ความคิดเห็นที่ 1 ขอตอบในฐานะผู้ฟัง ที่ไม่รู้ตื้นลึกหนาบางรายละเอียดของครอบครัวคุณนะคะ ในเมื่อคนหาเงินกับคนใช้เงินมีทัศนะคติไม่ตรงกัน ทางออกที่ดีที่สุดคือ คุณควร"หาเงิน"ด้วยตัวเอง จากนั้นจะ"ใช้"หรือจะ"ส่ง"ไปให้ครอบครัวคุณเองเท่าไหร่ยังไง ก็ไม่น่าจะมีปัญหาค่ะ แต่การออกไปทำงานเพื่อหาเงินด้วยตัวเองของคุณ ไม่ควรกระทบบทบาท หน้าที่ประจำของคนเป็นเมียด้วย หาได้มาก ก็ส่งมาก หาได้น้อยก็ส่งน้อย อย่าลืมว่าตอนนี้คุณมีครอบครัวของคุณเองด้วย ถ้าบริหารได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่องทั้งครอบครัวที่ไทยและครอบครัวที่ญี่ปุ่นได้ ก็เป็นเรื่องดีถึงดีมาก แต่ขอบอกจากประสบการณ์เลยว่า มันทำได้ยาก ถึงคุณทำไม่ได้ ก็ให้คิดเสียว่าไม่ใช่คุณคนเดียวที่ทำไม่ได้ หลายคนก็ทำไม่ได้หรอก ส่งเงินให้พ่อแม่น่ะ ถ้ายังยืนด้วยลำแข้งตัวเองไม่ได้ คุณต้องฟังคนที่เขาเป็นหลักให้คุณเกาะยืนด้วย โกรธกันก็เท่านั้น ผัวเมียกันควรเปิดใจคุยกัน และควรตระหนักไว้ว่าเราเปลี่ยนความคิดคนให้คิดเหมือนเราไม่ได้ค่ะ จากคุณ : Hatsu เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 06:07:24

ความคิดเห็นที่ 2 ตอนที่คุยกันก่อนแต่งนี่ได้ระบุจำนวนเงินด้วยรึเปล่าคะ เพราะอย่างของเรานี่ระบุจำนวนเงินชัดเจน ให้เท่าเดิมที่เคยให้ตั้งแต่ก่อนแต่งงาน พอแต่งมาแล้วก็ (ยัง) ไม่มีปัญหาอะไร (เป็นเงินแฟนทั้งหมด เพราะเราไม่ได้ทำงานน่ะค่ะ) ทีนี้สามีคุณ ninachan อาจจะประเมินมูลค่าเงินที่จะต้องส่งไปที่เมืองไทยน้อยเกินไป ประมาณว่าที่ญี่ปุ่นเค้าไม่ได้ให้กัน เค้าเลยนึกไม่ออกว่ามันต้องอยู่ที่เท่าไหร่ พอมาเห็นตัวเงินที่ส่งกลับไปก็อาจจะตกใจหรือเปล่าคะ แนะนำเหมือนคุย Hatsu เลยค่ะ เปิดใจคุยกัน (แต่รอใจเย็นๆก่อนก็ดีนะคะ ^ ^) ส่วนเรื่องความจำเป็นที่เราต้องส่งเงินไปให้พ่อกับแม่นี่ไม่ทราบว่าเค้ารู้ด้วยหรือเปล่าคะ ถ้าไม่รู้ก็น่าจะอธิบายให้เค้าได้เข้าใจ ว่าก่อนแต่งงานเรามีรายได้ ให้พ่อแม่เป็นประจำ แต่พอแต่งงานมาแล้วเราไม่ให้ท่านกลับไปเลย แล้วท่านจะดำรงชีพอย่างที่เคยเป็นได้ยังไง เมืองไทยไม่ได้เลี้ยงคนแก่ดีเหมือนที่ญี่ปุ่น ...อะไรทำนองนี้ ลองอธิบายให้เขาฟังดูดีมั๊ยคะ แต่ถ้าเค้ายังไม่ยอมก็คงต้องกลายเป็นแค่เงินส่วนที่คุณ ninachan หามาได้เท่านั้น แต่ก็ควรบอกเค้าก่อนเหมือนกันนะคะเราว่า ว่างั้นถ้าเราเอาเงินส่วนของเราอย่างเดียวเค้าโอเคใช่มั๊ย ขอให้หาทางออกได้เป็นที่น่าพอใจของทั้งสองฝ่ายนะคะ ^ ^ จากคุณ : HappyToBeMe* เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 06:27:50

ความคิดเห็นที่ 3 ของเรา เขาให้เงินเดือนเราแล้ว เราจะเอาไปทำอะไรก็แล้วแต่เราค่ะ เพียงแต่อย่ามาขอเค้าเพิ่มค่ะ จากคุณ : CherryBlossom669 เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 06:43:50

