ความคิดเห็นที่ 1 ความจริงเป็นอย่างไรผมไม่ทราบ แต่ถ้าไม่มีหลักฐานอื่นมาหักล้างก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะไปคิดว่าฝรั่งจะใส่ไข่ไม่เป็น อีกอย่างหนึ่ง ผมค่อนข้างจะเป็นคนขี้ลืมโดยเฉพาะเรื่องที่ติดลบ ฝ่ายที่คิดทำลายก็พยามยามหาเรื่องสารพัดตลอดมา ตลอดไป จริงบ้างเท็จบ้าง ไม่มีวันจบสิ้น ถ้าจขกทเจอหนังสือที่ว่าผมขอทราบชื่อด้วยคนนะครับ จากคุณ : อิสวาสุ เขียนเมื่อ : 29 ต.ค. 53 16:43:20 A:71.114.75.107 X: TicketID:105627

ความคิดเห็นที่ 2 ฝรั่งที่ว่า คงไม่ใช่แหม่มแอนนา เลียวโนเวนส์ กระมัง   แต่เห็นด้วยว่าการอ่านประวัติศาสตร์ไทยที่เขียนโดยฝรั่งก็จะได้มุมมองเพิ่มเติม สมาชิกคณะปฏิวัติ   ส่วนใหญ่ถ้าไม่เสียชีวิตก่อนวัยอันควรก็ต้องไปใช้ชีวิตในต่างประเทศจนถึงบั้นปลายชีวิต  บางคนไม่ได้ไปเสียชีวิตที่ต่างประเทศแต่ถูกรถชนตายก็มี อันนี้ไว้ชมคลิป สมาชิกท่านหนึ่งในซีกนักเรียนนอก ผู้มีบทบาทสูงในคณะปฏิวัติ http://atcloud.com/stories/54094 หนังสือต้องรอท่านอื่นที่รู้ด้านประวัติศาสตร์ ช่วยกันจุดธูปเรียก ^^ ปล 1) เพิ่งได้ชมละคร มาลัยสามชายเมื่อคืน ผ่าน TGN กล่าวถึงฝ่ายเจ้า (เจ้าฟ้ากรมพระนครสวรรค์ฯ) ที่ต้องลี้ภัยจากคณะปฏิวัติไปใช้ชีวิตที่เมืองบันดุง อินโดนีเซีย และมิได้กลับมาไทยอีกเลย   พื้นเรืองของละครนี้น่าสนใจทีเดียว 2) ไปตั้งลิงค์ ในห้องสมุดให้แล้วนะครับ http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K9860490/K9860490.html ถึงคุณข้างล่าง แหม่มแก ไม่เกี่ยวกับละครหรอกครับ แต่เป็นตัวอย่างของการบันทึกประวัติศาสตร์ตามอำเภอใจ  พูดง่ายๆ แกใส่สีตีไข่เยอะ แก้ไขเมื่อ 30 ต.ค. 53 00:18:44 แก้ไขเมื่อ 29 ต.ค. 53 23:06:54 แก้ไขเมื่อ 29 ต.ค. 53 23:02:38 แก้ไขเมื่อ 29 ต.ค. 53 23:01:14 แก้ไขเมื่อ 29 ต.ค. 53 22:22:17 แก้ไขเมื่อ 29 ต.ค. 53 17:16:55 แก้ไขเมื่อ 29 ต.ค. 53 17:14:04 จากคุณ : Ter @ AFC เขียนเมื่อ : 29 ต.ค. 53 16:49:04

ความคิดเห็นที่ 3 ไม่จำเป็นต้องเป็นฝรั้ง ใครก็ได้ หากเขาใช้วิธีการหาความรู้ความจริง ตามขั้นตอนทางวิทยาศาสตร์ เช่น มีสมมุติฐาน เก็บข้อมูล วิเคราะห์ข้อมูล ฯลฯ ข้อสรุปที่ได้ ย่อมถูกต้องและน่าเชื่อถือกว่า แก้ไขเมื่อ 29 ต.ค. 53 18:38:02 จากคุณ : newcomer (gpvtu2009) เขียนเมื่อ : 29 ต.ค. 53 17:00:31

