ความคิดเห็นที่ 1 พอมีทางมั้ย มันก็พอมี แต่ว่ายากอะค่ะ ความคิดเห็นส่วนตัว ถ้าจะเรียนก็คือเรียน เอาเรื่องเรียนให้แข็งแรงอยู่ตัวดีก่อน ค่อยหางานเสริมทำก็พอไหว ภาษามันก็จะค่อยๆพัฒนาไปกับตอนที่เรียนเลย แต่ถ้าตั้งต้นเริ่มจะเอาทั้งสามอย่างเลยเนี่ย ยากค่ะ ยิ่งถ้าเป็นระยะสั้น จะเอาให้ครบหมดเลยคงไม่ไหว อีกอย่างถ้าภาษาไม่ดี ก็คงหางานยาก ถ้าไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหน ให้หาเป้าหมายก่อน ว่าอยากได้อะไรมากที่สุด อยากได้ภาษาหรือปริญญา หรืออยากทำงาน แล้วจะเรียนไปทำอะไร เรียนด้านไหน แล้วค่อยหามหาวิทยาลัย หาประเทศทีหลังค่ะ จากคุณ : LittleCancer เขียนเมื่อ : 4 ก.พ. 53 20:41:48

ความคิดเห็นที่ 2   จะเอาหลายอย่างแบบนี้ เรียนเมืองไทยดีแล้ว จากคุณ : คิดได้แต่ทำไม่ได้หรอก เขียนเมื่อ : 4 ก.พ. 53 20:45:29 A:118.208.192.30 X: TicketID:083310

ความคิดเห็นที่ 3 อ้อออออ .. ไม่ได้ตั้งใจจะไปทำงานทันทีเลยอะค่ะ คิดไว้เหมือนคุณ LittleCancer ค่ะ ว่าต้องเริ่มต้นก่อน ส่วนตัวอยากได้ภาษาอะค่ะ เพราะรู้สึกว่ามันเป็น competency เฉพาะคนอย่างหนึ่ง แต่ก็ไม่อยากให้เสียเวลาอะค่ะ เลยคิดว่า ถ้าเรียนที่นั่นแล้วได้วุฒิโทด้วยก็ดี (แต่อีกใจก็กลัวว่า จะเรียนไม่รู้เรื่องค่ะ เพราะสกิลด้านภาษาไม่ได้เก๋กู๊ด) อยากเรียนด้าน HR หรือ MBA อะค่ะ ^^ แต่ก็ไม่รู้ว่าจะยังไงดี แหะๆ ขอบคุณนะคะ จากคุณ : !-[/Vahm/Vink ]-! เขียนเมื่อ : 4 ก.พ. 53 20:49:20

ความคิดเห็นที่ 4 เรียนอย่างเดียวดีไหมคะ ถ้าเรียนที่นั่นไม่ว่าร้านอาหารไทยแล้วทำงานร้านอาหารไทย ขอบอกเลยค่ะว่า ถ้าเลี่ยงได้ให้เลี่ยงค่ะ (ขออภัยด้วยค่ะ แต่ว่าเราไม่ได้มีเจตนาว่าทำงานร้านอาหารไทยไม่ดีนะคะ แต่จากที่เห็นมา ส่วนมากก็เห็นพูดภาษาไทย เหมือนร้านอาหารตามสั่งที่บ้านเราค่ะ หากต้องการภาษาอย่างที่ใจหวังก็อาจจะพัฒนาช้ากว่าที่ควรจะเป็นค่ะ ^^) เพราะว่าจุดประสงค์ของเราคือการ "เอาภาษา" เป็นหลัก ขอให้มุ่งเอาภาษาให้เต็มที่ พูดคุยกับอาจารย์ในห้อง พยายามทำตัวให้อาจารย์จำได้ ซึ่งอาจารย์จำได้อยู่แล้วเพราะนักเรียนไม่เยอะ   ลงเรียนคอร์สภาษาอย่างอื่นจะดีกว่าไหมคะ ที่ไม่ใช่ Academic 0r General English เพราะพวกนี้จะเน้นอะไรที่เป็นโครงสร้าง (ซึ่งเป็นประโยชน์ในการเรียนต่อในระดับสูงในระดับหนึ่ง)   แนะนำว่าให้สอบ IELTS จากไทยให้ได้อย่างน้อย 5-5.5 ก่อน จากนั้นลงคอร์สอย่างอื่นซัก 1-3 เดือน จะทำให้ไปได้ไกลมากค่ะ เช่น คอร์สการสอนภาษาอังกฤษเป็นภาษาต่างประเทศ คุณจะได้ทำแผนการสอนอย่างง่าย ๆ สอนเด็กนักเรียนประถม นำเสนองานหน้าห้อง และทดสอบการสอน ซึ่งเพื่อนเราบอกว่าบรรยากาศดีกว่าการเรียน GE หรือ EAP อีกค่ะ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับความชอบและความถนัด แต่ว่าโรงเรียนสอนภาษา หลายคนไปแล้วก็วาดฝันมักจะคิดว่าดีค่ะ แต่พอลงเรียนได้ซักพัก จะเริ่มรู้สึกเบื่อกับการสอน เหมือนอาจารย์ชอบสอนให้ท่องไวยากรณ์หรือ ท่อง tense ค่ะ อาจจะให้คำตอบได้ไม่ชัดเจน เป็นแค่หนึ่งมุมมองน้อย ๆ จากเรานะคะ ทางที่ดีถามจากหลายแนวทางค่ะ มีคนใจดีมากมายในไกลบ้านนะคะ  โชคดีค่ะ ^^ จากคุณ : cat_on_a_hot_tin_roof_ เขียนเมื่อ : 4 ก.พ. 53 21:34:39

ความคิดเห็นที่ 5 เราเป็นอีกคนนึงที่ทำงานและเรียนไปด้วย และยากค่ะที่จะทำทั้งสองอย่างให้ดีไปพร้อมๆกัน และเวลาที่เป็นส่วนตัวไม่ค่อยจะมี บางทีก็นึกเสียดาย เราไม่มีความคิดเห็นเรื่องโรงเรียนสอนภาษาอังกฤษนะคะ เลยบอกไม่ได้ว่าเป็นอย่างไร เราจ้างติวเตอร์ภาษาอังกฤษค่ะ สัปดาห์ละสองชั่วโมง นอกนั้นก็อ่านหนังสือภาษาอังกฤษ ฟังเพลง หรืออะไรก็แล้วแต่เป็นภาษาอังกฤษเช่น ดูทีวี ดูหนัง  ฟังวิทยุ เห็นด้วยกับความคิดเห็นที่สี่นะคะ ว่าหาที่เรียนที่คุณคิดจะเรียนต่อโท และมุ่งเรื่องเรียนก่อนเรื่องทำงาน ส่วนการพัฒนาด้านภาษา เราเชื่อว่า ถ้าคุณมีโอกาสมาเรียนต่อในประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลัก และคุณอยู่ในแวดล้อมที่ได้ใช้ภาษาอังกฤษทุกวัน และเกือบตลอดเวลา ภาษาอังกฤษของคุณก็จะพัฒนาไปเอง โชคดีนะคะ จากคุณ : pink daffodil เขียนเมื่อ : 4 ก.พ. 53 23:44:53

ความคิดเห็นที่ 6  มาให้คำปรึกษาค่ะ ในกรณีที่คุณยังมองภาพอนาคตไม่กระจ่าง ประมวลคำถามที่เขียนมา บ่งบอกว่าไม่ได้ค้นหา เพราะปราศจากทิศทาง อย่างแรก คุณเป็นคนที่รู้จักความต้องการของตนเอง ดีกว่าคนอื่นๆ รู้ขีดความสามารถของตนเอง ว่าจะืทำอะไรได้มากน้อยแค่ไหน ถ้าคุณต้องการไปต่างประเทศ เพื่อเรียนภาษาให้พัฒนาทักษะทุกด้าน คุณตอบตนเองให้ได้ก่อนว่าจะเรียนไปเพื่อจุดหมายทำงานหรือเรียนต่อ การไปอยู่ต่างประเทศ ต้องทราบสภาพแวดล้อม วัฒนธรรมและกฎหมาย ไม่มีใครสามารถจัดสรรประเทศอยู่สงบ-ไม่วุ่นวาย-รายได้ดี-รายจ่ายน้อย มาให้คุณได้ แต่คุณเองต้องเลือกให้เหมาะกับตนเองให้มากที่สุดค่ะ คุณจะเลือกอย่างไร.... ในเมื่อไม่ทราบจะเริ่มต้นค้นคว้าที่ตรงไหนดี? เอาอย่างนี้นะคะ รอบแรกในการค้นหาข้อมูล พิมพ์คำว่า "เรียนต่ออเมริกา" จะมีรายการให้คุณเริ่มศึกษาได้อีกนานหลายวัน จนกว่าคุณจะพอใจ ต่อมา คุณจะเห็นข้อความซ้ำๆๆกันว่า การเข้าไปเรียนในสหรัฐอเมริกา ต้องขอวีซ่านักเรียนนักศึกษา ซึ่งมีข้อกำหนดห้ามทำงานขณะเรียน ยิ่งเข้าไปค้นข้อกำหนดของสถานศึกษา จะพบรายละเอียดชัดขึ้นว่า ถ้าคุณถือวีซ่านักเรียน ไปเรียนภาษา ในฐานะนักศึกษานานาชาติ คุณต้องเรียนกี่คาบกี่ชั่วโมง ต่อสัปดาห์ และมีกฎระเบียบบังคับอย่างไร ครั้นคุณค้นข้อมูลการศึกษาระดับบัณฑิตศึกษา จะพบว่ามีข้อกำหนด ว่า ปีแรกทำงานไม่ได้ บางสถาบันเขียนว่าต้องเรียนให้ครบสองเทอมก่อน และปีต่อไป หางานทำในแคมปัส หรือหากขัดสน ขอหารายได้พิเศษนอกเวลา ต้องปรึกษาอาจารย์หรือผู้ดูแลนักศึกษานานาชาติ หรือผู้เชี่ยวชาญของสาขา ทำเรื่องขออย่างเป็นทางการ หรือขอทุนเสริม หรือช่วยงานวิจัยของคณะนั้น รายการเหล่านี้ สถาบันจะมีให้เลือก ตามแต่สถานภาพของนักศึกษาและ มีข้อกำหนดคุณสมบัติเอาไว้อย่างครบถ้วน คนสมัครมีมากจากทุกทิศทาง โอกาสที่จะเป็นผู้ได้รับพิจารณา ขึ้นกับประวัติการศึกษาของผู้สมัครเรียน เอกสารส่งเสริมจากผู้สอนระดับปริญญาตรี หรือบุคคลอื่นที่มีคุณวุฒิสาขานั้น การที่คนเราอยากจะเอา อยากจะได้สิ่งดีๆ อยากมีวิชา อยากมีรายได้จากงานสุจริตเป็นการคิดที่ควรสนับสนุน แต่ในขณะเดียวกัน อย่าลืมว่ากว่าจะได้อะไรมา ต้องมีการให้ มีการแลก ไม่ใช่ได้โดยง่าย คุณมีสิ่งต่างๆที่จะไปแลกกับสิ่งที่คุณอยากจะเอาแล้วหรือยังคะ? การไปอยู่ต่างประเทศ หมายถึงการเปลี่ยนวิถีการดำรงชีวิต เรียนรู้วัฒนธรรมใหม่ ฉะนั้น คุณจะเอาทุกอย่างที่ใจปรารถนา โดยไม่คำนึงถึงระบบระเบียบไม่ได้ ถ้าคุณฝ่าฝืนกฎหมายของเขา เรียนไปด้วยทำงานนอกเวลาไปด้วยพร้อมกัน ทางโรงเรียนเขาจะแจ้งหน่วยงานทางการ ว่าคุณไม่ปฏิบัติตามระเบียบสถาบันค่ะ กฎหมายต่างชาติมีผลบังคับในทันที สถานะนักศึกษาจะโดนยกเลิก