ความคิดเห็นที่ 1   ใช้เงินให้ประหยัด ไม่ดื่มตามผับ ไม่สูบบุหรี่ ก็ประหยัดไปได้เยอะ ถ้าจะเมา ให้ซื้อจากร้านซุปเปอร์ใหญ่ๆ มันถูก แล้วก็กินให้เมามันในหอเนี่ยละประหยัด อย่าไปตามคนอื่นที่ใช้ของแบรน เสื้อผ้าจริงๆขอแนะนำว่าอย่าไพรมาร์ค เพราะพวกนั้นไม่นานก็พัง ซื้อดีๆตอนมันลดราคามันจะใช้ได้นาน ถ้าไม่ลดก็ซื้อดีๆไว้สักตัว ใส่ซ้ำๆ ไม่ตาย ไม่คันเพราะมีเสื้อยืด หรือ เชิต ข้างใน อย่าเอาหน้าเป็นใหญ่ก็พออยู่เมืองนอก กินกันตายย เสื้อใส่ไม่ให้มันหนาว กระเป๋าไว้ใส่ของ ทั้งหมดทั้งสิ้นไม่ได้ใช้เพื่อความสวยงาม เรามาเรียน ไม่ได้มาเดินแฟชั่น รับรอง ไม่เปลือง จากคุณ : น้ำเต้าหู้กะปาท่องโก๋ เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 53 09:14:37

ความคิดเห็นที่ 2   ขอเล่ามั่งนะคะ สมัยที่ป้าเรียนหนังสือที่ฝรั่งเศส ป้าทำอย่างที่คุณน้ำเต้าหู้กะปาท่องโก๋ บอกไม่มีผิดเลยค่ะ   ไม่ได้ขอเงินจากบ้านเลย  เพราะถึงขอ เขาก็ไม่มีให้ อยู่ได้เท่าที่เงินทุนที่ได้เท่านั้นเอง เงินทุนรัฐบาลฝรั่งเศสมีให้พอค่าหอพัก   และค่าอาหารจากโรงอาหารนักศึกษาเท่านั้น   ไม่มีปํญญาไปกินตามภัตตาคาร    กระเหม็ดกระแหม่มาก   เครื่องสำอางค์  น้ำหงน้ำหอม ไม่มองเลยค่ะ    เพราะอยากกันเงินไปเที่ยวค่ะ แต่แหมมาคิดดูแล้ว    อยู่ปารีส  ไม่สนใจแฟชั่นเลยนี่มันเหมือนใกล้เกลือกินด่างจริงนะคะ    แต่ความที่อยากเที่ยวมากกว่าอยากสวย  เลยตัดใจได้  หุหุหุ เวลาไปเที่ยว   ก็พยายามไปรถไฟเที่ยวกลางคืน   จะได้ไม่ต้องเสียค่าที่พัก ถ้าต้องค้างคืนที่ไหน   ก็ไปพักแต่ที่บ้านเยาวชนเท่านั้น    เวลาหิว  ก็ซื้อขนมปัง กะ ชีส และผลไม้ ไม่ทำแบบนี้ก็อดเที่ยวค่ะ   เพราะไม่มีเงินถุงเงินถังให้ใช้ จากคุณ : ป้าค่ะ (ป้านี่เอง) เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 53 10:19:42

ความคิดเห็นที่ 3   เราว่าเรื่องกินไม่ค่อยเท่าไรนะ ส่วนตัวเราเป็นคนที่สนับสนุนการกินอยู่ทีดี ยิ่งมาอยู่ไกล ๆ บ้าน จะให้มาอด ๆ อยาก ๆ ได้ยังไง นักเรียนไทยส่วนใหญ่ที่เห็น ๆ มา ปัญหาของเค้า คือ ติดของแบรนด์เนมค่ะ ใช้เงินกันยั่งกับเบี้ยเลย ขนาดเราว่าเรารายได้เยอะกว่าพวกเค้า เรายังไม่กล้าใช้เงินแบบนั้นเลยอ่ะ จากคุณ : Lilac Girl เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 53 10:22:54

ความคิดเห็นที่ 4   อันนี้อเมริกานะคะ ของเราซื้อเสื้อผ้าที่ Goodwill ค่ะ มือสองก็จริง แต่แบรนด์ดีๆ หลุดมาเยอะเหมือนกัน เช่น กางเกงขาจัมป์ Aeropostale อันนี้สามเหรียญห้าสิบ เสื้อยืดพิมพ์ลายของ Mudd สองเหรียญ กางเกงสามส่วนของ Mossimo สามเหรียญ เคยซื้อบูท columbia คู่ละร้อยกว่า ได้ในราคาเจ็ดเหรียญก็ที่นี่ล่ะ เสื้อผ้าอื่นๆ ก็ตัวละสองสามเหรียญ บางตัวยังมีป้ายราคาอยู่เลย ถ้าอยากได้ของใหม่ปิ๊งๆ แบบถูกเว่อร์ ก็ไปตามพวก Ross หรือ TJ Max หรือถ้าอดใจไว้ช็อปหลัง Thanksgiving หรือหลังคริสต์มาสได้ก็จะได้ของเหมือนได้เปล่าเลยทีเดียวเชียวค่ะ ส่วนอุปกรณ์การเรียนก็พอหาได้ที่ร้านเหรียญเดียวทั้งหลาย หรือไม่ก็ตอนที่ office depot ลดราคา ยกเว้นพวก textbook นี่ล่ะ ถ้าหาทางอีเบย์หรืออเมซอนไม่ได้ก็ซีดเหมือนกันค่ะ ส่วน textbook เก่าๆ ก็เอามาแปะขายเอง ไม่ขายให้มหาลัย เพราะขายเองได้ราคาดีกว่า กับข้าว ถ้าทำกินเองได้จะประหยัดที่สุด เหมือนทึ่คุณน้ำเต้าหู้กับคุณจอมยุทธ์ว่าไว้ ทำเป็นถุงๆ แล้วแบ่งอัดช่องแข็งเอาไว้เป็นมื้อๆ จะกินก็เอาลงมาอุ่น แล้วถ้าใครที่ติดแอลกอฮอล์ หรือบุหรี่จะเปลืองมาก แนะให้เลิกเสียดีกว่าค่ะ จากคุณ : crazyfantasy เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 53 10:40:33

ความคิดเห็นที่ 5   มีคนถามเรื่องสอบ ไอเอลทางหลังไมค์ เลยเอาลิ้งค์มาให้ที่นี่เลย  เรียนภาษาฟรี แบบประหยััด เสียแค่ค่าไฟ http://www.youtube.com/watch?v=3xw2APshJCY&feature=PlayList&p=EEA0D5FA42DB4C58&index=0&playnext=1 ขอบคุณ คุณ Jennifer ESL ค่ะ ได้ไอเอล 7 จากคนนี้แท้ๆเลย ใครดูแล้วรบกวนไปโพสให้กำลังใจคุณครูด้วยค่ะ คุณครูอุตส่าห์อัพโหลดให้พวกเราดูฟรีๆ แก้ไขเมื่อ 07 มี.ค. 53 10:50:46 จากคุณ : จอมยุทธสุดอึ๋มส์ เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 53 10:49:08

ความคิดเห็นที่ 6   - ไม่ติดการพนัน - ไม่ติดเที่ยว - ไม่ติดดื่ม - ไม่ติดหญิงหรือชาย - ไม่เป็นคนหน้าใหญ่ - ไม่เป็นคนเห็นช้างขี้ขี้ตามช้าง แค่นี้ก็ประหยัดไปได้มากโขแล้วครับ จากคุณ : ดอส เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 53 10:53:46

ความคิดเห็นที่ 7   เราห่อข้าวไปกินทุกมื้อ จนเพื่อนๆ ฝรั่งแซวว่าตั้งแต่เรียนด้วยกันมา ไม่เคยเห็นตังค์แกกระเซ็นแม้แต่เซ็นต์เดียวนะ เพราะพอถึงเวลาเบรคกินน้ำชากาแฟ เพื่อนๆ จะไปหยอดเหรียญซื้อกาแฟกัน แต่เราเอาน้ำเปล่ากรอกใส่ขวดไปกิน ห่อแซนวิช ผัดกับข้าวไปกิน ขนมก็ซื้อตอนซุปเปอร์มาร์เก็ตใกล้ปิด ขนมปังจะลดเหลือปอนด์ละห้าสิบเซ็นต์ ไก่ย่างครึ่งราคา ขนมเค้กเหลือสองเหรียญมั่ง เอามาแช่ตู้เย็น หั่นเป็นชิ้นๆ กินได้หลายวันอยู่ การเดินทางไปเรียน เราซื้อจักรยานแล้วขี่ไปโรงเรียน พบว่านอกจากประหยัดค่ารถแล้ว สุขภาพยังแข็งแรงขึ้นอีกด้วย อินเตอร์เน็ตใช้ที่ห้องสมุด ไม่เสียตังค์ เท่าที่นึกออกตอนนี้มีแค่นี้แหละ จากคุณ : โอ่งสุโขทัย เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 53 11:01:23 A:110.32.99.83 X: TicketID:188044

ความคิดเห็นที่ 8   อ่านอยู่ดีๆ เกิดสะดุดขำตรงนี้ของเจ๊ดอส "ไม่เป็นคนเห็นช้างขี้ขี้ตามช้าง" 55 จากคุณ : thaispicy เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 53 11:23:42

ความคิดเห็นที่ 9   เรื่องเตรียมอาหารไปเองนี่ป้ายังทำจนป่านนี้เลยค่ะ   ผลไม้   นม  เอาไปเอง   ซื้อบางอย่างเท่านั้น   บางทียังเอาข้าวโอ๊ตไปต้มในเตาไมโครเววฟที่ที่ทำงานเองเลย   ไม่เคยซื้ออาหาร  หรือ เครื่องดื่ม  หรือของขบเคี้ยวจากตู้ขายของเลยนะคะ   มันแพงเกินเหตุนะป้าว่า เมื่อก่อนซื้อแต่ผักผลไม้ที่ลดราคาเท่านั้น       เพิ่งมาซื้อของราคาเต็มบ้างเมือไม่นานมานี้เอง     แต่ปกติแล้ว  สองคนป้าลุงเป็นคนมัธยัสถ์ค่ะ     ไม่ลุ่มหลงเป็นทาสแบรนด์เนมเน่อ นี่ส่งลูกเรียนมหาวิทยาลัย   จะไ้ด้ปริญญาแล้ว   ลูกชายขวัญใจไม่เป็นหนี้ธนาคารเลยนะ แม้ว่าเขาจะได้ทุน    แต่ทุนตายตัว    ไม่ขึ้นทุกปีเหมือนค่าเรียน    เลยต้องควักกระเป๋าโขอยู่   ถ้าพ่อแม่ไม่เก็บหอมรอมริบมานานคงแย่เหมือนกัน แต่ไม่อยากให้ลูกเป็นหนี้หัวโต เรื่องซื้อของจาก Goodwill  หรือ จากร้านของ Salvation Army ก็เอาเหมือนกันนะคะ แต่เดี๋ยวนี้ขี้เกียจ    แม้แต่จ่ายตลาดก็นานๆไปที   ไม่ชอบเดินซื้อของเลย เสื้อผ้าก็ใส่เก่าๆที่มีจนมันขาด  ซ่อมไม่ไหวแล้ว จึงทิ้ง จากคุณ : ป้าค่ะ (ป้านี่เอง) เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 53 13:07:41

ความคิดเห็นที่ 10   พึ่งมาเรียนที่เมลเบิร์นได้เดือนนึงนะครับ ขอแชร์สำหรับใครที่มาเรียนที่ออสเตรเลียบ้างเท่าที่แชร์ได้ละกันครับ ลองฝึกการใช้eBay, Second hand market website จะช่วยในการเปรียบเทียบราคาของและประหยัดเงินไปได้เยอะเลยครับ หรือถ้าใครไม่ถนัดหาซื้อของผ่านเนท ก็ใช้วิธีไปดูพวกบอร์ดประกาศในมหาลัย ที่จะมีคนมาแปะขายของเก่า จะกลับประเทศตนเอง หรือ มีคนมาแปะเสนอซื้อของ ก็บางทีมีของดีๆหลุดออกมาให้คว้าไว้ได้ หรือบางคนจะใช้วิธีไปเดินตลาดนัดมือสอง ตลาดนัดเปิดท้ายตามวันหยุด (ถ้าอย่างที่เมลเบิร์นก็จะมี Camberwell market นั่งรถไฟจากตัวเมืองไปแค่15นาที ของหลายๆอย่างในห้องผมได้มาจากตลาดนี้ในสภาพยังดีอยู่ทั้งนั้น อย่างจอLCDที่ใช้อยู่ได้มาแค่ 3A$ = 90บาท เอง) แต่ทั้งนี้ต้องดูของเป็น และระวังพวกเครื่องใช้ไฟฟ้าช๊อตนะครับ เวลาซื้อพวกเครื่องทำความสะอาดร่างกายเช่นสบู่ แชมพู ครีมล้างหน้า โดยทั่วไปแล้วแพคเกจยิ่งใหญ่ ราคาต่อหน่วยยิ่งถูกครับ หรือบางทีมีแบบrefillใส่ซองใหญ่ๆ ก็ยิ่งถูกเข้าไปใหญ่ ดังนั้นถ้าชอบยี่ห้อไหนก็ซื้อครั้งเดียวเยอะๆ แล้วใช้นานไปเลย หรือจะแชร์กับเพื่อนแบ่งกันเอาไปใช้ก็ได้ เรื่องอาหาร ผมเจอบางร้านที่ใจดี เป็นร้านอาหารจีน เวลาสั่งจะได้ข้าวถ้วยนึงแล้วกับข้าวจานใหญ่ ก็จะใช้วิธีขอข้าวเพิ่มอีกถ้วยกินให้อิ่มไปเลยทีเดียว (ข้าวเขาให้เพิ่มฟรี หรือไม่ก็คิดเงินนิดหน่อย 2A$) ก็กินควบมื้อเที่ยงกับเย็นไปเลย การบริหารเงินก็สำคัญ หมั่นลงบัญชีรายรับรายจ่ายแยกประเภทเอาไว้ว่าในแต่ละอาทิตย์เราใช้จ่ายหมดเงินไปกับอะไรบ้าง แล้วสิ้นอาทิตย์ก็มาประเมินตนเองดูว่ารายจ่ายอันไหนจำเป็น อันไหนไม่จำเป็น เพื่อจะได้รู้สถานะการเงินตนเองแล้วรีบแก้ได้ทันท่วงที ลองใช้Excel fileที่ธนาคารกสิกรแจก หรือใช้ของธนาคารแห่งประเทศไทยก็ได้ครับ จากคุณ : EncodeO เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 53 13:56:28

