อุ๊บ
....คิดถึงพันทิปจัง..
วันนี้ได้มีโอกาสแวะเข้ามาห้องไกลบ้าน ใคร่ขอแลกเปลี่ยนความคิดเห็นด้วยคนกับกระทู้นี้
.....เอาประสบการณ์ที่ใกล้ตัวแบบสด ๆ ร้อน ๆ มาแชร์กับคุณ ted_chen เจ้าของกระทู้ด้วยคน เผอิญดิฉันต้องมาทำธุระที่มิวนิค สิ่งที่ทำให้คิดถึง "ความเป็นไทย" คือ การเป็นเจ้าบ้านที่ดี (ซึ่งคนไทยมีสิ่งนั้น) ดิฉันต้องใช้บริการศูนย์การแพทย์เฉพาะทางที่ NeuPerlach อาจารย์หมอและคุณหมออีกสองท่านสื่อสารภาษาอังกฤษได้เยี่ยม พร้อมกับนางพยาบาลที่เปิดใจสื่อสารภาษาอังกฤษได้บ้าง ไม่ได้บ้าง แต่เธอพยายามที่จะเป็นเจ้าบ้านและดูแลดิฉันและครอบครัวเป็นอย่างดี แต่มีพยาบาลท่านหนึ่ง เขามาเยี่ยมดิฉันและครอบครัวตอนสองทุ่ม ซึ่งเป็นกะ ของเธอ ประโยคแรกที่เธอสื่อสารกับดิฉัน สามี และแม่สามีเมื่อเปิดประตูคือ
" Kein englisch " ด้วยน้ำเสียง เสียงดัง ฟังชัด มันไม่ใช่ประโยคทักทาย ดิฉันกับสามีมองหน้ากัน เพราะเราทั้งคู่พอจะรู้ความหมาย เธอบอกว่า No English นะ
แต่กับนางพยาบาลอีกสองท่าน ใช้ภาษาอังกฤษเบื้องต้นแนะนำตัวถึงไม่คล่อง แต่พยายามสื่อสารด้วยน้ำใจ จริงอยู่หลาย ๆ ท่านที่เดินทางบ่อย ๆ จะรู้ซึ้ง ถึงอุปนิสัยชาวเยอรมันกลุ่มที่ไม่ต้อนรับชาวต่างชาติ เรียกว่าแทบจะดูถูกกันเลยทีเดียว ถามอะไรไม่รู้ก็เดินหนี แล้วใช้วิธีหยักไหล่ (อิอิ ภาพทำแบบหนีที่บ้านเมืองไทย แม่ดิฉันหยิกเนื้อเขียว มาทำ หยักไหล่ ปากเบี้ยว กริยามารยาทไม่ดี เธอว่าอย่างนั้น ) แต่เมื่อเทียบกับชาวไทย คนไทยเราเปอร์เซ็นต์น้อยมากที่จะไม่ชอบชาวต่างชาติ ถึงพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ แต่ว่าภาษามือกันสุดฤทธิ์ แต่อุปนิสัยที่ของเอเชียอย่างคนไทยบ้านเรายิ้มแย้ม ช่วยเหลือ ให้เกียรติ เป็นเจ้าบ้าน ที่ดี รวมทั้งการใส่ใจเรื่องการบริการเป็นเยี่ยม...อันนี้แหล่ะที่ทุกวันนี้ สามีบอกว่า เรื่องมารยาทการบริการ และการต้อนรับเทียบเมืองไทยไม่ได้เลย...
ทำไม ??
ขอวิเคราะห์โดยปสก. ส่วนตัว ซึ่งไม่ได้แต่งงานกับชาวเยอรมันนะค่ะ และไม่ได้อาศัยเป็นการถาวร แต่เดินทางมายุโรปเรียกว่าสองเดือนครั้งเลยล่ะ..ขอบอกตามความคิดที่ตกผลึกเองว่า..คนเยอรมันเนี๊ยเขาภูมิใจตรงที่
-บ้านฉันผลิต BMW (ล่าสุด X6 ) BMW, Mercedes, Porsche
- Ludwig van Beethoven, Johann Sebastian Bach, Johannes Brahms and Richard Wagner
- Michael Schuhmacher
- Soccer players คือ Oliver Kahn
- beer.......
