ความคิดเห็นที่ 1 เล่าจากประสบการณ์นะคะ เรากลับเมื่อครรภ์เข้าสู่ระยะปลอดภัยเลยคือประมาณ 4 เดือนกว่า ๆ ได้ คุยกับคุณหมอ คุณหมอก็โอเคกลับได้เพราะไม่อันตรายแล้ว เอกสารที่เอากลับไปด้วยก็แค่สมุดคู่มือแม่และเด็ก พอไปถึงไทยก็รีบไปฝากครรภ์ที่รพ. คุณหมอจะสักถามเรื่องยา,วิตามินต่าง ๆ ที่ได้รับเมื่ออยู่ที่ญี่ปุ่น แล้วก็ตรวจครรภ์ พอคลอดเสร็จก็นำเอกสารใบเกิดของเด็ก แปลเป็นภาษาญี่ปุ่น หรืออังกฤษ (แล้วแต่เงื่อนไขของอำเภอที่ญี่ปุ่น ที่จขกท.อยู่นะคะ ต้องลองไปติดต่อดูก่อน) แล้วก็ให้สามียื่นแจ้งเอาชื่อลูกเข้าทะเบียนบ้านที่ญี่ปุ่น ส่วนเรื่องพาสปอร์ตญี่ปุ่นของลูก ยื่นขอได้ที่สถานทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทยค่ะ วันที่เอาเอกสารไปยื่นขอพาสปอร์ต ไม่ต้องเอาลูกไปด้วยก็ได้ เฉพาะวันไปรับพาสปอร์ตถ้าพ่อเป็นคนไปรับพาสปอร์ตเอง ลูกไม่ต้องไป แต่ถ้าเป็นแม่ไปรับต้องพาลูกไปแสดงตัวด้วยค่ะ พาสปอร์ตของไทย ต้องพาลูกไปด้วย และต้องมีหนังสือยินยอมจากสามีด้วย รู้สึกต้องใช้พาสปอร์ตสามีด้วยค่ะ วุ่นวายมาก ๆ รอทำตอนสามีมาไทยก็ได้แล้วไปทำพร้อม ๆ กัน จำได้คร่าว ๆ แค่นี้นะคะ คลอดมานานแล้ว มันเลือน ๆ ไปแล้วค่ะ ขอให้คลอดออกมาลูกแข็งแรง สุขภาพดีนะคะ จากคุณ : futomomo เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 53 08:03:46

ความคิดเห็นที่ 2   ขอบคุณคุณfutomomoมากๆค่ะ..^-^ แล้วลูกเรามี2สัญชาติใช่ไหมคะ?..รบกวนถามอีกทีค่ะ จากคุณ : อริสะ (อริสะ) เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 53 10:01:27

ความคิดเห็นที่ 3 ใช่ค่ะ ลูกได้สองสัญชาติ แต่เห็นสามีบอกว่าถ้าลูกอายุ ยี่สิบ ก็ต้องเลือกสัญชาติใด หนึ่งสัญชาติมั้งคะ ไม่แน่ใจ เวลาจะเข้า ออกจากไทยก็ใช้พาสบอร์ตไทย ไม่ต้องกรอกใบตรวจคนเข้าเมืองให้ยุ่งยาก เหมือนกัน.....ถ้าจะเข้า ออก ญี่ปุ่นก็ใช้พาสปอร์ตญี่ปุ่น ลูกจะถือสองเล่ม จากคุณ : Wasinee (Wasinee_j) เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 53 12:17:34

ความคิดเห็นที่ 4 **** แก้ไขเมื่อ 11 มิ.ย. 53 12:26:05 จากคุณ : พนอจัน เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 53 12:22:27

