Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
ประเทศสหรัฐอเมริกา......ในเมื่อชีวิตทั้งชีวิตของผมไม่ได้อยู่กับพ่อ....แต่เพียงขอไปกราบหลุมศพพ่อผมได้มั้ยครับ ???  

ใจจริงก็ไม่อยากจะเอาเรื่องส่วนตัวมาระบายในที่สาธารณะหรอกนะครับ....
แต่มาคิดดูอีกทีหนึ่ง...ก็ขอเพียงได้ระบายความอัดอั้นตันใจในส่วนลึกของหัวใจผม....สักครั้งหนึ่งก่อนทีผมจะตายไปจากโลกนี้ก็แล้วกันนะครับ....
...เกริ่นชีวิตผมคร่าวๆ นะครับ.....ผมก็เป็นผู้ใหญ่วัยกลางคนแล้วล่ะ....อีก 4 ปีก็จะครบ 50 ปีแล้ว....
ชีวิตผมตั้งแต่ทำงานมา....ไปดูงาน-ทำงาน-ท่องเที่ยวมา 10 ประเทศได้แล้ว....เพราะด้วยหน้าที่การงาน....และเที่ยวพักผ่อนเป็นการส่วนตัว...
.
.
แต่....ต่อไปนี้ล่ะครับ....คือประเด็นที่ผมจะขอระบาย...อย่างน้อยขอสักครั้งเดียวก็พอในชีวิตนี้....เป็นสมาชิกพันทิพมาเกือบ 10 ปี ไม่เคยโพสต์เป็นเรื่องเป็นราวอย่างนี้เลยนะครับ....ขอบอกจากใจจริง.....
.
.
ผมเติบโตมาจากครอบครัวที่ไม่อบอุ่นนัก...แต่ไม่ใช่ปัญหา...เพราะผมสามารถยืนหยัดอยู่ในโลกใบนี้ได้สมภาคภูมิ...มีการมีงานทำ...ถือว่าเป็นคนดีของครอบครัว...สังคม...เพื่อนร่วมงาน....ผมพอใจแล้ว....คุณพ่อ-คุณแม่แยกทางกันตั้งแต่ผมจำความได้ ...ส่วนน้องสาวไม่ต้องพูดถึง....ไม่เคยเห็นและจำหน้าคุณพ่อได้เลย...จวบจนวันที่ท่านจากโลกนี้ไปเมื่อ 6 ปีก่อน......( น้องสาวผมขณะนี้ 45 ปีแล้ว เป็นข้าราชการระดับสูงพอสมควร และมีครอบครัวแล้ว ....ส่วนผม...โสดสนิท !!!! ) ...รับทราบจากคุณแม่เมื่อตอนที่ผมยังเด็ก ( สัก 7 ขวบ ) ....ว่าท่านทั้งสองต้องแยกทางกันไป...ในครั้งแรก....เพื่อไปรับราชการทหารที่ประเทศเพื่อนบ้านใกล้เคียงกันกับเราติดหนองคาย....และได้หน้าหายตาไปจากชีวิตครอบครัวที่เมืองไทยเลย ....ไม่ได้ข่าวแม้แต่น้อย...จวบจนผมอายุ 15 ปี....คุณพ่อท่านกลับมาเมืองไทย...และที่สำคัญ....ได้ทราบว่า....ท่านมีครอบครัวที่ตอนที่ท่านไปรับราชการในประเทศเพื่อนบ้าน...ผมมีคุณแม่อีกคน....และมีน้องสาว-น้องชายในตอนนั้น 2 คน...( ตอนนี้ รวม 4 คน อยู่ที่อเมริกา เติบโตมีครอบครัวกันหมดทุกคนแล้ว และไม่เคยได้พบหน้ากันมาจนถึงทุกวันนี้และวินาทีนี้ เห็นแต่เพียงรูป...เล่นเอ็มเอสเอ็นคุยกันเท่านั้น )...
.
.
