ความคิดเห็นที่ 1   บางคนก็นะ เรื่องเสื้อผ้าค่ะ เราใส่ชุดนักศึกษาไปตลอด เพื่อนๆและรุ่นพี่ไปหลายคน อาจารย์จะกำชับว่าแต่งชุดนักศึกษาไปให้เรียบร้อย พอดีวันนั้นเราไปรับวีซ่า เจอจริงอะไรจริง คุณผู้หญิงดันหน้าอกออกมาจนล้น ก็ไม่ได้ชอบพนักงานทำงานสถานทูตอะไรมากมาย เบื่อหน้าด้วยบางครั้ง แต่พอเห็นแล้วก็แอบเห็นใจเขาในวินาทีนั้นเลย เหอๆ แก้คำผิด แก้ไขเมื่อ 12 ก.พ. 53 21:47:26 แก้ไขเมื่อ 12 ก.พ. 53 21:46:54 จากคุณ : Kaetzchen เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 53 21:46:10

ความคิดเห็นที่ 2   คุณอิสวาสุ เอาไปเลย หัวใจ สิบดวงคะ ชอบมาก.....ดิฉันคนหนึ่งไม่เคยมีปัญหากับสถานทูตในต่างประเทศทั้งที่อยู่ถาวรตอนนี้ที่อียิปต์ หรือแม้กระทั่งเวลาไปโทรสถานทูตในที่อื่น ถามเรื่องเทศกาลงานต่าง ๆ แต่อาจจะไม่เคยทำนิติกรรมที่ประเทศอื่นคะ เดินทางไปเคยแวะไปที่สถานทูต แต่เรื่องโทรอ่ะ บ่อย เมื่อวานเพิ่งโทรถามเรื่องเทศกาลอากาศไทย โจฮัน ฯ ว่าจะมีเมือไหร่ เจ้าหน้าที่ตอบน่ารัก พูดจา ดี ให้ข้อมูลเกินความต้องการซะอีก คนไทยบางคนป็นแบบนี้คะ ถ้าเรารับบริการ แล้วเค้าบริการดี ถือว่าผู้ให้บริการคนั้นทำดีเสมอตัวคะ (มันเป็นหน้าทีคุณนะ ภาษีดิฉันนะ แบบเนี๊ย) แต่ถ้าให้บริการไม่ได้ดังใจนิดหนึ่งก็จะโดนเต็ม ๆ อันนี้ก็ว่ากันไปตามกรณี คนไทยในต่างประเทศจะเป็นความเป็นอัตตาสูงคะ เป็นเรื่องปกติ แต่ต้องคุมให้ได้ ควรจะเอาออกมาเมื่อต้องใช้งานอย่างถูกกาละเทศะ บางคนก็อ่อนน้อมถ่อมตนมาก บ้างคนมั่นซะสูง ......คนไทยก็ยังเป็นคนไทย ดูถูกกันเอง เกลียดกันเอง แต่คูณก็ยังขึ้นชื่อว่ามีเชื้อสายไทย สัญชาติเปลี่ยนได้ เชื้อชาติ และกำพืดเปลี่ยนไม่ได้ คุณว่าจริงมั้ย.. ดิฉัน ลูกคนเดียว ไม่มีพี่ไม่น้อง เป็นหลานสาวคนแรกของตระกูล ชอบส้มตำปุ ปลาร้า น้ำพริกกะปิ หล่นทุกชนิด ผักสดจิ้ม กระเจี๊ยบ มะระ มะเขือขื่น ใบบัวบก ผักหวาน ยอดมมะระ ยอดมะพร้วอ่อน หัวปลี แกงส้ม แกงเผ็ด เกงขี้เหล็ก ..แต่ดิฉันหน้าตาออกลูกครึ่งแขก จบม.กรุงเทพ โท American University in Cairo อาชีพปัจจุบันเป็นแม่บ้านงานหลัก งานอดิเรกที่ปรึกษา spin doctor ให้กับนักการเมือง ที่บ้านทำธุรกิจรีสอร์ท เคเบิ้ลท้องถิ่น เป็นตะกูลนักการเมือง แต่ชอบเดินตลาดสด และตลาดนัดมาก ๆ ของกินเยอะ น้ำพริกตาแดง นรก สวรรค์ ครีมอาบน้ำใช้ประจำ อภัยภูเบศ โรลออนเมื่อก่อนสารส้มคะ พอมาอยู่เมืองนอกใช้สติ๊ก หมักผมประจำน้ำมันมะพร้าว ครีม และเครืองสำอางค์อันนี้หรูนิดเพราะรักสวยรักงาม.....สมัยเรียนมีแบรนด์เนม คือ นารายา แต่ไปต่างประเทศบ่อยหลายครั้งต่อปี แต่เพื่อนไม่รู้(ไม่เคยบอก เพราะไม่ใช่เรื่อง) ครอบครัวที่บ้าน แขกรับเชิญประจำของโรงแรมหรู ที่หัวหินชะอำ ทุกปีในวัน count down (ไม่เสียค่าโต๊ะ) มีเบรูก้า หนึ่งกระปุกในตู้เย็น สู้มีปลาร้าสะอาด ๆ กับน้ำพริกไม่ได้เลย เซ็ง........ หลานขอเงินอยากไปเรียน เกอ ด็อง เบอล ที่โรงแรมดุสิต เป็นแสน เราบอกว่า ไปเข้าครัวกับยาย แล้วเรียนอาหารไทยให้ได้ก่อน ตำน้ำพริกให้ได้ก่อน หุงข้าวไม่ให้แฉะให้ได้ก่อน ต้มไข่ยางมะตูมให้ได้ก่อน ไปช่วยแม่บ้านล้างแก้ว ไม่ให้มีกลิ่นคาว ให้ได้ก่อน ไปลองซักเสื้อชั้นในด้วยมือให้ได้ก่อน ทำความสะอาดห้องนอนตัวเองให้ได้ก่อน หลังจากนั่นเธอไม่ขอเงินดิฉันอีกเลย จากคุณ : มาดามพันชั่ง เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 53 21:58:12 A:41.233.90.125 X: TicketID:252605

