Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
อยากจะแชร์ประสบการณ์หางานที่ญี่ปุ่น  

ความจริงทีแรกไปโพสที่หน้า ชีวิตในต่างแดนค่ะ แต่ไปๆมาๆ ขอย้ายมาห้องนี้ละกันนะคะ ไหนๆก็อยู่ญี่ปุ่นเหมือนกัน

สวัสดีค่ะ ไหนๆก็หางานได้แล้ว เลยอยากจะมาแชร์ประสบการณ์หางานในญี่ปุ่นให้ฟัง ขอออกตัวก่อนนะคะว่าเขียนไม่ค่อยเก่งเท่าไหร่

แนะนำตัวเองก่อนนะคะ ตอนนี้มาเรียนที่ญี่ปุ่นในหมาลัยแห่งหนึ่ง ได้สี่ปีแล้ว ก็ตั้งใจไว้ว่าจะหางานที่ญี่ปุ่น ที่ญี่ปุ่นนี่เค้าจะหางานกันตอนปีสามเทอมสองค่ะ ช่วงเทอมหนึ่งก็จะมีการหาฝึกงานกับบริษัทที่เราสนใจ

การหางานที่ ญี่ปุ่นนี่เป็นเรื่องใหญ่มากค่ะ เพราะส่วนใหญ่บริษัทจะรับ new graduate เป็นส่วนใหญ๋ (ที่เข้าไปแล้วออกก็มีค่ะ แต่ส่วนใหญ่เค้ามักจะทำงานบริษัทเดิมไปจนเกษียณ) ด้วยผลจากการหางานก็มีธุรกิจหลายอย่างเกิดขึ้นมากมาย เหมือนกับการสอบเอนทรานซ์บ้านเรา
มีร้านขายสูทและรองเท้า (สูทที่นี่ มีหลายแบบ หลายสี ไว้ใส่กัน แต่ละ Industry ก็จะมีสีที่กำกับไว้ เช่นไฟแนนซ์เหมือนจะห้ามใส่สีเทา เป็นต้น) พอเข้าฤดูหางานเราก็จะเห็นเด็กญี่ปุ่นเดินใส่สูท ถือแผนที่ว่อนไปหมด ส่วนใหญ่ก็จะเป็นสีดำล้วนนะคะ
มีหนังสือสอนแต่งตัว (เป๊ะๆ ทั้งหน้าและผม) ปกติเด็กญี่ปุ่นชอบทำผมแปลกๆกันใช่ไหมคะ ทำสีเยอะๆ พอหางานปุ๊บ ทุกคนเรียบร้อยกันหมดเลยค่ะ ฮ่าๆๆๆ
หนังสือมารยาทและคำพูด สุภาพ(ภาษาญี่ปุ่นมีภาษาสุภาพที่ใช้เป็นทางการ) แม้แต่อายุเท่ากัน ที่เห็นก็ใช้คำสุภาพหมด เวลาหางาน จขกท ก็เหนือยหน่อย เพราะยากเหลือเกินค่ะ
หนังสือ สอนวิธีเขียนใบสมัคร (ที่นี่มีแบ่งเป็นเรซูเม่ เขียนน้อยหน่อย ส่วนใหญ่เขียนเกี่ยวกับประวัติตัวเอง กับประสบการณ์สั้นๆ และ Entry sheetอันนี้ความยาวและหัวข้อ ขึ้นอยู่กับความฮิตของบริษัท แน่นอนบริษัทที่ใครๆก็อยากเข้า นั้นยาวเหยียด) มีหลายแบบให้เลือกสรร
หนังสือ สอนสัมภาษณ์
หนังสือ自己分析 แปลเป็นภาษาไทยประมาณว่า วิเคราะห์ตัวเอง? ที่นี่เวลาสัมภาษณ์ เค้ามักจะให้เรายกตัวอย่าง คงเพื่อแสดงความน่าเชื่อถือ เช่น ข้อดีของเรา เป็นคนร่าเริง เค้าก็จะถามว่า ทำไมเราเป็นคนอย่างนี้ มีเหตุการณ์สนับสนุนอะไรบ้าง ยกมาหนึ่งอย่าง แล้วเค้าก็จะถามทำไมๆๆๆๆ ก่อนไปสัมภาษณ์สิ่งที่ทุกคำทำ คือมานั่งนึกเรื่องทุกเรื่องเกียวกับตัวเรา แล้วก็ถามตัวเองว่า ทำไม เพื่อไปสัมภาษณ์
บริษัทหางาน จะมีบริษัทดังๆ ที่รับข้อมูลของบริษัทที่หาเด็ก มาใส่ในเวปไซต์ ใครอยากจะเข้าอะไร ก็มาดูได้ในเวปพวกนี้ แล้วก็ต้องกด entryหลังจากนั้นบริษัทก็จะส่งข้อมูลต่างๆมาให้เรา ในเวปพวกนี้มีทุกอย่างเลยค่ะ บริการตั้งแต่สากกะเบือยันเรือรบ