ความคิดเห็นที่ 5 คิดว่าที่ให้อ่านจากของฝรั่ง คงเพราะไม่ได้เป็นผู้มีส่วนได้เสีย ก็เหมือนกับเป็นคนกลาง ขณะที่ในไทย ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องมีอคติกันบ้าง ทั้งฝ่ายโปร หรือฝ่ายแอนตี้ แต่ก็ใช่ว่าฝรั่งจะไม่มีอคติใส่เข้าไปเลย ต้องดูปูมหลังผู้บันทึกด้วย อีกอย่าง คงเพราะฝรั่งสามารถเขียนอะไรที่คนไทยเขียนไม่ได้หลายๆอย่าง เอาง่ายๆ คุณคิดว่าจะหาบันทึก หรือข่าวที่ด่าคิม จอง อิล ในประเทศเกาหลีเหนือได้หรือเปล่า ป.ล. ไม่ทราบว่าแหม่มแอนนา เกี่ยวอะไรกับเรื่องนี้ด้วยหรือครับ พอดีผมไม่ได้ดูละครมาลัยสามชายเสียด้วย มีพาดพิงด้วยหรือ? จากคุณ : masked v เขียนเมื่อ : 29 ต.ค. 53 21:34:10

ความคิดเห็นที่ 6 จะฝรั่งหรือไทยก็มีอคติด้วยกันทั้งนั้น       เจ้าอาณานิคมทุกวันนี้ก็ยังบอกว่าเข้าไปปลดปล่อยประเทศในเอเชียและแอฟริกาให้ได้พบกับแสงสว่างแห่งวิทยาการ (โดยยึดมาเป็นอาณานิคมของตน) อเมริกาส่งเรือรบไปบังคับญี่ปุ่นเปิดประเทศ    แต่บันทึกว่าเป็นการไปขอเปิดความสัมพันธ์อย่างสันติ เจอฝรั่งอย่างปาวีเข้าไทยก็หงายหลัง      ไทยมีบุญคุณกับปาวี    แต่ปาวีตอบแทนบุญคุณด้วยการทำให้ไทยเกือบหมดตัวในรศ.112      แล้วก็บันทึกว่าปาวีเป็นผู้ปลดปล่อยลาว     สร้างอนุสาวรีย์เยี่ยงวีรบุรุษ สมัยสงครามโลก   มัมมี่อียิปต์จำนวนมาก   ถูกกองทัพอังกฤษเอาไปทำเชื้อเพลิงให้รถไฟ มาร์โคโปโลเคยบันทึกไว้ว่าที่จีนในพระราชวังหลวง    ปูพื้นด้วยทองคำแท้ๆทั้งวัง   (มันคงเป็นไปได้หรอกนะ) Believe it or not   เคยบันทึกไว้ว่ารัชกาลที่5ของไทย    มีภรรยาเป็นร้อย     และมีโอรส-ธิดาร่วมพันกว่าองค์ สงครามเวียดนามและสงครามเกาหลี    อเมริกาฆ่าพลเมืองที่ไม่มีความผิดไปจำนวนมาก   เพราะเชื่อว่ามีความเกี่ยวข้องกับศัตรู   และไม่เปิดเผยต่อภายนอก   ยังไม่นับ Anna and the King of Siam อีกนะ แก้ไขเมื่อ 29 ต.ค. 53 21:54:49 จากคุณ : zodiac28 เขียนเมื่อ : 29 ต.ค. 53 21:48:34

ความคิดเห็นที่ 7 ก็ถึงบอกว่าต้องดูปูมประวัติผู้บันทึกเสียหน่อย ฝรั่งบางคนก็จดบันทึกด้วยความมุ่งหมายทางการเมือง  อย่างเรื่องที่ว่าประเทศในเอเชียมีทองคำมาก ก็เพื่อจะให้นายทุนคล้อยตาม ออกทุนในการสำรวจ แต่ที่ต่างกับบันทึกในเมืองไทยก็คือ ฝรั่งมีนักบันทึกอิสระมากกว่า จึงพอจะหาที่เป็นความจริงได้บ้าง ขณะที่ของไทย ผู้บันทึกมีแต่ข้าราชสำนักเป็นส่วนใหญ่ อย่างที่เรียกว่าพงศาวดารนั่นแหละ คือมีแต่เรื่องราวของวงศ์อวตาร ทั้งนี้ก็ต้องพึ่งวินิจฉัยผู้อ่านด้วย บางทีหอเอน เรากลับบอกว่าตรง หอตรง เรากลับบอกว่าเอน อีแบบนี้ไม่รู้จะโทษใคร จากคุณ : masked v เขียนเมื่อ : 29 ต.ค. 53 21:56:53

ความคิดเห็นที่ 8 แค่ไม่ใช่คนไทยเขียนเป็นพอค่ะ ไม่ใช่เพราะต่างชาติฉลาดกว่า ที่เราเรียนมาคนไม่ว่าจะชาติไหนเวลาเขียนเรื่องเกี่ยวกับ ชาติ ศาสนา และเรื่องที่เกี่ยวข้องของตัวเองก็จะไม่มีความเที่ยงตรงทั้งนั้นหละค่ะ แต่ละคนก็จะมีความคิดเข้าข้างตัวเอง อย่างสมมติเขียนเรื่องชาติไทยก็จะไม่ค่อยเขียนเรื่องไม่ดี แต่คนชาติอื่นที่ไม่ได้มีความสัมพันธ์ หรือ ความรู้สึกส่วนตัวกับเรื่องที่เขียนเห็นอะไรก็จะเขียนไปอย่างนั้นหนะค่ะ   อาจารย์บอกว่าถ้าอยากอ่านประวัติศาสตร์ชาติไทยแบบสบายใจก็ให้อ่านจากนักเขียนคนไทย ถ้าอยากได้ความเที่ยงตรงให้อ่านของคนชาติอื่นค่ะ :) จากคุณ : หนูฟั่นเฟือน เขียนเมื่อ : 29 ต.ค. 53 22:20:53

ความคิดเห็นที่ 9 เจอ 2 เล่มค่อนข้างเป็นอัตชีวประวัติ แต่อ่านแล้วก็พอรู้เรื่องได้คร่าวๆ ปรีดี พนมยงค์ รัฐบุรุษผู้อภิวัฒน์   ผู้เขียน ดร.อนุสรณ์ ธรรมใจ ร้านหนังสือ SE-ED ราคา ประมาณ 200 บาท ชีวิตพระยาทรงฯในต่างแดน ผู้เขียน สำรวจ กาญจนสิทธิ์ (ท.ส.พระยาทรงฯ) สำนักพิมพ์บงกช หนังสือเก่า ไม่ทราบราคา จากคุณ : Ter @ AFC เขียนเมื่อ : 29 ต.ค. 53 22:51:38

ความคิดเห็นที่ 10 ไปเจอ คนตั้งกระทู้ถาม หนังสือเรื่อง มาลัยสามชายพอดี ในห้องสมุด http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K9852134/K9852134.html หนังสือ - ละครแนวอิงประวัติศาสตร์ อื่นๆ - สี่แผ่นดิน มรว คึกฤทธิ์ - สองฝั่งคลอง ว.วินิจฉัยกุล # ผมช่วยหาหนังสือให้คุณอิสวาสุไปด้วยเลย  แต่ผมเชื่อว่าสมาชิกหลายท่านทราบประวัติศาสตร์ไทยช่วงนี้ดีอยู่แล้ว โดยไม่ต้องพึ่งละครหรือหนังสือเลยนะครับ แก้ไขเมื่อ 29 ต.ค. 53 23:53:24 แก้ไขเมื่อ 29 ต.ค. 53 23:13:04 จากคุณ : Ter @ AFC เขียนเมื่อ : 29 ต.ค. 53 23:04:45

ความคิดเห็นที่ 11 เป็นไปได้นะคะที่ฝรั่งจะเขียนประวัติศาสตร์ไทยได้เที่ยงตรงกว่าคนไทย เพราะ ๑. มีโอกาสค้นคว้าหลักฐานที่บันทึกเป็นภาษาต่างประเทศ และเก็บไว้ตามหอเอกสารในประเทศต่างๆ ได้มากกว่าคนไทย บางทีหลักฐานพวกนี้บันทึกด้วยความเป็นกลาง ด้วยสายตาของคนภายนอก ทำให้มองเห็นในหลายเเง่มุมที่คนไทยในสมัยนั้นมองไม่เห็น ๒. ฝรั่งหลายๆ ท่านที่เขียน เขียนจากมุมมองของบุคคลภายนอกที่ไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียในประวัติศาสตร์ รวมทั้งวิเคราะห์ประวัติศาสตร์ไทยจากแง่มุมของประเทศอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องด้วย เช่น พม่่า เขมร หรือ ลาว ๓. เราต้องยอมรับค่ะว่า นักประวัติศาสตร์ไทยไม่สามารถเขียนประวัติศาสตร์ในบางแง่มุมได้ เช่น กรณีพาดพิงถึงพระราชวงศ์ หรือ บุคคลที่มีอิทธิพลในสังคม ๔. หายากค่ะ ที่นักประวัติศาสตร์ไทยจะไม่เขียนเข้าข้าง และยกย่องประเทศตนเอง หรือ พูดง่ายๆ คือ เชียนโดยปราศจากอคติ ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ไม่จำเป็นเสมอไปค่ะว่า ฝรั่งจะเขียนได้เที่ยงตรงกว่าคนไทย มันขึ้นกับองค์ประกอบอื่นๆ ด้วย เช่น ความทุ่มเทในการค้นคว้าเอกสารของผู้เขียน บุคลิกลักษณะ และใจที่เป็นกลางของผู้เขียน ดังนั้นวิธีที่ดีที่สุดในการศึกษาประวัติศาสตร์คือ อ่านมันทั้งที่คนไทย พม่า กัมพูชา และฝรั่งชาติอื่นๆ เขียน จะได้ครบทุกแง่มุม จากคุณ : หนูเอ๋อ เขียนเมื่อ : 30 ต.ค. 53 00:35:46

