ความคิดเห็นที่ 1 ไม่ต้องแก้ เลิกคบก็จบกัน เห็นๆอยู่แล้วว่านิสัยเธอคนนั้นน่าคบหรือเปล่า อีกอย่าง เรื่องของผัวเมีย ไม่ควรไปยุ่งโดยเด็ดขาด พอเขาดีกันแล้วเรานั่นแหละที่ซวย ถือซะว่านี่เป็นบทเรียน คุณสามารถ block คนนี้จาก FB ได้ จากคุณ : yinnerella เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 53 09:44:28

ความคิดเห็นที่ 2 แล้วตกลงคุณต้องการอะไรล่ะครับ เพราะผมเชื่อว่าคนในนี้ ร้อยละ 99 คงจะบอกให้คุณทำตัวเฉยๆ ไป เพราะคุณหาเรื่องใส่ตัวเองอย่างที่คุณก็รู้ดี แต่คุณไม่ต้องการได้ยินคำพูดนี้ แล้วคุณอยากจะได้ยินคำพูดไหนครับ เกิดเรื่องอย่างนี้ก็ดีแล้ว เพราะอย่างน้อยมันก็เป็นเรื่องของคนไกลตัว คุณจะได้จำไว้ว่าต่อไป เรื่องผัวเมียชาวบ้านอย่าได้ไปยุ่ง เวลาเขาทะเลาะกันเขาก็ว่าเราดี แต่เวลาเขาดีกันเราก็กลายเป็นหมาอย่างที่คุณเป็นอยู่เนี่ย จำเอาไว้ว่าเวลาเขานอนกกนอนกอดนอนฟอดนอนฟัดกันคุณก็คือคนนอก เขาคือผัวเมียกัน ดังนั้นต่อไปก็ให้ฉลาดที่จะพูดที่จะตอบมากกว่านี้ จากคุณ : ดอส เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 53 09:47:07

ความคิดเห็นที่ 3 นักต่อนักแล้วเรื่องแบบนี้ อยู่เฉยๆดีกว่า จากคุณ : PoUpeE เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 53 09:52:49

ความคิดเห็นที่ 4 ไม่ควรจะไปตอบกลับสามีเขาตั้งแต่แรกแล้ว  เพราะรู้จักรึ..ก็ไม่รู้จัก ขนาดเรื่องของน้องชายดิฉันแท้ๆ บางครั้งยังคิดแล้วคิดอีกจะบอกมันดีมั้ยว้า..(ตอนที่เขายังไม่มีเมีย แต่ไปเจอแฟนเขาเดินกับชายอื่น)  สุดท้ายบอกครึ่งเดียวที่เหลือมันไปหาเอง  แล้วก็หายโง่ 555 อย่ายุ่งเรื่องครอบครัวคนอื่นค่ะ   แค่รับฟังเท่านั้นแนะนำก็ไม่ต้องเพราะเวลาเขาดีกัน  อะไรที่ร้ายๆ กลายเป็นออกมาจากปากเราหมดค่ะ จากคุณ : ตกตะกอน เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 53 10:02:42

ความคิดเห็นที่ 5 ..ดิชั้นไม่รู้เรื่องกฏหมายเมืองนอกดีพอ..แต่ในประเทศไทยช่วงนี้กำลังฮือฮาเรื่องคลิปเสียง...และข้อความหยาบคายหรือหมิ่นประมาทตามเฟคบุ๊คมั่ง...ก็เห็นเค้าอัดคลิปกับก๊อปข้อความไว้เพื่อฟ้องหมิ่นประมาท..คิดว่าที่เมืองนอกก็ไม่ต่างกัน....อันนี้แค่แนะแนวทางที่พอจะทำได้นะคะ..ไม่ทราบว่าคุณยังเก็บข้อความที่เค้าต่อว่าคุณไว้หรือเปล่า(sms และ e-mail)??..เผื่อมีเหตุจำเป็นที่จะฟ้องเอาผิดจริงๆ..เพราะถ้าไม่มีอะไรยืนยัน..มันก็เหนื่อยเปล่า... ...จริงๆแล้ว..ดิชั้นเชื่ออยู่เสมอคะว่า..ทำอะไรมันก็ได้อย่างนั้น..เวรกรรมมันเห็นชาตินี้จริงๆนะ..เจอมากับตัวแล้ว*(มีคนมาทำดิชั้นนะคะ..สุดท้ายไม่นานคนๆนั้นก็เจ็บปวดยิ่งกว่าดิชั้นเป็น 10 เท่า..ดิชั้นอยู่เฉยๆไม่ตอบโต้อะไร)..ถ้าคุณจะลองปล่อยวางและจำไว้เป็นบทเรียนอีกบทนึง..มันก็น่าจะดีนะคะ..ถ้าผู้หญิงคนนั้นชอบเล่นชู้อย่างนี้จริงๆ..มันไม่นานเกินรอหรอกค่ะ..ใจเย็นๆนะคะ..ยังไงรอความเห็นจากท่านถัดไปละกันค่ะ จากคุณ : นางฟ้าฮอลแลนด์ >Holland Angel เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 53 10:08:49

ความคิดเห็นที่ 6 แต่พออ่านข้อความของสามีเขา ก็อดสงสารไม่ได้ เลยตัดสินใจ บอกเขาไป แต่ก็พูดด้วยความหวังดีนะคะ ไม่ได้กล่าวหา หรือแทงข้างหลังภรรยาเขาแต่อย่างไร คือ ถึงดิฉันไม่ได้เป็นคนบอก สามีเขาก็ต้องหาทาง หาความจริงอยู่ดี จากคุณ : JidNince เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 53 10:35:38