ความคิดเห็นที่ 11   โหวตครับโหวต ขอให้ขึ้นกระทู้แนะนำนะ จากคุณ : Vantova เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 53 14:30:18

ความคิดเห็นที่ 12   เข้ามาเสริมอีกนิด เสื้อผ้าเรารอตอน final clearance แต่ประการเดียวค่ะ ล่าสุดได้ชุดนอนจากเดิมราคาสามสิบเหรียญ ลดเหลือแค่เจ็ดเหรียญกว่าๆ ลดแล้วลดอีกจนเหลือราคานี้ เพียงแต่ไซส์จะหายากหน่อย ไม่เหมือนตอนเพิ่งลดแรกๆ กางเกงสามสิบกว่าเหรียญก็เหลือสามเหรียญกว่าๆ ของใหม่ๆ ทั้งนั้น กางเกงใส่ทำงานของแฟนเรา (คุณแฟนปกติซื้อตอนลดยี่สิบเปอร์เซ็นต์ ตัวนึงตกสามสิบเหรียญ มาเจอยัยตึ๋งหนืดอย่างเรา รอจนเหลือเจ็ดเหรียญกว่าๆ ค่อยลุย แต่ต้องคุ้ยหาหน่อย) แล้วเราต้องแม่นเรื่องไซส์จริงๆ เพราะซื้อแล้วห้ามเปลี่ยน ห้ามคืน แคชเชียร์ที่คิดเงินเขาเอาปากกามาร์กตรงยี่ห้อไว้เลย กากบาทไว้ แล้วถามย้ำว่า รู้หรือเปล่าว่าของพวกนี้ห้ามเปลี่ยน ห้ามคืน เพื่อนคนจีนที่ชอบลุยหาของถูกด้วยกันยังว่าเลยว่า เขาว่าเขาซื้อของถูกแล้วนะ มาเจอเรานี่ยอมแพ้เลย อีกอย่างที่หลายคนยอมแพ้คือเขาว่าเราเดินเก่ง ไปที่ไหนๆ ก็เห็นเราเดินทั่ว ถ้าไม่ขี่จักรยานก็เดิน (ค่ารถมันแพง เสียดาย) อย่างบางทีต้องนั่งรถไฟไปอีกสถานีนึง เราก็เดินซะเลย ไม่ยอมขึ้นรถไฟ ก็มันแค่สถานีเดียว มีรองเท้าผ้าใบดีๆ (อันนี้ก็ไปซื้อตอนลดราคาที่เอ้าท์เล็ต เอายี่ห้อดีๆ หน่อย เพราะเรามันนักเดิน) ก็เดินออกกำลังไปในตัวได้แล้ว วันไหนเดินเยอะหน่อย กลับมาหลับสบายอีกตังหาก จากคุณ : โอ่งสุโขทัย เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 53 17:20:35 A:110.32.99.83 X: TicketID:188044

ความคิดเห็นที่ 13   ทำบัญชีครับ ทำแบบง่ายๆก็พอ เอาแค่ให้รู้ว่าเราใช้จ่ายอะไรไปบ้าง จะได้ควบคุมงบได้ และจะทำให้รู้ว่าจะต้องใช้เงินอย่างไรให้พอถึงปลายเดือน (จะได้ไม่ต้องกินมาม่า ฮ่าๆ) หลายคนอาจจะคิดว่าเสียเวลา แต่ถ้าบันทึกรายการเรื่อยๆ ใช้เวลาวันละไม่ถึง 3 นาทีหรอกครับ จากคุณ : ชื่อสำรองที่ 1 เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 53 17:38:06

ความคิดเห็นที่ 14   โหวตค่ะ จากคุณ : ปลาทูอยู่ในเข่ง เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 53 19:06:40

ความคิดเห็นที่ 15   http://www.bot.or.th/Thai/ResearchAndPublications/Others/Documents/Saving2553.xls เอาไฟล์Excel จากแบงค์ชาติมาฝากให้ดาวโหลดไปทำบัญชีง่ายๆกันนะครับ แต่มันเป็นภาษาไทย ไม่แน่ใจถ้าเครื่องใครไม่มี font/windows Thai จะใช้งานได้หรือเปล่า จากคุณ : EncodeO เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 53 19:26:47

ความคิดเห็นที่ 16   สบู่ แชมพู  ยาสีฟัน  free after rebate ตลอด ตาม walgreen cvs มีให้ใช้จนเอาไปบริจาคได้เป็นถุงๆ อาหาร  ก็กินเฉพาะที่เซล สัปดาห์ไหน ผักอะไรถูก  เนื้ออะไรลด  ก็กินนั่น เสื้อผ้า  ซื้อแบรนด์กลางๆ มือหนึ่ง แต่ส่วนมากไม่เคยเกิน $10 gap polo forever 21 คูปองทั้งหลาย  search แล้ว print ทิ้งไว้ในรถเป็นแฟ้มๆ บางทีซื้อของซุปเปอร์เกือบร้อยเหรียญ  จ่ายจริงไม่ถึง $20 เครื่องดื่ม  ซื้อขวดใหญ่  แล้วกรอกแบ่งใส่ขวดเล็กเวลาไปนอกบ้าน เครื่องเขียน เอาตลับหมึกพิมพ์ใช้แล้ว (ขอมั่ง  ซื้อจาก ebay มั่ง) ไปแลกเอาตาม office max, staples หนังสือเรียนซื้อจากเวบ จากคุณ : na na' เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 53 19:39:13

ความคิดเห็นที่ 17   ขอบคุณทุกๆคนมากๆเลยค่ะ  ที่มาช่วยกันแนะนำวิธีที่ถูกที่ควร วันนี้ เราเอาเว็บไซต์หาทุนมาฝาก http://www.scholarship-search.org.uk/pls/mon/hc_edufin.page_pls_user_studmoney?x=16180339&y=&a=220707 อยากได้ทุนเรียนอะไรที่ไหน ยังไง  หาเอาเลย เว็บนี้เพื่อนเราเป็นคนแนะนำให้เราใช้ตอนหาทุน บางทีอาจจะไม่มีทุน full แต่ก็มีทุน partial ซึ่งก็ช่วยประหยัดได้มากโข บางครั้งทุนยิบทุนย่อย  สี่ซ้าห้าร้อยปอนด์ ก็ถือว่าเป็นทุนเหมือนกัน กินไปได้ตั้งหลายเดือน จากคุณ : จอมยุทธสุดอึ๋มส์ เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 53 20:23:30

ความคิดเห็นที่ 18   เพิ่มเติม การสมัครเรียน บางครั้งการสมัครผ่าน agency ก็จะได้ลดราคานะคะ ของเรา ได้ลดไปตั้ง 1500 ปอนด์ เอาไอ้ 1500 ปอนด์นั้นน่ะ มาเป็นค่าที่พักได้ตั้งหลายเดือน   ถ้าสมัครเอง ก็จะไม่ได้ลดค่ะ เพื่อนๆน้องๆ ลองใช้อินเตอร์เน็ตให้เป็นประโยชน์ ดูข้อมูลเอเจนซี่ก่อนก้ดีค่ะ การจ่ายค่าเรียน บางมหาลัย ถ้าจ่ายสดครบครั้งเดียว ก็จะได้ลดอีก ประมาณ 5 % ก็เป็นเงินหลายร้อยปอนด์อยู่ ถ้าใครไม่มีปัญหาเรื่องเงิน แนะนำให้จ่ายไปเลยค่ะ เก็บส่วนลดไว้กินได้หลายเดือน จากคุณ : จอมยุทธสุดอึ๋มส์ เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 53 20:47:34

ความคิดเห็นที่ 19   ผมอยอเมริกาทำอาหารกินเอง ผมซื้อหมูและไก่ใกล้หมดอายุมากินประจำมันจะถูกมากๆ ซื้อหมูมาทำหมูกรอบ ไก่มาทอดทิ้งเอาไว้ แล้วแช่เย็น จะเก็บไว้ได้นานขึ้นอีก จากคุณ : หึบ เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 53 22:49:33

ความคิดเห็นที่ 20   #5 ขอบคุณมากเลยค่ะ ฟังง่ายมากๆเลย จากคุณ : Bluedonut เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 53 23:03:01

ความคิดเห็นที่ 21   ของผมตอนอยู่เมกานะครับ เรื่องอาหาร แล้วแต่คน ใครจะทำกินเองก็ได้ ประหยัดแน่นอน แต่ผมไม่ค่อยมี เวลาทำ การทำกินเองสำหรับผมทำให้ต้นทุนสูง ไหนจะเครื่องปรุง นู้นนั้นนี่   ผมเลยเน้นบุฟเฟต์อาหารจีนแบบตักใส่กล่องครับ ประมาณ $8 อัดเต็มกล่อง เน้นแต่เนื้อต่างๆ กลับบ้านไปหุงข้าวกินเป็นกับข้าว ได้เป็น 2-3 วันนะครับ หรือ Dollar meal ของ Mc พอประทังชีวิตได้ ไปพวกFast Food พวกกระดาษ ก็ิหยิบเอาไปใช้ที่บ้านได้ครับ มองๆหน่อย ไม่ให้น่าเกลียด ไหนจะ ketchup ช้อน ส้อม หลอด  ได้หมดครับ อยากหาของถูก ดูหนังสือพิมพ์วันอาทิตย์ มีPromotionเยอะ ตามมหาลัยมีแจกด้วย เครื่องEletronic อันไหนต้องใช้จริงๆ ซื้อไปใช้ แล้ว Refund ครับ ตอนนั้นผมซื้อ DVD-writer มาไรท์เกมส์ อุอุ หนังสือเรียน ซื้อที่ไทยครับ ให้พ่อแม่ส่งไปรษณีย์มาก็ได้ ศูนย์หนังสือจุฬาถูกมากๆ แต่ต้องดูว่า Class เค้าให้ใช้ International Edition รึป่าว ถ้า Open book ส่วนใหญ่ไม่ให้ใช้ครับ พวก Furniture ไปตาม Church ครับ ฟรีอยู่แล้ว ถ้าไม่คิดอะไร ดูอันที่สะอาดหน่อย ไป Friend Speak ที่ Church แล้วเค้าจะมีกิจกรรมบ่อยมาก กินฟรี เครื่องเขียนซื้อไปจากไทย เครื่องเขียนที่นู้นโคตรห่วยยย ของไทยดีที่สุด สำหรับคนบ้ารัก Condom ที่มหาลัยแจกฟรีนะครับ 555 แล้วก็ ไม่ดื่ม ไ่ม่สูบ ไม่ปาร์ตี้บ่อย แค่นี้ก็ประหยัดแล้ว แต่ส่วนใหญ่ทำไม่ได้ จากคุณ : เด็กปั๊มก๊าซ เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 53 23:06:15

ความคิดเห็นที่ 22   เป็นกระทู้ที่มีประโยชน์จริงๆ คะ ตอนนี้เราก็ยังเก็บตังค์ไว้ไปเรียนต่อที่อเมริกาอยู่ ถ้าได้ไปจริงๆ ก็คงต้องขอใช้หลักการประหยัดในกระทู้นี้แหละคะ จากคุณ : คนชื่นชอบนิยาย ^^ เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 53 23:46:40

ความคิดเห็นที่ 23   มาสนับสนุนการทำบัญชีค่าใช้จ่าย ละเอียดไม่ละเอียดบ้างก็อยากสนับสนุนให้ทำค่ะ ดิฉันทำบัญชีรายรับรายจ่าย ตั้งแต่ ม.ต้น เพราะครูให้ทำส่งเป็นการบ้านทุกวัน เลยติด พอ ม.ปลายต้องไปอยู่หอ อยากช่วยพ่อแม่ประหยัด ก็จะเลยทำต่อ ทำให้รู้ว่าเดือนนี้เรามีเงินเหลือหรือใช้เงินเกินเพราะใช้จ่ายอะไรไป ติดมาจนถึงทุกวันนี้ จนสามีชมเปาะว่าไม่เสียแรงที่แต่งงานกับอดีตสาวแบงค์ เราก็ทำง่ายๆ ค่ะแค่เก็บบิลของทุกๆ เดือนไว้ เช่นบิลเวลาไปจ่ายตลาด ซื้อซื้อผ้า อุปกรณ์ของใช้เครื่องจักรของสามี เช่นเวลาซ่อมเครื่องตัดหญ้าเป็นต้น อาหารสัตว์เลี้ยง แล้วไปรวมกับบิลที่หักอัตโนมัติในบัญชีธนาคาร จะได้รู้ว่าเงินหายไปไหนบ้าง เรากะสามีเป็นคนชอบทานปลาสดมากๆ อยู่ที่นี่ เราเองเป็นคนแนะนำสามีให้ไปซุปเปอร์มาเกตหนึ่งที่มีแผนกปลาสดคุณภาพดี ไปตอนห้างใกล้ปิดค่ะ ถ้าโชคดีจะได้ปลาก่อนหมดอายุหนึ่งวันในราคาประหยัดไปหกสิบเปอร์เซนต์มาทานเป็นมื้อเย็นกันวันนั้นเลย เช่นปลาแซลมอล หรือแมคคาเรล บางทีก็เทาต์บ้าง (เราอยู่เมืองไทยชอบกินปลาทู มาอยู่นี่กินแมคคาเรลแทน อิอิ) บังเอิญเทคนิคการประหยัดที่เราใช้เป็นสมัยเรียนมหาวิทยาลัยในไทยอาจจะใช้ในเมืองนอกไม่ได้ นั่นคือไปไหนไปกันแต่หารเพื่อนยิ่งเยอะยิ่งหารถูก แต่ต้องคนคิดเหมือนกันถึงจะไม่ทะเลาะกันค่ะ แต่ก็แชร์ๆ ไว้นะคะ จากคุณ : jjFR เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 53 23:52:55 A:83.197.21.41 X: TicketID:177306