ความคิดเห็นที่ 12 ชอบระทู้นี้จังเลย แถมมีลิงค์ไปยังกระทู้อื่นให้ได้อ่านด้วย ได้รู้อะไรเพิ่มขึ้น กลับบ้านคราวหน้า จะไปหาที่ท่านข้างบนแนะนำ มาอ่านบ้าง จากคุณ : Arisa เขียนเมื่อ : 30 ต.ค. 53 00:54:27 A:86.174.197.156 X: TicketID:139841

ความคิดเห็นที่ 13 ถ้าของฝรั่งเขียน ที่ผมเคยอ่าน แล้วคิดว่าใช้ได้ ก็คือ อวสานสมบูรณาญาสิทธิราชย์ในสยาม, เบนจามิน เอ บัทสัน The end of the absolute monarchy in Siam, Benjamin A. Batson แปลและเรียบเรียงโดย พรรณงาม เง่าธรรมสาร, สดใส ขันติวรพงศ์, ศศิธร รัชนี ณ อยุธยา  จากคุณ : เจ้าคุณแม่ทัพ เขียนเมื่อ : 30 ต.ค. 53 01:42:44

ความคิดเห็นที่ 14 ส่วนของคนไทย ที่เคยอ่านแล้วคิดว่าดี เท่าที่นึกออกตอนนี้ ปฏิวัติ 2475, ชาญวิทย์ เกษตรศิริ 1932 Revolution in Siam, Charnvit Kasetsiri ประวัติการเมืองไทยสยาม พ.ศ. 2475 - 2500, ชาญวิทย์ เกษตรศิริ A political history of Thailand-Siam, 1932-1957, Charnvit Kasetsiri การปฏิวัติสยาม พ.ศ. 2475, นครินทร์ เมฆไตรรัตน์ นอกจากนั้น สิ่งที่ข้าพเจ้าพบเห็น (ทั้งสองภาค) ของ หม่อมเจ้าพูนพิศมัย ดิศกุล พ.๒๗ สายลับพระปกเกล้า โดย อ.ก. รุ่งแสง (พโยม โรจนวิภาต) ก็ให้มุมมองของฝ่าย Royalist ได้ดี มีข้อมูลผ่านบันทึกความทรงจำ (ซึ่งอาจมีผิดพลาดบ้าง) จากคุณ : เจ้าคุณแม่ทัพ เขียนเมื่อ : 30 ต.ค. 53 02:05:59

ความคิดเห็นที่ 15 ลิงก์นี้ มีแนะนำหนังสือ น่าสนใจหลายเล่มครับ http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K7756259/K7756259.html จากคุณ : เจ้าคุณแม่ทัพ เขียนเมื่อ : 30 ต.ค. 53 02:07:10

ความคิดเห็นที่ 16 Siam's political future : documents from the end of the absolute monarchy by Batson, Benjamin A. (1974) http://seapdatapapers.library.cornell.edu/s/seap/browse_geo/thai.html เรื่องง่ายๆที่ว่าทำไมหาอ่านของฝรั่งมีแนวโน้มที่จะเที่ยงตรงกว่า เพราะว่าเขามีข้อจำกัดน้อยกว่า แต่จริงๆจะอ่านของไทยหรือฝรั่งก็ได้ถ้ามีข้อมูลหลักฐานที่น่าเชื่อถือ ในทางกลับกันจะไทยเขียนหรือฝรั่งเขียนก็ไม่น่าเชื่อถือถ้าไม่มีข้อมูลหลักฐานมายืนยัน จากคุณ : Nexus เขียนเมื่อ : 30 ต.ค. 53 04:41:00

ความคิดเห็นที่ 17 จะลองหาเล่มที่ฝรั่งเขียนมาอ่านดู ส่วนเล่มภาษาไทย คงต้องรอกลับไปเมืองไทยปีหน้าค่ะ เคยได้ยินว่า พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่เจ็ดจะพระราชทานรัฐธรรมนูญอยู่แล้ว ยังสงสัยว่าทำไมถึงยังต้องมีการก่อการอีก ขอขอบคุณทุกความเห็นอีกครั้งค่ะ จากคุณ : จขกท เขียนเมื่อ : 30 ต.ค. 53 04:56:54 A:110.32.84.250 X: TicketID:188044

