ความคิดเห็นที่ 1 อย่าทำธุรกิจเลยค่ะไม่คุ้มนะค่ะพวกเงินก้อนสุดท้ายแนะนำให้ทำประกันชีวิตแบบ ออมทรัพค่ะเขาจะจ่ายคือให้ทุกปี ดิฉันทำ 10 ปีคืนปี่ละ 4000 บาทนะค่ะ ทำ 100000 บาท ค่ะ พีค่ะ 3-4 แสนปอนคูณ 70  21 ล้านนะค่ะพี ไม่ต้องกลัวค่ะกินทั้งชาติอยู่เมืองไทยก็ไม่หมดแต่ลงทุนหมด ค่ะแนะนำไปซี้อปลูกผักปลูกต้นไม่้ไปขาย ก๊อก ๆ แก๊กๆไปเถอะค่ะลงทุนเจ๊งแน่นอนอายุมากแล้วด้วย ไม่คุ้มค่ะ เหลือเวลาไม่มากพักผ่อนดีกว่าค่ะเงินทองของนอกกายเก็บไว้ใช้ดีกว่าค่ะไม่หมดหรอก ค่ะพี รับรอง ทำประกันสุขภาพ มีเยอะแยะของ aia ก็ดีค่ะ พีคิดดูอะไรๆ เมืองไทยก็ถูกปลูกเองยิ่งถูก แนะนำเพราะสามีเพือนก็เป็น อังกฤษเขาก็ให้ภรรยามาซี้อทีเป็น 100 ไร่เลยค่ะแล้วให้เขาเช่าทำนา ปลูกผักบ้างอะไรไปตามเรือง เลี้ยงปลาขายบ้างกินบ้าง ก็อยู่ได้แล้วค่ะสมัยนี้ไม่มีหนีก็พอ อย่ารวยมาก โจรมันเยอะคะ เอาเวลาท่องเทียวดีกว่า วิชาความรู้มีการลองไปเป็นครูตามมหาวิทยาลัยก็ได้ค่ะอาจารย์พิเศษนะอย่าลำบากเลยค่ะฝรั่งโดนคนไทยโกงเยอะแยะหนังสือพิมพ์ก็ลง สรุป เก็บเงินไว้ใช้ดีกว่านะค่ะถ้ามาเมืองไทย จากคุณ : แป้งตัวเล็ก เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 53 00:10:55

ความคิดเห็นที่ 2 อย่าทำธุรกิจเลยค่ะไม่คุ้มนะค่ะพวกเงินก้อนสุดท้ายแนะนำให้ทำประกันชีวิตแบบ ออมทรัพค่ะเขาจะจ่ายคือให้ทุกปี ดิฉันทำ 10 ปีคืนปี่ละ 4000 บาทนะค่ะ ทำ 100000 บาท ค่ะ พีค่ะ 3-4 แสนปอนคูณ 70  21 ล้านนะค่ะพี ไม่ต้องกลัวค่ะกินทั้งชาติอยู่เมืองไทยก็ไม่หมดแต่ลงทุนหมด ค่ะแนะนำไปซี้อปลูกผักปลูกต้นไม่้ไปขาย ก๊อก ๆ แก๊กๆไปเถอะค่ะลงทุนเจ๊งแน่นอนอายุมากแล้วด้วย ไม่คุ้มค่ะ เหลือเวลาไม่มากพักผ่อนดีกว่าค่ะเงินทองของนอกกายเก็บไว้ใช้ดีกว่าค่ะไม่หมดหรอก ค่ะพี รับรอง ทำประกันสุขภาพ มีเยอะแยะของ aia ก็ดีค่ะ พีคิดดูอะไรๆ เมืองไทยก็ถูกปลูกเองยิ่งถูก แนะนำเพราะสามีเพือนก็เป็น อังกฤษเขาก็ให้ภรรยามาซี้อทีเป็น 100 ไร่เลยค่ะแล้วให้เขาเช่าทำนา ปลูกผักบ้างอะไรไปตามเรือง เลี้ยงปลาขายบ้างกินบ้าง ก็อยู่ได้แล้วค่ะสมัยนี้ไม่มีหนีก็พอ อย่ารวยมาก โจรมันเยอะคะ เอาเวลาท่องเทียวดีกว่า วิชาความรู้มีการลองไปเป็นครูตามมหาวิทยาลัยก็ได้ค่ะอาจารย์พิเศษนะอย่าลำบากเลยค่ะฝรั่งโดนคนไทยโกงเยอะแยะหนังสือพิมพ์ก็ลง สรุป เก็บเงินไว้ใช้ดีกว่านะค่ะถ้ามาเมืองไทย จากคุณ : แป้งตัวเล็ก เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 53 00:11:46

