Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
หลังจากคิดได้ ติดต่อทีมงาน

(( ถึงน้องถ้ามาอ่านกระทู้พี่จะย้ายกลับมาญี่ปุ่นอีกรอบแล้วยอมเหนื่อย))
   
     หลังจากที่อยู่ญี่ปุ่นมาหลายปี ก็ต้องย้ายกลับไปไทยเพื่อปั้มเงินในไทย และคิดว่าจะกลับมาอยู่ญี่ปุ่นอีกทีตอนสัก ((อายุ 50ปี) นานจริงๆ)) เพื่อจะได้ไม่ต้องทำงานในญี่ปุ่นมาใช้เงินอย่างเดียว
 
    แต่หลังจากกลับมาญี่ปุ่นอีกหลายครั้ง แต่ครั้งนี้เที่ยวเต็มที่ ครั้งนี้มีโอกาสได้ไปดูสถานที่แหล่งให้ความรู้ต่างๆ ประกอบกับญี่ปุ่นปลอดภัยสำหรับเด็กกว่าในไทย ไม่ต้องใช้ชีวิตอยู่แต่ในรถ และไม่ต้องบ้าเรียนเหมือนไทย (คือตอนนี้ลูกเรียนอนุบาลกึ่งเล่นกึ่งเรียนบูรณาการณ์) แต่ถ้าจบอนุบาลแล้วถ้าอยากเข้า ป1 โรงเรียนดังๆ ก็ต้องเสียเงินใต้โต๊ะ(ไม่ค่อยชอบเลยความไม่ใสสะอาด ถามจากคนที่รู้จักที่เข้าโรงเรียนดังๆ จ่ายกันทุกคน) ประกอบเด็กต้องตื่นแต่เช้ามืด (รู้ๆ กันอยู่เรียนแล้วก็เรียน เรียนหนักโรงเรียนดังๆ ถ้าเรียนโรงเรียนธรรมดาก็จะมีผลแต่อนาคตแฟนไม่ยอมในความคิดผมเรียนๆ ไปเหอะอะไรก็ได้เรียนๆ ไป อิอิ แต่แฟนไม่ยอมหนะ) แต่ก็อีกญี่ปุ่นเรียนสบายมากจนต้องออกกฏหมายบังคับให้เด็กเรียนเยอะๆ หน่อยถ้าจำไม่ผิดกำลังออกมั้งในญี่ปุ่น

    ธุรกิจที่บ้านที่คนต่างชาติไม่สามารถทำได้หรือช่วยเหลือได้(อสังหาฯ)ทุกครั้งที่ต้องมีการเซ็นต์ชื่อแฟนต้องมาเซ็นต์ทุกครั้งเริ่มทำให้ไม่สะดวก     เคยคิดว่าจะเปิดบริษัทหรือจะทำอะไรให้แฟนทำในไทย(เพื่อเป็นหลักประกันหลังการตายของผม(มองการไกล ญาติตายบ่อยช่วงนี้) แต่ก็จะมีผลต่อวีซ่าภรรยา คือเท่าที่สังเกตุ คนต่างชาติ(ที่แต่งงานกับคนไทย) จะประกอบธุรกิจหรือจะเป็นเจ้าของกิจการนี้ลำบากจริง จะมีผลต่อเรื่องของวีซ่าแต่งงานเนี่ย ไม่เหมือนในทางกลับกันคนต่างชาติที่แต่งงานกับคนญี่ปุ่นถ้าเปิดบริษัทในญี่ปุ่นหรือจะเป็นเจ้าของกิจการในญี่ปุ่นง่ายโครต ไม่มีผลกระทบต่อวีซ่าแต่งงาน ไม่ต้องเปลี่ยนประเภทวีซ่า คิดแล้วยุ่งยากจริง
 
    แม่บ้านญี่ปุ่นในไทยแต่ละคนก็คิดอยากเป็นเจ้าของธุรกิจ กันบางคนก็ทำแต่กำกึ่ง (ถ้า ตม. มาก็มีเสียว) คิดแล้วเสี่ยงนิสนึง ไม่คุ้มกับชีวิต และวีซ่าไม่ได้มีไว้เพื่อเสี่ยงเรื่องนี้
   
