ความคิดเห็นที่ 1   เราทนสุด ๆrแต่เขาเห็นแก่ตัวมาก ๆ อะไรก็เอาแต่ใจตัวเอง เขาถูกตลอด เราอีดอัดมาก ๆ แต่พยายามประคับประคองชัวิตคู่ หลายคนถามว่าก่อนแต่งงานกะเขาไม่รูเหรอนิสัยเขาเป็นอย่างไร ขอบอกว่าหน้าเป็นหลังมือค่ะ คบกันนานเราโง่หรือที่ดูไม่ออกจริง ๆ เขาพูดแรง ๆ กะเรามาก บางครั้งเราก็ตอลโต้เหมือนกัน แต่ มันทนไม่ได้ที่เขาบอกว่าทนไม่ได้ให้กลับเมืองไทยไปซะ ดูมานพูดง่าย ๆ เห็นแก่ตังจัง ล่าสุดเหมือนตอนเช้าเราถามถึงเรืองลูกสาวเขาว่าเป็นไงบ้าง หลังจากทราบว่าแม่เขาเอาเด็กออกจาก เดแคร์ และแม่เขาติดยา ที่ลงในเฟรสบุค เราคุยดี ๆ หาเรือ่งเราว่าเรารังเกีบจเด็ก อ้าวเป็นงั้นไป เราถามแค่ว่า ให้เวลากะเราบ้างได้ใหม เล่นเกมส์ เล่นเน็ตข้ามวันข้ามคืนได้ เราขอให้มาใส้ใจเราบ้าง เขากลับบอกว่าถ้ามีเวลาเหลือ จะใส่ใจเรา นี่เราต้องรอเศษเวลา จากเขาใช่ใหม เขาบอกว่าหมามันยังพูดรู้เรื่องเลย ทำใหมเธอ พูดไม่รู้เรือง เปรียบเหมือนหมา น้ำตาเรไหลมาโดยไม่รู้ตัวเลย . เราเจ็บใจมาก ๆ เขาทำเราเยอะ ๆ ไม่ไหวแล้วเรามีเงินแค่ส่วนหนึ้ง แต่ต้องรอกรีนการ์ด หวังว่าจะได้เร็ว ๆ นี่ เราอยากเดินออกไปจากเขามาก คนเราถ้าไม่รัก ไม่แคร์กัน จะอยู่กันเพื่ออะไร เราซัมเคร้าหนัก แต่อยากแค่ขอระบายบ้าง เราแค่หวังว่า เข้าใจใรสถานะการณ์ที่เราเป็นอยู่ ช่วยหน่อยค่ะมิตรกำลังใจเพือ่นคนไทยต่างแดน เราอยากยิ้มได้อีกครั้ง ปอลอ ถ้าอ่านแล้วงง สันสน เราก็ขอโทษด้วยนั้งพิมพ์ไปร้องให้ไป จากคุณ : Sadness เขียนเมื่อ : 4 มิ.ย. 53 22:40:33 A:174.97.139.2 X: TicketID:272805

ความคิดเห็นที่ 3   เรื่องลูก สำหรับคนอเมริกัน เราว่าเรื่องใหญ่มาก พูดมากไม่ได้เกี่ยวกับลูกติดกับเขา ใครๆก็รักลูก เราเข้าใจ เราว่าสถานะตอนนี้คือคุณรอกรีนการ์ด หลังจากได้กรีนการ์ดก็หางานทำ พยายามอยู่ให้ได้ด้วยตัวเอง ตอนนี้อดทน เพราะเขาเป็นคนหาเงิน แต่ถ้าอดทนไม่ได้ก็ต้องหาทางออกทางอื่น ซึ่งก็ต้องกลับบ้าน บนโลกนี้คนที่จะอยู่ได้ต้องเป็นคนอดทนค่ะ สามีเป็นคนเห้นแก่ตัว เวลาคุณออกไปหางานทำเราว่าจะเจอคนเห็นแก่ตัวยิ่งกว่านี้ อย่าลืมว่าเราต้องอยู่และทำอะไรให่้ได้ด้วยตัวเองนะคะ เรื่องลูกติด แนะนำว่าไม่ควรพูดหรืออความคิดเห็นใดๆจะเป็นการดี จากคุณ : BeauUSA เขียนเมื่อ : 4 มิ.ย. 53 22:55:20

ความคิดเห็นที่ 5 ขอให้น้ำตาแห้งไวไว และเข้มแข็งพร้อมเผชิญหน้ากับทุกสิ่งค่ะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ จากคุณ : nickyfox เขียนเมื่อ : 4 มิ.ย. 53 23:14:54

ความคิดเห็นที่ 6 Every body has problems... you, your husband, his ex and his children. Every one wants something from another person. Divorce him and move on find a new man who is totally free from previous marriage. จากคุณ : JidNince เขียนเมื่อ : 4 มิ.ย. 53 23:18:29

ความคิดเห็นที่ 7   เราว่าเเฟนคุณคงเครียดเรื่องลูก เราว่าต้องทำใจนะคะ คือ ผู้ชายที่มีลูกติดเนี่ย ถ้าเป็นคนปกติทั่วไป เค้าไม่มีวันรักคุณมากกว่าลูกเค้าเเน่นอน เราว่าเเม่เด็กติดยาอีก เค้าควรรับลูกมาเลี้ยงเลยสิ เเนะนำไปเลย อ่านเเล้วสงสารเด็กนะเนี่ย จากคุณ : hey เขียนเมื่อ : 4 มิ.ย. 53 23:26:23 A:58.10.195.61 X: TicketID:270319