ความคิดเห็นที่ 18 ต้องให้ชัดก่อนว่าประวัติศาสตร์ช่วงไหน?? ถ้าเป็นช่วงไล่ตั้งแต่ก่อตั้งอาณาจักรใหม่ๆ ไล่ตั้งแต่สุโขทัยลงมาตอนต้นรัตนโกสินทร์  เหตุการณ์ส่วนใหญ่จะถูกบันทึกในภายหลังในรูปพงศาวดาร   พงศาวดารเหล่านี้จะเป็นแหล่งอ้างอิงของแต่ละคนเขียนไม่ว่าจะเทศหรือไทย    ก็มีบ้างบางช่วงบางเหตุการณ์ที่มีการบันทึกในเหตุการณ์และใกล้เคียงกับเหตุการณ์จริง  เช่นบันทึกหรือจดหมายเหตุของลาลูแบร์   แต่ถ้าเป็นช่วงรัตนโกสินทร์ตอนกลางลงมาถึงปัจจุบัน   ก็มีการบันทึกไว้ในรูปพงศาวดารบ้าง  ในรูปจดหมายเหตุบ้าง    ที่สำคัญคือเจ้าหน้าที่สถานทูตจากประเทศใหญ่ๆ อย่างอังกฤษหรืออเมริการ  ฝรั่งเศส   เขาจะบันทึกเหตุการณ์บ้านเมืองไว้(แทบ)จะทุกวัน    เท่าที่ทราบมาเขาจะบันทึกแบบไม่เข้าข้างฝ่ายใหน   ถ้าจำไม่ผิดนะ  เขามีกฏว่าเขาจะเก็บบันทึกเหล่านี้ไว้ในระยะหนึ่ง(ห้าสิบปีหรือร้อยปีนี่แหละ)ถึงจะสามารถนำมาเปิดเผยถ้า(ถ้าหากมีการขอมา) ประวัติศาสตร์ก็คือศาสตร์ที่ว่าด้วยประวัติ( เรื่องราวว่าด้วยความเป็นไปของคน สถานที่ หรือสิ่งใดสิ่งหนึ่ง)  คือเป็นเหตุการณ์ที่ผ่านมาที่เราพยายามที่จะ "ประหวัด"(หวนระลึกกลับไปหา)ด้วยศาสตร์และตรรกะ    และบางที "ศาสตร์" และ "ตรรกะ" ที่ว่านี้มักจะถูกปัดให้ตกไปเมื่อต้องมีการยกอ้างเรื่องบุญญาธิการของผู้นำชุมชน  ผู้นำอาณาจักร   พระมหากษัตริย์    ประวัติศาสตร์ในลักษณ์ที่มีศาสตร์และตรรกะที่บางเบาเช่นมีให้เห็นไม่น้อยในหนังสือประวัติศาสตร์ไทยที่เขียนโดยคนไทย     บางทีบุคคลิกลักษณะของผู้มีบุญญาธิการก็ขัดแย้งกับพฤติกรรมในประวัติศาสตร์    อย่างเช่นกรณีพ่อขุนรามคำแหงไปลอบเป็นชู้กับพระมเหสีของพระยางำเมืองแห่งเมืองพะเยาว์    ประวัติศาสตร์ช่วงนี้ไม่มีตำราประวัติศาสตร์ไทยคงจะเป็นเพราะรักษาภาพพจน์ "ผุ้มีบุญญาธิการ" อย่างพ่อขุนรามฯ ก็เป็นได้   แต่พงศาวดารทางเหนือเขามีบันทึกไว้   ตำราประวัติศาสตร์ไทยทีเขียนโดยฝรั่งก็ไม่เคอะเขินที่จะเขียนไว้ให้ท่านผู้อ่านได้รับรู้(ส่วนจะเท็จจริง  เชื่อหรือไม่เชื่อก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง)   เสน่ห์ของประวัติศาสตร์ไทยที่เขียนโดยฝรั่งก็อยู่ตรงนี้    ไม่ได้อยู่ที่ว่าตรงกว่าหรือไม่ตรงกว่า     อยู่ตรงที่ว่ากล้าเขียนกว่า!! (จากแหล่งข้อมูลเดียวกัน) อาจารย์นิธิ   เอี่ยวศรีวงศ์เคยกว่าไว้ว่า    หนังสือประวัติศาสตร์และตำราประวัติศาสตร์ไทยที่เราๆ ท่านๆ อ่านอยู่นี้    ล้วนผ่านการ "ชำระ" มาเรียบร้อยแล้วโดยบิดาแห่งประวัติศาสตร์ไทยคือสมเด็จกรมพระยาดำรงฯ     ส่วนฉบับที่ยัง "สกปรก" อยู่ก็เก็บไว้ในกรุ     พงศาวดารบางฉบับบางรัชสมัยก็เขียนโดยคนในรัชสมัยนั้น   มีข้อขัดแย้งกันอย่างเห็นได้ชัด   พงศาวดารในรัชสมัยพระเจ้ากรุงธนบุรีก็กล่าวถึงความเหลวแหลกของรัชสมัยรัชกาลก่อนคือพระเจ้าเอกทัศน์    ต่อมาพงศาวดารในรัชสมัยรัชกาลที่หนึ่งก็กล่าวถึงความโหดร้ายและสติฟั่นเฟือนของพระเจ้ากรุงธนบุรี   คือในแต่ละยุคแต่ละสมัยก็จะมี "อาลักษณ์" ของตัวเองเขียนประวัติศาสตร์เพื่อสนับสนุนและรองรับความชอบธรรมในการขึ้นครองราชย์ของตัวเอง    ที่พูดเช่นนี้ก็เพราะว่าประวัติศาสตร์ไทยส่วนใหญ่ก็มักจะวนๆ เวียนๆ เรื่องราวในราชสำนักเสียส่วนใหญ่    พูดง่ายๆ ก็คือ  ผู้ชนะคือผู้เขียนประวัติศาสตร์(ไทย) ตอบเจ้าของกระทู้ว่าควรจะอ่านหนังสือของใคร?    ผมว่าควรอ่านให้มากเท่าที่จะอ่านได้ครับ   แล้วประมวลหาบทสรุปให้ตัวเองว่าจะเชื่อใครดี   ยิ่งโดยเฉพาะเหตุการณ์ช่วงรัชสมัยรัชกาลที่เจ็ด   มีเกร็ดประวัติศาสตร์เยอะมากทั้งฝ่ายเจ้าและฝ่ายคณะราษฏร   ประวัติศาสตร์ช่วงนี้ผมก็อ่านมาเยอะพอสมควร   ทั้งฝ่ายเจ้าและฝ่ายคณะราษฏร    อ่านมามากจนผมเองก็อยากจะเขียนประวัติศาสตร์ช่วงนี้ออกวางตลาดบ้าง (อิ อิ อิ)     พ.๒๗ สายลับพระปกเกล้า โดย อ.ก. รุ่งแสง (พโยม โรจนวิภาต)   ก็น่าอ่าน  หรือ "พลิกแผ่นดิน" ก็น่าอ่าน    แต่ที่แน่ๆ....ตำราประวัติศาสตร์ไทยยังตลบอ่วนไปด้วยกลิ่นไอแห่งความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมาหากษัตริย์อยู่มาก   มากจนบางครั้งผมรู้สึกว่ามันกลบ "ศาสตร์" และ "ตรรกะ" ที่ควรจะเป็นไปอย่างน่าเสียดาย จากคุณ : วัชรานนท์ เขียนเมื่อ : 30 ต.ค. 53 05:34:59