ความคิดเห็นที่ 3 ลองเปิดหอ ให้เช่าแถวโรงเรียน หรือ วิทยาลัย ต่าง ๆ ไอ้ที่กะได้กำไรปีล่ะเป็นล้าน ๆ นี้มันคงหายากในยุคสมัยแบบนี้ เพราะแฟนคุณอายุก็ 55 แล้ว แล้วที่สำคัญตอนนี้ทำธุรกิจอะไรก็ไม่ค่อยดี ไม่ก็ให้เขาเช่า แฟลตที่อังกฤษไป ขายแต่บ้าน ส่วน เพนชั่น นั้น คนที่ประกอบธุรกิจส่วนตัว แบบนี้ถ้าไม่ส่งเงินออมก็จะไม่มีค่ะ แบบพ่อ แม่สามีดิฉันก็ไม่มีเช่นกัน(ฝรั่งเศส) จากคุณ : มนชิจัง เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 53 01:44:34

ความคิดเห็นที่ 4 ถ้าจะทำธุรกิจเมืองไทย แนะนำให้ไปอยู่อย่างน้อยซักปีสองปีก่อนเพื่อศึกษาลู่ทาง สร้างคนรู้จัก ต้องรู้จักคนนะทำธุรกิจเนี่ย แค่รู้จักไม่พอ มันขึ้นกะว่ารู้จัก*ใคร*ด้วย ที่แน่ๆว่าปีแรกเนี่ยอย่าไปลงทุนอะไรเด็ดขาดโดยเฉพาะพวกที่ต้องใช้เงินทุนสูง อย่างน้อยๆต้องดูก่อนว่าทนหรือปรับตัวอยู่ได้เปล่า ว่าเป็นอาจารย์สอนพิเศษอย่างที่ข้างบนว่าไว้ก็ไม่เลวนะ เดี๋ยวนี้เห็นสอนแบบนานาชาติภาษาอังกฤษทั้งหลักสูตรกันเยอะแยะ ว่าๆไปตอนนี้เขากำลังทะเลาะกันอย่างเอาเป็นเอาตายที่เมืองไทยน่ะ... จากคุณ : Overseas เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 53 03:07:55

ความคิดเห็นที่ 5 ที่อังกฤษมีประกันสุขภาพหรือป่าวค่ะ หรือว่ามีเมดิแคร์เหมือนออสเตรเลียไหม ถ้ามีก็อย่ายกเลิกนะค่ะ ถ้าป่วยแบบที่รักษาแพงในเมืองไทย ก็กลับอังกฤษไปรักษา เพราะตอนนี้พ่อเลี้ยงของเมย์ก็ทำแบบนั้นอยู่ แกอยู่เยอรมัน แต่กลับมาอยู่ไทยถาวรกับแม่ ตอนแรกแกก็จะยกเลิกประกันสุขภาพทั้งหมดของเยอรมัน แต่เราบอกว่าอย่า เพราะถ้าเกิดเป็นไรมาจะแย่ ทีนี้แกเป็นมะเร็ง แกก็กลับไปรักษาที่เยอรมัน ตอนนี้ก็รอตรวจทุกๆสามเดือน หกเดือน กลับมาตรวจที่ไทยได้ ไม่แพงเท่าไหร่ จากคุณ : สาวน้อยหนึ่งชั่ง เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 53 05:10:51

ความคิดเห็นที่ 6 เป็นทื่ปรึกษาของสำนักกฎหมายข้ามชาติได้นะ อย่าทำเลยธุรกิจ หากไม่แน่ใจ เงินก้อนสุดท้ายนี่ เขาไม่ลงทุนที่มีความเสี่ยงสูงเเล้วค่ะ ลองศึกษาเรื่องกองทุน ที่ไม่หวือหวา ที่มีปันผลทุก 3 เดือน 6 เดือนและ 1ปี เพราะส่วนหนึ่งของเงิน คุณต้องเอามาซื้อบ้าน ซื้อรถ ทำประกันสุขภาพ แล้วต้องมีค่าเดินทางท่องเที่ยวอีก เป็นดิฉันแฟลตที่ให้เช่าดิฉันจะไม่ขาย มันเป็นห่านเก็บไว้กินไข่ดีกว่า อย่างน้อยมีเหตุอะไรขึ้นมา เรายังมีเงินเข้ามาทุกเดือน แก้ไขเมื่อ 09 เม.ย. 53 06:49:42 จากคุณ : mrs.night owl เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 53 06:45:34