ความคิดเห็นที่ 8   ลองพยายามหางานพิเศษทำดูดีมั้ยคะ ระหว่างที่รอกรีนการ์ด ก็หางานทำไปด้วย เลิกเศร้าเถอะค่ะ แล้วตัดสินใจให้ดีว่าจะอยู่กับคนแบบนี้ได้อีกนานแค่ไหน ลุกขึ้นมาปฎิวัติตัวเองเสียใหม่ ออกไปหางานทำซะ จะได้ลดการพึ่งพาเขาเรื่องเงินทอง จะได้ไม่ต้องเสียใจด้วยค่ะ เมื่อเริ่มยืนได้เราจะมีอำนาจในการต่อรองมากขึ้น ถ้าคุณได้กรีนการ์ดเมื่อไหร่ ก็ทำเรื่องฟ้องหย่าเลยค่ะ พยายามเงียบเข้าไว้ และก็เก็บหลักฐานไปเรื่อยๆ ดูถูกเราหาว่าเราเลวกว่าหมา ทำร้ายจิตใจกันรุนแรงมากมาย ถ้าคุณยังไม่อยากกลับบ้าน ทางเลือกตอนนี้คือ ต้องอดทน อย่าเศร้า อย่าเสียใจ และอย่าโวยวายหรือทำตัวมีปัญหา ให้เงียบเข้าไว้ พร้อมกับเก็บหลักฐานไปด้วย ถ้าภาษาไม่ดีก็พยายามไปฝึกภาษา หรือหางานทำกะคนไทยไปก่อน เมื่อภาษาดีขึ้นก็ค่อยไปทำงานอื่นๆ เมื่อเริ่มยืนได้แล้ว ก็สบายละรอวันรับกรีนการืดอย่างเดียว คุณพอจะทำได้มั้ยคะ อย่าเสียใจเลยค่ะ จากคุณ : นก เขียนเมื่อ : 4 มิ.ย. 53 23:30:34 A:1.1.1.42 X:124.120.152.246 TicketID:272924

ความคิดเห็นที่ 9 สามีคุณกำลังเครียดกับปัญหารอบตัวเขา...โดยเฉพาะปัญหาหนี้สินและปัญหาลูกสาวจากภรรยาเก่า...นอกจากนั้นเขายังแบกภาระในบ้านคนเดียวด้วย...เขาเครียดนะคุณ!!! ทีนี้ก็ต้องมาดูก่อนว่า...ณ เวลานี้คุณทำอะไรบ้างที่ทำให้เขาเครียดเพิ่ม? ต้องจับเข่าคุยกันดีๆ...คุณบอกว่ากำลังขอกรีนการ์ด ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนไหนคะ? และคุณได้ SSN หรือยัง? ตอนยื่นขอได้ขอ work permit ด้วยหรือเปล่า? ถ้ามีทั้งสองอย่างคุณก็ออกไปหางานทำได้เลยค่ะ ไม่ต้องรอจนกว่าจะได้กรีนการ์ด (งานที่จะทำได้ตอนนี้ก็คงเป็นงานแบบ entry level)...แต่อย่างความเห็นข้างบน...ภาษาอังกฤษของคุณอยู่ในระดับไหน? ถ้าอ่อนก็ต้องไปเสริมให้แข็งแรง (โรงเรียนที่สอนฟรีมีเยอะแยะลองเช็คดู) ถึงจะไปหางานทำได้... ชีวิตคู่น่ะก็ต้องมีทั้งทุกข์และสุขร่วมกัน...และต้องหนักแน่น...การแต่งงานกับชาวต่างชาติไม่ใช่ happy ending แต่เป็น new beginning และ challenge ทีเดียวนะคะ...เพราะคุณจะต้องปรับตัวเข้ากับเขาและสังคมใหม่ๆ ความคิดใหม่ๆ วัฒนธรรมใหม่ๆ ภาษาใหม่ๆ และอะไรอีกหลายอย่าง...ถ้าคุณปรับตัวและคิดว่าคุณทำดีที่สุดแล้ว...ก็พิจารณาคนและสถานการณ์รอบข้างเป็นลำดับต่อไป ถ้าทนไม่ได้แล้วก็กลับไทยไปเถอะค่ะ อย่าทรมานตัวเองเพื่อ "กรีนการ์ด" เลยค่ะ...สมมุติว่าคุณได้กรีนการ์ดจากการแต่งงานกับสามีอเมริกัน หากอายุการแต่งงานไม่ถึง 2 ปีคุณจะได้กรีนการ์ดแบบมี condition เพียง 2 ปี...หลังจากครบ 2 ปีของการถือกรีนการ์ดคุณจะต้องยื่นขอ remove condition เพื่อได้กรีนการ์ด 10 ปี... แต่หากคุณหย่าหลังจากได้กรีนการ์ด คุณจะไม่สามารถยื่น remove condition ได้ ยกเว้นเสียว่าคุณสามารถพิสูจน์ได้ว่าการหย่านั้นไม่ใช่ความผิดของคุณ เช่น คุณถูกสามีทำร้าย (abuse) จนคุณทนไม่ได้ แต่คุณก็ต้องมีหลักฐานยืนยันด้วยนะคะ (ไม่ใช่ปากเปล่า)...ถ้าคุณยื่น remove condition ไม่ได้คุณก็ต้องเดินทางออกจากอเมริกา แต่ถ้าคุณอยู่ต่อไปโดยไม่แคร์กับการ remove condition คุณก็จะมีสภาพเป็น illegal immigrant...หากคุณพบคนใหม่และแต่งงานกันพอยื่นขอกรีนการ์ดอีกรอบก็จะมีปัญหา และอาจจะโดน deport ได้และห้ามยื่นเรื่องใดๆ เป็นเวลา 10 ปี แต่ถ้าคุณผ่านการ remove condition ใน 2 ปีข้างหน้า...ซึ่งคุณและสามีจะต้องแสดงให้เห็นว่าคุณทั้งสองยังมี good marriage อยู่และในปีที่ 3 คุณสามารถยื่นขอ US citizenship ได้ แนะนำให้มองปัญหาให้ละเอียดและมองให้กว้าง เรื่อง "ชีวิตคู่" เป็นเรื่องของคนสองคนที่จะปรับตัวเข้าหากัน ต้องพูดกันรู้เรื่อง (คุณมีปัญหาเรื่อง language barrier หรือเปล่าคะ?)...คุณเคยปรึกษาเรื่องนี้กับทางบ้านหรือเปล่าคะ? ถ้าไม่เคยเป็นเพราะอะไร? จากคุณ : BlackmagicW เขียนเมื่อ : 5 มิ.ย. 53 00:04:09