ความคิดเห็นที่ 3 เท่าที่เจอ จนท สถานฑูตก้อน่ารักเป็นส่วนใหญ่นะครับ อาจจะมีบางคนยิ้มน้อยไปหน่อย หรือไม่ยิ้มเลย เพราะอาจจะเหนื่อยจากหน้าที่ก็ว่ากันไม่ได้ เพราบางทีเราเหนื่อยๆ เบื่อๆ เราก็ยิ้มไม่ออกเหมือนกัน ส่วนตัวเวลาไปสถานฑูต โดยเฉพาะ ตปท จะอบอุ่นทุกครั้ง เพราะดีใจที่อย่างน้อยได้เจอคนไทยเหมือนๆกัน รอยยิ้มมันก็เลยออกมาโดยอัตโนมัติ อยากให้ทุกคน ทุกฝ่ายคิดเหมือนกับที่คุณอิสวาสุบอก.. แม้ได้แค่ครึ่งนึงก็ถือว่าประสบความสำเร็จละหล่ะครับ ช่วยๆกัน จากคุณ : amorous เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 53 22:39:37

ความคิดเห็นที่ 4   อ้อ...เรื่องราวมันเป็นอย่างนี้เองเหรอคะคุณ มาดามพันชั่ง น่าสนใจนะคะ อ่านของคุณมาดามพันชั่งอยู่ เกือบลืมประเด็นของคุณ จขกท เลยค่ะ เพลิ่นซะ อิอิ มาเข้าประเด็นเลยนะคะ ผ่านมาเห็นด้วยกับคุณอิสวาสุค่ะ กรณีความต้องการไม่ตรงกัน เช่น ผู้ให้บริการให้มาตรฐานการบริการน้อยไป หรือมากไป หรือ ผู้ใช้บริการต้องการมาตรฐานมากไป หรือไม่สนใจเลย มีอยู่แทบทุกหัวระแหง ให้ลองนึกถึงอกเขาอกเรานะคะ Be in each other's shoes กันบ้าง ไม่หนักหนาอะไรมากมายใชไหมคะ นั่งคิดสักครู่ สัก 5-10 นาที แล้วใจจะร่มค่ะ บ้านเราเป็นเมืองพุทธ การจะสมมุติเหตุการณ์ในใจนั้น ง่ายเหมือนปอกกล้วย หรือถ้ามันลำบากจะนึกถึงอกเขาอกเรา ก็ให้คิดซะว่าเค้าก็มีอารมณ์ เค้าก็เหนื่อย เค้าก็เป็นมุนษย์ปุถุชนเยี่ยงเราๆ ถ้าไปเจอพนักงานในช่วงบ่ายๆ คล้อยค่ำ มันเป็นเรื่องธรรมดาที่จะเห็นหน้าตาอันบูดบึ้งเหล่านั้น ประเทศไทยของเรายังปกครองแบบเจ้าขุนมูลนายนะคะ ยังใช้ได้อยู่ เรื่องของความรู้สึกของผู้รับบริการที่คาดหวังให้ผู้ให้บริการจะต้องทำเต็มที่ เต็มเหนี่ยวและสุดฝีมืออย่างกับโรงแรมระดับ 5 ดาวนั้นก็ไม่แปลก ยิ่งเป็นคนมีกระตังค์ มีหน้ามีตาในสังคม นามสกุลเป็นที่รู้จัก ความคาดหวังอาจจะเลยมาตรฐานและความเป็นจริงมาบ้างเป็นธรรมดา มันเป็นอนิจจัง ส่วนผู้ให้บริการก็ไม่แปลกที่จะคิดว่า ตนทำงานในเครื่องแบบ สมัยก่อนก็ต้องเรียกได้ว่าเป็นเจ้าขุนมูลนาย อยากให้ประชาชนคนธรรมดาเคารพยำเกรงกันบ้าง ก็ไม่แปลกอีกเช่นกัน สุดท้ายดิฉันคิดว่า เราทุกคน อย่าไปคาดหวังเลยค่ะว่าจะได้น้ำใจและความนอบน้อมจากผู้อื่นแบบฟรีๆ เพราะตอนนี้อะไรๆ ก็ต้องใช้เงินเป็นบรรทัดฐานในการให้ได้มาค่ะ ที่ฟรีจริงก็มีน้อย ค่อยๆ หาเอากันเองนะคะ ให้ทำใจร่มๆ ขอให้กระบวนการต่างๆ เป็นไปอย่างราบรื่น ได้เอกสารมา ทุกอย่างถูกต้องเหมาะสม ก็น่าจะเพียงพอแล้วนะคะ เสร็จจากตรงนั้น ก็ไม่รู้ว่าอีกเมื่อไหร่เราจะได้ไปเยือนสถานที่ให้บริการอีกที จากคุณ : ข้อน้อยผู้ต้อยต่ำ เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 53 22:41:05 A:95.211.27.5 X: TicketID:253300