ความคิดเห็นที่ 7 เห็นด้วยว่าให้เช่าดีกว่าขาย มูลค่าอสังหาไม่ตกเร็ว ไม่เหมือนเงินสด แต่ถ้าขาย ฝากแบงค์ได้ดอกเบี้ยห้าเปอร์เซ็นต์ปีนึงก็ล้านบาทแล้ว พอใช้เหลือหลายนะ เราว่า แล้วค่อยหาลู่ทางอื่นไป เวลาอยู่เมืองไทยซื้อประกันสุขภาพของ bupa ไว้ก็ได้ คุ้มครองเฉพาะเวลาเป็นคนไข้ใน จ่ายเดือนละหลายพันบาทอยู่ แต่ก็คุ้มนะเผื่อเอาไว้ หากป่วยแบบ chronic ก็กลับไปรักษาที่อังกฤษแทน วีซ่าในช่วงนี้ที่ยังหางานทำไม่ได้ ขอได้สองแบบคือ วีซ่าอุปถัมภ์ภรรยา โชว์ว่ามีรายได้อย่างต่ำเดือนละสี่หมื่น หรือวีซ่าเกษียณก็ได้ เพราะอายุเกินห้าสิบแล้ว โชว์ว่ามีเงินฝากหรือเงินเกษียณเกินปีละแปดแสนบาท โชคดีค่ะ จากคุณ : ยุ้ยหัดเขียน เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 53 07:33:09

ความคิดเห็นที่ 8 ตอนนี้ดิฉันอยู่ไทยค่ะกับสามีและลูก อยู่ไทยจะเข้าปีที่ 4 แล้วค่ะ ทำธุรกิจส่วนตัวกับต่างประเทศแต่ใช้แรงงานคนไทยทำค่ะ ขอแนะนำว่าธุรกิจที่จะทำกับคนไทยนั้นคุณต้องศึกษาดีๆอย่างมาก เพราะมีเพื่อนชาวสเปนทำธุรกิจส่งออกพลาสติกกับคนไทยโดนโกงไปหลายล้านเหมือนกัน เขาเลยหันไปทำกับคนจีนแทน คนจีนขยันมากเรื่องธุรกิจ ถ้าเป็นตัวเรามีเงินพอที่จะลงทุนกับอะไรได้เราจะซื้อคอนโดตามหาดต่างๆค่ะ เพราะคอนโดที่นี่ประมาณ 1-2 ล้านบาท ห้องไม่ใหญ่มากพอให้เช่าให้ชาวต่างชาติเ่ช่าเราก็นั่งคอยเก็บเงินค่าเช่าแต่ละเดืิอนไป ห้องเราก็ได้เป็นของเราด้วยวันหนึ่งไม่มีเงินก็ขายได้เลือกทำเลดีๆหน่อย ก็ตกราวๆ 2-3 ล้่าน และที่นี่ประเทศไทยชาวต่างชาิตินิยมมาเที่ยวทะเลกันมาก ตอนนี้ค่าเงินปอนด์อยู่ที่ 1 ปอนด์ เท่ากับ 50 บาทไทย ถ้า 400000 ปอนด์ก็ราวๆ 20,000,000 ล้านบาทไทย ถ้าใช้เงินไม่เป็นนี่หมดได้เหมือนกันนะคะ ยิ่งมาเมืองไทยอันนี่ก็ถูกอันนี่ก็น่าซื้อแสนหนึ่งหายวับไปในพริบตาเลยค่ะ คุณมาเริ่มต้นใหม่หมดที่นี่ใช่ไหมค่ะ ก็ต้องซื้อบ้านซื้อรถ บ้านที่จะซื้อเราจะอยู่เองแน่นอนเราต้องซื้อดีๆหน่อยบ้านดีๆสมัยนี้ก็ 4-5 ล้านขึ้น คุณตกแต่งอีกเท่าไรเงินที่เหลือมันก็จะลดลงต้องคิดดีๆก่อนใช้จ่ายอะไรถ้ามานี่แล้วพอจะถอยกลับมันยากนะคะ มีพี่คนหนึ่งเขาย้ายกลับมาอยู่ถาวรที่ไทยขายทุกอย่างที่ต่างประเทศหมด แต่เขาเลือกอยู่ต่างจังหวัดสร้างบ้านซื้อที่ดินใหม่หมดแล้วก็มาหัดเรียนนวดทำผมเปิดร้านที่ต่างจังหวัดพี่เขาก็ว่าลุ่มๆดอน ได้บ้างไม่ได้บ้างถามทีไรพี่เขาก็ว่าอยากกลับไปอยู่ต่างประเทศเหมือนเดิมค่ะ เพราะที่นี่ถ้าไม่ีมีเงินคืออยู่ไม่ได้เลยเจ็บป่วยไข้ ไม่มีงานทำก็ไม่มีรัฐคอยช่วยก็ต้องช่วยตัวเองหมด ส่วนงานสอนหนังสือก็ลองหาได้ค่ะแต่ค่าตอบแทนไม่ได้มากมายแถวๆบ้านดิฉันมีชาวต่างชาิติเป็นครูเยอะมากต่อเดือนของการเป็นครูก็ราวๆ 30000 อาจจะมากหรือน้อยแล้วแต่จำนวนวันที่เขาให้สอน แต่ชาวต่างชาิติที่อยู่นี่แล้วเป็นครูสอนภาษามีเยอะมากจริงๆค่ะ เพราะมันเป็นอาชีพที่ทำได้ง่ายที่สุดที่นี่ สามีคุณมีโอกาสได้เป็นอาจารย์พิเศษสอนกฏหมายก็ได้นะคะตามมหาลัยต้องลองหาสมัครดู อีกอาชีพที่น่าสนใจสำหรับสามีคุณคือเป็นที่ปรึกษากฏหมายให้ชาวต่างชาติที่อยู่ในไทยหรือที่จะเข้ามาทำธุรกิจในไทยแต่อันนี้ก็ต้องมาศึกษากฏหมายไทยเพิ่มเติมด้วยค่าตอบแทนงานนี้น่าจะดีค่ะ หรือไม่ก็จ้างนักกฏหมายไทยสักคนช่วยงาน อีกเรื่องหนึ่งเรื่องเจ็บไข้ได้ป่วยค่ะ โรงพยาบาลที่ที่แพงมากนะคะถ้าคุณคิดว่าจะใช้โรงพยาบาลเอกชน ถ้าคุณต้องนอนโรงพยาบาลที่นี่โรงพยาบาลเอกชนมีชื่อไม่ต่ำกว่าคืนละเกือบๆ 20000 บาทค่ะถ้าทำประกันได้จะดีมากค่ะ ลูกชายเพื่อนดิฉันป่วยตอนแม่พามาเที่ยวเมืองไทย ป่วยเป็นอะไรจำไม่ได้ต้องนอนโรงพยาบาลเอกชนไป 3 คืนค่าหมอค่ายาค่าห้องตกไปแสนกว่าบาทแพงมากค่ะ คิดดูแล้วกันนะคะ ดิฉันก็ได้เขียนเล่าจากที่เคยประสบมาค่ะอาจจะช่วยเป็นแนวทางให้เจ้าของกระทู้ได้บ้าง แต่มันก็ไม่ได้เลวร้ายไปทุกอย่างถ้าเรารู้จักใช้รู้จักจ่ายอดออมไม่ฟุ้งเฟ้อ เพราะดิฉันก็ไม่รู้ด้วยว่าคุณกับสามีนิสัยการใช้จ่ายเป็นอย่างไร แก้ไขเมื่อ 09 เม.ย. 53 10:51:16 จากคุณ : L'AngeApsara เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 53 10:49:38