ความคิดเห็นที่ 10 เห็นใจผู้หญิงทุกคนที่มีปัญหาชีวิตหลังแต่งงานไปแล้ว แต่บางเคสก็ไม่ค่อยจะเข้าใจว่าเมื่อถึงคราวมีปัญหาทำไมสิ่งที่ "ต้องรอ" กลับกลายเป็นกรีนการ์ดหรือบางประเทศก็เป็นพวกวีซ่าถาวรอะไรเทือกนี้ ทำไมไม่คิดหาทางแก้ปัญหาหรือหาทางออกด้วยวิธีอื่นๆแทนการรอกรีนการ์ด? มันเลยกลายเป็นว่าการมีปัญหาครอบครัว ไม่ว่าจะเกิดจากสามีประเภทไหนมีลูกติดหรือไม่มีลูกติด แต่หากแต่งงานกับฝรั่งและหากมีปัญหาอะไรผู้หญิงไทยมักจะหาทางออกอื่นไม่ได้ ... เพราะต้องรอโน่นนี่ก่อนเสมอ (รอการอยู่ถาวร)  มันเลยกลายเป็นอุปสรรคมากขึ้นในชีวิตเข้าไปอีก หากการมีปัญหาครอบครัวสามารถตัดทอนระยะเวลาการรอคอยอะไรสักอย่างลง (การรอคอยที่เป็นผลประโยชน์โดยอาศัยคนอื่น เช่น .. รอกรีนการ์ดเพราะสามีเป็นคนรับรอง เป็นต้น) และเราสามารถจัดการหรือกำหนดชีวิตตัวเองได้ โดยไม่ต้องง้อคนอื่น ทางออกในการแก้ปัญหาชีวิตครอบครัวนั้น มีทางออกมากมายค่ะ ปัญหาเรื่องลูกติด เมียเก่า/ใหม่ ฯ หากรู้วิธีที่จะอยู่กับคนเหล่านั้น รู้วิธีที่จะจัดการกับอารมณ์ของคนเหล่านั้น ปัญหามันจะไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไปเลย แค่ต้องรู้เขารู้เรา รู้จังหวะและทิศทางลม ที่สำคัญรู้ใจตัวเองว่าเราอยู่กับคนๆหนึ่งเราต้องการอะไรจากเขา? เพราะหากเราอยู่กับใครแล้วเราไม่หวังอะไรเลยจากเขา เราจะไม่เคยต้องผิดหวังหรือเสียใจอะไรเลย คุณลองคิดดูนะคะ ร้องไห้เสียใจไป มันก็มีแต่เราที่ทำร้ายตัวเอง ร้องไห้ตาบวมคนไม่สวยและอารมณ์เสียก็คือเราเองอีก สามีไม่ดีมีทางเลือก 2 ทาง คือ.. 1.ถ้าไม่อดทนต่อไปเพราะต้องการผลประโยชน์ 2.ก็ต้องเลิกแล้วหาใหม่ หรือไม่ก็เลือกอยู่คนเดียวไปเลย เพราะหากเลิกคนนี้ไปแล้วไม่รู้วิธีแก้ปัญหา ไปเจอคนใหม่ก็มีปัญหาใหม่อื่นๆตามมาอีกเหมือนเดิม ชีวิตครอบครัวต้องรู้จักแก้ปัญหาจึงจะสามารถอยู่รอดได้ค่ะ จากคุณ : กุศโลบายจากความจริง เขียนเมื่อ : 5 มิ.ย. 53 00:08:11

ความคิดเห็นที่ 11 ณ ตอนนี้ ระบายออกมาเถอะคะ.. อย่าเก็บไว้คนเดียว.. เวลาที่เรามีอารมณ์เศร้า เสียใจ เป้นธรรมดาที่จะรู้สึกหนทางต่างๆ มันจะดูมืดมนไปหมด ให้เวลาตัวเอง..คิดถึงความภาคภูมิใจในอดีต กว่าที่คุณจะได้มายืนจุดนี้  มีอุปสรรคต่างๆ คุณผ่านมันมาได้อย่างไร คุณลองจินตนาการ เหมือนแยกร่าง มามองดูตัวเอง ตอนนี้คุณเห็นผู้หญิงคนหนึ่งกำลังพิมพ์ไป ร้องไห้ไป แต่เมื่อวาน ก็ไม่มีภาพนี้  วันข้างหน้า ก็ไม่มีภาพนี้ แต่อาจเป็นภาพคุณกำลังยิ้ม หัวเราะ อยู่ก็ได้.."ไม่มีอะไรถาวร แม้แต่ความทุกข์ สุดท้ายมันก็จะผ่านไปคะ. เชื่อคะว่า หลังจากจิตใจคุณผ่อนคลายขึ้นแล้ว คุณจะเห็นทางแก้ได้..เห็นหนทางต่างๆ ชัดเจนขึ้น จากคุณ : gpatama เขียนเมื่อ : 5 มิ.ย. 53 00:21:52

ความคิดเห็นที่ 12   ขอเป็นกำลังใจให้น่ะค่ะ ยังไงขอให้อดทน เวลา+ความเข้มเเข็ง จะทำให้คุณผ่านมันไปได้.... ถ้าอยู่บ้านเเล้วคิดหนัก/กดกัน ลองออกไปหางานทำ ได้ทั้งเงิน+เพื่อนใหม่ๆ ^^ จากคุณ : laimuic เขียนเมื่อ : 5 มิ.ย. 53 00:23:24