ความคิดเห็นที่ 7 กรณีนี้จะพึ่งกฏหมายคงไม่ได้เพราะ damage ยังไม่สามารถคิดเป็นตัวเงินได้  ถ้าเรื่องแค่นี้คิดจะฟ้องหมิ่นประมาท ป่านนี้ ท่านประธานาธิบดีและนักการเมืองทุกๆ ท่านคงรวยล้นฟ้าไปแล้ว มีทางเดียวคอ จขกท ต้องบล็อคอีเมล์นั้นไป และเลิกติดต่อกับเขาโดยสิ้นเชิง  อย่ามัวต่อปากต่อคำเรื่องมันจะยาวไม่มีจบมีสิ้น..... จำไว้เป็นบทเรียนว่าคนนั่งพูดกับนอนพูดผลมันต่างกัน   โชคดีค่ะ จากคุณ : Lawanwadee เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 53 10:39:44

ความคิดเห็นที่ 8 คุณคะ นี่ค่ะ ฟังค่ะ อาจจะคล้ายๆนะคะ ไม่เหมือนเสียทีเดียวนัก ดิฉันเนี่ยะ เกือบเสียเพื่อนรักเพราะแฟนเพื่อนเมล์มาปรึกษา และแชทกับดิฉันเพราะไม่เข้าใจความคิดเห็นของคนไทย ไอ้เราก็ซื่อโห่ะๆ บอกเพื่อนหมดว่าแฟนเอ็งมาถามอะไร  น๊านนนนนนนนนนน 2-3 หน เพื่อนคิดว่าเราวุ่นวายความสัมพันธ์ของเค้าสองคน ดิฉันเนี่ยะ เลิกเลยค่ะ บอกแฟนเค้าไปเลยว่า จะไม่ขอออกความคิดเห็นอะไรอีกต่อไป และจะไม่ขอแชทด้วย ไม่ได้โกรธเรื่องที่เกิดขึ้น แต่ไม่อยากเสียเพื่อนรักค่ะ  ถอยค่ะ ถอยออกมา อย่าไปยุ่งค่ะ เราไม่ได้เป็นแบบนั้นก็อย่าไปตอแย เงียบซะ คิดเสียว่าทำบุญ จากคุณ : piggy&kermit เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 53 12:34:43

ความคิดเห็นที่ 9 เรื่องผัวๆเมียๆของชาวบ้านเนี่ย อยู่ห่างๆไว้ก่อนจะดีกว่าครับ ถึงเข้าไปเพราะหวังดี เขาก็จะว่าแส่ไม่เข้าเรื่อง เหมือนทำคุณ บูชาโทษ อย่างที่หลายความเห็นว่ามา นอนคุยกันกับนั่งคุย คุณว่าอันไหนจะมีน้ำหนักน่าเชื่อถือกว่ากัน? จากคุณ : sleepless night เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 53 13:18:05

ความคิดเห็นที่ 10 เรื่องกฏหมายคงทำอะไรไม่ได้ ก็ตามตวามเห็นข้างบนแหละครับ อยู่เฉยๆ เค้าบล็อคคุณ คุณก็บล็อคเค้าก็สิ้นเรื่อง เรื่องนี้มันมีต้นเหตุมาจากที่คุณเข้าไปยุ่งก่อน เพราะฉะนั้นทำใจดีกว่าครับ คนเราทุกคนเวลาโกรธย่อมแสดงออกมาแตกต่างกัน บางคนอาจจะออกมาเยอะ เกินไป อภัยได้ก็อภัย ชีวิตคุณจะได้มีความสุข ผมว่าคุณตัดสินใจผิดตั้งแต่ไปบอกสามีเค้าแล้วล่ะครับ คุณบอกเองว่าเป็นเพื่อนกับเค้า สนิทสนมกัน แม้จะออนไลน์ก็เถอะ เวลาเพื่อนผมไปมีกิ๊ก มีชู้มีอะไรผมก็ไม่เอาไปบอก แฟน หรือ ภรรยา สามีเค้าหรอกครับ เพราะมันไม่ได้เกิดประโยชน์อะไร ยอกจากจะเสียเพื่อนไปเปล่าๆ   ถ้าเค้าเลิกกัน แฟนเค้าก็ไม่ได้จะมาเป็นเพื่อนกับคุณ ส่วนเพื่อนคุณก็จะ เกลียดคุณไปเลย  แต่ถ้าเค้ายังดีกัน เพื่อนคุณก็ยังจะเกลียดคุณเหมือนเดิม ส่วนแฟนเค้า ก็ไม่ได้มามีส่วนร่วมในชีวิตคุณอยู่แล้ว เห็นมั๊ยครับ มันไม่ได้มีประโยชน์อะไรต่อชีวิตคุณเลย อีกอย่างคุณก็ไม่ได้รู้เบื้องหน้าเบื้องหลัง ไม่รู้ว่าสามีเค้าเป็นคนยังไง เค้ามีปัญหาอะไรกัน หรือแม้แต่เพื่อนคุณอาจจะคิดเล่นๆกับคนอื่น สุดท้ายก็ยังรักสามี พวกชั่วครั้งชั่วคราว ไม่นานอาจจะเลิกกันไป แล้วเค้าก็อาจจะอยู่กับสามีตามปรกติก็ได้ แต่ตอนนี้ความจริงที่ปฎิเสธไม่ได้คือ คุณได้เข้าไปทำลายครอบครัวเค้าอย่างเปิดเผย ถึงจะไม่เลิกกัน แต่ชีวิตคู่มันเริ่มอยู่กันอย่างหวาดระแวง เค้าก็ย่อมต้องโกรธเป็น ธรรมดา ผมว่าก่อนที่จะคิดว่าปัญหามันมาจากคนอื่น ลองพิจารณาตัวเราเองก่อนว่าเราได้ทำอะไร ผิดพลาดไปบ้างก่อนรึเปล่า แก้ไขเมื่อ 15 ต.ค. 53 13:25:58 แก้ไขเมื่อ 15 ต.ค. 53 13:21:18 จากคุณ : Argus เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 53 13:19:09