ความคิดเห็นที่ 5 ส่วนตัวไปแล้วไม่ค่อยมีปัญหานะคะ พวกเค้าก็ไม่ค่อยยิ้มหรอกคะ แต่ก็พูดดี ก็ใจเขาใจเราคะ บางคนอาจไปตอนที่เค้ากำลังหงุดหงิด อาจจะเป็นวันนั้นของเดือนก็ได้นะคะ แต่ชอบ คห.ที่ 2 จัง ทำให้คิดได้ว่าบางทีตัวเองก็ลืมตัวเหมือนกันแฮะ อิอิ แต่ตอนนี้เลิกนิสัยแย่ ๆละ จากคุณ : ขอกลับไปโสด เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 53 23:04:19

ความคิดเห็นที่ 6 ไม่เคยมีประสบการณ์ไม่ดีกะเจ้าหน้าที่สถาทูตอเมริกันค่ะ หรือแม้แต่สถานทูตไทยในอเมริกา ในเมื่อไปขอรับบริการ ก็ควรมีมารยาทไปค่ะ เค้าจะบริการดีหรือไม่นั้น เป็นอุปนิสัยของแต่ละบุคคล แต่ในเมื่อเค้าบริการเรา ไม่ว่าจะด้วยกิริยาแบบคนมีมารยาทดีหรือไม่ ก็ขอบคุณเค้าไป แค่นั้นก็จบค่ะ จากคุณ : pink daffodil เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 53 23:11:54

ความคิดเห็นที่ 7 นะ........ จากคุณ : ฮักเมาน้องหล้า เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 53 23:17:15

ความคิดเห็นที่ 8 เข้าใจความรู้สึกคุณอิสวาสุนะคะ แต่อย่าไปหงุดหงิดเลยค่ะ... เดี๋ยวความดันขึ้น ดิฉันเองนั้นอาจจะเคยเจอพนักงานที่บริการไม่ดีเหมือนกัน แต่เพราะดิฉันนั้นอาจจะไม่ค่อยจะเอามาคิดมากให้เป็นภาระทางใจ มักจะปล่อยให้เป็นกรรมส่วนตัวของเขาไปเองมากกว่า ได้อ่านผ่านๆตามาหลายๆกระทู้ [พวกขอบ่นดังๆ] ... ดิฉันก็ได้แต่คิดในใจว่า ... หากไม่ชอบใจในบริการของแต่ละสำนักงานที่ไปทำธุระ ก็ร้องเรียนไปตรงๆถึงสถานที่นั้นๆ ระบุชื่อคนนั้นๆไปเสียเลย อย่ามาเสียเวลาบ่นหรือหงุดหงิดใจไปวันๆ เปล่าประโยชน์ ... เห็นด้วยตามความคิดที่คุณอิสวาสุตั้งกระทู้ขึ้น แต่คิดว่าการที่มาบ่นดังๆในเว๊บสาธารณะนั้น ... ก็เพราะคิดว่า ขอแสดงความเห็นว่า ... เว๊บบอร์ด สาธารณะเป็นเครื่องมือสื่อสารชนิดหนึ่ง ที่สามารถส่งเสียงสะท้อนออกไปได้ไกลแบบเอ๊คโค่ รวมทั้งเพื่อประจานความไม่ดีทั้งหลายของคนทำงานของรัฐหรือสถานที่ทำงานของรัฐให้ออกไปสู่สื่อมวลชนโดยทางอ้อม .. เพื่อให้มีการแสดงความเห็นทั้งโจมตีและหรือนำความเสื่อมเสียมาสู่รัฐไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ดังนั้น ... ก่อนจะโพสในเชิงตำหนิหรือต่อต้านใครหรือสถานที่ทำงานใดใดทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ ... ขอให้ติดต่อเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องโดยตรงในนั้นก่อน เพื่อขอรับบริการให้ได้ตามความพอใจ ส่วนหากยังไม่ได้ตามที่ต้องการ .. ก็คงต้องพิจารณาร้องเรียนไปในที่ๆควรจะเสนอเรื่องร้องเรียนไป ... ไม่ใช่อะไรๆก็ออกมาประกาศกันโครมๆเพื่อหาเสียงส่วนร่วม ที่บางครั้งเหมือนการปลุกระดมทางความคิดตามเว๊บบอร์ดสาธารณะแบบที่เคยเห็นๆกันมา และการขอความเห็นแบบหยั่งเสียง เช่น ... มีใครเจอแบบนี้ไหมคะ ? ... นั่นคือการหาแนวร่วมทางความคิดอีกรูปแบบหนึ่ง ... คุณอิสวาสุคงต้องทำใจ ... เพราะคนไกลบ้านและกำลังจะไกลบ้านมีหลากหลายวัยที่ยังใหม่ต่อโลก และใหม่ต่อการเผชิญโลก ... รวมทั้งใหม่ต่อมารยาททางสังคมที่คิดว่าผู้ให้บริการต้องเป็นผู้มีมารยาทดีแต่่ฝ่ายเดียวถึงจะเรียกว่าบริการดี ... ส่วนผู้รับบริการนั้นก็ต้องได้รับบริการที่ได้ดั่งใจจริงๆ ตามที่แต่ละสถานที่ทำงานเขามักจะชอบโฆษณาไว้ตามป้ายฝาผนัง เพื่อชวนเชิญคนมาใช้บริการด้วยความสบายใจ ... ยิ้มสยาม งามกริยา วาจาไพเราะ ... ถ้าพบพนักงานกริยาไม่สุภาพโปรดแจ้ง 222 โทโทโทไม่ติดอย่าโทร ! จากคุณ : กุศโลบายจากความจริง เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 53 23:32:35

