ความคิดเห็นที่ 1 พินัยกรรม ครับคือคำตอบ แต่มันเป็นเรื่องของน้องสาวคุณนะครับ จากคุณ : ต้อย (half-and-half) เขียนเมื่อ : 28 ม.ค. 53 19:02:57

ความคิดเห็นที่ 2   ควรทำพินัยกรรม โดย ทนาย ควรปรึกษาทนายในรัฐนั้นๆ ผู้รับอยู่เมืองไทยยิ่งยากขึ้นไปอีก ขนาดผู้รับอยู่อเมริกา ถ้าไม่ทำพินัยกรรมไว้ชัดเจน บ้านหนึ่งหลังอาจจะต้องเสียไปเกือบหมดเพื่อที่จะโอนเป็นของผู้รับได้ เฉพาะเวอร์จิเนียนะ ที่อื่นก็อาจจะไม่ต่างกันมาก จากคุณ : อิสวาสุ เขียนเมื่อ : 28 ม.ค. 53 19:30:47 A:71.114.81.145 X: TicketID:146114

ความคิดเห็นที่ 3 ยืนยันอีกครั้งค่ะว่า ทำพินัยกรรม ระบุคนที่เป็นผู้จัดการมรดกด้วยค่ะ ซึ่งส่วนมากจะเป็นคนในท้ิองถิ่นเพื่อความสะดวกในการ ให้ความช่วยเหลือเรื่องศพ   เรื่องติดต่อกับทนายความเพื่อจัดการเรื่องภาษีมรดก และเรื่องเอกสารอื่น ๆ ตามขบวนการกฎหมาย แต่ไม่ว่าจะระบุอะไรอย่างไร   เรื่องทรัพย์สิน(มรดก)เป็นเรื่องส่วนบุคคลนะคะ จากคุณ : บีพี เขียนเมื่อ : 28 ม.ค. 53 21:46:25

ความคิดเห็นที่ 4 เอ้อ  ขออธิบายนิดนึงค่ะ คือเราเพิ่งจะกลับจาก อเมริกา  และน้องสาวได้มาปรึกษาเรื่องนี้กับเรา ว่าจะทำอย่างไร  หากมีอะไรเกิดขึ้นกับเค้าค่ะ เค้าบอกว่าถ้า  ไม่มีทายาท ทรัพย์จะตกเป็นของรัฐทั้งหมด เราก็เพิ่งจะทราบ  และคิดว่าควรจะปรึกษาทนายความค่ะ แต่ในเบื้องต้น  เราก็อยากจะทราบแนวทางคร่าวๆ ค่ะ เพื่อที่จะพอมองเห็น  ว่าจะไปทางไหน  และจะทำอย่างไรดี คือทั้งเราและน้องสาว  ก็กำลังช่วยกันหาทางออกค่ะ แต่น้องสาวเราเค้า   ไม่ค่อยสันทัดในการคุยและติดต่อ  บุคคลที่เค้าไม่มักคุ้น  เลยขอให้เราช่วยค่ะ เรื่องบุตรบุญธรรม  ก็เพื่อที่จะได้ลดหย่อนภาษีด้วยค่ะ จากคุณ : elle.bkk เขียนเมื่อ : 29 ม.ค. 53 00:18:31

ความคิดเห็นที่ 5 น้องสาวคุณอยู่รัฐใด เพราะบางรัฐ ้เช่น แคลิฟอร์เนีย Living Trust จะเป็นทางออกที่ดีกว่า พินัยกรรม จากคุณ : นายคลิค เขียนเมื่อ : 29 ม.ค. 53 00:36:45

ความคิดเห็นที่ 6 ขอบคุณเพื่อนๆ ที่เข้ามาแนะนำนะคะ ตอบ คห. 5 นายคลิด น้องสาวอยู่รัฐ  California  ค่ะ Living Trust  คืออะไรคะ ?? จากคุณ : elle.bkk เขียนเมื่อ : 29 ม.ค. 53 01:07:55