ความคิดเห็นที่ 24   ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีดี เด็กนักเรียนอย่างผม จะเก็บเอาไปใช้ครับ จากคุณ : เถียร เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 53 00:15:25

ความคิดเห็นที่ 25   แชร์มั่งค่ะ.. เราพวกชอบแฟชั่นค่ะ แต่เน้นเซลล์เท่านั้น.. เมื่อก่อนเข้าไพรมารคแต่เดี๋ยวนี้ไม่แล้วค่ะ คุณภาพไม่ได้เลยจริงๆ รอช่วงที่เสื้อผ้าไฮสตรีทเซลล์ แล้วจะเจอของดี ถูกกว่าไทย คุณภาพดีกว่าแถมได้แฟชั่นที่นี่ด้วย แต่ต้องเป็นคนชอบคุ้ยนะคะ.. มาดูกันค่ะ ที่เคยช้อบมาได้ - กางเกงขายาวทำงาน Dorothy Perkins มา 2 ตัว ตัวละ 3 ปอนด์ แล้วขาห้าส่วน New look มาอีก 1 ตัว แค่ 4 ปอนด์ - ชุดว่ายน้ำ New look 1 ตัว 5 ปอนด์ - Legging New look 2 ตัว ตัวละ 2 ปอนด์ - รองเท้าคัทชู New look 2 คู่ คู่ละ 7 ปอนด์ - กางเกงนอน Diadora 2 ตัว ตัวนึง 2 ปอนด์ อีกตัวนึง 3 ปอนด์ - โค้ทผ้า Wool ของ Zara 13 ปอนด์ - ยีนส์ Zara 8 ปอนด์ และอื่นๆอีกมากมาย.. อเมซซิ่งไหมคะ.. รักอังกฤษที่สุดก็ตอนเซลล์ทั้งเกาะนี่แหละ..จุ๊บจุ๊บ... จากคุณ : Honey and Moonney เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 53 00:16:43

ความคิดเห็นที่ 26   Germany ขอแจม - เช็คราคาในเน็ตก่อนซื้อของ เช่นพวก amazon ebay กางเกงยีนส์ ลีวายแท้ๆ มือสอง 1-2 ยูโร หรือไม่เกิน 5 ยูโรรวมค่าส่ง - ไม่ต้องกินครบสามมื้อหรอก วันละสอง ก็พอแล้ว (ผมกินมื้อเดียว อิอิ ขี้เกียจทำ) - โทรกลับไทย VOIP, Skype เติมเงินที โทรฟรีไปนาน - ซื้อซิมแบบเติมเงิน ไม่จำเป็นก็ไม่ต้องโทร - วางแผนล่วงหน้านานๆ ราคารถไฟจะถูกมาก ผมเคยนั่งไปกลับเยอรมัน-ปารีส ค่าตั๋ว 60 ยูโร (ไม่ถึงสามพันบาท) - พกน้ำ ของกินจุกจิกในเป้ตลอดเวลา ไม่ต้องซื้อ แล้วมาบ้านก็กรอกน้ำจากขวดใหญ่ไปขวดเล็ก จากคุณ : เด็กสร้างบ้าน คนสร้างภาพ เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 53 01:16:33

ความคิดเห็นที่ 27   มาสนับสนุนด้วยค่ะ..แอบนึกในใจ ตอนนั่งอ่าน ว่า จกท.ประหยัดเก่งมาก เราไม่ถึงครึ่งเลย ดูแล้วเป็นวิธีประหยัด ที่ไม่เบียดเบียนตัวเอง และไม่ต้องให้ตัวเองทุกข์ด้วยอ่ะ เราใช้ตัวนี้อยู่เป็นปีแรก บางท่านคงมีแล้วนะ สมุดบันทึกรายรับรายจ่ายสำเร็จรูปของ ธนาคารกสิกรไทย ดาว์โหลดเวปนี้เลย ประมวลเสร็จสรรพแต่ละเดือน เอามาเผยแพร่ต่อ http://www.k-weplan.com/ArticleFree.aspx?articleid=945 (ขอบคุณธนาคารกสิกรไทย) จากคุณ : มาดามพันชั่ง รายจ่ายเยอะรอบเอว เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 53 02:03:25 A:41.233.70.143 X: TicketID:252605

ความคิดเห็นที่ 28   ขออณุญาตแซวหนู Honey and Moonney หน่อยนะคะ หนู Honey and Moonney ก็หนูหุ่นดีนี่จ๊ะ ไปคุ้ยอะไรในกองไหนก็ได้ไซส์ที่หนูใส่ง่ายๆน่ะสิจ๊ะ ส่วนพี่เนี่ยเน้นเตี้ยล่ำ เซลล์ทีก็ต้องสวดมนต์ภาวนากันหลายจบว่าขอให้มีไซส์จุ๋มจิ๋มหลุดรอดมาบ้าง ไม่งั้นก็เน้นแผนกเด็กล่ะจ๊ะ ถูกเหมือนกันนา ปล เมื่อไหร่จะมีส้มตำ หมอลำซิ่งให้ดูอีกล่ะจ๊ะ คิดถึงนะเนี่ย ลป ปีนี้อย่าลืมมารับต้นกระเพรา โหระพาไปเลี้ยงด้วยนะ พี่กะจะลงเมล็ดหัวไชเท้าและเมล่อนด้วยล่ะ อิอิ แก้ไขเมื่อ 08 มี.ค. 53 03:54:56 จากคุณ : หมูหนาว เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 53 03:53:04

ความคิดเห็นที่ 29   สวัสดีค่ะพี่หมูหนาว... แหมมีแซว.. แอบเขินนะเนี่ย..หุ่นไม่ดีหรอกค่ะ มาตรฐานไซส์ฝรั่งแต่หนูดู้มๆๆ ชนะเลิศค่ะ .. แต่รองเท้าเนี่ย หนูเชียร์ของ New Look เต็มที่เลยค่ะ ช่วงเซลล์อยู่ที่ 5-7 ปอนด์ ไม่ต้องไปขนจากเมืองไทยมาให้หนักมือ จากคุณ : Honey and Moonney เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 53 04:29:30

ความคิดเห็นที่ 30   กระทู้นี้เป็นกระทู้ที่มีประโยชน์มาก ๆ อยากให้น้อง ๆ ที่อยากมาเรียนต่างประเทศ ได้ศึกษากระทู้นี้และนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตของตัวเอง ส่วนตัวไม่มีโอกาสได้มาเรียนอย่างนี้หรอกค่ะ แต่ก็ได้เรียนบ้างตามแต่โอกาสและความเหมาะสมขึ้นอยู่กับความสะดวกของตัวเองและในหน้าที่การงานของคนรัก ปกติเป็นคนที่ชอบปลูกผักบ่อย ๆ และก็มีความสุขกับการได้เก็บผักไปแบ่งให้พี่ ๆ เพื่อน ๆ คนไทยที่มาเรียนต่างประเทศได้รับประทาน เพราะผักที่บ้านปลูกไว้เยอะ เก็บทานคนเดียวไม่หมด ก็เสียเปล่า ๆ เอาไปแบ่งคนอื่นดีกว่า เพราะมีหลาย ๆ คนที่ชอบผักที่ปลูกเอง อีกอย่างก็คิดเสียว่าช่วย ๆ กัน ปีนี้ก็ยังคิดว่าจะลงผักหลายอย่าง รอช่วงซัมเมอร์พี่สาวจะส่งเมล็ดมาให้ปลูกค่ะ โดยส่วนตัวชอบทานน้ำพริกค่ะ เวลาที่มีงานโอท้อปตามสถานที่ต่าง ๆ ในเมืองไทย พี่สาวจะไปหาซื้อน้ำพริกอร่อย ๆ และส่งมาให้ค่ะ ดิฉันเก็บผักที่ปลูกมาทานกับน้ำพริกบ่อย ๆ อร่อยมากๆ ค่ะ (ขอบอก) น้ำพริกก็ไม่ได้ทานคนเดียวหรอกนะคะ พี่คนไทยที่น้บถือมีน้ำใจให้ ดิฉันก็เอาไปแบ่งพี่เขาประจำค่ะ พวกยาแก้ปวดแบบไทย ๆ ยาหม่องยาหอมก็พี่ได้พี่สาวส่งมาให้ใช้ อาหารการกินปกติจะทำหม้อใหญ่ค่ะ ทานให้อิ่มและเก็บไว้ทานได้หลายวัน บางครั้งถ้าเพื่อนและผู้จัดการอยากทาน ก็ตักใส่กระปุกไปแบ่งเขาด้วย ถ้าช่วงฤดูร้อน ดิฉันชอบทำพวกเนื้อแดดเดียวเอาไว้ แล้วเอาไปแช่ช่องแข็ง เวลาหิวก็เก็บมาทอดรับประทานได้ ไปทำงานหรือไปเรียน จะห่อข้าวไปทานประจำค่ะ รู้สึกว่าตัวเองมีความสุขมาก ๆ ได้ทานอาหารอร่อย ๆ ที่ทำเอง แบ่งให้เพื่อนฝรั่งได้ทานด้วย เขาก็ชอบอาหารเรา เพื่อน ๆ บางคนก็ทำอาหารมาแบ่งปันกันทานบ้างตามแต่โอกาส ซึ่งแตกต่างจากสมัยทำงานที่เมืองไทย ไม่ค่อยได้ทำอาหารไปรับประทานเพราะบริษัทมีข้าวให้ฟรี อาหารต่าง ๆ ก็ถูกมาก ส่วนใหญ่จะซื้อเขาทาน แต่ที่นี่คงซื้อไม่ไหว เพราะหนึ่งไม่ชอบอาหารที่นี่ เนื่องมาจากไม่ค่อยถูกปาก สองชอบทานข้าวค่ะ ทานข้าวได้ทุกมื้อ น้ำพริกคลุกข้าวก็ทานได้ และการห่อข้าวไปทานถือว่าประหยัดไปอีกแบบ ดิฉันทำงานมาเกือบปี จำได้ว่าใช้เงินที่ทำงานไม่เกินสิบเหรียญเพราะเป็นคนไม่ชอบใช้เงินเวลาทำงาน ไม่ชอบพกเงินไปทำงานด้วย ถ้ามีอะไรต้องจ่ายก็รูดบัตรอย่างเดียว เพราะพกไว้ตลอด แต่เงินไม่ค่อยชอบพก สำหรับเสื้อผ้าเครื่องใช้ส่วนตัวแบบผุ้หญิง ๆ ส่วนใหญ่ก็มีซื้อบ้างตามโอกาส แต่ไม่บ่อย เพราะมีเสื้อผ้าที่ซื้อมาจากเมืองไทยอยู่เยอะ ยังทยอย ๆ ใส่อยู่เลย อันไหนใส่ไม่ได้ก็เอาไปบริจาคให้กู้ดวิลบ้าง หรือให้คนที่ยากไร้กว่าเรา เรื่องวันพิเศษต่าง ๆ ก็ออกไปรับประทานอาหารในร้านที่ชอบ เวลาอยากทานอะไรก็ซื้อทาน เพราะเราทำงานมาเหนื่อย การได้ทานอาหารดี ๆ ก็ทำให้เรามีความสุขไปด้วย การใช้ชีวิตค่อนข้างธรรมดาเรียบง่าย ไม่ได้ใช้ของหรูอะไร เกิดมาในชีวิตไม่เคยใช้หลุยส์ค่ะ แต่ก็มีกระเป๋าแบบที่คุณภาพดี ๆ อยุ่บ้าง ที่ราคาไม่แพงจนเกินไป เหมาะสมกับตัวเองมากกว่า ดิฉันชอบของที่มีคุณภาพและมีประโยชน์จริง ๆ ไม่จำเป็นต้องเป็นของแบรนด์เนม อันไหนดีก็ซื้อค่ะ อันไหนชอบถ้ามีกำลังพอที่จะซื้อก็เอาไว้ ไม่ได้ตามแฟชั่น ไม่ได้ตามใคร เวลาทำงานไม่ได้แต่งตัวหรู ใส่กางเกงยีนเสื้อยืดก็ได้แล้ว สบาย ๆ ไม่ชอบทำอะไรที่อึดอัด เวลาทำงานเสร็จก็กลับบ้าน เรื่องเที่ยวข้างนอกตามผับไม่เคยไปค่ะ เพราะไม่ชอบ เวลาอยากพบปะเพื่อนฝูงก็ทำอาหารที่บ้าน และเชิญเพื่อนมาทาน เพื่อนส่วนใหญ่ก็สลับกันจัดปาร์ตี้ที่บ้านเช่นเดียวกัน จะได้ไปเที่ยวไกล ๆ ก็ตามคนรักไปสัมนางานตามรัฐต่าง ๆ ถือว่ากำไรชีวิตไปอีกแบบ แต่ก็ไม่วายพกน้ำพริกและข้าวไปด้วย เกรงว่าเมืองอื่น ๆ อาหารเขาไม่อร่อย ๆ จะได้ไม่หิวค่ะ แหะ ๆ (ยกเว้นทริปที่ต้องบิน ไม่กล้าทำ กลัวถูกจับ) เคยได้ยินผู้ใหญ่บอกเสมอว่า "ถ้าอยากมีชีวิตที่ดี ต้องขยัน ประหยัด อดทนและต่อสู้กับสิ่งที่ลำบากให้ได้" ตอนนี้กำลังทำอยู่ค่ะ แหะ ๆ ขอเอาใจช่วยน้อง ๆ ที่เป็นนักศึกษาและทุก ๆ คนที่อยู่ต่างแดนค่ะ จากคุณ : roslita เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 53 07:07:31