ความคิดเห็นที่ 4 ก่อนอื่นของถามนิดนึงนะคะ ว่า เงินที่สามีส่งให้คุณพ่อคุณแม่ที่เมืองไทย เป็นจำนวนเงินเท่ากับที่ได้ตกลงกันไว้ก่อนแต่งงานหรือเปล่าคะ หรือว่าไม่ได้ ระบุจำนวนเงิน? คือ พี่ อยากให้มอง 2 มุม เพราะตอนนี้ น้องเล่นบทบาท 2 บทบาท คือ ลูก และเมีย - บทบาทลูก พี่ชื่นชมคนที่เลี้ยงดูครอบครัวมากๆค่ะ แล้วคิดว่าความกตัญญู ที่น้องทำ จะส่งผลที่ดีให้น้องในวันหน้า โดยเฉพาะ ถ้าวันนึงน้องมีลูกๆของ น้องจะยึดเอาการกระทำนี้เป็นแบบอย่างแน่นอน เห็นด้วยมากที่น้องเอาเงินในส่วนของน้องเอง(ไม่ว่าได้มาจากการทำงาน หรือ อดออมจากเงินค่าขนมที่สามีให้) จุนเจือครอบครัวทางเมืองไทย ถ้า ครอบครัวของน้องที่ญปไม่ต้องอยู่อย่างกระเบียดกระเสียน - บทบาทเมีย ตอนนี้น้องออกเรือนมาแล้ว ยังไงก็ต้องคิดถึงครอบครัวของ เราเองด้วย เวลานี้อาจจะมีกันแค่2คน แต่ในวันข้างหน้า สมาชิกตัวน้อยๆจะ ต้องมาเพิ่มแน่นอนค่ะ แล้วปากน้อยๆเนี่ยแหล่ะ ที่จะทำให้การเงินของบ้าน ตึงมือ ถ้าไม่มีการจัดสรรปันส่วนและบริหารเงินดีๆ สามีเป็นเสาหลักของบ้าน ความรับผิดชอบเลี้ยงดูสมาชิกในครอบครัวนี่ ไม่ ใช่เรื่องง่ายเลยนะคะ หน้าที่แม่บ้านอย่างเรา เหนื่อยก็พัก หายเหนื่อยก็ทำ ต่อ ง่วงก็งีบ ตื่นขึ้นมาก็ทำต่อ แต่สามีเราต้องทำงานอย่างเหน็ดเหนื่อย 5 วัน ต่ออาทิตย์ ชนิดที่ว่าไม่มีเวลานอนพัก แม้จะง่วงแค่ไหน...ชีวิตพนักงาน บริษัทที่ญปเหนื่อยมากๆนะคะ ฉะนั้น...การที่สามีจะเสียใจ หงุดหงิด แล้วมา พาลเรื่องเงิน(ส่วนที่เพิ่มจากที่สามีให้แต่แรก)ที่ให้คุณพ่อคุณแม่ที่เมืองไทย จะไปตำหนิเค้าไม่ได้ สามีอาจจะคิดว่า ในเมื่อน้องมีเงินส่วนของน้องเองส่ง ให้ทางเมืองไทย แล้วทำไมต้องมาเอาเงินจากส่วนของสามีด้วย? พี่ว่า คุยกันดีๆดีมั้ยคะ ถ้าทำได้ พี่อยากให้น้องส่งเงินให้ทางบ้านที่เมืองไทย แค่เงินที่สามีให้แต่ละเดือน ส่วนเงินส่วนของน้องที่อดออม น้องเก็บเอาไว้ ก้อนใหญ่ แล้วพอกลับเมืองไทยก็ไปใส่ธนาคาร ทำบัตรเอทีเอ็ม ให้คุณพ่อ คุณแม่เบิกใช้ยามจำเป็น โดยที่ไม่ต้องให้สามีรู้ อย่างนี้บัวก็ไม่ช้ำ น้ำก็ไม่ ขุ่น แต่ถ้าเดือนไหน ทางเมืองไทยจำต้องใช้เงินมาก อย่างนี้ก็ ปรึกษาความเห็น สามีก่อน(ที่จะส่งเงินให้เพิ่ม) ให้สามีได้รับรู้เพื่อเป็นการให้เกียรติเค้า ปัญหาทุกปัญหามีทางแก้ค่ะ ต้องค่อยๆพูด ข้อสำคัญ น้องต้องเอาใจสามีมา ใส่ใจตัวเองด้วยนะคะ โชคดีนะคะ จากคุณ : fudge-a-mania เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 09:12:42

ความคิดเห็นที่ 5   เป็นกำลังใจไห้นะค่ะ เรื่องเงินๆทองๆเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ค่อยๆพูดจากันดีๆ คิดถึงครอบครัวเราเป็นหลัก ของเราสามีจะจัดการค่าใช้จ่ายภายในทั้งหมด ค่าอาหาร ค่านำค่าไฟ ค่าเสื้อผ้าลูกเมีย เงินดือนเมียต่างหาก ( บอกแล้วอย่าตกใจนะค่ะ สามีเราไห้เงินเดือนเราน้อยมาก เดือนละ หกหมื่นเยน ห้าปีแล้วไม่ยอมขื้นสักที ) ส่วนเรื่องส่งทางบ้าน ไม่ได้ส่งทุกเดือนจะไห้ปีละครั้ง ปีละ หนึงแสนบาท สามีเราขี้เนียวค่ะ แต่ก็สงสารไม่ประท้วงค่ะ อย่าลืมรอยยี้ม และคำขอโทษนะค่ะ ทุกอย่างจะง่ายขื้นสุ้ๆๆ จากคุณ : ta เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 11:40:37 A:121.84.107.235 X: TicketID:253010