ความคิดเห็นที่ 9 เห็นด้วยกับพี่ mrs.night owl และพี่ L'AngeApsaraค่ะ การลงทุนอสังหาก็เป็นสิ่งน่าสนใจ ปัจจุบันราคาสร้างหอพัก อพาร์ทเมนต์นี่สูงมาก เหล็กก็ขึ้น คนงานก็หาไม่ค่อยจะได้เลยเล่นตัวนิดหน่อยพอเป็นพิธี ถ้าคุณไม่มีที่ดินที่สร้างอยู่แล้วก็ลำบากหน่อย เมื่อ10กว่าปีที่แล้ว สร้างหอพัก 50ห้อง 4ชั้น ยังราคา 10ล้านกว่าบาท กรณีนี้คือมีที่ดินสวยๆอยู่แล้วนะคะ เพิ่มเติมสิ่งที่เราคิดว่าน่าสนใจคือ พวกธนบัตรรัฐบาล หรือฉลากออมสินต่างๆ ซื้อยกเล่มเลยค่ะ เล่มละประมาณ 500000ถ้าจำไม่ผิดนะคะ ทุกเดือนคุณก็จะมีเงินเข้าบัญชี ส่วนงานอีกประเภทที่น่าสนใจคือ ธุรกิจดำเนินการจัดการทำวีซ่าให้ ไม่ว่าจะเป็นวีซ่าไปเรียน แต่งงาน ไปเที่ยว ขอสัญชาติฯลฯ นี่ก็น่าสนใจเพราะสามีคุณเป็นทนายอยู่แล้ว ส่วนธุรกิจส่งออกตอนนี้ยังไม่แนะนำ แต่ถ้าสถานการณ์ดีขึ้นไม่แน่ เพราะปอนด์นึงตอนนี้ 47-48บาท เองนะคะ ถ้าเราส่งออก เราจะสู้จีน เวียดนาม และประเทศอื่นๆที่มีสินค้าเดียวกันแต่ค่าเงินถูกกว่าไม่ได้ค่ะ เพิ่มเติมแต่ถ้าทำของส่งออกประเทศตะวันออกกลางก็น่าสนใจอยู่ เพราะเป็นที่ลงทุนใหม่ และชาวตะวันออกกลาง สนใจในงาน หรือผลิตภัณฑ์จากโซนเอเซียอยู่ค่ะ อีกตลาดก็ยังใหม่ เราน่าจะมีส่วนแบ่งตลาดที่ดีค่ะ เพิ่มเติมราคา 10กว่าล้านข้างต้นนี่ ค่าแปลนค่าวิศวไม่ได้เสียด้วยนะคะ แก้ไขเมื่อ 09 เม.ย. 53 12:45:37 แก้ไขเมื่อ 09 เม.ย. 53 12:38:42 จากคุณ : piggalanla เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 53 12:33:42