ความคิดเห็นที่ 9 เห็นด้วยเหมือนกันค่ะ.. เคยใช้บริการสถานทูตอเมริกาที่เป็นที่กล่าวขาน โดยเฉพาะยุคป้าช่อง 8 ตอนนั้นอ่านกระทู้แล้วก็เตรียมใจไปเต็มที่ แต่ปรากฏว่าไม่เจอใครอย่างที่เค้ามาบ่น-กร่นด่ากันเลย เดาว่าใช้บริการกับป้าช่อง 8 ด้วยแต่เคาก็พูดเพราะดี และทุกคนในสถานทูตก็พูดจาดี แต่ก็เห็นบางคนโดนตวาดๆบ้างเหมือนกัน จำได้ว่าหนึ่งในนั้นเป็นฝรั่งด้วย เลยไม่ต้องไปบ่นว่าเค้าบูชาแต่ฝรั่งแต่อย่างใด... แต่เท่าที่สังเกตดู ผู้หญิงหลายๆคนแต่งตัวไม่ให้เกียรติสถานที่เลย แต่งตัวแบบว่าเหมือนจะบ่งบอกอาชีพหรือรสนิยม ทั้งเสื้อที่ปาดซะลึกไปถึงสะดือ นมก็ดันมาถึงคอหอย กางเกงก็รัดซะจนแทบเป็นหมัน แถมยังแต่งหน้าแบบกระเทยยังอายเข้าไปอีก...พวกนี้แต่งตัวไม่ให้เกียรติตัวเองด้วยซ้ำ แล้วจะไปคาดหวังให้ใครเค้ามาให้เกียรติ พอเค้ามองด้วยสายตาดูถูกก็ไปด่าเค้าต่างๆนาๆ...ไม่ได้บอกให้แต่งตัวเป็นป้าเชยๆ แต่แต่งให้ดูดี สะอาด ดูเป็นคนมีการศึกษาที่ไม่รู้แต่งกันเป็นบ้างมั้ย จากคุณ : ash the best เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 53 00:44:59

ความคิดเห็นที่ 10   เคยเจอฤทธิ์ป้าช่องแปดค่ะ...แต่ก็ไม่ได้ติดใจอะไรเพราะเค้าก็ทำงานของเค้า ส่วนเจ้าหน้าที่สถานทูตคนอื่นก็ไม่เห็นมีปัญหาอะไรนะคะ ไม่เคยถึงกับยกมือไหว้นะคะ...แต่ก็ยิ้มให้ทุกคน.. :) จากคุณ : แอ่น เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 53 01:09:34 A:74.72.80.228 X: TicketID:249877

ความคิดเห็นที่ 11   ใช่คะคุณความเห็นที่ 9 ผู้หญิงส่วนใหญ่ที่แต่งตัวแบบนี้ ที่คนไทยชอบว่านะคะ ว่าเป็นเหมือนกับ ผู้หญิง บลาๆๆ ที่แต่งงานกับฝรั่ง ซึ่งพบกันตาม ผับ บาร์ เมืองไทย บางคนก็น่ารัก อ่อนน้อมถ่อมตัว(ผู้หญิงอายุ 30 ผู้ชายอายุ 60 ) แบบเนี๊ยคะ ผู้หญิงไทยการศึกษาดี แต่งงานกับต่างชาติที่ดูดี ไม่ใช่ผู้ชายวัยเกษียณ (เคยคุยกับอาจารย์ดำรง พุฒตาล บอกว่าผู้หญิงไทยภาคตะวันออกเฉียงเหนือเปอร์เซ้นต์สูงที่แต่งงานกับฝรั่ง ซึ่งนำเงินตราเข้าประเทศ ) แต่ผู้หญิงบางคนที่แต่งงานกับฝรัง ก็แต่งตัวไม่ คือไม่อยากใช้คำว่าไม่มีรสนิยม ท่านใดมีคำอื่น แนะนำก็ได้ แต่บางคนน่ารักมากๆ ไม่กร่างว่า สามีฉันมีเงินอาศัยอยู่แถบนั้นแถบนี้ ซึ่งเพื่อน ๆ ในสถานทูตที่ออก post ก็เราให้ฟังว่า แยกออกว่าอันนั้นผู้หญิงไทยแต่งงานกับคนที่นี้ คนไหนนักเรียนไทย หรือผู้หญิงไทยที่ทำงานที่นี้ แต่แปลกปัญหาส่วนมากมักจะมากจากเรื่องการแต่งตัว แล้วก็ตามด้วยการพูดจา ที่โต้ตอบแบบไม่เมตตาต่อกัน แต่ 50 % ที่ผู้หญิงไทยแต่งงานกับผู้ชายวัยเกษียณ หรือเป็นภรรยาใหม่ ก็ชุบชีวิตได้เกิดใหม่ กลับเมืองไทยที ถ้าเป็นคนไทย ห้องโดยสารแทบจะถล่ม คุยกันดังมาก นี่สามีพี่เคยเป็นทหาร พี่อยู่แถวนี้ มีอะไรแวะไปหาได้ พี่คนจ.(ภาคหนึ่งในอีสาน) คุยกันข้ามแถวเลย แต่นักศึกษาไทยจะเงียบ ๆ ฟังเพลง อ่านหนังสือ ขี้เกรงใจ จริง ๆ นะ ไม่เรื่องมาก แต่เจอพวกป้า ๆ บางคน โอ้ย กระหน่ำมาก ยังกับผึ้งแตกรัง จากคุณ : มาดามพันชั่ง เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 53 01:12:24 A:41.233.75.141 X: TicketID:252605