   มาคิดๆ ดูมาลำบากทำงานในญี่ปุ่นใหม่อีกรอบดีกว่า เห็นกฏหมายในญี่ปุ่นภายใน 2 ปีต่างชาติจะสามารถมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านได้และเป็นเจ้าบ้านได้ฟังแล้วดี (แต่ก็อีกกฏหมายกำลังจะออกมาเร็วๆ นี้(เพราะคนจีน มาเล่นซื้อที่ดินญี่ปุ่นกันอย่างมหาศาลจนจะเป็นเจ้าของกว่าครึ่งประเทศแล้วมั้งอิอิ เลยจะทำให้ต่างชาติในอนาคตไม่สามารถเป็นเจ้าของที่ดินในญี่ปุ่นได้อีกแล้ว(เริ่มจะเหมือนกฏหมายไทยเลยแฮะ)  คิดว่าเร็วๆ นี้จะมีกฏหมายมาใหม่ห้ามคนต่างชาติถือครองที่ดิน แต่ไม่รู้ว่าห้ามถือครองเลย หรือจำกัดจำนวนฝากๆ กันดูนะ ใครต้องการเป็นเจ้าของที่ดินในญี่ปุ่นรีบๆ ซื้อกันได้แล้ว หรือซื้อให้เช่าก็ดีนะ อิอิ ไอเดียธุรกิจบรรเจิด แต่ถ้าบอกแฟนละก้อ คงจะบ่นอีก
   
   สรุปได้ดังนี้หลังจากที่วางแผนไว้ จะย้ายกลับมาอยู่ญี่ปุ่น(บอกแม่ไปแล้ว) เหลือแต่บิดาที่ยัง ส่วนพ่อแม่แฟนที่ญี่ปุ่นยังไม่ได้บอก ไม่กล้าบอก บอกไปคงซ๊อคเพราะทำมาแล้วครั้งนึง 55555  แต่ได้บอกน้าแฟนไปแล้วคิดว่าเดียวก็คงไปบอกเองอิอิ แอบๆ ฝากไปบอกทางอ้อมไปก่อน
   สาเหตุที่อยากอยู่ญี่ปุ่นแต่ละคนคงไม่เหมือนกัน แต่ของผม ชอบความอำนวยความสะดวกและปลอดภัย (สาวสวย) แค่มองไม่ผิดนะ แต่จริงๆ ชอบนิสัยและสังคมคนญี่ปุ่นมาก  
   
   อีกอย่างเห็นแม่บอกว่าน้องบอกเรียนจบแล้วจะกลับไทย ญี่ปุ่นไม่มีงานให้ทำ(อนิเมชั่น) คงหางานในญี่ปุ่นลำบากช่วงนี้ คนตกงานเยอะสุดๆ  พอฟังเรื่องนี้ก็เลยบอกให้แฟน พ่อแม่แฟน แถมด้วยน้า (และเพื่อนคนญี่ปุ่น) ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวว่าเป็นไปไม่ได้น้องไม่มีทางกลับไปไทยแน่นอนทุกคนบอกมาแบบนี้ ดูแล้วน้องเป็นคนมุ่งมั่น เลยไม่แน่ใจน้องแกล้งโกหกขอตังแม่อะป่าวหว่า แต่ต้องยอมรับความสามารถซึ่งผมเองคงทำไม่ได้ย้ายที่เรียนจาก โอซาก้า ไปโตเกียว เดียวตัวคนเดียว เนี่ยแจ่ม  (คือที่บ้านบิดาคนเดียวเป็นคนเลี้ยงแบบไม่ปล่อยเลยทุกคนเลยทำให้ขาดความมั่นใจ และโง่ทางมากจนถึงทุกวันนี้ดีนะที่มีเทคโนโลยี GPS เลยไปไหนได้ไม่หลงทาง 555
  อีกไม่นานคงจะต้องกลับมาเหนื่อยกาย ทำงานหนักในญี่ปุ่นเหมือนแต่ก่อนที่ทำ เพื่อจะแลกกับการอยู่ญี่ปุ่น พูดแล้วต้องจ่ายค่าประกันย้อนหลังอีก 2 ปีสาหัส ไม่รู้เพื่อนๆ ในนี้มีใครจ่ายค่าอะไรต่ออะไรกันบ้าง
 
