|
ความคิดเห็นที่ 9 |
ตอนอยู่ไทย ช่วงอายุยังไม่มาถึงหลักสี่ เคยไปหาหมอจัดฟัน แต่หมอบอกว่า อย่าจัดเลย อายุเยอะแล้ว (เยอะตรงใหน? มีแค่เลขสองหลัก) ถ้าจัดต้องใช้เวลาหลายปี และอีกหลายเหตุผล ก็เลยถอดใจ
เราจัดฟันตอนอายุ สี่สิบกว่าค่ะ เพิ่งจัดมาได้ปีกว่า เห็นราคาจัดฟันของเพื่อนๆแล้ว อิจฉาคะ เราอยู่เมืองเล็ก แต่ค่าจัดฟันไม่เล็กเลย ของเราจัดแบบสีเหมือนฟันเหมือนของคุณแม่ปู ราคา 7,200 รวมรีเทนเนอร์ ก่อนตัดสินใจว่าเป็นหมอใหน ก็ตระเวณเข้าร้านจัดฟันได้ค่ะ เพราะเค้าจะเอ๊กเรยและวิเคราะห์สภาพฟัน และรายละเอียดเรื่องค่าใช้จ่าย เวลาในการจัด ทุกอย่างฟรีหมด เราก็เอาข้อมูลมาพิจารณาเองว่าจะเลือกหมอคนใหน หมอที่เราเลือก ราคาแพงที่สุดในเมืองที่อยู่ แพงกว่าหมออื่นประมาณ1,000 แต่ที่เลือกเพราะ เค้าทำการบ้านกับเรามากที่สุดและคุยกันหมอแล้วเราเชื่อมั่นหมอ (หมอเราเป็นอาจารย์สอนพิเศษให้แก่หมอจัดฟันที่มหาลัยด้วย)
ส่วนค่าเคาะปะผุ ถอน อุด อะไรพวกนี้ จำไม่ได้ ช่วงจัดฟันอาทิตย์แรก ความจำไม่ดีค่ะ ไม่กล้าจำอะไรเลย เพราะจ่ายไปเยอะ ประกันไม่จ่ายคะ
ระยะเวลาจัดสองปีครึ่ง จ่ายครั้งแรกเป็นก้อน ที่เหลือทะยอยจ่ายงวดละ 220 จนครบสองปีครึ่ง นัดทุกสองเดือน เพิ่งจัดได้ปีกว่า หลังจัดฟันต้องปลูกรากฟัน เพราะฟันกรามไม่เหลือเลย เป็นพื้นทีโล่งสามารถแตะบอลได้
รู้สึกตัดสินใจไม่ผิดที่จัด เพราะโครงหน้าดีขึ้น การสบฟันในการเคี้ยวอาหารดีขึ้น เมื่อก่อนเวลายิ้มจะดูเหมือนปากเบี้ยว เพราะฟันเกมากกกกก ตอนนี้เบี้ยวน้อยลง คาดว่าจัดเสร็จคงดูได้บ้าง (อันนี้คิดเองค่ะ ยังหาความคิดสนับสนุนไม่ได้ เพราะเวลาถามสามี คำตอบคือ...ยิ้ม... คงไม่อยากให้เราเสียกำลังใจ)แต่เราคิดว่า รูปหน้าเราคงสวยขึ้น เพราะลูกชาย...บอก....ม่ามี๊สวยที่สุดในโลก เด็กสี่ขวบคงไม่โกหกหรอกนะคะ
จากคุณ |
:
ลลิตยา (ลลิตยา)
|
เขียนเมื่อ |
:
11 ส.ค. 53 22:48:57
|
|
|
|
|