ความคิดเห็นที่ 12 ผมโชคดีครับ เจอแต่เจ้าหน้าที่นิสัยดี ๆ และขอให้โชคผมดีแบบนี้ตลอดไป ... อุอุ แต่เวลาผมไปติดต่องาน ผมก็พูดจาไพเราะ และแต่งกายให้เกียรติสถารที่ ... ทั้ง ๆ ที่คน American เองใส่ขาสั้นเดินเข้าสถานธูตตัวเองในกรุงเทพแบบหน้าตาเฉย! จากคุณ : ผัดไทยกุ้งสด เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 53 03:25:01

ความคิดเห็นที่ 13   ติดต่อกงสุลไทยในแอลเอมาสาม-สี่รอบ ไม่เคยมีปัญหาค่ะ แต่เจอทุกครั้งที่คนไทยมักจะบ่นโน่นนี่ให้ได้ยินต่อหน้า ไม่ว่าจะเป็นการพักเที่่ยง เรื่องเอกสาร เรื่องการบริการต่างๆนานา มองแล้วเป็นความผิดของท่านเอง แต่ไปบ่นเจ้าหน้าที่ซะงั้้น ทั้งนี้ทั้งนั้นให้เอาใจเค้ามาใส่ใจเราบ้าง ทำตามกติกาที่เค้ากำหนด เพราะมองแล้วคำว่าคนไทยไม่ทิ้งกันนี่ ยังใช้ได้อยู่เสมอ คุณป้าช่อง 8นี่เคยเจอมากับตัวเหมือนกันค่ะ ถึงแม้จะมาด้วยวีซ่าคู่หมั้น แต่เคยไปขอฟอร์มฉีดวัคซีนก่อนที่เคสจะอนุมัติ มองแล้วคุณป้าท่านเสียงดุจริงๆ แต่ไม่ค่อยรู้สึกเท่าไหร่ เพราะเราก็ไปด้วยความสุภาพ เข้าใจคนทำงานบริการค่ะ ว่าจะตั้งกระทู้เหมือนกัน เรื่องการแต่งตัว ใครมีสามีฝรั่งนี่ คนเค้าก็จับตามองอยู่แล้วล่ะ อันนี้ดิฉันรู้ดี แต่ถ้าเราทำตัวดี แต่งตัวให้รู้ "กาลเทศะ" สายตาคนนอกเค้าก็จะเปลี่ยนไป บ่อยครั้งที่้้เผลอเข้าไปในบล้อคสาวๆในห้องไกลบ้าน เห็นการแต่งตัวไปวัด ไปวาแล้ว โหว ต้องส่ายหน้าค่ะ รู้ตัวว่าจะต้องเข้าสถานที่สำคัญๆ อย่างวัดวาอาราม ใส่ขาสั้นเข้าไปค่ะ อันนี้นอกจากไม่ให้เกียรติสถานที่แล้ว ยังมองว่าไม่ให้เกียรติตัวเองด้วยค่ะ ดิฉันมองเข้าไปถึงพื้นฐานทางครอบครัวโน่น ดิฉันรับไม่ได้ หรือว่าดิฉันจะแก่เกินไปแล้วเนี่ย บ่นๆ จากคุณ : kittichanok เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 53 03:55:23 A:98.149.20.107 X: TicketID:185565

ความคิดเห็นที่ 14   ดิฉันเป็นคนหนึ่งที่เคยทำงานราชการและรัฐวิสาหกิจมาเป็นสิบ ๆ ปี และอยู่ในส่วนของงานบริการมาโดยตลอด ส่วนใหญ่ผู้รับบริการ (ประชาชนหรือตัวแทนขององค์การทั้งภาครัฐบาลและเอกชน) ก็จะมาติดต่อเพื่อขอเอกสาร ข้อมูลหรืออะไรต่าง ๆ ที่เรารับผิดชอบ โดยส่วนใหญ่แล้วที่ถูกบ่น ๆ และโวยวาย ถามหาผู้บังคับบัญชาเรา ก็จะเป็นการขอบริการที่นอกเหนือจากที่เราให้ได้ ก็จะอ้างโน่น อ้างนี่ว่าแค่นี้ก็ให้ไม่ได้ เราก็บอกว่านอกเหนือความรับผิดชอบของเรา เค้าก็ไม่ฟัง จะเจอผู้ใหญ่เราให้ได้ หาว่าเราพูดไม่รู้เรื่องบ้างหล่ะ เราก็งง ใครกันแน่พูดไม่รู้เรื่องฟ่ะ แต่เราก็ไม่เคยบ่นอะไร เงียบไว้ก่อน แล้วจะดีเอง ส่วนตัวแล้วเป็นคนนิ่งและอดทนมาก ๆ ผู้รับบริการบางท่านก็น่ารักนะ พอเราบอกว่า ขอโทษจริง ๆ เราช่วยไม่ได้ ก็แนะนำให้เค้าไปติดต่อตรงส่วนงานอื่น เค้าก็เข้าใจ, บางคนก็ว่า "แค่นี้ก็ทำให้ไม่ได้ ใจดำจัง" เอ้า ! ว่าไปนั่น อย่างนี้แหล่ะ ที่เค้าเรียกว่า "ร้อยพ่อพันแม่" เวลาเราเจอคนหน้าตาดุ ๆ กำลังจะมาติดต่อ เราก็จะพยายามยิ้ม และพูดชมเค้าไว้ก่อน (เช่น คุณพี่หุ่นดีจัง ทำยังไงถึงได้รักษาหุ่นให้ผอมเพรียวได้ขนาดนี้, กระเป๋าคุณพี่ เก๋จังค่ะ ฯลฯ) เพื่อที่เค้าจะได้อารมณ์ดีและตั้งสติได้ว่า เค้าต้องการอะไรกันแน่ (ต้องการมาระบายอารมณ์หรือจะมาติดต่อราชการ) เราไม่ค่อยสนใจคนที่การแต่งตัว เสื้อผ้า หน้า ผมเท่าไหร่ (แม้ว่าบางคนจะมีกลิ่นตัวเหมือนไม่ได้อาบน้ำมาก็ตาม อิอิ) แต่เราจะคิดเสมอว่า งานเราคืองานให้บริการ เราเป็นตัวแทนของหน่วยงาน ภาพลักษณ์ทุกอย่างเราต้องรักษาไว้ กลัวเค้าจะว่าได้ว่าหน่วยงานนี้คงเป็นแบบนี้กันทุกคน  เราจะให้บริการเต็มที่ ใช้หลักที่ว่า "เอาใจเค้ามาใส่ใจเรา" ตอนนี้ออกมาแล้ว ก็ยังอยากกลับไปทำเหมือนเดิมอยู่ เพราะมันท้าท้ายความสามารถดี ชอบแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า ถึงมันจะไม่สนุกเอาเสียเลย จากคุณ : goodjob เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 53 07:16:59