ท่านมาเมืองไทย...เพื่อต้องการทำเรื่องหย่ากับคุณแม่ผม ....เรื่องของท่านทั้งสอง ผมไม่ขอยุ่งล่ะ...ผมคิดแค่นั้น....จะเหตุผลใดๆ ก็ตามของท่านทั้งสอง....ก็แล้วแต่....
.
.
แต่.....มันเป็นวินาทีที่ดีที่สุดสำหรับ 2 คืนในชีวิตผมจริงๆ ที่ผมมีคุณพ่อผมนอนอยู่ข้างกายผม....ไม่เคยลืมเลยมาจนทุกวันนี้....เพราะความทรงจำระหว่างผมกับคุณพ่อ....มันเลือนลางจนจำแทบไม่ได้แล้ว....
แต่ผมก็จะจำช่วงวินาทีนั้นที่ผมมีคุณพ่อเคียงข้างกายผม จนวันตายของผมละกันครับ....
.
.
จวบจนท่านไปอยู่อเมริกา...พาครอบครัวใหม่ของท่านไปใช้ชีวิตอยู่ที่นั่น....
ได้รับการเปลี่ยนสัญชาติ เปลี่ยนชื่อ เปลี่ยนนามสกุล และศาสนา.....
.
.
เราสองพ่อ-ลูก...ติดต่อกันทางจดหมายเป็นระยะๆ เรื่อยมา....จนกระทั่ง....
.
.
มาวันหนึ่งหลังจากนั้น...เมื่อผมอายุสัก 20 ปลายๆ ( เริ่มทำงานแล้วล่ะครับ เรียนจบใหม่ๆ เงินเดือนน้อย  เพราะเพิ่งเริ่มต้นชีวิตทำงาน ).....
.
.
ท่านใด้ส่งจดหมายมาถึงผม....บอกให้ผมไปขอวิซ่าที่สถานทูตอเมริกา...เป็นวันที่ผมจำได้ไม่เคยลืมเลยมาจนทุกวันนี้และจนตายของผมเลยละกัน.....
.
.
ผมเตรียมเอกสารไปพร้อม...เท่าที่คนธรรมดาๆ หนึ่งอย่างผมจะมีได้ในตอนนั้น..
บวกกับเอกสารที่คุณพ่อผมการันตี ( ที่ทำงาน + ตั๋วเครื่องบิน + หนังสือรับรองบุตร )
.
.
เจ้าหน้าที่สถานทูต ผมจำหน้าได้ไม่ลืม !!! เป็นชาวอเมริกันล่ะ แต่พูดไทยได้ ...
รับเอกสารกับผมไป...มองหน้าผม....
( เค้าคนนั้น....เกษียณอายุไปแล้วล่ะตอนนี้ อยู่อเมริกาสบายใจกับครอบครัวในบั้นปลายชีวิตไปแล้วล่ะครับ แต่ทิ้งคำถามคาใจกับผมมาจวบจนทุกวันนี้ !!! )
ถามเลย...คุณมีบัตรเครดิตมั้ย....????
ผมล่ะใบ้รับประทาน...( ผมคิดในใจ...ไอ้เราก็เพิ่งเรียนจบ...เพิ่งทำงาน...เงินเดือนก็พอยาไส้ในตอนนั้นไปเดือนๆ....จะมีบัตรเครดิตที่ไหนล่ะ...อีกทั้งตอนนั้นก็เกือบ 25 ปีมาแล้ว ...บัตรเครดิตคืออะไรผมจะไปตรัสรู้เหรอ...รู้จักแต่เงินเดือนที่ฝ่ายบัญชี-การเงินใส่ซองเป็นเงินสดเท่านั้นเอง -__- ??? )..
.
.ในที่สุดผมก็โดนปฎิเสธ....ในการขอวิซ่า......
ผมเดินตัวปลิวอย่างเลื่อนลอย....จากสถานทูตอเมริกา...ไม่ได้เสียใจกับการที่ไม่ได้วิซ่านะครับ....แค่คาใจมาตลอดจนทุกวันนี้ว่า...ไอ้บัตรเครดิต ( ในตอนนั้น ) ...มันมีอิทธิพลกับคนเราได้เพียงนี้เลยเหรอ เท่านั้นเอง !!! ….ผมคิดในตอนนั้น..ผมกับพ่อมีเส้นแบ่งความสัมพันธ์ระหว่างพ่อกับลูก....เพียงแค่บัตรเครดิตใบเดียวเท่านั้นเองหรือ ???