ความคิดเห็นที่ 13   ขอบคุณสำหรับความห่วงใยที่มีให้ค่ะ ตอนนี้มี SSN แล้วค่ะ ตอนยื่นเรื่องขอเวีคเพอร์มิทด้วยค่ะ คาดว่าจะได้เร็วๆ นี้ เราเป็นคนมองโลกในแง่ดีมาตลอด ห่วงใยแฟนและลูกเขา เรากับลูกเขาเข้ากันได้ดี แต่แม่ของเด็กไม่ชอบเรา เราเข้าใจน่ะ เราพยามจับเข่าคุยกะแฟน พูดกันดี ๆ แต่แฟนทำตัวเหมือนเด็กชอบหนีปัญหา เอะอะโวยวายตลอด ตั้งข้อแม้เยอะมากๆดูถูกเรา เรื่องภาษาเราค่อนข้างดีค่ะ เรื่องานพยายามหาเหมือนกัน ได้ เวิคเพอร์มิทลุยค่ะ เรายอมที่จะปั่นจักรยานไปทำงาน บ้านเราเมล์ไม่ผ่านค่่ะ เราเย็นน่ะ พยายามหาเรืองที่คุยและทำแล้วมีความสุขด้วยกันเหมือนตัวเขาฝืนทำ หยุดร้องให้แล้วค่ะ ต้องใช้สมองแล้ว เราต้องมีความสุขอีกครั้งด้วยตัเองให้ได จากคุณ : Sadness เขียนเมื่อ : 5 มิ.ย. 53 00:27:03 A:174.97.139.2 X: TicketID:272805

ความคิดเห็นที่ 14 เข้ามาเป็นกำลังใจให้คะ เห็นใจมากๆกับปัญหาที่คุณได้รับจากสามี และสถานกาณร์ ตอนนี้ พยายามอ่านแบบให้เข้าใจมากที่สุด คงเพราะน้ำตาที่มาบดบัง เลยทำให้ การพิมพ์ตกไปเยอะ อ่านไป งง ไป แต่ไม่เป็นไรคะพอเข้าใจ ได้... ....แต่ ถ้าแก้ไขคำผิดก็จะดี ที่เพื่อนๆจะได้อ่านรอบเดียว เข้าใจเลยนะคะ ปัญหาเรื่องลูกติดสามี นี่ เซนซิทิฟมาก เอาเป็นว่าง่า ยๆ เราอย่าพยายามพูดถึงหรือถามเขาเลย เมื่อเขาอยากบอกเรา เขาคงจะบอกเอง ดิฉันว่าเขาคงเครียดด้วย เรื่องลูก ปัญหาหนี้สิน หลายอย่าง เราทำได้แค่ พยายามดูแลเขา ในส่วน อื่นๆ เช่นทำอาหารรอ  ดูแล ให้เขาได้พักผ่อนมากๆ และ คงต้องบอกว่า การอดทน มากๆ เป็นทางออกที่จะทำให้คุณยัง ฮึดสู้ได้ การอดทน ที่เขาจะ ด่า ว่าเรา ต่างๆ ยังไงเราก็ ทางเลือกยังไม่มาก ยังอาศัยทุกอย่างที่เป็นเขา สามี ภรรยา ทุกคู่มีปัญหา การอดทนเข้าไว้ จนถึงที่สุด เป็นด่านแรกคะ นอกนั้นมาดูสิว่า เราพอจะหางาน ทำอะไรได้บ้าง ระหว่างรอ กำลังใจสำคัญมาก ดิฉันเข้าใจปัญหา ส่วนทางออก จขกท ลองตั้งสติ และ ศึกษา จาก บางท่านแนะนำข้างต้นดูนะคะ เราเชื่อว่า คุณจะหาทางออกได้ในที่สุดและโดยไว สู้ๆนะะค มาอยู่ ต่างบ้านต่างเมือง แบบพวกเรา ไม่เจอปัญหาเองอาจจะ ไม่เข้าใจ ... (ส่วนตัวดิฉันไม่ได้มีปัญหาใดๆ นะคะ ) แต่ดิฉัน คงมีแค่กำลังใจ ละเอาใจช่วยให้ จขกท. ลุกขึ้นสู้ กัดฟัน ต่อไป และ อย่าลืม ศึกษา เส้นทาง อื่นๆที่เราจะยืนด้วยตัวเองได้ ขอเป็นกำลังใจให้ และขอให้ สามีคุณกลับตัวกลับใจ  ในสิ่งที่ประปฎิบัติไม่ดีกับคุณ มาดูแล คุณเข้าใจ คุณแทนนะคะ เอาใจช่วยเรื่องกรีนการ์ดด้วยคะ  อดทนๆนะค เป็นกำลังใจให้เสมอคะ จากคุณ : peace (MajestyLove) เขียนเมื่อ : 5 มิ.ย. 53 01:08:13

ความคิดเห็นที่ 15 มาเป็นกำลังใจให้ จขกท. นะคะ....สู้ ๆ ค่ะ จากคุณ : sa_bkk เขียนเมื่อ : 5 มิ.ย. 53 02:58:32

ความคิดเห็นที่ 16   ขอบคุณที่แชร์เรื่องของคุณให้อ่านให้รับรู้ ไม่ทราบจะแนะนำยังไง เพราะอ่อนประสบการณ์เรื่องชีวิตคู่ แต่ขอเป็นกำลังใจให้นะคะ โชคดีค่ะ จากคุณ : ข้าวหอม เขียนเมื่อ : 5 มิ.ย. 53 04:39:48 A:98.247.166.88 X: TicketID:207707

ความคิดเห็นที่ 17   อดทนต่อไป ทำเงียบๆ ไม่ต้องหวังอะไรจากเขา เพราะถ้าหวัง แล้วไม่ได้จะผิดหวัง เสียใจ เอาความดีของเรา ให้ชนะใจไปเลย จากคุณ : เอ๋ เขียนเมื่อ : 5 มิ.ย. 53 08:10:04 A:125.24.186.238 X: TicketID:237798

