ภาษาญี่ปุ่นเขาเรียกว่า Muki Ebi หรือตามที่แปลความหมายจากคำอธิบายของลุงว่า กุ้งปลอกเปลือก
ที่ว่าเพิ่งรู้ก็เพราะว่า ป้าเป็นคนที่ชอบทานกุ้งแช่น้ำปลา สมัยก่อนซื้อกุ้งจากตลาดมา ก็เอามาแกะเปลือก แล้วทำกุ้งแช่น้ำปลา
กลับมาบ้าน แกะเปลือกทำการเรียงกุ้งเข้าตู้เย็น ราดน้ำปลา ได้เวลานำกุ้งออกมาจากตู้เย็น โรยน้ำจิ้มพริกตำเผ็ดๆ
กำลังเตรียมจะเข้าปาก พอดีลุงมาเห็นเข้า โวยวายไม่ให้กินกุ้งดิบๆแบบนี้
ด้วยความที่กำลังจะเข้าปากอยู่แล้ว และอยากกินกุ้งแช่น้ำปลามาก จึงโกรธลุงมาก ที่มาห้ามไม่ให้กินกุ้งดิบ
เกิดมีการล้มโต๊ะกันขึ้น เพราะหน้ามืด โมโหหิว ทะเลาะกันใหญ่โตด้วยเรื่องกุ้งแช่น้ำปลา
เรื่องลามปามไปถึงเจ้านายของสามี ที่ได้ยินป้าล้มโต๊ะ ทะเลาะกับลุงด้วยเรื่องกินกุ้งดิบ
เราก็ว่า ทำไมคนญี่ปุ่นกินซาซิมิดิบๆได้ ทำไมป้าจะกินกุ้งดิบๆแบบนี้ไม่ได้
เขาก็ว่า กุ้งดิบที่ซื้อมาจากตลาด ผ่านการแช่แข็งมาเยอะ ไม่เหมาะที่จะนำมาทำเป็นซาซิมิแบบที่ป้ากิน อาจอันตรายท้องเสียได้
ป้าก็เถียงจนเหนื่อยว่า ที่ไทยป้ายังกินได้ ทำไมเวลาไปทานที่ร้านอาหารไทย ถึงสั่งกุ้งแช่น้ำปลามากินได้ เธอก็เคยเห็น ไม่เห็นห้าม
ทำไมฉันซื้อมาทำเอง เธอมาห้ามไม่ให้กิน เถียงกันเป็นเรื่องใหญ่โต
จนทำให้เกิดอคติ ไม่ทำกินกุ้งแช่น้ำปลากินอีกเลยนับแต่นั้น รอไปกินที่เมืองไทยอย่างเดียว
จนกระทั่งเมื่อไม่กี่วันมานี้ ไปซื้อซูชิ ชนิดมีหลายๆหน้ามาให้ลุงกิน พอดีมีอยู่หน้าหนึ่ง เป็นหน้ากุ้งหวาน
นึกอยากกินก็เลยขอเขาลองไปหนึ่งคำ ....โอโห..เพิ่งรู้ว่า กุ้งหวานอร่อยอย่างนี้นี่เอง แล้วรสอย่างนี้แหละที่เราอยากกินมานานแล้ว
ก็เลยหมายใจไว้ว่า ต้องไปซื้อหามากินอีก
และก็คิดไปคิดมา กุ้งหวานนี้ เราเอามาดัดแปลงเป็น กุ้งแช่น้ำปลา กินได้นี่นา
จากคุณ |
:
พนอจัน
|
เขียนเมื่อ |
:
30 ต.ค. 53 07:58:13
|
|
|
|