ผมเดินใจลอย....จากหน้าสถานทูต...จนถึงแยกเพลินจิต...สภาพเหมือนคนตกตึก 10 ชั้น มากระทบฟุตบาท....แล้วโดนรถบรรทุกเหยียบซ้ำ...แถมรถตุ๊กตุ๊กเสยอีกทีแต่ยังไม่ตายประมาณนั้น...สมองมันเบลอและงุนงงไปหมด....
.
ผมกลับไปทำงานต่อ...ใช้ชีวิตของผมต่อไป....และ.....ส่งจดหมายแนบตัวเครื่องบิน-เอกสารของท่าน...ที่ท่านส่งมาให้ผม...ส่งกลับไปอเมริกา....บอกว่าไม่ผ่านการทำวีซ่า....ให้ท่านเอาตั๋วเครื่องบินไปเครมขอเงินคืนซะเถอะ
.....เพราะผมไม่มีโอกาสไปแล้ว.....( เมื่อก่อน อินเตอร์เน็ตไม่มีหรอกครับ...จดหมายถึงกันอย่างเดียว )....ทุกวันนี้ผมยังเก็บสำเนาเอกสาร และจดหมายคุณพ่อผมไปกับตัวอย่างดีไม่เคยทิ้งเลยครับ
.
.
ผมก็ใช้ชีวิตผมไป....ท่านก็อยู่กับครอบครัวของท่านไป...ใช้ชีวิตในอเมริกา....
ผมกับครอบครัวที่เมืองไทย....ก็ยังอยู่กันมาจนทุกวันนี้......
.
.กระทั่ง 6 ปีที่แล้ว.....น้องสาวได้ส่งอีเมล์บอกว่า....คุณพ่อเสียแล้วนะ....ด้วยวัย 73 ปี.....
( น้องสาว-น้องชายต่างแม่ของผมทุกคนฟัง-พูด-อ่าน-เขียน ภาษาไทยไม่ได้เลยสักคน มีลูกหลานยั๊วเยี๊ยะเต็มบ้านกันหมดแล้วตอนนี้ )
.
.
.
ครับ....ผมเสียใจนะครับคุณพ่อ....ที่แม้กระทั่งไปกราบศพท่านยังไม่มีปัญญาไปได้.....
เพราะด้วยเหตุผลข้างต้น ( ผมมีอคติและคาใจมากนะครับบอกจากใจ สำหรับเรื่องในสถานทูตอเมริกา.....เมื่อ 20 กว่าปีที่ผ่านมา และยังรู้สึกขยาด...กับการที่ผมโดนกระทำในครั้งนั้นมาจนวินาทีนี้ )...
.
.
แค่อยากระบาย....และเพียงแต่ฝันว่า....ก่อนที่ผมจะตายไปจากโลกนี้....
ขอสักครั้งนึงในชีวิต....
ได้กราบหลุมศพคุณพ่อ...และกอดน้องสาว-น้องชายและหลานๆ ต่างแม่ของผมสักครั้ง
แค่นี้ผมก็นอนตายตาหลับแล้วล่ะครับ !!!!
.
.
ถึงจะเป็นแค่ฝัน....ผมก็จะขอฝันไปจวบจนวาระสุดท้ายของชีวิตผมก็แล้วกันครับ....

ป.ล. แวะมาแก้ไขคำที่พิมพ์ผิดครับ -_-"

แก้ไขเมื่อ 03 ก.ย. 53 06:35:12

แก้ไขเมื่อ 03 ก.ย. 53 06:32:34

แก้ไขเมื่อ 03 ก.ย. 53 06:31:20

จากคุณ : เก้าอี้ขาวในห้องแดง
เขียนเมื่อ : 2 ก.ย. 53 12:57:10




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com