ความคิดเห็นที่ 31   เราอยู่ญี่ปุ่นค่ะ บางทีก็ประหยัดเว่อร์เหมือนในเกมเปิดตำนานหนึ่งเดือนหนึ่งหมื่นเยนเลย ปลูกถั่วงอก เอามาผัดกับกะเพรากินเอง น้ำแกงเหลือ ก็เอามาคลุกข้าวกิน น้ำที่ต้มไข่แล้ว ก็เอาไปใส่อ่างไว้แช่อาบน้ำ บางทีแช่กลางคืนแล้ว ก็หาฟอยล์หาอะไรมาปิด ให้มันยังอุ่นๆ แช่ต่อตอนเช้าได้อีก แรกๆก็สนุกดี เหมือนไปแข่งเกมโชว์กับเค้าเลย แต่นานๆเข้าชักรู้สึกว่า มันลำบากเกินไปแล้ว ขอประหยัดแบบพอดีๆดีกว่า เพราะถึงประหยัดไป สุดท้ายพอสิ้นเดือนมา เรียนหนักๆ เครียดๆ ก็เผลอระบายความเครียดด้วยการช็อปแหลก เงินหายหมดซะงั้น อุตส่าห์เก็บมาตั้งนาน ฮะๆๆ ถือว่าแชร์ประสบการณ์ตลกๆแล้วกันนะคะ ไม่ได้ช่วยอะไรเท่าไร แหะๆ แต่ว่าทำกับข้าวกินเองเนี่ย ประหยัดได้มากๆจริงๆนะ มาอยู่ตอนแรกเราไม่ทำกับข้าวเลย เพราะทำไม่เป็น กินข้างนอกตลอด แต่พอลองทำกับข้าวดูเท่านั้นแหละ เห็นจำนวนเงินที่เหลือแล้วก็ตกใจ หลังจากนั้นก็เลยพยายามทำกับข้าวกินเองตลอด ถือว่าฝึกฝีมือไปด้วย เผื่อเรียนจบกลับไป ได้แต่งงานเป็นแม่บ้าน จะได้มีสเน่ห์ปลายจวักกับเค้ามั่ง ฮิฮิ จากคุณ : LittleCancer เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 53 18:54:02

ความคิดเห็นที่ 32   นอกเหนือจากประหยัดแล้ว ควรจะมีโอกาส ใช้เงินในการออกไปเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ เพื่อไปดู วิถีชีวิต กระบวรการคิด พิจารณาแยกแยะ อะไรคือความแตกต่าง ที่ทำให้ประเทศเค้าถึงเป็นประเทศที่เราเลือกที่จะมาเรียน มองหาสิ่งที่ดีของเค้ากับของเรา สิ่งที่ไม่ดีของเรากับของเค้า แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ พิพิธภัณฑ์ พยายามคิด อย่าหมกตัวแต่ในห้องเรียน หรือห้องสมุด เพราะถ้าไม่ออกไปไหนเลย อยู่เรียนที่เมืองไทยก็ได้ หมั่นหาประสบการณ์ หลากหลาย กว่าจะออกมาได้ทั้งที และที่สำคัญ จงอย่าลืมความตั้งใจ และนำกลับไปช่วยเหลือคนไทย ในส่วนที่เราพอจะทำให้ได้บ้าง ไม่มากก็น้อย และที่สำคัญๆๆๆๆๆ ที่สุดขอเน้น เอาไว้เลยนะ เพราะคนเราพอมันมาอยู่จุดนี้แล้วมันมักจะเกิดขึ้นตามมา คือ อีโก้ อย่าไปดูถูกคนไทยด้วยกันเอง จงทำความรู้สึกให้มันเหมือนก่อนที่จะไป แล้วสังคมไทยจะน่าอยู่ โชคดีนะครับ สำหรับน้องๆ ทุกคน จากคุณ : Mr.A เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 53 19:53:39 A:74.66.138.137 X: TicketID:194627

ความคิดเห็นที่ 33   ขออนุญาตนะคะ ขอร้องไว้แล้วว่า กระทู้นี้อย่าดราม่า อย่าลากเรื่องอื่นมาทำให้กระทู้นี้ต้องกลายเป็นกระทู้ทะเลาะกัน ถ้าอยากแขวะ กรุณาไปแขวะที่กระทู้ต้นเรื่อง ยินดีให้แขวะเป็นอย่างยิ่ง แต่กระทู้นี้ เราขอ จากคุณ : จอมยุทธสุดอึ๋มส์ เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 53 21:22:04

ความคิดเห็นที่ 34   แหม  ที่ประหยัดเนี่ย  ก็เก็บเงินไปเที่ยวค่ะ คืออะไรประหยัดได้ก็ไม่รู้จะฟุ่มเฟือยไปทำไม อยู่เมกานี่  ถ้าต้องซื้ออะไรราคาเต็มจะรู้สึกเขาจะงอก แต่ก็ออกไปนอกบ้าน  กิน เที่ยว  เล่น เมา ตามสมควร นอกจากไปเที่ยวทั้ง park ทั้ง พิพิธภัณฑ์ แกลลอรี่ events สารพัด ยังไปเป็นอาสาสมัครช่วยผู้อพยพมั่ง  ช่วยตามงานสัมมนาวิชาการ film festival  อะไรก็ไปช่วยมาแล้ว ได้ทั้งประสบการณ์ ได้รู้จักคนใหม่ๆ ได้เสื้อยืดเท่ๆ  ได้ดูหนังฟรี แถมยังบางทีก้ได้ช่วยทำให้คนไทยมีชื่อขึ้นppt ให้คนปรบมือขอบคุณ แต่กิจกรรมพวกนี้  เด็กไทยไม่มีสนกันหรอก ชวนก็ไม่ไป   แถมเรายังโดนคนไทยด้วยกันเองดูถูกอีกว่า   จบแล้วกลับไปเมืองไทย  มันไม่คุ้มที่ตะกายมาเรียนหรอกเธอ..! แต่ก็ยังสู้ต่อไป  ด้วยอีโก้ของเรานี่แหละ ไม่งั้นก็คงโดดเรียนไปแบกถาดกับพวกที่มาดูถูกเราแล้ว จากคุณ : na na' เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 53 22:03:01

ความคิดเห็นที่ 35   กำลังจะไปเรียนต่อที่อเมริกา ได้ประโยชน์จังเลยค่ะ จากคุณ : Anzopika เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 53 22:21:28

ความคิดเห็นที่ 36   สมันเรียนเมื่อนานมาแล้วซึ่งอาจจำได้ไม่หมด วิธีคือดิฉันจะืำ... - ทำอาหารทานเองหม้อใหญ่ๆแล้วค่อยอุ่นทาน เพราะสะดวกดี ไม่ต้องเก็บล้างหลายๆหน ประหยัดน้ำ ประหยัดไฟได้ และไม่เหม็นหัว เหม็นตัว เหม็นห้อง - ทานอาหารเที่ยงฟรีที่โบสถ์บ้าง - ใช้ facility ของมหาวิทยาลัยให้คุ้มค่าที่สุด เช่นไปห้องแลป ปริ้นงาน อ่านห้องสือที่ห้อง quiet room หรือห้องสมุดเป็นต้น - เดินให้มาก ๆ ประหยัดน้ำมันและได้ออกกำลังกายอีกทาง - ดูคูปองลดราคาสินค้าเป็นหลัก - ซื้อของหรือช้อปปิ้งลดราคา ร้านที่ชอบมากเพราะของถูกคือ แก็ปและโอลด์เนวี่ - ตะลุยการาจเซลล์กับคนจริตเดียวกัน ได้ของราคาถูกที่จำเป็นมาเยอะมาก - เที่ยวเมื่อมีตั๋วเครื่องบินราคาถูก - หมั่นสอดส่ายสายตาหางานในแคมปัส ดิฉันทำหมดทั้งที่ print shop และโรงอาหาร ชีวิตหลังแต่งงานก็คล้ายๆสมัยเรียน ประหยัดและจัดสรรเงินเป็นกองๆ แต่ยังไม่ได้ทำบัญชีจริงจังนัก นอกจากค่าใช้จ่ายหลักๆ เช่นค่าแก็ส ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าอาหาร ที่ได้บันทึกไว้เป็นประจำ กำลังจะเริ่มลงมือปลูกต้นไม้ ปลูกผักตามคุณ roslita แต่ดิฉันยังปลูกอะไรไม่ค่อยเป็นหรอกค่ะ ล่าสุดเพิ่งทำถั่วงอกตายไปเพราะอากาศเย็นเกิน เดี๋ยวอากาศอุ่นกว่านี้ก็จะลองใหม่ (อยากปลูกกะเพราแต่ไม่มีเม็ด) คงประหยัดเพิ่มได้อีกมากอยู่ จากคุณ : กระต่าย เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 53 23:22:22 A:96.226.27.254 X: TicketID:166635

ความคิดเห็นที่ 37   ไม่ดราม่า แต่เป็น โรแมนซ์ได้ไหมจ้ะ ตัวเอง  กั่กๆๆๆ 1. ร้าน 99P. ของบางอย่างดี แต่ส่วนใหญ่จะไม่ค่อยใช้งานได้นานครับ ต้องเลือกเป็น 2. ถ้าไม่สบายบ่อย กินยามาก พยายามขนมาจากเมืองไทย 3. ใช้โทรศีัพท์แบบเติมเงินจะดีกว่าครับ ของผมใช้ Lebara โทรนาที ละ 10p.สายในประเทศ ถ้าโทรกลับเมืองไทยใช้ International calling card เอา 4. เน็ทผมใช้แบบ 3G เดือนละ 15 ปอนด์ ที่เหลือใช้ที่มหาลัย 5. ไม่นิยมการไปเที่ยว จนกว่าภาระกิจที่ต้องทำเสร็จเรียบร้อย 6. อาหารกินนอกบ้านได้บ้าง ในยามเบื่อ แต่ต้องมีลิมิตให้ตัวเองด้วยว่า แต่ละมื้อไม่เกินเท่าไร 7. จะดื่ม ก็ดื่มเหมือนกัน แต่เลือกหน่อยครับ บางทีเบียร์ถูก อร่อยกว่าเบียร์แพง ถือคติดว่าดื่มไปก็เมาพอๆกัน ดื่มเบียร์แก้วละ 1.59 หรือไวน์ฝรั่งเศสขวดละ 17 ลงท่อลงกระเพาะก็เมาพอกัน จากคุณ : พัฒน์ เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 53 23:55:38

ความคิดเห็นที่ 38   เห็นด้วยเลยครับ กระทู้นี้ ชอบๆ ... ขอเสริมเรื่อง การเลือกเมืองที่จะมาเรียนก็มีส่วนสำคัญมากนะครับ ... ถ้าเลือกเมืองที่ค่าครองชีพถูกนี่ค่าที่พัก ค่าเรียน ค่าเดินทาง จะประหยัดลงไปมากกกกกกกกกกเลยทีเดียว ... ประหยัดลงไปครึ่งๆ เลยก็ว่าได้ครับ ... อย่างผม ปีที่แล้วผมอยู่ลิเวอร์พูล ปีนี้ผมย้ายลงมาอยู่ลอนดอน ... บอกได้เลยว่าค่าใช้จ่ายที่ลอนดอนแต่ละเดือนนี่ ผมใช้ที่ลิเวอร์พูลได้สองเดือนเลยครับ ... เป็นเช่นนั้นจริงๆ ... ดังนั้น คงต้องชั่งน้ำหนักเอาครับ ระหว่างความมีชื่อเสียงของมหา'ลัยในด้านที่จะมาเรียนกับค่าใช้จ่าย ... อันไหนจะดีสำหรับเรามากกว่ากัน ... สิ่งที่สำคัญที่สุดของการประหยัด ผมว่าต้องชนะใจตัวเองให้ได้มากกว่าครับ ... ถึงแม้หลายๆ คนจะรู้วิธีประหยัดอยู่แล้ว ... แต่ก็โดนกิเลสหลายๆ อย่างครอบงำ(อย่างเช่นผมป็นต้น กรั่กๆๆๆ) ... เสียเงินไปกับการตระเวนกิน ดื่ม ท่องเที่ยว และที่สำคัญเสียค่าดูบอลเป็นหลักเลยฮะ ... รู้ทั้งรู้ว่าฟุ่มเฟือย แต่ก็ห้ามใจตัวเองไม่ได้สักที ... แหะๆๆๆ ... พี่น้องไม่สมควรเอาเป็นเยี่ยงอย่างสำหรับการประหยัดนะครับ ...   แต่อย่างไรก็ตาม หากพอมีโอกาสและไม่ลำบากจนเกินไปนัก ผมก็แนะนำให้ออกไปเปิดหูเปิดตา ท่องเที่ยว หาประสบการณ์ใหม่ๆ ให้ชีวิตก็ดีเหมือนกันนะครับ ... เพราะผมคิดว่า วัตถุประสงค์ของการมาเรียนเมืองนอกที่สำคัญอย่างหนึ่งคือ การได้เปิดหูเปิดตา หาประสบการณ์ใหม่ๆ นี่ละครับ ... ถ้าคิดว่ามาแล้วเรียนๆ แล้วกลับบ้านอย่างเดียว ผมว่ามันคงไม่ต่างกับเรียนอยู่เมืองไทยเท่าไรนะครับ ... เพราะผมว่ามหา'ลัยในไทยบางแห่งคุณภาพดีกว่ามหา'ลัยที่นี่หลายๆ แห่งเสียด้วยซ้ำครับ ... อันนี้ไม่ได้เห็นแย้งกับเจ้าของกระทู้กับอีกหลายๆ ท่านนะครับ ... แค่กลัวว่าหลายๆ คนที่เข้ามาอ่านแล้ว จะมองกระทู้นี้เพียงแค่ด้านเดียว ... กลับไปตะบี้ตะบันประหยัด อยู่แต่บ้านช่องกับมหา'ลัยกันจนชีวิตไร้รสชาติกันไป ... ใช้เงินตามกำลังที่ตัวเองมี หรือใช้ชีวิตให้สมดุลระหว่างการประหยัดกับการเปิดหูเปิดตาก็จะเป็นเรื่องที่ดีที่สุดครับ ... สุดท้าย ก็ขอขอบคุณเจ้าของกระทู้และทุกท่านที่ช่วยเข้ามาแชร์ประสบการณ์การอยู่อย่างประหยัดให้ได้ทราบกันนะครับ ... ผมได้ความรู้ใหม่ๆ หลายอย่างจากกระทู้นี้เลยทีเดียว ... จำเอาไปใช้ได้เยอะเลยครับ ... :) จากคุณ : Akadej เขียนเมื่อ : 9 มี.ค. 53 01:56:32