ความคิดเห็นที่ 5   ขอบคุณมากๆค่ะสำหรับคำตอบ..มาอยู่ที่นี่ได้6เดือนกว่าแล้วไม่มีเพื่อนอยู่ที่ญี่ปุ่นเลยค่ะเหงามากเลยช่วงแรกๆ..ยิ่งตอนแพ้ท้องช่วงแรกยิ่งท้อใหญ่เลยค่ะ..แอบร้องให้ทุกวันตอนแฟนไปทำงานแล้ว..ต่อมามีพี่ที่รู้จักเขาก็แต่งงานมาอยู่ที่ญี่ปุ่นเหมือนกันแต่ว่าอยูกันคนละเมืองพี่เขาอยู่โกเบ ก็คุยกันบ้างตามประสาคนไกลบ้าน..แต่ว่าต่างคนก็ต่างมาอยุ่ใหม่กันทั้งคู่เลยไม่ค่อยรู้อะรเหมือนกัน..บางครั้งก็คุยเอ็มกับเพื่อนบ้างเพื่อแก้เหงาแต่ส่วนใหญ่แล้วเพื่อนเราเขาก็ทำงานกัน เราจึงมีเวลาว่างมากกว่า..พอเริ่มท้องก็เริ่มคิดเรื่องลูกทำให้หายเหงาหายเครียดได้บ้าง..พี่ที่รู้จักเขาก็เลยแนะนำว่าลองเข้ามาดูที่เวปของพันธ์ทิพย์..ลองอ่านดูเยอะๆเพราะว่าคงมีคนที่เหมือนๆกันกับเราหาเพื่อนคุยจะได้ไม่เหงา..พี่ๆอยุ่ญี่ปุ่นกันนานหรือยังคะ?..คงจะหลายปีแล้วใช่ไหมคะ?..เห็นพี่ๆมีblogของตัวเองกัน..ก็อยากทำบ้าง..แต่ว่าตัวเองไม่เก่งเรื่องเทคโนโลยีเลยค่ะ...คอม.นี่ไม่ค่อยรู้เรื่องเลย..เลยทำไม่เป็น.. จากคุณ : อริสะ (อริสะ) เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 53 12:53:24

ความคิดเห็นที่ 6 เราก้ออยู่ ชิทซึโอกะคะ เมือง คาเกคาวา คะ มีหลายคนอยู่ ชิทซึโอกะ แต่คนละเมือง คนไทยอยู่เยอะคะ ไม่ทราบว่าอยู่ตรงส่วนไหนคะ จากคุณ : Hamugo เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 53 14:56:35

ความคิดเห็นที่ 7 ชิซูโอกะด้วยคนค่ะ แต่อยู่ชิมิซึ คุณอริสะอยู่แถวไหนคะ จากคุณ : HappyToBeMe* เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 53 15:05:20

ความคิดเห็นที่ 8 ลูกเกิดที่ไทย รพ.แจ้งเกิดให้อยู่แล้วค่ะ...บางที่แม่ต้องไปแจ้งเอง ก็คือได้สัญชาติไทย   แต่จะได้สัญชาติญี่ปุ่นหรือไม่นั้น ต้องรีบไปยื่นเรื่องที่สถานทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย ที่สวนลุมน่ะค่ะ ยื่นเรื่องภายในระยะเวลาที่กำหนดด้วยนะคะ   รบกวนตรวจสอบอีกทีค่ะ ว่าไม่เกิน 2 เดือน หรือ 3 เดือนหลังจากคลอด แล้วชื่อลูก ก็แนะนำให้เอาชื่อเดียวไปเลยค่ะ จะเอาญี่ปุ่นก็ญี่ปุ่น หรือไทยก็ไทยไป   แต่ถ้าลูกจะมาโตญี่ปุ่น ก็ชื่อญี่ปุ่นไปเลยค่ะ เพราะไม่งั้นต้องเขียนคาตาคานะ แปลกกว่าเพื่อนในชั้นเรียนอีกค่ะ จากคุณ : Mnki เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 53 17:26:44