ความคิดเห็นที่ 11 เฉยๆ ไปดีกว่าค่ะ ... ยิ่งคนไม่รู้จักตัวจริง เค้าเล่าอะไรมา เราก็ไม่รู้ว่า จริงเท็จแค่ไหน ดิฉันโดนมากับตัวเอง รู้จักกันด้วย ช่วยเหลือสารพัด เพราะความสงสารและหวังดีนี่แหละ เค้าเอาพวกมารุมโจมตีทางเวบ ด้วยเรื่องที่เค้าไปตัดต่อยังไงเราก็ไม่รู้ เพราะสภาพจิตของเค้า ความคิด สิ่งแวดล้อมของเค้า ต่างจากเรามาก ทางที่ดี คือ เอาตัวเอง ออกมาจาก ความสัมพันธ์นั้น โดยเร็วที่สุดค่ะ จากคุณ : nijja เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 53 14:54:52

ความคิดเห็นที่ 12 ไมต้องเปิดอ่าน ไม่ต้องสนใจ เปลี่ยนเมล์แอดเดรสไปเลย เป็นบทเรียน เรื่องผัวเมียเขาเราไม่เกี่ยว เดี๋ยวจะว่าเป็นมือที่สาม เกาะกระแสวงการบันเทิงซะนี่ จากคุณ : jeejeeberry เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 53 15:12:56

ความคิดเห็นที่ 13 นี่แหละค่ะ เค้าว่าเรื่องผัวเมีย อย่าไปยุ่งกับเขาดีกว่า ตอนนี้ดิฉันว่าไม่ต้องคิดจะไปฟง ไปฟ้องอะไรเค้าหลอกค่ะ คิดซะว่าพอแค่นี้ เราเป็นแค่คนนอก ดิฉันเห็นด้วยกับความเห็นของทุกคน ส่วนใหญ่จะบอกว่าอย่าไปยุ่งดีกว่า ปล่อยเค้าไปเถอะค่ะ แล้วก็ไม่ต้องไปคุยหรือสนใจพวกเขาอีกต่อไป จากคุณ : กุหลาบเหนือ (rose_of_north) เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 53 20:44:30

ความคิดเห็นที่ 14 ง่ายมากเลย ไม่ต้องทำอะไร เลิกติดต่อทั้งคู่เลย คุณอาจจะตัดสินใจผิดแต่ก็อย่าเก็บมาเป็นอารมณ์เลย อาจจะเสียความรู้สึกบ้าง แต่ก็นั่นล่ะนะ โลกออนไลด์ มันก็แค่นั้นจริงๆ ใครคิดไม่ได้ก็เอามาจม เป็นความทุกข์ที่เราไม่ควรจะเจอด้วยซ้ำ ถือซะว่าเป็นประสบการณ์นะคะ ต่อไปเรื่องแบบนี้ถอยห่างเลยนะ ดีนะที่แค่โลกออนไลด์ถ้าเจอโลกแห่งความจริง คุณอาจจะโดนอะไรที่เสียๆหายและทุกข์มากกว่านี้ จากคุณ : ทุ่งข้าวเขียวขจี (MajestyLove) เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 53 20:59:12

ความคิดเห็นที่ 15 เราเข้าใจ จขกท. ค่ะ แม้ไม่รู้ได้รู้จักกันหรือเป็นเพื่อนกันจริงๆแต่หากเราอยู่ในเหตุการณ์นั้น เราจะทำอย่างที่ จขกท. ค่ะ ถือว่าทำบุญ โโยจะส่งเฉพาะข้อความที่ผู้หญิงคนนั้นส่งมาปรึกษาคุณ ไม่พิมพ์อะไรเพิ่มเติม เพราะเรารู้พฤติกรรมของภรรยาผู้ชายคนนี้ แต่เมื่อทำแล้วก็ต้องยอมรับสภาพที่จะตามมาค่ะ ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ผลอาจมีสองอย่างคือ สามีผู้หญิงคนนี้ตาสว่าง เขาที่งอกอยู่หายไป หรือเลิกกับเมีย แต่ผลอีกอย่างคือ สามียังยอมถูกสวมเขาต่อไป เพราะอย่างที่บอกนอนคุยกับนั่งคุยมันต่างกันค่ะ หากเราทำด้วยความบริสุทธิ์ใจ แล้วผลออกมาเป็นในทางตรงกันข้ามก็ทำใจค่ะ บล็อกคนเหล่านั้นไปเสีย หากมันเลยเถิดไปมากก็ไปแจ้งความได้นะคะ หากผู้ชายคนนั้นยังเลือกที่จะโง่ถูกเมียสวมเขาต่อไป (เพราะดูรูปการแล้วเมียคงย่ามใจน่าดู) ก็ปล่อยเค้าไปค่ะ ถือว่าคุณทำดีที่สุดแล้ว เพราะคุณก็ไม่ได้ใส่ไฟอะไรผู้หญิงคนนั้นตามที่ึคุณบอกมา เชื่อในผลกรรมมั้ยคะ ว่าครอบครัวนี้ไม่มีวันอยุ่อย่างมีความสุขเพราะคนมันเคยๆน่ะค่ะ ไม่ว่าวันนี้หรือวันหน้าก็ต้องหาทางมีกิ๊กอีกอยู่ดี ส่วนพี่สาวของผู้หญิงคนนี้ก็คงจิตตกไปตามน้องสาวมั้งค่ะ คงกลัวว่าสามีฝรั่งของน้องสาวจะทิ้งน้องสาวไป ก็เลยต้องจัดการคุณอีกคน ส่วนสามีของผู้หญิงคนนั้นก็ช่างกระไร ผีเน่ากับโลงผุจริงๆ ดีแล้วค่ะให้คนเหล่านั้นเค้าอยู่ด้วยกันเถอะค่ะ เหมาะสมกันแล้ว รับรองได้ว่าหากเป็นอย่างที่คุณพูดจริงนะคะ ชาตินี้ผัวเมียคู่นี้ก็อยู่กันอย่างไม่มีความสุขแน่ๆค่ะ จากคุณ : loveTRAVEL1977 เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 53 22:40:52

