกลับ เสร็จแร่ะ !!! รับคืนมาด้วยความเบลอๆ แล้วก็ไปรับกระเป๋าเดินทาง ว่ามาถึงปลอดภัย สภาพ ยับเยิน ถูกปู้ยี้ปูยำไปถึงไหนแล้ว กระเป๋าหลากหลายวิ่งผ่านสายพาน ยังก่ะ ซูชิ เจอกระเป๋าแล้วก็ลากไปถึงด่านศุลกากร ลากไปก็ลุ้นไปกลัวโดนสุ่มคน แบบว่าคนพวกมาม่า ของที่มีส่วนผสมของหมูปนมาเพียบ แต่ก็รอดไปแบบชิลๆ แล้วก็ออกไปต่อเครื่องภายในประเทศ ก็เกิดเหตุการณ์จากความฉลาดน้อยของข้าพเจ้า คือ จริงๆแล้วมันมีช่องเดิน 2 ช่อง 1. ออกไปข้างนอกสนามบินเลย 2. เอากระเป๋าไปใส่สายพานต่อ สำหรับ Connecting Fight ด้วยความไม่รู้และไม่มองป้าย เข้าช่อง 1 เลยค้าบ เลยต้องลากกระเป๋าอันหนักอึ้งไปอีกอาคาร สายการบินภายในเอง ในขณะที่คนอื่นๆฉลาดพอที่จะไปช่อง 2 ก่อน แล้วเดินออกมาตัวเปล่า อากาศข้างนอกก็โคตรหนาว แต่แบบแอบดีใจ อเมริกาหนาวมาก รู้สึกแบบว่า เออ นี้แร่ะอเมริกา 55 แล้วทัวส์ลูกเป็ดก็ถึงเวลาแยกย้ายกันไป ตามสายการบินภายในที่จะนำเราไปยังปลายทางที่ต่างกัน ร่ำลาถ่ายรูปเสร็จ ก็ไปเข้ากระบวนการการบินภายในต่อ Check in แล้วไปสแกนตัวอีกรอบ ประเทศนี้สแกนความปลอดภัยเยอะมาก คงเพราะจากเหตุการณ์วินาศภัยที่เคยเกิดขึ้นนั้นเอง ยังสร้างรอยแผลและความหวาดกลัวให้กับคนอเมริกาอยู่ แต่ไม่ใช่แค่อเมริกาแต่กระจายไปถึงทั่วโลกที่เข้มงวดกันมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการแสกนอย่างเข้มงวล การกำหนดน้ำหนักของเหลว ทั้งหมดทั้งมวลก็เพื่อความปลอดภัยนั้นเอง ระหว่างรอเครื่องขึ้นก็เดินเล่นไปทัวส์สนามบินเจอร้านค้า ร้านอาหารมากมายก็ตื่นเต้นตามประสา ยังไม่กล้าซื้อของกินอะไรมาก พอเดินเข้าไปดูราคาแล้วคำนวนเป็นเงินไทยก็แทบกินไม่ลงสักอย่าง ขอเก็บเงินไว้จนกว่าจะทำงานได้เงินดีกว่า รู้ไม่ว่าขนาดน้ำเปล่า ราคา 2.89 Dollar ( ใช้เรต 36 ณ ตอนนั้น ) = 104.04 บาท!! น้ำขวดขนาดปกคิราคาประมาณ 7-8 บาทบ้านเรา แค่น้ำเปล่านะเนี้ย รู้สึกเห็นค่าของน้ำเปล่าที่เมืองไทยทันที ตอนมาไปแลกเงินที่ Super rich กับที่สนามบินอีกนิดหน่อย ที่นี้เวลาจะซื้ออะไรก็จะจดทุกอย่าง ทำบัญชี เพื่อให้สามารถบริหารเงินให้พอจนกว่าจะได้ Check งวดแรก นี้เป็นสิ่งแรกๆที่เราจะได้หัดทำอะไรด้วยตนเอง สำหรับเด็กเวิกหลายๆคน ระหว่างรอเครื่องบินก็หาทางโทรศัพท์กลับไปบอกที่บ้านว่ามาถึงแล้วอย่างปลอดภัย ท่านจะได้ไม่ต้องเป็นห่วง