ความคิดเห็นที่ 39   จะอยู่ที่ไหนก็แล้วแต่ จะประหยัดก็ประหยัดไป แต่อย่าทำต้องกระทบถึงความสุขของตัวเอง โอกาสไปอยู่ มีแค่ ไม่นาน เก็บเกี่ยวความสุขให้มากที่สุด แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ต้องใช้เงินให้ไม่เกิดปัญหา จากคุณ : acex เขียนเมื่อ : 9 มี.ค. 53 02:06:58

ความคิดเห็นที่ 40   เป็นประโยชน์ดีจังเลยค่ะกระทู้นี้ ^^ เราก็ทำเหมือนจขกท.หลายๆ ข้อเลยล่ะค่ะ แต่เราก็เห็นด้วยนะคะว่าบางทีน่ะ ถ้าเกิดจ่ายเงินไปเพื่อนแลกกับ "ประสบการณ์" น่ะ มันก็คุ้มค่านะคะ (แต่ก็ดูราคาให้เหมาะสมจะดีกว่าหนา) มาเรียนต่างประเทศทั้งที ก็อย่าเอาแต่อุดอู้เรียนอย่างเดียวเลย ไปเที่ยวให้รอบๆ เปิดหูเปิดตาดูอะไรต่อมิอะไร งานหรือกิจกรรมอะไรที่เข้าไปแจมได้ก็ลองเข้าๆ ไปดู สนุกและยังได้ประสบการณ์อีกต่างหาก อะไรที่ประหยัดได้ และควรประหยัด ก็ประหยัดซะ แต่สำหรับตัวเราเอง...เราก็จะมี "รางวัล" เล็กๆ น้อยๆ ให้ตัวเราเสมอค่ะ เราถือคติว่า ใช้ชีวิตให้คุ้มค่า เพราะชีวิตมันไม่ได้มีแค่ เรียน กับ ทำงาน นี่นา? :) จากคุณ : Mirah เขียนเมื่อ : 9 มี.ค. 53 05:19:31

ความคิดเห็นที่ 41   อ่ะ ให้ลิงก์อีกอันนึงสำหรับไว้ซื้อ textbook มือสองและมือหนึ่ง คิดค่า shipping เปรียบเทียบราคาตามเว็บขายหนังสือเรียนทั้งหลาย (Amazon, Half,...) ให้เสร็จสรรพ http://www.cheapesttextbooks.com/ ใช้มาตั้งแต่เรียนแล้วเว็บนี้ จากคุณ : NYgirl เขียนเมื่อ : 9 มี.ค. 53 06:12:11

ความคิดเห็นที่ 42   วันนี้มาเล่าให้ฟังว่า มีเพื่อนคนนึง จองตั๋ว megabus ไปกลับ ลอนดอน เอดินเบอระ ได้ในราคา 25 ปอนด์  ไปช่วงปิดอีสเตอร์ สุดยิดจริงๆ จากคุณ : จอมยุทธสุดอึ๋มส์ เขียนเมื่อ : 9 มี.ค. 53 07:18:26

ความคิดเห็นที่ 43   โหวตค่ะ! เห็นด้วยกับทุกๆเสียงถึงวิธีการเรียนนอกแบบประหยัด เพราะตัวเองก็เคยใช้วิธีคล้ายๆ กัน เช่น การซื้ออาหารจีนแบบ take-away แล้วแบ่งไว้กิน 2 มื้อ หรือ การทำงาน part-time ที่ร้านอาหารไทย นอกจากจะได้เงิน ได้ฝึกใช้ภาษาแล้ว ยังได้อาหารอร่อย (กว่าที่ตัวเองทำ) กลับมากินด้วยค่ะ ;>   แต่วิธีง่ายๆ ที่จะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้มาก คือ การสำรวจหาทุนการศึกษาฟรีต่างๆ ไม่ว่าจะของสถาบันหรือองค์กรต่างๆ เพราะนอกจากจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายของคุณพ่อคุณแม่แล้ว อาจจะได้ pocket money ไว้ใช้ส่วนตัวด้วย ซึ่งที่เห็นกำลังเปิดรับอยู่ตอนนี้ (ถึง15 มี.ค. 53) คือ ทุนการศึกษาของกสิกรไทยในและต่างประเทศ สนใจลองเข้าไปดูในลิงค์นี้ได้ค่ะ http://www.kasikornbank.com/TH/Careers/Pages/Detail_%20Capital.aspx จากคุณ : Hendon (Hendon) เขียนเมื่อ : 9 มี.ค. 53 07:40:11

ความคิดเห็นที่ 44   โหวตค่ะ! เห็นด้วยกับทุกๆเสียงถึงวิธีการเรียนนอกแบบประหยัด เพราะตัวเองก็เคยใช้วิธีคล้ายๆ กัน เช่น การซื้ออาหารจีนแบบ take-away แล้วแบ่งไว้กิน 2 มื้อ หรือ การทำงาน part-time ที่ร้านอาหารไทย นอกจากจะได้เงิน ได้ฝึกใช้ภาษาแล้ว ยังได้อาหารอร่อย (กว่าที่ตัวเองทำ) กลับมากินด้วยค่ะ ;>   แต่วิธีง่ายๆ ที่จะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้มาก คือ การสำรวจหาทุนการศึกษาฟรีต่างๆ ไม่ว่าจะของสถาบันหรือองค์กรต่างๆ เพราะนอกจากจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายของคุณพ่อคุณแม่แล้ว อาจจะได้ pocket money ไว้ใช้ส่วนตัวด้วย ซึ่งที่เห็นกำลังเปิดรับอยู่ตอนนี้ (บัดนี้ -15 มี.ค. 53) คือ ทุนการศึกษาของกสิกรไทยในและต่างประเทศ สนใจลองเข้าไปดูในลิงค์นี้ได้ค่ะ http://www.kasikornbank.com/TH/Careers/Pages/Detail_%20Capital.aspx จากคุณ : Hendon (Hendon) เขียนเมื่อ : 9 มี.ค. 53 07:43:17

ความคิดเห็นที่ 45   เห็นด้วยกับคุณ  acex คห 39 และ คุณMirah คห 40 ค่ะ ว่าไหนมาเมืองนอกแล้วก็ควรเที่ยวหาประสปการณ์ แต่เราก็มีวิธีเที่ยวแบบประหยัดค่ะ ของเรา ช่วงปิดเทอม เราก็เสริฟมันฟูลทามเลยค่ะ หาเงินไปเที่ยว โชคดีที่ร้านที่เราทำ ทำกับพวกนักเรียนฝรั่ง พวกนี้ พอปิดเทอมก็กลับบ้านที่ต่างเมืองกันหมด เลยมีชิฟท์ให้เราทำแทนเยอะเลย เราเลยได้หาเงินเที่ยว พอสักอาทิตย์สองอาทิตย์ก่อนเปิด ก็เที่ยวแหลกเลย แต่ส่วนใหญ่เราจะจองตั๋วรถล่วงหน้านานสองสามเดือน ตั๋วเลยได้ถูกมาก  บางแห่ง ถ้าไปเที่ยวกันเป็นกลุ่มกับเพื่อนๆ จะได้ตั๋วกรุ๊ป ก็จะราคาถูกกว่าไปกันแค่สองสามคน  ยกตัวอย่างเช่น ตั๋วรถเที่ยว new forest ราคาเหมาต่อวันอยู่ที่คนละ 9 ปอนด์ แต่ถ้าไปด้วยกันสี่คน จะอยู่ที่ ประมาณ 22 ปอนด์เท่านั้น กลายเป็นตกคนละ 5.5 ปอนด์เอง ( แต่ตอนนี้ไม่รู้ว่าราคาเปลี่ยนหรือยัง ) เพื่อนบางคน เช่ารถขับกันเลย ไปกันหลายๆคน บอกว่า หารค่าเช่ารถกับค่าน้ำมันออกมาแล้วถูกกว่าตั๋วรถไฟซะอีก แถมไม่ต้องไปหารถเมล์นั่งต่อด้วย เวลาหาที่พักก็พักพวก Youth hostel แบบห้องรวม เพื่อนผู้ชายบางคนใช้วิธีโบกรถ แต่วิธีนี้เราไม่แนะนำค่ะ เพราะไม่คุ้มค่าถ้าเกิดเราไปเจอเอากับคนไม่ดี ยังไงชีวิตเรา ก็ย่อมสำคัญที่สุด จากคุณ : จอมยุทธสุดอึ๋มส์ เขียนเมื่อ : 9 มี.ค. 53 10:13:38

ความคิดเห็นที่ 46   ทุนเพิ่มเติมจากคุณ hendon นะคะ ทุน MBA ของ ธ.กรุงไทยค่ะ http://www.ktb.co.th/th/career/scholarships_master.jsp เอามาจากพันทาว กระทู้นี้ http://www.pantown.com/board.php?id=52666&area=&name=board1&topic=17&action=view จากคุณ : จอมยุทธสุดอึ๋มส์ เขียนเมื่อ : 9 มี.ค. 53 10:49:18

ความคิดเห็นที่ 47   ตัวเองขา อยากประหยัดสุดๆ ต้องย้ายมาลิเวอร์พูลค่ะ กั่กๆๆๆๆๆ จากคุณ : พัฒน์ เขียนเมื่อ : 9 มี.ค. 53 11:21:33

ความคิดเห็นที่ 48   มีประโยชน์มากเลยค่ะ ขอบคุณค่ะ จากคุณ : tonpalmy เขียนเมื่อ : 9 มี.ค. 53 11:24:58

ความคิดเห็นที่ 49   สิ่งสำคัญที่สุด   ต้องมีสติ และลดความอยากได้อยากมีของตัวเองด้วยค่ะ บางคนเห็นเพื่อนนักเรียนคนอื่นมีไอ้นั่นไอ้นี่แล้วอยากหามาใช้ตาม   อย่าตามกระแส และอย่าใช้เงินเกินตัว ประหยัดกับวัตถุฟุ่มเฟือย แต่อย่าเขียมในเรื่องความเป็นอยู่ จากคุณ : MollyJinx เขียนเมื่อ : 9 มี.ค. 53 12:26:22

ความคิดเห็นที่ 50   Japan ( คิดถึงจัง >_< ) - ก่อนไป ให้เลือกอยู่เมืองที่ไม่บ้านนอกเกินไป (เฉาตายแน่ๆ >_<) และไม่ใช่เมืองใหญ่มาก เพราะค่าครองชีพต่างกันมากพอสมควร ในแต่ละเมือง เช่น ค่าเช่าบ้านของ Tokyo - 70,000 Yen แต่ของ Nagoya - 45,000 Yen - ก่อนไป ควรหัดทำอาหารง่ายๆไปบ้าง ใครขี่จักรยานไม่เป็น ก็ควรหัดไว้ ( จะมีไหมเนี่ย ? คนขี่จักรยานไม่เป็น อิอิ ) - หลังไปถึงแล้ว ให้เลือกเช่าบ้านโดยพิจารณาเงื่อนไขการประกันบ้านให้ดี ถ้ามีเวลาควรดูหลายๆที่ "ควรเลือกแบบเหมาจ่ายครั้งเดียว" ก่อนเข้าอยู่ กรณีที่เก็บค่าประกันบ้านสูง แต่กำหนดว่าจะมีการคืนเงิน หากไม่มีอะไรเสียหาย.....ก็ขอให้กรุณาทำใจไว้เลยว่า เงินจะไม่กลับคืนมาอย่างแน่นอน !!! เพราะเค้าจะหาเรื่องหักเงินคุณ จนหมดวงเงินเงินประกัน ( เราโดนไป 226,000 Yen เจ็บใจมากกกกกกกก ) - ขณะอยู่ที่โน่น อย่ามีข้าวของมาก เพราะเมื่อถึงเวลาย้ายออก และของพวกนั้นกลายเป็นขยะ ต้องเสียภาษีขยะด้วย สำหรับขยะขนาดใหญ่ ( พวกที่มีส่วนประกอบของ ผ้า นุ่น จะแพงมาก ) ถ้าจะขอให้รัฐมาเก็บไปทิ้ง รัฐก็มีบริการเก็บขยะชิ้นใหญ่ในราคาไม่แพง แต่มีบริการแค่เดือนละไม่กี่ครั้ง กำหนดวันที่ไว้ชัดเจน ซึ่งไม่สะดวกมากๆ และถ้าต้องใช้บริการของเอกชน ก็จะราคาแพงเหลือหลาย เช่น ที่นอน ตอนซื้อมา มีราคา 6,000 Yen ตอนทิ้งก็อาจมีค่าทำลาย 6,000 Yen เช่นกัน (-_-;) หรือตู้เสื้อผ้า ที่รุ่นพี่ยกให้ฟรีๆ แต่ตอนทำลาย เสียเงินไป 5,000 Yen ฯลฯ อะไรแบบนี้ -*- นักเรียนไทย มักแก้ปัญหาด้วยการ แอบเอาไปทิ้งในกองขยะของมหาวิทยาลัย อยากจะขอร้องว่าอย่าทำแบบนั้น เพราะจะโดนด่าไล่หลังมา ให้เสียหายต่อชื่อเสียงคนไทย -*- อย่าคิดว่าจะขายเป็นของมือสอง เพราะสมัยนี้ หลังจากรัฐออกกฎหมายเรื่อง รีไซเคิล, ภาษีขยะ ก็ไม่ได้เป็นไปง่ายๆ แบบประเทศอื่นๆ แล้ว - เสื้อผ้าฤดูร้อน ขนไปให้เพียงพอ, เสื้อผ้าฤดูหนาว ให้ไปหาซื้อเอาที่นั่น ตอนลดราคา (เพราะของเมืองไทย ทนอากาศหนาวๆแบบนั้นไม่ได้หรอก ) จากคุณ : จำฉันได้ไหม เขียนเมื่อ : 9 มี.ค. 53 15:02:59 A:192.168.2.28 X:115.31.138.44 TicketID:036500