ความคิดเห็นที่ 18 เราเสียใจกับผู้หญิงทุกคนที่ทิ้งชีวิตตัวเองมาแต่งงานกับคนต่างชาติ แล้วต้องมาทุกทรมานแบบนี้ค่ะ เราเคยรู้จักน้องคนหนึ่งตอนสัมภาษณ์วีซ่า K1 ที่ไทย ก่อนน้องจะมาอเมริกาสามีดีทุกอย่าง ส่งเงินไปให้พ่อแม่ที่ไทยใช้ทุกเดือน พอน้องมาถึงอเมริกา สามีก็บอกว่า เธอมาอยู่ที่นี่แล้ว เงินที่ให้ที่บ้าน ชั้นเลิกส่งแล้วนะ   แล้วก็วันๆ คอยแต่จะให้น้องออกไปทำงานข้างนอกบ้าน ทั้งๆ ที่ยังไม่ได้ work permit เลยคะ พอได้เงินมาก็ริบเอาเงินไปหมด บอกว่าเอามาให้เค้าเก็บไว้ ถ้าจะใช้จ่ายอะไรบอกเขา แต่น้องบอกเราว่า สามีเอาเงินไปรวมกันแล้วก็ส่งให้เมียเก่า ให้ลูกติดใช้ น้องอยากจะเอาเงินส่งให้แม่ที่เมืองไทยก็ยังไม่ได้เลย ร้ายกว่านั้น สามียังคบกับผู้หญิงคนอื่นอีก ผู้หญิงก็โทรมาทุกวัน สามีบอกว่า เพื่อนกันนะ เธอต้องอดทน ชั้นรู้จักกับเค้าก่อนคบกับเธออีก ตอนหลังน้องเค้าทนไม่ไหวได้กรีนการ์ดแล้ว เลยขอกลับไทย พอขอกลับไทย สามีโมโหขอหย่า แต่ตอนหลังก็เปลี่ยนใจ บอกว่า ให้น้องกลับไปพักผ่อน เยี่ยมพ่อแม่ที่ไทย แล้วค่อยกลับมาใหม่ ห่างกันอะไรๆ คงจะดีขึ้น ตัวเขาเองก็จะปรับปรุงเรื่องผู้หญิง   พอน้องกลับไทยมาจริงๆ เราโทรคุยกับน้องที่ไทย น้องบอกว่า "ไม่อยากกลับมาอเมริกาแล้วพี่ แม่ก็บอกว่าไปอยู่แล้วเป็นอย่างนี้อย่าไปเลย" สุดท้ายคือน้องเค้าเลือกจะอยู่เมืองไทย ไม่กลับมาอีกแล้ว  สามีพยายามติดต่อขอทำเรื่องหย่า (ขอโทษที่เล่ายาวนะคะ) เพราะอยากให้เห็นว่าไม่ได้มีแต่คุณที่เป็นผู้ถูกกระทำคะ   เราคิดเหมือนคุณคห. 9 นะคะ ว่าแต่งงานกับฝรั่งมันไม่ใช่ happy ending มันเป็น new beginning จริงๆ คะ ขอให้คุณอดทนนะคะ พอหางานได้ ทำงานหาเงินได้เองแล้วอะไรๆ คงจะดีขึ้นคะ อย่างน้อยสามีคงนับถือในตัวคุณมากยิ่งขึ้น และคงไม่พูดจาดูถูกกันอีกคะ เป็นกำลังใจให้นะคะ จากคุณ : littlebitlittlemore เขียนเมื่อ : 5 มิ.ย. 53 09:19:50

ความคิดเห็นที่ 19 พิมพ์ผิดเยอะมากเลยค่ะ อ่านแล้วงง จากคุณ : หนมโมจิ เขียนเมื่อ : 5 มิ.ย. 53 12:01:23

ความคิดเห็นที่ 20 อ่านจบแล้วก็เห็นใจค่ะ แต่ถ้าไม่มีทางเลือกคงต้องทนไปก่อน พยายามหารายได้เสริมอยู่ให้ได้ด้วยตัวเองจะได้ไม่ต้องง้อเค้ามากนัก ยังไงก็เป็นกำลังใจให้นะคะ ขอให้มีทางออกที่ดี จากคุณ : หนมโมจิ เขียนเมื่อ : 5 มิ.ย. 53 12:06:46

ความคิดเห็นที่ 21 เคยใด้ยินมาว่าก่อนเเต่งดี๊ดี เเต่พออยู่ไป..อยู่ไป ไหงเปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังทีน....นี่เเหละหนา ใดๆในโลกย่อมเเปลี่ยนเเปลง เรื่องลูก ลูกใคร ใครก็รัก เข้าประเภทลูกข้า ใครอย่าเตะ เราเองก็เป็นเหมือนกัน รอกรีนการ์ดอยู่ ไม่เกี่ยวกับการหางาน เวลาคุณไปหางาน เขาไม่ถามหากรีนการ์ดหรอกค่ะ เเต่เขาจะถาม ss number เเละ ID คุณ การเเต่งงานคือการเริ่มต้นของชีวิต คน2คน ตกลงใจพากันไปลงเรือรัก ใหม่ๆก็ช่วยกันพายดีอยู่หรอก อยู่ต่อมา กลับเอาใม้พายมาตีกัน จนทำให้ เรือรักล่ม (ตามคำโบราณที่ว่าใว้) การประคับประคองชีวิตคู่ต้องใช้ความอดทน เสียสละ ช่วยเหลือ หนักนิดเบาหน่อยอภัยให้กัน ซึ่งผู้หญิงต้องเป็นฝ่ายอดทนให้มาก รู้จักปิดหู ปิดตาซักข้าว บางทีอาจจะมีความสุข จากคุณ : Quel เขียนเมื่อ : 5 มิ.ย. 53 15:51:36

ความคิดเห็นที่ 22 "คนเราถ้าไม่รัก ไม่แคร์กัน จะอยู่กันเพื่ออะไร " ... บางครั้งจขกท.ก็อาจมีคำตอบอยู่แล้วในใจนะคะ เห็นใจจริงๆ คิดให้รอบคอบ ขอคำปรึกษาพ่อแม่พี่น้องของเรา ทุกท่านรักคุณและให้กำลังใจคุณทุกคน .. ขอให้พบทางออกที่ดีนะคะ จากคุณ : su_k3430 เขียนเมื่อ : 5 มิ.ย. 53 16:04:50