ความคิดเห็นที่ 10 ในฐานะที่เป็นคนไทย อยู่เมืองไทย  เห็นแล้วไม่อยากให้เสียเงินก้อนสุดท้ายไป  ขอสนับสนุนว่า      อย่าลงทุนอะไรเด็ดขาดค่ะ คนเรารู้หน้าไม่รู้ใจ ยิ่งคนไทยนิสัยแย่ๆ ฉลาดแกมโกงมีเยอะค่ะ  ถ้ารู้ว่าคุณมีเิงินขนาดนี้ ระวังจิ้งจอกค่ะ......... อย่าขายแฟลตค่ะ เอาไว้เก็บค่าเช่า ถ้ามี 20 ล้านอย่างว่า ก็ลงทุนเล็กๆน้อยๆ พอค่ะ ลองดูว่าคุณทั้งสองชอบอะไร ถนัดทำอะไร   แบ่งเงินซื้อที่ดินราคาไม่แพง ให้เช่าบ้าง ทำสวนเล็กๆ เองบ้าง เป็นการลดรายจ่ายแถมได้ผักปลอดสารพิษกินเองด้วย  เรื่องประกันสุขภาพไม่ต้องกังวลมาก ลองศึกษาดูดีๆค่ะ เบี้ยประกันแพงๆจากบริษัทประกันก็ต้องดูให้ดีค่ะ ส่วนใหญ่เป็นแค่คำโฆษณาชวนเชื่อ กว่าจะได้เงินเงื่อนไขมากมายไม่น่าเชื่อ จะบอกให้ง่ายๆว่าเงินที่คุณมีอยู่นั่นแหละค่ะ เหลือเฟือสำหรับการเก็บออมเืพื่อประกันสุขภาพได้ทั้งชีวิต    ......โดยที่ไม่ต้องไปเสี่ยงจ่ายให้กับบริษัทไหนเลย......... จากคุณ : ผักบุ้งริมคลอง เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 53 12:43:49

ความคิดเห็นที่ 11 ลบข้อความซ้อนค่ะ แก้ไขเมื่อ 09 เม.ย. 53 12:45:28 จากคุณ : ผักบุ้งริมคลอง เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 53 12:44:48

ความคิดเห็นที่ 12 ในมุมมอง ผมนะครับ การลงทุนทุกอย่างมีความเสี่ยง ครับ ปัจจุบันการแข่งขันทางธุรกิจ ค่อนข้างสูงมาก (ควรศึกษาดีๆๆครับ) หรือว่าจะโรงเรียนสอนภาษา  (มีหลายสถาบัน) เรื่องการรักษาพยาบาล ก็ซื้อประกันสุขภาพได้ครับ (ต้องเปรียบเทียบหลายที่ นะครับ) หรือหากมีคำถามเรื่องกม. ไทย ก็ถามหลังไมค์ได้ครับ (พยายามคิดให้รอบคอบนะครับ) จากคุณ : B101 เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 53 13:18:17

ความคิดเห็นที่ 13 ในมุมมอง ผมนะครับ การลงทุนทุกอย่างมีความเสี่ยง ครับ ปัจจุบันการแข่งขันทางธุรกิจ ค่อนข้างสูงมาก (ควรศึกษาดีๆๆครับ) หรือว่าจะโรงเรียนสอนภาษา  (มีหลายสถาบัน) เรื่องการรักษาพยาบาล ก็ซื้อประกันสุขภาพได้ครับ (ต้องเปรียบเทียบหลายที่ นะครับ) หรือหากมีคำถามเรื่องกม. ไทย ก็ถามหลังไมค์ได้ครับ (พยายามคิดให้รอบคอบนะครับ) จากคุณ : B101 เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 53 13:18:31

ความคิดเห็นที่ 14 ในมุมมอง ผมนะครับ การลงทุนทุกอย่างมีความเสี่ยง ครับ ปัจจุบันการแข่งขันทางธุรกิจ ค่อนข้างสูงมาก (ควรศึกษาดีๆๆครับ) หรือว่าจะโรงเรียนสอนภาษา  (มีหลายสถาบัน) เรื่องการรักษาพยาบาล ก็ซื้อประกันสุขภาพได้ครับ (ต้องเปรียบเทียบหลายที่ นะครับ) หรือหากมีคำถามเรื่องกม. ไทย ก็ถามหลังไมค์ได้ครับ (พยายามคิดให้รอบคอบนะครับ) จากคุณ : B101 เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 53 13:18:52