ความคิดเห็นที่ 16 ขออนุญาตภาษาชาวบ้านหน่อยนะคะ นี่เป็นกรณีตัวอย่าง เวลาเพื่อนมีปัญหาทะเลาะกะสามี เรา: ผัวแกไม่ดีใช่ไม๊ อย่าไปสนใจมัน มันโง่ มันนิสัยไม่ดี มันผิด มันไม่เข้าใจผู้หญิง บลาๆๆๆๆ   เพื่อน: เออ ก็มีแกนี่แหละเข้าใจชั้นและเป็นที่ปรึกษาที่ดีที่สุดในโลก แกเป็นนางฟ้าของชั้น พอพวกมันดีกัน เราเป็น? ....เป็น หมาหัวเน่า ฉะนั้นเรื่องของผัวเมีย ฟังเฉยๆ อย่าไปยุ่งค่ะ ถูกผิดเรื่องของเขา บางทีอยากช่วย แต่ที่จะช่วยได้มากที่สุดและปลอดภัยที่สุด(กะทุกคน)คือฟังอย่างเดียวและบอกว่า เออ เข้าใจๆ แค่นั้น เวลาเค้าดีกันขึ้นมา เค้าไม่ฟังใครหรอก เค้าคิดว่าคนของเค้านั่นแหละดีที่สุด ส่วนคนอื่นเป็น? อ่ะ ให้ข้างล่างตอบ จากคุณ : extraordinary love เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 53 00:06:36

ความคิดเห็นที่ 17 ขอบคุณทุกความเห็นค่ะ..ไม่ได้ตั้งใจจะฟ้องร้องอะไรหรอกค่ะ เพียงแต่สงสัยว่า ถ้าจะฟ้องร้องมันจะได้ไหม ..หรือแค่แจ้งความ ... บอกตรงๆว่า เจ็บใจค่ะ เพราะ เรื่องมันจบไปตั้งนานแล้ว แล้วสามีเขาจะมาฟื้นฝอยหาตะเข็บทำไม..เท่านั้นล่ะค่ะ... แล้วเรื่องนี้มันก็ระหว่างคนสามคน ...พอมีมือที่สี่ เข้ามา ก็เลยโกรธค่ะ..เพราะมันเหมือนกับเด็กทะเลาะกัน แล้วก็ไปเรียกแม่มา แบบนั้นน่ะค่ะ... ตอนนี้ก็พยายามไม่สนแล้วล่ะค่ะ บางครั้งนึกขี้นมาก็โมโห ก็ไม่ได้ยุ่งอะไรแล้วค่ะ เรื่องล่วงเลย มาเป็นอาทิตย์แล้ว...คนแบบเดียวกัน ก็ปล่อยให้เขาอยู่ด้วยกันไปละกัน ก็ฟาดเคราะห์ไป ..ไอ้เราก็ซื่อ ... หวังดี .. แต่คงจะสงสารผิดคน.. ตอบคุณ คห.2 นะคะ ...จริงๆแล้ว ดิฉันต้องการได้ยิน คำปลอบใจค่ะ ...เท่านั้นล่ะค่ะ...เพราะมันแก้ไขอะไรไม่ได้ เรื่องมันเกิดไปแล้ว ดิฉันก็เป็นหมาไปแล้ว ... คนรอบตัวก็ทับถมแล้ว ..ดิฉันมันคนซื่อน่ะค่ะ ... คุณ คห.10 ค่ะ..ดิฉันคิดว่า ดิฉันไม่ได้ทำลายครอบครัวเขานะคะ แต่ถ้าคุณคิดว่า การเปิดเผยความลับของภรรยาเขา คือการทำลายครอบครัว งั้นก็คงจะจริงค่ะ ... คือข้อความที่สามีเขาเขียนมาเนี่ย ..มันมีเนื้อหาเยอะมาก เกี่ยวกับตัวภรรยาเขา ซื่งหลายๆอย่างที่ดิฉันอ่านแล้ว บางครั้งยังคิดเลยว่า ภรรยาเขาแต่งเพราะต้องการสเตตัสหรือเปล่า เพราะเขาเคยเป็นนักเรียน มาเรียนภาษา ซี่งลงเรียนกว่าสามปี ไม่ยอมเข้ายูซักที ก็แสดงว่า เธอไม่ได้ตั้งใจจะมาเรียนแต่แรกแล้ว แล้วเธอก็บอกว่า วีซ่าจะหมด แล้วไม่อยากต่อวีซ่าแล้ว ต่อมาไม่นาน เธอก็ประกาศแต่งงานอ่ะค่ะ(อันนี้ข้อมูล เยอะเกินไปหน่อยนะคะ...) แต่ก็ขอบคุณความเห็นค่ะ จากคุณ : จขกท. เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 53 07:06:49 A:76.124.53.11 X: TicketID:106377