ความคิดเห็นที่ 19 >>>เคยได้ยินว่า พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่เจ็ดจะพระราชทานรัฐธรรมนูญอยู่แล้ว ยังสงสัยว่าทำไมถึงยังต้องมีการก่อการอีก เขาประชุมกันตั้งแต่อยู่กรุงปารีสแล้วครับเรื่องนี้ การก่อการฯ ก็มีการปูทางไว้มาตั้งแต่รัชกาลที่หก   ลองไปหาอ่าน "กบฏนายร้อย" รศ 130 ดู ส่วนการแนะนำให้มีประชาธิปไตยก็มีมาตั้งแต่รัชกาลที่ห้า    คนที่บังอาจแนะนำก็ต้องลี้ภัยการเมืองหนีไปบวชที่ศรีลังกาหลายสิบปี(ดูประวัติศาสตร์  พระองค์เจ้าปฤษฏางค์) สงสารก็แต่รัชกาลที่เจ็ดนี่แหละครับ   อะไรต่อมิอะไรมาสุกงอมเอาตรงที่พระองค์   ทั้งๆ ที่พระองค์ก็ไม่ได้เตรียมตัวเตรียมใจล่วงหน้าจะขึ้นครองราชย์   พระเชษฐาที่จะครองราชย์ตามกฏสันตติวงศ์ก็สิ้นชีพไล่ๆ กันถึงสามพระองค์    กระแส"เบื่อเจ้า" ก็แรง   เงินในท้องพระคลังก็ร่อยหรอ  ซ้ำพระองค์ยังมาถูกราษฏรฟ้องร้อง   พระพี่สะใภ้ก็ฟ้องร้องอีก   ช่างอาภัพจริงๆ .... จากคุณ : วัชรานนท์ เขียนเมื่อ : 30 ต.ค. 53 05:55:50

ความคิดเห็นที่ 20 อ่านชีวิตเหมือนฝันของคุณหญิงมณี รวมด้วย ก็จะได้รู้ความเป็นอยู่ของพระองค์ที่อังกฤษ เเล้วต้องอ่าน เกิดวังปารุสก์ ของพระองค์เจ้าจุล มาคานกัน อ่าน สิ่งที่ข้าพเจ้าพบเห็น ของท่านหญิงพูน แล้วตามด้วย อวสานสมบูรณาญาสิทธิราชย์ในสยาม, เบนจามิน เอ บัทสัน ตาม คคห. ๑๓  ขอบคุณลิงค์ที่มีประโยชน์ด้วยค่ะ แก้ไขเมื่อ 30 ต.ค. 53 07:09:53 จากคุณ : mrs.night owl เขียนเมื่อ : 30 ต.ค. 53 07:07:32