ความคิดเห็นที่ 9 เรื่องเอกสารก็ตามคหด้านบนๆเลยคะ เรากลับไปคลอดที่ไทยเหมือนกัน แต่สามีก็เป็นคนไทยเลยไม่ทราบเรื่องเอกสารน่ะคะ เข้ามาให้กำลังใจและสนับสนุนให้กลับไปคลอดที่ไทยคะ เพราะมีคนคอยดูแลให้กำลังใจเยอะ คุยกับหมอได้เข้าใจกว่า แต่ต้องควบคุมน้ำหนักดีๆนะคะ คุณหมอไทยใจดีไม่ค่อยดุเรื่องอาหารเลย อันนี้ต้องระวังให้มาก คลอดแล้วมีคนช่วยเลี้ยงลูก เราก็ไม่เหนื่อยมาก แถมไม่เครียดมากช่วงหลังคลอดน้อง(หรืออาการซึมเศร้าหลังคลอด)ด้วยคะ ขอให้จขกทคลอดน้องออกมาปลอดภัย แข็งแรง สุขภาพดีทั้งคุณแม่คุณลูกเลยนะคะ จากคุณ : Aoyoyoo_mame เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 53 22:38:44

ความคิดเห็นที่ 10   ขอบคุณมากๆค่ะ  สำหรับทุกๆคำตอบและกำลังใจที่ให้ค่ะ..จะกลับไทยวันศุกร์ที่จะถึงนี้แล้วค่ะ ช่วงเสาร์อาทิตย์ที่ผ่านมาเลยไปซื้อของฝากกลับบ้านนิดหน่อยค่ะ(พอดีแฟนหยุดเสาร์อาทิตย์ก็เลยพากันไปได้).. ..ดีจังมีคนอยู่ที่ชิซึโอกะหลายคน..เราอยู่เมืองมิชิมะค่ะ..เสียดายจังเลยที่เข้ามาเวปนี้ช้าไป..ไม่งั้นคงไม่เหงาในตอนแรก..แต่ก็ดีค่ะที่ยังทันอยู่ได้รู้จักคนที่มาไกลบ้านเหมือนๆกัน ยังไงก็ขอฝากตัวอีกรอบนะคะ. . ..พ่อกับแม่ก็ดีใจที่ลูกจะได้กลับบ้านเราก็ดีใจจะได้กลับบ้าน อยากกลับไปกินอาหารไทยมากๆเลยค่ะตอนนี้..ช่วงแรกๆที่แพ้ท้องแทบจะกินอะไรไม่ได้เลยแล้วที่นี่ก็ไม่มีของที่เราอยากกินอีก อยากกินอาหารเมืองๆก็ไม่มีให้กินอีก(เป็นคนทางเหนือค่ะ..อยู่เชียงใหม่)..ตอนนี้จะได้กลับแล้วคงกินได้เยอะน้ำหนักคงขึ้นมากแน่ๆเลย..(เราดีใจแต่ก็สงสารสามีเหมือนกันเพราะว่าต้องอยู่คนเดียวแฮะ..)กลับไปคงต้องไปหาที่ฝากท้องก่อนว่าจะคลอดที่ไหนดี..แต่ว่าอย่างที่คุณ Aoyoyoo_mame บอกน่ะค่ะ..หมอบ้านเราคุยกันน่าจะสบายใจกว่า..เพราะไม่เข้าใจหมอที่นี่พูดเลย ตอนไปตรวจหมอก็คุยกับสามีซึ่งเราก็ไม่รู้เรื่องเลย..(แย่จังไม่เก่งภาษาญี่ปุ่นเลย)..กะว่าตอนคลอดเสร็จค่อยกลับมาหาที่เรียนภาษาอีกที  ตอนนั้นคงยังไม่ช้าไปใช่ไหมคะเนี่ย?.. เดี๋ยวคงต้องเตรียมพวกเอกสารไว้ก่อนจะได้ไม่ลืม..ขอบคุณมากๆค่ะสำหรับทุกคำตอบค่า^-^ จากคุณ : อริสะ (อริสะ) เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 53 07:06:20