ความคิดเห็นที่ 15 3-4 แสนปอนด์ที่จะได้จากการขายบ้านนี่ เป็นเงินไทย ก็ประมาณยี่สิบล้าน ทำอะไรได้เยอะแยะเลยค่ะ ถ้าเป็นอิฉัน จะหาทำเลดีๆ สร้างอพาร์ทเม้นท์ เก็บค่าเช่ากิน ทำซัก หกสิบห้อง คิดว่า ค่าเช่า ประมาณ สามพันบาทต่อห้อง บวกค่าบริการอย่างอื่น เช่น อินเตอร์เน็ต ซักผ้า แม่บ้าน น่าจะได้เดือนละสองแสน หักค่าใช้จ่าย กับ maintainance แล้วก็ยังพอใช้ได้อยู่ มูลค่าที่ดิน และทรัพย์สินก็เพิ่มขึ้นด้วย เงินที่ลงทุนไป ก็ไม่หายไปไหน เวลากู้แบงค์ก็ง่าย เพราะแบงค์ถือว่า เป็นธุรกิจที่ความเสี่ยงต่ำมากถึงมากที่สุด แต่อย่าลืมนะคะ สำคัญที่สุด คือทำเลค่ะ จากคุณ : letsgokrabi เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 53 16:28:37

ความคิดเห็นที่ 16   ให้อีกหนึ่งความคิดค่ะ มีเพื่อนสร้างแฟลตให้เช่า ปวดหัวทุกวันเพราะคนเช่าไม่ถูกกัน ทะเลาะกัน ปัญหาไม่จบสิ้น เลยขายไป อยากให้คิดดี ๆ หากลงทุนมันมีเรื่องปวดหัวเยอะ เก็บค่าเช่าจากอังกฤษดีกว่าได้เป็นอาทิตย์ แลกเป็นเงินไทยก็เท่ากับรายได้หนึ่งเดือน สามีคุณก็ไปสอนหนังสือได้เพราะสอนกฎหมายเนี่ยน่าจะหางานง่าย มหาลัยใหญ่ ๆ ต้องการ ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร อย่าไปลงทุนอะไรเลยค่ะ บ้านเมืองวุ่นวายคงขายอะไรได้ลำบาก โชคดีค่ะ จากคุณ : คนอยู่ไกล เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 53 19:03:00 A:203.194.63.153 X: TicketID:205581

ความคิดเห็นที่ 17 เห็นด้วยกับคุณคนอยู่ไกลนะ เรื่องเป็นlandlordเนี่ย ฟังดูง่ายใช่ไหม เอาเข้าจริงๆมันมีเรื่องหยุมหยิมเยอะนะ โดยเฉพาะถ้าทำเองทั้งหมด เริ่มด้วยต้องหาคนเช่า แล้วไม่ใช่ใครก็ได้ด้วย เราก็ต้องเลือก ต้องมานั่งคิดว่าเออ..มันย้ายเข้ามาแล้วมันจะจ่ายค่าเช่าทุกเดือนหรือเปล่า แล้วมันจะมาดูแลห้อง/บ้านเราดีไหม แล้วถ้ามันห่วย(หวังว่า)มันจะย้ายออกไปโดยดี เวลามีอะไรแตกหัก พัง ไม่เวิร์ค เราก็ต้องไปหาคนมาซ่อมนะ...ถ้าไม่ทำเอง ที่พูดนี่ไม่ใช่ไม่สนับสนุนให้ทำ ทำซิ แต่ต้องตระหนักด้วยว่ามันจะมีปัจจัยต่างๆพวกนี้ (โดยเฉพาะในworst case scenario) ตอนทำเข้าจริงๆ แล้วเมืองไทย(อย่าหาว่าอคตินะ) บางทีพวกเขี้ยวๆเยอะ ไล่ให้ออก ไม่ยอมออก ต้องหาพรรคพวกตำรวจมาไล่ เพราะฉะนั้น มันก็ย้อนกลับไปอย่างที่ว่าว่าจะลงทุนอะไร ศึกษาให้ลึกๆก่อน อย่างน้อยๆปีนึงน่ะหลังจากย้ายไป จากคุณ : Overseas เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 53 20:38:58

