ความคิดเห็นที่ 1   สวัสดีคะ คุณLily นันว่าน่าจะไปเรียนภาษาเพิ่มสักนิดหน่อยจะดีกว่านะคะ 5.5 ก็ถือว่าใช่ได้แล้วคะ แต่ว่าปกติมหาวิทยาลัยที่อยู่ในระดับดีที่อังกฤษจะรับที่6.0ขึ้นไปอะคะ ส่วนว่าจะเรียนภาษาเพิ่มที่ไทยหรือที่อังกฤษนั้นขึ้นอยู่กับความชอบของคุณ จขกท คะ ถ้าในความเห็นของนันเรียนที่สถาบันภาษาในไทยก่อนก็ดีคะ ให้คะแนนIELTSเกิน6.0ไปก่อน ก็ดีคะ เพราะค่าใช้จ่ายที่อังกฤษค่อนข้างสูงแต่ใช้เวลาเรียนปริญญาโทน้อยกว่าทางฝั่งอเมริกา ยิ่งเรียนภาษานานเท่าไหร่ค่าใช้จ่ายก็ยิ่งสูงขึ้นคะ ถ้าภาษาผ่านแล้วตั้งแต่ที่ไทยคุณ จขกท ก็จะประหยัดไปได้มากคะ มีหลายคนบอกว่าไปเรียนสถาบันภาษาที่อังกฤษจะพัฒนาเร็วกว่า อันนี้ไม่เถียงนะคะว่าเร็วขึ้นแต่ในความคิดของนันคิดว่าน่าจะได้เป็นจำพวกในชีวิตประจำวัน การสนทนาแต่ในระดับAcademicนั้น ต้องใช้เวลาพอสมควร โดยเฉพาะการเขียนAcademic writing ที่เป็นเรื่องสำคัญมากเพราะเราไปเรียนก็ต้องเขียนpaperส่งอาจารย์ถ้าการเขียนไม่แน่นจะเป็นปัญหาระยะยาว พี่สาวนันอยู่ในลอนดอนค่าใช้จ่ายต่อเดือนก็ถือว่าสูงกว่าเมืองอื่นๆในอังกฤษ 1ปีใช้จ่ายเป็นล้านบาทเหมือนกันคะ พี่สาวนันเค้าไม่ต้องไปเรียนภาษาคะ เพราะเตรียมตัวตั้งแต่อยู่ที่ไทยก็ใช้เวลาเรียนโทประมาณปีเศษก็จบคะ ส่วนเรื่องทุน คือเกรดเฉลี่ยของคุณ จขกท ถือว่าดีใช้ได้นะคะ ลองไปที่สำนักงานก พ ดูนะคะ แต่ถ้าไม่ได้ทุนก็คือควรที่จะเตรียมค่าใช้จ่ายให้พอต่อการเรียนตลอดหลักสูตรนะคะ เพราะจะได้ขอวีซ่าได้ง่ายขึ้นเวลาแสดงหลักฐานทางการเงินคะ ส่วนวีซ่านักเรียนนั้นตามกฎหมายห้ามทำงานนะคะ ถ้าจะทำงานจริงๆก็จะทำได้แต่ในcampusที่เราเรียนคะ สู้ๆนะคะ ขอให้โชคดีคะ จากคุณ : Teddynun เขียนเมื่อ : 18 พ.ค. 53 23:49:27 A:58.9.100.27 X: TicketID:254630

ความคิดเห็นที่ 2   ไม่อยากตัดทอนกำลังใจนะครับ แต่คิดว่าคงเป็นไปได้อยากนะครับ สำหรับทุนในสองประเทศที่ท่านเจ้าของกระทู้สนใจ เพราะแค่สมัครด้วยทุนทรัพย์ส่วนตัว IELTS ที่มหาวิทยาลัยทั่วไป ยังต้องการ 6.5 , 7 หรือ 7.5 สำหรับยูท๊อปเลยครับ นอกจากนั้น ส่วนใหญ่ทุกคนก้อต้องการไปสองประเทศนี้กันมากอยู่แล้ว ทำให้ผู้ได้ทุนส่วนใหญ่ โปรไฟล์ค่อนข้่างสูงมาก เช่น เกียรตินิยมอันดับ1 และ TOEFL 110 (ในสายนิเทศศาสตร์นะครับ) ถ้าเจ้าของกระทู้ มีผลงาน หรือ ชิ้นงานเด่นๆๆหรือ ประสบการณ์ทำงานโดดเด่น ก็ลองสมัคร กับ มหาวิทยาลัย ทางอเมริกาดูละกันนะครับ แล้วดูว่าสาขาเราสนใจนั้น มีทุนให้มากน้อยเพียงไร แต่ถ้าอยากแข่งขัน พวกทุน chevening ของฝั่งอังกฤษ ก็ลองสมัครดูละกันครับ โดยIELTSอย่างต่ำ 6.5 ประสบการณ์การทำงานอย่างน้อย 2 ปี เกรดขั้นต่ำสาม