ความคิดเห็นที่ 15 >>>>ใครคิดออกช่วยบอกที ช่วยคุณอิสฯ คิดเพิ่มเติม ท่านสุภาพสตรีที่จะไปติดต่อสถานทูต    พยายามกำหนดวันและเวลาที่จะไปไม่ให้ใกล้กับ "วันเบาๆ " ที่จะมาถึง........เพราะเขาว่า  ยิ่งใกล้วันเบาๆ เข้ามาทีไร    อารมณ์ที่เคยหนักแน่นปานหินผา    ก็จะบางเบาเหมือนก้อนเมฆ....จริงไม่จริงไม่รู้นะ   อันนี้เขาว่า...ก็เอามาว่าให้ฟังกันต่อ ผมไม่มีประสบการณ์ที่เลวร้ายกับเจ้าหน้าที่สถานทูต    เคล็ดลับง่ายๆ ก็คือพกสถานะจริงของตัวเองเดินเข้าสถานทูตคือความเป็นเด็กบ้านนอกเด๋อๆ ด๋าๆ (ถ้าภาษาวัยสะรุ่นเขาก็ว่า "คิกขุ  อาโนเน๊ะ  ประมาณเนี๊ยะ)ต่อให้เป็นป้าช่องสิบหก(ใหญ่กว่าช่องแปดตั้งเท่าตัว)เห็นเด็กบ้านนอกอย่างผมเด๋อๆ ด๋าๆ ในสถานทูตแล้ว   คงไม่ใจไม้ไส้ระกำด่าฉอดๆ ได้ลงคอหรอก.....ซึ่งต่างจากอาการเชิด  หยิ่ง  และถือตัว    บุคคลิกเหล่านี้กระตุ้นต่อมหมั่นไส้ดีนักแล พูดถึงเรื่องเด๋อๆ ด๋าๆ หรือ คิกขุ อาโนเน๊ะ แล้ว    ขออนุญาตออกนอกเรื่องนิด       คนไทยบางคนนี่ก็แปลกอยู่อย่าง    เห็นคนบ้านนอกเด๋อๆ ด๋าๆ แล้วมักจะแคลนนิดๆ หรือไปถึงแคลนมากๆ ก็มี     แต่พอเห็นคนต่างชาติอย่างเกาหลี  ญี่ปุ่น แสดงอาการเด๋อๆ ด๋าๆ    บรรดาพ่อเจ้าประคุณ/แม่เจ้าประคุณกรี๊ดเป็นปลื้มแทบจะสลบล้มพับ........ จากคุณ : วัชรานนท์ เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 53 07:42:21

ความคิดเห็นที่ 16   คุณ : วัชรานนท์ ผมเป็นเด็กบ้านนอก คุณตาไม่ได้เป็นนักเลงไก่ชนแต่เคยสอนว่าไปไหนให้อุ้มไก่ตัวเมียแล้วจะไม่โดนตีกบาล เพราะไก่ตัวเมียไม่คิดที่จะชนกับใคร ผมพยายามเสมอ แต่บางทีก็ขาดหุ้นเหมือนกัน ครับคนไทยบางคนแปลกอย่างที่คุณบอก อยู่นานๆเห็นคนมากๆแล้วจะรู้สึกแปลกจริงๆ อย่าอย่างโน้นอย่างนี้เลย ตอนนี้ไม่ว่ากัน แม้แต่ตอนหนุ่มๆผมไม่เคยสนใจแม่สาวเกาหลีเลย ทั้งๆที่ไปเกาหลีมาหลายหนมาก ผมคิดว่าถ้าคนรวยๆหรือบรรดาผู้สูงศักดิ์ทั้งหลาย เคารพในความเป็นคนของคนที่ด้อยกว่าทั้งฐานะทางการเงิน การศึกษา และยศฐาบรรดาศักดิ์ มาขอความช่วยเหลือ อาจจะทำให้เจ้าหน้าที่เหล่านั้นมีความสุขไปนานคนที่รับบริการก็คงสดวกไม่น้อย จากคุณ : อิสวาสุ เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 53 08:44:20 A:71.114.78.103 X: TicketID:146114

ความคิดเห็นที่ 17 ตอนไปขอวีซ่าเมกาที่กงสุลเชียงใหม่ ไปเจอกับผู้ชายฝรั่งอายุไม่เกิน 40 เป็นผู้สัมภาษณ์ มี่ยกมือไหว้ก่อนเลย เพราะยังไงก็ถือว่าเป็นผู้ใหญ่กว่า และเราเป็นคนไทย ตอนแรกดูเหมือนจะขรึม ๆ แต่พอไหว้แล้วยิ้มให้เท่านั้นแหละ เค้าก็ยิ้มและพูดคุยดีด้วย ปกติค่ะ ผลออกมาก็ได้ 10 ปีมาเชยชม ก็เลยเห็นด้วยกะ จขกท ค่ะ ว่าเราต้องมีมารยาทให้กับเค้าก่อน ตอนมี่ไปสัมภาษณ์กะครอบครัวนะ แต่งตัวใส่สูท ให้ดูดีเข้าไว้ค่ะ ไม่เสียหลาย จากคุณ : moomi55 เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 53 09:10:23