ความคิดเห็นที่ 22 มีคนตอบลิ้งค์ที่ผมตั้งในห้องสมุดแล้ว  จขกทไปอ่านดูตามลิงค์ที่ คห#1 ในห้องสมุดให้ไว้ก็จะทราบ  (ผมไปอ่านมาลวกๆ น่าจะตรงตามต้องการ) - ชะตากรรมของผู้ก่อการคณะราษฎร์  - เอน็จอนาจทั้งสิ้น - รัฐธรรมนูญที่รัชกาลที่ 7 มีดำริไว้ - ไม่ใช่สิ่งที่คณะราษฎร์ต้องการ แก้ไขเมื่อ 30 ต.ค. 53 12:39:09 จากคุณ : Ter @ AFC เขียนเมื่อ : 30 ต.ค. 53 12:30:11

ความคิดเห็นที่ 23 ขอขอบคุณทุกท่านอีกครั้งค่ะ โดยเฉพาะคุณ Ter @ AFC ที่กรุณาไปตั้งกระทู้ไว้ให้ ได้ตามไปอ่านแล้วค่ะ ได้รายชื่อหนังสือที่น่าอ่านมากมาย กลับไปเมืองไทยคราวหน้า ต้องไปตะลุยหาซื้อ คุณวัชรานนท์ ความรู้แน่นมาก อ่านแล้วได้ความรู้เพิ่มขึ้นเลย ขอบคุณมากค่ะ จากคุณ : จขกท เขียนเมื่อ : 30 ต.ค. 53 15:55:54 A:58.110.124.168 X: TicketID:188044

ความคิดเห็นที่ 24 ชอบทู้นี้ค่ะ จากคุณ : PatPDX เขียนเมื่อ : วันฮาโลวีน 53 01:46:21

ความคิดเห็นที่ 25 “History is written by the victors.” - Winston Churchill จากคุณ : Genuine XXX เขียนเมื่อ : วันฮาโลวีน 53 13:32:25