ผมไม่แน่ใจครับว่าเค้าสมัครกันช่วงไหน.... -_- เกรดผมไม่มีสิทธิสมัครครับ 555 ส่วนอเมริกา ก้อจะมีทุนเด่นๆๆคือ ฟูลไบร์ท เห็นว่าปีนี้เพิ่งสมัครกันไป ลองเสริชข้อมูลดูละกันครับ รู้แต่ว่า เเข่งขันสูงมากครับ TOEFLไม่ต่ำกว่า80 เกรดขั้นต่ำสาม อีกทุนที่น่าสนใจ คือ ทุน Endeavour ของรัฐบาลออสเตรเลียครับ กำลังรับสมัครอยู่ครับ แต่ต้องได้รับ ตอบรับจากทางมหาวิทยาลัยที่ออสเตรเลียก่อนนะครับ รู้สึกว่า จะกำหนดภาษาขั้นต่ำ IELTS6.5ครับ ไม่แน่ใจนะครับ ลองเสริชดู แต่ ปีล่าสุดนี่ คนที่ได้ทุกคน โพรไฟล์เทพทุกคนครับ อ่อเกรดเฉลี่ยของ จขกท สามารถสมัครสอบทุนรัฐบาลญี่ปุ่นที่กำลังจะเปิดได้นี่ครับ ลองสมัครดูก้อได้ครับ ไม่แน่ใจว่าต้องใช้ IELTS หรือ TOEFL หรือเปล่านะครับ แต่มีสอบข้อเขียนเป็นภาษาอังกฤษ ยากพอประมาณ แต่เห็นเพื่อนๆๆเค้าได้กันพอสมควร เพราะทุน ป.โท มีให้เยอะพอควร อีกทางก้อทุน ก.พ.ครับ แต่ไม่แน่ใจว่ามีสายนิเทศไหม.. ผมแน่นำว่า ท่าน จขกท ควรลองเสริชหาข้อมูลก่อนดีกว่าครับ ว่าทุนไหนเหมาะกับความต้้องการ เพราะ คงยากที่คนที่มาตอบจะให้ข้อมูลที่ครอบคลุม ผมก้อเคยมีความฝันอย่าง จขกท ครับ แต่สุดท้าย...ผมก้อค้นพบว่า..โปรไฟล์ผมไม่ได้โดดเด่นพอที่จะไปแข่งกับใครขนาดนั้น เราต้องอยู่กับสิ่งที่มีครับ ไม่ใช่สิ่งที่ฝัน สุดท้าย เลยต้องใช้ทุนส่วนตัวครับ สบายใจครับ ได้ไปประเทศและ มหาวิทยาลัยที่เราเลือกเอง เอาใจช่วยนะครับ จากคุณ : Ex_ap เขียนเมื่อ : 18 พ.ค. 53 23:58:39 A:125.27.207.186 X: TicketID:255100

ความคิดเห็นที่ 3   ทุนญี่ปุ่น ถ้าหมายถึงมงบูโช เกรดต้อง 3.5 up ค่ะ ยกเว้นคุณ จขกท จะมีความรู้ภาษาญี่ปุ่น มีผลสอบวัดระดับ เกรดจะลดลงไปตามความสามารถภาษาญี่ปุ่นค่ะ อีกวิธีคือ ไปเรียนที่ยุโรปบางประเทศที่ยกเว้นค่าเล่าเรียน เสียแต่ค่ากินอยู่ จากคุณ : กระปุกตังฉ่าย เขียนเมื่อ : 19 พ.ค. 53 06:03:26 A:114.78.174.152 X: TicketID:188044

ความคิดเห็นที่ 4   ^ ^ ^ JAPANESE GOVERNMENT (MONBUKAGAKUSHO: MEXT) SCHOLARSHIP FOR 2011(THAILAND) MEXT (Ministry of Education, Culture, Sports, Science, and Technology) offers approximately 50 (fifty) scholarships to Thai students who wish to study at Japanese universities as research students under the Japanese Government (MEXT) Scholarship Program for 2011 as follows (5) Academic Records (GPA): (A) Applicants who have an undergraduate degree of a university Applicants must fall under either of the following items as those who have been recognized as achieving excellent results at an undergraduate degree of a university. ① Those