ความคิดเห็นที่ 18 No comment เรื่องอื่น แต่ขำที่คุณ อิสวาสุเขียน "1. สำรวจตัวเองก่อน ว่าก่อนไปติดต่อ วันนี้ได้ล้างหน้าแปรงฟัน ผมเผ้า เสื้อผ้าเรียบร้อยหรือเปล่า หรือเหมือนยายเพิ้ง (ส่วนมากผู้หญิงจะเป็นคนบ่น)" แล้วก็คิดว่าจะมีใครออกจากบ้านแล้วขี้ลืมขนาดนี้หรือเปล่า แต่ก็มีเพื่อนคนนึงลืมใส่เสื้อในออกจากบ้านนะ ที่แปลกกว่านั้นคือเพื่อนอีกคนดันมีเสื้อในสำรองทิ้งไว้ท้ายรถ เลยได้ยืมใส่เลย ! จากคุณ : ยุ้ยหัดเขียน เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 53 10:40:09

ความคิดเห็นที่ 19 เห็นด้วยกับคุณอิสวาสุค่ะ... จากคุณ : BlackmagicW เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 53 13:57:21

ความคิดเห็นที่ 20 ขอชื่นชมเจ้าหน้าที่สถานทูตที่แอลเอด้วยค่ะ น่ารักและใจดีทุกคนค่ะ ยินดีตอบคำถาม แนะนำให้ดิฉันกับสามีดีด้วยค่ะ ไม่มีบึ้งตึงเลยค่ะ เท่าที่ไปติดต่อมาอย่างน้อยสองครั้งค่ะ บริการเร็ว ยังไม่เคยต้องรอเก้อนานๆเลยค่ะ จากคุณ : thaiivy เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 53 14:40:15

ความคิดเห็นที่ 21 คุณยุ้ย>>>>>>ที่แปลกกว่านั้นคือเพื่อนอีกคนดันมีเสื้อในสำรองทิ้งไว้ท้ายรถ เลยได้ยืมใส่เลย ! เนื้อความข้างบนปลุกจินตนาการผมซะกระเจิดกระเจิงเลย       พาลสงสัยต่อไปอีกว่าที่ท้ายของเพื่อนคุณนอกจากจะมีเสื้อในสำรองแล้ว    ยังมีอะไรต่อมิอะไรซุกซ่อนอยู่อีกหรือเปล่า??????      สงสัยๆๆๆๆ   อิ อิ อิ จากคุณ : วัชรานนท์ เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 53 18:59:14

ความคิดเห็นที่ 22   เท่าที่ได้ยินจากเพื่อนผม นักเรียนทุนอ่ะครับ เพื่อนผมเรียนอยู่ประเทศบาห์เรน ได้มีโอกาสไปเที่ยวอิยิปต์ช่วงปิดเทอม แล้วเกิดทำพาสปอร์ตหายที่ประเทศอียิปต์ เพื่อนบอกว่าท่านทูตที่ประจำที่ประเทศอียิปต์ใจดีมาก เรียกไปคุยด้วย แล้วก็ชวนไปเที่ยวที่บ้านครับ ได้ฟังแล้วก็สุขใจครับ อิ อิ จากคุณ : MonKizaB เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 53 19:03:15

ความคิดเห็นที่ 23   คะ ท่านทูต ฯ นพดล เทพพิทักษ์ ตอนนี้ย้ายแล้วคะ ไปประจำนิวซีแลนด์ หรือออสเตเลีย นี่แหล่ะ จำไม่ได้...ท่านทูตฯ คนใหม่จะมา วันที่ 18 เดือนนี้ล่ะคะ ท่านทูตฯ นพดล ข้าราชการรักท่านมาก น่ารัก ท่านพา ท่านตอลฎาวี เข้าเฝ้า ฯ ที่เมืองไทย และพาท่าน ตอลฎาวี ไปเยี่ยมพี่น้องมุสลิมทางภาคใต้ด้วยค่ะ จากคุณ : มาดามพันชั่ง เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 53 20:54:22 A:41.233.82.55 X: TicketID:252605