เดินไปถึงตู้ ยกบัตรโทรศัพท์โทรกลับไทยที่ซื้อมามาดูวิธีการใช้ ยอดเหรียญ 25 Cent ( Quarter ) ไป 1 เหรียญกดเบอร์ . . .. . ไม่ ติด มันพูดอะไรกลับมาไม่รู้ ตอนนั้นไม่ได้ตั้งสติ ฟังไม่ทัน เหลือบไปมองตรงที่หยอดเหรีญ เขียน 50 Cent อ่อ ต้องสองเหรียญ แล้วกดเบอร์ตามที่จดมา และ.................... ก็ยังไม่สำเร็จ จนถึงเวลาเครื่องออก จึงวิ่งไปขึ้นเครื่องขึ้นมาบนเครื่องเป็นเครื่องบินลำเล็กๆ ขนาดประมาณแอร์เอเซีย / นกแอร์ ห้องน้ำกระทัดรัดขนาดเท่าตู้โทรศัพท์ นั่งติดริมหน้าต่าง ผังเมือง LA ตอนมองลงมาจากเครื่องบินสวยมาก เต็มไปด้วยแสงไฟและเป็นระเบียบมากๆ อยากให้กรุงเทพเรามีผังเมืองดีๆแบบนี้บ้างจัง บนเครื่องไม่มีจอส่วนตัวให้กดเล่นมีเพียงช่องวิทยุให้ฟัง 12 ช่อง หูฟังขายอันละ 2 Dollar น้ำแจกฟรี 1 แก้ว เสียงประกาศบนเครื่องไม่ค่อยประกาศเรื่องความปลอดภัย แต่ประกาศประมาณว่า มีของขายนี้ๆๆ สามารถซื้อได้ที่รถเข็นที่พนักงานจะนำมาบริการ ตอนนี้ที่อเมริกาเป็นตอนกลางคืนค่ำๆนั่งเครื่องบินมา 3 ต่อ ทำให้รู้ถึงความแตกต่างของเวลา เพราะอเมริกาเป็นประเทศที่ใหญ่มาก จึงทำให้มีความแตกต่างของเวลาถึง 5 time zone บางครั้งก็รู้สึกทำให้ปรับตัวยาก โดยเฉพาะเวลานอน หาจุดลงตัวยังไมได้เลย ตอนนี้บนเครื่องคนอื่นก็นอนกันหมดแล้ว แต่แบบว่าเรานอนตอน ไทย-ไตหวัน-แอลเอ มาแล้วเลยไม่รู้สึกง่วง ต้องค่อยๆปรับพฤติกรรมการนอน และบริหารเวลา นั่งมองท้องฟ้า ดาวเต็มไปหมดเลย ยิ่งบินสูงก็ยิ่งเห็นดาวมากขึ้น สวยมาก ดูแล้วนึกถึงเพลง “มีแต่คิดถึง” เหม่อมองไกล ไปถึงดาว ที่เคยจองเป็นดาวของเรา ก็ยังคงอยู่ที่เดิมให้พบเจอ อยู่ตรงนี้มองเห็นดาว และดวงดาวคงมองเห็นเธอ อย่างน้อยเราอยู่ใต้ดาวดวงเก่าเดียวกัน
*หวังว่าเธอคงสุขดี อยู่ตรงนั้นเจอสิ่งดีดี ฉันคงมีเพียงสิ่งเดียวทุกวัน มีแต่คิดถึง มีแต่คิดถึง อยู่ทุกครั้งที่มองดาว มีแต่คิดถึง มีแต่คิดถึง เรื่องวันวานและฝันของเรา มีแต่คิดถึง มีแต่คิดถึง และบ่อยครั้งก็ทำให้เหงา คิดถึงเธอ....คิดถึงเธอ (*) เฝ้าแต่คิดถึง ได้แต่คิดถึง สิ่งที่สองเราเคยมี เฝ้าแต่คิดถึง ได้แต่คิดถึง นึกทีไรก็ยิ้มทุกที มีแต่คิดถึง มีแต่คิดถึง อยากให้เธอได้อยู่ตรงนี้ คิดถึงเธอ....คิดถึงเธอ คิดถึงเธอ....คิดถึงเธอ