ความคิดเห็นที่ 18   ได้ไอเดียจากผู้รู้จริงรู้ลึกมากมายเลยต้องขอขอบคุณมากนะคะ ตอนนี้ก็ให้ญาติพี่น้องทางเมืองไทยหาลู่ทางเรื่องงานให้สามีอยู่ด้วยเหมือนกันค่ะ อาจจะรับงานแปลอยู่กับบ้านก่อนช่วงแรกๆ พวกภาษากฏหมายราชการอะไรแบบนี้เค้าเคยบ่นให้ฟังว่าประเทศไทยอะไรๆก็ดีนะ แต่ภาษาอังกฤษแบบราชการนั้นคนไทยใช้ผิดเยอะมากแม้แต่กับพาสปอร์ตไทยหน้าแรก หากใครมีอยู่ลองเปิดดูคำว่า area ตัวสุดท้าย สามีบอกว่ามันต้องมี s ด้วยคือ areas แต่ทำไมราชการไทยไปเลือกใช้แบบนั้นมันผิดนะ เวลาเค้าเห็นทีไรเขาบ่นทุกที นี่ก็หวังว่าเขาจะได้ทำงานอะไรแบบที่เขาอยากทำ ส่วนเรื่องลงทุนทำหอพักอะไรนั้นบอกตรงๆไม่เคยคิดเลยค่ะ และคงไม่กล้าทำด้วย เพราะเคยมีเพื่อนคนไทยลงทุนทำหอพักให้ฝรั่งเช่าแถวหัวหินถึง 40ล้านบาท แต่สุดท้ายก็ไปไม่รอดกลายเป็นมีหนี้ตามมาอีก จนสุดท้ายต้องปล่อยให้แบงค์ยึดไปเพราะไม่มีปัญญาส่งแบงค์ นี่เราเองก็กลัวอยู่ว่าทำธุรกิจอะไรด้วยเงินเยอะๆ กลัวไปไม่รอดค่ะ ก็อย่างที่บอกว่าเงินก้อนสุดท้ายนี่ต้องกอดไว้แน่นๆก่อน การลงทุนทุกชนิดมีความเสี่ยงจริงๆอย่างที่หลายๆคนเข้าใจ เราเองอยากเก็บแฟลตในลอนดอนไว้ให้คนเช่าต่อไปเหมือนกัน แต่ว่าเรา2คนจะไม่ได้เงินก้อนถึง 4แสนปอนด์ตามคาดหน่ะค่ะถ้าไม่ขาย และมันอาจจะกลายเป็นภาระให้เราอีกสามีเลยคิดว่าน่าจะขาย เพราะแฟลตแค่1ห้องนอนเท่านั้น หากเก็บแฟลตไว้เงินสดที่เราได้จากการขายบ้านที่อยู่อย่างเดียวคงได้แค่ แสนกว่าๆมันก็จะไม่พอ นี่ไม่รู้เหมือนกันว่าคิดถูกหรือผิดนะเนี่ยไอ้เรืองขายของหมดตัวเพื่อกลับเมืองไทยเนี่ย เสี่ยงเหมือนกันนะคิดๆแล้วหน่ะ -_-'' ยังไงๆก็ขอบคุณทุกคำแนะนำมากค่ะ จะเก็บไปเป็นข้อคิดนะคะขอให้สวยๆรวยๆมีชีวิตราบรื่นกันทุกคนเลยจ้า จากคุณ : Mercy@UK เขียนเมื่อ : 10 เม.ย. 53 03:25:50

ความคิดเห็นที่ 19 ลองส่ง resume สมัครงาน ทาง website สมัครงานทั่วไป เช่น http://www.jobsdb.co.th/Thailand  เผื่อจะได้ศึกษาอาชีพ ต่างๆในเมืองไทยก่อนนะครับ  เพื่อนผมบางคน อยู่ต่างประเทศก็ส่ง resume มาสมัครก่อนนะครับ และจะได้ศึกษาเรื่องอื่นๆด้วยครับ เผื่อจะเป็นประโยชน์นะครับ จากคุณ : B101 เขียนเมื่อ : 10 เม.ย. 53 09:19:49

ความคิดเห็นที่ 20 เราเองกำลังกลับไทยเหมือนกัน สามีเราอายุมากกว่าสามีคุณจขกท.ไม่กี่ปีไล่ๆกัน เราไม่ลงทุนทำอะไรที่เสี่ยงทั้งสิ้น อายุขนาดนี้แล้ว หากเงินที่มีเป็นเงินก้อนสุดท้าย เรื่องธุรกิจอสังหาให้เช่า ลืมไปได้เลย หากต้องลงทุนเป็นสิบล้าน กว่าจะคืนทุนก็ราวๆ 30 ปี พอดีคงไม่มีโอกาสเห็นวันนั้นแน่ๆ นอกจากมีเหลือๆ อยากทำ จะขาดทุน ก็ไม่เดือดร้อนนั่นก็อีกเรื่อง แต่ในกรณีที่เงินมันมีจำกัด และไม่สามารถหาเพิ่มได้อีก ควรเก็บเอาไว้ให้ดีที่สุด แต่หากคิดว่าอยู่เฉยๆ มันเบื่อ อยากหาอะไรทำ ก็ควรไปลองอยู่ไทยก่อน 1-2 ปี เพื่อดูความเป็นไปได้ หาลู่ทาง เปิดหูเปิดตาไปเรื่อยๆ อาจจะเจอช่องทางธุรกิจ หรืองานอดิเรกที่ทำแล้วมีความสุข แถมได้เงินอีกด้วย แต่สำหรับเรา สามีอายุขนาดนี้แล้ว เราจะมีเวลาอยู่ด้วยกันสักกี่ปี อยากมีเวลาให้กัน และกันมาที่สุด หากอยากทำธุรกิจ ก็จะทำที่บ้านเล็กๆ น้อยๆ ทำเอาสนุก ได้เงินนิดหน่อยไม่เป็นไร สำคัญคือเราได้ความสุข ได้ใช้เวลาของชีวิตบั้นปลายกับครอบครัว และคนที่เรารัก เราไม่รู้หรอกว่าชีวิตจะยืนยาวแค่ไหน มาถึงจุดนี้ ไม่รวยแต่ไม่จน ไม่สะสมสมบัติ หรือหาภาระอีกแล้ว อยู่แบบพอเพียง และเพียงพอค่ะ จากคุณ : noyne เขียนเมื่อ : 10 เม.ย. 53 17:07:15