มีความผิด โดนส่งตัวกลับ การลักลอบทำงาน ไม่พึงกระทำ เพราะนอกจาก ผิด ยังจะส่งผลต่อการเปลี่ยนแปรของวิถีชีวิต ทางลัดที่ีดีๆไม่มีหรอกค่ะ การเสี่ยงต่อการโดนจับกุม มีผลกระทบต่อสุขภาพจิต อาจเสียการเรียน ในทางปฏิบัติ หากคุณทำงานที่ไม่ได้รับค่าแรงขั้นต่ำตามกฎหมายแรงงาน สภาพชีวิตของคุณจะเต็มไปด้วยปัญหาความเหนื่อยยาก ในบรรยากาศกดดันสารพัด เป็นไปได้ยากมากที่คุณจะอยู่อย่างเพริศพริ้ง เรียนเก่ง ได้วิชา และทำงานได้เงินดี (นอกเสียจากว่า มีสถานภาำพเป็นเจ้าของประเทศ มีบ้านอยู่เองไม่ต้องจ่ายค่าเช่าพัก มีคนทำอาหารให้ทาน หรือมีเงินซื้อหาได้เพียงพอตลอดเวลา จากแหล่งทุนส่งให้ หรือมีใบอนุญาตทำงานได้อย่างถูกต้อง ตามกฎหมาย เป็นหลักประกัน ลักษณะนั้นเท่านั้นที่จะเอื้อให้เรียนเพิ่มเติม และทำงานได้ ถ้ามาอย่างคนต่างด้าว ต้องอยู่ในกฎหมายเข้าเมือง) สำหรับเรื่องงานนั้น เมื่อคุณเรียนในระดับสูงขึ้นไป สถาบันเขาจัดโปรแกรมฝึกให้ มีทิศทางการทำงานที่ชัดเจน ทั้งนี้ คุณต้องไปต้องจุดนั้นให้ได้อย่างสง่างามก่อน เมื่อมีคนรู้จัก มีฐานสนับสนุนอ้างอิง มีผู้เห็นความสามารถ จะมีตัวเลือกที่กว้างขึ้น นาทีนี้ ทุกอย่างเป็นเพียงภาพในจินตนาการเท่านั้น คุณต้องปฏิบัติการ Action ตามขั้นตอน และวางแผนให้กับชีวิตอย่างเป็นระบบมากกว่าแค่อยากไปเอาภาษา หลังจากคุณศึกษาจบหลักสูตรปริญญาตรีแล้ว ควรฝึกงานสักระยะหนึ่งก่อน เพื่อให้ทราบว่า การทำงานที่แท้จริง มีอะไรมากมายซึ่งตำราไม่ได้บอกไว้ค่ะ ระหว่างฝึกงาน คุณสามารถเรียนภาษาจากชาวต่างประเทศในเมืองไทยได้ ถ้าอยากเรียนต่อโท คุณสมัครไปตามคุณสมบัติที่สอดคล้องกับวุฒิของตน สถาบันชั้นนำหลายแห่ง จัดให้นักศึกษาต่างชาติได้เรียนหลักสูตรภาษาก่อนที่จะเริ่มเข้าสู่รายวิชาของสาขานั้นๆค่ะ ไม่ใช่เรียนทักษะภาษาอย่างเดียว แต่อัดแน่นด้วยวิชาการใช้คอมพิวเตอร์ และการใช้ห้องสมุดเพื่องานวิจัยศึกษา รวมทั้งวัฒนธรรมหลักที่อยู่ในกระบวนการศึกษาวิชาการ ( American Culture for Foreign Graduate Students) นักศึกษาต่างชาติต้องเรียนทุกคนไม่มียกเว้น โดยเฉพาะสาขาวิชาที่ผู้สมัครระบุว่าจะต่อโทและเอกไปเพื่อทำงานทฤษฎีวิจัย แต่การเข้าเรียนได้ ในสถาบันระดับสูงเช่นนี้ ผู้สมัครต้องเตรียมความพร้อมมาอย่างเต็มที่ทุกด้าน