ความคิดเห็นที่ 6 มีกระทู้อย่างนี้มาให้คุยด้วยก็ดีเหมือนกัน ไม่ค่อยมีมานานแล้ว ปัญหาเรื่องการส่งเงินให้พ่อแม่ที่เมืองไทยมีมานานแล้ว เนื่องจากวัฒนธรรมของการเลี้ยงดูพ่อแม่ของคนญี่ปุ่นกับคนไทยไม่เหมือนกัน เราไม่สามารถทอดทิ้งครอบครัวที่อยู่เมืองไทยได้ บางคนได้สามีฐานะดี ให้เงินค่าใช้จ่ายต่อเดือนมากพอสมควร สามารถแบ่งไปอุปการะพ่อแม่พี่น้องได้สบายๆ แต่บางคน สามีก็เป็นเพียงมนุษย์เงินเดือน หักกลบลบรายจ่ายต่างๆแล้ว เหลือไม่มากนัก ก็อย่างที่เราทราบๆกันว่า ค่าครองชีพที่ญี่ปุ่นนี้สูงเพียงไร ไหนจะต้องเสียภาษี เสียเงินค่าประกันต่างๆ คนหาเงินกับคนรอรับเงินความรู้สึกจะต่างกัน จขกท พยายามพูดคุยกับสามีถึงความจำเป็นที่เราต้องส่งไปให้พ่อแม่ วัฒนธรรมของไทย ลูกต้องให้การอุปการะเลี้ยงดูพ่อแม่ เป็นการตอบแทนที่ท่านได้เลี้ยงดูเรามา เมื่อสามีของคุณ ไม่พอใจในการส่งเงินไปเลี้ยงดูพ่อแม่ เพื่อไม่ให้เกิดความขัดใจกัน ซึ่งนำมาซึ่งความทุกข์ ขอให้จขกท ทำการแก้ไข ที่ต้นเหตุ ทางบ้านจำเป็นกับเงินจำนวนนี้มากน้อยแค่ไหน ถ้าไม่มีเงินจากเราส่งไป พ่อแม่จะลำบากมากน้อยแค่ไหน คิดว่าสามีของจขกท คงให้เงินค่าใช้จ่ายส่วนตัว ซึ่งเป็นธรรมดาทั่วไปที่สามีญี่ปุ่นจะให้เงินภรรยาใช้ส่วนตัว จะมากจะน้อยก็แล้วแต่ละรายได้ เพื่อไม่ให้สามีคุณรู้สึกไม่ดี ขอให้จขกท ลดค่าใช้จ่ายส่วนตัวเอง นำเงินส่วนของตัวเอง ส่งไปให้พ่อแม่ เราอาจจะไม่ได้ซื้อเสื้อสวยๆ ขนมอร่อยๆ เราก็ต้องอดทน อย่านำเงินส่วนกลางไปส่ง ซึ่งทำแบบนี้ สามีคงไม่ว่าอะไร สมัยก่อนป้าก็ต้องส่งเงินไปให้ลูกและน้องสาว ป้าก็ต้องแบ่งจากเงินค่าใช้จ่ายส่วนตัว เราอาจจะได้กินน้อย ไม่ได้ซื้อของที่ชอบ แต่เราก็สามารถแบ่งความสุขไปให้คนที่บ้านเราได้ โดยไม่กระทบสามี เห็นใจทั้งจขกท และสามี การครองเรือน ยังมีหลายอย่างให้เรียนรู้ไม่มีจบ ชีวิตเพิ่งเริ่ม ขอให้มองถึงความดีของสามี อย่านำเรื่องขุ่นเคืองใจ มาทำให้เกิดความร้าวฉานในครอบครัว จากคุณ : พนอจัน เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 11:44:15

ความคิดเห็นที่ 7 ขอบคุณทุกความคิดเห็นคะ ตอบคุณfudge-a-mania คะ ก่อนแต่งงานได้ตกลงกันเป็นจำนวนแน่นอนคะ แต่พอมาอยู่นี่ได้น้อยกว่าที่ตกลงไว้ด้วยคะ เหมือนเค้าแกล้งลืม เป็นการทะเลาะกันครั้งแรก เรารู้สึกเหมือนถูกหลอก แต่หลังจากนั้นเราก็โอเค เท่านี้ก็ได้ ไม่ได้คิดอะไร ออกส่วนที่เหลือเองก็ได้ (ตอนนั้นก็ทำงานพิเศษ เค้าก็เห็นว่าเราได้เงินมา) แต่ตอนนี้ไม่ได้ทำงานพิเศษแล้ว แต่ก็ยังส่งให้ที่บ้านเท่าเดิม ก็เอาเงินเก็บของเราน่ะแหละส่งให้ที่บ้าน แล้วก็มีปัญหาขึ้นคะ แต่ต่อจากนี้คงทำตามคำแนะนำของคุณ fudge-a-mania คะขอบคุณมากๆ คะ จากคุณ : ninachan เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 11:50:21

ความคิดเห็นที่ 8 ของดิฉันใช้เงินเดือนที่สามีให้มา ส่งให้พ่อแม่ค่ะ เหมือนคุณ CherryBlossom669 ให้เงินมาแล้วบริหารเงินเอง จะเอาไปทำอะไร สามีไม่สนใจแล้วค่ะ จากคุณ : คนไกลหัวใจเป็นไทย เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 12:01:24

ความคิดเห็นที่ 9 เงินส่วนตัวรายเดือน เดือนละหกมังนี่น้อยหรอคะ์?? เหอๆๆ เราได้น้อยกว่านั้นเป็นหลายเท่าตัวเลยค่ะ แต่ก็ไม่คิดว่ามันน้อยนะคะ    เราเองก็บริหารเงินส่วนตัวเองค่ะ คือจะเอาไปทำอะไรก็ได้ สามีไม่เกี่ยวค่ะ จากคุณ : Doraemon no fushigi na POKKE เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 12:29:01

ความคิดเห็นที่ 10 ืเราไม่มีปัญหาค่ะ แต่ไม่ได้ให้ทางแม่มากมายอะไร เพียงแค่ช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายที่บ้านตามสถานะภาพการเงินของครอบครัวตัวเอง   ตอนเรากลับไทยก็โปะเงินให้แม่จำนวนนึง แล้วให้ธนาคารสั่งจ่ายเป็นรายเดือนเอาค่ะ   ให้เอาเงินเราเป็นค่าใช้จ่ายหลักของครอบครัวแม่ก็ไม่ได้  เพราะว่าตอนนี้เราเองมีครอบครัวและมีลูก  เพราะฉนั้น สามีทำงานบริษัทธรรมดา ก็มีรายได้ธรรมดาค่ะ เราถือเงินเดือนสามีทั้งหมด และบริหารเงินเองคนเดียว  สามีถือเงินไว้ใช้เองเดือนละสองหมื่นเยน  นอกนั้นเราจัดการบัญชีให้หมด  ทั้งเอาเข้าบัญชีให้ลูกสองคน เงินค่าใช้จ่ายที่บ้านแต่ละเดือน  ค่าเทอมลูก ค่ามือถือ และเงินเก็บ...ซึ่งเป็นชื่อบัญชีเรา อิอิ     แต่ละเดือนเอาเข้าเท่าไหร่ เงินคงเหลือเท่าไหร่ อัพเดทให้สามีรู้ตลอดค่ะ เมื่อเงินทองมีการงอกเงยและเพิ่มขึ้น สามีก็สบายใจและไม่ห่วงหรือหวงเงินทองส่วนอื่นๆค่ะ  เพราะเข้าใจว่างานที่นี่หนักจริงๆ กลับบ้าน ทุ่มกว่า บางวันสามทุ่ม แทบสลบค่ะ   เห็นใจและเข้าใจสามีเหมือนกันค่ะ  เพราะคนทำงาน มันหนื่อยน่ะค่ะ เราว่าอยู่ที่วิธีการจัดการ พูดคุย ไม่จำเป็นต้องตรงเป๊ะๆ หรือ ปิดบังมากเกินไป เอาพอดีๆ บางทีการไม่บอก ไม่ได้หมายความว่าเราโกหกนะคะ....  บริหารเงินให้เป็น  ก็จะไม่มีปัญหาค่ะ เอาใจช่วยค่ะ จากคุณ : Mnki เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 12:44:51