ความคิดเห็นที่ 51   แชร์มั่ง ขอผมทำงานร้านอาหารไทยเลยค่อนข้างโชคดีหน่อย ได้อาหารกลับมากินทุกครั้ง แบ่งใส่กล่องมาเล็กๆ น้อยๆ ประมาณ 1-2 อย่าง เพราะต้องแบ่งกับคนอื่นๆ แทนที่จะกินได้แค่มื้อเดียว ผมจะเอาอาหารเหล่านั้นมาปรุงเพิ่มเติม ใส่เนื้อ ใส่ผัก ใส่เห็ด หรืออะไรก็ตามแต่ที่มีอยู่ในตู้เย็น เติมโน่น เติมนี่ลงไป แต่ไม่เสียรสชาตินะ กินได้หลายๆ มื้อ เลยครับ ที่สำคัญนะครับ นอกจากจะห่อข้าวไปกินโรงเรียนได้แล้ว ผมก็แพ็กกับข้าวใส่กล่องไปขายเพื่อนๆ ต่างชาติที่ U ครับ (งกไปไหมเนี่ย) พวกนี้ขี้เกียจทำกับข้าวอยู่แล้ว ขายพร้อมข้าวเปล่า ราคาถูกๆ $3-4 ก็พอขายได้ครับ  พอถึงสุดสัปดาห์ก็ไปตลาดหาซื้อพวกวัตถุดิบพื้นฐานมาเก็บไว้ เช่น เนื้อ เห็ด แครอท ผัก พริก เป็นต้น จากคุณ : Lukyim เขียนเมื่อ : 9 มี.ค. 53 17:34:27

ความคิดเห็นที่ 52   เรื่องดูมดูมนี่ สงสัยต้องท้าประชันก็คุณ honey mooney ซะแล้วฮ่าๆๆๆ จากคุณ : จอมยุทธสุดอึ๋มส์ เขียนเมื่อ : 9 มี.ค. 53 20:24:34

ความคิดเห็นที่ 53   แวะมาช่วยประหยัดเพิ่มเติม เรามีไฟล์ข้อสอบ IELTS ของเคมบริดจ์ เล่มม่วง 1-6 แก้ไข ไฟล์มันใหญ่มาก ส่งไม่ผ่านเมล เลยเอาลิ้งค์ที่โหลดมาให้ ปลอดภัย ไม่มีไวรัส ไม่เสียตัง http://www.megafileupload.com/en/file/204039/Cambridge-ielts-1-to-6-Series-With-Answers-zip.html แก้ไขเมื่อ 10 มี.ค. 53 04:53:15 จากคุณ : จอมยุทธสุดอึ๋มส์ เขียนเมื่อ : 10 มี.ค. 53 01:25:03

ความคิดเห็นที่ 54   โหวดค่ะ กระทู้ดีมาก ค่ะ เป็นประโยชน์ด้วย เราอยู่ USA ,North carolina ค่ะ มาอยู่ได้เกือบ สองเดือนแล้วล่ะ มีเงินเก็บ ที่เก็บจากสามีให้ซื้อของจุกจิก ประมาณ 300เหรียญ ของที่แพง เรายังไม่ได้ทำงาน และไม่อยากได้ของที่ไม่จำเป็นค่ะ ตอนมาใหม่ ๆ ที่นี้หนาว จะซื้อเสื้อหนาวตอนลดราคา 60-70% ค่ะ ตกรุ่นหน่อย แต่ถูก และอุ่นดี  ..ตอนนี้อากาศเริ่มร้อนแล้วเรา ส่งเสื้อผ้า รองเท้า ของเรามาจากเมืองไทย ก่อนที่เราจะมาที่นี่ ตอนนี้ ได้รับของครบแล้ว เฉลี่ยแล้วค่าส่งทางเรือ แค่ 5-6พัน แต่ถ้ามาซื้อที่นี่คงมากกว่านี้หลายเท่า และคงไม่ถูกใจ (ไม่โดนเปิดกล่อง และของครบค่ะ) ส่วนอาหารการกิน เราเป็นคนนิสัยเสีย ไม่ชอบกินของซ้ำ และ เลือกมาก  ไม่ชอบกิน ฟาดฟูด จะชอบกิน น้ำพริก แกงส้ม ปลาอาหารใต้ ผัก ก็เช่นกันก่อนเราจะมา  เราไปซื้อของกินที่เราจำเป็น พวกเครื่องแกงโลโบ้ เห็ดหอม น้ำพริก (ชอบของพันท้าย) ของแห้ง ส่งมาก่อนเลย ส่งทางเรือ ค่าส่ง 1500 บาท ถือว่าถูก เพราะเมื่อมาถึงที่นี้ ใกล้ ๆ ที่บ้านมีร้านเอเชีย แต่แพง และ พวกน้ำพริก ไม่อร่อย ไม่ถูกใจเรา ดีใจมากที่ส่งมาก่อน  (ไม่โดนเปิดกล่องค่ะ) ตอนนี้กำลังปลูกผัก สวนครัวอยู่ค่ะ ผักที่นี้แพงมาก ส่วนการซื้อของ ถ้าอยากกินผักจะซื้อร้านเอเชีย เพระาถูกกว่า พวกหมู เนื้อ ไก่ ซื้อตามซุปเปอร์ทั่วไป  ชอบกินปลา ก็จะซื้อตอน ลดราคาค่ะ ยังมีอีกหลายวิธีที่ประหยัดค่ะ รวยกันเร็ว ๆ น่ะค่ะ ทุก ๆ คน ว่าแล้วคิดถึงเมืองไทย 50 บาท กินส้มตำไก่อย่างได้ อย่างอิ่มเลยเนอะ จากคุณ : บาร์บี้vsนักกล้าม เขียนเมื่อ : 10 มี.ค. 53 05:41:15

ความคิดเห็นที่ 55   ที่ AUS. มีวิธีประหยัดอย่างไงบ้างคะ แล้วถ้าเรียนภาษา ทำงานพาร์ทไทม์ได้ป่าวคะ จะถูกจับเหมือนที่เมกาป่าวคะ จากคุณ : pos16 (phaunpos16) เขียนเมื่อ : 10 มี.ค. 53 17:29:45

ความคิดเห็นที่ 56   กระทู้นี้ดีมาก ผมพอประหยัดไปได้ พอสมควรทีเดียว คล้ายๆกับบางท่านในกระทู้นี้ เช่น คุณ : ป้าค่ะ (ป้านี่เอง) พูดถึง Salvation Army ผมไปซื้อของเก่าโดยการประมูลจากที่นี่เป็นประจำครับ เช่น เครื่องเสียงที่ค่อนข้างมีราคาเอามาขาย บางทีก็เป็นพันเหมือนกัน ตู้เย็นเครื่องซักผ้าที่ดีๆ เตา Glass top แทบจะไม่มีรอยราคาไม่เกิน $100.00 เป็นต้น Printer ที่ใช้ ก็เลือกได้ฟรีๆ (คนอื่นอาจจะเลือกไม่ได้) ผมเลือกเอาตามหมึกที่ได้มาฟรีๆ พอหมึกหมดก็โยนเครื่องทิ้ง หาเครื่องใหม่ที่มีหมึกอยู่แล้ว Desktop Computer เกือบฟรี มีราวสิบเครื่องที่บ้าน เครื่องดูดฝุ่นที่ใชการได้ก็ $10-15 แต่ตอนนี้เห็นได้ชัดว่าอเมริกากำลังน่าวิตกเพราะเห็นเก็บกันแม้กระทั่งขยะแล้ว คุณ : หึบ ซื้อหมูใกล้หมดอายุ ผมได้เปรียบพอสมควร เพราะฝรั่งที่ทำงานอยู่ Safe Way เอาของที่ใกล้หมดอายุมาให้ฟรีๆเป็นประจำ แม้กระทั่งข้าวสารที่หมดอายุ แต่ไม่ใช้มากเพราะกินเนื้อสัตว์คนเดียว ส่วนลูกชายหยิ่งเหมือนเดิม ห้ามเอาของพวกนี้เข้าบ้าน ก็ไม่ว่ากัน Mr A ผมขอคารวะ เคยเจอเหมือนกันนักเรียนที่มาเรียนที่เมืองเล็กๆแห่งหนึ่งนั่งเครื่องมาลงที่นั่นโดยตรง พอจบปับกลับปุบ ส่วนอื่นไม่ต้องเล่าต่อ คุณ : pos16 ต้องค่อยเป็นค่อยไปครับ ศึกษาลู่ทางดู รวมทั้งความเสี่ยง ผมเองยังเหนื่อยอยู่เลย เพราะต้องเรียนไม่ให้วีซ่าขาดในขณะที่มาอเมริกาด้วยเงินไม่ถึงพัน รายละเอียดคงไม่ต้องนะ นานมาแล้วนะ ค่าโทรศัพท์ ช็กกับ Vonage หรืออย่างอื่นดูนะครับ บัตรโทรศัพท์กำลังจะหมดยุค ขอบคุณ จขกท ที่ตั้งกระทู้นี้ขึ้นมา จากคุณ : อิสวาสุ เขียนเมื่อ : 10 มี.ค. 53 20:11:27 A:71.114.75.107 X: TicketID:146114

ความคิดเห็นที่ 57   เข้ามาแชร์ค่ะ จากฝั่งออสเตรเลีย แต่ขอออกตัวไว้ก่อนนะคะว่าวิธีมาเรียนแบบประหยัดนี้ไม่ได้ทำกันได้ทุกคน เพราะต้องมีทุนทรัพย์เยอะมาก แต่ประหยัดจริงๆค่ะ เรียนฟรีเลย อ่านจบแล้ว อย่ามาค้อนกันนะคะ สำหรับคนที่อยากให้ลูกมาเรียนที่ออสฟรี แต่ไม่มี Permanent Resident ทำ Business Visa มาอยู่ที่ออส เอาลูกทำวีซ่าติดตามมาอยู่นี่ ได้เรียนฟรีในโรงเรียนรัฐ ถ้ามีลูกหลายคนประหยัดค่าเรียนไปได้หลายอยู่ พ่อหรือแม่มาด้วย ไม่ต้องหา Gaurdian ไม่ต้องอยู่ Home stay หรือ โรงเรียนประจำ ประหยัดไปเยอะ ตอนแรกเคยเข้าใจว่า ถือ Business Visa ต้องมาทำธุรกิจเท่านั้น แต่คุยกับพี่คนนึง เค้าบอกว่า เอาเงินมาลงทุน Government Bond ก็ได้ (ดอกเบี้ยที่ออสดีกว่าไทยเยอะ อย่างน้อยๆ ก็ 4-5%) แต่เงินลงทุนต้องประมาณ 750,000 Aud คิดเป็นเงินไทยก็ ยี่สิบกว่าล้าน คนที่มีเงินขนาดนั้นอาจจะไม่ต้องมานั่งคิดว่าจะส่งลูกเรียนยังไงให้ประหยัดแล้วมั้งค่ะ เอามาเล่าให้ฟัง ขำๆ ได้สาระ แต่มีคนไทยมาแบบนี้จริงๆนะคะ จะว่าไปก็ประหยัดได้โข ถ้ามีเงินอยู่แล้วเอามาลงทุนที่ออสก็ได้ดอกผลดีกว่าทิ้งไว้ที่ไทย จากคุณ : Aunty Ann เขียนเมื่อ : 10 มี.ค. 53 21:23:08

ความคิดเห็นที่ 58   ผมอยู่อังกฤษนะครับ ผมลองมาหมดแล้ว ทุกวิธีที่สามารถโทรกลับไทยได้... ถ้ามาอยู่ถึงปี แนะนำให้สมัคร Skype ครับ โทรกลับไทย limited วันละ 5 ชม (ในเ็ว็บบอกว่า unlimited แต่มันจะมี fair use policy อยู่) สมัครแล้วไปซื้อโทรศัพท์ฺง่อยๆ เอาที่ถูกที่สุด พร้อมซิม ของเครือข่าย 3 ครับ ไม่ต้อง top-up มันจะสามารถใช้ skype ได้เลย ลองดูนะครับ เพราะตอนผมซื้อ ไม่ต้อง top up ตอนที่ซื้อ มือถือที่นี่ 30 ปอนด์ครับ ได้ซิมมาด้วย แล้วก็ใช้ skype ในเครื่อง โทรกลับไทยได้เลย ค่า Skype ตกเดือนนึงประมาณ 3 ปอนด์ (คิด rate 1 ปอนด์ = 50 บาท) แค่ 150 บาทเองครับ เผลอๆ ถูกกว่าเมืองไทยด้วยซ้ำ... แม้ว่าคุณกลับไทยไป คุณก็ยังใช้ได้ โดยโทรผ่านคอมครับ (ของผมสมัครรายปีครับ ตกปีนึง 35 ปอนด์ ซึ่งมันถูกกว่าสมัครเป็นเดือนๆ ครับ) การเดินทางในอังกฤษ สำหรับคนที่อยู่ลอนดอน.... (คนที่ไม่อยู่ก็ได้ครับ แต่อาจจะไม่ค่อยคุ้ม) จำกัดอายุที่ 16 - 25 ปี ครับ ค่าสมัครอยู่ที่ 26 ปอนด์ ต่อปีครับ ถ้าคุณเป้นคนเดินทางบ่อย ใน 1 ปี ค่าตั๋วที่ซื้อเพื่อเดินทางไปเที่ยวในที่ต่างๆ ราคาเกินกว่า 75 ปอนด์ สามารถสมัคร 16-25 card ได้ที่ สถานีรถไฟทุกที่ครับ บัตรใบนี้สามารถรับส่วนลด 1/3 ขอตั๋วเดินทางทั้งหมด ที่เป็นรถไฟ.... พิเศษ สำหรับผู้ที่อยู่ลอนดอน แล้วเดินทางโดยใช้ oyster card (ต้องไม่เป็น student  oyster card นะครับ) เอาไอ้ 16-25 card ไปใส่ข้อมูลใน oyster card ได้ที่สถานีรถไฟฟ้าใต้ดินทุกที่.... เมื่อคุณเดินทาง ไม่ว่าจะเป็นโซนไหนก็แ้ล้วแต่ ในหนึ่งวัน มันจะตัดสูงสุดที่ 5 ปอนด์ครับ.... ข้อสำคัญคือ ไม่ควรเดินทางในช่วง peak time คือช่วง 06.30-09.30 นะครับ เพราะตั๋วราคาแพงมาก.... อีกเว็บนึงที่อยากแนะนำ คือ http://www.moneysavingexpert.com ครับ แนะนำว่าให้สมัครข่าวสารผ่านเมล์เลยครับ.... มันจะคอยส่งส่วนลดมาให้เรื่อยๆ ประมาณ 10 วัน ทีนึงครับ มีประโยชน์มากๆ พึ่งมีโปรโมชั่น ตั๋วหนังทุกเรื่อง 1 ปอนด์ (แม้ว่าจะเป็น 3D ก็ตาม) ต้องรีบๆ กันหน่อยครับ :))) ถ้ามีอะไรอีก จะมาช่วยอัพเดทละกันนะครับ ;) แก้ไขเมื่อ 11 มี.ค. 53 04:39:55 จากคุณ : เหอๆๆ (ptnpark) เขียนเมื่อ : 11 มี.ค. 53 04:38:19