ความคิดเห็นที่ 21 เห็นด้วยกับคุณnoyneนะคะ ช่วงแรก ๆ ไปอยู่ดูก่อน ถ้าสามารถอยู่ผ่านไปได้สองปี  ค่อยคิดจริง ๆ จัง ๆ เพราะเผื่ออยู่ไม่ได้ จะย้ายกลับก็จะไม่ไปติดขัดเรื่องเอาเงินไปลงทุนหมดแล้ว ส่วนเรื่องการรักษาพยาบาล  ทำประกันสุขภาพอย่างที่เพื่อน ๆ หลายคนแนะนำไว้แล้วนะคะ ช่วงไปปีแรก ก็ให้สามีไปสมัครงานเป็นลูกจ้างเขาก่อนดีที่สุดค่ะ  หาทำแบบพาร์ทไทม์ได้จะดีกว่าหน่อย เขาจะได้ไม่เครียดเกิน เพราะต้องปรับตัวเข้ากับสังคมและวัฒนธรรมใหม่  พอเข้าที่เข้าทางมองเห็นหนทางว่าอยากจะทำอะไร ค่อยเข้าไปจับ ... ไปแบบใหม่ ๆ อย่าทำอะไรทีเดียวหลาย ๆ อย่าง มันเครียดนะคะ และจะพลอยทำให้คุณเครียดมากไปด้วย (เนื่องจากคุณจะต้องเป็นผู้นำและผู้ช่วยเขาไปเกือบหมดทุกเรื่อง ยกเว้นว่าสามีจะพูดไทยได้) เท่า ๆ ดูแล้ว คุณไม่น่าจะห่วงเรื่องเงินทองมากมายนัก เพราะมันพอที่จะค่อย ๆ ทำ ค่อย ๆ คิด เพียงแต่อย่าทำอะไรโครมเดียวทีเดียว (บีพีถือหลักช้า ๆ ได้พร้าเล่มงามค่ะ) ในเวลาเดียวทั้งหมด จากคุณ : บีพี เขียนเมื่อ : วันเนา 53 22:05:49

ความคิดเห็นที่ 22 ตอนนี้เงินปอนด์เทียบกับเงินบาทอ่อนมาก อสังหาในอังกฤษก็ยังไม่น่าจะฟื้นตัว ไม่แน่ใจว่าทำไมจะรีบขายบ้านและแฟลตที่ให้เช่า ทำไมจะต้องเอาเงินสี่แสนปอนด์ตอนนี้ ในเมื่อยังไม่รู้ว่าจะเอาไปทำอะไรดี หรือย้ายไปอยู่เมืองไทยแล้วจะโอเคมั้ย เป็นเราเราเก็บบ้านกับแฟลตไว้ก่อนค่ะ ปล่อยเช่าไปก่อนมีรายรับทุกเดือน ถ้าย้ายกลับไทยตอนนี้ก็กำเงินสี่หมื่นปอนด์ไปก่อน อยู่ไปซักพักลงตัวแล้วค่อยคิดว่าจะทำอะไรยังไงต่อไปดี ถึงตอนนั้นอสังหาอาจจะดีขึ้นแล้ว และเงินปอนด์น่าจะแข็งขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ ถ้าอยู่แล้วไม่รุ่งจะกลับไปอังกฤษก็ยังมีบ้านอยู่มีรายได้จากแฟลตที่ให้เช่า จากคุณ : Afro Violet เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 53 01:02:48

ความคิดเห็นที่ 23 ขอบคุณเจ้าของกระทู้ี้นี้ และพี่ๆเพื่อนๆที่่ช่วยกันตอบ มาทันเก็บข้อมูล เชียวค่ะ จากคุณ : jewels เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 53 05:56:25

ความคิดเห็นที่ 24 เห็นด้วยกับหลายคนว่าอย่าลงทุนที่เสี่ยงเกินไป เราซื้อหุ้นกับสหกรณ์ ได้ปันผลทุกปีๆละ 10 เปอร์เซนต์ อย่ามีล้านก็ได้แสน มีห้าล้านได้ห้าแสนต่อปี น่าจะกระจายความเสียงอย่างซื้อหุ้น พันธบัตรรัฐบาล สร้างหอ สร้างตึกให้คนเช่า อย่าดีกว่า ที่บ้านทำอยู่ รายได้ดีแต่ปวดหัวมากๆ กับคนเช่า จากคุณ : ศศินี (sasinee) เขียนเมื่อ : 6 พ.ค. 53 21:43:20