ความคิดเห็นที่ 26 การอ่านหนังสือประวัติศาสตร์แล้วไม่เข้าใจคำว่า ประวัติศาสตร์สู้อย่าอ่านดีกว่านะคะ 1. ไม่ว่าจะของไทยของเทศไม่มีคำว่าเที่ยงตรงกว่าหรอกค่ะ ถ้าหาอ่านแบบสาเหตุ การวิพากวิจารณ์ ฝ่ายไหนทำถูกไม่ถูกต้อง อย่างที่คุณ: Genuine XXX เขียนอ่ะค่ะ“History is written by the victors.” และโลกนี้ไม่มีคำว่าผิดหรือถูกทั้งหมด ถ้าจะเอาคำว่าเที่ยงตรงก็ควรไปอ่านแบบ timelineค่ะ ไม่มีการเสริมแต่ง วันไหนใครทำอะไร ถ้าเลขไม่ตรงกับความจริงนั่นแสดงว่าไม่เที่ยงตรงค่ะ 2. สิ่งที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอในประวัติศาสตร์ คือสงคราม และหลักการทำสงครามคือ "รอให้ฟ้าพร้อมและสวรรค์ส่ง"แต่ในความเป็นจริง ฟ้าและสวรรค์ไม่มีทางที่จะบังเอิญขนาดทำให้เกิดโชคแก่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งได้หรอกค่ะ เพราะ ฟ้าคือประชาชน และสวรรค์คือโอกาส เมื่อเราต้องการชนะ เราก็ต้องทำให้มวลชนคิดเหมือนเรา มองเหมือนเรา แล้วโอกาสจึงจะเกิด การทำสงครามทุกครั้ง ต้องหาเหตุผลที่เป็นธรรมเพื่อรองรับการกระทำของตัวเองทั้งนั้น ไม่อย่างนั้นประชาชนก็ไม่เข้าข้าง 3. และก็ไม่จริงนะคะที่ว่าไม่มีจดหมายหรือเอกสารที่วิพากว่าฝ่ายเจ้า คนที่บอกนี่ไม่มีความรู้ และไม่ใฝ่หาค่ะ ตอนเราเรียนวิชาการเมืองปีหนึ่ง เอกสารที่ได้อ่านหลายฉบับมาจากฝ่ายราษฎร์ที่มีการบอกเหตุผลว่าทำไมต้องทำการเปลี่ยนแปลงระบบการปกครอง ซึ่งบางครั้งก็ใช้ถ้อยคำที่อาจฟังดูรุนแรง (ข้อความในนั้น จริงหรือไม่จริงไม่รู้ แต่อ่านแล้วสะเทือนใจ) แต่การอ่านเอกสารพวกนี้แล้วเอาอารมณ์ไปใส่ เราก็เป็นพวกที่ไม่สมควรเรียกตนว่าเป็นผู้อ่านที่ใช้วิจารณญาณค่ะ เพราะเอกสารพวกนี้ไม่ว่าจะจากฝ่ายไหนก็ต้องเขียนให้ธรรมเข้าข้างตนอยู่แล้วอย่างที่บอกด้านบน 3. การอ่านประวัติศาสตร์ไทยในมุมมองต่างชาติเราก็จะได้เห็นในมุมมองต่างชาติค่ะ อ่านของไทยก็ได้มุมมองของคนนั้น ปากกาที่เค้าใช้เขียนมันถูกขับเคลื่อนด้วยความเชื่อของนักเขียนเอง และการสืบหาหลักฐานที่มาสนับสนุนความเชื่อของตนค่ะ วิธีการแบบนี้เราไม่ได้บอกว่าไม่ดีนะคะ มันก็เป็นวิธีการอย่างหนึ่งที่ทำให้เกิดคำว่าวิทยาศาสตร์ขึ้นมาบนโลกนี้ แต่เดี๋ยวนี้เข้าใช้วิธีQuantitative method กันในวงการวิชาการแล้วค่ะ วิธีการเก่าๆไม่สามารถเอามาตีพิมพ์ในวงการวิชาการระดับโลกได้ และนั่นก็เป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้นักประวัติศาสตร์ไม่ได้รับการยอมรับอย่างแท้จริงโดยไม่มีการคัดค้าน 4. คนไทยเราไม่เคยจ่ายค่าประชาธิปไตยอย่างเต็มราคาเลย เราเรียกร้องหลายสิ่งหลายอย่างจากประเทศนี้แต่เราไม่เคยจ่ายราคาเต็ม ดูอย่างคนดำ(เราใช้คำนี้เพราะเค้าคือคนดำ ไม่ใช่แอฟริกัน อเมริกัน ไม่เชื่อเดินเข้าไปถามเค้าเลยว่าเค้าเป็นใคร)จากก่อนที่เป็นทาส ถ้าหากต้องการเป็น"people"ในสังคมอเมริกาในยุดอับบราฮัม ลินคอร์น เค้าก็ต้องไปร่วมสู้รบด้วย ราคาที่เค้าจ่ายคือชีวิตของเค้า และสิ่งที่เค้าได้คือลูกหลานของเค้าสามารถกล่าวได้อย่างเต็มภาคภูมิ "We, the people of Arica" พอมองไทย เองเคยจ่ายค่าประชาธิปไตยด้วยชีวิตมั๊ย ตายเพียงไม่กี่คนคุณจะเรียกร้องประชาธิปไตยเต็มขั้น (เราไม่ได้บอกว่าชีวิตคนเพียงคนเดียวไม่สำคัญนะคะ แต่มันจะสำคัญก็ต่อเมื่อคนไทยทุกคนตระหนักว่ามันสำคัญ) 5. สุดท้ายนี้ก่อนจะไปหาหนังสือ"ประวัติศาสตร์ไทย"ที่เขียนโดยคนต่างประเทศมาอ่าน ช่วยกลับไปอ่านหนังสือภาษาไทยตอนมัธยมที่เป็นจดหมายระหว่างรัชกาลที่ 5 และพระยาดำรงราชานุภาพมาอ่านด้วยค่ะ แล้วจะรู้ว่าไม่ว่าใครถูกหรือใครผิด ประเทศนี้แม้ไม่เคยจ่ายอะไรเต็มราคาแต่เราก็คือประเทศที่ไม่ควรลืมความภาคภูมิของตนเองค่ะ จากคุณ : pap เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 53 00:44:13 A:78.109.180.237 X: TicketID:293018

ความคิดเห็นที่ 27 ผมว่าประชาชนไทยจ่ายมามากพอแล้วนะ จะเก็บดอกเบี้ยกันไปถึงไหน หรือว่าเก็บดอกแบบนอกระบบ จากคุณ : Nexus เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 53 02:06:24

ความคิดเห็นที่ 28 ฝรั่งสมัยก่อนเป็นพวกล่าอาณานิคมนะคะ มันจะเขียนเที่ยงตรงได้ไง ขนาดแผนที่รอบปราสาทเขาวิหาร ทุกวันนี้ยังจะตีกันอยู่กับเพื่อนบ้าน ก็ไม่ใช่เพราะแผนที่ฝรั่งที่มันมั่วเหรอคะ จากคุณ : วิหคลม เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 53 00:03:03