ความคิดเห็นที่ 59   เข้ามาเก็บเกี่ยวเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยเกี่ยวกับความประหยัด พร้อมแชร์ประสบการณ์ จากออสเตรเลีย 1. เสื้อผ้า ซื้อตอนช่วงลดราคาเหมือนกันค่ะ ตัวไหนชอบๆเล็งไว้เลย ลดราคาเมื่อไหร่เจอกัน ชอบของ valley girl บางตัวตอนไม่ลด 29.95$ ลดแล้วเหลือ 9.95$ จะจ่ายแพงกว่าทำไม 2. รองเท้า เราซื้อจากไทย เพราะถูกกว่าซื้อที่ราคากลางๆ ที่คุณภาพดีหน่อยใช้ได้หลายปี รองเท้าที่นี่แพงมาก แบบสวยๆราคาไม่ต่ำกว่า 20$ ตอนลดราคา ยังตัดใจซื้อไม่ลงเลย 3. อาหาร ทำงานร้านอาหารไทย ได้อาหารกลับบ้านบ้างแต่ไม่ทุกวัน วันไหนได้ก็แบ่งไว้กินได้วันสองวัน เวลาทำอาหารเองเราจะทำหม้อ(กระทะ)ใหญ่ แล้วแบ่งใส่กล่องใส กินได้สองสามวัน เวลาซื้อเนื้อหมู เนื้อไก่ หมูบด จะซื้อแพ็คใหญ่ แล้วแบ่งและห่อใน wrap ใส กะให้พอดีกับการทำอาหารครั้งหนึ่งๆ แล้วใส่ช่องแข็งไว้ สะดวกในการใช้ 4. ดูหนัง เราชอบดูหนัง ที่นี่ตั๋วหนังวันอังคารจะถูกกว่าวันอื่นๆ ก็ไปดูวันอังคารและอย่าลืมใช้บัตรนักเรียนด้วย 5. เที่ยวกลางคืน และการพนัน ห่างได้แค่ไหนยิ่งดี เพราะเป็นตัวการทำลายความประหยัด โชคดีที่เราและแฟนไม่ใช่คนชอบดื่ม และไม่สูบบุหรี่ ประหยัดไปได้โขเลย 6. เรียน เรากลับคิดว่าการได้มาเรียนเมืองนอกนี้ก็เป็นการเปิดหูเปิดตา และเรียนรู้วัฒนธรรมของประเทศนี้แล้วนะ ที่เราไปเรียนมีเราเป็นนักเรียนเอเชียนคนเดียวในห้อง การไปเรียนและพูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับเพื่อนๆในห้อง เราถือว่าเป็นการเปิดโลกทัศน์ของเราไปในตัว เพราะเพื่อนๆเราเป็นออสซี่ก็จริง แต่หลายๆคนไม่ได้เป็นโดยกำเนิดคือย้ายมาจากประเทศอื่น เช่น รัสเซีย เยอรมัน อังกฤษ เป็นต้น โรงเรียนเรามีการพาออกไปเที่ยวชมการทำงานจริงในอุตสากรรมสิ่งพิมพ์ และดูการทำงานจริงใน design studio อยู่เป็นประจำ มีการเชิญกูรูมาบรรยายในชั้นบ่อยๆ ที่อยากจะสื่อก็คือ การมาเรียนแล้วไปเรียนอย่างเดียวไม่ได้เป็นการสูญเปล่าเลยซะที่เดียว คนที่สมัครเรียนแล้วไม่ไปเรียนต่างหากที่จะเสียโอกาสตรงนี้ไป และอย่าลืมว่าการมาเรียนนี้เค้าไม่ได้สอนเราฟรีๆ แต่เราจ่ายเงินมาเรียน ดังนั้นการจ่ายเงินค่าเทอมแล้วไม่ไปเรียนเราถือว่าไม่เห็นคุณค่าของเงิน และเป็นการไม่ประหยัดเพราะเสียเงินเปล่า 7. เที่ยว เราไม่เที่ยวบ่อย เนื่องด้วยปัญจัยในด้านการเงิน และชั่วโมงการทำงาน แต่พอปิดยาวเราจะหาเวลาว่างขับรถไปต่างเมืองกับเตนท์คู่ใจ เครื่องนอนและอาหารแห้ง กลางวันก็ออกชมเมือง ชมอาร์ตแกลอรี่ แบกกล้องไปถ่ายรูปนั่นนี่ไปตามเรื่อง กลางคือก็กลับเตนท์นอน ช่วงไหนไม่ได้ไปไหนก็ไปทะเล เล่น surf กับเพื่อนสาวชาวญี่ปุ่นที่ทำงานด้วยกันไปตามเรื่องตามราว 8. เงิน การบริหารเงินแบบง่ายๆของเรา ร้านอาหารที่เราทำจ่ายเป็นอาทิตย์ พอได้เงินเราก็จะแบ่งเลยว่า นี่ค่าเช่าบ้าน นี่ค่าน้ำมันรถ นี่เงินเก็บ เหลือเท่าไหร่คือค่ากินกับช้อปเล็กๆน้อยๆ จากคุณ : TimePassBy เขียนเมื่อ : 11 มี.ค. 53 07:30:51

ความคิดเห็นที่ 60   ญี่ปุ่นอีกคนนะคะ (กลับมาได้สามปีแล้ว อยากกลับไปอีก) -ซื้ออาหารไปซื้อตอนกลางคืนค่ะ ที่ห้างเขาจะลดราคา ยี่สิบเปอบ้าง ห้าสิบเปอบ้าง อาหารที่นั่นเขาจะห่วงเรื่องคุณภาพมาก เพราะอย่างนั้น บางที เขาลดก่อนที่มันจะถึงเวลาอีก (หมายถึง ลดก่อนที่มันจะถึงกำหนดเสียจริงๆ) -บางอย่างร้านร้อยเยนก็ไม่ได้ถูกเสมอไป บางห้างช่วงลดราคาถูกกว่าร้านร้อยเยน -โค้กแท้ รสไม่เหมือนที่ไทยหรอกค่ะ กินโคล่ายี่ห้ออื่นก็แก้ขัดได้ -ถ้าทำงานพิเศษร้านอาหารจะสบายหน่อย บางทีอาหารที่เขาให้กินก็จะให้เอากลับมาได้ ตอนนั้นเราจะโกยข้าวเผื่อมื้อถัดไปเลยค่ะ พอดีว่า ทำส่วนครัวกะกลางคืน เลิกงานก่อนปิดร้าน(รถไฟหมดก่อน)ชม.นึง ยังไงเขาก็ทิ้งอยุ่ดี ก็เลยเอามาได้ -อาหารเหลือเราไม่ค่อยรังเกียจ ก่อนล้างจานก็เลยขอจากเจ้าของร้านมาเก็บไว้ค่ะ (ญี่ปุ่นเขามาคุยงาน สั่งอาหารพอเป็นพิธี บางทียกไปยังไง กลับเข้ามาอย่างนั้นเลย) -การอยู่หอ พยายามเลือกหอสำหรับนักศึกษาโดยเฉพาะ(เขาจะระบุไว้ ต้องเอาบัตรยืนยัน) เลือกอยู่หอในซอย เดินไกลหน่อย แต่ได้ราคาถูกกว่า มองในแง่ดีก็คือได้อยุ่เงียบๆไกลจากถนน เสียงไม่ดัง -อย่าลืมตรวจสอบเงื่อนไขการพักนะคะ เรื่องเงินประกัน ของเรา ตอนนั้นได้คืนทุกเยนเลย เพราะว่า ให้เพื่อนเช่าห้องต่อพอดี ไม่ต้องเคลียร์อะไรมาก -เฟอนิเจอร์บางอย่าง บางคนเขาจะวางทิ้งและแปะป้ายไว้ว่าฟรี ก็ขนมาใช้ได้ค่ะ นอกจากนี้ คบค้าสมาคมเพื่อนไว้เยอะๆ เวลาเขาย้ายบ้าน หรือเรียนจบ เขาจะโละมาให้เราเอง อิอิ -เวลาช็อปปิ้ง เลือกจากงานบาซ่าร์หรือฟลีมาเก็ต จะได้ของถูกมากๆและยังดีค่ะ (ญี่ปุ่นเขาใช้ของถนอมมากเลย มือสองแต่สภาพดีมากๆ) -อยากอ่านหนังสือ อ่านฟรีที่ร้านได้ค่ะ แต่ไม่ดีไม่ควรทำ -ร้านหนังสือ / ซีดี มือสองญี่ปุ่นเยอะค่ะ สภาพดีด้วย ถ้าไม่ได้ซื้อมาอวดใคร รอไม่นาน มันก็จะมาลงร้านมือสองค่ะ -การเดินทาง ตั๋วรถไฟมีราคาถูก ถ้าเกิดซื้อเยอะๆค่ะ (ซื้อสิบ แถมหนึ่งใบ) , เที่ยวไกลๆ ซื้อล่วงหน้ามีส่วนลดค่ะ -บัตรสมาชิกญี่ปุ่นส่วนมากสมัครฟรี สมัครไปเถอะค่ะ มันได้กลับมาจริงๆ ส่วนลดต่างๆ -ถ้าไม่เอาถุงที่ห้าง บางห้างเขามีใบสะสมแต้มจ้า เอาไว้สะสมเป็นเงินลดราคาได้ (แต่บางห้างเขาจะคิดเป็นเงินนะ แล้วแต่ที่) -กลับมาเรื่องอาหารอีกที ถ้ากินไม่หมดแช่ช่องฟรีซ แล้วค่อยเอามาเวฟได้ค่ะ -เราเคยหุงข้าวไว้ทีเดียวเยอะๆ แล้วใช้วิธีแบ่งใส่ถุงเข้าช่องฟรีซค่ะ เก็บได้ห้าวัน (วิธีนี้เอามาจากร้านอาหารที่ทำงาน แต่ส่วนมากเขาเก็บไว้วันเดียวค่ะ ถ้าเกินวันเขาจะทิ้ง ซึ่งตรงนั้นแหละ เราสามารถขอมาได้ทั้งก้อน เอามากินต่อ) -รับซื้อของให้เพื่อนค่ะ แต่ต้องไม่ใช่ของหนักอย่างพวกน้ำหรือข้าวสาร เพราะถ้ายอดการซื้อเยอะ เราก็ได้แต้มเยอะ ยังไงก็ต้องเดินไปซื้ออยู่แล้ว -หางานพิเศษที่คุ้มทำค่ะ โรงงานทำขนม หรือ ร้านอาหาร พวกนี้จะคุ้มกว่า ทำปั๊มน้ำมัน หรือร้านขายเสื้อผ้า (ยกเว้นคนชอบแต่งตัว เพราะพนักงานร้านจะได้ส่วนลดง่ายกว่า) -น้ำดื่ม ญี่ปุ่นกินจากก็อกได้ค่ะ แต่คนไทยบางคนอาจจะไม่ชิน แนะนำให้ต้มน้ำเอา แต่ว่าน้ำมันจะไม่มีธาตุอะไรเลย นานๆทีก็กินน้ำก็อกด้วย (ที่นั่นส่วนมากน้ำขวดเป็นน้ำแร่ค่ะ) คร่าวๆประมาณนี้ค่ะ นึกไม่ค่อยออกแล้ว แนะนำให้คบค้าสมาคมไว้เยอะๆจะดีเองค่ะ จากคุณ : bookalive เขียนเมื่อ : 11 มี.ค. 53 17:00:28

ความคิดเห็นที่ 61   มีประโยชน์จังเลยค่ะ ชอบๆ เรียนเมืองไทยนี่แหละแต่ต่างจังหวัด ก็พอจะได้ไอเดียบ้างค่ะ จากคุณ : harry_potty เขียนเมื่อ : 11 มี.ค. 53 22:59:37