ความคิดเห็นที่ 24 เรียน  ท่านเจ้าของกระทู้  ที่นับถือ ด้วยเห็นว่ากระทู้นี้มีสาระสำคัญ  จึงขอเข้ามาร่วมแสดวความคิดเห็นด้วยคนหนึ่ง ตามกระทู้นี้ที่ตั้งมา  และจากผู้เข้ามาให้ความคิดเห็นมากมายหลายท่าน  เห็นได้ว่าผู้คนสมัยนี้  ยุคนี้  ต่างมีความเข้าใจ  และเห็นอกเห็นใจมนุษย์ด้วยกันมากขึ้น โดยเฉพาะในยุคนี้ปัจจุบัน  ที่  " ประชาชนเป็นใหญ่ในแผ่นดิน " ข้าราชการคือลูกไล่  คือผู้ตกอยู่ในฐานะจะถูกโขก  จะถูกสับ  จากประชาชนผู้มีอำนาจเหนือ  ทั้งแผ่นดิน ถ้าท่านผู้อ่านไม่เชื่อว่าแผ่นดินไทยยุคนี้  ข้าราชการของรัฐคือเบี้ยล่าง  ส่วนประชาชนผู้ไปติดต่อเป็นเจ้านายอยู่เหนือกว่า  ท่านลองกรุณาหาคำตอบให้สักนิด  ต่อคำถามติง  ดังต่อไปนี้ ........ ***  โดยทั่วไป  ท่านจะเห็นแต่ประชาชนขอบ่น  หรือประชาชนไม่พอใจการบริการของข้าราชการ ...... จนถึง  ร้องเรียน  ......ร้องทุกข์......กล่าวหา.........หาความเป็นธรรม  หรือฟ้องให้เจ้านายหรือต้นสังกัดลงโทษข้าราชการ ................ฯลฯ.............สารพัดอย่าง แสดงว่าย่อมมีข้าราชการที่ไม่ดี  มีจริง ๆ  มีอยู่แน่นอน  จะในความผิดฐานไหนก็ตาม ซึ่งมีทั้งข้อหาที่ข้าราชการประพฤติตน " ไม่ถูกต้อง " ตามวินัยข้าราชการ   และข้อหาที่ข้าราชการประพฤติตน " ไม่ถูกใจ " ประชาชนบางคน แต่.... ในความเป็นจริง  ท่านยอมรับด้วยใช่ไหมว่าในหมู่ประชาชนที่ไปติดต่อราชการ  ก็ต้องมี " ประชาชน " ผู้ไปใช้บริการบางคน (เป็นส่วนน้อยมาก)  ที่มีมารยาทเลว มารยาททราม  หรือไม่มีมารยาท  หรือเอาแต่ใจตัวเอง  หรือชอบดูถูกคน   หรือประเภทจะต้องให้ข้าราชการมาพินอบพิเทา  ที่ร้ายคือประชาชนที่ชอบหาเรื่องกับข้าราชการแบบคนโรคจิต ( เพราะรู้ว่าข้าราชการเขาไม่อยู่ในฐานะจะตอบโต้  ได้ทีเลยเอาใหญ่ ) .............. อย่างนี้ก็ต้องมีอยู่ด้วย  จริงไหม ??? คำถามคือ  หากข้าราชการโดนประชาชน " รังแก " อย่างนี้  ข้าราชการจะไป  " บ่น "  หรือ ร้องทุกข์  หรือ  หาความเป็นธรรม  ได้จากใคร ?????? กรุณาตอบด้วย  เพื่อความเป็นธรรมเช่นเดียวกัน สุดท้าย  ท่านอาจเคยเห็น/เคยทราบว่า มีประชาชนชี้หน้าด่าว่าข้าราชการ  หรือตำหนิข้าราชการกลางที่สาธารณะ หรือร้องเรียนข้าราชการในหน้าหนังสือพิมพ์ แต่ท่านเคยเห็นว่ามีข้าราชการคนไหน  ที่ไหน โต้ตอบ  หรือด่ากลับ  หรือหาเรื่องทะเลาะกลับประชาชนที่มาติดต่อ    หรือฟ้องหนังสือพิมพ์กล่าวหาประชาชนบ้างไหม ?????? กรณีอย่างนี้  หากจะพูดว่า  เป็นข้าราชการก็ต้องมีความอดทน  ข้าราชการมีการศึกษาดี  ต้องมีความสุภาพ  อ่อนน้อมต่อประชาชนผู้เสียภาษี  ( อ้างอย่างนี้กันจัง!!!! ) หากท่านพูดอย่างนี้ได้  ก็หมายความว่าตัว " ประชาชน " ที่รังแกข้าราชการ  เป็นบุคคลที่ได้รับการยกเว้น มีอภิสิทธิ์  ไม่ต้องมีความอดทน  ประชาชนเป็นผู้ไม่มีการศึกษาดี  จึงไม่ต้องมีความสุภาพ  และได้รับการยกเว้นจากการต้องมีความอ่อนน้อมต่อมนุษย์ร่วมโลก  กระนั้นหรือ  ! ! ! ! ? ? ? และประชาชนผู้เสียภาษี ( แน่ใจนะว่าไม่เคยแม้แต่คิดหลีกเลี่ยงภาษีของชาติ  ตอนกลับมาจากต่างประเทศ  เอาของเข้ามาเสียภาษีครบหมดหรือไม่ ? )....  และประชาชนผู้เสียภาษี  มีสิทธิจะประพฤติ-ปฎิบัติกับข้าราชการอย่างใด ๆ ก็ได้  ไม่ว่าทั้งกาย  วาจา  ใจ  อย่างนั้นหรือ ???? กระทู้นี้ต้องขอชมเชย  และให้คำนิยมต่อจิตสำนึกสูงส่งของผู้ตั้งกระทู้  ตลอดจนจิตสำนึกอันมีค่าของท่านทั้งหลายที่เข้ามาให้ความคิดเห็นในกระทู้นี้ และหากท่านมีเวลา  โปรดไปดูกระทู้ก่อนหน้านี้ในวันวาเลนไทน์  ที่เกี่ยวข้องกับกระทู้นี้ด้วย  เพื่อประกอบการพิจารณา กระทู้ " ขอบ่นหน่อย  มารยาทของเจ้าหน้าที่...................." http://www.pantip.com/cafe/klaibann/topic/H8874821/H8874821.html แก้ไขเมื่อ 15 ก.พ. 53 17:14:13 แก้ไขเมื่อ 15 ก.พ. 53 17:11:19 แก้ไขเมื่อ 15 ก.พ. 53 16:49:00 จากคุณ : Detente เขียนเมื่อ : 15 ก.พ. 53 16:36:12