|
ความคิดเห็นที่ 3 |
|
ส่วนตัวไม่เคยลงเรียนเป็นคอร์สค่ะ แต่เคยเรียนกับคุณครูชาวอังกฤษที่เป็น examiner ให้ British Council ค่ะ...เกณฑ์การให้คะแนนก็คล้ายๆที่คุณข้างบนบอกไว้ค่ะ ก็จะมี.. 1. การเลือกใช้คำ ก็ต้องเลือกใช้คำให้เหมาะสมกับเรื่องที่คุยค่ะ ( การเตรียมตัว : ก็ลอง list เป็นหัวข้อที่มักเป็น topic ถูกถามบ่อยๆ สัก 20 หัวข้อ เช่น..แฟชั่น, อาหาร, เทคโนโลยี, entertainment, favorite sport, travel, activities on weekends, etc.. จากนั้นก็ทำการ list คำศัพท์ไว้เลยค่ะ เช่น อาหารก็ควรมีคำว่า menu, recipe, diet, favourite dish, etc../ travel ก็เช่น domestic, international, trip, journey, expand the horizons, etc..)
2. ศัพท์สูงๆ คือหมายความว่า ระหว่างการสนทนาเราต้องปล่อยศัพท์ไฮโซออกไปบ้าง ไม่ใช่คุยแต่ศัพท์พื้นๆ แต่มีข้อแม้ว่า เราต้องใช้ให้ถูกต้องตามกาลเทศะด้วย และต้องออกเสียงให้ถูกนะคะ หรือบางทีอาจจะใช้เป็นวลีของฝรั่งก็ได้...อย่างเช่น...เค้าถามว่า Thesedays people can access to the internet easily...what do you concern about this technology? เราก็อาจจะเปิดประเด็นด้วยววลีว่า....Well, I think the Internet is like a double-edged sword...it contains a raft of advantages, and at the same time it could harm people. By this...ก็ขยายความไป...
3. ความต่อเนื่องกลมกลืนในการพูด ซึ่งก็ต้องอาศัยคำเชื่อม เช่น however, nevertheless, on the ohter hand, adversely/// moreover, furthermore, in addition/// fortunately, unforetunately...etc..
4 ความคล่องในการพูด ต้องพูดได้คล่อง แต่คำว่าคล่องไม่ได้แปลว่าพูดเร็วนะคะ คำว่าคล่องก็คือว่า สามารถพูดได้อย่างต่อเนื่องชัดถ้อยชัดคำมีจังหวะจะโคนทีสม่ำเสมอ ไม่เร็วเกินไป และไม่ช้าจนผิดปกติที่คนควรพูดกัน โดยที่มีจังหวะหยุดคิดได้บ้างเป็นห้วงเวลาสั้นๆ และระหว่างหยุดคิดไม่ควรหุบปากเงียบไปเฉยๆ ให้ออกเสียง ummm...., errr......, well....., let me thinkkkk....
5 ไวยกรณ์ ควรพูดได้ถูกหลักไวยกาณ์ (ผิดบ้างนิดๆหน่อยๆได้ ไม่เป็นไรค่ะ) แต่ควรเลือกพูดให้หลากหลาย...อย่างเช่นเค้าถามมาว่า...Could you please introduce yourself, are you working or studying...ก็ใส่ไปเลยให้หลายๆ tenses...e.g. I was born in the Northern part of Thailand, which is called Chiang Mai. I grew up there and obtained my Bachelor's degree from Chaing Mai University. After my graduation I moved to BKK, I had worked as a government employee for 2 years. Then I changed my carreer to have my own business, and I have been working for my own company as a director for 1 year. And in the near future I would expand 3 more branches in the heart of BKK.
6. passion คือ การแสดงอารมณ์ตามเรื่องราวที่เราพูด ควรทำไม้ทำมือตามไปด้วย เรื่องสนุกก็ยิ้ม...เรื่องกีฬาก็ทำท่าไปเลย..ทำท่าหวดเทนนิสก็ได้...แต่อย่าทำท่าชี้หน้า...เค้าถือว่าไม่สุภาพ
7. ฝรั่งเค้าจะไม่ค่อยพูดถึงเรื่อง negative เพราะฉะนั้น ควรทำตัวคิดบวก เสนอแนวคิดแต่แง่มุมดีๆ ถามอะไรถ้าไม่รู้ก็พยายามตอบ อย่าไปบอกว่าไม่รู้ อย่าขอเปลี่ยนหัวข้อ เช่น ถามว่าคุณออกกำลังกายบ่อยแค่ไหน..ถ้าเราเป็นคนไม่ออกกำลังก็พยามพูดให้เหตุผลไปว่าทำไม...เช่น...well,..to be honest,...I don't work out regularly. The only exercise that I do is just walking from my house to the nearest bus stop.555( หัวเราะไปเลย) However, I do concern that I need more exercise to keep fit..but .. you know...after work, I usually feel completely exuasted and finally I mostly endup my day as a couch potato. But...I do promise with myself that next month I will go jogging 3 days a week..อะไรก็ว่าไป
8. ตอบให้ตรงคำถาม...ไม่ใช่ถามมาอย่าง ตอบไม่ได้ก็แถไปอีกอย่าง...จะให้ดีสรุปตอนท้ายไปด้วยจะเจ๋งมาก...เช่น..พอเราเล่ามาว่าอินเตอร์เนตมีข้อดีข้อเสียต่างกันยังไง สุดท้ายก็อาจสรุปว่า...Overall, I view that the Internet is a part and parcel of modern people.
หวังว่าคงช่วยให้น้องฝึกเองได้นะคะ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น speaking มันต้องมีคู่สนทนาที่ดีช่วยฟัง ช่วยแก้ไขให้เราค่ะ และจะให้ดีที่สุดควรเป็นเจ้าของภาษาที่รู้ว่า IELTS เค้าให้คะแนนยังไงค่ะ
จากคุณ |
:
vicky
|
เขียนเมื่อ |
:
5 ส.ค. 53 16:28:07
A:123.243.76.130 X: TicketID:233730
|
|
|
|
|