ความคิดเห็นที่ 11   คุณ Doraemon no fushigi na PoKKe ตกลงกันก่อนแต่งงานค่ะ เพราะเมื่อก่อนทำงานที่ไทย เงินเดือน สามหมื่น บาท แต่สามียื่นข้อเสนอไห้อยุดทำงาน มาเป็นแม่บ้านอย่างเดียวก็ต้องทำ ตามข้อเสนอค่ะ แต่สามีเราเจ้าระเบียบมากค่ะ ห้ามทางบ้านขอเงินเป็นอัน ขาดยกเว้นมีใครไม่สบายถึงจะออกค่ารักษาไห้ค่ะ จากคุณ : ta เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 13:12:21 A:121.84.107.235 X: TicketID:253010

ความคิดเห็นที่ 12 ของเราตอนนี้ส่งจากบัญชีสามีทุกเดือนค่ะ ตกลงกันไว้ก่อนมา แต่ก็น้อยกว่าที่เราเคยส่งมากๆๆๆ ตอนนี้ได้เงินมาก็แอบเก็บสะสมๆไว้แล้วก็แอบส่งไปให้ที่บ้านเองค่ะ ที่ทำแบบนี้เพราะไม่อยากให้สามีคิดมากค่ะ เรื่องแบบนี้มันละเอียดอ่อนนะคะ ต่อให้พูดหรืออธิบายยังไง ก็ยากที่จะเข้าใจได้อะค่ะ ยังไงก็เป็นกำลังใจให้นะคะ จากคุณ : wasamina เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 13:27:39

ความคิดเห็นที่ 13 คุณ ta เราเองก็ทิ้งงานกะธุรกิจมาเป็นแม่บ้านเหมือนกันค่ะ กว่าจะทำใจได้ว่าชีวิตจะเปลี่ยน เงินจะหดก็นานโข (สามีเป็นมนุษย์เงินเดือนธรรมดาๆค่ะ) แต่ตอนนี้เงินเก็บส่วนตัวยังเยอะอยู่ เลยถ้าไม่พอก็ใช้เงินตัวเองตลอด  แต่ต่อไปคงไม่ไหว เฮ้อ เรื่องเงินนี่ละเอียดอ่อนจริงๆ แก้ไขเมื่อ 27 เม.ย. 53 14:15:58 จากคุณ : Doraemon no fushigi na POKKE เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 14:13:27

ความคิดเห็นที่ 14 ... แอบเข้ามาอิจฉาคนมีเงินเดือน > < จากคุณ : HappyToBeMe* เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 15:21:39

ความคิดเห็นที่ 15   เรื่องเงินพูดยากจริงๆเนอะ มีอยู่ครั้งหนึ่งปีที่แล้วน้องชายเราผ่าตัดด่วน ใส้ติ่งแตก (น้องยังเรียนอยู่ ) ไม่มีเงินแต่เพื่อนหามส่งเอกชน เป็นเรื่องเลย ค่ะ ค่าโรงบาล แสนสามหมื่น สามีโอนเงินไปไห้ค่ะ แต่พอกลับไปเยี่ยม บ้าน สามีเราเรียกน้องชายเรามาเปิดท้องไห้แกดูว่าผ่าจริงหรือเปล่า โอ้วว แม่เจ้าแกตรวจสอบเงินแกดีจริงๆ เลย จากคุณ : ta เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 15:56:13 A:121.84.107.235 X: TicketID:253010

ความคิดเห็นที่ 16 จิงเหมือนคุณ HappyToBeMe* บอก อิจฉาคนมีเงิินเดือนที่สุดดดดดดดดด และชืนชมคนที่ส่งเงินเดือนให้ทางเมืองไทย ไม่มีเงินเดือนคะ ไม่ได้ขอตั้งแต่แรก จะขอตอนนี้ก็คงไม่ทันแล้ว เห็นเขาขอแต่งงาน ดีใจ ตืนเต้น ลืมขอเงินเดือน เศร้าต่อไป กินแกลบ (>_<) จากคุณ : เรื่องของแม่บ้านญีปุ่น เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 17:46:06

ความคิดเห็นที่ 17   ขอเป็นกำลังใจให้คะ ถ้าเค้ารักเรายังไงสักวันเค้าก็คงเข้าใจ ส่วนตัวเราเองก็ได้เป็นเงินเดือน  บวกบัตรเครดิตไว้ใช้จ่ายเวลาไม่พอ ทั้งนี้ที่ได้มา ก็ไม่ได้พูดตกลงกันก่อนแต่ง อาจเพราะทางสามีเกรงใจทางบ้านของเราด้วยและไม่อยากให้เราต้องอด หรือขาดเหลือเมื่อมาแต่งกับเค้า เพราะเงินเดือนจากงานที่เราทำก็ใกล้เคียงกัน  เวลาต้องการให้เงินทั้งทางบ้านเราและบ้านเค้า ทุกครั้ง  เราสองคนจะต้องปรึกษากันก่อนถึงจำนวนที่เหมาะสมแต่ก็ไม่เคยขัดใจกันคะ จากคุณ : Fujijapan (Fujijapan) เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 18:37:16