ความคิดเห็นที่ 18 จขกท. ทำใจค่ะ ถือซะว่าสามีเค้ายอมถูกสวมเขาเอง ผีเน่ากับโลงผุ คุณทำในสิ่งที่ถูกแล้ว หากเค้าเป็นอย่างที่คุณบอกมา อย่างที่บอกเป็นเราก็จะบอกค่ะ บล็อกคนเหล่านั้นไป ไฟก็จะไหม้เค้าไปเอง เราเชื่ออย่างนึงนะคะว่าแก้วที่มันร้าว ยังไงมันก็ประสานยาก และมีรอยร้าวอยู่อย่างนั้นแหละ ในใจเค้าก็ทนทุกข์กันอยู่แล้วในทางจิตวิทยาแล้ว ครอบครัวนี้ไม่มีความสุขค่ะ ถึงได้ร่วมแรงร่วมใจกันรุมด่าคุณยังไงล่ะค่ะ เพราะต้องการปกป้องตัวเองจากเหตุการณ์ที่ตัวเองถูกสวมเขา ผู้หญิงก็ต้องการเบนประเด็นว่าตัวเองมีชู้ พี่สาวของผู้หญิงก็ต้องการผสมโรงเพื่อป้องน้องสาว โดยที่ลืมไปว่าน้องสาวตัวเองเป็นยังไง เค้าเป็นพี่น้องกันถูกผิดยังไงก็ต้องป้องกันไว้ก่อน เมืื่อคุณบอกในสิ่งที่คุณบอก แน่นอนว่าผลตามมาคือถูกรุมจากคนในครอบครัวนี้ ถือซะว่าเป้นบทเรียนค่ะ คนมันต่างกัน แล้วแต่มุมมองอย่างเราหากมีเพื่อนมาบอกอย่างนี้กับเรา มีหลักฐานอีเมลอีกต่างหาก เราจะเก็บเป็นข้อมูลและขอบคุณเพื่อนด้วยซ้ำ แต่กับหลายคนเค้าอาจไม่คิดแบบนี้ค่ะ เพราะคิดว่าคุณไปทำลายครอบครัวคนของเขาและด่าว่าคุณ มันก็แล้วแต่ว่าคุณไปเจอคนแบบไหน และกับผู้หญิงคนนี้แค้่เป็นึนที่รู้จักทางเน็ต ใน FB เพราะอย่างนี้ไงคะเราถึงไม่แอดใครหากไม่รู้จัก เพราะ FB มีไว้สำหรับคนในครอบครัวและเพื่อนที่รู้จักกันจริงๆเท่านั้นเพราะค่อนข้างส่วนตัวค่ะ   รีบบล็อกและทำใจให้เร็วๆนะคะไม่ต้องไปคิดมากเพราะแค่นี้เค้าก็ทุกข์มากพอแล้วค่ะ เมียแอบมีกิ๊ก สามีถูกสวมเขา น้องสาวจะถูกทิ้ง แค่นี้เค้าก็มากพอแล้วค่ะคุณ จากคุณ : loveTRAVEL1977 เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 53 07:52:30

ความคิดเห็นที่ 19 ขอบคุณค่ะ คุณ คห.18 ...ก็อย่างนั้นล่ะค่ะ.. ทำคุณ บูชาโทษ จำใส่กระโหลก ไว้เป็นบทเรียน ต่อไป ถ้าจะตาย ก็จะปล่อยให้ตายไปเลย ไม่เอาอีกแล้วค่ะ จากคุณ : จขกท. เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 53 09:19:41 A:76.124.53.11 X: TicketID:106377

ความคิดเห็นที่ 20 ++ คนแบบเดียวกัน ก็ปล่อยให้เขาอยู่ด้วยกันไปละกัน++ เห็นด้วยค่ะ กับ จขกท ต้องถือว่าโชคดีที่ไม่หลวมตัว คบค้าสมาคมไปมากกว่านี้ ต่อไปนี้ อาจจะต้องจำไว้ว่า ... คนที่เค้าจะทำชั่ว ทำเลว ทำเรื่องไร้ศีลธรรม   ไม่มีอะไรจะห้ามได้ ถึงมาปรึกษาก็ไม่ต้องให้คำแนะนำ เค้าจะะเอาความชั่ว ความเลวนั้น มาแปดเปื้อนเราด้วย ด้วยวิธีแบบของเค้า เช่นการไปเอาคนอื่นๆมาเขียนด่า ...  ที่คุณประสบ แหม มันช่างเป็นแพทเทิ่น ยูนิเวอเเซลเสียนี่กระไร   ที่จริง ถ้า เค้าเขียนในที่ สาธารณะ ฟ้องได้ค่ะ ถาม ตร และทนายแล้ว คุณจะแจ้งความไว้ก็ได้ค่ะ  เป็นการ ดูหมิ่น ทำให้คนอื่นเข้าใจเราผิด เสียชื่อเสียง มีเคส ในห้องอื่นในพันทิพ ศาลประทับรับฟ้องค่ะ คดีมีมูล  แต่ .... มันไม่คุ้มเวลา เงินทองของเราอ่ะค่ะ หลวมตัวคบคนเลวๆ พอเรารู้ตัว  ก็ให้เค้ามั่วสุมกันเองไป เดี๋ยวเค้าก็ต้องมีเรื่องกันเอง .... เรารีบเผ่นออกมาให้เร็วดีกว่า (ของเรานะ เอามาปรึกษาทุกบ่อย แถมมีปัญหาการเงิน เราก็ช่วย ทั้งเงิน และ หาทางออก ทั้งที่เราก็รู้สึกว่ามันแปลกๆ เค้าเล่าไม่เคลียร์  โกหกไปมาหลายรอบ หลายเรื่อง เราก็ปรึกษาคนอื่นอยู่นะ เพราะเรื่องมันฟังแปลกๆ  แต่ก็หยวนน่ะ รู้จักกัน สงสารด้วย เด็กกว่ามากด้วย  เห็น อ่อนสติ ขาดสตังค์ ที่ไหนได้ ....  คนเลว จะมาในรูปไหน น่าสงสารอย่างไร  พฤติกรรมมันออก .... ) เท่าที่ ฟังเรื่องของคุณ ประเด็นมันอยู่ที่การ คบชู้สู่ชายของผู้หญิงคนนี้ แต่เค้าพยายาม มาเน้นตรงที่ว่า  คุณไปเอาความมาบอกสามีเค้า ต่อให้ คุณเก็บเป็นความลับ สุดยอด มันก็ไม่ได้เปลี่ยนความจริงที่ ว่า เค้ากระทำการ .... และประพฤติตัว .... บลาๆๆๆ   คุณไม่ได้ทำชั่วนะคะ มั่นใจในตัวเองได้ค่ะ ... คุณหลงไป +คบคนชั่วเป็นมิตร+ ต่างหาก ตามพุทธสุภาษิตกล่าวไว้ จากคุณ : nijja เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 53 09:31:33