ความคิดเห็นที่ 23 น่าเห็นใจค่ะ อยากให้ทนอีกสักนิด หยุดคิดให้รอบคอบ ค่ะ แต่ยังไงก็แล้วแต่ชีวิตต้องเดินต่อค่ะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ คุณต้องผ่านให้ได้ จากคุณ : Life is Good (บาร์บี้vsนักกล้าม) เขียนเมื่อ : 5 มิ.ย. 53 18:37:46

ความคิดเห็นที่ 24 เข้าไปที่ เว็บไซต์ของ Raleigh, NC  เพื่อหาทางช่วยคิดเป็นรูปธรรม การใช้ชีวิตครอบครัว ให้อยู่ราบรื่นมีความสุข เป็นสิ่งที่ผู้หญิงทุกคนต้องการ กรณีของคุณ มีเด็กซึ่งไร้เดียงสารวมอยู่ด้วย แถมมีปัญหาหนี้สินของสามี เรียกว่ามีปัญหาทับซ้อน ทั้งผลกระทบแก่จิตใจ เกิดจากหลายสาเหตุผสมกัน และวิธีแก้ปัญหาของคุณ จะมีผลต่อชีวิตของคนมากกว่าสามคน โดยตรง.. ดังนั้น หยุด ทุกเรื่องในสมอง พักวางออกไปนะคะ ไม่ต้องคิดอะไรในวันนี้ ลองทำตามนี้.... http://www.raleigh-nc.org ที่นี่น่าจะเป็นแหล่งข้อมูล ที่ดีที่สุด ขณะนี้ คุณกำลังอยู่ที่เมืองนี้ มลรัฐนี้ คนเรา มาอยู่ต่างบ้านเมือง ไม่มีใครช่วยได้ทั้งนั้น ปัญหาต่างๆต้องพึ่งตนเอง คุณคือเจ้าของชีวิต และเป็นผู้ต้องดำเนินการปฏิบัติ เพื่อแก้ไขทุกอย่างให้ดี จากฐานข้อมูลนี้ คุณจะได้อะไรบ้าง เพื่อนำมาประยุกต์กับสถานการณ์ล่าสุด หากว่าคุณอยากจะสร้างพลังใจ ในการสู้กับอุปสรรค ค้นหาตัวเองให้ได้ก่อน รอบๆตัวคุณ อะไรบ้างที่เป็นโอกาสที่ดี นอกจากการใช้เวลาอยู่หน้าจอคอม คลิกคำว่า  Leisure/Explore the World  หรือ Arts นะคะ ๑. งานอดิเรกที่คุณทำแล้วมีความสุขที่สุด คืออะไร  ใช้เวลาอยู่กับสิ่งนั้น ๒. ในสิ่งแวดล้อมของเมืองนั้น มีอะไรบ้างที่น่าศึกษา เจาะลึกเข้าไปสัมผัส ระยะเวลาแต่งงานแค่ไม่ถึงปี ยังนับว่าน้อยมาก หากอยากจะรักษาชีวิตคู่ไว้ เผอิญได้อ่านข้อมูลจากบล้อกที่คุณเขียนไว้อย่างละเอียด ก่อนจะมาโพสต์ (แน่ใจว่าเป็นล้อกอินจาก Raleigh, NC) สามีของคุณ ไม่ใช่เพียงแต่เครียด แต่ว่า เขาให้ความสำคัญแก่ลูก ที่เกิดจากภรรยาเก่า มากกว่าอะไรทั้งหมด นั่นคือปัญหาหลัก ที่ส่งผลกระทบให้คุณไม่ได้รับความสุขอย่างที่ต้องการ การแก้ปัญหา ด้วยการรู้จักทุกข์ สาเหตุ การดับทุกข์ และข้อปฏิบัติสลัดทุกข์ ความทุกข์ของคุณเวลานี้ เกิดจากความผิดหวัง ผสมกับความน้อยเนื้อต่ำใจ คุณคิดว่าการให้กำลังใจเขาด้วยคำพูด เป็นสิ่งที่ดีที่สุด ที่เขาควรจะเห็นค่า แต่การณ์กลับมิเป็นเช่นนั้น มองดูตรงนี้ สาเหตุของทุกข์ คือ คุณเรียกร้องอยู่ สิ่งที่คุณเรียกร้อง คือความเอาใจใส่อันเต็มสมบูรณ์ ซึ่งเป็นไปไม่ได้ในเคสนี้ ทางดับทุกข์ มีอยู่ค่ะ แต่ใจคุณเอง มีความต้องการขัดแย้งกับทางพ้นทุกข์ ตราบใดที่คุณไม่อาจรับสภาพได้ว่า เขาไม่ได้มีชีวิตเพื่อคุณคนเดียวเท่านั้น คุณจะเป็นทุกข์ตลอดไป ไม่มีใครสามารถแนะนำหรือช่วยแก้ไขอะไรได้ค่ะ ข้อปฏิบัติ (อย่างน้อยช่วยผ่อนคลายจากความเศร้า) เพื่อให้จิตใจแจ่มใส คุณต้องแสวงหาทางที่ทำให้ชีวิตของตนเอง กลับมารักตนเองให้ได้ก่อนอื่น เมื่อใดคุณเป็นคนที่มีความสุข คนที่อยู่ด้วยจะได้รับพลังใจจากคุณส่งเสริม อย่านั่งน้อยใจ ทรมานกับความผิดหวังอีกต่อไป ไม่มีทางที่คุณจะเปลี่ยนคนข้างๆคุณได้ แต่คุณเปลี่ยนได้ที่พฤติกรรมตนเอง เป็นผู้เสียสละ ถ้าคุณรักจริง เสียสละความสุขทั้งหมดในชีวิตเพื่อคนของคุณ และอยู่เคียงข้างเขา ไปจนแก่เฒ่า ไม่ว่าเขาจะมีทุกข์สุขอย่างไร... เมื่อคุณได้ตัดสินใจร่วมชีวิตกับคนๆหนึ่ง ดวงชะตาของเขากับคุณผูกติดกัน อะไรที่เป็นทุกข์ของเขา คือปัญหาของคุณด้วย ณ เวลานี้ เขาอ่อนแอมาก หากว่าคุณเอง ไม่มีความแกร่งที่จะเป็นที่พึ่งเขา ทุกอย่างที่เขาพูดเถียงไม่ได้ คุณจะพ้นจากความทุกข์ได้ ต่อเมื่อ คุณมีศักยภาพที่จะทำให้เขาพ้นทุกข์นั้น พิจารณาดูหลักธรรมหลายๆอย่างนะคะ ประยุกต์กับสิ่งที่มากระทบจิตใจคุณ ออกไปดูผีเสื้อบินชมดอกไม้ในสิ่งแวดล้อมของเมืองที่คุณอยู่ แล้วตรองดู คุณหรือเปล่า ที่ต้องการเสรีภาพ เหมือนเช่นผีเสื้อตัวนั้น หากทว่าทางชีวิต ไม่ได้เป็นอย่างที่คุณปรารถนา ทำอย่างไรที่จะโบกบิน คุณรู้ดีกว่าคนอื่นค่ะ กำลังใจ ถ้าคุณรอรับจากคนอื่นๆ ทุกครั้งที่มีปัญหา คุณจะอ่อนแอลงไปอีก เพราะฉะนั้น คุณต้องเป็นผู้สร้างให้ได้มาซึ่งพลังนั้นด้วยตนเอง ไม่เรียกร้อง ตราบใดที่คุณไม่สามารถเช็ดน้ำตาให้ตนเองได้ และเฝ้ารอทุกอย่างจากผู้คน ความทุกข์จะไม่มีวันหมดไป แม้ปัญหานี้พ้นได้ ก็จะมีปัญหาอื่นอีกไม่รู้จบสิ้น วิธีที่จะพ้นจากความทุกข์ขมขื่น ไม่ใช่หย่าร้าง หลีกหนี หรือสร้างเงื่อนไขอื่น แต่คุณ จะต้องลงมือกระทำ ทางใดทางหนึ่งที่จะจ่ายแจกความสุขให้คนอื่นๆ โดยไม่คาดหวัง หยุดการรอคอยสิ่งแลกเปลี่ยน นั่นคือการแก้ปัญหาถาวรค่ะ     เวลา คือกุญแจดอกสำคัญ อย่าผลักดันสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ในวันนี้ แต่จงเรียนรู้ ที่จะใช้เวลาไขประตูไปสู่ทิศทางที่มีแสงสว่าง โดยไม่อ่อนแอ.. จากคุณ : กริชนาคราช เขียนเมื่อ : 5 มิ.ย. 53 19:05:41