เป็น ต้นนะคะ

การทำ 自己分析 นี่สำคัญมากนะคะ เพราะจะทำให้เรารู้ว่า เราเป็นคนอย่างไร และเหมาะจำทำงานแบบไหน ตอนแรกก็ไม่ค่อยสนใจค่ะ ฉันขี้เกียจทำ ฉันรู้ดีอยู่แล้ว หลายๆอย่าง กรรมก็สนองค่ะ กว่าจะหางานได้ยากเหมือนกัน เพราะเลือกบริษัทที่ใหญ่ ที่คิดว่าดี ใครๆก็ต้องรู้จัก ฉันเก่งเข้าได้แน่นอน เข้าไปทำอะไรเอาไว้ก่อน >< ความคิดเด็กมากเลยค่ะ ผลก็คือ ไม่มีแรงจูงใจค่ะ เพราะรู้สึกว่า ไม่รู้จะไปทำอะไรในบริษัท มองอนาคตตัวเองไม่เห็น ไปสัมภาษณ์ เขียนใบสมัคร เยอะแยะ เหมือนตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ

พอ自己分析 เสร็จ ก็จะเลือกIndustry (ขอโทษนะคะ นึกถึงภาษาไทยไม่ออก อุตสาหกรรม ?) มีเยอะแยะเลยนะ ด้านมีเดีย (พวกทำรายการทีวี ประมาณนั้นค่ะ เช่น ฟูจิเทเลบี หรือ เอนเอชเค) เมกเกอร์ (Maker, manufacturing ค่ะ ก็บริษัทที่เรารู้จักกันนะคะ โซนี่ พานาโซนิค โตโยต้า แล้วมันก็จะแบ่งย่อยอีกค่ะ เช่น พวกชิ้นส่วน รถ เครือ่งใช้ไฟฟ้า ต่างๆนานาค่ะ) เทรดดิ้ง (Trading ระหว่างประเทศค่ะ เงินเดือนดี ได้เดือนทางบ่อย เป็นบริษัทในฝันของใครหลายๆคน เช่น Mitsubishi shoji, Missui Bussan, Sumitomo) เป็นต้นค่ะ

การเลือกอุตสาหกรรมที่ก็สำคัญ นะคะ เค้าจะเลือกเป็นกรุ๊ปค่ะ เช่น สนใจเรื่องรถ ก็จะสมัครรถ เป็นส่วนใหญ่ เช่น โตโยต้า นิสสัน ฮอนด้า เหตุผลที่ต้องทำอย่างนี้เพราะเราต้องวิเคราะห์อุตสาหกรรกับบริษัทให้ลึกค่ะ ซึ่งมันจะลำบากถ้าเราเลือกแค่บริษัทเดียว เช่น บริษัทนี้มีเทคโนโลยีอย่างนี้ เราอาจจะใช้เป็นเหตุผลในการเลือก แต่ถ้าเราศึกษาคู่แข่ง ก็อาจจะมีบริษัทที่ทำได้ดีกว่านี้ค่ะ อ่านตรงนี้แล้วอาจจะสงสัยว่า สมัครบริษัทคู่แข่งแล้วจะเป็นอย่างไร ไม่เป็นไรค่ะ การทำอย่างนี้ เราจะยิ่งรู้ว่าแต่ละบริษัทต่างกันอย่างไร เช่น วัฒนธรรมองค์กรต่างกัน เป็นต้น แล้วเราก็ใช้จุดแข็งนั้นมาอธิบายเหตุผลที่เราจะเข้าค่ะ

เช่น เราชอบรถ แต่จากการศึกษามา พบว่า บริษัทคุณเป็น Blablabla อย่างนี้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่มีในบริษัทอื่น แล้วเราชอบจุดนี้ เพราะว่า"เราเป็นคนอย่างนี้ เราทำอย่างนี้มา หรือเพราะเรามีความฝันอย่างนี้ เราเลยทำอย่างนี้ แล้วบริษัทคุณก็เป็นอย่างนี้ เพราะฉะนั้นความฝันเราจะเป็นจริงได้ในบริษัทคุณ" (ส่วนตรงนี้ได้มาจากการวิเคราะห์ตัวเองค่ะ) ตัวอย่างเช่น เราอยากทำงานได้ช่วยเหลือคนอื่น เพราะฉะนั้นช่วงมหาลัยเราเลยทำกิจกรรมVolunteerมา จากกิจกรรมนั้นเราเรียนรู้ว่า blabla บริษัทของคุณก็สนใจในเรื่องนี้ เพราะฉะนั้นเราเลยมาที่นี่ เป็นต้นค่ะ

พอไปบริษัทอื่น ก็หาข้อต่างของเค้ามาอธิบายเหมือนกันค่ะ :D

จขกท ทำพลาดค่ะ เหมือนที่บอกไปข้างต้น ว่า ส่วนใหญ่สมัครบริษัทที่ตัวเองชอบ รู้จักมาก่อน ดัง อุตสาหกรรมก็จะแตกกระจายมากเลยค่ะ ทำให้ไม่ค่อยผ่านในตอนแรกค่ะ เค้าถามเรื่องบริษัทเราก็รู้ไม่ละเอียดมาก รู้เท่าที่เขียนในเวปไซต์เองค่ะ

จากคุณ : ฮัลโหล
เขียนเมื่อ : 20 มิ.ย. 53 15:10:25 A:125.206.236.45 X: TicketID:275156




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com