ความคิดเห็นที่ 7 เรื่องบุตรบุญธรรม  หาอ่านใด้จากลิ้งค์นี้ค่ะ http://www.google.co.th/search?sourceid=navclient&aq=2&oq=%e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b8%a3%e0%b8%b1%e0%b8%9a%e0%b8%9a%e0%b8%b8%e0%b8%95%e0%b8%a3%e0%b8%9a&ie=UTF-8&rlz=1T4MOOI_enUS357US358&q=%e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b8%a3%e0%b8%b1%e0%b8%9a%e0%b8%9a%e0%b8%b8%e0%b8%95%e0%b8%a3%e0%b8%9a%e0%b8%b8%e0%b8%8d%e0%b8%98%e0%b8%a3%e0%b8%a3%e0%b8%a1%e0%b9%83%e0%b8%99%e0%b8%ad%e0%b9%80%e0%b8%a1%e0%b8%a3%e0%b8%b4%e0%b8%81%e0%b8%b2 จากคุณ : Quel เขียนเมื่อ : 29 ม.ค. 53 01:48:47

ความคิดเห็นที่ 8 อ่านเปรียบเทียบข้อดีข้อเสียระหว่าง สองอย่างจากที่นี่ก็ได้ครับ http://www.lectlaw.com/filesh/qfl05.htm จากคุณ : นายคลิค เขียนเมื่อ : 29 ม.ค. 53 02:17:00

ความคิดเห็นที่ 9 อยากตอบ เรื่องบุตรบุญธรรม จะโดนต่อว่าหรือเปล่าหนอ ว่าเอาเรื่องคนอื่นมาเล่า ไม่สมควรทำ อันนี้เป็นลูกของป้าดิฉันเอง มาอยู่เมกาจนใด้ซิติเซ่น ปีที่เเล้วบินกลับไปเมืองไทยเพื่อต้องการรับหลานมาเป็นบุตรบุญธรรม เเต่ไม่สามารกระทำการใด้ ไม่เข้าหลักเกณฑ์ตามที่เขากำหนดคือ การที่จะรับเด็กมาเป็นบุตรบุญธรรม มีหลักเกณฑ์คือ -เป็นเด็กกำพร้า ไม่มีพ่อเเม่ หรือ มีเเต่พ่อหรือเเม่ฝ่่ายใดฝ่ายหนึ่ง -พ่อเเม่ พ่อหรือเเม่ จน ไม่สามารถเลี้ยงลูกใด้ ซึ่งต้องทำการรวบรวมหลักรวมหลักฐาน ไปที่อำเภอ คัดสำเนา ของพ่อเเม่เด็ก สัมภาษณ์ เเละต้องเเสดงทำเบียนบ้าน เเละใบสำคัญต่างๆ บัญชีเงินฝากของพ่อเเม่เด็ก ฯใบ เเสดงหลักฐานการทำงาน ให้เจ้าหน้าที่บันทึกใว้เป็นหล้กฐาน ปรากฏว่าหลานคนนี้มีทั้งพ่อเเละเเม่ที่อาชีพมั่นคงทั้งคู่ เลยไม่ใด้ ผู้ที่จะรับบุตรบุญธรรมต้องทำการตรวจสุขภาพเบื้องต้น+เจาะเลือด ที่โรงบาลเมืองไทยดวยค่ะ หลักฐานการส่งเงินมาเป็นค่าเลี้ยงดูเด็กในเมืองไทยอย่างน้อย 6 เดือน หากต้องการจะรับเด็กมาเป็นบุตรบุญธรรมโดยไม่เจาะจง นอกจากจะใด้ลดหย่อนภาษีเเล้วยังใด้รับความช่วยเหลือเรื่องอื่นๆจากรัฐอีกด้วยซึ่งจะไม่ขอกล่าวถึงในที่นี้ ที่ทราบเพราะเคยทำงานเกี่ยวกับเด็ก เเละที่ทำงานมีผู้ปกครองที่เป็น foster อยู่ ซึ่งเราต้องเป็นคนทำรายงานเองด้วย ส่วนเรื่องทนายคนไทย  ตอบให้ทางหลังไมล์ เช็คด้วยนะคะ แก้ไขเมื่อ 29 ม.ค. 53 02:38:11 จากคุณ : Quel เขียนเมื่อ : 29 ม.ค. 53 02:19:53