ไม่ใช่มาเริ่มนับหนึ่งในวันรับปริญญา ช้าเกินไปมากค่ะ ข้อแนะนำอีกข้อหนึ่ง สำหรับการเริ่มต้น คิด ที่จะไปเรียนต่างประเทศให้สำเร็จ ฝึกพึ่งพาตนเองให้มากที่สุดค่ะ เพราะเมื่อไปอยู่เมืองนอก คุณต้องทำเป็นสารพัด อย่างน้อยที่สุด ควรฝึกหัดตัดสินใจเลือกเองให้ได้ ว่าจะไปประเทศไหน เรียนที่ใด เพื่อนสมาชิกเลือกสถาบันให้คุณไม่ได้ แต่แสดงแหล่งข้อมูลในการคัดเลือกได้ คุณ กำหนดชื่อประเทศ และเข้าไปที่เว็บสำนักงานผู้ดูแลนักเรียนไทย OEA หรือ พิมพ์คำว่า ระบบการศึกษาระดับบัณฑิตศึกษา-มหาบัณฑิตของประเทศนั้นๆ แต่ละประเทศมีความต่างกันในแง่ภูมิศาสตร์ อเมริกาที่กี่รัฐ-เขต คุณต้องค้นเอง เมืองที่จะเรียนจะอยู่ ปลอดภัยแค่ไหน อยู่ที่ความระมัดระวังตนเองรู้กาละ-รู้สถาน ค่าใช้จ่ายแบบถูกๆ ที่พักแบบง่ายๆ แต่จะเอาปลอดภัยด้วย ขัดหลักความจริงหรือเปล่า? เพราะถ้าตึกอาคารมีระบบรักษาความปลอดภัยให้ผู้พักอาศัย มีความสงบสบายพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกของเหล่านั้น ได้มาโดยจ่ายน้อย หรือไม่จ่าย ได้ด้วยหรือคะ ?? ลองกดคลิก Search ดู จะมี"เมืองสำเร็จรูป"หรือไม่ ตามที่คุณวาดภาพไว้ในใจ คนที่อยู่เป็นใครกันบ้าง เขามีคุณวุฒิ-จุดหมายอนาคตอย่างไร เมืองนักศึกษา แหล่งวิทยาการมีหลายแหล่งที่ แล้วแต่สาขาที่ศึกษาด้วย เมื่อใดที่คุณมีวิธีคิดที่สอดคล้องกับสิ่งที่เป็นไปได้ในความเป็นจริง รู้จักค้นคว้าข้อมูลเข้าใจกฎหมาย กฎเมือง และระเบียบข้อกำหนดของสถาบัน เมื่อนั้น ภาพอนาคตของคุณจะแจ่มชัดขึ้น ขอให้สมปรารถนา ตามขั้นตอนของเวลา และประสบความสำเร็จ ในการสร้างคุณสมบัติให้ตรงตามที่แหล่งศึกษากำหนดไว้ค่ะ คนกำหนดรู้ทิศทางได้เอง จะุึถึงจุดหมายเร็วกว่า               แก้ไขเมื่อ 05 ก.พ. 53 00:06:48 จากคุณ : กริชนาคราช เขียนเมื่อ : 4 ก.พ. 53 23:45:16

ความคิดเห็นที่ 7 คุณLittleCance, คุณcat_on_a_hot_tin_roof_, คุณpink daffodil และคุณกริชนาคราช มากๆเลยนะคะ กระจ่างขึ้นเยอะเลยค่ะ ~ ที่ผ่านมามันมึนงงจริงๆค่ะ หนูพยายามหาข้อมูลแล้วนะคะ แต่เหมือนมันไม่ใช่การให้คำปรึกษาเป็นขั้นๆเหมือนด้านบนเลยค่ะ เป็นเพียงการตอบคำถามสั้นๆเท่านั้น ทั้งการถามจากเพื่อน ถามญาติที่มีประสบการณ์ จากเว็บไซต์ ฯลฯ ขอบคุณจริงๆนะคะที่สละเวลามาเพื่อทำให้คนคนนึงเห็นหนทางข้างหน้าอะค่ะ ^^ จากคุณ : !-[/Vahm/Vink ]-! เขียนเมื่อ : 5 ก.พ. 53 01:41:27