ความคิดเห็นที่ 18 ประเทศนี้ขาดเงินเหมือนขาดใจ เข้าใจหัวอกคนหาเงินครับ เพราะบางทีเงิน ที่ให้ภรรยาก็อยากให้ภรรยาเก็บเอาไว้เผื่อฉุกเฉินด้วย แต่ละบ้านคงไม่เหมือน กัน ถามกันให้แน่ๆ ก็ดีครับว่าเงินที่ให้นี่หักส่วนที่เก็บไว้ฉุกเฉินแล้วหรือยัง บางบ้านสามีเกรงใจภรรยาก็ให้เงินมาจัดการเอง แต่ภรรยาเห็นว่าเงินเยอะ เลยเอาที่เหลือส่งให้พ่อแม่ด้วย พอมีปัญหาที่บ้าน สามีทวงถามภรรยาว่าเงิน ที่ให้ทุกเดือน เหลือเก็บบ้างไหม ภรรยาบอกว่าใช้หมดเกลี้ยง แบบนี้ก็คงได้ ทะเลาะกันแน่ๆ  อยากให้แม่บ้านเข้าใจด้วยว่า อยู่เมืองไทย เงินไม่พอยังพอ หยิบยืมคนรู้จักได้ แต่ที่ญี่ปุ่นนี่ แม้แต่ครอบครัวเดียวกันเขาก็ไม่ให้ถือเป็น ความรับผิดชอบส่วนตน สามีเองก็คงไม่กล้าแบกหน้าไปขอพ่อแม่อีก เพราะ ทำงานแล้ว แต่สังคมญี่ปุ่นมันไม่มั่นคง พยายามหาทางหนีทีไล่ไว้ด้วยก็ดี ฉะนั้น แนะนำว่ากลับเมืองไทยไปทีแล้วเอาไปให้ทีละเยอะๆ ดีกว่าส่งเงิน ทุกเดือนให้ไปรษณีย์หรือธนาคารรับทรัพย์จะดีกว่า ต้องช่วยบอกคุณพ่อคุณแม่ให้เข้าใจด้วยนะครับ ยุคสมัยเปลี่ยน พ่อแม่มัก จะรู้สึกว่าเราไม่มีความกตัญญูแล้ว บางทีเล่าเรื่องให้เขาสบายใจว่าเราอยู่ ที่นี่สุขสบายดี กลายเป็นว่าเขามองว่าเราใช้จ่ายสบายไม่สนใจทางบ้านก็ มี จากคุณ : อ.ปมโปโกะ เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 18:47:31

ความคิดเห็นที่ 19   เคารพและนึกถึงป้าพนอจันก็ตรงนี้แหละ "เราอาจจะได้กินน้อย ไม่ได้ซื้อของที่ชอบ แต่เราก็สามารถแบ่งความสุขไปให้คนที่บ้านเราได้ โดยไม่กระทบสามี" มักมีคำพูดเด้ดๆ น่ารักมาสอนพวกเราเสมอ ให้กิฟท์ไม่ได้ ฝากคอมเม้นท์แทนละกัน ให้กำลังใจเจ้าของกะทู้ค่ะ เรื่องเงินนี่เป็นปัญหาที่ละเอียดอ่อนจริงๆ ไม่ว่าชาติไทย หรือชาติญี่ปุ่น จากคุณ : At Japan@oya mo danna mo suki เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 53 09:46:09 A:202.179.229.247 X: TicketID:195170

ความคิดเห็นที่ 20 นี่แหล่ะคือ ประเด็นที่เราไม่แต่งงานกับแฟนเก่า ทั้ง ๆ ที่ พิมพ์การ์ดแล้ว (แต่ยังไม่ได้แจก) เดินเรื่องเอกสารการแต่งงานแล้ว (แต่ยังไม่ได้ยื่นที่อำเภอของอดีตคุณแฟน) เรื่องเงินเป็นเรื่องเซนซิทีพคะ (มากด้วยสำหรับบางคน) เราทำงานที่ไทย เงินเดือนเราเข้าขั้นว่ามาก (แต่ไม่ต้องส่งทางบ้านเพราะ พ่อ-แม่ ยังทำงานและมีเงินเดือน สำหรับตัวพวกท่านเองอยู่) เรายื่นข้อเสนอกับเขาไปว่า เรา..หลังแต่งงาน ชั้นขอทำงานนะ ทำได้หมดไม่ว่างานอะไร เขา..ทำงาน ทำ ทำไม? เธอคิดว่าชั้นเลี้ยงเธอไม่รอดหรอ? ออกมาอยู่บ้านเลี้ยงลูกเถอะ เรา..ชั้นอยากมีเงินเก็บ เผื่อ..ทางบ้านชั้น (พ่อ-แม่) มีเหตุฉุกเฉินจะต้องใช้เงิน ถ้ามันเป็นจำนวนมากจะได้ไม่ต้องเอาเงินเธอมาจ่าย ชั้นไม่ได้หมายความว่าต้องส่งให้บ้านชั้นทุกเดือนนะ แค่..เผื่อต้องส่ง เขา..ทำไมต้องให้..พ่อ-แม่เธอทำงานอยู่ทั้งคู่ เขาจะไม่มีเงินเก็บเลยหรอ ทำไมจะยังจะต้องมาพึ่งเรา เราคิค...(โอ้ววววว!!!....ดีนะที่แสดง สด. ออกมาเร็ว ไม่งั้นได้นั่งเสียใจตลอดชีวิตแน่ ๆ ตรู) เรา..อ้าว!! งั้นชั้นกับแก ต้องเอวังแล้วหล่ะ ไม่สนใจด้วย ว่าเตรียมงานถึงขั้นไหนแล้ว เพราะเราถือคติที่ว่า แฟนชั้นไม่ดีกับคนอื่นไม่เป็นไร ดีกับครอบครัวเราก็พอแล้ว เชิญคะ คุณชาย เชิญนอนกอดเงินของคุณไปเลย แล้ว..คุณจะได้รู้ว่าเงินหน่ะ มันกอดคุณไม่อุ่น เหมือนอ้อมกอดของคนที่รักคุณหรอกคะ จากคุณ : เด็กหญิงมะปรางหวาน เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 53 11:21:29