ความคิดเห็นที่ 21 ใช่ค่ะ คุณ nijja ... ถ้าลองคิดว่า ดิฉันไม่ได้เป็นคนบอกข่าว ...แล้วชายคนนั้นเขายอมออกไปเที่ยวกับเธอ ...ป่านนี้ครอบครัวนี้จะเป็นอย่างไรไปแล้ว ... แต่คิดอีกที ก็สะใจดีเหมือนกันนะคะ เพราะดูเหมือนว่าเธอจะเชื่อใจดิฉันมาก ...นี่ถ้าสามีเธอไม่ปากสว่าง ต่อไปเธอจะริอยากมีชู้อีก สามีเขาจะไปหาข่าวมาจากไหน... ดิฉันทำใจแล้วค่ะ... ขอบคุณค่ะ ดิฉันก็คิดว่า ทำบุญให้สัตว์โลกไปล่ะ ไม่ได้ปล่อยนก ปล่อยปลา ก็ปล่อยคนจิตไม่ปกติไปก็แล้วกันค่ะ... จากคุณ : จขกท. เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 53 10:25:16 A:76.124.53.11 X: TicketID:106377

ความคิดเห็นที่ 22 ไหนๆก็ขอยกตัวอย่างให้เห็นนะคะ หลายปีมาแล้วค่ะ เราเจอเหตุการณ์ทำนองนี้กับตัวเอง สมมตว่าเรารู้จัก พี่ ก  และพี่ ก มีแฟนชื่อ ข และเราก็สนิทกับพี่ ค ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทกับ ก  อย่าเพิ่งงงนะคะ พี่ ก กับ พี่ ข เป็นแฟนกันมาก 8 ปีค่ะ พี่ ก รักแฟนของแกมากถึงมากที่สุด เงินทองให้แฟนใช้ตลอดทั้งๆที่เป็นผู้หญิง ดูแลผู้ชายคนนี้ดีมาก เป็นแฟนที่ดีมากๆคนนึง ขณะที่อีตา ข ไม่ได้ทำตัวเป็นแฟนที่ดีเลยไม่เคยพาไปบ้าน ไม่เคยพาไปเจอเพื่อนสนิท ครอบครัวของตัวเองเลย มีอะไรพี่เค้าก็มาปรึกษาเราว่าเอายังไงดีๆ ชั้นไม่ไหวแล้วไอ้นี่มันเลว พี่รู้แต่พี่รักบลาๆๆๆๆ เราบอกคำเดียวว่า พี่รักคนอย่างนี้เนี่ยนะอยู่เป็นโสดมา 30 ปีเพื่อจะมารักคนอย่างนี้เนี่ยนะ เค้าก็ ฮือๆๆ เวลาผ่านไป วันนึงเราก็ไปเยี่ยมพี่ ค เจ๊แกก็ปรึกษากับเราว่ามีเรื่องจะปรึกษาเป็นเรื่องสำคัญมาก ที่ไม่รู้จะทำยังไง เราก็ถามว่ามีอะไร พี่ ค เล่าให้ฟังว่า โลกมันกลม เจ๊แกไปเปิดร้านอยู่ที่จตุจักร วันนึงก็คุยกับเจ้าของร้านตรงข้ามว่าชื่ออะไร เป็นใคร มาจากไหน ตามประสาคนร้านใกล้กัน ปรากฎว่าผู้หญิงคนนี้ก็เล่าให้ฟังหมด แถมบอกด้วยว่าแฟนตัวเองชื่ออะไร ทำงานที่ไหน มีรูปให้ดูด้วย โลกกลมของจริงเพราะแฟนของผู้หญิงคนนี้คืออีตา ข ที่เป็นแฟนกับพี่ ก นั่นแหละค่ะ มีลุกด้วยกัน 1 คนเชียวนะคะ เรื่องนี้พี่ ค รู้เรื่องมาแรมปีค่ะ แต่ไม่กล้าบอกใคร เก็บไว้เป็นความลับ ผลคือพี่ ก ถูกหลอกใช้ ทันทีที่เรารู้ เราย้ำว่าแน่ใจเหรือว่าใช่ พี่ ค บอกว่าล้านเปอร์เซ็นต์ เราบอก แล้วทำไไมพี่ไม่บอกเพื่อนพี พี่ ค บอกว่ากลัวมันคืนดีกันแล้วมันจะเกลียดพี่ พี่จะกลายเป็นหมาหัวเน่า เราเลยถามกลับไปว่า พี่กลัวเค้าเกลียดเลยไม่บอกเพื่อน แล้วพี่หวังดีกับเพือ่นพี่มั้ย และพี่รู้นิสัยของพี่มั้ย หากพี่รู้จักเพื่อนพี่ดีพี่จะไม่ลังเลในการบอกเรื่องนี้กับเพื่อนพี่ ถ้าพี่ไม่กล้าหนูจะบอกเอง พรุ่งเช้าเราบอกเรื่องนี้กับพี่ ก ผลออกมาคือ พี่เค้าหูตาสว่าง และเลิกกับผู้ชายคนนี้เพราะจำนนด้วยหลักฐานทั้งปวง ทุกวันนี้พี่เค้าก้ยังคบกับเรา สนิทกันเหมือนเดิม แถมยังแต่งงานมีกำลังตั้งท้องลูกคนแรก อีกต่างหาก พี่เค้ายังบอกว่าหากวันนั้นเธอไม่บอกพี่ ป่านนี้พี่คงเป็นอีบ้าที่ถูกสวมเขาไปตลอด เราเองก็ดีใจที่พี่เค้าคิดได้และไม่ดื้อดึงเมื่อสืบจนรู้ชัด