ความคิดเห็นที่ 62   เข้ามาแชร์อีกรอบ สำหรับออสเตรเลีย ค่ะ พอดีเป็นแม่บ้านจอมประหยัดเหมือนกัน - ซื้อของในซุปเปอร์ เลือก Home Brand ของบางอย่างคุณภาพไม่ได้ต่างกันเลย จะจ่ายแพงกว่าทำไม ทั้ง เนย นม น้ำตาล แป้ง - ถ้าไม่ชอบ Home brand ไป Aldi ซุปเปอร์ค่ายจาก German ของเกือบทุกอย่างจะถูกกว่า Super ทั่วไป เพราะจะขาย Brand ของตัวเองเป็นส่วนใหญ่ แต่พวกของสดก็ถูกกว่าด้วย ข้อเสียคือ มีสินค้าให้เลือกไม่ครบ - ทานข้าว นอกบ้านแพง พยายามทำกินเอง หรือ ทำ Pack Lunch ติดไปกินที่โรงเรียน หรือ ที่ทำงาน - เครื่องดื่ม ซื้อ แพ็ค ใหญ่ๆ จะถูกกว่า ซื้อเป็นขวดพอดื่มมาก - พกขวดน้ำดื่มติดตัวไว้ ไม่ต้องไปหาซื้อเวลาออกไปข้างนอก น้ำที่เมืองนอก แพงค่ะ แต่บ้างที่มีก็อกให้ดื่มฟรี - สินค้าร้านจีน มีเปิดอยู่ทั่วไป ยังไม่เคยไปแถวไหนแล้วไม่เจอร้านจีน สินค้ามาจากจีน ขายถูกกว่าตามห้างร้าน คุณภาพ บ้างอย่างก็ ตาดีได้ ตาร้ายเสีย แต่ ของบางอย่างที่ขายในร้านจีน ก็ไอ้ยี่ห้อเดียวกับที่ขายในห้างบางห้างนั่นแหละ เช่น IN MY HOME กับอุปกรณ์ครัวบ้างอย่าง - Reject Shop ราคาพอๆกับร้านจีน อีกหนื่งทางเลือก ของมีหลากหลายจริงๆสำหรับบางคน ของบางอย่างคือ Junk แต่บางคนอาจเห็นว่า เป็น Value of Money อันนี้ก็ต้องเลือกดูนะคะ - Op Shop ร้านขายของมือสอง ส่วนใหญ่ที่เข้าไป ไม่ประทับใจสินค้าเท่าไหร่ มีอย่างเดียวที่เลือกซืัอติดมือกลับมาเกือบทุกครั้งคือ หนังสือมือสอง พวกตำราทำอาหาร สมัยรุ่นคุณยายยังสาว หาที่ไหนไม่ได้ เมนูแต่ละเมนูน่าทำกินทั้งนั้น สภาพก็เก่าแหละค่ะ แต่คุ้มค่า เล่มนึงไม่กี่เหรียญเอง - ของบ้างอย่างคุณภาพก็สำคัญ จ่ายแพงกว่าหน่อย แต่ใช้ได้นานกว่าก็คุ้มกว่า พวก ผ้าเช็ดตัว พรมเช็ดเท้า ซื้อถูกๆ ลงเครื่องซักผ้าแล้วใช้ได้ไม่กี่ครั้งก็มี ลองมาหมดแล้วค่ะ ตอนหลัง ของพวกนี้ซื้อแบบคุณภาพตอนลดราคาดีกว่า - Outlet ทุกอย่างลดราคา เลือกพวก Clearance Item ประหยัดได้โข - ของสด พวกผัก ผลไม้ ต้องเลือกให้เป็น ตามร้านที่ดูเหมือนตลาด บางอย่างถูก แต่กระเทียมจากจีนเคยซื้อมาแล้ว แทบต้องทิ้งทั้งแพ็ค ข้างนอกสุกใส ข้างในตะติ๊งโหน่ง - ห้องเช่า Sub-Rent อาจแพงกว่า รวมกลุ่มเพื่อนๆเช่าเอง แล้วหารกันประหยัดได้ - ออกมาอยู่นอกเมืองหน่อย ค่าเช่าถูกกว่าในเมืองมาก ค่าเดินทางอาจไม่ต่างกัน ถ้าต้องซื้อตั๋วเดือน ตั๋วปี อยู่แล้ว - เที่ยว หาตั๋วถูกตอนมีโปรโมชั่น รวมกลุ่มเพื่อน เช่ารถเอง ถูกกว่าซื้อทัวร์ - ทำงาน วีซ่านักเรียนทำงานได้ ไม่เกิน 20 ชม. (อย่างถูกต้อง) เลือกทำงาน วันเสาร์ อาทิตย์ จะได้ค่าแรงแบบ Penalty Rate สูงกว่าปกติ ก็ทำได้แค่ 20 ชม. ก็เก็บชม.ไว้ทำงานที่ได้เรทค่าแรงดีกว่าสิคะ  หมายเหตุ: กรณีนี้ใช้ไม่ได้กับงานร้านอาหารไทย เพราะจ่ายเท่ากันเป็นกะ ไม่มี Award Rate ไม่มี Penalty Rate มีเรทเดียวสำหรับนักเรียนไทย - สุดท้าย อะไรประหยัดได้ก็ประหยัด แต่มาเมืองนอกแล้ว ควรมาเก็บเกี่ยวประสบการณ์ที่หาไม่ได้ในเมืองไทย ออกไปเปิดหูเปิดตา มีงาน Fair หรือ Exhibition อะไรน่าสนใจ ถึงต้องจ่ายค่าเข้า ก็ไม่ควรพลาดโอกาส ตามโบรชัวร์แจกสำหรับนักท่องเที่ยวมักจะมี Deal พิเศษสำหรับค่าเข้าสถานที่ต่างๆ แก้ไขเมื่อ 13 มี.ค. 53 21:18:50 จากคุณ : Aunty Ann เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 53 10:25:29

ความคิดเห็นที่ 63   อ่านจนจบเลย ขอบคุณครับบบบบ จากคุณ : Kk Rescue เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 53 19:40:52

ความคิดเห็นที่ 64   ตอนนี้ ถ้าเรียน undergrad น่าไปออสเตรเลียจริงๆค่ะ เพราะตอนนี้ที่อังกฤษคนที่มาเรียน ีndergrad ให้ทำได้แค่ 10 ชม.แล้ว ซึ่งจริงๆแล้วทำงาน 10 ชม เนี่ย ก็พอสำหรับเรา หรืออีกหลายคนที่ได้มีการเตรียมตัวเรื่องเงิน และเรียนหนัก แต่อาจจะไม่พอสำหรับคนที่มาเรียนภาษา และต้องการทำงานเพื่อผ่อนภาระค่าใช้จ่าย เช่น ค่าเรียน ค่าเช่าบ้าน แต่ถ้ามาเรียน post grad ยังทำ 20 ได้เหมือนเดิมค่ะ เพิ่มเติมคุณ Aunty Ann ทราบมาจากเพื่อนผู้ชายคนนึงที่เรียนภาษาอยู่ออสค่ะ เค้าไปทำงานโรงงานกะดึก  ได้ค่าแรงเท่าครึ่งของกะกลางวัน ก็ชั่วโมงละ  ทำอาทิตย์ละสองวัน ได้เงินเยอะเลย จากคุณ : จอมยุทธสุดอึ๋มส์ เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 53 21:04:23

ความคิดเห็นที่ 65   ไม่ใช่แค่เรียนเมืองนอกเท่านั้นนะ ที่ใช้เคล็ดลับประหยัดพวกนี้ได้ แม่บ้านไกลบ้านก็ใช้ได้เช่นกัน จะซื้อเสื้อผ้าก็ดูพวก clearance ก่อนเลย ได้ราคาถูกมาก บางทีสเวตเตอร์เหรียญเดียวก็มี จากคุณ : อาการเซ็งระยะสุดท้าย เขียนเมื่อ : 13 มี.ค. 53 13:39:50 A:68.151.12.183 X: TicketID:257835

ความคิดเห็นที่ 66   มีประโยชน์มากเลย ขอบคุณค่ะ จากคุณ : The Best of Me เขียนเมื่อ : 13 มี.ค. 53 15:52:53

ความคิดเห็นที่ 67   เข้ามาเก็บข้อมูล....เพียบเลย เยี่ยมจริงๆ จากคุณ : แมวพลุ้ย เขียนเมื่อ : 13 มี.ค. 53 17:35:23

ความคิดเห็นที่ 68   การเรียนรู้ทางลัดของเราอย่างหนึ่งคือเวลาไปซื้อของตามซุปเปอร์มาร์เก็ตให้เดินตาม(หรือสังเกตเอา)ว่าคุณยายฝรั่งซื้ออะไรกัน เพราะคุณย่าคุณยายเหล่านี้มักจะประหยัดแล้วเพราะฉะนั้นเขาจะซื้อของที่มีคุณภาพแต่ราคาประหยัด จากคุณ : Che cosa? เขียนเมื่อ : 14 มี.ค. 53 22:40:05

ความคิดเห็นที่ 69   ชอบกระทู้นี้จริง อยู่อังกฤษเหมือนกันครับ อยู่นอกลอนดอนก็ไม่แพงมหาโหดมาก โดยเฉพาะค่าเงินตอนนี้ :) เรื่องอาหาร ประหยัดก็ดีครับ แต่ก็ควรกินของมีคุณค่าและคุณภาพด้วย เรียนใช้สมองเยอะ อย่าทรมานตัวเองมาก ไม่คุ้มในระยะยาวครับ (มีตัวอย่างของเพื่อนกินวันละสองมื้อ ตอนนี้ต้องรักษาตัวอยู่เลย) ทำงานร้านอาหารไทย ได้กินอาหารฟรีๆ และได้เงินใช้ แต่ก็ต้องแลกกับเวลานอนดึกด้วย สำหรับคนทำตอนเย็น เลือกเที่ยงคืน กว่าจะเก็บร้าน ฯลฯ ปาไปตีสอง กว่าจะกลับบ้าน (เห็นเค้าเล่ากันมาอ่ะ) เสื้อผ้าไพรมาร์คมักจะเป็นตัวเลือกแรกเมื่อมาถึงใหม่ๆ (ยังทำใจไม่ได้กับค่าเงิน) แต่ตอนหลังก็จะเห็นว่าคุณภาพเป็นตามราคา ;) ร้านการกุศล อย่าง oxfam หรือ barnados คุ้มกว่า (โดยเฉพาะร้านหลัง) พวกชอบแบรนด์อาจได้ของแกลมๆราคาถูกเหลือเชื่อ หรือไม่ก็รอตอนลด 75% ตามห้าง รับรองว่าถูกกว่าเมืองไทยตรึม (แต่อาจไม่ได้มีตัวเลือกมาก) เรียนเมืองนอกทั้งที โดยเฉพาะยุโรป สนับสนุนให้เที่ยวบ้างครับ ไม่งั้นเสียโอกาสสุดๆ ตั๋วเครื่องบินถูกกว่าบินไปเชียงใหม่เสียอีก ประหยัดแต่ไม่ suffer นะครับ เพื่อนๆพี่ๆน้องๆ จากคุณ : iqueer (so straight) เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 02:00:16

ความคิดเห็นที่ 70   วิธีประหยัดมีเยอะจริงๆนะ แวงทำมาทุกวิถีทาง - -* - ทำกับข้าว ประหยัดได้มากมายจริงๆ ทำทีเดียว กินวันนี้พรุ่งนี้ (แต่ช่วงนี้บ้าทำเค้ก แอบมีเปลืองๆไปกับค่าส่วนผสม แต่ก็สนุกดี) - เดิน/จักรยาน หรือไม่ถ้าต้องใช้บัสก็ซื้อรายสามเดือน ไม่ก็ปีนึงไปเลย บัตรนักเรียนลดได้จากราคาจริงอีกโข - งานพิเศษ ถ้าได้ทำร้านอาหาร/ฟาสต์ฟูต แอบประหยัดได้จากสวัสดิการของที่ร้าน - ร้านมือสอง เว็บมือสอง ตลาดนัดขายของมือสองตอนเช้าๆ หนังสือพิมพ์ขายของมือสอง พวกฟรายเดย์แอด ฯลฯ ได้ของดีๆมาเยอะในราคาถูกมากก - เซลล์ทั้งเกาะอังกฤษ หรือ ตกรุ่น clearance ถูกจริงๆ - คูปอง-ออฟเฟอร์ ส่วนลดต่างๆจากโบรชัวร์ หรือ หนังสือพิมพ์ บางอย่างลดได้ลดดีจริงๆนะ - จองตั๋วล่วงหน้า เวลาไปเที่ยวไหนๆ ประหยัด แล้วก็เอาเงินที่เหลือไปเที่ยว ไปดูโลก หาอะไรใส่สมอง สั่งสมประสบการณ์ ชีวิตก็มีความสุขละ :) แต่ขออย่างเดียว ประหยัดได้ แต่อย่า งกและเป็นขโมย เลย - -* ประสบการณ์ตรง รู้จักคนที่ไม่ทำไรเลยนอกจากทำงานๆๆ เรียนหนังสือ ทำงานๆๆๆ แค่นั้น ไม่เคยไปไหน ไม่เคยไปเที่ยว ไปลอนดอนยังไม่ไป ทั้งๆที่ก็อยากไปแต่ก้กลัวเปลืองตังค์!! (เมืองที่แวงอยู่มันไม่ไกลจากลอนดอนเล้ยยยย ค่ารถไฟจองดีๆ ไปกลับ 6 ปอนด์เอ๊ง) ไม่เคยกินข้าวนอกบ้าน ไปเที่ยวน้อยมาก ถ้าไปจริงๆก็ไม่ซื้อเครื่องดื่ม -*- คืองกอ่ะ มันก็ไม่ใช่ตังค์แวงหรอกนะ แต่แบบ เฮ่ยยย เกินไป ที่รับไม่ได้สุดๆ -*- จิ๊กของใช้จากที่ทำงาน เล็กๆน้อยๆ ทิชชู่บ้าง เครื่องดื่มบ้าง เห็นแล้วมันอนาถอ่ะ ทำบ่อยก็เคยตัวเป็นนิสัย ไม่ว่าของเล็กน้อยหรือชิ้นใหญ่ มันก็เรียกว่า ขโมยน่ะล่ะ อนาถ.. จากคุณ : สะบะละเฮ่ยแจงแวง เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 53 07:36:24