ความคิดเห็นที่ 21 ชื่นชมคนที่ได้ส่งเงินให้ทางบ้านทุกเดือนค่ะ เราทำงานพิเศษด้วยเลยไม่ค่อยมีปัญหาเท่าไหร่ เวลาส่งบ้านก้ใช่เงินตัวเองส่ง  ไม่เคยใช้เงินสามีส่งค่ะ  เงินที่สามีให้มาก็เก็บไว้ใช้กับลูกและใช้จ่ายค่ากับข้าว   เหลือแล้วถึงจะเอามาใช้ส่วนตัว  ซื้อเสื้อผ้า  อีกอย่างทางบ้านเรา  แม่ น้องชายเค้าก็มีงานการทำกัน  แต่ถ้าอีกหน่อยแม่ทำงานไม่ไหวแก่ตัวลงแล้วเราก็คงต้องส่งให้ทุกเดือนเหมือนกันค่ะ  แต่เรื่องส่งเงินสามีไม่เคยขัดข้องค่ะ เพียงแต่บอกว่า ส่งได้แต่ต้องไม่ทำให้ครอบครัวเดือดร้อน จากคุณ : แม่ยูอะ เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 53 14:45:39

ความคิดเห็นที่ 22 โชคดีที่สามีเราเข้าใจค่ะ คือก่อนแต่งงานเราทำงานที่ไทยก็ส่งเงินให้แม่ใช้ทุกเดือนเหมือนกัน ทั้งๆ ที่แม่เราเค้าก็มีเงินเดือน เงินบำนาญ แต่พอได้แต่งงานกับสามีญี่ปุ่น ก็บอกเค้าไว้ก่อนว่าจะมีปัญหาอะไรไหม ถ้าแต่งงานแล้วฉันยังจะขอส่งเงินเดือนให้แม่ใช้อย่างต่อเนื่อง เพราะถ้าฉันไม่แต่งงาน ฉันก็ต้องส่งให้แม่ใช้ทุกเดือนจนล้มหายตายจากกันไปข้าง วิธีการส่งเงินเราให้ที่บ้านก็คือ เปิดบัญชีเราและแม่ให้เป็นธนาคารเดียวกัน แล้วยื่นใบคำร้องขอให้ธนาคารโอนเงินอัตโนมัติจากบัญชีเราเข้าบัญชีแม่ทุกเดือน เดือนล่ะ ........ บาท ไปเรื่อยๆ โดยไม่มีกำหนด หรือจะกำหนดก็ได้ค่ะ พอถึงระยะเวลาที่เงินในบัญชีเราใกล้หมด ก็สะกิดสามีช่วยจัดการโอนเงินจากบัญชีสามีที่ญี่ปุ่นเข้าบัญชีเราที่ไทยค่ะ แต่ก็เป็นจำนวนเงินไม่มากค่ะ  สามีพอรับได้เพราะเงินจำนวนนี้ถ้าเทียบกับชีวิตคู่ที่เราสองคนใช้จ่ายกันแต่ละเดือนๆ แล้ว มันก็ค่อนข้างต่างกันค่ะ เคยมีเพื่อนคนไทยที่ญี่ปุ่นนี่แหล่ะ ถามเราว่า เพื่อน   ส่งเงินให้ที่บ้านใช้ด้วยเหรอ เรา      อืม ส่งทุกเดือน เพื่อน   เยอะไหมอ่ะ เรา      ทำไมเหรอ เพื่อน   คืองี้ มันจะมีคนญี่ปุ่นประเภทโดนภรรยาหลอกหน่ะว่าโอนเงินไปให้แม่ที่บ้าน  ทำอย่างนี้ทุกเดือนๆ  แต่ที่ไหนได้บอกแม่เอาเงินเข้าบัญชีตัวเองเฉยเลย เรา      คิดว่าเราเป็นอย่างนั้นเหรอ ( ในใจ อยากกระทืบเพื่อนคนนี้มาก ) เพื่อน   ป่าวๆๆๆ แค่เล่าให้ฟัง  กลัวสามีไม่เข้าใจ เรา      เหรอ อืม ขอบใจนะ เราทำตั้งแต่ก่อนแต่งงานแล้วหล่ะจ๊ะ  แล้วเธอไม่เคยส่งเงินให้แม่ใช้เหรอ เพื่อน   เอ่อ อ่า ป่าว ไม่เคยอ่ะ ( แล้วก็เปลี่ยนเรื่องเลย ) เรื่องที่เล่าให้ฟังนี้ ไม่ได้จะกระทบกระทั่งใครนะคะ แต่เป็นประสบการณ์ที่เราได้รับจากเพื่อนคนไทยในญี่ปุ่นด้วยกันนี่แหล่ะค่ะ อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ค่อนข้างอ่อนไหวและต้องใช้ความสามารถเฉพาะตัวอธิบายให้สามีฟัง เพราะธรรมเนียมญี่ปุ่นไม่มีแบบนี้เลยค่ะ ยังไงเอาใจช่วยให้ จขกท ผ่านพ้นปัญหาไปได้ด้วยดีนะคะ จากคุณ : sisser เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 53 16:21:40

ความคิดเห็นที่ 23 โอ้ว... คุณ sisser เข้ามาเปิดประเด็นการโอนเงินนี่ อยากสอบถามกลับเพิ่มเติมหน่อยค่ะ ถ้าคุณ sisser หรือท่านอื่นๆทราบก็ช่วยอธิบายให้หน่อยนะคะ ต้องขอโทษจขกท.ด้วยนะคะที่แอบถามนอกประเด็น - -" คือ ณ ตอนนี้เรามีปัญหาตรงที่ว่า ไม่รู้จะโอนเงินจากญี่ปุ่นไปไทยอย่างไร ไม่ให้เสียค่าธรรมเนียมมากมาย (ไม่ทราบว่าที่คุณ sisser ทำอยู่นี่เสียค่าธรรมเนียมหรือเปล่าคะ) แล้วมันต้องเป็นธนาคารไทยที่มีสาขาในญี่ปุ่นเท่านั้นหรือเปล่า ถึงจะโอนกันได้ ตอนนี้กลับบ้านทีก็ถือเป็นเงินสดไป รู้สึกไม่ค่อยปลอดภัยเท่าไหร่เลย จากคุณ : HappyToBeMe* เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 53 16:49:17