จากข้อมูลที่เราให้แล้วก็ไม่รั้ง เราเองก็โชคดีที่มีเพื่อนอย่างนี้ ไม่ใช่คิดแค่ว่าเป็นเรื่องของผัวเมีย เพราะหลักฐานมันก็โทนโท่ คิดไปคิดมาผู้หญิงคนนี้เราก็เคยเจอเวลาเราไปช่วยพี่ ค ขายของ แต่ไมได้เอะใจและเคยเจอแฟนพี่ ก ไปที่นั่นแต่ไม่คิดว่าจะเป็นสามีของผู้หญิงคนนี้นึกว่ามาซื้อของปกติ นั่นแหละค่ะคือการไม่นิ่งเฉย อย่างล่าสุดเราไปทำใบขับขี่ ด้วยความที่ที่นั่งไปไม่ว่างแฟนเราเลยนั่งแยกจากเรา สักพักที่นั่งข้างเราว่าง แฟนเลยรีบลุกมานั่งกับเรา แต่ด้วยความบังเอิญที่เพื่อนสนิทเราก็มาต่อใบขับขี่ มันก็ดั๊นเห็นว่าแฟนเราลุกไปนั่งกับผู้หญิงคนนึง (ซึ่งตอนนั้นมันไม่รู้ว่าเป็นเราเอง)  และเราก็หันหลังให้เพื่อน เพื่อนมันก็จำไม่ได้ว่าเป็นเรา และมันก็นั่งดูพฤติกรรมของแฟนเราสักพัก ว่าสนิทกับผู้หญิงคนนี้ยังไง มีอะไรน่าสงสัย แหนเราก็สะกิดให้เราดูนั่นดูนี่ จับมือ  โอบบ้าง เล่นหัวแบบที่แฟนทำกัน เพื่อนมันก็เห็น แว้บแรกมันบอกว่าจะโทรหาเราและถามว่าเราอยู่ไหนก่อน และหากเราบอกว่าอยู่ที่อื่น มันก็จะบอกว่าชั้นเห็นแฟนแกนั่งหนิดหนมกับใครก็ไม่รู้ ที่ขนส่ง สักพักด้วยความที่เพื่อนซี้เรามันอดรนทนไม่ไหว มันก็ทำทีเดินมาข้างหน้า อยากเห็นหน้าผู้หญิงคนที่นั่งข้างแฟนเพื่อนชัดๆว่างั้น ข้้อมูลจะได้ไม่ผิดพลาด เวลาแจ้งข่าว ปรากฎว่า เราเองค่ะ ขำก๊ากใหญ่ และมันก็บอกแฟนการนั้นกับเรา เรายังดีใจเลยที่มีเพื่อนแบบนี้ และเพื่อนเองก็ไม่คิดว่าเราจะเป็นคนที่จะหาว่าเพื่อนเป็นหมาหัวเน่าหลังคืนดีกัน เพื่อนเรามั่นใจในตัวเราค่ะ แต่กรณีของ จขกท.อย่างที่เราบอกเราไม่ได้เป็นเพื่อนรู้ใจ หรือสนิทกับผู้หญิงคนนี้เลย แม้เราหวังดีไม่มีอะไรแอบแฝงก็ถูกรุมด่าให้เสียอารมณ์ ดีแล้วค่ะที่คุณทำใจได้ คนเหมือนกันก็ปล่อยให้เค้าอยู่ด้วยกันละกันค่ะ อีกเคส เรื่องที่เพิ่งออกรายงานผู้หญิงอยากรู้นั่นไงคะ ที่มีผู้ชายคนนึงมีเมียพร้อมๆกันสามคนน่ะค่ะ คนที่เรารู้จักเป็นคนเช็คให้เมียคนแรกว่าทะเบียนบ้านผู้ชายคนนี้อยู่ที่ไหน และแจ้งให้ผู้หญิงคนนี้รับทราบ ขณะที่พ่อแม่ฝ่ายชาย เลือกที่จะปกปิดพฤติกรรมของลูกชายตัวเองไว้นานหลายปี พอเรื่องแดงขึ้นมาก็บอกไปว่าเรื่องของผัวเมียพ่อแม่ไม่อยากยุ่ง น้องคนนั้นหมดความนับถือพ่อแม่อดีตสามีไปเลยค่ะเพราะระหว่างที่สามีไม่อยู่น้องคนนี้ก็ไปดูแลพ่อแม่ฝ่ายไปมาหาสู่ในฐานะลุกสะใภ้ที่ดี แต่เมื่อผลออกมาแบบนี้ มันก็เกินรับไหว สรุปอีกรอบคือเลือกทำดี หวังดีกับคนที่เรารักและมั่นใจในตัวเค้าว่าจะไม่มางี่เง่ากับเรา หรือหากเราบอกไปแล้วมาเกลียดเรา เลิกคบเราก็ให้เค้าทำไปเถอะค่ะ ก็แค่เสียเพื่อนคนนึงไปเพราะความหวังดี หากเรื่องที่เราบอกมันเป็นสิ่งที่เค้าควรรู้ เราบอกแล้วเค้าตีความหมายไปในทางอื่นก็แสดงว่าเค้าไม่ใช่เพื่อนรักของเรา และไม่อยากปรับความเข้าใจกับเรา เลือกที่จะโดนสวมเขาต่อก็ปล่อยเค้าไปนะคะ จขกท.แค่หวังดีผิดคนแค่นั้นเองค่ะอย่าคิดมาก จากคุณ : loveTRAVEL1977 เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 53 11:23:24