who have more than 3.25 in cumulative average credits at an undergraduate degree of a university. ③ Those who have passed the Japanese Language Proficiency Test administrated by the Japan Educational Exchanges and Services and the Japan Foundation, and have the following cumulative average credits at an undergraduate degree of a university. More than 2.80 for Level 1 More than 3.00 for Level 2 More than 3.15 for Level 3 ที่มา http://www.th.emb-japan.go.jp/imgnews/mext/research.pdf จากคุณ : EX_ap เขียนเมื่อ : 19 พ.ค. 53 06:35:03 A:125.27.211.33 X: TicketID:255100

ความคิดเห็นที่ 5   แนะนำทุน Fulbright สำหรับไปเรียนที่อเมริกาครับ เข้าไปดูรายละเอียดได้ที่ www.fulbrightthai.org เกรด GPAของคุณเกิน 3.0 เพราะฉนั้นสมัครได้ครับ การสมัครสำหรับปีนี้(เพื่อไปเรียนเทอม fall 2011) ได้ผ่านไปแล้วแต่ยังไงฟิตตัวเองเพื่อสมัครปีหน้าตั้งแต่ตอนนี้เลยได้ครับ ถ้าจะสมัครปีหน้าก็ควรเตรียมตัวดังนี้ - สอบ TOEFL ก่อน สิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2011 ตั้งเป้าไปที่อย่างน้อย 100 จิงๆแล้ว requirement สมัคร Fulbright อยู่ที่ 80 แต่แนะนำว่าคะแนนควรได้สูงกว่า 100 นะครับเพราะสาขา communication  จะ require TOEFL สูงเป็นส่วนใหญ่ คนที่ได้ทุนด้วยคะแนน 80 กว่าๆก็มีบ้างแต่จะเป็น field ด้าน engineer หรือ international development ที่ไม่เน้นภาษามาก  ถ้าจะเข้าเรียน marketing communication ที่มหาลัยชั้นนำคะแนนควรได้ 108-115 ครับ - เตรียมหา recommendation 2 ที่ จากอาจารย์ที่มหาลัยและหัวหน้าที่ทำงาน แนะนำว่าต้องเป็นคนที่รู้จักเราจริงๆและเคยแนะนำการเรียนหรือการทำงานให้เรา ไม่จำเป็นต้องเอาคนมีชื่อเสียงนะครับ เขาไม่ได้ดูตรงนี้ - เตรียมเขียน Statement of Purpose และ Study Objectives อันนี้เป็นส่วนที่ยากและต้องตั้งใจที่สุด ถ้าดูประวัติผู้ได้ทุนด้านนิเทศของ Fulbright จะเห็นได้ว่าส่วนใหญ่จะได้ทางด้าน Journalism และผู้ได้จะมาจาก 2 สถาบันชั้นนำจาก จุฬาและธรรมศาสตร์ แต่ปีล่าสุดคนที่ได้ก็จบ abac และได้ทาง health communication แนะนำว่าควรจะเลือก field ที่ใหม่ น่าสนใจ มีคนจบน้อย และมีแนวโน้มในการเติบโตสูง (คู่แข่งคุณก็จะน้อยไปด้วย) ส่วนตัวผมคิดว่า marketing communication นั้นเป็นคณะที่มีคนไปเรียนเยอะอยู่แล้ว อาจจะไม่ใช่ field ทีน่าสนใจเท่าไหร่เพราะธุรกิจจ๋า ซึ่งอาจจะอธิบายว่าทำไมไม่เคยมีคนได้ทุน Fulbright ด้านนี้เลย(เท่าทีรู้) แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีทางได้เลย เพราะปีล่าสุดก็มีผู้ได้ MBA - marketing และได้เข้าที่ Harvard ไป เวลาคุณสมัครก็ต้อง defend ให้ได้ว่าทำไมคุณถึงคิดว่า marketing communication เป็นด้านที่ Fulbright ควรให้ความสนใจ จะนำมาพัฒนาเศรฐกิจและองค์กรในไทยอย่างไร ช่วยเหลือคนในไทยอย่างไร ผมว่าจะน่าสนใจมากถ้าสามารถเอา marketing communication มาผูกกับเรื่อง corporate social responsibility และ social & community investment ได้ research มหาลัยที่อยากจะเข้าเรียนด้วยนะครับเพราะต้องระบุว่าจะอยากเข้าที่ใหนและทำไมถึงต้องเรียนที่นั่น ที่ๆดังด้าน marketing communication หรือมีหลักสูตรคล้ายๆกัน ก็คือ Northwestern, Syracuse, U. Illinois Urbana-Champaign, UT-Austin และ USC ยังไงก็โชคดีนะครับ คนเราถ้ามีความพยายามยังไงต้องได้ทุนแน่นอนครับ จากคุณ : wittie1825 เขียนเมื่อ : 19 พ.ค. 53 08:52:07

ความคิดเห็นที่ 6 คุณ Lily คะ อย่าเพิ่งท้อนะคะ ดิฉันก็จบมาทางนิเทศศาสตร์ ที่ค่อนข้่างหาทุนยากเหมือนกัน แนะนำให้ลองมองทุนจากมหาวิทยาลัย เช่น ม.กรุงเทพ หอการค้า ที่ให้ทุนไปศึกษาต่อและกลับมาเป็นอาจารย์ค่ะ หากเรียนที่อังกฤษ ใช้เวลาเรียน 1 ปี ก็สอนใช้ทุน 4 ปี (จะว่าไปก็เร็วเหมือนกันนะึคะ)  ดิฉันก็ได้ทุนนี้เหมือนกันค่ะ พอดีรักในอาชีพครูเลยรู้สึกว่าโชคดีมากค่ะ ลองดูนะคะ :) จากคุณ : --Delicia เขียนเมื่อ : 20 พ.ค. 53 14:53:24

ความคิดเห็นที่ 7   หากคุณเข้าเกณฑ์ข้างล่างนี้ก็สมัคร Chevening เลยครับ ไม่มีข้อผูกมัดอะไร เรียนโทสาขาอะไรก็ได้ มหาวิทยาลัยไหนก็ได้ใน UK แถมยังได้เป็นเกียรติประวัติอีกยาวนานด้วย -Young professionals in many sectors that had the best likelihood of containing opinion leaders and influence formers of the future – the media, political parties, NGOs, government , private sectors and leading universities, with as many candidates as possible from outside Bangkok as well as professionals involved with Climate Change, Renewable Energy and Environmental Studies. -Thai nationals of outstanding academic ability with a good first degree. -Applicants MUST hold a Bachelor’s degree in a relevant subject with a GPA of at least 3.0. -Applicants should have at least 2 years’ work experience. -Excellent spoken and written English are very essential (a minimum of IELTS 6.5 or equivalent, though some courses require 7.0 or higher). The Chevening Scholarships are looking for future leaders จากคุณ : go for it เขียนเมื่อ : 29 พ.ค. 53 19:40:27 A:58.8.124.178 X: TicketID:057944