ความคิดเห็นที่ 24 คุณ HappyTobeMe ค่ะ เราไม่ค่อยอยากแนะนำให้ใช้วิธีเราค่ะเพราะค่าธรรมเนียมแพง แต่ที่ยอมจ่ายก็เพราะห่วงเรื่องความปลอดภัยเหมือนที่คุณว่านั่นแหล่ะค่ะ สำหรับวิธีเราค่ะ สามีบอกว่าเสียค่าธรรมเนียมไม่เกินหมื่นเยน (บอกตัวเลขได้กว้างมาก T T )  แถมยังไม่รวมค่าคอมมิสชั่นที่บวกเพิ่มจากเรทเงินอีกหน่ะค่ะ   คลับคล้ายคลับคลาว่าค่าธรรมเนียมประมาณ 3-6 พันเยนค่ะ ไม่แน่ใจว่าขึ้นอยู่กับยอดเงินที่โอนหรือเปล่า สามีใช้ธนาคาร UFJ เป็นประเภท Citybank ค่ะ ( ไม่ใช่ประเภท Local ) ที่ใช้ประเภทนี้ก็เพราะเครือข่ายการโอนเงินค่อนข้างกว้าง ครอบคลุมในการให้บริการในหลายๆ ประเทศ ดังนั้น สามีก็เลยสั่งโอนเงินทางอินเตอร์เน็ตจากบัญชี UFJ ไปยังบัญชีธนาคารของดิฉัน ซึ่งไม่จำกัดว่าจะเป็นธนาคารอะไรค่ะ ( ดิฉันใช้ ธ กรุงเทพค่ะ เพราะจะได้เช็คยอดเงินที่สามีโอนแล้วผ่านทางอินเตอร์เน็ต ) ลองถือเป็นเช็คเงินสดกลับไปแทนเงินสดดีไหมค่ะ แล้วก็ค่อยเอาไปขึ้นที่ธนาคารเอาหน่ะค่ะ คือเรากลับบ้านปีละครั้งเองหน่ะค่ะ ช่วงเวลาที่เงินในธนาคารหมด ก็ไม่ตรงกับช่วงที่กลับ  เลยเลือกเสียค่าธรรมเนียมโอนจากญี่ปุ่นไปไทยเอาหน่ะค่ะ จากคุณ : sisser เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 53 19:04:00

ความคิดเห็นที่ 25 ขอบคุณมากค่ะคุณ sisser ไม่มีกิ๊ฟให้หมดไปนานแล้ว ติดไว้ก่อนนะคะ ^ ^ จากคุณ : HappyToBeMe* เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 53 20:27:19

ความคิดเห็นที่ 26 เปิดบัญชี ที่ไทย ทิ้งบัตร พร้อม ใบมอบฉันทะ..ให้ที่บ้านไว้เลยคะ.. จะใช้ จ่ายกันเท่าไหร่ อย่างไร คุณสามี ไม่เคยว่า..ยิ่งช่วยนี้ ทั้งคุณพ่อ คุณแม่ ไม่สบายเลยหนักหน่อย ต้องจ้างคนมาดูแลท่าน เพราะ เดินไม่ได้.. เดือนหนึ่ง เป็นหมื่น สองหมื่น สามหมื่น หรือ แสน ก้อใช้ไปเลย เราเป็นลูก ไปดูแลท่านไม่ได้ เพราะมีภาระ ลูกยังเล็ก..ก้อได้แต่ให้เรื่องเงิน.. ซึ่ง เรายังว่า มานน้อยมาก กับการทดแทนบุญคุญ..(ทิ้งไว้เรียกว่า เยอะเอาเรื่อง.แต่บางทีก้อไม่ค่อยมีใครใช้กันหรอก..งง..) คุณ เจ้าของ กะทู้ ตอนนี้ ไม่ได้ ทำงาน โอนไปให้คุณแม่ น้อยกว่า เดิม ซักพัก ดีไหมคะ บอกว่า เดือนนี้ ต้องจ่ายค่าประกันรถ ค่า อะไร ต่ออะไร ก้อว่าไป..อยู่ๆ จะไม่ส่งเลยเนี่ย.. เกรงว่า คุณพ่อคุณแม่ ท่านจะเป็นกังวลคะ ว่า คุณมีปัญหาอะไรรึเปล่า..อยู่เป็นสุขดีไหม.. พอเริ่มทำงาน ก้อ ค่อยส่งเท่าเดิม.. ปล.มีวิธี การโอนเงิน โดยไม่เสียค่าธรรมเนียมไปไทย..รวดเร็ว ปลอดภัย.. ขอเป็นทิ้งเมลเอาไว้ นะคะ..ไม่สามารถ ตอบทาง หลังไมค์ ได้นะคะ.. จากคุณ : **ความฝัน..และ..สุดที่รัก** เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 53 22:48:42

ความคิดเห็นที่ 27 ไม่มีคอมเม้น เพราะว่าไม่ได้ส่งให้ทางบ้านคะ ( เพราะตัวเองก็ไม่มีเช่นกัน ) สามีก็ไม่ว่าอะไรถ้าจะส่ง แต่เราก็ไม่อยากขอเงินสามีเพิ่ม เพราะเห็นใจคนออกไปทำงานคะ แต่เข้ามาชื่นชมความเห็นของ คุณพี่  Hatsu คุณพี่ Fudge-a-mania และก็คุณป้า พนอจันคะ ตอบได้ยอดเยี่ยม มากๆ จากคุณ : Cafe'_latte เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 53 03:52:39