ความคิดเห็นที่ 23 บางทีคนเราก็อยากฟังแต่สิ่งที่ตัวเองอยากได้ยินจริงๆ ด้วย จากคุณ : ดอส เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 53 14:36:54

ความคิดเห็นที่ 24 ให้กำลังใจนะคะ คุณรู้ว่าตัวคุณเป็นยังไง ดีชั่วยังไง ก็พอแล้วค่ะ อย่าให้คนอื่นเข้ามากระทบความสุขของเรา พวกเค้าไม่สำคัญขนาดนั้น อย่าได้แคร์ค่ะ จากคุณ : ยุ้ยหัดเขียน เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 53 19:31:10

ความคิดเห็นที่ 25 เฮ้อ..ค่ะ ... เขียนมาด่าดิฉัน แล้วก็บล็อกดิฉัน ..ดิฉันไม่ได้ตอบไรไป ..ก็แก้บล็อกแล้วก็เขียนมาด่าใหม่ค่ะ... ไม่เข้าใจคนพวกนี้จริงๆ อะไรกันนักหนาน้อ...เมื่อไหร่จะโตกันซะทีเนี่ย..อุทิศส่วนกุศลให้ไปแล้ว ยังไม่ยอมไปเกิดอีกแฮะ คราวนี้บล็อกเขาไปแล้ว คิดว่าคงไม่ไปเอาโปรไฟลคนอื่นมาเขียนด่าอีก จากคุณ : จขกท. เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 53 05:03:04 A:76.124.53.11 X: TicketID:106377

ความคิดเห็นที่ 26 ผมอาจจะใช้คำพูดแรงไปหน่อย ว่าทำลายครอบครัว  เพราะถึงยังไง สามีเค้าก็รู้ระแคะระคาย อยู่บ้างแล้ว  ผมน่าจะพูดว่า คุณเค้าไปยุ่งเกี่ยวอย่างเปิดเผย  ขอโทษ จขกท ด้วยแล้วกันครับ จริงๆผมก็ไม่ได้อยู่ในสถานะที่จะมาแสดงความเห็นอะไร เพราะ ผมก็ไม่รู้จักผู้หญิงคนนั้น จขกท อาจจะรู้เบื้องหน้าเบื้องหลังมากกว่าผม เอาเป็นว่าเรื่องพวกนี้อภัยได้ก็อภัยไปเถอะครับ   อดทนซักพักเดี๋ยวเค้าคงเบื่อกันไปเอง จากคุณ : Argus เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 53 06:42:36

ความคิดเห็นที่ 27 ดีแล้วค่ะ ที่คุณไม่ตอบอะไรไป เอาเป็นว่าที่เค้าเขียนมาด่าคุณมากเท่าไรก็แสดงว่าเค้าร้อนรนมากเท่านั้นค่ะ จขกท. คุณทำเฉยเค้ายิ่งร้อนรนมากเท่านั้น ขอให้คุณใช้ความสงบ สยบความเคลื่อนไหวค่ะ คนมันมีความผิดติดตัวอยู่น่ะค่ะ ป่่านนี้คงร้อนเป็นไฟแล้วมั้ง เพราะโดยะรรมชาติของการใชั้ชีวิตครอบครัวเนี่ยแก้วที่ร้าวก็ย่กที่จะประสาน ไม่แน่นะคะ สามีของผู้หญิงคนนี้คงมีแผนอะไรอยู่ในใจ หรืออาจทำให้ผู้หญิงคนนี้ตายใจอยู่ก็ได้ แหม่ เมียถึงขั้นจะเดทกับผู้ชายคนอื่นหลักฐานก็มีคาตา มีพยานรู้เห็นขนาดนี้ หากไม่โง่หรือรักเมียจนปัญญาไม่เกิดจนเกินไป ก็คงตะขิดตะขวงใจกันอยู่ล่ะค่ะ และคนเป้นเมียก็คงรู้ตัวเองดีว่าความลับแตกดังโพล้ะ ย้ำว่าคุณไม่ต้องไปตอบโต้อะไรให้เค้าเปลี่ยนอีเมล ไปเรื่อยๆในการเขียนมาด่าว่าคุณ ดูสิว่าจะทนเขียนมาได้นานแค่ไหน และหากเกินทนเราแนะนำให้แจ้งความเพราะสมัยนี้เช็คไอพีได้ว่าใครเป็นคนส่งเข้ามาแต่เบื้องต้นให้คุณเฉย นิ่ง ไม่ต้องเปิดอ่านเมลบล็อกทุกวันจะได้ไม่เอามาเป้นอารมณ์ คนพวกนี้อย่างที่บอกว่าเค้า ร้อน รน และพยายามเบี่ยงประเด็นค่ะ หาพวกเพื่อกลบความปิดของตัวเอง แต่ขอโทษไม่มิดหรอกค่ะ คุณเฉยๆไว้นะคะ ไม่ต้องไปสนใจ ปล่อยให้ไฟเผาไหม้เค้าไปเอง จากคุณ : loveTRAVEL1977 เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 53 08:38:57