- The Scorpions
-Helicopter
-Jet Engine
-พระสันตะปาปาคนปัจจุบันเป็นชาวเยอรมัน
นี้เป็นเพียงที่ดิฉันนึกขึ้นได้ ยังมีอีกเยอะแยะมากมาย....
สิ่งเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งและทรงอิทธิพลด้านจิตใจที่สร้างความภาคภูมิใจให้กับพวกเขา พวกเขาไม่เคยให้ภาพลักษณ์ประวัติศาสตร์และความโหดร้ายในอดีตมาครอบงำจิตใจให้เป็นอุปสรรคในการสร้างชาติ ของพวกเขา มันเริ่มมาจากการสร้างความแข็งแกร่งในครอบครัวก่อน และจึงลามไปยังหมู่บ้าน องค์กรและประเทศ ให้มันซึมเข้าไปไหนสายเลือด สิ่งเหล่านี้ต้องใช้เวลา ความอดทน การร่วมมือ และความเป็นหนึ่งเดียว ในที่สุดพวกเขาก็ทำสำเร็จ ณ.เวลานี้พวกเขาไม่แคร์ ถ้าพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ พวกเขาภูมิใจในสิ่งที่เขาเป็น...
ประเทศไทย...
-ปลูกข้าวกินเอง
-มีอาหารที่ซึ่งนับว่าคนทั่วโลกให้การยอมรับ
-มีหัตถกรรมงานฝีมือ
-มีแหล่งท่องเที่ยวไม่น้อยหน้า
-มีรอยยิ้มของการเป็นเจ้าบ้านที่ดี
-มีการบริการที่เป็นมาตรฐานระดับโลกหลายรายการ เช่น สายการบิน กลุ่มโรงแรม ร้านอาหารและสปา
สำหรับคนไทย...มันอยู่ที่การปลูกฝังของแต่ละครอบครัว ว่าให้มีความเป็นไทย ชาติไทยและชาติกำเนิดมากแค่ไหน มันต้องเริ่มตั้งแต่กิจกรรม ความคิด และ การแสดงออกเมื่อปลูกฝังแล้ว ก็ต้องสอนถึงวิธีการแก้ปัญหาอย่างแยบยลด้วยปัญญา ว่าเมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ทำให้สะเทือนถึงจิตใจเกี่ยวกับเรื่องกำเนิดชาติพันธุ์ ควรจะตอบโต้ด้วยหลักข้อเท็จจริง แต่ถ้าไม่ตอบโต้ เหลี่ยงที่จะสนทนาปราศรัยด้วยนั้น ก็ต้องมาหาทางบำบัดสภาพจิตใจที่หดหู่ด้วยตัวเอง แน่นอนเป็นธรรมชาตินะ ใครที่มาว่า ดูถูก หรือตำหนิติเตียน บ้านเกิดเมืองนอนหรือชาติกำเนิดเนี๊ย ต้องหงุดหงิดเป็นธรรมดา.. การที่คุณหงุดหงิดนั้นแหล่ะแสดงว่า..."คุณแคร์ความเป็นชาติไทย" แต่ที่คุณมีอารมณ์นั้น คือคุณไม่สามารถตอบโต้กลับได้ เพราะความจริงที่ เขาพูดมานั้น มันค้ำคออยู่....
วิธีเดียวคือ...ยิ้มรับ และเปิดใจ ตัวดิฉันเองก็ยังไม่เห็นประเทศไหนมันสมบูรณ์เลย คุณต้องทำตัวคุณให้ดี เพราะยิ่งคุณคิดว่าพวกเขาไม่ชอบคุณที่คุณเป็น "คนไทย" นั้น แล้วคุณไปแสดงพฤติกรรมกลับแบบว่า "ฉันก็ไม่ชอบคุณ " เท่ากับว่า เปิดโอกาสให้เขาหาเหตุผลที่จำกัดนิยามว่าคนไทยได้อีก
พูดง่าย ๆ ทำให้พวกเขามีเหตุผลสนับสนุนมากพอที่จะทำให้ไม่ชอบคุณ มากยิ่งขึ้น....
.....
ไม่ภูมิใจ ไม่เป็นไรค่ะ แต่อย่าแสดงออกนอกบ้านจนเกินงาม จะทำให้พวกเขากระหยิ่ม ยิ้มย่องเข้าไปอีก และกลายเป็นว่า "คนไทยแตกความสามัคคี"
แก้ไขเมื่อ 27 ก.ย. 53 02:59:30