ความคิดเห็นที่ 25  ดีใจที่เห็น #23 เข้ามาอ่านกระทู้และเขียนว่า Life is Good จากคุณ : กริชนาคราช เขียนเมื่อ : 5 มิ.ย. 53 19:38:56

ความคิดเห็นที่ 26 ขอให้กำลังใจด้วยคนค่ะ เข้มแข็งๆ และอดทนนะคะ จากคุณ : Sweet Willow (Sweet Willow) เขียนเมื่อ : 5 มิ.ย. 53 20:54:32

ความคิดเห็นที่ 27 Thank you so much k. กริชนาคราช and all nice friends on internet Now i feel must better ,I been thinking about it. Thank again ,I cant write Thai in moment my laptop get a problem. ^_^ Chin up! จากคุณ : Be Happy (บาร์บี้vsนักกล้าม) เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 53 00:12:53

ความคิดเห็นที่ 28 ชีวิตคือการต่อสู้ที่ต้องเรียนรู้ให้มากที่สุด การเป็นภรรยา คือการยืนเคียงคู่กับสามีให้ดีที่สุด ต้องอดทน มีความเข้าอกเข้าใจ ใจกว้างกล้าเสียสละ และต้องขยันช่วยกันทำมาหากิน ถ้าเราแต่งงานกับผู้ชายสักคน เราคาดหวังที่จะมีความสุขด้วยกัน เราก็ต้องช่วยกันสร้างและพยุงฐานะครอบครัว ไม่ใช่หน้าที่ของใครคนใดคนหนึ่ง แต่เป็นหน้าที่ของสองเราต้องรับผิดชอบด้วยกัน ในวันที่เห็นสามีลำบากแบกภาระเพียงคนเดียวไม่ไหว เราก็ต้องช่วยเหลือเขาทุกหนทางที่พอจะทำได้ แม้ไม่ได้ด้วยแรงกาย แต่กำลังใจก็ยังดีกว่าที่ไม่ได้ช่วยอะไรเลย การที่เรามานั่งเสียอกเสียใจ น้อยอกน้อยใจ ไม่ได้ช่วยอะไรให้ดีขึ้นได้เลย ลุกขึ้นมาใหม่ ออกหางานทำ ช่วยสามีเก็บเล็กผสมน้อยใช้หนี้ให้หมด และสร้างฐานะด้วยกัน เรื่องลูกก็มีวิธีจัดการ ถ้าแม่ของลูกติดยา ก็ให้สามีทำเรื่องพาลูกมาอยู่ด้วย ทุกอย่างมีวิธีและขั้นตอนของมันเอง เราต้องค่อย ๆ ทำและปรับเปลี่ยนใช้กับชีวิตคู่ นอกเสียจากคุณจะไม่ทนจริง ๆ นั่นก็คือก้าวออกมา และก็เริ่มต้นชีวิตใหม่ แต่ปัญหาก็คงมีหลายอย่างตามมา โดยเฉพาะเรื่องการต่ออายุกรีนการ์ดเพื่อที่จะอยู่ที่นี่ต่อ ยังไงก็ขอให้อดทน ไม่ว่าจะตัดสินใจทำอะไร ก็ขอให้ทำให้ดีที่สุด ทำในสิ่งที่ถูกต้อง และอย่าใช้อารมณ์เด็ดขาด ทุกอย่างต้องใช้สติให้รอบคอบ ท้ายที่สุด ดิฉันขอเป็นกำลังใจให้เสมอค่ะ จากคุณ : roslita เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 53 01:07:39