เมื่อก่อนเป็นหมามองเครื่องบิน แต่วันนี้เป็นเครื่องบินบ้างแล้ว พอมองลงไปอะไรๆก็ดูเล็กไปหมด มันคงเป็นเหมือนกับเวลาเราเจอปัญหา ถ้าเรามองแบบหมา ปัญหานั้นคงดูใหญ่แสนสาหัส ยากจะแก้ไข แต่หากเราลองมองแบบเครื่องบิน มองอะไรก็ดูเล็กไปหมด คิดซะว่าเป็นแค่เรื่องเล็กๆ เราก็จะผ่านมันไปได้แน่นอน ถึง ไมอามี่ เกือบตก เครื่องต่อไป เพราะลืมปรับนาฬิกา ดู Time zone ผิด ( ที่แอลเอ คนละtime zone กับไมอามี่) เพื่อนๆที่จะไปต้องดูเรื่องเวลากันดีๆนะ เคยเกิดขึ้นหลายคนแล้วกับเหตุการณ์แบบนี้ ในที่สุดก็ถึง Orlando ลองกดตู้โทรศัพท์อีกครั้ง โทรหาพี่วิท Taxi คนไทยที่อยู่ที่นี้ ให้มารับ เจอคนของเอเจนซี่ฝั่งอเมริกา มารับเชคชื่อ พูดคุยกันเล็กน้อย รถ Taxi ของพี่วิทหรูมาก เป็นรถลีมูซีน แตกต่างกับที่คิดไว้มาก ตอนแรกคิดว่าคงเหมือน Taxi ที่ไทย ไม่ก็แบบ Taxi New York คันเหลือง ห้องพักดูดีมากๆ มีเครื่องล้างจาน ไมโครเวฟ ชุดเตาแก๊ส เตาอบ ทีวี เครื่องซักอาบและอบผ้า 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ห้องรับแขก 1ห้องครัว ข้างล่างก็เป็นสระว่ายน้ำ ข้างหน้าสำนักงานก็เป็นฟิตเนส ตื่นเต้นกับบ้านสักพักก็ไล่ดูทีวี แล้วพร่อยหลับไปเพราะความเหนื่อย พอตื่นมาก็ไล่เดินไป 7-11 ( มีทั่วโลกจริงๆ ตามมาหลอนถึง อเมริกา -__-“) ของใน 7-11 ไม่ค่อยถูกเท่าไรเลย จึงตัดสินใจกันขึ้นรถ Trolley ไป Publix ( คือซุปเปอร์มาเก็ตขนาดกลางๆ) ค่ารถ 0.25 ดูของใน Publix ไปก็คูณเป็นเงินไทยไปด้วย ดูว่าอันไหน คุ้มไม่คุ้ม มีหลายอย่างที่ไม่เคยเห็น แต่ที่ภูมิใจคือ Red Bull กระทิงแดงของไทยเรา ที่มีวางขายและโด่งดัง ดูเป็นของมีระดับมากๆ ปลื้มใจ แล้ว ข้ามถนนไป Premium Outlet เป็นศูนย์รวมสินค้าแบรนเนมทั้งหลาย ที่ลดกระหนำราคา
Wall Mart เป็นอะไรที่เด็กเวิกทุกคนต้องรู้จัก มันคือ ซุปเปอร์สโตร์ ที่ใหญ่และมีสาขามากมายทั่วอเมริกา ที่สำคัญของ ถูก !!! เด็ก เวิกอย่างเราๆจึงต้องพึ่งพาห้างนี้ประดุจดัง ปัจจัยที่ 5 ในชีวิต มีทุกอย่างให้คุณเลือกสรร อีกอย่างที่ดีสำหรับอเมริกาที่เราควรรู้คือ
Tip ของทุกอย่างตามร้านค้าในอเมริกาซี้อแล้วสามารถคืนได้ แต่ของแต่ละอย่างมีเงื่อนไขเวลาการคืนต่างกัน สินค้าปกติส่วนใหญ่จะคืนได้ภายใน 90 วันนับจากซื้อ และเราต้องเก็บใบเสร็จตอนซื้อไว้ให้ดี ถ้าไม่มีก็อดคืน น้าค้าบ
จากคุณ |
:
Monkiezz
|
เขียนเมื่อ |
:
15 ม.ค. 53 23:27:03
|
|
|
|