ความคิดเห็นที่ 8 คุณ กริชนาคราช ให้ข้อมูลสมบูรณ์ดีมาก แต่ขอเสริมว่า  ความไฝ่ฝันของคุณ จขกท. นั้น doable และมีผู้ที่ทำได้ไปแล้วมากมาย จากคุณ : นายคลิค เขียนเมื่อ : 5 ก.พ. 53 02:15:14

ความคิดเห็นที่ 9   ระยะสั้นนี่หมายถึงว่าไม่กี่เดือนหรือคะ ถ้าจะเรียนต่อโท เป็นไปไม่ได้หรอกค่ะ เพราะหลักสูตรโท เท่าที่รู้ อย่างต่ำก็ต้องปีนึง ยิ่งถ้าภาษาไม่ดี ก้ต้องลงเรียนภาษาก่อน เห็นเด็กไทยที่มาเรียนต่อโท บางคนเรียนภาษาเป็นปี ยังสอบไอเอลท์ไม่ถึงเกณฑ์ด้วยซ้ำ จนต้องเปลี่ยนไปเรียนภาษากับมหาวิทยาลัยที่ตัวจะต่อโทเพื่อหลีกเลี่ยงการสอบไอเอลท์ พอเรียนจนได้ระดับที่มหาวิทยาลัยต้องการ ก็เข้าเรียนต่อโทได้เลย อีกอย่าง ถ้าเรียนต่อโทในมหาวิทยาลัยดีๆ มีชื่อเสียง ยากที่คุณจะทำงานไปด้วย เพราะที่เคยเห็น เพื่อนที่มาเรียนต่อโทในมหาวิทยาลัยอันดับต้นๆ ของออสฯ ไม่มีใครทำงานสักคน เรียนอย่างเดียวก็อ่วมอรทัยแล้ว ว่างจากเข้าฟังเลคเชอร์ ก็สิงอยู่ในห้องสมุด กลับมาบ้านก็ดูหนังสือกันจนดึกๆ ดื่นๆ ส่วนที่ว่าสนใจประเทศที่ปลอดภัย ไม่วุ่นวาย ค่าครองชีพเบาๆอะค่ะ คิดว่าน่าจะเป็นประเทศไทย เพราะถ้าไปเมกา ออส หรืออังกฤษ ญี่ปุ่น สิงคโปร์ ค่าครองชีพสูงทั้งนั้น ถ้าจะหาประเทศที่ค่าครองชีพถูกก็น่าจะเป็นอินเดีย ฟิลิปปินส์ฯลฯ หรือถ้าไม่อยากจ่ายมาก ก็ลองไปเรียนที่ยุโรปบางประเทศซึ่งเขาให้เรียนฟรี เสียแต่ค่าครองชีพ ลองค้นดูกระทู้เก่าๆ ของคุณกมลลั๊ลลาดูนะคะ จากคุณ : กระปุกตังฉ่าย เขียนเมื่อ : 5 ก.พ. 53 09:25:10 A:121.214.177.203 X: TicketID:188044

ความคิดเห็นที่ 10 ถ้าอยากได้ภาษาและทำงาน เลือกมาลงเรียนภาษาก่อนค่ะ อย่าไปลงเรียนโทเลย เพราะเรียนเหนื่อยมาก ยิ่งเทอมแรกยิ่งปรับตัวไม่ทัน สมมุติมาออสเตรเลีย ก่อนจะมาก็เรียนภาษาหรือสอบภาษามาก่อนว่าได้ประมาณเท่าไหร่ แล้วต้องเรียนกี่เดือนถึงน่าจะสอบผ่านเกณฑ์เข้าเรียนต่อโทได้ ทางเอชอาร์นี่เอาประมาณไอเอลท์ 6.5 พื้นฐานปกติไม่เคยสอบมาเลยน่าจะต้องเรียนสักหกเดือน ทีนี้ก็อาจจะลองยื่นเกรดให้มหาวิทยาลัยหลายๆที่ดู หลายๆที่ก็อาจจะรับแต่จะออกเป็น conditional offer ให้คือ จะรับเข้าถ้าสอบภาษาผ่าน