ความคิดเห็นที่ 10   ในCAทรัพย์สินตกเปนของรัฐ ถ้าไม่มีพินัยกรรมหรือ LIVING TRUST แต่ถ้าทําไว้ใครจะเปนผู้จัดการถ้าใส่ชื่อคนในเมืองไทยถึงเวลาขอVISAไม่ผ่านจะทําอย่างไร ถ้าเปนคนในเมกาเชื่อใจได้แคไหน อย่าลืมเงินทองของบาดใจ จขกท คิดดีๆ จากคุณ : siririck เขียนเมื่อ : 29 ม.ค. 53 04:40:18 A:99.2.215.44 X: TicketID:249982

ความคิดเห็นที่ 11 ไอ้เรื่องนี้ยังมีอีกข้อหนึ่งครับน้องคุณถือสัญชาติไทยหรืออเมริกัน เพราะถ้าถือสัญชาติไทยมันก็ต่างกันนะครับ แต่ไอ้เรื่องรับหลานเป็นบุตรบุญธรรมเลิกคิดได้เลยครับเพราะ ถ้าทำได้คงมีคนทำกันเป็นว่าเล่นนะ จากคุณ : ต้อย (half-and-half) เขียนเมื่อ : 29 ม.ค. 53 06:31:32

ความคิดเห็นที่ 12 ขอบคุณ ทุกๆ คห. ที่แนะนำมาค่ะ ยังอยากทราบ  ความคิดเห็นเพิ่มเติมค่ะ ดูๆ แล้วมันยังตันๆ  ค่ะ ยังคิดไม่ออก จากคุณ : elle.bkk เขียนเมื่อ : 29 ม.ค. 53 09:07:09

ความคิดเห็นที่ 13 บ้านที่ซื้อไว้ ผ่อนหมดหรือยังค่ะ หากยังผ่อนรายเดือนอยู่ สมมติซื้อบ้านมาสองแสนเหรียญ ผ่อนไปแล้วหนึ่งแสนเหรียญ ยังติดแบงค์อยู่หนึ่งแสนเหรียญ แล้วเจ้าของบ้านเสียชีวิต บ้านจะถูกแบงค์นำไปขายทอดตลาด หากขายได้สามแสน แบงค์จะหักไปแสนเหรียญบวกค่าธรรมเนียมต่างๆ ที่เหลือจะตกเป็นของรัฐบาล และรัฐจะยึดไว้ก่อน หกเดิอน เพื่อให้เวลา แก่ทายาท ที่มีชื่ออยู่ในพินัยกรรม มายื่นเรื่องขอรับเงินจำนวนนี้ และต้องเสียภาษีรายได้ให้กับรัฐด้วยนะคะ ไม่ได้รับฟรีๆ หากไม่มีใครมายื่นขอ หลังจากหกเดือน รัฐก็ยึดไป ทำพินัยกรรม ควรปรึกษาทนาย เพราะการทำให้ถูกต้องตามกฎหมาย ต้องมีพยานนะคะ จึงมีผลบังคับใช้ จะเขียนยกให้ ใครก็ได้ค่ะ คนข้างบ้านก็ได้ คนที่เมืองไทยก็ได้ แต่ต้องมาเคลมเรื่องเงินด้วยตัวเองที่เมกานะคะ ชื่อในพินัยกรรมต้อง สะกดให้ตรงกับพาสปอรต์ แต่หากว่าราคาบ้านตก เวลาขายได้ราคาน้อยกว่าเงินที่ติดแบงค์ ระวังทายาทต้องมารับใช้หนี้แทนที่จะได้เงินนะคะ อิ อิ จากคุณ : McMullence เขียนเมื่อ : 29 ม.ค. 53 14:43:16