ความคิดเห็นที่ 29   โดยธรรมชาติแล้ว ไม่มีใครรักคุณเท่าคุณ เค้ารักคุณเพื่อตัวเค้าเอง   แล้วมันก็เป็นกฏของโลก เพราะมนุษย์เกิดมาต่างเอาตัวรอด แย่งกันกิน แย่งกันหายใจ (ถ้าเกิดท้องเสียเหมือนกัน ยังต้องแย่งห้องน้ำกันเลย จริงไหมคะ ) ถ้าไม่ได้เกิดมาเป็นคู่แท้จริงๆ มันต้องมีอะไรชดเชย แฟร์ๆ กันไป ดังนั้นถ้ารักเพราะมีเรื่องผลประโยชน์เกี่ยวข้องแล้วเนี่ย ต้องทำใจสถานเดียวค่ะ จากคุณ : ยังไม่สร่าง (Oceanism) เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 53 02:22:37

ความคิดเห็นที่ 30 เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้ค่ะ ตอนนี้กำลังเศร้า กำลังสิ้นหวัง ก็ได้มาระบายออกมาแล้ว ทีนี่ปัจจุบันและอนาคต จขกท ก็ควรคิดวางแผนว่าจะเอายังไงกับชีวิตนะค่ะ คิดว่าสามีคุณคงจะกลุ้มใจเรื่อง ลูกเขา และเรื่องหนี้สิน เรื่องสองเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ในชีวิตคู่ คุณก็ไม่เคยพูดอะไรเกี่ยวกับลูกเขา เพียงแต่ก็ได้แต่ให้กำลังใจ ส่วนเรื่องการเงินหรือหนี้สินเนี่ย ก็ต้องค่อย ๆ วางแผน จัดการไปค่ะ คุณยังไม่ได้กรีนการ์ด คงยังช่วยเขาไม่ได้ตอนนี้ และคงจะอึดอัดใจ ระหว่างนี้คุณอาจจะ มองหางานที่เขาจ่ายเงินสด เช่น งานร้านอาหารไทย งานทำความสะอาด หรือพี่เลี้ยงเด็ก ทำงานแล้วคุณก็อาจจะไม่ต้องขึ้นอยู่กับสามีคุณมามาย เพราะมีเงินใช้เอง และคลายความเครียดของคุณด้วย เพิ่งแต่งงานกันใหม่ อะไร ๆ มันยังไม่เข้าที่เข้าทางหรอกค่ะ ต้องปรับตัว ปรับใจอีกเยอะ ชีวิตคู่มันคงไม่สำเร็จรูปไปทุกคู่ค่ะ ต้องมีอุปสรรคที่ต้องแก้ปัญหาและฝ่าฟันกันไป หากคุณรักกันจริง ก็ต้องเรียนรู้ เข้าใจ เห็นใจเขาใจเรา แล้วชีวิตคู่คุณจะอยู่รอดค่ะ แต่หากว่าคุณคิดว่าทน ๆ ไปเพื่อให้ได้กรีนการ์ด อย่าลืมไปว่าคับที่อยู่ได้ คับใจอยู่ยาก การอดทนตรงนั้น อาจจะทำให้คุณทรมาณมากขึ้น เพราะต้องรอคอยอีกหลายปี กว่าจะได้กรีนการ์ด สองปี ปรับสถานะ กรีนการ์ดสิบปี สอบเป็นซิติเซ่น หากเป็นแบบนี้แล้วคุณทนไม่ได้ ไม่ได้รักกันแล้ว ก็ขอให้ไปตั้งหลักเมืองไทยดีกว่าค่ะ จากคุณ : kwankroot เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 53 11:24:03

ความคิดเห็นที่ 31 กลับเมืองไทยเถอะค่ะ ถ้าเค้าพูดขนาดนี้แล้ว อย่าไปทนเลย ผู้ชายดีๆ เค้าไม่ด่าผู้หญิงแบบนี้หรอกนะคะ คุณอาจจะเจอผู้ชายที่ดีกว่านี้ก็ได้ในอนาคต เป็นกำลังใจให้นะคะ จากคุณ : เรไรไอด้า เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 53 16:20:55

ความคิดเห็นที่ 32 มันช่วงหมดโปรโมชั่นน่ะคะ อะไร  ๆ ก็ดูผิด ลองถามตัวเองนะคะว่า ยังรักเขาอยู่ไหม? มีเหตุผลอะไรที่ต้องรอกรีนการ์ด ชีวิตในเมืองไทยก็ไม่ได้ลำบากมากมายกว่าเมืองนอกหรอกคะ ถ้าไม่ไหวก็กลับดีกว่าคะ จากคุณ : วิหคลม เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 53 17:29:28

ความคิดเห็นที่ 33   เราเชื่อว่าเจ้าของกระทู้เป็นคนเก่ง มีสติพอที่จะรับมือกับปัญหานี้ได้ ควรใช้เวลากับเขาให้น้อยลง หันมาพัฒนาทักษะที่ตรงกับความต้องการของตลาดงานมากขึ้น เวลาเขาระบายอะไรก็รับฟังแล้วนิ่งเฉยไม่ต้องแสดงความเห็นหรือตอบโต้ แอบบันทึกเสียงกับภาพไว้เป็นหลักฐานด้วยก็ดี เขียนบันทึกระบายความในใจลงสมุด ทำบัญชีรายจ่ายแสดงตัวเลขชัดๆ ว่าเขารับภาระอะไรให้คุณเท่าไหร่ เก็บใบเสร็จทุกอย่าง หาความรู้เรื่องสวัสดิการสังคมและกฏหมายไว้เยอะๆ จากคุณ : จงลุกขึ้นแล้วเดินต่อไป เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 53 17:43:30 A:90.224.230.148 X: TicketID:159141

ความคิดเห็นที่ 34 เห็นด้วยกับคุณกริชนาคราชค่ะ ใจเย็นๆ นะคะและอดทนให้มากๆ ค่อยๆ คิดแก้ไขไปทีละน้อยค่ะ ขอเป็นกำลังใจให้นะคะ จากคุณ : Dokkaewguitar เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 53 13:20:05