เป็นต้นค่ะ ทีนี้ช่วงไปเรียนภาษามันจะเรียนไม่เต็มวัน พอบ่ายๆจะว่างแล้ว ทีนี้คุณก็ไปหางานทำเอาได้ค่าช่วงกะเย็น ถ้าออสเตรเลียสัปดาห์นึงทำได้ไม่เกินยี่สิบชั่วโมง แต่คนส่วนมากก็คงแอบๆเอา แต่ที่สำคัญคือช่วงเรียนนี่อย่าทำงานจนทิ้งการเรียนภาษา หลังจากนั้นพอเข้าเรียนต่อโทได้ อาจจะลดการทำงานลงหน่อย เพราะเรียนสี่วิชาต่อเทอม ส่วนมากก็คือ สี่คืนต่อสัปดาห์ แล้วต้องอ่านต้องทำเปเปอร์เยอะ พอเทอมสองเทอมสามอยู่ตัวแล้วค่อยจะทำงานเพิ่มก็โอเค แต่ถ้าคิดจะไปทำงานเก็บเงินเป็นหลัก ลงเรียนภาษาอย่างเดียวค่ะ ไม่ต้องไปเรียนโท โชคดีค่ะ จากคุณ : ยุ้ยหัดเขียน เขียนเมื่อ : 5 ก.พ. 53 11:28:40

ความคิดเห็นที่ 11 เห็นด้วยกับคุณยุ้ยหัดเขียนครับ เพราะว่าการเรียนที่ออสเตรเลียนั้นมีทั้งเรียนภาษา เรียนคอร์สสำหรับต่อปริญญา เรียนวิชาชีพ แล้วสาขาก็มีเยอะแยะมากมายมีเด็กไทยหลายๆคนตั้งใจจะมาเรียนโทแต่ก็ไม่สามารถเรียนได้ในทันทีเนื่องจากการปรับตัวการเป็นอยู่และสิ่งที่สำคัญคือภาษาที่ใช้อาจจะไม่ดีพอ ดังนั้นแนะนำว่าให้ไปเรียนภาษาก่อนแล้วหลังจากนั้นอาจจะเรียนคอร์ส สำหรับต่อปริญญา(EAP)เพื่อที่จะเรียนต่อในระดับปริญญาขอ้ดีของคอร์สนี้คือไม่ต้องสอบไอเอล แต่กว่าจะเรียนคอร์สนี้ได้ต้องมีผลไอเอลที่ 5.5 ก่อน แต่ถ้าไม่ได้สอบก็เรียนภาษาให้ถึงเลเวลของเค้าก่อนก็ทำได้เหมือนกันครับ ถ้าเกิดว่าสงสัยยังไงอีเมล์มาคุยกันก็ได้ครับทีี่ djdonkeyking_syd@hotmail.com จากคุณ : คนเคยอยู่ออส (iTunGMaY) เขียนเมื่อ : 5 ก.พ. 53 17:01:42

ความคิดเห็นที่ 12 ขอบคุณ คุณนายคลิค คุณกระปุกตังฉ่าย คุณยุ้ยหัดเขียน คุณคนเคยอยู่ออส (iTunGMaY) มากๆนะคะ ที่สละเวลามาให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ ส่วนเรื่องค่าครองชีพเบาๆ หนูไม่เคลียร์เองค่ะ คือ หนูแค่อยากทราบว่า ประเทศที่เค้านิยมไปศึกษาต่ออะค่ะ ประเทศที่ค่าครองชีพมันเบาที่สุดน่ะค่ะ ^^" ยังไงก็ต้องฝึกภาษาก่อนเนอะคะ ^^" หนูก็กลัวว่าถ้าสมมติไปต่อโทที่นอก แล้วภาษาเราไม่แข็งแรง เกรดเราจะเป็นยังไงนะ ทีนี้เริ่มเข้าใจขึ้นมาหน่อยแล้วค่ะ ว่าควรจะเริ่มจากตรงไหนก่อนน ใครมีข้อมูลเพิ่มเติมอีกก็เชิญเลยนะคะ ^^ ขอบคุณค่ะ จากคุณ : !-[/Vahm/Vink ]-! เขียนเมื่อ : 6 ก.พ. 53 01:10:39