ความคิดเห็นที่ 14   ที่ ความคิดเห็นที่ 11 บอกนั้น จขกทควรทราบไว้ด้วยอย่างยิ่งเพราะอัตราการเสียภาษีของโรบินฮูด หรือต่างชาติที่ไม่มีใบเขียวจะต่างกันมาก ( ดูเหมือนจะ 30%) เขาจะบังคับให้ทนายเก็บเงินนี้ตอนเซทเทิลเม็นท์ อยากรู้เพิ่มเติมให้ดูที่ FIRPTA นี่หมายถึงทำพินัยกรรมไว้แล้วนะ ถ้าไม่ทำแทบจะไม่เหลือเอาจริงๆ พวกทนายและรัฐเอาไปกินเกือบหมด จากคุณ : อิสวาสุ เขียนเมื่อ : 29 ม.ค. 53 17:45:26 A:71.114.81.145 X: TicketID:146114

ความคิดเห็นที่ 15 ขอขอบคุณ อีกครั้งสำหรับทุกๆ คำแนะนำ ตอบ คห. ที่ 11 และ 14 นะคะ น้องสาวสัญฃาติ อเมริกัน  ค่ะ ที่เค้าเรียกกันว่า Citizen ตอนนี้ก็อ่าน และรับฟังความคิดเห็น  ของทุกๆ ท่านค่ะ ดูเหมือน การทำ พินัยกรรม หรือ Living Trust  น่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด เท่าที่คิดได้ เวลานี้ ตัวดิฉันเอง  มี Visa แบบ 10 ปี และคุณ พ่อ และ คุณแม่ ของเราก็มี Visa แบบ 10 ปี เหมือนกัน ค่ะ  ดิฉันเดินทางไปเยี่ยม ทุก 2-3 ปี ค่ะ แต่ก็ไม่ได้สันทัดอะไรมาก เพราะแค่ไปเที่ยว และ เยี่ยม   ไม่ได้ไปทำงาน หรืออยู่ ระยะยาวๆ สักทีค่ะ จากคุณ : elle.bkk เขียนเมื่อ : 29 ม.ค. 53 18:07:24

ความคิดเห็นที่ 16 บอกไว้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจสำหรับ จขกท. ผมเองอยู่ CA และทำ Living Trust ครับ แก้ไขเมื่อ 30 ม.ค. 53 01:43:11 จากคุณ : นายคลิค เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 53 01:42:43

ความคิดเห็นที่ 17 ขอบคุณ คห. 9  คุณ Quel มากค่ะ เรื่องบุตรบุญธรรม  น่าจะยุ่งยาก และมีโอกาสน้อย เพราะเด็ก อายุ 19 ปี และ 18 ปี แล้ว.....ขอบคุณที่แนะนำทนายความให้....รับไว้พิจารณาค่ะ คห. 10 คุณ siririck  ติงมาดีค่ะ....น่าจะเป็นคนใดคนหนึ่งในครอบครัว เรานี่แหละค่ะ ที่จะเป็นผู้จัดการมรดก คห. 13 คุณ McMullence บอกมาน่าคิด ค่ะ ชอบคุณมากค่ะ คห. 16 นายคลิค  ดิฉันติดต่อทางหลังไมค์ ไม่ได้ เพราะคุณอนุญาต เฉพาะผู้ที่อยู่ใน my flock เท่านั้นค่ะ  อยากทราบรายละเอียดการทำ Living Trust ค่ะ...คุณอาจส่งข้อความและเบอร์โทร มาให้ดิฉันจะติดต่อกลับค่ะ จากคุณ : elle.bkk เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 53 03:51:18