  สรุป 2 ค่าประกันต้องจ่าย
  1 ประกันสุขภาพ เวลาไม่สบายจะได้จ่ายค่ารักษา ถูก(ก็ไม่ได้ถูกหรอก แต่ก็ถูก เหอะๆ อันนี้ต้องจ่ายสำคัญจะมีผลต่อวีซ่ากรณีคนที่ได้วีซ่าถาวรแบบเราๆ และต้องจ่ายเพิ่มตามรายได้ของเรา แต่ถ้ามีลูกก็ได้ค่าเลี้ยงดูลูกคนละ 6000 เยน จนถึงกี่ขวบจำไม่ได้ เขตผมได้ 6000 เห็นบอกจะเพิ่มให้เป็น 8000 เร็วๆ นี้ อันนี้ถ้ามีลูกเยอะก็ได้ค่าเลี้ยงดูเยอะ 555555 ไอเดียดีมะ
  2 ประกันเลี้ยงดู (อันนี้บางคนก็ไม่จ่าย คนญี่ปุ่นวัยรุ่นบางคนไม่จ่ายก็มี แต่ถ้าไม่จ่ายจะมีจดหมายจากรัฐบาลบอกจะมายึดทรัพย์ อันนี้เพื่อนของเพื่อนโดนมา เพิ่งเคยได้ยินเหมือนกัน) ประกันตัวนี้บริษัทบางแห่งที่ทำงานเค้าจะช่วยออกให้ครึ่งนึง
  อยู่ญี่ปุ่นไม่สบายเงินจริงมะ อยู่เฉยๆ อดตาย อยู่แล้วต้องทำงานเพื่อทิ้งเงินบางส่วนที่ไม่ต้องการจะทิ้ง เรื่องภาษีบ้าน ภาษีรถอีก สาหัสจริง ประกัยอัคคี ประกันแผ่นดินไหวของ(บ้าน)  นี้แหละสาเหตุที่คนญี่ปุ่นขยันทำงานเพื่อเงินจริงๆ อิอิ อีกไม่นานคงต้องกลับมาเหนื่อยกันใหม่
  กลับครั้งนี้เศรษฐกิจยังแย่เหมือนเดิมแฮะร้านค้าในห้างเจ้งกันเป็นว่าเล่น กิจการที่รู้จักต้องลดราคากันเพื่อแย้งลูกค้ากัน(ตัดราคากัน) เหมือนไทยเลยแฮะแข่งกันตัดราคา แล้วเวลาตรูกลับมาจะมีงานอะไรให้ทำ

  กลับมาคราวนี้มีข้อคิดกับเศรษฐกิจในญี่ปุ่นสำหรับผม
  1 กลับมาแบบเป็นลูกน้องกินเงินเดือน (จะหางานได้หรือป่าวหว่าคนยังคงตกงานกันเยอะ ดูจากแหล่งหางานต่างๆ คนเข้าแถวหางานกันแยะจริง

  2 กลับมาแบบเอาคนญี่ปุ่นเป็นลูกน้องตรูเอง (ที่มองๆ ไว้ก็มีแวว) แต่ไม่รู้ว่า พ่อแม่ภรรยา จะยอมหรือป่าว ด้วยความเป็นคนญี่ปุ่น ต้องการความมั่นคงให้ลูก อย่างที่รู้ๆ กันอยู่คนญี่ปุ่นชอบความมั่นคง คือเป็นลูกน้องเค้ากันส่วนใหญ่ ไม่ค่อยมีใครคิดจะเป็นเจ้าของกิจการเท่าไหร่นัก ลองสังเกตุ ดู ทุกครั้งที่พูดเรื่องธุรกิจกับแฟน จะไม่ค่อยได้รับการสนับสนุนเท่าไหร่นัก (นิสัย และวัฒนธรรมต่างกัน คนไทยชอบเป็นนายคนอื่น อันนี้ดี แต่ก็เสี่ยง) ไม่รู้เหมือนกัน อิอิ

 ข้อคิด มาเที่ยวกับมาอยู่ต่างกันจริง คนที่มาเที่ยว ก็จะไม่รู้ถึงความลำบากในประเทศนั้นๆ ก็เลยอยากมาอยู่ ส่วนคนที่อยู่(ที่ต้องทำงาน เหนื่อยหวะ)

จากคุณ : OSAKA_BOY
เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 53 11:14:40




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com