ความคิดเห็นที่ 28 ชอบคุณ เด็กหญิงมะปรางหวาน จังเลยค่ะ         เรื่องเงินพูดกันตั้งแต่แรกเป็นแฟนแล้วว่า    ถ้าครอบครัวเดือดร้อนขาดเงินช่วยได้ไหม       เขาบอกได้ ไม่ได้ส่งให้แม่ทุกเดือนค่ะ       ให้ตอนกลับไทยเพราะกลับทุกปี ทำเอทีเอ็มของญี่ปุ่นส่งให้น้องใช้เวลาดิฉันอยากให้ส่งของมาให้สมุดบัญชีทุกอย่างก็กองรวมกันแต่สามีไม่ดู ถ้าเป็นเงินจำนวนมากที่จะให้แม่ดิฉันจะบอกสามีก่อนส่งค่ะ จากคุณ : อะไรก็ไม่ได้ เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 53 07:18:00

ความคิดเห็นที่ 29 หลายๆคนตอบแล้ว เข้ามาแนะนำสำหรับการโอนเงินง่ายๆค่ะ เปิดบัญชีที่ไทย ขอใช้บริการ ไอแบงค์ หรือธนาคารผ่านเนท แล้วสั่งโอนอัตโนมัติ ไปยังบัญชีที่เราต้องการจะโอน จะเป็นพ่อแม่ พี่น้อง หรือ จ่ายค่าน้ำค่าไฟ ค่าอะไรต่อมิอะไร ที่หักจากธนาคารได้ จะสั่งโอนรายเดือน หรือเป็นหลายครั้ง จำนวนเท่าไหร่ เราจัดการได้เอง แค่ล็อคอินเข้าไปป้อนคำสั่งโอน ค่าโอนแค่ ยี่สิบบาทเอง สำหรับธนาคารเดียวกันต่างสาขา มีบริการโอนต่างประเทศด้วยนะคะ รายละเอียดอื่นๆก็ไปติดต่อสอบถามรายละเอียดกับธนาคารโดยตรงหรือคลิ๊กไปดูในโฮมเพจของธนาคารก็ได้ พอดีตัวเอง เก็บเงิน แล้วส่งเงินไปเก็บไว้ในธนาคารที่ไทย แล้วใช้บริการอยู่ค่ะ รู้สึกสะดวก เพราะเราได้ตรวจเช็คยอดเงินเราได้ตลอด แล้วที่ไทย เวลาพ่อแม่เดือดร้อนขอเงิน ก็สั่งโอนให้เลย สำหรับเงินที่ส่งเข้าบัญชีที่ไทย จะส่งเป็นก้อนใหญ่ไปเลย ก้อนใหญ่สำหรับเราอาจจะเล็กๆสำหรับคนอื่น ..ส่งผ่านไปรษณีย์ ค่าส่งแค่สองพันกว่าเยน จำนวนวงเงินสูงสุดไม่จำกัด จากคุณ : อดีตนักกินจุก เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 53 15:20:25

ความคิดเห็นที่ 30 ขอบคุณหลายๆคำแนะนำนะคะ โดยเฉพาะของคุณอดีตนักกินจุก เดี๋ยวจะลองศึกษารายละเอียดดูค่ะ ขอบคุณมากๆค่ะ ^ ^ จากคุณ : HappyToBeMe* เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 53 06:02:59

ความคิดเห็นที่ 31   กระทู้นี้ดีมากๆๆๆๆๆๆๆๆเลยค่ะ เรื่องเงินมันละเอียดอ่อนจริงๆ แต่บางทีก้น่าโมโหนะคะ พอเราทำงานหนักก็ว่า แต่ถ้าเราไม่ทำล่ะ เฮ้ออออออ ไม่มีความพอดีเลยจริงๆ จากคุณ : kodomo เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 53 00:46:03 A:110.164.251.177 X: TicketID:200368

ความคิดเห็นที่ 32 สำหรับเรา เคยคุยก่อนแต่งงานค่ะว่าเงินที่จะส่ง หรือซื้ออะไรก็ตามให้พ่อแม่ คือ เงินที่เราหาได้เท่านั้นค่ะ ปัจจุบันก็แยกกระเป๋ากันค่ะ เผอิญว่าตอนนี้เราก็ยังมีรายได้พอใช้พอเก็บอยู่ แต่ว่าเดือนหน้าสามีจะย้ายกลับญี่ปุ่นแล้ว เราก็คงต้องหางานทำเพื่อที่จะได้มีรายได้เป็นของตัวเองต่อไปค่ะ จากคุณ : ชอบตื่นสาย (ชอบตื่นสาย) เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 53 11:24:24

ความคิดเห็นที่ 33 ขอโทษคะ ขอใช้กระทู้นี้ ปรึกษาเรื่องการเปิดบัญชี และจำนวนเงินประจำเดือนที่จะให้ลูกไว้ใช้จ่ายที่ญี่ปุ่นคะ ลูกเรียน ป.ตรีที่ โตเกียว มีหอในให้นักศึกษาพัก 1. ต้องเปิดบัญชีที่ไทยหรือญี่ปุ่น อย่างไรคะ ต้องมีเครดิดการ์ดหรืออะไร       บ้าง 2. ควรให้ใช้เดือนละเท่าไร่คะ อี่นๆ  ขอคำแนะนำด้วยคะ ขอบคุณคะ จากคุณ : NSsantorini99 เขียนเมื่อ : วันฉัตรมงคล 53 11:44:58

ความคิดเห็นที่ 34   ตอบเรื่องส่งเงินกลับไทยนะครับ ตอนนี้ผมทำธุรกิจเกี่ยวกับแลกเงิน เยน-บาทอยู่ครับ คิดเรทตามธนาคารที่คุณเคย ใช้แต่ไม่มีค่าธรรมเนียมอย่างอื่นเพิ่มครับ โอนเงินผ่าน e-banking ครับ เชคได้ทันที ลองติดต่อมาที่ akjx000 แอด hotmail.com ครับ จากคุณ : ๋JJ เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 53 16:53:12 A:202.33.240.34 X: TicketID:255052